Share

บทที่ 712

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
แต่ไม่แน่ เขาอาจจะรู้แค่เรื่องของฝ่ายออกแบบก็ได้ เพราะวันนี้มาถึงเขาก็ไปฝ่ายออกแบบเลย ดูท่าแล้วฝ่ายออกแบบคงมีคนปล่อยความลับ

ถูกต้อง มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ

คิดได้แบบนี้เฉินฮั่นก็สบายใจมากขึ้น

เห็นเฉินฮั่นคุกเข่าด้วยท่าทีน่าสงสารอยู่ตรงหน้า เย่เทียนหยู่มองไปอีกฝ่ายด้วยสายตาแน่นิ่งก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ “ถ้าหากเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ผมก็คงจะปล่อยไปได้ แต่คุณยังทำเรื่องที่แย่จนผมรับไม่ได้อีก”

“อะ…อะไรนะครับ ผม…ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ไม่เคยทำผิดอะไรต่อคุณนี่?” เฉินฮั่นหวั่นใจ

“ผู้หญิง!”

เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ “นายใช้อำนาจในการเป็นหัวหน้าฝ่าย หลอกล่อผู้หญิงคนอื่นในฝ่าย ทำให้เกิดแผลในใจของพวกเธอ ถึงจะมีคนที่ออกจากบริษัทไปแล้วแต่ผลที่นายทำมันทำให้เกิดปัญหาระยะยาว”

ได้ยินคำนี้เฉินฮั่นจึงหน้าถอดสีก่อนจะล้มลงไปนั่งกับพื้น

เย่เทียนหยู่ไม่สนใจก่อนจะพูดต่อ “หลิวชั่ว นายเองก็ไม่พอใจนี่ ตอนนี้มีอะไรจะพูดไหม?”

ได้ยินคำนี้สีหน้าของหลิวชั่วก็เปลี่ยนไป

แต่เมื่อคิดดูอีกฝ่ายคงไม่มีหลักฐานอะไรสาวมาที่ตัวเขา ไม่อย่างนั้นก็คงจัดการเขาก่อน

ถ้าจัดการเขาได้ก็เหมือนจัดการได้ทั้งหมด

 
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Pipop Kiattipongsa
สัตว์ เหี้ย อ่านได้แม่งวันละนิด กูเสียดายเงินที่ซื้อ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 713

    หานถงไม่กล้าเสี่ยง ขนาดคนที่ปกปิดอย่างดีอย่างหลิวชั่วยังไม่รอดเรื่องของเธอไม่ต้องถามคนอื่นก็ยังได้ เพราะหวังชิ่งเองก็คงพอรู้มาบ้าง ไม่แน่ก็เป็นหวังชิ่งเองนั่นแหละที่เป็นคนพูดเพื่อที่จะได้ตำแหน่ง ภาพทุกภาพในวันนี้ปรากฏสู่สายตาของทุกคนทั้งน่าตกใจและน่ายินดี ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเย่เทียนหยู่จะทำได้ขนาดนี้แต่เมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าประธานบริษัทคนใหม่ก็ไม่ต่างจากเทพมาโปรดเลยสักนิด หนิงเกอเองก็มองอย่างเหม่อๆ เย่เทียนหยู่เก่งกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้ นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว โจวม่านและคนอื่นๆเองก็ช็อคไปแล้ว เพราะใช้เวลาไม่นานก็จัดการเรื่องน่าเหลือเชื่อนี่เสร็จแล้ว รองประธานหลิวชั่ว หัวหน้าฝ่ายออกแบบเฉินฮั่นและยังจะมีหัวหน้าฝ่ายการขายอีกด้วย นี่มันหัวหน้าใหญ่สามคนภายในบริษัทเชียวนะ และนอกจากนี้ยังมีฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายอื่นๆอีกด้วย แค่สามคนนี้โดนลิดรอนอำนาจ คนอื่นๆก็ไม่กล้าทำอะไรแล้ว เย่เทียนหยู่มองทางหานถงก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ “ดีมาก แบบนี้สิ” “อีกเดี๋ยวก็ไปบอกหวังชิ่งทุกอย่างแล้วก็ชดใช้เงินคืนด้วยนะ“ “ค่ะ!” หานถงก้มหน้า เธอหวั่นใจจนแทบไม่กล้าพูดอะไ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 714

    เดิมทีเขาก็ความจำดีอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นจึงสามารถพูดชื่อของทุกคนออกมาและมอบหมายงานและตำแหน่งใหม่ให้ได้ จริงๆการประกาศตำแหน่งงานใหม่ในวันนี้ดูเหมือนจะง่าย แต่จริงๆแล้วเย่เทียนหยู่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งแต่กลับรู้จักชื่อและเข้าใจความสามารถในการทำงานของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าใครชื่ออะไรและควรจะทำตำแหน่งอะไร ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการใช้โพยกระดาษเลยสักนิด นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ พูดได้แค่ว่าประธานบริษัทคนใหม่นี่เก่งเกินไปและยังทุ่มเทให้บริษัทมากๆด้วย และเพราะแบบนี้คนที่มีปัญหาในใจจึงคิดแค่เพียงว่าจะต้องรีบไปสารภาพความผิดซะ “การมอบหมายงานในวันนี้ก็ประมาณนี้แต่ว่าถ้าต่อจากนี้ใครที่มีความสามารถมากพอ และยังค่อนข้างที่จะโดดเด่นก็สามารถมีโอกาสแบบนี้ได้” “ผมถือเอาคนที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นหลัก ใครเก่งก็ได้เลื่อนขั้น” “และแน่นอน นิสัยก็จะต้องดีด้วยอย่างน้อยก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมายหรือทำอะไรที่มันผิดหลักคุณธรรม” “เอาล่ะ ต่อจากนี้ก็รอดูทุกคนนะครับ” “ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อน” เย่เทียนหยู่พูดจบก็กระโดดลงมาก่อนจะพูดขึ้น “หวังชิ่งคุณมากับผมหน่อย” “ครับ” หวังชิ่งรีบดินตาม

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 715

    หลินหว่านหรูมาที่ตึกสี่ฤดูและเดินเข้าไปในห้องทานอาหารส่วนตัวก็เพราะการบังคับคนที่บ้าน ในตอนที่เธอรู้เลขห้องอาหารก็รีบส่งให้เย่เทียนหยู่ เพราะเย่เทียนหยู่บอกว่าต้องส่งที่อยู่ให้กับเขา “หว่านหรู มาแล้วเหรอ” เห็นหลานสาวของตัวเองเข้ามาแล้วนายท่านหลินก็ถอนหายใจก่อนจะรีบพูด พ่อและแม่ของเธอเองก็ดีใจมากๆ นอกจากพวกเขาสามคนยังมีหลี่ว์เจิ้งอยู่ด้วย บนใบหน้ามีร่องรอยเหมือนถูกทำร้ายมา เพราะว่ามีการจัดการแล้วจึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่าถูกทำร้ายมาจริงไหม หลี่ว์เจิ้งเห็นว่าหลินหว่านหรูมาแล้วก็อดจะตาลุกวาวไม่ได้ เพราะว่าการปรากฏตัวของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาไม่สามารถฮุบตระกูลซ่งและตัวซ่งหลิงมาครองไว้ได้ แต่ว่าการที่จะได้คนที่สวยมากๆอย่างหลินหว่านหรูกลับเป็นเรื่องที่โชคดี ทำให้เขารู้สึกชอบมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าหลินหว่าหรูดีกว่าซ่งหลิงมากอีกฝ่ายก็เหมือนแค่ต้องการเข้ามาหลอกเอาเงินเขาก็เท่านั้น หลี่ว์เจิ้งพยายามเก็บอาการเขามองไปทางด้านขวาของตัวเองหน้านิ่งก็จะพูดออกมายิ้มๆ“หว่านหรู มานั่งทางนี้สิ” หว่านหรูมองไปทางนั้นก่อนจะพูด “ไม่ล่ะค่ะ ฉันขอนั่งข้างๆแม่ของฉันดีกว่า” พูดจบก็เดินมานั่งลงตร

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 716

    ที่เคยเสียหน้าไปก่อนหน้านี้ เขาจะต้องทวงคืนกลับมาให้หมด เขาตอบปฏิเสธออกมาหน้าตาเฉย “แน่นอนว่าไม่ใช่!” แต่เมื่อตอบคำนี้ออกมา นายท่านหลินก็ช็อคไปเหมือนกัน แบบนี้ไม่ให้เกียรติกันเลยนี่นา พ่อแม่ของเธอเองก็ชะงักไป แต่ว่าพวกเขาก็ลังเลเล็กน้อย และยังคงอยากจะทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น เพราะนี่ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้เปลี่ยนชีวิต ถ้าลูกสาวของพวกเขาได้แต่งงานกับคนรวยของเมืองหลงตู สถานะทางสังคมของพวกเขาทั้งสองคนก็จะสูงตามไปด้วย หลี่ว์เจิ้งปฏิเสธเสร็จก็ไม่รอให้คนอื่นได้พูดอะไรต่อ “นายท่านหลิน พูดกันตามจริงนะ พรุ่งนี้ผมก็จะไปจากเมืองเทียนไห่แล้ว” “วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกคุณ” “ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะหว่านหรู ผมหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะไปจากที่นี่พร้อมกับผมได้” ตอนแรกหลี่ว์เจิ้งไม่ได้คิดเช่นนี้ แต่ยิ่งเห็นว่าตระกูลหลินกลัวตัวเองมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งได้คืบจะเอาศอกมาเท่านั้น คนในตระกูลหลินได้ฟังก็ชะงักไป เพราะไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ หลินหว่านหรูสีหน้าเปลี่ยนไป ช่วงนี้เธอได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลหลี่ว์มามากมาย ตอนนี้หลี่ว์เจิ้งกำลังวางท่าทางว่าพรุ่งนี้จะพาตนเองไปให้ได้ แน่นอนว่าเธอไม

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 717

    เย่เทียนหยู่มาทันช่วงเวลาที่สำคัญพอดี มาในตอนที่หลินหว่านหรูรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ นายท่านหลินพูดจบก็มองไปทางหลานสาวตาไม่กระพริบเพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันมีผลต่อเธอมากๆ แต่ว่าเขาเองก็ไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้ อีกอย่าง ในอนาคตหลานของเขาจะต้องเข้าใจแน่ๆ พอถึงตอนนั้นหลานของเขาจะต้องรู้สึกขอบคุณเขาแน่ๆที่ทำเพื่อเธอในวันนี้ ส่วนหลี่ว์เจิ้งก็ตั้งตารอยิ่งกว่าใครเพราะว่าคนสวยตรงหน้าจะกลายเป็นคนของเขาแล้ว ทำให้สิ่งที่ทำให้เขาอารมณ์เสียก่อนหน้านี้หายไปจนหมด แต่ในตอนนี้กลับมีเสียงของเย่เทียนหยู่ลอยมา อะไรกัน ไม่ตกลงงั้นเหรอ? ไอ่บ้าคนไหนที่มันกล้าเขามาขัดขวางกัน แต่ลองฟังดูเสียงนี้ช่างฟังดูคุ้นเคย สีหน้าของนายท่านหลินเปลี่ยนไป พ่อและแม่ของหลินหว่านหรูเองก็เช่นกัน ให้ตายเถอะ เย่เทียนหยู่มาได้ยังไงกัน เหมือนวิญญาณที่ตามติดเลย เขามาก็ไม่รู้จะมาสร้างเรื่องอะไร ถ้าทำให้คุณชายหลี่ว์โมโหแล้วจะทำยังไงดี แต่จากท่าทีของครอบครัวของเธอเมื่อสักครู่ก็ทำให้ใจของเธอด้านชาไปแล้ว อย่างน้อยในตอนนี้เธอไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าเย่เทียนหยู่จะทำอะไรเธอก็สนับสนุนทั้งนั้น ในตอนที่ทุกคนต่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 718

    “หว่านหรู นี่ลูกพูดอะไรออกมา?” “ทำไมถึงไปนอนกับไอ่สวะนี่ได้?” “ลูกนอนที่บ้านตลอดไม่เคยออกไปไหน แม่รู้นะว่าลูกกำลังพูดเพื่อมันถึงได้พูดแบบนี้” “นี่แกบ้าหรือเปล่า ถ้าคุณชายหลี่ว์เข้าใจผิดจะทำยังไง” “คนอย่างเย่เทียนหยู่ทั้งชาติตระกูลและความหล่อเหลาก็สู้คุณชายหลี่ว์ไม่ได้ ถ้าเทียบกันมันก็ไม่ต่างจากขยะ แกชอบอะไรมัน” แม่ของเธอพูดออกมาไม่หยุด หลินหว่านหรูได้ฟังก็ตั้งท่าจะเถียงกลับเรื่องที่เธอนอนกับเย่เทียนหยู่เป็นเพราะถูกคนวางยา เธอไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด แต่ในตอนนี้หลี่ว์เจิ้งก็ได้สติกลับมา ที่แท้คุณชายเย่ชื่อว่าเย่เทียนหยู่ จึงรีบเอ่ยขัด “นายท่านหลิน คุณน้าพวกคุณเข้าใจผิดแล้วนะครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะคบกับหลินหว่านหรู” “คุณชายหลี่ว์ นี่คุณ…?” “ที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะว่านายท่านหลินเอาแต่รบเร้าให้ผมมาเจอเธอ ผมถึงได้มาแต่ไม่ได้คิดอะไรเลยแน่นอน” “เพราะว่าคนที่สวยจนโลกตะลึงอย่างคุณหลินถึงเหมาะกับคนที่หล่อเหลาอย่างคุณชายเย่” “ผมจะนับว่าเป็นอะไรได้ ถ้าเทียบกับเขาผมก็ไม่ต่างจากขยะ เป็นแค่คนไร้ค่าจะไปกล้าคิดอะไรแบบนั้นกับคุณหลินได้ยังไง” หลี่ว์เจิ้งแทบจะยกคำชมทั้งหมดออกมาพูดชมอีกฝ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 719

    “นี่…นี่” “ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้?” เพียงเท่านี้ทุกคนต่างก็พากันงงงวยไปตามๆกัน ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อสายตาของตัวเอง นี่มันเกินสิ่งที่พวกเขาจินตนาการไปมาก พ่อแม่ของเธอตาโตก่อนจะอ้าปากกว้างเหมือนอยากจะพูดแต่พูดไม่ออก ถึงแม้หลี่ว์เจิ้งจะรู้สึกอับอายมากๆ แต่เมื่อลอดตัวเสร็จก็ไม่กล้าออกไป ได้แต่มองหน้าเย่เทียนหยู่อยู่แบบนั้น “คะ…คุณเย่เชื่อผมแล้วใช่ไหม?” “อืม เชื่อแล้วล่ะ” “นายไสหัวไปได้แล้ว!” “ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ขอบคุณคุณเย่มากครับ” หลังพูดคำนี้จบหลี่ว์เจิ้งก็รีบออกไปจากห้องอาหารแล้วก็รีบจากไปในทันที เห็นได้ชัดว่าเขากลัวมากจริงๆ เขาไม่เคยมีครั้งไหนที่จะกลัวเท่าครั้งนี้เลย ต่อให้เป็นเมื่อวานก็ยังดีกว่าวันนี้ เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องที่ทำในวันนี้อาจจะทำให้เขาตายไปเลยก็ได้ เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นภรรยาของเขาเชียวนะ นี่มันผิดมากๆ ในตอนที่ออกจากตึกสี่ฤดู หลี่ว์เจิ้งก็รีบจากไป ในตอนนี้ก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคือหม่าเผิง เขาพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “คุณชายหลี่ว์ สวัสดีครับ!” เขาอุตส่าห์ได้ยินมาว่าอีกฝ่ายจะมาที่ตึกสี่ฤดูก็รีบมาดักทางไว้ “นายเป็นใคร?” ในใจของเขาเต็มไป

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 720

    “ได้เลยครับ!” “คือมันเป็นแบบนี้…” หม่าเผิงอธิบายว่าเย่เทียนหยู่เข้ามายึดตระกูลแล้วยังถือดีรังแกคนอื่นๆ อยากให้หลี่ว์เจิ้งช่วยเขาทวงคืนสมบัติของตระกูล หลี่ว์เจิ้งได้ฟังก็รีบพูด “มีคนแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย แต่ว่านะเขายึดเอาบริษัทในเครือของตระกูลหม่าไปจนหมด ถ้าจะให้ฉันช่วยทวงคืนกลับมา ให้แค่ร้อยล้านมันน้อยไปหรือเปล่า?” “งั้นคุณชายหลี่ว์อยากได้เท่าไหร่?” “อย่างน้อยก็สักพันล้าน!” หลี่ว์เจิ้งพูด ครั้งนี้เขาอับอายมากเกินไปถ้าก่อนกลับยังทำเงินได้สักร้อยล้าน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และยังมีเหตุผลไปอธิบายให้คุณปู่ฟังด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องที่เขาไปรุกล้ำราชามังกรก็มากพอให้เขาถูกปู่จัดการอย่างหนักหน่วงแล้ว อะไรนะ! พันล้าน! หม่าเผิงหน้าเปลี่ยนสี ให้เขาจ่ายพันล้านเพื่อที่จะได้หงหม่ากรุ๊ปกลับคืนมา นี่มันไม่คุ้มเอาซะเลย และเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นเขาก็ไม่มีด้วย แต่เขาคิดแล้วว่าถ้าเอาบริษัทกลับคืนมาได้ก็ค่อยหาทางขายทอดตลาด ต่อให้เขาจะขาดทุนหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าให้เย่เทียนหยู่ได้รับมันไปฟรีๆก็พอ เพราะอย่างนั้นหม่าเผิงจึงรีบพูด “ไม่มีปัญหา แต่ผมไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้

Latest chapter

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1243

    หลังจากที่คำพูดนั้นถูกพูดออกมา คนจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่างก็พากันตกตะลึงเจ้าตำหนักหยู่คนนี้ กล้ายอมรับคำท้าจริง ๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ?หรือพวกเขามองผิดกันไปเองจริง ๆ?เยว่เหลียนหานและคนในสำนักดอกไม้ต่างก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อสายตามากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลานี้ พวกเธอเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ไพ่ตายของมู่หรงอินไม่ใช่เย่เทียนหยู่แห่งพรรคมังการตั้งแต่แรกแล้ว แต่คือเจ้าตำหนักหยู่ผู้ลึกลับคนนี้ต่างหากอย่าว่าแต่พลังที่แท้จริงเป็นอย่างไรเลย แค่มีคนที่น่ากลัวอย่างหยางผั่วจวินเป็นลูกน้องก็เพียงพอแล้วยิ่งไปกว่านั้น เขายังกล้าตอบรับคำท้าจากประมุกสำนักเจวี๋ยฉิงอย่างเด็ดเดี่ยวอีกต่างหากในเวลานี้ เธอรู้สึกคาดหวังมากจริง ๆ คาดหวังว่าความสามารถของเจ้าตำหนักหยู่จะอยู่ในระดับไหนกันแน่แววตามู่หรงอินและจูเก่อหลิวหลีต่างก็ส่องประกายออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเธอคาดหวังให้เย่เทียนหยู่แสดงฝีมือมาโดยตลอดมีเพียงหยางผั่วจวินเท่านั้นที่สีหน้าดูหม่นหมอง เดิมทีนี่คือโอกาสที่เขาจะได้ต่อสู้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีอีกแล้ว เขาได้สูญเสียโอกาสประลองฝีมือไปแล้วอีกครั้งหนึ่งยังมีหลินเจวี๋ยอีกคนที่สีหน้าดูซีดเซียว แต่พอเห็

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1242

    พวกเขาต่างเข้าใจตรงกันว่าคนผู้นี้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเย่เทียนหยู่ แต่กลับไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะน่ากลัวขนาดนี้ ดูจากความน่าเกรงขามแล้ว เกรงว่าคงไม่ได้ด้อยไปกว่าเจวี๋ยเทียนเลยด้วยซ้ำซึ่งนี่มันก็ทำให้ความหวังของทูตใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเยว่เหลียนหานเองก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นหยางผั่วจวินแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของเขาออกมา เพราะนั่นหมายความว่า พวกเธอยังไม่ได้หมดหวังไปเลยเสียทีเดียวสีหน้าของเจวี๋ยเทียนดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ พลังความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินคนนี้เกินกว่าที่ตนคาดการเอาไว้มาก เมื่อเทียบกับตนแล้ว เกรงว่าคงทำไม่ได้มากขนาดนี้แน่หยางผั่วจวินยังคงยืนอยู่กับที่ ราวกับว่าเขาคือเทพสงคราม ออร่าบนตัวเขาพุ่งพล่านออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชาออกไปว่า “วันนี้ ใครกล้าแตะต้องเจ้านายของฉัน ฉันก็จะเอาชีวิตคนผู้นั้นซะ!”สีหน้าเจวี๋ยเทียนและคนอื่น ๆ ดูแย่มาก จากนั้นเขาจึงพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ประมุกหยาง ทั้งที่คุณแข็งแกร่งมากขนาดนี้ เหตุใดต้องยกสวะคนอย่างเขาเป็นนายด้วย คุณช่วยบอกผมหน่อยสิ ว่าเขาใช้กลอุบายข่มขู่คุณอย่างไร ผมจะช่วยคุณจัดการเอง”“ไร้สมอง!”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1241

    ปฏิกิริยาของทุกคนตอบสนองขึ้นพร้อมกัน และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเย่เทียนหยู่เจ้าตำหนักหยู่คนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้านายของประมุกหยาง ทำไมถึงรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลกันเลยล่ะ ดูปลอมเกินไปรึเปล่าเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินมาแล้ว เกรงว่าคงไม่ได้ด้วยไปกว่าตนเลย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงแข็งแกร่งกว่าเจ้าตำหนักหยู่แน่นอนแต่ที่คาดไม่ถึงเลยก็คือ เขาจะเป็นลูกน้องของเจ้าตำหนักหยู่ได้ ทั้งยังเคารพเจ้าตำหนักหยู่มากอีกด้วย นี่กำลังเข้าใจอะไรผิดไปอยู่รึเปล่านะ?ยิ่งไปกว่านั้น ประมุกมู่หรงเองก็เป็นคนพูดเอง ว่าพวกเธอและประมุกราชาปีศาจได้ทำการร่วมมือกับตำหนักซิวหลัวเรียบร้อยแล้ว หรือพวกเขาต้องการที่จะช่วยให้เจ้าตำหนักหยู่ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำจริง ๆ?อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หลินเจวี๋ยเองก็สับสนเช่นกัน เขาเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งมาแล้ว เขาไม่สามารถคาดเดาหยางผั่วจวินคนนี้ได้เลยจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งกว่าตนแน่นอนหลังจากที่เจวี๋ยเทียนถูกด่า สีหน้าก็ดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1240

    “ใช่!”ครั้งนี้ มู่หรงอินพยักหน้าโดยที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เรื่องเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เดี๋ยวนะ หรือว่ามู่หรงอินไม่คิดที่จะให้เย่เทียนหยู่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้เธอเลือกคนใหม่แล้วงั้นเหรอและคนที่เธอเลือกก็คือเจ้าตำหนักหยู่!แต่คำถามก็คือ เจ้าตำหนักหยู่เป็นแค่ปรมาจารย์ขั้นสุดท้าย เขาจะทำอะไรได้ ใช้เขาเป็นโล่กำบังให้ตัวเองอย่างนั้นเหรอ?“ประมุกเยว่ คุณล่ะ คุณเองก็สนับสนุนเจ้าตำหนักหยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?” เจวี๋ยเทียนค่อย ๆ ไล่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปเรื่อย ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ราวกับว่าถ้าเธอยอมรับ อนาคตเธอก็จะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นสีหน้าของเยว่เหลียนหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้สึกลังเล ก่อนจะเหลือบมองไปที่มู่หรงอินมู่หรงอินไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้นนี่เป็นการส่งสัญญาณว่า เยว่เหลียนหานควรเลือกสนับสนุนเจ้าตำหนักซิวหลัวเจวี๋ยเทียนเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน จิตสังหารฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ประมุกเยว่ ทางที่ดีคุณก็ลองพิจารณาดูให้ดีก่อนเถอะ โดยเฉพาะ ตัวของคุณตอน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1239

    หลังจากที่พูดจจบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่สายตาของทุกคนจะจ้องมองไปทางเขาเจ้าตำหนักคนนี้พูดพล่ามอะไรอยู่ เขามาเพื่อเป็นผู้นำสำนักงั้นเหรอ?นี่มันไร้สาระสิ้นดี!หลินเจวี๋ยรู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก เมื่อเขาได้ยินคำพูดที่เจ้าตำหนักพูดกับเจวี๋ยเทียน เขาก็คิดแล้วว่า ทุกอย่างคงจบสิ้นแล้วจริง ๆ จบเห่แล้วแน่ ๆ เจ้าตำหนักอย่าได้พูดเหลวไหลอีกเลยนะกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คำพูดต่อมาของเจ้าตำหนักจะบ้าบิ่นมากขึ้นกว่าเดิม เขากล้าพูดว่าตนจะขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสำนักจริง ๆ นี่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยรวมถึงสำนักเจวี๋ยงฉิงเองก็ด้วยราชาสวรรค์ทั้งสองที่มากับหลินเจวี๋ยเองก็สับสนด้วยเช่นกัน นี่ใช่เจ้าตำหนักของพวกเขาจริง ๆ น่ะเหรอ นี่เขากำลังรนหาที่ตายชัด ๆเมื่อเห็นสายตาอันน่าสะพรึงกลัวของทุกคนที่มองมา ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลแผ่ซ่านออกมาพวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น!วันนี้ เกรงว่าคงได้ตายจริง ๆ แน่!เยว่เหลียนหานและคนอื่น ๆ จากสำนักดอกไม้เองก็รู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกัน บุตรแห่งสวรรค์ผู้ที่มู่หรงอินภาคภูมิใจยังไม่ทันได้ปรากฏตัว ก็กลับมีเจ้าตำหนักที่ไม่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1238

    “เพราะเหตุนี้ ผมจึงได้เชิญทุกท่านมาที่นี่ในวันนี้ เพื่อจัดการประชุมศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้น!”คำพูดง่าย ๆ เหล่านี้ นับว่าเป็นการอธิบายเรื่องทั้งหมดได้อย่างคร่าว ๆ เจวี๋ยเทียนยิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “นอกจากนี้ ทุกท่านสบายใจได้ ที่ผมเชิญทุกท่านมา ไม่ใช่เพื่อให้ทุกท่านมาก้มหัวเคารพผมโดยตรง”“แต่เราจะเลือกผู้ที่มีความสามารถสูงสุดในหมู่พวกเรา เพื่อขึ้นเป็นผู้ชี้นำทุกคนให้ก้าวไปข้างหน้าต่างหาก นั่นหมายความว่า ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมและโอกาสที่เท่าเทียมกัน”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ เยว่เหลียนหานกลับแอบส่ายหัวเบา ๆ การแข่งขันที่ยุติธรรมอะไรกัน ทุกคนต่างก็มีโอกาสเท่ากันงั้นเหรอ พวกเขามีโอกาสที่ไหนกันถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือเจวี๋ยเทียนเชื่อมั่นในพลังของตัวเองอย่างมาก ว่าจะไม่มีใครที่สามารถหยุดเขาจากการขึ้นเป็นผู้นำของสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้สิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรม ก็แค่การที่ปล่อยให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อให้ถูกโจมตีเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้นทุก ๆ คนต่างก็มีความคิดที่คล้าย ๆ กัน แต่อีกฝ่ายก็มีความแข็งแกร่งมากจริง ๆ พวกเขาแทบไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำการประชุมในวันนี้ หากพวกเขาไม่มาก็ต้องตายสถานเดียว แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1237

    “ฮ่า ๆ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะ พอดีเมื่อกี้มีธุระนิดหน่อย เลยทำให้มาช้า”ทั้งสองคนแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อย ทั้งดูดีและมีเกียรติมากโดยเฉพาะเจวี๋ยเทียน เขาสวมชุดสีม่วง ท่าเดินก็ดูองอาจ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยรัศมีแห่งความยิ่งใหญ่และความสง่างามเครื่องแต่งกายของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดที่มู่หรงชิงเคยสวมใส่ในตอนนั้น ซึ่งทำให้สีหน้าของมู่หรงอินดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เมื่อเห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของหยางผั่วจวินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังพวกเขาในทันที และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อร่องรอยที่เจวี๋ยเทียนเคยทิ้งเอาไว้ในตอนที่เขาไปเยือนสำนักราชาผี ซึ่งนั่นก็ทำให้หยางผั่วจวินตกตะลึงอย่างมากหยางผั่วจวินเองก็สัมผัสได้ ไม่ว่ายังไงตนในตอนนั้นก็ไม่มีทางสู้อีกฝ่ายได้แต่ก่อนที่จะมาที่นี่ หลังจากที่เย่เทียนหยู่ใช้ของวิเศษของพรรคมารช่วยให้เขาพัฒนาตนเอง เขาก็สามารถทะลุจนเลื่อนขั้นสู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แล้ว แถมยังทะลุไปถึงคอขวด จนเกือบจะถึงจุดที่สามารถเลื่อนขั้นได้แล้วด้วยซ้ำตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขา นับว่าอยู่ในจุดที่ไม่ธรรมดาแล้วดังนั้น เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นคู่ต่อสู้ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1236

    เขาไม่อาจเรียกเธอว่านายน้อยได้ แต่ให้เรียกว่าคุณหนูก็ถือยังทำได้อยู่อีกสองคนยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กลับยืนนิ่ว และกว่าวทักทายออกมาว่า “คารวะคุณหนู!”มู่หรงอินขมวดคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเมินเฉยว่า “เหอะ ในสายตาของพวกท่านยังเห็นข้าเป็นคุณหนูอยู่ด้วยงั้นเหรอ?”เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็มืดมนลงเล็กน้อย โดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เขาพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “มู่หรงอิน การที่พวกเรายอมเรียกเธอว่าคุณหนู ก็เพื่อเป็นการไว้หน้าผู้นำคนเก่า อย่าได้เหลิงไปหน่อยเลย!”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอินก็กลับไม่ได้โกรธอะไร กลับกัน สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับดูเย็นชาขึ้นมา จิตสังหารที่เย็นยะเยือกก็เกือบจะเผลอทะลักออกมา หากยังต้องทนฟังคำพูดของตู๋เปียนฝูต่อไป มู่หรงอินเกรงว่าเย่เทียนหยู่อาจจะเผลอทำอะไรที่หุนหันพันแล่นออกไปได้ เธอจึงรีบส่งสัญญาณด้วยสายตาเพื่อหยุดเขาในทันที เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมาเมื่อเห็นสายตาแจ้งเตือนให้ยั้งมือของแม่ เย่เทียนหยู่ก็รีบระงับพลังเอาไว้ทันที ทันใดนั้นจิตสังหารก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพลังที่เขาใช้ปกปิดนั้นค่อ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1235

    “ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก หากตอนนั้นพวกเราทั้งสี่คนร่วมมือกัน พวกเราคงครอบครองโลกใบนี้ไปแล้ว ใครกันจะกล้าขวาง!”ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ใบหน้าดูเศร้าหมอง ริมฝีปากเรียวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้น“ตู๋เปียนฝู?”ในใจทูตใหญ่รู้สึกตกตะลึง“ยังมีข้าอีกคน บรรพจารย์หวงเฉวียน!”หลังจากที่ทั้งสี่ก้าวออกมาพูด สีหน้าของทูตใหญ่ก็ดูไม่ค่อนสู้ดีมากนัก สมญานามของพวกเขาในปีนั้นคือสี่ทูตใหญ่แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังมากการดำรงอยู่ของอำนาจพวกเขาเป็นรองก็แค่ผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้นำสำนักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำคิดไม่ถึงเลยว่าอีกสามคนที่เหลือจะอยู่ที่นี่กันหมด และดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว เหมือนว่าพลังจะมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนต่างก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดกันทั้งนั้นในกรณีนี้ แทบจะเท่ากับว่าผู้นำของนิกายจืดจางคือผู้นำที่แท้จริงของนิกายศักดิ์สิทธิ์แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะเท่ากับว่าตำแหน่งผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์จะต้องตกเป็นของผู้นำสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นเมื่อสองพี่น้อง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status