เย่เทียนหยู่จึงถามออกไปอีกว่า “งั้นคุณมีหลักฐานว่าคุณกับประธานหลี่ว์ร่วมมือกันไหม อย่างเช่นคลิปเสียง หรืออะไรอย่างอื่น?”“เรื่องนี้ ไม่มีเลย! ”พอเห็นว่าแววตาของเย่เทียนหยู่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาก็ตกใจแทบแย่ จึงพูดขอร้องออกมา “ผมไม่มีจริง ๆ ถ้าผมมี ผมจะต้องมอบให้คุณอย่างแน่นอน”“ก็พอจะดูออก ว่าคุณคงไม่มีจริง ๆ คุณนี่ทำให้ผมลำบากจริง ๆ” เย่เทียนหยู่ถอนหายใจ“อย่า อย่าคิดว่ามันลำบากเลยครับ หัวหน้าเย่ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริง ๆ หากคุณมีอะไรที่ต้องการให้เราช่วย ขอแค่คุณบอกมาได้เลย ผมจะทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน”เกาเซ่อพูดขอร้องอย่างสั่นเทาใบหน้าของคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้จะทำให้พวกเขาลำบากใจอยู่แล้ว เขาส่ายหัว ถอนหายใจ แล้วพูดออกมา “ช่างมันเถอะ ผมคนนี้เป็นคนมีน้ำใจซะด้วยสิ ไม่อยากทำร้ายผู้อื่นไหร่”“ในเมื่อคุณสารภาพทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ผมก็จะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ครั้งนี้ผมจะปล่อยไปก็ได้”“ดีมากเลย ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ หัวหน้าเย่! ”พอเกาเซ่อได้ยินแบบนั้น ก็ตื่นเต้นมาก เขาก้มหัวคำนับให้หลายที ทำให้เห็นถึงความหวาดกลัวในใจของเขา และก็ทำให้เห็นถึ
“มีไม่มีก็ไม่สำคัญหรอก เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แล้วก็นะ เมื่อกี้ที่ผมจงใจยกตัวคุณให้พวกเขา คุณไม่โทษผมแล้วเหรอ?”เย่เทียนหยู่กล่าวพอพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของหลิวซือซือก็โกรธอยู่จริง ๆ แต่ไม่นานเธอก็นึกขึ้นได้ เรื่องทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพราะตัวเธอเองทั้งนั้น คนที่ผิดก็ยังเป็นเธออยู่ดีดังนั้น เธอจึงส่ายหัว และพูดว่า “เอาจริง ๆ ตอนนั้นฉันโกรธมากค่ะ แต่ฉันจะโทษคุณก็ไม่ได้”“ไม่โทษผมก็ดี อันที่จริง ผมอยากถามอะไรคุณหน่อยน่ะ ถ้าผมจะไล่เหมยหรงหรงออกจากบริษัท คุณจะเกลียดผมไหม? ” เย่เทียนหยู่ถามออกไปทันที“เรื่องนี้ ทำไมฉันจะต้องเกลียดคุณด้วยล่ะคะ? ” ใบหน้าของหลิวซือซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย“เพราะเหมยหรงหรงเป็นหัวหน้าของคุณไง ความสัมพันธ์ของพวกคุณก็น่าจะดีมาก ๆ เลยไม่ใช่รึไง”“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็น่าจะรู้ว่าตอนที่เหมยหรงหรงอยู่ในบริษัท เธอแอบทำอะไรเอาไว้บ้างสินะ? ”พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของหลิวซือซือก็ดูเครียดมาก และพูดขึ้นมาทันที “หัวหน้าเย่คะ เมื่อกี้คุณเป็นคนช่วยฉันเอาไว้ก็จริง แต่ถ้าจะให้ฉันพูดเรื่องไม่ดีของพี่หรงออกมา ฉันคงพูดออกมาไม่ได้หรอกค่ะ”“เป็นแบบ
“หา ขนาดประธานหลิวก็ยังไม่รู้ ทำไมคุณถึงบอกฉันล่ะคะ?”“เพราะคุณเป็นคนจิตใจดี ผมเลยเชื่อคุณ อย่าคิดว่าผมตั้งใจชมคุณนะ คุณเตือนผมให้ระวังครั้งแล้วครั้งเล่า แค่นั้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าคุณเป็นคนที่จิตใจดีแล้ว”“คุณที่เป็นแบบนี้ สมควรแล้วที่จะได้รับความเชื่อใจ”เย่เทียนหยู่กล่าวออกมาพอถูกเย่เทียนหยู่ชมมากขนาดนี้ หัวใจของหลิวซือซือก็เต้นแรงอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เธอจะไม่ทำร้ายเย่เทียนหยู่อย่างแน่นอนอันที่จริง ตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาพูดกับหลิวซือซือ เย่เทียนหยู่ก็มีจุดประสงค์ของตัวเองอยู่แล้ว อันดับแรกคือเอาชนะความเชื่อใจของอีกฝ่ายที่มีต่อเหมยหรงหรงให้ได้จากนั้นเขาก็ค่อยย้ายหลินหว่านหรูออกมา ค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าว เพื่อที่จะได้ล้างสมองของหลิวซือซืออย่างสมบูรณ์ ทำให้เธอไม่ต้องเป็นหมากของประธานหลี่ว์อีก ทางที่ดีก็ทำให้เธอช่วยเป็นสายให้ตัวเองเข้าสืบข่าวภายในของหลี่ว์ซิงเหอเลยยิ่งดี“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ล่ะ? ”“เรื่องวันนี้คุณวางใจเถอะ คุณสั่งให้เกาเซ่อพูดอะไรบ้าง ฉันก็จะให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน” หลิวซือซือพูดรับประโยคของเขาต่อทันที ดูท่าแล้ว เธอคงจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่
พอเห็นว่าจางเหยียนตื่นเต้นมาก หลิวซือซือเลยคิดถึงเรื่องที่ตัวเองเกือบโดนข่มขืน จึงตอบออกไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา “พี่เหยียน พี่แน่ใจเหรอ ว่าประธานหลี่ว์อธิบายเรื่องของฉันให้พวกนั้นรู้แล้วจริง ๆ?”จู่ ๆ จางเหยียนก็ถูกถามออกมาแบบนี้ เธอเลยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็รีบพูดขึ้นว่า “แน่ใจสิ ฉันต้องแน่ใจอยู่แล้ว”พอสังเกตเห็นถึงความลังเลของจางเหยียน หลิวซือซือก็เดาคำตอบได้ แล้วพูดออกไปด้วยความโกรธ “ไร้สาระ เกาเซ่อบอกว่าไม่มีใครอธิบายเรื่องของฉันเลย เขาเกือบจะข่มขืนฉันแล้วด้วยซ้ำ”“หา มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ งั้นฉันก็น่าจะฟังผิดแล้วล่ะ” พอจางเหยียนเห็นว่าไม่สามารถซ่อนมันได้อีกแล้ว จึงพูดขึ้นทันที“งั้นเหรอ? ”“จริงสิ เธอคงไม่คิดว่าฉันโกหกเธอหรอกนะ พวกเราสนิทกันขนาดไหน ฉันจะโกหกเธอได้ยังไง”“นั่นก็จริง ฉันคงจะคิดมากไปเองแหละ” ปากหลิวซือซือพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับยังสงสัยในตัวเธออย่างชัดเจน“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ ว่าเย่เทียนหยู่เป็นยังไงบ้าง? ” จางเหยียนอดไม่ได้ที่จะถามต่อไปพอหลิวซือซือได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของเธอเย็นยะเยือกมากกว่าเดิม แล้วเธอก็ย
“เข้าใจแล้วก็ดี”พอจางเหยียนทิ้งคำพูดเหล่านี้เอาไว้แล้ว เธอก็จากไปด้วยสีหน้าที่ขุ่นเคือง เดิมทีเธอคิดว่ามันจะเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้แล้วแท้ ๆ ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ได้ ทำให้เธอผิดหวังจริง ๆหลิวซือซือส่ายหัว เธอตัดสินใจที่จะไม่สนใจเรื่องพวกนี้อีกต่อไป แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานในแผนกการขายของเธอต่อไปพอเย่เทียนหยู่ออกจากบริษัท ก็ตรงไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งทันที ช่วงนี้เพิ่งได้วิชาใหม่มา วันนี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะฝึกฝนอย่างหนักอยู่ที่วิลล่าแต่ก็เป็นเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้นพอมองดูเบอร์นั้น ก็เห็นว่าเป็นหลินหว่านหรูโทรมาที่แท้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ครอบครัวของปู่รองก็ตั้งใจมาหาเธอที่บ้าน และขอร้องให้หลินหว่านหรูหาทางจัดการกับหลาน ๆ ของพวกเขาหลานชายและหลานสาวของพวกเขาทานข้าวอยู่ข้างนอก แล้วไปเผลอไปทำให้คนของคุณชายเป้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่คิงคองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานหยางขุ่นเคืองเข้า จากนั้นก็ถูกอีกฝ่ายจับตัวเอาไว้ตอนนี้มันอันตรายมาก พวกเขากำหนดเวลาให้แค่สามชั่วโมงในการรวบรวมเงินประกันร้อยล้าน ไม่เช่นนั้นผู้ชาย
หลินหว่านหรูก็เองตกใจเล็กน้อยเช่นกัน แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลินจื่อตงเธอก็นึกถึงคนคนหนึ่งในทันทีในเวลานั้น สมาชิกตระกูลหลินทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย นอกจากหลิวเจี๋ยแล้ว ก็มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นอีกทั้งจื่อตงเองก็ดูเหมือนจะชื่นชมเย่เทียนหยู่เป็นพิเศษ ถ้าคำพูดเช่นนี้หลุดออกจากปากของเขา ก็เป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นเขาเพียงแต่ว่า ท่านชายเป้าจะให้เกียรติคนอย่างเย่เทียนหยู่ได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย“จื่อตง เลิกอ้ำอึ้งแล้วรีบบอกปู่รองมาเร็ว ๆ” ปู่รองถามอย่างตื่นเต้นทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แต่คราวนี้เขาไม่ได้อ้ำอึ้งแล้ว และพูดออกไปตามตรงว่า “ก็เย่เทียนหยู่ พี่เขยของผมในตอนนี้ยังไงล่ะ!”“ใครนะ?”“เย่เทียนหยู่?”“จื่อตง แกช่วยเลิกพูดเรื่องไร้สาระสักทีได้ไหม!”เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้น เธอก็กระโดดขึ้นและสาปแช่งทันที: “ถ้าเศษขยะอย่างเขามีความสามารถขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณทุกวันนี้?”ต่อมาเธอก็หันไปพูดกับปู่รอง: “คุณอา คุณอาจจะไม่รู้สินะคะ จื่อตงน่ะระยะนี้ไม่รู้ถูกปีศาจเข้าสิงหรือเปล่า เขาถึงได้เอาแต่ชมเย่เทียนหยู่ เอาแต่พล่ามเรื่องไร้สาระ”ปู่รองก็เองก็ได้แต่ยิ้มแห่ง
คุณแม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโมโหหลินหว่านหรูที่นิ่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยปากขึ้นมาในเวลานี้ “ขอหนูลองโทรไปถามก่อน”เธอไม่ได้พูดว่าเขาอาจจะทำได้ เพียงแต่เธอกำลังทำเพื่อรักษาหน้าแม่ของเธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอแอบคิดเหมือนกันว่าเย่เทียนหยู่ทำได้จริง ๆเมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้นก็โกรธทันที แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามหลินหว่านหรู ในเมื่อพวกคุณชอบทำให้ตัวเองอับอายมากนัก ก็ไปทำให้ตัวเองอับอายไปเลยสำหรับลูกสาว จะได้ให้เธอได้เห็นความจริงชัดเจนไปด้วยซะเลย จะได้ไม่ถูกคนอย่างเย่เทียนหยู่หลอกแน่นอนว่าใบหน้าของหลินจื่อตงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ในที่สุดตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว เขาแอบพึมพำพี่เขย คราวนี้คุณต้องส่งแรงให้หน่อยแล้วล่ะไม่อย่างนั้นผมเองก็ช่วยพี่ไม่ได้แล้วจริง ๆหลินหว่านหรูหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา ทันทีที่เธอเปิดมันเธอก็เจอหมายเลขของเย่เทียนหยู่และโทรออกทันทีเย่เทียนหยู่กำลังฝึกซ้อม ใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะสังเกตเห็นสายเรียกเข้า เขารับสายแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รัก มีอะไรหรือเปล่า?”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตอนนี้อิตาบ้านี่ชักเริ่มกล้าหาญขึ้นเรื
ทันทีที่หลินหว่านหรูวางสาย ปู่รองและสมาชิกครอบครัวก็ต่างก็จับจ้องไปที่หลินหว่านหรู พวกเขาต่างหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากเธอแม้ว่าจะบอกว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและดูเหมือนจะไร้หนทาง แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ได้คุยกันเรื่องนี้ แล้วยังขอหมายเลขโทรศัพท์ไปหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “เย่เทียนหยู่บอกว่าเขาจะลองดู แต่ไม่ได้รับประกันนะคะ” เธอไม่กล้ารับประกันให้เย่เทียนหยู่“ลองเหรอ?”“พวกคุณก็เอาแต่เชื่อคำโม้ลม ๆ แล้ง ๆ ของมันเท่านั้น!”“เชื่อไหมว่าภายในห้านาทีนี้เดี๋ยวมันก็โทรมาบอกว่าไม่ได้ผลเราทำอะไรไม่ได้”คุณแม่ตระกูลหลินล้อเลียน“ก็นั่นน่ะสิ ถ้าเขามีเก่งแบบนั้นจริงเขาคงจะไม่ขอเบอร์ท่านชายเป้าจากเราหรอก” หลินซินลูกชายของปู่รองก็พูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเช่นกัน“ถ้างั้นเราควรทำยังไงดี รีบจ่ายเงินกันเถอะนะ” ลูกสะใภ้ของคุณปู่รองกังวลมากปู่รองพยักหน้าและพูดว่า: “ถ้ายังไงเราจ่ายเงินกันดีกว่านะ”แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้นเธอก้มหน้าลงแล้วมอง เอ๊? นี่ไม่ใช่เบอร์ที่คุณปู่รองบอกเธอเมื่อกี้หรอกเหรอ?“ใครน่ะ?”ทุกคนตื่นเต้น และแน่นอนว่าพวกเขาให้ความ