และอย่างที่สองก็เพื่อแบล็กเมล์ตอนนั้นเธอได้โกงเงินจำนวนมากของเฉินเฟยเฟยไป แต่เธอก็ใช้มันเกือบจะหมดไปกับการเป็นคนเลี้ยงดูผู้ชาย และตอนนี้เธอต้องการเงิน“ห้าล้าน?”“จงเหล่ย นี่เธอคิดว่าตอนนี้ฉันยังมีเงินได้มากขนาดนั้นรึไง?” เฉินเฟยเฟยโกรธจัดและถามด้วยความโกรธ“ฉันไม่สนใจ ถ้าแกหาเงินไม่ได้ ฉันจะขายยัยนี่ซะ”“ส่วนแกน่ะ ก็ถือเป็นรางวัลให้พวกเขาแล้วกัน ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องชอบแน่” จงเหล่ยพูดอย่างชั่วร้ายหลังจากพูดจบ ดวงตาของกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีแม้ว่าใบหน้ากว่าครึ่งของเฉินเฟยเฟยจะได้รับบาดเจ็บและน่าเกลียด แต่ผิวของเธอก็สวยและน่าดึงดูดอย่างยิ่ง รูปร่างของเธอก็ยอดเยี่ยมมาก และขาที่ยาวของเธอก็เรียวและมีเสน่ห์มากแม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปกปิดอยู่ แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนหลงใหลถ้าเขาเอาผู้หญิงแบบนี้มาเล่นด้วย ผู้ชายคนไหนจะไม่ชอบความจริงก็เป็นเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาของเฉินเฟยเฟยไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ชายนับไม่ถ้วนมองว่าเธอเป็นนางฟ้าที่บริสุทธิ์ของพวกเขา เพียงแต่พวกเขาได้แต่โหยหา แต่ไม่อาจคว้ามันมาครอบครองเฉินเฟยเฟยโกรธมากกับสิ่งที่เธอพูด เธอจึงเอ่ยปากพูดด้วย
คำพูดดังกล่าวทำให้ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยซีดลง เธอรู้ว่าจงเหล่ยรู้จักผู้มีอำนาจมากมาย แต่เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะเชิญมาได้แม้แต่คนของพรรคมังกรดำแน่นอนว่าเธอรู้ว่าพรรคมังกรดำนั้นทรงพลังแค่ไหนในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่มาเองก็คงมีแต่จุดจบคือความตายเท่านั้นครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าเธอทำร้ายเย่เทียนหยู่น่ะสิ?เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของเฉินเฟยเฟย จงเหล่ยก็ค่อย ๆ หยิ่งผยองมากกว่าเก่า “ตอนนี้แกคงเข้าใจแล้วสินะ ว่าไอ้ขยะอย่างเย่เทียนหยู่จะไม่มาก็ได้ แต่ถ้ามันมาแล้ว ฉันก็จะให้มันได้รับรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าอยู่ไม่สู้ตาย”“จริงเหรอ?”“ผมว่าผมยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกอยู่ไม่สู้ตายมาก่อนเลยนะ”ในตอนนั้นเอง มีเสียงผู้ชายดังมาจากทางประตูทันทีที่เธอได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของเฉินเฟยเฟยก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เธอประหลาดใจมากเขามาแล้ว!นาทีวิกฤติแบบนี้ เขามาแล้วจริง ๆ!แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็ดูกังวลมากอีกครั้ง เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่บอกว่าพวกเขามาจากพรรคมังกรดำถ้าเย่เทียนหยู่มาตอนนี้ก็เหมือนเป็นการทำร้ายเขาน่ะสิ?จางผิงก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอถูกปิดปากและพูดอะไรไม่ได้ เลยทำได้แค่ร้อนใจ จนถ
“ที่แกส่ายหน้าแกหมายความว่ายังไง?”“ก็หมายความว่าคุณไม่เพียงแต่น่าขยะแขยง แต่ยังโง่บรมด้วยยังไงล่ะ” เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบจางผิงและเฉินเฟยเฟยตกตะลึง พวกเธอเพิ่งบอกเขาไปเองว่าอีกฝ่ายมาจากพรรคมังกรดำ แต่ท่าทางของคุณชายเย่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยคุณชายเย่อาจไม่รู้ว่าพรรคมังกรดำทรงพลังแค่ไหนแต่คำพูดนั้นจะต้องทำให้ผู้คนโกรธแน่แน่นอนว่าความโกรธของคนพวกนั้นปะทุขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ “พี่จง ไอ้เด็กเวรนั่นน่ารังเกียจเป็นบ้า ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”“ในเมื่อมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วทำไมยังต้องทนอีก ไปจัดการมันซะ แต่ฉันบอกแล้วนะ ว่าต้องให้มันอยู่ไม่สู้ตายน่ะ”“งั้นต้องให้มันได้พักผ่อนสักหน่อย!”“เพราะงั้น พวกแกอย่าทำมันตายล่ะ!”จงเหล่ยพูดอย่างเย็นชา“เอาล่ะ เจ้าหนู แกกำลังรนหาที่ตาย วันนี้เราจะให้แกได้รู้ว่าปรมาจารย์ที่แท้จริงคืออะไร”พี่เทาเยาะเย้ยและโบกมือให้ชายคนหนึ่งลงมือทันทีกลุ่มชายฉกรรจ์เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธที่ถูกดูหมิ่นเช่นนี้ต่อสาวสวย ทันทีที่ชายคนหนึ่งพูดจบ เขาก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมหมัดอันรุนแรงฉันต้องบอกว่าพวกเขาฉลาดจริง ๆ ถ้าเจอกับคนธรรมดา การสู้กับคนสองหรือส
ในขณะนี้ แม้แต่เฉินเฟยเฟยเองก็อยากจะเตือนเขาเหมือนกันว่าพรรคมังกรดำนั้นทรงพลังจริง ๆแต่ดูเหมือนในเวลานี้มันควไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่ได้เอ่ยปากอธิบายจงเหล่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ ในตอนนี้พรรคมังกรดำกำลังเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะมากเท่าไร อีกฝ่ายอาจไม่รู้จักก็ได้ “แกไม่รู้สินะว่าพรรคมังกรดำเป็นตัวแทนของใคร ประธานของพวกเขาคือประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิง ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่”“แกไม่รู้เกี่ยวกับพรรคมังกรดำ แต่แกคงพอจะรู้เรื่องหอการค้าหลงเถิงอยู่บ้างใช่ไหมล่ะ หอการค้าที่พวกเจ้าพ่อเกือบทั้งเมืองเทียนไห่มารวมตัวกันน่ะ”หลังจากพูดจบ เธอก็รอเห็นสายตาอันหวาดกลัวของเย่เทียนหยู่แต่สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับไม่เปลี่ยนไปเลย อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนสีหน้าของเขาได้ เขาพูดอย่างสบาย ๆ “งั้นเหรอ เก่งขนาดนั้นเลยสินะ?”“ก็ต้องแน่ล่ะสิ เพราะงั้นตอนนี้แกก็ไปพยุงพวกเขาขึ้นมาซะ แล้วคุกเข่าลงขอโทษ บางทีอาจจะยังพอให้แกรอดตายไปได้บ้างนะ” จงเหล่ยยิ้มเยาะ“ช่างมันเถอะ ผมไม่เอาดีกว่า”“ไหน ๆ ก็ล่วงเกินไปแล้ว งั้นก็ล่วงเกินต่อไปแล้วกัน”ทัน
“เรื่องนี้ง่ายมาก คุณไม่ได้บอกเหรอว่าคุณมาจากพรรคมังกรดำ เอาแบบนี้ดีไหม โทรหาเจ้านายของคุณแล้วบอกให้เขามาช่วยจัดการกับผมซะ”“อะไรนะ?”ทุกคนในห้องตกตะลึงอีกครั้ง มีวิธีการแบบนี้ด้วยเหรอ?จางผิงพูดไม่ออก เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณชายเย่ พรรคมังกรดำมีอำนาจมากจริง ๆ คุณอย่าดูถูกพวกเขานะคะ ไม่มีอะไรในเมืองเทียนไห่ที่สามารถกระตุ้นพวกเขาได้”“ผมไม่ได้ดูถูกพวกเขาหรอกนะ แต่เรื่องแบบนี้มันต้องมีจุดจบ ถ้าไอ้ตัวใหญ่สุดไม่ออกมาแล้วเอาแต่สู้กับคนตัวเล็กตัวน้อยพวกนี้ ให้คนที่มีฝีมือ”“พอดีเลย ลากไอ้พวกตัวที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้หมดแล้วก็จบเรื่องนี้ซะในคราวเดียว ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีเรื่องยุ่งยากอีก” เย่เทียนหยู่กล่าว“……”ทุกคนพูดไม่ออก พวกเขาเคยเห็นคนหยิ่งผยอง แต่ไม่เคยเห็นคนหยิ่งผยองขนาดนี้มาก่อนพี่เทาถึงกับยิ้มแห้ง เขาต้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนพรรคมังกรดำ แต่ปัญหาก็คือ เขาเป็นแค่เพื่อนของพรรคมังกรดำ ไม่ใช่สมาชิกของพรรคมังกรดำเลยแต่ในขณะนี้ เมื่อมองดูท่าทางสงบนิ่งเรียบของเย่เทียนหยู่ เขาดูไม่เหมือนคนที่ไม่รู้จักพรรคมังกรดำเลย พี่เทารู้อยู่ในใจว่าเขาอาจรุกรานผิดคนเข้าแล้ว“โทรไปเชิญมาสิ
“พี่เทา พี่กำลังทำอะไรอยู่? นี่พี่เชื่อคำโกหกของเขาเหรอ? พี่คิดว่าประธานหยางที่เป็นเหมือนพระเจ้าจะกลัวเขาหรือยังไง?”“เขาแค่กำลังพยายามทำให้พี่กลัวนะ” ในที่สุดจงเหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป“หุบปาก!”“จงเหล่ย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เราจะไปยั่วยุคุณชายเย่ได้ยังไงฮะ!”“ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าวันนี้เรารอดออกไปได้เราไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”หลังจากที่พี่เทาตะคอกเสร็จ เขาก็พูดกับเย่เทียนหยู่ทันที “คุณชายเย่ ได้โปรดเถอะครับ ผู้เป็นใหญ่ย่อมไม่เอาเรื่องคนตัวเล็ก ๆ ให้โอกาสเราแล้วปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ”“แล้วคุณสองคนทำไมไม่คุกเข่าลงและขอโทษ!”อีกสองคนเชื่อมั่นในตัวพี่เทามาโดยตลอด เมื่อเห็นพี่เทาพูดแบบนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงขอความเมตตาและตบหน้าตัวเองด้วยเมื่อเห็นว่าพวกเขาทำได้ดี เย่เทียนหยู่ก็พยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะ ในเมื่อคุณยังจริงใจ คราวนี้เรามาลืมมันซะเถอะ”“ขอบคุณคุณชายเย่ ขอบคุณคุณชายเย่”เมื่อพี่เทาได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาก็เริ่มผ่อนคลาย จากนั้นเขาก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานออกไปจากที่นี่โดยไม่แม้แต่จะแลมองจงเหล่ยสิ่งที่เกิดขึ
จงเหล่ยโกรธมากหลังจากได้ยินแบบนั้น แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “แกกล้าให้พวกเขาโทรเรียกคนมา แล้วแกกล้าให้ฉันโทรเรียกคนมาไหมล่ะ?”“ยังคิดใช้วิธีการยั่วยุกันด้วยเหรอ”“คุณไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นผมก็จะอนุญาตอยู่แล้ว เอาล่ะ ตอนนี้คุณก็โทรศัพท์ได้แล้ว เรียกผู้สนับสนุนทุกคนที่คุณเรียกออกมาได้มาให้หมด”“นี่แกพูดจริงเหรอ?”จงเหล่ยยังคงไม่เชื่อเมื่อเฉินเฟยเฟยได้ยินแบบนั้น เธอก็พูดทันที “ไม่ได้นะ!”“คุณชายเย่ ฉันรู้ว่าคุณมีความสามารถมาก แต่จงเหล่ยรู้จักคนมากเกินไป คุณจะปล่อยให้เธอโทรหาคนอื่นไม่ได้ แบบนั้นมีแต่จะทำร้ายคุณนะ”“อย่างเธอน่ะเหรอ ไม่ขนาดนั้นหรอก!”“คุณชายเย่...”“ไม่ต้องกังวล เธอสร้างปัญหาไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น “จงเหล่ย ไปโทรเรียกมา”“ได้ แกขอเองนะ”จงเหล่ยหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและเตรียมโทรออกในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ดังขึ้น เป็นสายของซูเหวินฮวา หรือว่าระยะนี้เขาค้นพบอะไรเองแล้วงั้นเหรอ?“ฮัลโหล เหวินฮวา!”“พี่เย่ คนของผมพบหลักฐานบางอย่างแล้วครับ หลี่ว์ซิงเหอต้องได้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้แน่” ซูเหวินฮวาเข้าตรงประเด็น“พิ
“ใช่!”“คุณรู้จักเขาเหรอ” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจแต่ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา จงเหล่ยก็รู้สึกราวกับเป็นอัมพาตไปเลยอันที่จริงเธอยืนยันแล้วเมื่อกี้นี้ คนที่แม้แต่ซูเหวินฮวายังกลัว ต้องเป็นการดำรงอยู่ที่น่ากลัวแค่ไหนกันไม่น่าแปลกใจ เลยที่เมื่อกี้เขาไม่เห็นหยางต้าฝูอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แถมยังบอกด้วยว่าประธานหยางบอกห้ามคนจากพรรคมังกรดำไม่ให้ยั่วยุเขา หากทำให้ซูเหวินฮวาเคารพได้ แน่นอนว่าทั้งหมดนี่ล้วนเป็นไปได้ ตอนนี้เอง ในที่สุดจงเหล่ยก็เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมั่นใจมาโดยตลอด เป็นเธอที่คิดเองเออเอง คิดว่าตัวเองสามารถกดขี่อีกฝ่ายได้ง่ายๆเมื่อมองดูท่าทางของจงเหล่ย เย่เทียนหยู่ก็ส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายหวาดกลัวเฉินเฟยเฟยและ จางผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะพวกเขาค้นพบว่าจงเหล่ยกำลังเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่คุณชายเย่รับสายเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับสายโทรเข้านั่น ซูเหวินฮวาคือใคร?พวกเธอไม่รู้จักซูเหวินฮวาจริง ๆ“ค...คุณชายเย่ ฉันขอโทษนะคะ คือฉัน…”ในขณะนี้ จงเหล่ยเปลี่ยนวิธีเรียกชื่อของเขาและน้ำเสียงของเธอก็สั่นเทาเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าและพูดอย่างใจเย็น “ดูเหมือนว่า
“หากเป็นเช่นนั้น งั้นเรื่องก็ง่ายมากเลยล่ะครับ มีวิธีอีกมากมายนับไม่ถ้วน” เหอรุ่ยรีบพูดขึ้นมา หากเขายังบอกว่าทำไม่ได้อีก แล้วตนจะยังมีประโยชน์อะไร นั่นเท่ากับตนจะพลาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่รึไงเมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแม่ตระกูลหลินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้บริษัทมีทางรอดแล้วคนอย่างหลิวเหวินไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย แถมยังบอกว่าหมดหนทางอีกแต่เมื่อตนเป็นคนออกโรงเอง ก็สามารถหาคนเก่งมาได้ในทันที ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!และเท่าที่ฟังมา เหมือนว่าคนที่ตนเลือกจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วนอีกต่างหากเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว แม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก หากเฉินเว่ยกล้ามาจริง ๆ ฉันก็จะไล่มันออกทันที แล้วให้เธอมารับตำแหน่งแทนหล่อนซะ”“ครับ ขอบคุณประธานหลิวมากครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรับใช้คุณ!” เหอรุ่ยรีบพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที“ดีมาก ไม่เลวเลย เธอยังหนุ่มยังแน่น ต่อไปจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินว่าอีกฝ่ายยินดีรับใช้ตน สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างมาก“ประธานหลิวชมเกินไปแล้วคร
“แต่ว่า ประธานเย่เองก็ไม่ใช่คนนอกนี่คะ”“ประธานเย่อะไร ใครคือประธานเย่กัน บริษัทนี้มีตำแหน่งเขาด้วยรึไง? หลิวเหวิน เธอเป็นอะไรไป หรือว่าเธอไม่อยากที่จะอยู่ในบริษัทนี้ต่ออย่างงั้นเหรอ?”แม่ตระกูลหลินด่าทอด้วยความโกรธวันนี้เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทักทายตนเลยด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันต่อให้เขาจะเก่งกาจมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเดินตามหลังลูกสาวตนอยู่ดี ยังเป็นลูกเขยที่เชื่อฟังของเธออยู่กล้าดียังไงที่เมินเฉยกันแบบนี้!ไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย น่าโมโหเสียจริง!เมื่อถูกด่าทอแรง ๆ แบบนี้ สีหน้าของหลิวเหวินดูเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็รู้สึกโกรธจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้วจริง ๆ แต่เวลานี้แม่ตระกูลหลินก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “เอาล่ะ หลิวเหวิน ฉันจะไม่พูดไร้สาระกับเธออีก วัตถุดิบที่เธอต้องการมันไม่มีอีกแล้วล่ะ”“ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ รีบหาวัตถุดิบตัวใหม่เพื่อมาทดแทนโดยเร็วที่สุด”“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!” หลิวเหวินตอบ“ทำไม่ได้ก็คิดหาวิธีสิ หากยังไม่ได้อีก เธอก็หาอย่างอื่นที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงมาไม่ได้รึไง ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาคล้ายกัน แค
ประจวบเหมาะกับที่หลินหว่านหรูเองก็เกือบจะจัดการธุระเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่มองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง เวลาเพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ ดังนั้นจึงมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เขารีบกลับไป“แม่ของคุณกับคนอื่น ๆ ล่ะ หรือพวกเขากลับไปกันแล้ว?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขา แถมยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นอีก ไม่คิดจะอยู่พูดคุยกันหน่อยรึไง“กลับไปกันแล้ว!”สีหน้าของหลินหว่านหรูเริ่มมืดมนลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณต้องรีบกลับไปจัดการธุระเหรอคะ พวกเราเองก็กลับกันเถอะ”“ได้!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทาง เขาหันไปมองหลินหว่านหรูที่ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล่าเอ่ยปาก เขาจึงถามออกไปว่า “หว่านหรู คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณลำบากใจรึเปล่า?”“หรือจะเป็นเรื่องสูตรนั่น?”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่เป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน หลินหว่านหรูก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดซ้ำสิ่งที่แม่ของเธอเพิ่งจะพูดไปออกมาเย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่สูตรส่วนผสมสูตรเดียวเอง ผมเขียนให้ตอนนี้เลยก็ได้ และจะ
“ได้สิ”ทันทีที่แม่ตระกูลหลินพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไป พร้อมกับสาปแช่งอยู่ในใจใครขอให้แกมากัน ไม่รู้จะมาทำไม มาแย่งบริษัทไปจากฉันรึไงฝันไปเถอะ!หลินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะเอาก็เอาไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ!ถ้าเธอรู้แต่แรก ว่าอีกไม่นานหลินหว่านหรูจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฟิงกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้จัดการระดับสูงของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านแบบนี้ เธอไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่พ่อตระกูลหลินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก อันที่จริง เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแม่ตระกูลหลินสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเมื่อก่อนทุกการตัดสินใจก็มักจะขึ้นอยู่กับแม่ตระกูลหลิน แถมตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งเหมือนบูเช็คเทียนเข้าไปทุกวัน ไม่ว่าเธอพูดจะอะไร ตนก็ได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็เดินตามหาหลงเจี๋ยจนเจอ จากนั้นหลงเจี๋ยก็ถามออกไปด้วยความโกรธทันที “เย่เทียนหยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง ก่อนหน้านี้ทำไมคุณถึงต้องหลอกฉันด้วย?”“ผมหลอกคุณงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยูรู้สึกสับสน“ยังไม่ยอมรับอีกงั้นเหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าคุณคือราชามังกรแห่งพรรคมังกร ไม่บอกฉันก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังจะแสร้งบ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ
ในตอนที่เพิ่งจะเดินเข้าไป ก็เห็นว่าพ่อตระกูลหลินกำลังเดินออกมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นออกไปว่า “หว่านหรู ในที่สุดแกก็มาแล้ว ขืนแกยังไม่มา แม่แกคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอแทบไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยสีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชาอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของทั้งสอง สีหน้าพ่อตระกูลหลินก็ดูหมดหวัง และคิดว่าหลายสิ่งที่พวกเขาทำมันเกินไปแล้วจริง ๆ เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีเป็นเพราะเขาเดินตามทั้งสองเข้าไป พ่อตระกูลหลินถึงเข้าไปด้วยได้ เดิมที เขาแค่จะมาดูแม่ตระกูลหลินเท่านั้นภายใต้การนำทางของตำรวจ หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ก็ได้มาถึงห้องขังที่แม่ตระกูลหลินอยู่แม่ตระกูลหลินเองก็รู้ว่าหลินหว่านหรูมาถึงแล้ว ทันทีที่เห็นทั้งสอง เธอก็รีบลุกขึ้น และเดินมาหาทันที ดวงตาของเธอแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “หว่านหรู ลูกรักของแม่ ลูกมาแล้วเหรอ!”มองดูดวงตาที่แดงก่ำของแม่ตระกูลหลิน บวกกับท่าทีตื่นเต้นโดยเฉพาะสีหน้าที่ดูอ่อนเพลียและซีดเซียวของเธอ แม้แต่ผมเผ้าเองก็ยังดูยุ่งเหยิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เธอดูน่าสงสารอย่างมากบวกกับที่เธอพูดคำว
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด