“สบายใจเหรอ?”“แบบนั้นไม่ได้นะ!”หลินหว่านหรูหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เพราะเดี๋ยวคุณคงต้องเตรียมตัวสักหน่อย พรุ่งนี้เช้าฉันจะประกาศแต่งตั้งพวกคุณ”“อือ ฉันจะเตรียมตัวค่ะ”หลิวเหวินไม่รีรอและพยักหน้าเห็นด้วยทันทีขณะที่หลิวเหวินเดินจากไป หลินหว่านหรูก็เริ่มยุ่งกับงานของตัวเองแต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าหลี่ว์ซิงเหอในเวลานี้ยังไม่สมัครใจยอมแพ้ เขาตั้งใจหาตัวผู้ถือหุ้นอีกสองคนที่สูญเสียหุ้นของตนมาเพื่อช่วยกันสร้างปัญหาที่แท้แล้ว หลังจากเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายในบริษัทถูกเปิดเผย หลี่ว์ซิงเหอกลับไม่ได้อารมณ์เสีย หรือกระทั่งออกจะอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาหลุดพ้นจากปัญหาใหญ่มาได้ในขณะเดียวกัน เขารอให้ทุกคนเปิดเผยว่าเย่เทียนหยู่หลอกลวงผู้อื่นยังไง บริษัทได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ว่านั่น และเป็นไปไม่ได้ที่จะลบจุดด่างดำบนใบหน้าของทุกคนแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่ได้เชิญแพทย์แผนจีนชั้นนำด้านการดูแลผิวจากที่ไหนก็ไม่รู้มารักษาทุกคนโดยใช้ยาจีนส่วนสาเหตุที่รู้ว่าเป็นยาจีนนั้น ก็เพราะพวกเขาตามหาตัวผู้เสียหาย จากนั้นก็ทำความเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดเรื่องนี้ทำให้ผู้เสียหายเชื่อกันสนิท
“ความเห็นอะไร?” เย่เทียนหยู่ถาม“บอกกันว่าปัญหาเกี่ยวกับเครื่องสำอางปัวเรต์ก่อนหน้านี้หลินซื่อกรุ๊ปสร้างขึ้นโดยเจตนาโดย เพื่อจุดประสงค์ในการประชาสัมพันธ์ การขายและการโปรโมตเครื่องสำอางของพวกเขาครับ”“ยิ่งกว่านั้นหลินซื่อกรุ๊ปไม่มีสิ่งที่ทุกคนเรียกกันว่าเครื่องสำอางวิเศษนั่น และทุกคนก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุม”“ตอนนี้เรื่องนี้ถูกส่งต่อกันไปมากมาย ดึงดูดการต่อต้านจากผู้คนจำนวนมากในทันที”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออีกฝ่ายดูเหมือนจะคุ้นเคยกับแผนและความคืบหน้าของเครื่องสำอางปัวเรต์เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาเปิดเผยว่าไม่มีโครงการผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรอย่างที่แจ้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผลิตภัณฑ์ครับ”“มีกระท่งภาพหน้าจอของเอกสารภายในบริษัทด้วย ถ้าให้เดาไม่ผิด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนวงในของหลินซื่อกรุ๊ปอย่างแน่นอน”“และหากเราหากคำนึงถึงสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำเรื่องแบบนี้ได้มากที่สุด และปัจจุบันเขาก็เป็นคนเดียวที่มีความสามารถที่จะผลักดันการกระทำแบบนี้ได้ครับ”“หลี่ว์ซิงเหอ!” เย่เทียนหยู่รับคำด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ใช่ เป็นเขาครับ ผมได้จัดให้คนของผมจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิดแล้ว หา
คุณแม่ตระกูลหลินดึงเธอเข้ามาแล้วถามว่า “หว่านหรู กิจการของบริษัทคลี่คลายแล้วหรือยัง?”“ไม่มีปัญหาแล้วค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบเย่เทียนหยู่จริง ๆ” หลินหว่านหรูอยากให้พ่อแม่ของเธอประทับใจต่อตัวเย่เทียนหยู่มากขึ้น เธอก็เลยบอกพวกเขาเป็นพิเศษแต่คุณแม่ตระกูลหลินดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ขอบคุณเขา เขาแค่เชื่อฟังคำสั่งของคุณ”“ไม่อย่างนั้น ด้วยความสามารถอันน้อยนิดของมันก็คงไร้ประโยชน์โง่เง่า”“แม่ แม่เข้าใจผิดแล้วนะ!”หลินหว่านหรูอธิบายต่อ “จริง ๆ แล้ว ทุกอย่างในวันนั้นเขาทำเอง หนูไม่ได้เป็นคนแนะนำอะไรเขาเลยนะคะ ที่เขาพูดแบบนั้นก็เพื่อให้ทุกคนในบริษัทเกรงกลัวและเคารพหนู”“ไร้สาระ!”“ไร้สาระทั้งเพ!”“หลินหว่านหรู นี่ลูกกำลังพยายามหลอกให้แม่เป็นเหมือนคนโง่เพื่อที่จะแต่งงานกับไอ้เด็กเหลือขอนั่นอย่างงั้นเหรอ?”“ลูกคิดว่ามันเป็นผู้วิเศษหรือไงกัน? ก็แค่ขอทานคนเดียว ถ้ามีความสามารถมากขนาดนั้นทำไมยังต้องผลักไปให้คนอื่นด้วย!”คุณแม่ตระกูลหลินโต้กลับเสียงดัง เธอไม่เชื่อคำพูดของหลินหว่านหรูเลยสักคำ“สิ่งที่หนูพูดเป็นความจริงนะ!” หลินหว่านหรูตะโกนด้วยความโกรธ“แม่ว่านะยังไงลูกก็ต้องโกหกแม่อยู่แน่”
หลังจากที่เย่เทียนหยู่วางสาย เขาก็ขับรถไปที่โรงแรมเทียนเหอทันที เขาต้องพบกับเฉินเฟยเฟยก่อนจึงจะวางแผนก้าวต่อไปสำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เขาจะให้อีกฝ่ายได้รู้แน่ว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงมันเป็นยังไงในขณะเดียวกัน เฉินเฟยเฟยกับจางผิงต่างก็กำลังตั้งตารอเย่เทียนหยู่อย่างกระวนกระวายใจเช่นกัน“ผิงผิง คุณคิดว่าเขาทำได้จริงรึเปล่า” เฉินเฟยเฟยอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเธอผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว“คุณดูสิว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะโกหกนะ ฉันคิดว่าเขาทำได้จริง ๆ ค่ะ”อันที่จริงจางผิงเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันแต่เพื่อให้กำลังใจเฉินเฟยเฟย เธอจึงจงใจบอกว่ามันต้องได้ผลแน่“ก็ดี ฉันหวังว่ามันจะไม่ทำให้เราต้องผิดหวังอีกครั้งนะ”เฉินเฟยเฟยพึมพำในขณะที่พูด ก็มีคนเคาะประตู ดวงตาของเฉินเฟยเฟยเป็นประกายและเธอก็พูดว่า “เขาน่าจะมาแล้วล่ะ”“อือ ฉันจะเปิดประตู!”จางผิงลุกขึ้นยืนทันที แต่ทันทีที่เธอเปิดประตู เธอก็เห็นผู้ชายหลายคนที่มีท่าทางดุร้ายและมีผู้หญิงอีกคนอยู่ข้าง ๆผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นพี่จงหรือก็คือจงเหล่ย คนที่มีปัญหาไม่ลงรอยกับพวกเธอจงเหล่ยมองดูจางผิงด้
และอย่างที่สองก็เพื่อแบล็กเมล์ตอนนั้นเธอได้โกงเงินจำนวนมากของเฉินเฟยเฟยไป แต่เธอก็ใช้มันเกือบจะหมดไปกับการเป็นคนเลี้ยงดูผู้ชาย และตอนนี้เธอต้องการเงิน“ห้าล้าน?”“จงเหล่ย นี่เธอคิดว่าตอนนี้ฉันยังมีเงินได้มากขนาดนั้นรึไง?” เฉินเฟยเฟยโกรธจัดและถามด้วยความโกรธ“ฉันไม่สนใจ ถ้าแกหาเงินไม่ได้ ฉันจะขายยัยนี่ซะ”“ส่วนแกน่ะ ก็ถือเป็นรางวัลให้พวกเขาแล้วกัน ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องชอบแน่” จงเหล่ยพูดอย่างชั่วร้ายหลังจากพูดจบ ดวงตาของกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีแม้ว่าใบหน้ากว่าครึ่งของเฉินเฟยเฟยจะได้รับบาดเจ็บและน่าเกลียด แต่ผิวของเธอก็สวยและน่าดึงดูดอย่างยิ่ง รูปร่างของเธอก็ยอดเยี่ยมมาก และขาที่ยาวของเธอก็เรียวและมีเสน่ห์มากแม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปกปิดอยู่ แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนหลงใหลถ้าเขาเอาผู้หญิงแบบนี้มาเล่นด้วย ผู้ชายคนไหนจะไม่ชอบความจริงก็เป็นเช่นนี้ รูปร่างหน้าตาของเฉินเฟยเฟยไม่ได้รับความเสียหาย ผู้ชายนับไม่ถ้วนมองว่าเธอเป็นนางฟ้าที่บริสุทธิ์ของพวกเขา เพียงแต่พวกเขาได้แต่โหยหา แต่ไม่อาจคว้ามันมาครอบครองเฉินเฟยเฟยโกรธมากกับสิ่งที่เธอพูด เธอจึงเอ่ยปากพูดด้วย
คำพูดดังกล่าวทำให้ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยซีดลง เธอรู้ว่าจงเหล่ยรู้จักผู้มีอำนาจมากมาย แต่เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะเชิญมาได้แม้แต่คนของพรรคมังกรดำแน่นอนว่าเธอรู้ว่าพรรคมังกรดำนั้นทรงพลังแค่ไหนในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่มาเองก็คงมีแต่จุดจบคือความตายเท่านั้นครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าเธอทำร้ายเย่เทียนหยู่น่ะสิ?เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของเฉินเฟยเฟย จงเหล่ยก็ค่อย ๆ หยิ่งผยองมากกว่าเก่า “ตอนนี้แกคงเข้าใจแล้วสินะ ว่าไอ้ขยะอย่างเย่เทียนหยู่จะไม่มาก็ได้ แต่ถ้ามันมาแล้ว ฉันก็จะให้มันได้รับรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าอยู่ไม่สู้ตาย”“จริงเหรอ?”“ผมว่าผมยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกอยู่ไม่สู้ตายมาก่อนเลยนะ”ในตอนนั้นเอง มีเสียงผู้ชายดังมาจากทางประตูทันทีที่เธอได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของเฉินเฟยเฟยก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เธอประหลาดใจมากเขามาแล้ว!นาทีวิกฤติแบบนี้ เขามาแล้วจริง ๆ!แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็ดูกังวลมากอีกครั้ง เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่บอกว่าพวกเขามาจากพรรคมังกรดำถ้าเย่เทียนหยู่มาตอนนี้ก็เหมือนเป็นการทำร้ายเขาน่ะสิ?จางผิงก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอถูกปิดปากและพูดอะไรไม่ได้ เลยทำได้แค่ร้อนใจ จนถ
“ที่แกส่ายหน้าแกหมายความว่ายังไง?”“ก็หมายความว่าคุณไม่เพียงแต่น่าขยะแขยง แต่ยังโง่บรมด้วยยังไงล่ะ” เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบจางผิงและเฉินเฟยเฟยตกตะลึง พวกเธอเพิ่งบอกเขาไปเองว่าอีกฝ่ายมาจากพรรคมังกรดำ แต่ท่าทางของคุณชายเย่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยคุณชายเย่อาจไม่รู้ว่าพรรคมังกรดำทรงพลังแค่ไหนแต่คำพูดนั้นจะต้องทำให้ผู้คนโกรธแน่แน่นอนว่าความโกรธของคนพวกนั้นปะทุขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ “พี่จง ไอ้เด็กเวรนั่นน่ารังเกียจเป็นบ้า ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”“ในเมื่อมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วทำไมยังต้องทนอีก ไปจัดการมันซะ แต่ฉันบอกแล้วนะ ว่าต้องให้มันอยู่ไม่สู้ตายน่ะ”“งั้นต้องให้มันได้พักผ่อนสักหน่อย!”“เพราะงั้น พวกแกอย่าทำมันตายล่ะ!”จงเหล่ยพูดอย่างเย็นชา“เอาล่ะ เจ้าหนู แกกำลังรนหาที่ตาย วันนี้เราจะให้แกได้รู้ว่าปรมาจารย์ที่แท้จริงคืออะไร”พี่เทาเยาะเย้ยและโบกมือให้ชายคนหนึ่งลงมือทันทีกลุ่มชายฉกรรจ์เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธที่ถูกดูหมิ่นเช่นนี้ต่อสาวสวย ทันทีที่ชายคนหนึ่งพูดจบ เขาก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมหมัดอันรุนแรงฉันต้องบอกว่าพวกเขาฉลาดจริง ๆ ถ้าเจอกับคนธรรมดา การสู้กับคนสองหรือส
ในขณะนี้ แม้แต่เฉินเฟยเฟยเองก็อยากจะเตือนเขาเหมือนกันว่าพรรคมังกรดำนั้นทรงพลังจริง ๆแต่ดูเหมือนในเวลานี้มันควไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่ได้เอ่ยปากอธิบายจงเหล่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ ในตอนนี้พรรคมังกรดำกำลังเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะมากเท่าไร อีกฝ่ายอาจไม่รู้จักก็ได้ “แกไม่รู้สินะว่าพรรคมังกรดำเป็นตัวแทนของใคร ประธานของพวกเขาคือประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิง ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเทียนไห่”“แกไม่รู้เกี่ยวกับพรรคมังกรดำ แต่แกคงพอจะรู้เรื่องหอการค้าหลงเถิงอยู่บ้างใช่ไหมล่ะ หอการค้าที่พวกเจ้าพ่อเกือบทั้งเมืองเทียนไห่มารวมตัวกันน่ะ”หลังจากพูดจบ เธอก็รอเห็นสายตาอันหวาดกลัวของเย่เทียนหยู่แต่สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับไม่เปลี่ยนไปเลย อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนสีหน้าของเขาได้ เขาพูดอย่างสบาย ๆ “งั้นเหรอ เก่งขนาดนั้นเลยสินะ?”“ก็ต้องแน่ล่ะสิ เพราะงั้นตอนนี้แกก็ไปพยุงพวกเขาขึ้นมาซะ แล้วคุกเข่าลงขอโทษ บางทีอาจจะยังพอให้แกรอดตายไปได้บ้างนะ” จงเหล่ยยิ้มเยาะ“ช่างมันเถอะ ผมไม่เอาดีกว่า”“ไหน ๆ ก็ล่วงเกินไปแล้ว งั้นก็ล่วงเกินต่อไปแล้วกัน”ทัน