เดิมทีถังเฟยฝานนึกว่าปรมาจารย์เย่หมดกำลังต่อสู้ไปแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำลายฤทธิ์ของผงสลายกำลังยุทธ์ได้ แถมยังแอบสะสมพลังเพื่อการลอบโจมตีระดับอันตรายถึงชีวิตกระบวนท่านี้ ช่างปราดเปรื่องยิ่งนักแต่นั่นก็จุดประกายความหวังอันแข็งแกร่งในตัวเขาขึ้นมาอีกครั้งเช่นกันหยางเฉียนเฉียนประหลาดใจมากตอนที่เธอเห็น เทียนหยู่โจมตีใส่บรรพจารย์พรรคถังและกลับมาอิสระอีกครั้ง แต่แรงปะทะจากการโจมตีของทั้งคู่นั้นน่าสะพรึงมาก โชคยังดีที่ถังเฟยฝานช่วยสลายให้บ้าง ไม่เช่นนั้นเธอคงจะทนรับไม่ไหวแน่แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองก็ยังถอยหนีไปซ่อนตัวอยู่อีกด้านทว่ามองดูห้องใต้ดินที่พังทลายนี้ เห็นได้ชัดว่าเขายังกังวลอยู่เล็กน้อย พลังการต่อสู้ของทั้งสองน่ากลัวมาก แม้แต่ห้องใต้ดินลับที่ไม่มีทางถูกระเบิดทำลายแห่งนี้ก็ยังได้รับความเสียหายอย่างหนักบรรพจารย์ล้มลงและจ้องมองเย่เทียนหยู่ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย: “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด หรือที่จริงแล้วเจ้าไม่ได้หลงกลข้าแต่แรก”“ผมจะหลงกลหรือไม่ ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ วันนี้เถ้ากระดูกของคุณจะถูกฝังอยู่ที่นี่”เย่เทียนหยู่สีหน้าไร้อารมณ์ ร่างกายของเขาแผ่ซ่านพ
หากแต่นี่ไม่ได้แปลว่าเย่เทียนหยู่ปลอดภัย เขาแค่ใช้กำลังที่เหลืออยู่เพื่อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อทำลายเศษพลังพวยพุ่งที่โจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่งจากนั้นเขาก็พังเพดานแล้วกระโดดออกไปจากตรงนั้นพร้อมพาคนทั้งสองออกไปด้วยเพราะเห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้กำลังจะพังทะลาย ถ้าไม่รีบออกไป มีหวังได้ถูกฝังทั้งเป็นส่วนบรรพจารย์พรรคถัง เขาสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่เขาเอาชนะอีกฝ่ายได้แล้วว่าบรรพจารย์พรรคถังที่ไม่สามารถต้านทานพลังอันน่าสะพรึงกลัวจากการโจมตีของเขาได้ ทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเขาแตกสลาย และสิ้นใจไปทันทีดังนั้น เย่เทียนหยู่จึงไม่มีเวลากังวลบรรพจารย์พรรคถัง และพาตัวถังเฟยฝานกับหยางเฉียนเฉียนออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเป็นไปตามคาด ทันทีที่ทุกคนออกมาก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทันใดนั้นห้องใต้ดินก็ทรุดตัวลงเมื่อครู่ถังเฟยฝานนึกว่าเขากำลังจะตาย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังรอดชีวิตและมองดูทุกอย่างด้วยอาการเหม่อลอยสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ อยู่นอกเหนือจินตนาการของเขาเสื้อผ้าของเย่เทียนหยู่เลอะเทอะเล็กน้อยและดูอ่อนกำลังอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อยก็ไม่ดูสบาย ๆ เหมือนก่อนหน้านี้ แถมมุมปาก
“ก็ได้ ถ้าคุณยืนกราน ผมจะเข้ามากำกับดูแลพรรคถัง ถ้าต่อไปพรรคถังเจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็มาหาผมได้ทุกเมื่อ”พรรคถังเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของอาณาจักรมังกร การรับไว้มีแต่จะเป็นประโยชน์ต่อเขาแถมยังไร้ข้อเสีย ในเมื่ออีกฝ่ายขอร้องเขา เย่เทียนหยู่ก็ย่อมยอมรับไว้“ขอบคุณปรมาจารย์เย่ ไม่สิ ควรจะเป็นเจ้าสำนักเย่” ถังเฟยฟานกล่าวทันที หากมีปรมาจารย์เย่ปกป้อง อย่างน้อยพรรคถังก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียบรรพจารย์และเจ้าสำนักไป“ไม่จำเป็นต้องเรียกผมว่าเจ้าสำนักหรอก ต่อไปคุณจะเป็นเจ้าสำนักของพรรคถัง ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของพรรคถัง และคุณจะมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง”“คือว่า…”“อะไรกัน? ผมให้อำนาจตัดสินใจคุณเต็มที่แบบนี้ไม่ดีเหรอ?”"แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับพรรคถัง แต่ว่า...”“แต่ดูเหมือนว่าผมจะเสียเปรียบใช่มั้ย? ไม่ต้องห่วง เพราะโลกนี้ไม่มีผลประโยชน์ที่ได้มาฟรี ผมเองก็มีข้อกำหนดเช่นกัน เพราะต่อไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมมีคำสั่ง คุณต้องเชื่อฟังการเตรียมการของผม”“แน่นอน นั่นเป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว!”“ได้ ถ้าต่อไปมีโอกาสให้เติบโต ผมจะคิดเผื่อพรรคถังให้ด้วย”“เช่นนั้น
“ทุกครั้งฉันแทบจะเป็นบ้าตาย และครั้งสุดท้ายที่ฉันโทรหาพี่ก็เพราะฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะแตกสลาย”“ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าพี่จะยอมเสี่ยงอันตรายเพราะฉัน แล้วก็ไม่คิดเลยด้วยว่าพี่จะเก่งขนาดนี้”ทั้งที่มีสาวสวยราวกับเทพธิดาแนบกายใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้ แต่ตอนนี้เย่เทียนหยู่ไร้ซึ่งอารมณ์แห่งความปรารถนา เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกลัวในใจของหยางเฉียนเฉียนอย่างชัดเจนทั้งน้ำเสียงและร่างกายที่สั่นเทาของเธอเผยให้เห็นถึงความทนทุกข์ทรมานจากความกลัวอันไร้ที่สิ้นสุดออกมาถ้าหยางต้าฝูรู้เรื่องราวทั้งหมดนี่แล้ว ไม่รู้เขาจะเสียใจหรือเปล่าที่ให้ลูกสาวของตัวเองไปแต่งงานเข้าตระกูลถังเพียงเพราะยึดติดกับอำนาจเย่เทียนหยู่ตบหลังหยางเฉียนเฉียนเบา ๆ และพูดว่า: “เอาล่ะ ทุกอย่างจบลงแล้วนะ ต่อไปจะไม่มีใครรังแกคุณได้อีก”“ใช่ค่ะ ต่อไปจะไม่มีใครรังแกฉันได้อีกแล้ว เพราะฉันมีคนที่ทรงพลังที่สุดอย่างพี่เย่อยู่ ใครจะมารังแกฉันได้อีก”“เด็กโง่ ผมจะปกป้องคุณไปตลอดชีวิตไม่ได้นะ”“ฉันไม่สนใจ หลังจากเหตุการณ์นี้ฉันเข้าใจแล้วจริง ๆ พี่เย่ ฉันชอบคุณและฉันจะชอบคุณเท่านั้น ฉันไม่สนใจว่าคุณมีภรรยาหรือไม่ ฉันจะเป็นผู้
แม้เย่เทียนหยู่จะพูดแบบนั้น แต่หยางเฉียนเฉียนก็ยังคงกังวลและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “พี่เย่ ฉันพาพี่ไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่ามั้ยคะ?”“ไม่ต้องหรอก ผมบาดเจ็บภายใน โรงพยาบาลรักษาไม่หายหรอก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าและอธิบาย: “อย่างที่คุณเพิ่งเห็น ระดับการฝึกฝนของพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา อาการบาดเจ็บพวกนี้มีแต่ต้องรักษาให้หายด้วยพลังภายในของเราเองเท่านั้น”“อือ ฉันรู้ค่ะ เห็นพวกละครก็แสดงแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่า พี่ไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ?”“จริง คุณตั้งใจขับรถเถอะ ผมขอหลับตาพักผ่อนสักหน่อย”“ได้ค่ะ ได้”หยางเฉียนเฉียนพยักหน้าทันทีแล้วค่อย ๆ ออกรถ เธอไม่เคยขับรถอย่างระมัดระวังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนแต่แน่นอนว่าทักษะของเธอใช้ได้ทีเดียว ทั้งพยายามคงความเร็วโดยไม่ให้รถกระเทือนมากนักจริง ๆ แล้ว เย่เทียนหยู่อยากลองปรับลมหายใจของเขา แต่มันไม่ได้ผล เขาจึงทำได้เพียงนอนหลัยตาพักไปอย่างหมดหนทางบางทีเขาอาจจะเหนื่อยเกินไปจากการต่อสู้ ทำให้เขาหลับไปในทันที แถมยังหลับสนิทมากด้วยขณะขับรถ หยางเฉียนเฉียนคอยมองเย่เทียนหยู่เป็นระยะ ขณะที่เห็นว่าเขานอนหลับ เสียงกรนเล็กน้อยของเขาทำให้เธอสติ
เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นเสียแล้ว แล้วทำไมเธอต้องยังคอยไปตามติดเขาไม่เลิกด้วย เพราะอย่างนั้นเธอจะไม่โทรไปแต่เธอไม่โทรกลับรู้สึกเหมือนคิดถึงเรื่องนี้ไม่เลิก นิ้วมือของเธอเอาแต่วนไปวนมาอยู่กับโทรศัพท์อยากจะโทรไปถามเขาอยู่หลายหนแต่สุดท้ายเธอก็อดทนมันไว้ได้ แต่ในตอนนี้เอง เย่เทียนหยู่ก็โทรเข้ามาเธอรับโทรศัพท์รับโทรศัพท์ไวปานแสงตามสัญชาตญาณ แต่หลังจากรับสายเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่กันเนี่ย ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วยทั้งที่เขาเป็นคนทำผิดแท้ ๆ แต่สถานการณ์กลับเหมือนเธอกำลังขอร้องเขาไม่ได้ ไม่ได้ ต้องห้ามใจไว้ ต้องอดทน“หว่านหรู!”“เหอะ เรียกชื่อฉันทำไม คุณนอนอยู่ไม่ใช่เหรอ นอนต่อไปสิ จริงสิ ข้าง ๆ นายน่ะคงเป็นสาวสวยละสินะ เธอปรนิบัตินายดีมั้ยละ?”หลินหว่านหรูพูดกระแทกกระทั้นเขาหลายครั้งด้วยความโมโหเธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอที่เป็นถึงประธานสาวสวยของหลินซื่อกรุ๊ปจะพูดคำพูดพรรคนี้กับผู้ชาย ราวกับตัวเองเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆแต่เวลาเธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอก็อยากจะด่าเขา หรืออาจถึงขั้นอยากทุบตีเขาด้วยซ้ำเย่เทียนหยู่หมดหนทางและอธิบายว่า: “คุณเข้าใจผิดแล้
เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็จงใจหลีกเลี่ยงคำถาม และตอบว่า: “ไม่หรอก จะมีเลือดได้ยังไงกันครับ คุณตาพร่าแล้ว”หลังจากพูดจบ เขาก็พูดทันทีว่า “โอเค ผมจะถึงบ้านในอีกครึ่งชั่วโมง กลับไปแล้วผมจะบอกคุณอีกทีนะ”“ไม่ต้องรีบ!”“อย่าเพิ่งกลับบ้าน มาที่บริษัทแล้วไปพบลูกค้ากับฉันเย็นนี้ก่อน” เนื่องจากเธอกำลังจะออกไปข้างนอกเย็นนี้ หลินหว่านหรูจึงหวังว่าเย่เทียนหยู่ไปเป็นเพื่อนเธอ เพราะมันทั้งปลอดภัยและสบายใจแต่ตอนนี้ เย่เทียนหยู่เลือดเลอะเต็มร่างและได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่อยากไป เพราะอย่างนั้นเขาเลยตอบไปว่า: “เรื่องอะไร ต้องให้ผมไปด้วยเหรอ”“นายไม่อยากเหรอ”หลินหว่านหรูตกตะลึง คำพูดของเขาเมื่อคืนมันฟังดูดีมาก แต่พอมาวันนี้ เขาไม่เต็มใจที่กระทั่งไปพบลูกค้ากับเธอด้วยซ้ำเขาไม่กลัวรึไงว่าเธอออกไปหาลูกค้าตอนกลางคืนจะเกิดเรื่องจะว่าไป คนอื่นเขามีแต่ได้ครอบครองแล้วก็เริ่มทิ้งขวาง แต่เขายังไม่ได้ครอบครองเธอเลยด้วยซ้ำนี่ไม่สิ ครั้งก่อนเขาเคยมีอะไรกับเธอไปแล้วในโรงแรม ตอนนี้หัวใจของเธอก็เป็นของเขาไปแล้ว ถ้าจะให้นับจริง ๆ ก็ถือว่าเขาได้ครอบครองเธอแล้วเย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดมาก เขาจ
ไอ้คนชั่ว!เย่เทียนหยู่ นายมันชั่วที่สุดไม่สิ ตอนแรกที่หยางเฉียนเฉียนรับสาย เธอบอกว่าเย่เทียนหยู่กำลังหลับอยู่ แถมตอนที่รับสายเธอก็ไม่ได้ยินเสียงแปลก ๆ อะไรเลย หรือว่าเธอจะเข้าใจผิดแต่ในตอนนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์ของเธอดังขั้น เป็นเย่เทียนหยู่ส่งข้อความมา เมื่อเห็นว่าเขากำลังรีบกลับมาบริษัทเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอหลินหว่านหรูก็อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย อีกพักเธอค่อยถามเขาก็ได้ เพราะถึงยังไงหยางเฉียนเฉียนก็แต่งงานกับคนตระกูลถังหากเทียนหยู่ทำยั่วยุล่วงเกินเธอ เขาคงได้จบเห่แน่ถ้าคนในตระกูลถังมารู้เรื่องนี้เข้าหยางเฉียนเฉียนนั่งรถกลับไปถึงที่บ้าน แม้เธอจะเป็นห่วงพี่เย่ แต่เธอก็มีความสุขมากที่ได้กลับบ้านที่เธอคุ้นเคยแต่ทันทีที่เธอกลับบ้าน เธอกลับได้รับสายตาเย็นชาจากพ่อแต่เล็กจนโต พ่อรักเธอมากที่สุดมาโดยตลอดแต่คราวนี้เขากลับเต็มไปด้วยความโกรธ “หยางเฉียนเฉียนกล้าดียังไงถึงกลับมา แกไปทำอะไรให้ตระกูลถังยกเลิกงานหมั้นกับแกได้ง่าย ๆ แบบนี้”หยางเฉียนเฉียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างรวดเร็ว: “พ่อไปได้ยินมาจากใครว่าตระกูลถังยกเลิกงานหมั้นกับหนู”“ใครบอกเหรอ ถังเฟยฝานหัวห
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้