“เย่เทียนหยู่ แกมาที่นี่ทำไมกัน!”“วันนี้คือวันดีของพวกเราตระกูลหลิน แกรับไสหัวออกไปซะ ไม่อย่างนั้น ถ้าหากทำลายเรื่องดีของตระกูลหลิน ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่”แม่หลินกล่าวด้วยความโกรธสุดขีดให้ตายสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคนที่ตัวเองเตรียมไว้กัน ไม่ใช่ว่าให้พวกเขาจัดการเย่เทียนหยู่หรอกเหรอ ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ด้วยสภาพสมบูรณ์ล่ะอันที่จริงแล้วเธอเตรียมคนไว้เพื่อสอนบทเรียนหกับเย่เทียนหยู่ แต่เพราะว่าเวลากระชั้นชิดเกินไป นอกจากนี้เพราะเดิมทีเมื่อวานเย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไป แต่ไหนแต่ไรก็หาคนไม่เจอเลย“วันดีงั้นเหรอ?”“ถ้าหากว่าฉันพูดไม่ผิด ตอนนี้หว่านหรูยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันอยู่ พวกคุณให้เธอแต่งงานกับคนอื่น ฉันจะไม่มาดูได้ยังไงกันล่ะ?เย่เทียนหยู่ย้อนถาม“ไร้สาระสิ้นดี!”“แกกับหว่านหรูหย่ากันไปตั้งนานแล้ว!”“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าแกไม่มีที่ไป แกคงได้รับใบหย่าตั้งนานแล้ว”แม่หลิวก็พูดด้วยความโกรธ “ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ แกก็ลองถามหว่านหรูตอนนี้ดูสิ ถามเธอว่าเตรียมที่จะหย่ากับแกมานานหรือยังน่ะ”เย่เทียนหยู่ไม่ปฏิเสธที่แม่หลิวพูดแต่อย่างใด และมองไปที่หลินหว่
สีหน้าของซูถิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทำไมจู่ๆ เย่เทียนหยู่ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะผู้อาวุโสหลินและก็อื่นๆ คิดไม่ได้อะไรมาก แต่หลินหว่านหรูตกใจเล็กน้อย ขอทานตัวน้อยในตอนนั้นเหรอ?หมายความว่ายังไง ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงรู้เรื่องขอทานตัวน้อยได้ล่ะ?หรือแค่เรื่องบังเอิญ คงไม่ใช่ว่าจะเป็นขอทานตัวน้อยเมื่อสมัยเด็กอย่างที่ตัวเธอคิดหรอกนะ ไม่ใช่หรอก แล้วเขาพูดเรื่องนี้กับกงซุนจื้อหมายความว่ายังไงกัน คงไม่ได้กำลังจะบอกว่ากงซุนจื้อไม่ใช่ขอทานตัวน้อยหรอกนะกงซุนจื้อตื่นตระหนกมาก แต่ก็แสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วพูดว่า “เย่เทียนหยู่ นี่แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน ฉันจะบอกแกไว้นะ เรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวกับแก เชิญออกไปซะ ”“ถูกต้อง เย่เทียนหยู่ ฉันขอให้แกรีบไสหัวไปซะ ตระกูลหลินของพวกเราไม่ต้อนรับแก!”แม่หลินเองก็รีบพูดในทันที“ช้าก่อน!”แต่หลินหว่านหรูให้การปฏิเสธ จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูด “เทียนหยู่ ที่นายพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง?”“ยังจะหมายความว่าอะไรได้อีกล่ะ คงอยากจะปั่นประสาทเธออยู่แน่นอนเลย หว่านหรู ผู้ชายไร้สาระพันนี้เธอจะไปสนใจเขาทำไมกัน” ซูถิงเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดเช่นกัน“ทำไม แต่ละคนถึง
“ไม่ใช่นะ นี่มันโกหก หว่านหรู ทั้งหมดนี่มันเป็นเรื่องโกหก เป็นเพราะเย่เทียนหยู่ทนไม่ไหวที่จะจากเธอไปเลยทำอย่างนี้ เธออย่าเชื่อนะ” ซูถิงรู้สึกกังวล“งั้นเหรอ?” หลินหว่านหรูตะโกนด้วยความเย็นชา แล้วหันไปมองที่กงซุนจื้อแล้วถามด้วยความเย็นชาเช่นกัน “คุณชายกงซุน ไหนคุณบอกฉันสิ ว่านี่มันจริงหรือเปล่า?”“นี่......”กงซุนจื้อรู้ดี เพราะคลิปเสียงง่ายต่อการตรวจสอบว่าจริงหรือปลอม จึงทำได้เพียงตอบแต่โดยดีว่า “นี่ นี่คือความจริง”“อะไรนะ คุณชายกงซุน คุณ......” ซูถิงสีหน้าดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม ทั้งอับอายแล้วก็ร้อนรน“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ใช่แล้ว ซูถิงช่วยเหลือฉันจริง แม้กระทั่งคิดแผนการให้ฉันด้วย ฉันเองก็มีส่วนร่วมเช่นกัน”“แต่นั่นก็เพราะเธอเอาใจใส่คุณ เธอห่วงใยคุณ เธอไม่อยากจะให้คุณต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของไอ้ผู้ชายสารเลวคนหนึ่งเท่านั้นเอง”ซูถิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา แล้วแอบยกย่องในความฉลาดของตุณชายกงซุน เหมือนว่าคุณชายกงซุนจะยังไม่ทอดทิ้งตัวเธอนะ เมื่อก็เธอเกือบจะแฉเรื่องที่คุณชายกงซุนอ้างว่าเป็นขอทานตัวน้อยเพราะความโกรธเสียแล้ว“สำหรับตัวฉันเอง ม
ด้วยท่าทางของเขา เสียงของการสนทนากันระหว่างซูถิงและกงซุนจื้อก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเพียงแต่ คราวนี้มีวิดีโอประกอบด้วย“ซูถิง ที่นั่นหลินหว่านหรูเป็นยังไงบ้าง?”“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเลย ฉันยังต้องคิดให้รอบคอบอีกหน่อย ว่าตอนกลับไปจะหลอกหลินหว่านหรูยังไงดี”จากที่คลิปเสียงถูกปล่อยออกมาซูถิงก็พูดพึมพำอยู่กับตัวเอง“หลินหว่านหรู เธอโหดร้ายกับฉันตั้งขนาดนั้น แต่คงนึกไม่ถึงสินะ ว่าวันหนึ่ง จะกลายมาเป็นของเล่นในกำมือฉันแบบนี้น่ะ”“ยังมีขอทานตัวน้อยอีก นึกไม่ถึงว่าเธอจะคิดว่ากงซุนจื้อเป็นขอทานตัวน้อยในตอนนั้นจริงๆ นี่ทำฉันหัวเราะแทบบ้าไปแล้วเนี่ย”“......”ยิ่งหลินหว่านหรูได้ฟังมากเท่าไหร่สีหน้าของเธอก็รังเกลียดมากขึ้นเท่านั้น แม้กระทั่งหยิบโทรศัพท์ของเย่เทียนหยู่ขึ้นมา เพื่อดูด้วยตัวเอง เพราะว่าวิดีโอที่อยู่บนนั้น มันก็ชัดเจนมากในตอนนี้ ซูถิงถึงกับทรุดลงไปกับพื้นเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้แก้ตัวเลยหน้าไม่อาย!หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!หลินหว่านหรูโกรธจนสั่นไปทั้งตัวเธอไม่เคยคิดมาก่อน นึกไม่ถึงว่าจะใช้ประโยชน์จากความลับของเธอสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ นี่เป็นความ
ใช่แล้ว เรื่องที่หล่อนทำมันทำให้ตัวเธอโกรธมากจริงๆ เพราะว่า นึกไม่ถึงว่าหล่อนจะใช้ประโยชน์จากความทรงจำในวัยเด็กของตัวเธอแต่ว่า แรงจูงใจที่เธอทำนั้นมันก็เพื่อตัวเธอเองไม่ว่าจะยังไง เพื่อนสนิทแบบนี้ เธอจะไม่มีทางลืมอย่างเด็ดขาด แล้วพูดเบาๆ ว่า “ซูถิง เรื่องที่เกิดในอดีตฉันจะไม่สืบหามันอีกต่อไป แล้วก็จะปล่อยเธอไป”“เพียงแต่ ตั้งแต่วันนี้เป็นตนไป พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”“ตอนนี้ เธอไสหัวไปจากตระกูลหลินได้แล้ว”ซูถิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แรกเริ่มเดิมทีคิดว่าจากไปอย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้มองดูหลินหว่านหรูก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะเชื่อที่ทุกคนพูด คิดว่าตัวเองทำไปก็เพื่อเธอเธอพูดในทันที่ “หว่านหรู ฉันเข้าใจว่าเธอโกรธมาก แล้วก็เกลียดฉันมากเช่นกัน ตอนนี้ไม่อยากเห็นฉันแล้ว ฉันก็จะไป จะไปในทันทีเลย”“เพียงแต่ ภายในใจของฉัน เธอจะยังคงเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของฉันเสมอ ฉันไปล่ะ หวังว่าเธอจะเจอคนที่รู้จักอย่างแท้จริงนะ”หลังจากพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ขอแค่ทิ้งปมไว้แบบนี้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าในอนาคตจะกลับมาอยู่ข้างๆ หลินหว่านหรูไม่ได้ แล้วก็ได้รับผลประโยชน์ที่ตัวเอ
ซูถึงได้ยินการสนทนาในส่วนนี้เข้า ก็สะดุดอย่างช่วยไม่ได้ แล้วล้มลงไปกับพื้นเธอนึกไม่ถึงเช่นกัน ว่าส่วนนี้เย่เทียนหยู่ก็บันทึกไว้เช่นกันถ้าจะให้พูด ครั้งนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญทั้งหมดเลย เดิมทีเย่เทียนหยู่ไม่ตั้งใจที่จะบันทึกเลย เพียงแต่มันเป็นความบังเอิญที่เขาดันบันทึกไว้เท่านั้นเองตอนนั้นยังไม่ได้ลบทิ้งไป ภายหลังก็เลยถูกเก็บไว้ในนั้น เมื่อวานได้เจอกับเรื่องที่ซูถิงได้ทำไว้ ก็เลยเตรียมไว้เสียหน่อยแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ได้คิดที่จะเปิดให้ทุกคนได้ฟังโทษก็โทษเถอะ แต่ซูถิงล้ำเส้นเกินไปแล้วซูถิงอับอายขายหน้า ทนไม่ได้จนอยากจะหาหลุมสักที่บนพื้นแล้วมุดเข้าไปเสียมองดูทุกคนแล้วดูด้วยท่าทางแปลกๆ เดิมทีคงจะอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ก็เลยวิ่งหนีออกไปราวกับบ้าไปแล้ว นั่นเพราะว่าเธอรู้สึกขายขี้หน้ามากจริงๆในขณะนี้ หลินหว่านหรูก็ได้สติกลับมาจากความเฉื่อยชาเสียทีนึกไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้!แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าซูถิงจะชอบเย่เทียนหยู่ได้ยังไง แต่ตัวเธอเองก็เคยเกลียดเย่เทียนหยู่มาก่อนจนกลายมาเป็นชอบ แล้วทำไมซูถิงจะทำไม่ได้เพียงแต่เรื่องพวกนี้ที่เธอทำ มันช่างสกปรกเกินไปแล้ว น่ารั
ได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสหลินก็ถึงกับหน้าถอดสี แล้วพูดอย่างร้อนรน “คุณชายกงซุน คุณอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ตอนนี้หว่านหรูกำลังโกรธอยู่ รอเธอเย็นลงสักนิด พวกเราค่อยมาหารือเรื่องการหมั้นกันต่อ”“เหอะ งั้นฉันจะให้เวลาพวกคุณพิจารณาอีกหนึ่งวัน หลังจากหนึ่งวันแล้ว ถ้ายังไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจกับฉันได้ งั้นฉันก็จะทำลายตระกูลหลินทิ้งซะ”กงซุนจื้อพูดอย่างไร้เหตุผลเมื่อทุกคนในตระกูลหลินได้ยินดังนั้น แต่ละคนก็สีหน้าแตกตื่นยกใหญ่ แม้กระทั่งหลินหว่านหรูเองก็ด้วยแม่ว่าเธอจะโกรธมาก แต่ก็รู้ดีว่าตระกูลกงซุนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเธอไม่อยากลากตระกูลหลินเข้ามาเกี่ยวด้วยสีหน้าของผู้อาวุโสหลินดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม เขาสร้างอุตสาหกรรมของตระกูลหลินมาเองกับมือ ไม่อยากจะให้มันต้องถูกทำลายลง ยิ่งไม่ต้องบอกเลย หลังจากที่ตระกลูหลินถูกทำลายแล้ว ตระกูลหลินอย่างพวกเขาถ้าเกิดอะไรขึ้นเกรงว่าคงจะไม่มีที่ไปแล้วล่ะแต่มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นที่ท่างทางดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดเยาะเย้ย “กงซุนจื้อ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกันน่ะ คิดอยากทำลายใครก็ทำได้งั้นเหรอ ไม่ลองชั่งน้ำหนักดูบ้างหรือไงว่าตัวเองมี
“แกไม่สนใจเหรอ?”“เย่เทียนหยู่ นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร สมองน้ำเข้ารึไงถึงกล้าไม่สนใจตระกูลกงซุน?”“ทำไม หรือแกยังคิดจะอาศัยความดีความชอบที่ช่วยเหลือลูกสาวประธานหยางไปขอให้ประธานหยางช่วยแกอีก? ไม่เห็นเหรอว่าประธานหยางไม่มีทางช่วยแก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้ลูกสาวไปแต่งงานกับคนอื่นหรอก”“อีกอย่างนะ ต่อให้ประธานหยางยอมช่วย เกรงว่าก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี หรือดีไม่ดีพอรู้ว่าแกไปหาเรื่องตระกูลกงซุนหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมือง เขาอาจจะไปร่วมด้วยช่วยกันจัดการแกก็ได้”คุณแม่ตระกูลหลินพ่นคำพูดมากมายใส่เขาจนน้ำลายกระเด็นไปทั่วทุกทิศคุณปู่หลินเองก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เย่เทียนหยู่ เรื่องมาถึงตรงนี้แล้วไม่ใช่เวลาให้มาคุยโวโอ้อวดแล้วนะ ตระกูลกงซุนไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างแกจะต้านได้หรอกนะ”“วิธีการที่ถูกต้องที่สุดสำหรับแกตอนนี้คือตามหากงซุนจื้อ คุกเข่าลงและขอโทษเขาซะ ขอร้องให้เขาไว้ชีวิตแกสักครั้ง ไม่อย่างนั้นแกตายแน่”“อย่าหวังว่าจะโชคดีหนีไปได้เหมือนคราวที่แล้วนะ คราวที่แล้วเป็นเพราะตระกูลซาโหดเหี้ยมมาก เดิมทีก็มีเรื่องไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นแกเหรอจะโชคดีได้ขนาดนั้น”“ตระกูลก
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก