พ่อหลินแม่หลินรู้สึกมีความสุขมาก ที่สุดท้ายลูกสาวก็จะได้โบยบินไปอยู่บนยอดไม้ราวกับนกเฟิ่งหวง และพวกเขาทั้งสองคนก็จะได้กลายเป็นมหาเศรษฐีจริงๆ เสียทีแม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของพวกเขาจะมีเงินอยู่ก็จริง แต่ยังห่างไกลจากความร่ำรวยอยู่มากเลยทีเดียวในไม่ช้าก็ถึงเก้าโมงเช้าแล้ว กงซุนจื้อก็ปรากฏตัวเช่นกันแต่ปกติแล้ว ผู้นำของตระกูลกงซุนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะต้องปรากฏตัวออกมาด้วย แต่ครั้งนี้มีแค่กงซุนจื้อคนเดียวที่เป็นคนนำ ส่วนคนอื่นต่างก็เป็นผู้ตามแต่เรื่องนี้ผู้อาวุโสหลินรู้มาตั้งนานแล้ว แล้วบอกว่าเรื่องพิเศษก็ต้องใช้วิธีพิเศษ ดังนั้นอย่าได้ไปถือสาเลย“คุณปู่หลิน!”ถึงตอนนี้ก็ยังไม่สำเร็จ แต่กงซุนจื้อก็ยังตะโกนต่อไปด้วยความกระตือรือร้น แถมยังสุภาพกับพ่อหลิวแม่หลิวมาก เอ่ยปากเรียนคุณลุงคุณป้าตลอดนอกจากนี้ยังสง่าผ่าเผย และกริยาท่าทางงดงาม ไม่นานก็ได้รับการชื่นชมจากตระกูลหลินในทันทีเพียงแต่กงซุนจื้อมองไปรอบๆ และมองไม่เห็นหลินหว่านหรูผู้อาวุโสหลินสังเกตเห็นว่าเขากำลังมองอยู่ จึงได้รีบพูด “คุณชสยกงซุน วางใจเถอะ หว่านหรูตอบรับแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”“จริงเหรอครับ งั้นก็ดีมากเลย
“หว่านหรู เธออาจจะยังไม่รู้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับเธอ ฉันรู้สึกว่าตัวเองใจเต้นมาก”“ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกคับแค้นของตัวเองเลยด้วยซ้ำ ว่าตัวเองไม่อยากตามหาเสี่ยวเถียนเถียนกลับมาเลยใช่ไหม เพราะอะไรถึงได้ใจเต้นกับเธอขนาดนี้!”กงซุนจื้อกล่าวด้วยความกระสันด้วยคำพูดนี้ ผู้อาวุโสหลินและคนอื่นๆ ต่างก็พากันตกตะลึง แม้ว่าจะรู้สึกประทับใจต่อความชอบของกงซุนจื้อที่มีให้หลินหว่านหรูก็จริงอยู่ แต่เสี่ยวเถียนเถียนคือใครกันน่ะได้ยินสิ่งที่กงซุนจื้อพูด ในใจของหลินหว่านหรูก็นึกไปยังภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นอีกครั้ง แต่ไม่รู้เพราะอะไร เธอนึกภาพหน้าของกงซุนจื้อที่อยู่ด้วยกันไม่ได้เลยไม่ว่าจะนิสัยหรือรูปร่าง หรือแม้แต่สัมผัสก็ยังบอกไม่ได้ในทางกลับกันเย่เทียนหยู่นั้น ยังทำให้รู้สึกแบบนั้นได้เป็นครั้งคราว“คุณปู่หลิน พวกคุณอาจจะยังสงสัยว่าเสี่ยวเถียนเถียนคือใคร อันที่จริง เขาก็คือหว่านหรู พวกเราเคยพบกันครั้งหนึ่งตอนยังเป็นเด็ก แล้วเคยสัญญากันว่าพอโตขึ้นจะอยู่ด้วยกันน่ะครับ”“เมื่อโตแล้ว ผมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตามหาความเป็นได้ จนกระทั่งได้พบกับหว่านหรู ผมก็พบว่าผมหวั่นไหว แล้วก็มารู้ในภายหลัง ปราก
“เย่เทียนหยู่ แกมาที่นี่ทำไมกัน!”“วันนี้คือวันดีของพวกเราตระกูลหลิน แกรับไสหัวออกไปซะ ไม่อย่างนั้น ถ้าหากทำลายเรื่องดีของตระกูลหลิน ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่”แม่หลินกล่าวด้วยความโกรธสุดขีดให้ตายสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคนที่ตัวเองเตรียมไว้กัน ไม่ใช่ว่าให้พวกเขาจัดการเย่เทียนหยู่หรอกเหรอ ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ด้วยสภาพสมบูรณ์ล่ะอันที่จริงแล้วเธอเตรียมคนไว้เพื่อสอนบทเรียนหกับเย่เทียนหยู่ แต่เพราะว่าเวลากระชั้นชิดเกินไป นอกจากนี้เพราะเดิมทีเมื่อวานเย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไป แต่ไหนแต่ไรก็หาคนไม่เจอเลย“วันดีงั้นเหรอ?”“ถ้าหากว่าฉันพูดไม่ผิด ตอนนี้หว่านหรูยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันอยู่ พวกคุณให้เธอแต่งงานกับคนอื่น ฉันจะไม่มาดูได้ยังไงกันล่ะ?เย่เทียนหยู่ย้อนถาม“ไร้สาระสิ้นดี!”“แกกับหว่านหรูหย่ากันไปตั้งนานแล้ว!”“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าแกไม่มีที่ไป แกคงได้รับใบหย่าตั้งนานแล้ว”แม่หลิวก็พูดด้วยความโกรธ “ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ แกก็ลองถามหว่านหรูตอนนี้ดูสิ ถามเธอว่าเตรียมที่จะหย่ากับแกมานานหรือยังน่ะ”เย่เทียนหยู่ไม่ปฏิเสธที่แม่หลิวพูดแต่อย่างใด และมองไปที่หลินหว่
สีหน้าของซูถิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทำไมจู่ๆ เย่เทียนหยู่ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะผู้อาวุโสหลินและก็อื่นๆ คิดไม่ได้อะไรมาก แต่หลินหว่านหรูตกใจเล็กน้อย ขอทานตัวน้อยในตอนนั้นเหรอ?หมายความว่ายังไง ทำไมเย่เทียนหยู่ถึงรู้เรื่องขอทานตัวน้อยได้ล่ะ?หรือแค่เรื่องบังเอิญ คงไม่ใช่ว่าจะเป็นขอทานตัวน้อยเมื่อสมัยเด็กอย่างที่ตัวเธอคิดหรอกนะ ไม่ใช่หรอก แล้วเขาพูดเรื่องนี้กับกงซุนจื้อหมายความว่ายังไงกัน คงไม่ได้กำลังจะบอกว่ากงซุนจื้อไม่ใช่ขอทานตัวน้อยหรอกนะกงซุนจื้อตื่นตระหนกมาก แต่ก็แสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วพูดว่า “เย่เทียนหยู่ นี่แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน ฉันจะบอกแกไว้นะ เรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวกับแก เชิญออกไปซะ ”“ถูกต้อง เย่เทียนหยู่ ฉันขอให้แกรีบไสหัวไปซะ ตระกูลหลินของพวกเราไม่ต้อนรับแก!”แม่หลินเองก็รีบพูดในทันที“ช้าก่อน!”แต่หลินหว่านหรูให้การปฏิเสธ จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูด “เทียนหยู่ ที่นายพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง?”“ยังจะหมายความว่าอะไรได้อีกล่ะ คงอยากจะปั่นประสาทเธออยู่แน่นอนเลย หว่านหรู ผู้ชายไร้สาระพันนี้เธอจะไปสนใจเขาทำไมกัน” ซูถิงเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดเช่นกัน“ทำไม แต่ละคนถึง
“ไม่ใช่นะ นี่มันโกหก หว่านหรู ทั้งหมดนี่มันเป็นเรื่องโกหก เป็นเพราะเย่เทียนหยู่ทนไม่ไหวที่จะจากเธอไปเลยทำอย่างนี้ เธออย่าเชื่อนะ” ซูถิงรู้สึกกังวล“งั้นเหรอ?” หลินหว่านหรูตะโกนด้วยความเย็นชา แล้วหันไปมองที่กงซุนจื้อแล้วถามด้วยความเย็นชาเช่นกัน “คุณชายกงซุน ไหนคุณบอกฉันสิ ว่านี่มันจริงหรือเปล่า?”“นี่......”กงซุนจื้อรู้ดี เพราะคลิปเสียงง่ายต่อการตรวจสอบว่าจริงหรือปลอม จึงทำได้เพียงตอบแต่โดยดีว่า “นี่ นี่คือความจริง”“อะไรนะ คุณชายกงซุน คุณ......” ซูถิงสีหน้าดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม ทั้งอับอายแล้วก็ร้อนรน“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ใช่แล้ว ซูถิงช่วยเหลือฉันจริง แม้กระทั่งคิดแผนการให้ฉันด้วย ฉันเองก็มีส่วนร่วมเช่นกัน”“แต่นั่นก็เพราะเธอเอาใจใส่คุณ เธอห่วงใยคุณ เธอไม่อยากจะให้คุณต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของไอ้ผู้ชายสารเลวคนหนึ่งเท่านั้นเอง”ซูถิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา แล้วแอบยกย่องในความฉลาดของตุณชายกงซุน เหมือนว่าคุณชายกงซุนจะยังไม่ทอดทิ้งตัวเธอนะ เมื่อก็เธอเกือบจะแฉเรื่องที่คุณชายกงซุนอ้างว่าเป็นขอทานตัวน้อยเพราะความโกรธเสียแล้ว“สำหรับตัวฉันเอง ม
ด้วยท่าทางของเขา เสียงของการสนทนากันระหว่างซูถิงและกงซุนจื้อก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเพียงแต่ คราวนี้มีวิดีโอประกอบด้วย“ซูถิง ที่นั่นหลินหว่านหรูเป็นยังไงบ้าง?”“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเลย ฉันยังต้องคิดให้รอบคอบอีกหน่อย ว่าตอนกลับไปจะหลอกหลินหว่านหรูยังไงดี”จากที่คลิปเสียงถูกปล่อยออกมาซูถิงก็พูดพึมพำอยู่กับตัวเอง“หลินหว่านหรู เธอโหดร้ายกับฉันตั้งขนาดนั้น แต่คงนึกไม่ถึงสินะ ว่าวันหนึ่ง จะกลายมาเป็นของเล่นในกำมือฉันแบบนี้น่ะ”“ยังมีขอทานตัวน้อยอีก นึกไม่ถึงว่าเธอจะคิดว่ากงซุนจื้อเป็นขอทานตัวน้อยในตอนนั้นจริงๆ นี่ทำฉันหัวเราะแทบบ้าไปแล้วเนี่ย”“......”ยิ่งหลินหว่านหรูได้ฟังมากเท่าไหร่สีหน้าของเธอก็รังเกลียดมากขึ้นเท่านั้น แม้กระทั่งหยิบโทรศัพท์ของเย่เทียนหยู่ขึ้นมา เพื่อดูด้วยตัวเอง เพราะว่าวิดีโอที่อยู่บนนั้น มันก็ชัดเจนมากในตอนนี้ ซูถิงถึงกับทรุดลงไปกับพื้นเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้แก้ตัวเลยหน้าไม่อาย!หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!หลินหว่านหรูโกรธจนสั่นไปทั้งตัวเธอไม่เคยคิดมาก่อน นึกไม่ถึงว่าจะใช้ประโยชน์จากความลับของเธอสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ นี่เป็นความ
ใช่แล้ว เรื่องที่หล่อนทำมันทำให้ตัวเธอโกรธมากจริงๆ เพราะว่า นึกไม่ถึงว่าหล่อนจะใช้ประโยชน์จากความทรงจำในวัยเด็กของตัวเธอแต่ว่า แรงจูงใจที่เธอทำนั้นมันก็เพื่อตัวเธอเองไม่ว่าจะยังไง เพื่อนสนิทแบบนี้ เธอจะไม่มีทางลืมอย่างเด็ดขาด แล้วพูดเบาๆ ว่า “ซูถิง เรื่องที่เกิดในอดีตฉันจะไม่สืบหามันอีกต่อไป แล้วก็จะปล่อยเธอไป”“เพียงแต่ ตั้งแต่วันนี้เป็นตนไป พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”“ตอนนี้ เธอไสหัวไปจากตระกูลหลินได้แล้ว”ซูถิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แรกเริ่มเดิมทีคิดว่าจากไปอย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้มองดูหลินหว่านหรูก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะเชื่อที่ทุกคนพูด คิดว่าตัวเองทำไปก็เพื่อเธอเธอพูดในทันที่ “หว่านหรู ฉันเข้าใจว่าเธอโกรธมาก แล้วก็เกลียดฉันมากเช่นกัน ตอนนี้ไม่อยากเห็นฉันแล้ว ฉันก็จะไป จะไปในทันทีเลย”“เพียงแต่ ภายในใจของฉัน เธอจะยังคงเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของฉันเสมอ ฉันไปล่ะ หวังว่าเธอจะเจอคนที่รู้จักอย่างแท้จริงนะ”หลังจากพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ขอแค่ทิ้งปมไว้แบบนี้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าในอนาคตจะกลับมาอยู่ข้างๆ หลินหว่านหรูไม่ได้ แล้วก็ได้รับผลประโยชน์ที่ตัวเอ
ซูถึงได้ยินการสนทนาในส่วนนี้เข้า ก็สะดุดอย่างช่วยไม่ได้ แล้วล้มลงไปกับพื้นเธอนึกไม่ถึงเช่นกัน ว่าส่วนนี้เย่เทียนหยู่ก็บันทึกไว้เช่นกันถ้าจะให้พูด ครั้งนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญทั้งหมดเลย เดิมทีเย่เทียนหยู่ไม่ตั้งใจที่จะบันทึกเลย เพียงแต่มันเป็นความบังเอิญที่เขาดันบันทึกไว้เท่านั้นเองตอนนั้นยังไม่ได้ลบทิ้งไป ภายหลังก็เลยถูกเก็บไว้ในนั้น เมื่อวานได้เจอกับเรื่องที่ซูถิงได้ทำไว้ ก็เลยเตรียมไว้เสียหน่อยแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ได้คิดที่จะเปิดให้ทุกคนได้ฟังโทษก็โทษเถอะ แต่ซูถิงล้ำเส้นเกินไปแล้วซูถิงอับอายขายหน้า ทนไม่ได้จนอยากจะหาหลุมสักที่บนพื้นแล้วมุดเข้าไปเสียมองดูทุกคนแล้วดูด้วยท่าทางแปลกๆ เดิมทีคงจะอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ก็เลยวิ่งหนีออกไปราวกับบ้าไปแล้ว นั่นเพราะว่าเธอรู้สึกขายขี้หน้ามากจริงๆในขณะนี้ หลินหว่านหรูก็ได้สติกลับมาจากความเฉื่อยชาเสียทีนึกไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้!แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าซูถิงจะชอบเย่เทียนหยู่ได้ยังไง แต่ตัวเธอเองก็เคยเกลียดเย่เทียนหยู่มาก่อนจนกลายมาเป็นชอบ แล้วทำไมซูถิงจะทำไม่ได้เพียงแต่เรื่องพวกนี้ที่เธอทำ มันช่างสกปรกเกินไปแล้ว น่ารั
เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ
เยว่หลิงแทบไม่สามารถต่อต้านได้เลย และพบว่าตัวเองกำลังถูกชายคนหนึ่งกดทับด้วยมือเอาไว้อยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันแรงกล้าของผู้ชายจากอีกฝ่าย สีหน้าเธอก็แดงก่ำทันทีแม้ว่าเธอมักจะใช้วิชาเสน่ห์อาคมอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่เคยให้ผู้ชายเข้าใกล้มากขนาดนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาแบบนี้เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากตรงหน้า เขาก็พูดพลางหัวเราะออกมาว่า “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณคงจะเป็นคนที่เปิดกว้างมาก คิดไม่ถึงว่าจะเขินได้ง่ายขนาดนี้”“นาย นายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เยว่หลิงวิตกกังวลอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีวิชากังฟู่ที่น่ากลัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่ชั่วร้ายมากอีกต่างหากถ้ารู้แต่แรก ก็คงไม่มาคนเดียวแบบนี้หรอก พวกเธอได้ทำการนัดพบกับคนในสำนักที่นี่ และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วด้วยเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารและวิตกกังวลของเธอ เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกล้อเธอ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องขอร้องผมก่อน”“เพราะไม่อย่างนั้น ผมคงไม่อาจทำใจแยกจากความงามอันน่าหลงใหลเช่นนี้ได้แน่”ในขณะที่พูด เย่
ช่วงเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรูก็กลับมาถึงเมืองตะวันออกกันแล้ว เวลาที่เหลือก็ค่อนข้างเยอะ ทั้งสองจึงทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วค่อยส่งหลินหว่านหรูกลับบริษัทจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงค่อยออกเดินทาง แต่ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ เขาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนหวานดังเข้ามาในหู “คุณเย่คะ ท่าทางรีบร้อนแบบนั้น คุณจะรีบไปไหนเหรอคะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมอง ตรงหน้าเขาปรากฏร่างที่มีเสน่ห์และสง่างามของหญิงสาวคนหนึ่ง มองผิวเผินรู้สึกว่าเธอยังเด็กอยู่มาก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเองรูปร่างหน้าตาของเธอดูอ่อนเยาว์กว่าจูเก่อหลิวหลีนิดหน่อย แต่ความเซ็กซี่และเสน่ห์ที่เธอแสดงออกมานั้น โดยเฉพาะความขาวที่ถูกเผยให้เห็นเพียงเล็กน้อย เพียงเท่านั้นก็ทำให้ผู้คนต่างพากันใจเต้นแล้วขาเรียวยาวสองข้างที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย นี่ถือเป็นค่านิยมของผู้หญิงที่นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน เย่เที่ยนหยู่เองก็เคยเห็นผู้หญิงมามากมายนับไม่ถ้วนจนเคยชินหมดแล้ว โดยเฉพาะเทพธิดาสองสามคนที่สวยกว่าหลินหว่านหรู่ก็เคยเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไ
แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าแม่ตระกูลหลินจะทำให้เธอต้องอับอายมากขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่อาจทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ เธอจึงแสดงเจตจำนงที่ต้องการจะลาออกทันทีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นแบบนั้น เธอก็รีบอนุมัติให้ทันทีโดยที่ไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย กระทั่งคนอีกสองสามคนที่ต้องการจะลาออกตามเฉินเว่ยเองก็ถูกอนุมัติด้วยเช่นกันถึงยังไง เธอก็ยังมีคนที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างเหอรุ่ยอยู่ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วเห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่ตระกูลหลินจะมุ่งมั่นมากขนาดนี้ ทำให้เธอตกตะลึงไปชั่วขณะได้จริง ๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกดู แม้แต่คนอย่างเหอรุ่ยก็สามารถปีนข้ามหัวเธอได้ การที่เธอจากไปตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์เกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ ไม่แน่อาจจะมีปัญหามากมายตามมาเพิ่มก็ได้ตามที่หลิวเหวินเคยพูดถึงความคิดของแม่ตระกูลหลิน บวกกับเรื่องที่จู่ ๆ เหอรุ่ยก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการ เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ เพราะงั้นจากไปเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกันเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของเฉินเ
“หากเป็นเช่นนั้น งั้นเรื่องก็ง่ายมากเลยล่ะครับ มีวิธีอีกมากมายนับไม่ถ้วน” เหอรุ่ยรีบพูดขึ้นมา หากเขายังบอกว่าทำไม่ได้อีก แล้วตนจะยังมีประโยชน์อะไร นั่นเท่ากับตนจะพลาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่รึไงเมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแม่ตระกูลหลินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้บริษัทมีทางรอดแล้วคนอย่างหลิวเหวินไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย แถมยังบอกว่าหมดหนทางอีกแต่เมื่อตนเป็นคนออกโรงเอง ก็สามารถหาคนเก่งมาได้ในทันที ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!และเท่าที่ฟังมา เหมือนว่าคนที่ตนเลือกจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วนอีกต่างหากเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว แม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก หากเฉินเว่ยกล้ามาจริง ๆ ฉันก็จะไล่มันออกทันที แล้วให้เธอมารับตำแหน่งแทนหล่อนซะ”“ครับ ขอบคุณประธานหลิวมากครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรับใช้คุณ!” เหอรุ่ยรีบพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที“ดีมาก ไม่เลวเลย เธอยังหนุ่มยังแน่น ต่อไปจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินว่าอีกฝ่ายยินดีรับใช้ตน สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างมาก“ประธานหลิวชมเกินไปแล้วคร
“แต่ว่า ประธานเย่เองก็ไม่ใช่คนนอกนี่คะ”“ประธานเย่อะไร ใครคือประธานเย่กัน บริษัทนี้มีตำแหน่งเขาด้วยรึไง? หลิวเหวิน เธอเป็นอะไรไป หรือว่าเธอไม่อยากที่จะอยู่ในบริษัทนี้ต่ออย่างงั้นเหรอ?”แม่ตระกูลหลินด่าทอด้วยความโกรธวันนี้เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทักทายตนเลยด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันต่อให้เขาจะเก่งกาจมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเดินตามหลังลูกสาวตนอยู่ดี ยังเป็นลูกเขยที่เชื่อฟังของเธออยู่กล้าดียังไงที่เมินเฉยกันแบบนี้!ไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย น่าโมโหเสียจริง!เมื่อถูกด่าทอแรง ๆ แบบนี้ สีหน้าของหลิวเหวินดูเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็รู้สึกโกรธจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้วจริง ๆ แต่เวลานี้แม่ตระกูลหลินก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “เอาล่ะ หลิวเหวิน ฉันจะไม่พูดไร้สาระกับเธออีก วัตถุดิบที่เธอต้องการมันไม่มีอีกแล้วล่ะ”“ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ รีบหาวัตถุดิบตัวใหม่เพื่อมาทดแทนโดยเร็วที่สุด”“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!” หลิวเหวินตอบ“ทำไม่ได้ก็คิดหาวิธีสิ หากยังไม่ได้อีก เธอก็หาอย่างอื่นที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงมาไม่ได้รึไง ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาคล้ายกัน แค
ประจวบเหมาะกับที่หลินหว่านหรูเองก็เกือบจะจัดการธุระเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่มองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง เวลาเพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ ดังนั้นจึงมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เขารีบกลับไป“แม่ของคุณกับคนอื่น ๆ ล่ะ หรือพวกเขากลับไปกันแล้ว?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขา แถมยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นอีก ไม่คิดจะอยู่พูดคุยกันหน่อยรึไง“กลับไปกันแล้ว!”สีหน้าของหลินหว่านหรูเริ่มมืดมนลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณต้องรีบกลับไปจัดการธุระเหรอคะ พวกเราเองก็กลับกันเถอะ”“ได้!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทาง เขาหันไปมองหลินหว่านหรูที่ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล่าเอ่ยปาก เขาจึงถามออกไปว่า “หว่านหรู คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณลำบากใจรึเปล่า?”“หรือจะเป็นเรื่องสูตรนั่น?”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่เป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน หลินหว่านหรูก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดซ้ำสิ่งที่แม่ของเธอเพิ่งจะพูดไปออกมาเย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่สูตรส่วนผสมสูตรเดียวเอง ผมเขียนให้ตอนนี้เลยก็ได้ และจะ
“ได้สิ”ทันทีที่แม่ตระกูลหลินพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไป พร้อมกับสาปแช่งอยู่ในใจใครขอให้แกมากัน ไม่รู้จะมาทำไม มาแย่งบริษัทไปจากฉันรึไงฝันไปเถอะ!หลินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะเอาก็เอาไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ!ถ้าเธอรู้แต่แรก ว่าอีกไม่นานหลินหว่านหรูจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฟิงกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้จัดการระดับสูงของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านแบบนี้ เธอไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่พ่อตระกูลหลินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก อันที่จริง เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแม่ตระกูลหลินสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเมื่อก่อนทุกการตัดสินใจก็มักจะขึ้นอยู่กับแม่ตระกูลหลิน แถมตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งเหมือนบูเช็คเทียนเข้าไปทุกวัน ไม่ว่าเธอพูดจะอะไร ตนก็ได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็เดินตามหาหลงเจี๋ยจนเจอ จากนั้นหลงเจี๋ยก็ถามออกไปด้วยความโกรธทันที “เย่เทียนหยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง ก่อนหน้านี้ทำไมคุณถึงต้องหลอกฉันด้วย?”“ผมหลอกคุณงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยูรู้สึกสับสน“ยังไม่ยอมรับอีกงั้นเหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าคุณคือราชามังกรแห่งพรรคมังกร ไม่บอกฉันก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังจะแสร้งบ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ