“…งั้นกลับกลายเป็นว่าร่างกายของนายน้อยไม่ได้เป็นปกติอีกต่อไปมาได้สักระยะหนึ่งแล้วในตอนนี้สินะครับ! ไม่แปลกใจเลย!” เวลสันกล่าว รู้สึกรู้กระจ่างแล้ว ‘กระนั้น…อาจารย์คนแรกของเจอรัลด์เป็นใครกันแน่…? ฟินน์เลย์คนนี้…? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขาเลย…ถ้าร่างกายของเจอรัลด์สามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี ฉันสงสัยว่าฟินน์เลย์ฝึกฝนตัวเองอยู่ในระดับไหนกันแน่…?’ แดริลคิดกับตัวเอง เสียงกรีดร้องเรียกความสนใจของแดริลกลับมาที่คอร์ดอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนเฝ้ามองชายชราตกลงมาจากกลางอากาศก่อนจะอาเจียนเป็นเลือด “นาย…นายเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานแล้ว…นี่…นี่จะเป็นไปได้ยังไงกัน?!” คอร์ดตะโกนขึ้น ความตกใจสุดขีดชัดเจนในโทนเสียงของเขา ตามที่ตำแน่งบอกไว้ เฉพาะเหล่าตำนานเท่านั้นที่จะเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานได้ จากสิ่งที่คอร์ดรู้ คริสโตเฟอร์เองซึ่งได้รับการฝึกฝนอย่างไม่มีขอบเขต ก็แทบจะไม่สามารถเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานได้เลย แต่ในที่นี้เจอรัลด์เป็นชายหนุ่มที่สามารถบรรลุสถานะของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คอร์ดคิดว่าเขาเป็นคนที่ขาดสามัญสำนึก! ตอนนี้เจอรัลด์แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ที่แข็งแก
ด้วยโชคช่วย นั่นคงจะเป็นการเพิ่มโอกาสของเขาอย่างมากที่จะสามารถตามหามีล่าและอาของเจอได้อีกครั้งในท้ายที่สุด! เมื่อรู้สึกตื่นเต้นกับการตระหนักได้ว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะสามารถกลับมาพบกันกับแฟนของเขาได้อีกครั้ง จากนั้นเจอรัลด์จึงถาม “…งั้น เกี่ยวกับเรื่องเหรียญไม้” ประโยคของเจอรัลด์สิ้นสุดลงก่อนอันควร เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าคอร์ดกำลังยิ้มเยาะแทนที่การแสดงสีหน้าหวาดกลัวเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน อย่างไรก็ตาม การตระหนักรู้ได้นั้นช้ามากเกินไปเนื่องจากสิ่งต่อมาที่เจอรัลด์รู้ มีลูกปัดสองลูกในมือขวาของคอร์ดอยู่แล้ว! ก่อนที่ใครจะทันได้เคลื่อนไหว คอร์ดก็โยนลูกปัดสองลูกใส่แทบเท้าของเจอรัลด์และแดริล เป็นผลให้ลูกปัดระเบิดด้วยเสียงดังแสบแก้วหู! โดยใช้โอกาสของความโกลาหล จากนั้นคอร์ดจึงทำการหลบหนีไป! “ไอ้เฒ่าชั่วช้าคนนั้นเจ้าเล่ห์อย่างที่พวกเขาพูดจริง ๆ! ส่งคนไปตามล่าเขา เวลสัน! อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!” แดริลตะโกนขึ้นขณะที่ผู้ใต้บัญชาของพระราชวังวิญญาณทำตามสั่งกันในทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้นหรอกครับ คุณท่าน! แม้ว่าเขารู้จักทั้งความเจ้าเล่ห์และแข็งแกร่งของเขา แต่ทักษะที่เก่งมากที่สุดขอ
“ไม่ทันได้คาดคิด ดวงอาทิตย์ยังขึ้นไม่เต็มที่เลย เด็กเวรนี่! มาร้องไห้เสียงดังอะไรที่นี่…แกคิดที่จะร้องไห้ที่นี่จนกว่าฉันจะตายไปในที่สุดหรือไง?” ผู้เฒ่าชราบ่นพึมพำ แม้คริสโตเฟอร์ดูเหมือนเป็นชายชราสูงวัย แต่สายตาทั้งคู่ของเขาก็ดูเหมือนจะเฉียบคมอย่างมาก นอกเหนือจากหยากไย่มากมายที่เกาะตามร่างกายของเขาแล้ว เขาก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปซะทั้งหมด ถ้าจะมีอะไร ทั้งหมดนั่นก็คงจะเป็นการตอกย้ำว่าคริสโตเฟอร์แก่ชราเพียงใดแล้วเท่านั้น ถึงอย่างนั้น คอร์ดก็เคารพเขาอย่างมาก เมื่อคิดย้อนกลับไป มันก็เป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่เขาพบลุงสามของเขาเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกลืนน้ำลายอึก จากนั้นคอร์ดก็อ้อนวอนขึ้นมา “…ผมขอโทษครับ แต่เรื่องต่อไป โปรดช่วยชีวิตผมด้วย ลุงสาม! ทั้งแดริลและหลานชายของเขากำลังไล่ล่าผมด้วยเจตนาฆ่าในใจ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งคู่ยังฆ่าหลานชายทั้งสองของคุณเช่นกัน! พวกเขาทั้งคู่พบกับจุดจบที่เลวร้ายอย่างแท้จริง!” “เข้าใจแล้ว…ฉันเคยพบกับแดริลในระหว่างหลายปีก่อน…เมื่อคิดว่าเขาจะกลับมายังโลกธรรมดาจริง ๆ ล่ะก็! ฮึ่ม! น่าสนใจ…อืม ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น แต่น่าจดจำ…เมื่อพูดถึงเรื่อง
คอร์ดกลืนน้ำลายเสียงดัง เขารู้สึกกลัวอย่างชัดเจนกับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น คริสโตเฟอร์ปล่อยเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกมาก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้น แกยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับสองคนนั้นอยู่ไหม?” “ม ไม่เลนครับ! คุณเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน! ด้วยการที่คุณหาใครเทียบไม่ได้เช่นนี้ พวกเราจะสามารถล้างแค้นให้หลายชายทั้งสองของคุณได้แน่! ผมจะคุ้มกันคุณออกจากภูเขาเอง!” คอร์ดกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่า! แต่เอาตามตรงแกไม่จำเป็นต้องมามองหาฉันถึงบนนี้หรอก อย่างไรซะ ฉันก็จะออกจากภูเขาไม่นานนี้อยู่แล้ว” คริสโตเฟอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินแบบนั้น คอร์ดก็ดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ขึ้นมา “…ตอนนี้ที่ผมคิดเกี่ยวกับมัน ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ความสันโดษเมื่อยี่สิบปีก่อน ผมจำได้ว่าคุณบอกผมว่าคุณต้องการจะทำการเตรียมการสำหรับการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์…ผมยังจำได้เช่นกันว่าการปฏิญาณถูกจัดขึ้นในทุก ๆ สามสิบปี…จากสิ่งที่ผมบอกได้ วันนั้นก็กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้! เนื่องจากคุณดูเหมือนจะได้รับตำแหน่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่มาได้อย่างน้อยสิบปีแล้วในตอนนี้ เมื่อดูจากพละกำลังของคุณ คุณสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลของเราเ
ไวร่าเองกำลังเดินอยู่กลางป่าทึบในภูเขาขนาดใหญ่ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นไอที่หนาทึบ และทุกอย่างก็รู้สึกมืดมัวและน่าขนลุก ความจริงที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอื่นอยู่แถวนั้นจึง ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น หลังจากเดินผ่านป่ามาได้ระยะหนึ่ง หูของไวร่าก็กระตุกขึ้น ขณะที่ได้ยินเสียงของลำธานไหล เมื่อมองไปรอบ ๆ ในที่สุดเธอก็พบเจอบริเวณสว่างที่มีลำธารอยู่ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอเห็นที่นั่น ที่ยืนอยู่ข้างลำธานคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดขาว ไม่ต้องคิดมากเลยว่าใครก็ตามที่เห็นผู้หญิงผมยาวกำลังยืนอยู่ในที่ห่างไกลก็จะต้องหวาดกลัวกันเป็นธรรมดา “…คุณ…คุณเป็นใครคะ…?” ไวร่าถามอย่างสุภาพอ่อนโยน ขณะที่มองดูแผ่นหลังของของผู้หญิงคนนั้น “…ช่วยฉันด้วย…เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับ แม้ไวร่ารู้สึกหวาดกลัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความหดหู่ใจในน้ำเสียงของเธอ และดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้เช่นกัน “…ข ‘เขา’ คนนี้ที่คุณพูดถึงคือใครคะ…?” “…ช่วยฉัน…! เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์กำลังศึกษารูปภาพของดวงอาทิตย์อย่างจริงจัง ไวร่าจึงเอนตัวไปทางด้านข้างของเจอรัลด์และจับคางที่สวยงามของเธอก่อนจะสังเกตรูปวาดเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อผู้คนละทิ้งความคิดอื่น ๆ ไว้ก่อน พวกเขาก็จะมีสมาธิดีขึ้นกว่ามาก เรื่องนั้นใช้ได้กับไวร่าเช่นกัน ขณะที่เธอยังคงมองดูมันต่อไป ไวร่าก็หยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วบนใบหน้าของเธอ “…หืมม?” เมื่อหรี่ตามอง ดวงตาของไวร่าก็ค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้น มีความกลัวสะท้อนในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอนั่งตัวตรงก่อนจะตะโกนขึ้น “ไม่…ไม่นะ!” ทุกคนกลายเป็นตกใจกลัวกันในทันที ขณะที่พวกเขาเฝ้ามองไวร่า ที่เอามือกุมข้างหัวของเธอ และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “ไวร่า? ไวร่า เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม “เป็นอะไรไป ไวร่า?” แดริลถาม ขณะที่เขาลุกยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ ด้วยนิ้วที่สั่นเทา จากนั้นไวร่าก็ชี้ไปยังรูปภาพของดวงอาทิตย์ และด้วยน้ำเสียงที่สะพรึงกลัว จากนั้นเธอก็พึมพำ “ฉัน…ฉันเห็นมัน…” เธอเพียงตกใจกลัวมากเกินกว่าจะพูดอะไรได้ หลังจากแดริลและเจอรัลด์แลกเปลี่ยนสายตากันและกัน พวกเขาทั้งคู่ก็ถามขึ้นพร้อมกัน “เธอเห
“เอาล่ะไวร่า ฟังฉันนะ ฉันต้องการให้เธอสูดหายใจเข้าลึกและมุ่งความสนใจไปที่รูปวาดอีกครั้ง ฉันจำเป็นต้องรู้ว่าเธอเห็นฉากแบบเดิมอีกครั้งหรือไม่” แดริลกล่าวอย่างรีบร้อน เมื่อได้ยินแบบนั้น ไวร่าจึงพยักหน้าก่อนจะหันไปมองรูปวาดดวงอาทิตย์อีกครั้งหนึ่งอย่างไม่เต็มใจ หลังจากการขมวดคิ้วครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ปิดปากก่อนจะตอบกลับพร้อมกับพยักหน้า “…มันเป็นเหมือนเดิม…เมื่อตรวจดูให้ละเอียดมากขึ้น คนทั้งห้านั้นยังแสดงท่าทางข่มขู่อีกด้วยซ้ำ…ฉัน…ฉันทนมองรูปวาดต่อไปไม่ได้แล้ว…คุณปู่ ได้โปรด! คุณต้องช่วยเจอรัลด์นะคะ!” เมื่อเฝ้ามองไวร่าร้องไห้กับพ่อของเขา ดีแลนเองก็พูดขึ้นมา “มีความเป็นไปได้ไหมครับว่ารูปวาดอาจทำนายผิดไป พ่อ…? ถึงอย่างไร เจอรัลด์ก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ไม่มีทางที่สถานการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นหรอก ใช่ไหมครับ?” แดริลส่ายหัวของเขา จากนั้นก็ตอบกลับ “อย่างที่ฉันพูดไป รูปวาดดวงอาทิตย์ไม่เคยโกหก ถ้ามันทำนายว่าเจอรัลด์จะตายด้วยการถูกฉีกออกจากกัน มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในไม่ช้าก็เร็ว ๆ นี้ แต่กระนั้น ฉันก็สงสัยว่าแรงจูงใจของพวกเขาคืออะไร…หรือพวกเขาเป็นใครกันล่ะ…” ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในคว
จากนั้นแดริลก็กล่าวเสริมขึ้นมาก “ด้วยปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอยู่น้อยมาก เธออาจจะสงสัยว่าทำไมกลุ่มทรงอำนาจเช่นนั้นถึงสามารถเรียกพวกเขามากมายมาจากทั่วทุกมุมโลกได้ อืม แต่รู้ไหม ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความจริงเบื้องหลังงานนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์กันตั้งแต่แรกเอง! ไม่ว่าจะยังไง ฉันบอกให้เธออยู่ต่อก็เพราะมีเบาะแสสำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ที่ฉันต้องการจะบอกเธอ” “อะไรเหรอครับ?” “ฉันรู้ว่าเธอได้สืบสวนเรื่องสหพันธ์ดวงอาทิตย์มาโดยตลอด มีรูปวาดที่ถูกสลักไว้บนแผ่นศิลาที่ถูกขุดขึ้นมา และฉันพบว่ามันค่อนข้างคล้ายกับสถานที่ที่ถูกบรรยายไว้ในเหรียญแห่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ฉันต้องการศึกษามันด้วยกันกับเธอ มันคือความรู้สึกลึก ๆ แต่ฉันรู้สึกว่ามันเชื่ยมโยงอย่างใกล้ชิดกับการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์” “จากสิ่งที่ปู่กล่าวมา มันก็ดูเกี่ยวข้องกันจริง ๆ ถ้าใครจัดการเข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็คงมีโอกาสที่ความลับแห่งสหพันธ์ดวงอาทิตย์ ซึ่งยังคงเป็นปริศนามาเกือบพันปี ในที่สุดก็อาจจะได้รับการแก้ไขได้ซะที!” ทั้ง ๆ ที่รู้เป็นอย่างดีว่าคนเหล่านั้นที่เข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำ