หลินหว่านหรูยังคงมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น ใจของเธอก็สั่นเทา และเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโมโห "แม่ คุณคิดยังไงเมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้น เธอก็ยิ่งโกรธและตอบโต้ด้วยความโมโห "คุณคิดยังไง ฉันเลี้ยงดูคุณมาอย่างดีและให้การศึกษาแก่คุณดีมาก ตอนนี้คุณกำลังบอกว่าฉันไม่มีคุณอยู่ในใจ"“ถ้าไม่ใช่สำหรับฉัน คุณจะบรรลุสิ่งที่คุณมีในวันนี้มั้ย แค่ฉันไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นหมาป่าตาขาว และคุณจะลืมที่จะไม่ตอบแทนฉัน และคุณจะฆ่าฉันและ ครอบครัวหลิน”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโมโหกับคำพูดเหล่านี้ เธอไม่ต้องการพูดอะไรอีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นและจากไปความรักจะเป็นอะไรก็ได้เธอไม่สนใจหลิวเมิ่งรีบลุกขึ้นและติดตามเธอไป เธอยังรู้สึกว่าสิ่งที่ป้าของเธอพูดมากเกินไปจริง ๆเมื่อเห็นทั้งสองคนจากไป แม่ตระกูลหลินก็พูดต่อ "พ่อครับ ฉันรู้ว่าลูกรู้สึกเจ็บปวดเพราะหว่านหรู เราก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน แต่ดูสิว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง"“ฉันคิดว่าเราทำได้แค่ทำตามสิ่งที่ฉันพูดไป บางทีความหวังยังมีริบหรี่อยู่”“ไม่อย่างนั้นก็จะจบลงโดยสมบูรณ์”คุณปู่ตระกูลหลินมีอา
“โอเค แค่นี้นะ ผมยังยุ่งอยู่”เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ซูเหวินฮวาวางสายด้วยสีหน้าเหม่อลอย แต่ในไม่ช้า ดวงตาของเขาก็แสดงความตื่นเต้น พี่เย่ที่เขาติดตามช่างเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ ไม่เพียงแต่ไม่กลัวตระกูลเย่ที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลมหาอำนาจของอาณาจักรมังกร แต่เขาไม่กลัวกระทั่งเทพเจ้าสงครามผู้พิทักษ์ของอาณาจักรมังกรด้วยซ้ำไม่นานหลังจากที่เขาวางสาย โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง และเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับสายอีกครั้ง โดยไม่คาดคิดทันทีที่เชื่อมต่อสายก็มีเสียงเร่งด่วนดังขึ้น“แพทย์เซียนเย่ คุณอยู่ไหนครับเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” เสียงที่กดดันและเร่งด่วนของหวงหงเจี้ยนมาจากอีกด้านหนึ่ง“เรื่องอะไร”เย่เทียนหยู่ถามว่าตระกูลเย่จะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ได้มั้ย“เมืองหลงตูโทรมา ขอให้เราจัดการให้ตำรวจร่วมมือกับการปิดล้อมของตระกูลหลินทั้งหมด ไม่มีใครรอดพ้นได้ โดยเฉพาะคุณ เราต้องกำจัดมันลง” หวงหงเจี้ยนกล่าวและรวดเร็วนี่เป็นคำสั่งที่ส่งมาจากด้านบนโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ“กระบวนท่ารวดเร็วที่ดีนี่” เย่เทียนหยู่มีสีหน้าเศร้าหมอง เขาไม่คาดหวังว่าตระกูลเย่แทบรอไม่ไหวที่จะจ
หวงหงเจี้ยนหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา โทรหาจางเจิ้งหรือสารวัตจางทันทีก่อนจะสั่งการ“ยกเว้นกำลังคนที่จำเป็นที่ต้องทิ้งไว้ข้างหลัง จงรวมกำลังตำรวจทั้งหมดไว้ ออกเดินทางสู่ตระกูลหลินภายในครึ่งชั่วโมง ร่วมมือกับนายพลเย่เพื่อควบคุมทุกคนในตระกูลหลิน และจับกุมเย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรู”"อะไร!"จางเจิ้งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเขาได้ยินผิดไป ท้ายที่สุดแล้ว เจ้านายของเขาบอกเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่าเขาต้องระวังแพทย์เซียนเย่ให้มากสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในคราวเดียวยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่นายพลเย่ก็ยังอยู่ที่นี่ พวกเขาประจำการอยู่ใกล้เมืองเทียนไห่ และเป็นไปไม่ได้ที่จะระดมพลพวกเขาภายใต้สถานการณ์ปกติ“รวบรวมกองกำลังตำรวจทั้งหมดเพื่อไปหาตระกูลหลินร่วมมือกับนายพลเย่เพื่อจับกุมเย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรู และพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของพื้นที่โดยรอบ เข้าใจมั้ย”“เข้าใจแล้วครับ!”“จำไว้ว่าคุณไม่สามารถทำร้ายใครได้!”หวงหงเจี้ยนเตือนเขาเป็นพิเศษ เพราะถึงยังไงแพทย์เซียนเย่บอกว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่คุณไม่สามารถไปไกลเกินไป"ใช่!"จางเจิ้
จางเจิ้งกลอกตาไปที่หลงเจี๋ยอย่างช่วยไม่ได้ และพูดอย่างหมดหนทาง “คำสั่งจากเบื้องบนเป็นแบบนั้น เราแค่ทำตามก็พอ”“ไม่ เราเป็นตำรวจที่รักษาความยุติธรรม จะยอมจำนนต่อคำสั่งอันไร้เหตุผลได้ยังไง”“เอาล่ะ แล้วเย่เทียนหยู่ทำร้ายใครหรือเปล่า ถ้าเขาทำเขาก็ควรจะถูกจับใช่รึเปล่าคะ” จางเจิ้งถามอย่างมีเชิงเมื่อเห็นว่าหลงเจี๋ยยังไม่มั่นใจ เขาก็กล่าวเสริมทันที "นอกจากนี้ ฉันแค่ขอให้คุณช่วย ไม่ใช่ขอให้คุณดำเนินการ"“เอาล่ะ แค่นั้น กลับไปเตรียมตัวกันเถอะเราจะออกเดินทางทันที”จางเจิ้งขัดจังหวะคำพูดของ หลงเจี๋ย จิตใจของหญิงสาวคนนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรม และเธอก็ดื้อรั้นจริง ๆ แล้ว หลงเจี๋ยเข้าใจปัญหาของ จางเจิ้งแต่เธอก็ทนไม่ได้ เขารู้เกี่ยวกับเย่เซวียนเพราะลูกพี่ลูกน้องของเขาหลงอู่พูดถึงเรื่องนี้เขาเป็นคนหน้าซื่อใจคดใจร้ายที่ชอบเล่นกับผู้หญิง ลูกพี่ลูกน้องของฉันเกลียดเขามาตลอดยังไงก็ตามเย่เซวียนกำลังไล่ตามลูกพี่ลูกน้องของเขาเพียงว่าเธอเพิ่งไปที่เมืองหลงตูเพื่อเล่นและอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ติดต่อกับเย่เซวียนเลยแต่คราวนี้เห็นได้ชัดว่าตระกูลเย่เป็นคนจัดการเรื่องนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเขา
“คุณปู่ตระกูลหลิน ฉันไม่ได้คาดหวังจริง ๆ ว่าหว่านหรูซึ่งคุณรักมากที่สุดมาโดยตลอดจะพูดคำทำลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเช่นนี้”เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น เย่เทียนหยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นด้วย เขามองทุกคนในตระกูลหลินอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวก่อนหน้านี้ฉันกินพอแล้ว โดยไม่คาดคิด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเอง แต่ยังทำให้แย่ลงอีกด้วยหลินหว่านหรู ตกใจเล็กน้อย ทำไม เทียนหยู่ถึงกลับมา- แต่เมื่อฟังคำพูดของเขาและเฝ้าดูเขาพูดเพื่อตัวเองหลินหว่านหรูก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ในใจ และแทบจะอดไม่ได้ที่จะกอดเขาและร้องไห้คุณปู่ตระกูลหลินโกรธจัดทันที วันนี้เขาเสียหน้าและรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขาถูกทำให้ขุ่นเคือง เขาก่นด่าด้วยความโมโห "เย่เทียนหยู่ ฉันบอกให้คุณออกไปแล้วไม่ใช่หรือ คุณมาทำอะไรที่นี่อีก"“ผมต้องกลับมาแน่อยู่แล้ว ถ้าไม่กลับมาจะพวกคุณขายหว่านหรูเหมือนของชิ้นหนึ่งหรือไง” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“ไร้สาระ ฉันทำทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของหว่านหรู แต่คุณต่างหากที่พาเธอลงสู่ขุมนรก” คุณปู่ตระกูลหลินตอบโต้ด้วยความโมโห“โง่จริง ๆ”เย่เทียนหยู่ตะคอกอย่าง
เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาก็ส่งเสียงพูดอย่างเย็นชา “คิดจะจับผมเหรอ”“เอาสิ ผมมาอยู่นี่แล้ว มาจับผมไปซะ”“หรือจะเข้ามาพร้อมกันเลยก็ได้”ใบหน้าของหลินเวยซีดลง และคนอื่น ๆ ก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะรีบอธิบายอย่างหวาดระแวง “คือเรา แค่ล้อเล่นน่ะ พูดกันขำ ๆ เท่านั้นเอง”“ใช่ ๆ เราแค่ร้อนใจก็เลยพูดเล่นกันเอง”เย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะอย่างเย็นชา โดยไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับพวกเขาในเวลานี้หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถาม "เทียนหยู่คุณพูดจริง ๆ หรือไม่ว่าตระกูลเย่ได้ระดมทหารเพื่อมาจัดการกับพวกเรา"อะไร!ทันทีที่พูดจบหลินเวยและคนอื่น ๆ ก็ตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น สถานการณ์เป็นยังไง พวกเขากำลังจะดำเนินการ และมันเป็นกระบวนท่าครั้งใหญ่มากแต่เย่เทียนหยู่ยืนยันว่า "ใช่ และไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น รัฐมนตรีหวงก็ได้รับคำสั่งเช่นกัน คาดว่าตำรวจจะมาในไม่ช้า"อา……ในขณะนี้ทุกคนหน้าซีดสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ยังไงคุณปู่ตระกูลหลินแทบไม่เชื่อเลย แต่เป็นไปไม่ได้ที่เย่เทียนหยู่จะโกหกพวกเขาโดยเจตนาเมื่อหลินเวยและคนอื่นๆ ได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็รีบพูดทันที "เอาล่ะ น้องชาย คุณค่อยๆ คุยกันเถอะ
หลินหว่านหรูคิดออกทั้งหมดแล้วก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดว่า "เทียนหยู่คุณเก่งการต่อสู้ ถ้าคุณหนีไปตามลำพัง พวกเขาจะไม่สามารถจับคุณได้ กรุณาออกไปอย่างรวดเร็ว"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป คนอื่นๆ ต่างตกตะลึง โดยเฉพาะแม่ตระกูลหลินที่วิตกกังวลทันทีและพูดเสียงดังว่า "ไม่ ถ้าเขาจากไป ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ เขาจะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป"“ใช่ เขาคือผู้กระทำผิดรายใหญ่ที่สุดในเรื่องนี้ เขาจะต้องไม่ออกไป”“ไม่ เราต้องไม่ออกไป ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราต้องหยุดเขา!”“ถูกต้องแล้ว เย่เทียนหยู่ คุณได้ยินฉันมั้ย คุณออกไปไม่ได้!” คุณปู่ตระกูลหลินยังพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มแต่เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ฉันได้ยินแล้ว แต่ฉันต้องไปแล้ว ใครในพวกคุณที่จะหยุดฉันได้"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ภาพเหตุการณ์ก็เงียบลงด้วยความสามารถของพวกเขา ต่อให้จำนวนของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นร้อยเท่า แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเย่เทียนหยู่จากการจากไปคุณปู่ตระกูลหลินดูเขินอายมากและไม่มีทางเลือกเลย ด้วยความสามารถของพวกเขา ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำกับเย่เทียนหยู่ได้“เหอะ พวกคนหลงตัวเอง!”“คุณเป็นคนแบบ
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนในตระกูลหลินก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น หากไม่มีใครมาช่วยในครั้งนี้พวกเขาจะต้องตายอย่างอนาถแน่นอนแต่เย่เทียนหยู่ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "แล้วไงล่ะ"“แล้วเย่เทียนหยู่ คุณรู้มั้ยว่าคุณก่อปัญหามากแค่ไหน”หลงเจี๋ยกลอกตาอย่างช่วยไม่ได้“ฉันรู้ว่าตระกูลเย่เมื่อรวมกับเทพสงครามพยัคฆ์ขาวถือเป็นหายนะครั้งใหญ่จริง ๆ”“งั้นนายยังทำตัวชิลอยู่อีก”หลงเจี๋ยทำอะไรไม่ถูกและส่ายหัว "แม้ว่าฉันจะเกลียดมันและคิดว่าคุณเป็นคนเลว แต่ฉันสนับสนุนคุณในเรื่องนี้"“อยากให้ฉันลองดูว่าฉันจะช่วยคุณได้มั้ย”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งตั้งแต่แรกเริ่ม พวกเขาสงสัยว่าทำไม หลงเจี๋ยถึงตามหาเย่เทียนหยู่และในไม่ช้าก็พบว่าพวกเขาทั้งสองน่าจะรู้จักกันในเวลานี้ ในที่สุดพวกเขาก็รู้แล้วว่าทำไมเย่เทียนหยู่รู้ข่าวล่วงหน้า อาจเป็นเพราะเพื่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่บอกเย่เทียนหยู่เดิมทีฉันคิดว่าเย่เทียนหยู่มีความสัมพันธ์ที่ทรงพลังในการรู้ข่าวล่วงหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจธรรมดาๆแต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจธรรมดาคนนี้ดูเหมือนจะเก่งมากแล้วเขาบอกว่าช่
จางผิงและเหอฉุนต่างก็มองกันตาค้าง ในสายตาของพวกเธอ พลังของบอดี้การ์ดวัยกลางคนเมื่อสักครู่นี้ ก็ถือว่าน่าตกใจและน่ากลัวมากพอสำหรับพวกเธออยู่แล้วแต่หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงไม่รู้ผลลัพธ์ เมื่อเทียบกับเย่เทียนหยู่แล้ว แทบจะไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำสมแล้วที่เป็นถึงคุณเย่!เขาก็เป็นคนที่หล่อเท่แบบนี้แหละ!เป็นคนที่เก่งกาจมากจริง ๆ!จางผิงรู้สึกตื่นเต้นมาก ครั้งนี้คงรอดแล้วจริง ๆเหอฉุนรู้สึกดีใจที่เย่เทียนหยู่มีความสามารถ แต่ก็กลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนจางผิง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาคนนั้นก็เป็นถึงคุณชายรองแห่งตระกูลหนานกง ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง เขาคงจบไม่สวยแน่ ๆอย่างไรก็ตาม วิกฤตชั่วคราวตอนนี้ก็น่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับวิกฤตที่น่ากลัวหลังจากนี้อย่างไรดีเฉินเฟยเฟยยืนมองทุกอย่างด้วยความงงงวย จนกระทั่งเย่เทียนหยู่ก้าวเท้าเดินตรงมาหาเธอ เธอก็กลับยังคงไม่มีการตอบสนองใด ๆไม่นานหลังจากนั้น เย่เทียนหยู่ก็เดินมาถึงตัวของเฉินเฟยเฟยส่วนหนานกงเล่อ เขาถูกทำให้ตกใจจนต้องยืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หากเป็นพี่ใหญ่ของเขา บางที
ต้องเข้าใจก่อนว่า ตอนที่เธอคิดจะฆ่าตัวตาย บอดี้การ์ดคนนั้นอยู่ห่างจากเธอมาก แต่ถึงอย่างนั้น บอดี้การ์ดก็ยังคงเป็นคนแรกที่มาถึงตัวเธอ และหยุดเธอเอาไว้ได้ก่อนเห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดคนนี้มีฝีมือที่แข็งแกร่งมากจริง ๆแต่สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับดูไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “ไสหัวไป!”เหอฉุนและจางผิงรู้สึกงงงวยอยู่นิดหน่อย พวกเธอคิดแค่ว่าต่อให้เขาจะมีอำนาจ หรือมีความกล้าหาญมากแค่ไหน แต่ว่าเขาจะสามารถเอาชนะบอดี้การ์ดที่น่ากลัวคนนั้นได้จริง ๆ น่ะเหรอสีหน้าบอดี้การ์ดวัยกลางคนคนนั้นดูเย็นชา อันที่จริง เขาสัมผัสได้ก่อนแล้ว ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณชาย เขาจึงไม่สามารถหลีกทางให้ได้“เข้ามาเถอะ ให้ฉันได้เห็นความสามารถของแกหน่อย”บอดี้การ์ดวัยกลางคนคำรามเสียงดัง มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น พลังบนร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เขาถึงกับเป็นฝ่ายที่พุ่งเข้าไปโจมตีเย่เทียนหยู่ก่อนโดยตรงทันใดนั้น สิ่งของในห้องก็เคลื่อนไหวได้ ทั้งที่ไม่มีลมพัด สร้างความน่าเกรงขามและทรงพลังอย่างมากเหล่าหญิงสาวต่างก็รับรู้ได้ถึงความกดดันที่น่ากลัว จากนั้นก็เห็
หลังจากที่เย่เทียนหยู่พังประตูเข้าไป หนานกงเล่อก็หันไปมองด้วยความโกรธ และเห็นว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่ถีบประตูเข้ามาโดยตรงสำหรับเย่เทียนหยู่ เขาค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันนี้ที่ได้พบเขาบนเวทีไอ้เวรเอ้ย นี่มันไม่เป็นอะไรเลยงั้นเหรอ!แถมยังวิ่งมาที่นี่เพื่อทำลายเรื่องดี ๆ ของตนอีกไอ้สวะไป๋หยางนั่น ไม่ใช่ว่ามันหาคนไปจัดการกับไอ้เด็กนี่แล้วรึไง?เสียงที่เกิดขึ้นค่อนข้างดัง จึงทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง รวมถึงเหอฉุนและจางผิงเองก็ด้วยจางผิงรู้สึกตกใจนิดหน่อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีใจ และตื่นตัวขึ้นทันทีเขาคือคุณเย่!คุณเย่มาแล้ว!ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคุณเย่จะรับมือไหวไหม แต่แค่ได้เห็นว่าเขามา ก็รู้สึกว่าตนมีความหวังขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยก็ยังดีกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ใช่รึไงเหอฉุนรู้สึกตกใจเล็กน้อย เธอมองไปยังผู้ชายที่ดูน่ากลัวและดุร้ายที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูคนนั้น เธอรู้สึกว่าเขาต่างจากที่เคยเห็นในตอนแรกไปโดยสิ้นเชิงแต่ว่า การที่เขาถึงกับรีบตรงมาที่นี่แบบนี้เขาก็น่าจะได้รับข่าวอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่หนานกงเล่อมาที่นี่แน่นอน ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่รีบม
พระเจ้าช่วย หากช้าไปนิดเดียว เกรงว่าเฉินเฟยเฟยอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วเมื่อเห็นฉากนี้ หนานกงเล่อก็โกรธจัดขึ้นทันที เฉินเฟยเฟยถึงกับเลือกที่จะไม่ยอมแพ้แม้ตนจะต้องตาย จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรนี่เขาดูแย่มากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอผู้ชายคนนั้นนอกจากหล่อนิดหน่อยแล้ว ยังจะมีอะไรดีอีก?หรือความหล่อมันกินแทนข้าวได้รึไง?หนานกงเล่อโกรธจัด ความบ้าคลั่งเริ่มปรากฏ เขาก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยว จับเฉินเฟยเฟยเอาไว้ แล้วพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เฉินเฟยเฟย เธอเกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอ ก็ดี ยิ่งเธอเกลียดฉันมากเท่าไหร่ วันนี้ฉันก็ยิ่งต้องเล่นสนุกกับเธอต่อหน้าทุกคนมากขึ้นเท่านั้น”“ไสหัวออกไปนะ!”เฉินเฟยเฟยเริ่มร้อนรน เธอยกมือขวาขึ้น ตบเข้าที่ใบหน้าของหนานกงเล่ออย่างแรงหนานกงเล่อรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เขาไม่ทันได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้น แค่เฉินเฟยเฟยจะแตะต้องเขาได้อย่างไร“เวรเอ้ย แกกล้าตบฉันเหรอ!”หนานกงเล่อโกรธจัดทันที ก่อนที่เขาจะตบกลับไปอย่างแรงด้วยฝ่ามือเพี้ยะ!เสียงใส ๆ ดังก้องขึ้นอีกครั้งหนึ่งเฉินเฟยเฟยถูกตบที่ใบหน้าจนเ
ต้องบอกเลยว่า เหอฉุนค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวแต่น่าเสียดาย ที่มันไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยหนานกงเล่อดูไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาสงบ และดูไม่รีบร้อนแต่อย่างใด เขาพูดพลางหัวเราะเยาะว่า “ร้องไปเถอะ ดูสิ ว่าถ้าร้องจนคอแห้งแล้ว จะมีใครสนใจพวกเธออยู่ไหม!”“ลืมบอกไปเลย ว่าบริเวณรอบ ๆ พวกเธอตอนนี้ไม่มีผู้เช่าคนอื่นอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มีไม่กี่ครอบครัวที่อาศัยอยู่ แต่ก็ถูกไล่ออกไปตั้งแต่ตอนที่คอนเสิร์ตเธอเริ่มแล้ว”ส่วนวิธีการไล่นั้น พวกเขาก็แค่ยัดเงินเล็กน้อยให้กับโรงแรม โรงแรมก็หาข้ออ้างจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายแล้วเมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา สาว ๆ ต่างก็รู้สึกหมดหวังกันอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ จะให้เรียกฟ้า ฟ้าก็คงไม่ตอบ เรียกดิน ดินก็คงไม่สนใจอีกแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดที่มีพลังแข็งแกร่ง สองสาวแทบไม่มีแรงต้านเลยแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเธอก็ถูกมัดมือไว้ด้านหลัง พร้อมกับถูกปิดปากด้วยเทปกาวหนานกงเล่อแทบไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่อย่างนั้น ป่านนี้เขาคงรีบจัดการผู้หญิงสองคนนั้นให้หมดสติไปนานแล้วแต่เขากลับไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น เขาแค่ต้องการให้ผ
“คุณชายหนานกงพูดจริงเหรอ?” เหอฉุนรู้ดีว่า ตระกูลชนชั้นสูงแบบพวกเขา ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับดาราอย่างแน่นอนแน่นอน ว่าก็อาจจะมีบางกรณีที่พิเศษจริง ๆ“แน่นอนสิ!”หนานกงเล่อพูดอย่างมั่นใจ แม้ในใจจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังคงต้องโกหกไปก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากันทีหลัง“หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันคิดว่าเฟยเฟยก็อาจจะพอพิจารณาดูได้ แต่ว่า ตระกูลหนานกงจะยอมรับได้จริง ๆ เหรอคะ?” เหอฉุนถาม“ในเมื่อผมรับปากแล้ว ก็จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เฟยเฟย คุณคิดว่ายังไง?” หนานกงเล่อเปิดปากถามออกไปเฉินเฟยเฟยชะงักไปชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีขณะที่เหอฉุนกำลังจะพูดหนานกงเล่อก็โบกมือ แล้วพูดออกไปตรง ๆ ว่า “คุณไม่ต้องพูด!” เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อกี้ตอนที่คุยกับเหอฉุน เขาก็สังเกตสีหน้าของเฉินเฟยเฟยอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่ามีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ตรงกันบวกกับข่าวที่ตัวเองเพิ่งได้มาจากประธานหวัง ไหนจะยังมีเรื่องที่เฉินเฟยเฟยร้องเพลงคู่กับชายคนนั้นบนเวทีอีกเฉินเฟยเฟยรู้สึกงงงวย “ฉัน ฉัน......”“หรือที่ประธานเหอพูดกับผมเมื่อกี้แค่พูดพอเป็นพิธีเท่านั้น หลอกผมอยู่งั้นเหรอ?” หนานกงเล่อถา
สีหน้าของหนานกงเล่อเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พร้อมกับถามออกไปอย่างเย็นชาว่า “ประธานเหอ นี่คุณหมายความว่ายังไง คุณเห็นผมเป็นสัตว์ร้ายงั้นเหรอ?”เหอฉุนเปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “จะเป็นแบบไปได้ยังไงกันคะ คุณชายหนานกงล้อกันเล่นแล้วล่ะค่ะ ก็แค่พวกเฟยเฟยกำลังแต่งตัวกันอยู่ ไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไหร่ เลยจะดูไม่เหมาะสม หากจะมีผู้ชายอยู่ในห้องน่ะค่ะ”“งั้นเหรอ เช่นนั้นก็ให้ผมดูหน่อยสิ ว่ามันจะไม่สุภาพสักแค่ไหนกันเชียว” หนานกงเล่อไม่สนใจคำพูดของเหอฉุนเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะยืนรอที่ประตู เขาเดินตรงเข้าไปทันทีประธานหวังที่เห็นแบบนั้น ก็รีบพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นคุณชายหนานกง ผมยังมีธุระที่ต้องไปจัดการ คงไม่อยู่รบกวนแล้วนะครับ”“ไปเถอะ!”หนานกงเล่อไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ เดินมุ่งตรงเข้าไปข้างในท่าเดียวสีหน้าของเหอฉุนดูไม่ค่อยดีนัก จึงรีบเดินตามไปในทันทีบอดี้การ์ดที่เดินตามหลังเป็นคนปิดประตู ทั้งยังล็อกกลอนจากด้านในอีกต่างหาก ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากประตู สีหน้าของเฉินเฟยเฟยและจางผิงก็เปลี่ยนไปทันที เพราะพวกเธอรู้แล้วว่า หนานกงเล่อมาแล้วจริง ๆ ทำไมถึ
“เอ่อคือ มีสิ!” ไป๋หยางพูดอย่างระมัดระวัง “คุณชายหนานกงพยายามตามจีบเฉินเฟยเฟยอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธตลอด มันเลยทำให้เขาโกรธมาก ตอนนี้เขาอาจจะกำลังไปที่โรงแรมที่เธอพักอยู่”“แกว่าไงนะ!”สีหน้าของเย่เทียนหยู่มืดมนลงทันทีไป๋หยางตกใจมาก และกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะลงมือกับเขาอีก จึงรีบพูดออกไปว่า “ฉัน ฉันจะบอกทุกอย่าง แต่แกห้ามลงมือกับฉันนะ แล้วก็ ทุกสิ่งที่ฉันพูดคือเรื่องจริง ตำแหน่งของโรงแรมก็เป็นฉันที่บอกเขา”“ตอนนี้คุณชายหนานกงก็น่าจะไปถึงโรงแรมแล้ว”ไป๋หยางตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดแค่ว่าต้องล่อให้เย่เทียนหยู่ไปหาหนานกงเล่อให้เร็วที่สุด แต่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาพูดจะทำให้เย่เทียนหยู่โกรธมากแค่ไหนสีหน้าของเย่เทียนหยู่เย็นชาลงทันที แล้วรีบถามออกไปว่า “โรงแรมไหน ห้องอะไร?”ทันทีที่ไป๋หยางได้ยิน เขาก็รีบบอกทันทีโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับบริเวณที่เขาอยู่พอดี ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก“ทางที่ดีแกก็ภาวนาให้เฉินเฟยเฟยยังคงปลอดภัยอยู่เถอะ เพราะไม่อย่างนั้น แกได้ตายอย่างน่าสังเวชแน่นอน”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชาจบ ก็ใช้เท้าเตะไปที่ตัวไป๋หยางอย่างแรง เห็นได้ชัดว่าจาก
“แก แกคิดจะทำอะไร?” ไป๋หยางตกใจจนหน้าซีด เขาทั้งกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน“ทำอะไรล่ะ เมื่อกี้ก็บอกแกไปแล้วนี่ แกต้องการชีวิตฉันเลยนะ ฉันแค่ต้องการขาสองข้างของแกก็เท่านั้น ไม่เกินไปหรอกมั้ง?” เย่เทียนหยู่พูดอด้วยน้ำเสียงที่ดูเฉยเมย“ไม่ ไม่ได้นะ!”ไป๋หยางรู้สึกร้อนรน จึงรีบพูดขึ้นว่า “เอางี้นะ ขอแค่แกปล่อยฉันไป เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ฉันจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ เรื่องที่ผ่านไปแล้วฉันก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองอีก”“กลับกัน หากแกลงมือกับฉัน ตระกูลไป๋จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ ด้วยความสามารถของตระกูลไปแล้ว ต่อให้แกจะเก่งแค่ไหน แกก็คงจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี”“นี่แกยังกล้ามาข่มขู่ฉันอยู่อีกเหรอ?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไม่ ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการขอร้อง ขอความเมตตา” เมื่อเห็นท่าทางของเย่เทียนหยู่ ไป๋หยางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ เขาจึงไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีอีกต่อไปไม่ว่ายังไงก็ต้องหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้ก่อน รอให้ผ่านวันนี้ไปได้ ตนก็มีอีกเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายตายอย่างน่าสังเวชมากที่สุด“ท่าทีของแกตอนนี้ก็ถือว่าไม่เลว แต่น่าเสียดา