“นายน้อยออกจากจังหวัดโลแกนเมื่อหลายชั่วโมงก่อนแล้วครับ! และเขามาถึงที่เกาะแล้ว!” หนึ่งในผู้ใต้บัญชามากมายของแดริลรายงาน “…นายน้อยเหรอ? นายน้อยที่ไหนกันครับ พ่อ?” ดีแลนกล่าว รู้สึกมึนงง “ฮ่าฮ่า! แกจะรู้เมื่อเขามาถึงเอง” แดริลตอบกลับ ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้า “…ตายยากชะมัดพูดถึงก็มา…” แดริลกล่าวเสริม ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกห้องโถง เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนจึงหันไปมองยังทิศทางที่แดริลกำลังจ้องมองอยู่ คนที่กำลังเดินทางเข้ามาหาพวกเขาจากลานกว้างหลัก คือนายน้อยคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดสูทดำ ทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ ลูกน้องจากก่อนหน้าทั้งหมดที่ยังคงยืนอยู่ตรงประตู ก็โค้งคำนับให้อย่างเคารพ ขณะที่พวกเขากล่าวทักทาย “นายน้อย!” “จ เจอรัลด์!” ทั้งดีแลนและเจสสิก้าตะโกนขึ้นพร้อมกัน ในขณะที่ริมฝีปากของดีแลนกระตุกด้วยความดีใจเหลือล้น เจสสิก้าเองก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนเธอถึงกับต้องปิดปากไว้ สำหรับคลอฟอร์ดที่เหลือ พวกเขาทั้งหมดต่างก็จ้องไปที่เจอรัลด์กัน ความตื่นเต้นกำลังก่อขึ้นภายในพวกเขา “หนึ่งปีแล้วนะครับ แม่…พ่อ…พี่สาว…ในที่สุดผมก็กลับมาได้แล้ว!” เจอรัลด์ประกาศ ข
แม้แต่เจสสิก้าก็มีความสุข ขณะที่เธอตะโกนขึ้น “เอาเลย เจอรัลด์! ฆ่าตาแก่สารเลวนั่นซะ! ซ้อมเขาให้ตายไปเลย!” ในทางกลับกัน ปาร์คเกอร์หันไปมองแดริลก่อนจะถามอย่างเคารพ “เมื่อดูจากออร่าของคุณแล้ว คุณอาจเป็นหนึ่งในบุคคลในตำนานเหมือนลุงสามของผม คริสโตเฟอร์หรือเปล่าครับ?” เขาถามเพราะเขารู้สึกตกตะลึงกับการที่คอร์ดเสียเปรียบมากแค่ไหน ที่ถูกวางให้อยู่ในการต่อสู้กับเจอรัลด์คนหนุ่ม ปาร์คเกอร์จึงทำได้เพียงแค่จินตนาการเอาเท่านั้นว่าความแข็งแกร่งของแดริลแท้จริงอยู่ในระดับไหนกัน ในฐานะที่ปรึกษาของเจอรัลด์ “ฮ่า! คุณกำลังบอกว่าคริสโตเฟอร์ไม่ได้เสียเวลาในช่วงสองสามทศวรรษมานี้หรอกเหรอ? อะไรกัน เขามาถึงขอบเขตแห่งตำนานเช่นกันงั้นเหรอ?” แดริลถามกลับ “ครับ!” “อะไรกัน? ปู่ไม่ได้บอกว่านายท่านผู้เฒ่าโมลเดลเสียชีวิตไปแล้วหรอกเหรอ?” วินนี่ที่ยังคงอยู่ในอาการช็อกถามขึ้นมา ขณะที่เธอยังคงเฝ้ามองเจอรัลด์และคอร์ดสู้กันต่อไป “ไร้สาระ! นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ อย่าลืมว่า พวกเราจะเปิดเผยตัวตนของนายท่านผู้เฒ่าอย่างไม่เป็นทางการได้ยังไง? แต่กระนั้น เธอเป็นเพียงแค่รุ่นเด็กคนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นปกติที่เธอจะไม่รู้
“…งั้นกลับกลายเป็นว่าร่างกายของนายน้อยไม่ได้เป็นปกติอีกต่อไปมาได้สักระยะหนึ่งแล้วในตอนนี้สินะครับ! ไม่แปลกใจเลย!” เวลสันกล่าว รู้สึกรู้กระจ่างแล้ว ‘กระนั้น…อาจารย์คนแรกของเจอรัลด์เป็นใครกันแน่…? ฟินน์เลย์คนนี้…? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขาเลย…ถ้าร่างกายของเจอรัลด์สามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี ฉันสงสัยว่าฟินน์เลย์ฝึกฝนตัวเองอยู่ในระดับไหนกันแน่…?’ แดริลคิดกับตัวเอง เสียงกรีดร้องเรียกความสนใจของแดริลกลับมาที่คอร์ดอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนเฝ้ามองชายชราตกลงมาจากกลางอากาศก่อนจะอาเจียนเป็นเลือด “นาย…นายเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานแล้ว…นี่…นี่จะเป็นไปได้ยังไงกัน?!” คอร์ดตะโกนขึ้น ความตกใจสุดขีดชัดเจนในโทนเสียงของเขา ตามที่ตำแน่งบอกไว้ เฉพาะเหล่าตำนานเท่านั้นที่จะเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานได้ จากสิ่งที่คอร์ดรู้ คริสโตเฟอร์เองซึ่งได้รับการฝึกฝนอย่างไม่มีขอบเขต ก็แทบจะไม่สามารถเข้าถึงขอบเขตแห่งตำนานได้เลย แต่ในที่นี้เจอรัลด์เป็นชายหนุ่มที่สามารถบรรลุสถานะของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คอร์ดคิดว่าเขาเป็นคนที่ขาดสามัญสำนึก! ตอนนี้เจอรัลด์แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ที่แข็งแก
ด้วยโชคช่วย นั่นคงจะเป็นการเพิ่มโอกาสของเขาอย่างมากที่จะสามารถตามหามีล่าและอาของเจอได้อีกครั้งในท้ายที่สุด! เมื่อรู้สึกตื่นเต้นกับการตระหนักได้ว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะสามารถกลับมาพบกันกับแฟนของเขาได้อีกครั้ง จากนั้นเจอรัลด์จึงถาม “…งั้น เกี่ยวกับเรื่องเหรียญไม้” ประโยคของเจอรัลด์สิ้นสุดลงก่อนอันควร เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าคอร์ดกำลังยิ้มเยาะแทนที่การแสดงสีหน้าหวาดกลัวเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน อย่างไรก็ตาม การตระหนักรู้ได้นั้นช้ามากเกินไปเนื่องจากสิ่งต่อมาที่เจอรัลด์รู้ มีลูกปัดสองลูกในมือขวาของคอร์ดอยู่แล้ว! ก่อนที่ใครจะทันได้เคลื่อนไหว คอร์ดก็โยนลูกปัดสองลูกใส่แทบเท้าของเจอรัลด์และแดริล เป็นผลให้ลูกปัดระเบิดด้วยเสียงดังแสบแก้วหู! โดยใช้โอกาสของความโกลาหล จากนั้นคอร์ดจึงทำการหลบหนีไป! “ไอ้เฒ่าชั่วช้าคนนั้นเจ้าเล่ห์อย่างที่พวกเขาพูดจริง ๆ! ส่งคนไปตามล่าเขา เวลสัน! อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!” แดริลตะโกนขึ้นขณะที่ผู้ใต้บัญชาของพระราชวังวิญญาณทำตามสั่งกันในทันที “ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้นหรอกครับ คุณท่าน! แม้ว่าเขารู้จักทั้งความเจ้าเล่ห์และแข็งแกร่งของเขา แต่ทักษะที่เก่งมากที่สุดขอ
“ไม่ทันได้คาดคิด ดวงอาทิตย์ยังขึ้นไม่เต็มที่เลย เด็กเวรนี่! มาร้องไห้เสียงดังอะไรที่นี่…แกคิดที่จะร้องไห้ที่นี่จนกว่าฉันจะตายไปในที่สุดหรือไง?” ผู้เฒ่าชราบ่นพึมพำ แม้คริสโตเฟอร์ดูเหมือนเป็นชายชราสูงวัย แต่สายตาทั้งคู่ของเขาก็ดูเหมือนจะเฉียบคมอย่างมาก นอกเหนือจากหยากไย่มากมายที่เกาะตามร่างกายของเขาแล้ว เขาก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปซะทั้งหมด ถ้าจะมีอะไร ทั้งหมดนั่นก็คงจะเป็นการตอกย้ำว่าคริสโตเฟอร์แก่ชราเพียงใดแล้วเท่านั้น ถึงอย่างนั้น คอร์ดก็เคารพเขาอย่างมาก เมื่อคิดย้อนกลับไป มันก็เป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่เขาพบลุงสามของเขาเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกลืนน้ำลายอึก จากนั้นคอร์ดก็อ้อนวอนขึ้นมา “…ผมขอโทษครับ แต่เรื่องต่อไป โปรดช่วยชีวิตผมด้วย ลุงสาม! ทั้งแดริลและหลานชายของเขากำลังไล่ล่าผมด้วยเจตนาฆ่าในใจ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งคู่ยังฆ่าหลานชายทั้งสองของคุณเช่นกัน! พวกเขาทั้งคู่พบกับจุดจบที่เลวร้ายอย่างแท้จริง!” “เข้าใจแล้ว…ฉันเคยพบกับแดริลในระหว่างหลายปีก่อน…เมื่อคิดว่าเขาจะกลับมายังโลกธรรมดาจริง ๆ ล่ะก็! ฮึ่ม! น่าสนใจ…อืม ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น แต่น่าจดจำ…เมื่อพูดถึงเรื่อง
คอร์ดกลืนน้ำลายเสียงดัง เขารู้สึกกลัวอย่างชัดเจนกับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น คริสโตเฟอร์ปล่อยเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกมาก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้น แกยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับสองคนนั้นอยู่ไหม?” “ม ไม่เลนครับ! คุณเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน! ด้วยการที่คุณหาใครเทียบไม่ได้เช่นนี้ พวกเราจะสามารถล้างแค้นให้หลายชายทั้งสองของคุณได้แน่! ผมจะคุ้มกันคุณออกจากภูเขาเอง!” คอร์ดกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่า! แต่เอาตามตรงแกไม่จำเป็นต้องมามองหาฉันถึงบนนี้หรอก อย่างไรซะ ฉันก็จะออกจากภูเขาไม่นานนี้อยู่แล้ว” คริสโตเฟอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินแบบนั้น คอร์ดก็ดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ขึ้นมา “…ตอนนี้ที่ผมคิดเกี่ยวกับมัน ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ความสันโดษเมื่อยี่สิบปีก่อน ผมจำได้ว่าคุณบอกผมว่าคุณต้องการจะทำการเตรียมการสำหรับการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์…ผมยังจำได้เช่นกันว่าการปฏิญาณถูกจัดขึ้นในทุก ๆ สามสิบปี…จากสิ่งที่ผมบอกได้ วันนั้นก็กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้! เนื่องจากคุณดูเหมือนจะได้รับตำแหน่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่มาได้อย่างน้อยสิบปีแล้วในตอนนี้ เมื่อดูจากพละกำลังของคุณ คุณสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลของเราเ
ไวร่าเองกำลังเดินอยู่กลางป่าทึบในภูเขาขนาดใหญ่ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นไอที่หนาทึบ และทุกอย่างก็รู้สึกมืดมัวและน่าขนลุก ความจริงที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอื่นอยู่แถวนั้นจึง ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น หลังจากเดินผ่านป่ามาได้ระยะหนึ่ง หูของไวร่าก็กระตุกขึ้น ขณะที่ได้ยินเสียงของลำธานไหล เมื่อมองไปรอบ ๆ ในที่สุดเธอก็พบเจอบริเวณสว่างที่มีลำธารอยู่ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอเห็นที่นั่น ที่ยืนอยู่ข้างลำธานคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดขาว ไม่ต้องคิดมากเลยว่าใครก็ตามที่เห็นผู้หญิงผมยาวกำลังยืนอยู่ในที่ห่างไกลก็จะต้องหวาดกลัวกันเป็นธรรมดา “…คุณ…คุณเป็นใครคะ…?” ไวร่าถามอย่างสุภาพอ่อนโยน ขณะที่มองดูแผ่นหลังของของผู้หญิงคนนั้น “…ช่วยฉันด้วย…เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับ แม้ไวร่ารู้สึกหวาดกลัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความหดหู่ใจในน้ำเสียงของเธอ และดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้เช่นกัน “…ข ‘เขา’ คนนี้ที่คุณพูดถึงคือใครคะ…?” “…ช่วยฉัน…! เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์กำลังศึกษารูปภาพของดวงอาทิตย์อย่างจริงจัง ไวร่าจึงเอนตัวไปทางด้านข้างของเจอรัลด์และจับคางที่สวยงามของเธอก่อนจะสังเกตรูปวาดเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อผู้คนละทิ้งความคิดอื่น ๆ ไว้ก่อน พวกเขาก็จะมีสมาธิดีขึ้นกว่ามาก เรื่องนั้นใช้ได้กับไวร่าเช่นกัน ขณะที่เธอยังคงมองดูมันต่อไป ไวร่าก็หยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วบนใบหน้าของเธอ “…หืมม?” เมื่อหรี่ตามอง ดวงตาของไวร่าก็ค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้น มีความกลัวสะท้อนในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอนั่งตัวตรงก่อนจะตะโกนขึ้น “ไม่…ไม่นะ!” ทุกคนกลายเป็นตกใจกลัวกันในทันที ขณะที่พวกเขาเฝ้ามองไวร่า ที่เอามือกุมข้างหัวของเธอ และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “ไวร่า? ไวร่า เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม “เป็นอะไรไป ไวร่า?” แดริลถาม ขณะที่เขาลุกยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ ด้วยนิ้วที่สั่นเทา จากนั้นไวร่าก็ชี้ไปยังรูปภาพของดวงอาทิตย์ และด้วยน้ำเสียงที่สะพรึงกลัว จากนั้นเธอก็พึมพำ “ฉัน…ฉันเห็นมัน…” เธอเพียงตกใจกลัวมากเกินกว่าจะพูดอะไรได้ หลังจากแดริลและเจอรัลด์แลกเปลี่ยนสายตากันและกัน พวกเขาทั้งคู่ก็ถามขึ้นพร้อมกัน “เธอเห
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ