หลินหว่านหรูก็เองตกใจเล็กน้อยเช่นกัน แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลินจื่อตงเธอก็นึกถึงคนคนหนึ่งในทันทีในเวลานั้น สมาชิกตระกูลหลินทุกคนก็อยู่ที่นั่นด้วย นอกจากหลิวเจี๋ยแล้ว ก็มีเพียงเย่เทียนหยู่เท่านั้นอีกทั้งจื่อตงเองก็ดูเหมือนจะชื่นชมเย่เทียนหยู่เป็นพิเศษ ถ้าคำพูดเช่นนี้หลุดออกจากปากของเขา ก็เป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นเขาเพียงแต่ว่า ท่านชายเป้าจะให้เกียรติคนอย่างเย่เทียนหยู่ได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย“จื่อตง เลิกอ้ำอึ้งแล้วรีบบอกปู่รองมาเร็ว ๆ” ปู่รองถามอย่างตื่นเต้นทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แต่คราวนี้เขาไม่ได้อ้ำอึ้งแล้ว และพูดออกไปตามตรงว่า “ก็เย่เทียนหยู่ พี่เขยของผมในตอนนี้ยังไงล่ะ!”“ใครนะ?”“เย่เทียนหยู่?”“จื่อตง แกช่วยเลิกพูดเรื่องไร้สาระสักทีได้ไหม!”เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้น เธอก็กระโดดขึ้นและสาปแช่งทันที: “ถ้าเศษขยะอย่างเขามีความสามารถขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณทุกวันนี้?”ต่อมาเธอก็หันไปพูดกับปู่รอง: “คุณอา คุณอาจจะไม่รู้สินะคะ จื่อตงน่ะระยะนี้ไม่รู้ถูกปีศาจเข้าสิงหรือเปล่า เขาถึงได้เอาแต่ชมเย่เทียนหยู่ เอาแต่พล่ามเรื่องไร้สาระ”ปู่รองก็เองก็ได้แต่ยิ้มแห่ง
คุณแม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโมโหหลินหว่านหรูที่นิ่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยปากขึ้นมาในเวลานี้ “ขอหนูลองโทรไปถามก่อน”เธอไม่ได้พูดว่าเขาอาจจะทำได้ เพียงแต่เธอกำลังทำเพื่อรักษาหน้าแม่ของเธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอแอบคิดเหมือนกันว่าเย่เทียนหยู่ทำได้จริง ๆเมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้นก็โกรธทันที แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามหลินหว่านหรู ในเมื่อพวกคุณชอบทำให้ตัวเองอับอายมากนัก ก็ไปทำให้ตัวเองอับอายไปเลยสำหรับลูกสาว จะได้ให้เธอได้เห็นความจริงชัดเจนไปด้วยซะเลย จะได้ไม่ถูกคนอย่างเย่เทียนหยู่หลอกแน่นอนว่าใบหน้าของหลินจื่อตงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ในที่สุดตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว เขาแอบพึมพำพี่เขย คราวนี้คุณต้องส่งแรงให้หน่อยแล้วล่ะไม่อย่างนั้นผมเองก็ช่วยพี่ไม่ได้แล้วจริง ๆหลินหว่านหรูหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา ทันทีที่เธอเปิดมันเธอก็เจอหมายเลขของเย่เทียนหยู่และโทรออกทันทีเย่เทียนหยู่กำลังฝึกซ้อม ใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะสังเกตเห็นสายเรียกเข้า เขารับสายแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รัก มีอะไรหรือเปล่า?”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตอนนี้อิตาบ้านี่ชักเริ่มกล้าหาญขึ้นเรื
ทันทีที่หลินหว่านหรูวางสาย ปู่รองและสมาชิกครอบครัวก็ต่างก็จับจ้องไปที่หลินหว่านหรู พวกเขาต่างหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากเธอแม้ว่าจะบอกว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและดูเหมือนจะไร้หนทาง แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ได้คุยกันเรื่องนี้ แล้วยังขอหมายเลขโทรศัพท์ไปหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “เย่เทียนหยู่บอกว่าเขาจะลองดู แต่ไม่ได้รับประกันนะคะ” เธอไม่กล้ารับประกันให้เย่เทียนหยู่“ลองเหรอ?”“พวกคุณก็เอาแต่เชื่อคำโม้ลม ๆ แล้ง ๆ ของมันเท่านั้น!”“เชื่อไหมว่าภายในห้านาทีนี้เดี๋ยวมันก็โทรมาบอกว่าไม่ได้ผลเราทำอะไรไม่ได้”คุณแม่ตระกูลหลินล้อเลียน“ก็นั่นน่ะสิ ถ้าเขามีเก่งแบบนั้นจริงเขาคงจะไม่ขอเบอร์ท่านชายเป้าจากเราหรอก” หลินซินลูกชายของปู่รองก็พูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเช่นกัน“ถ้างั้นเราควรทำยังไงดี รีบจ่ายเงินกันเถอะนะ” ลูกสะใภ้ของคุณปู่รองกังวลมากปู่รองพยักหน้าและพูดว่า: “ถ้ายังไงเราจ่ายเงินกันดีกว่านะ”แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้นเธอก้มหน้าลงแล้วมอง เอ๊? นี่ไม่ใช่เบอร์ที่คุณปู่รองบอกเธอเมื่อกี้หรอกเหรอ?“ใครน่ะ?”ทุกคนตื่นเต้น และแน่นอนว่าพวกเขาให้ความ
ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะกล้าแสดงละครเป็นท่านชายเป้ากันล่ะ? ถ้าให้ท่านชายเป้าตัวจริงรู้เรื่องนี้ มีหวังได้ตายอนาถกันพอดีในขณะนี้ คุณแม่ตระกูลหลินสับสนอย่างหนักความสามารถของเย่เทียนหยู่น่ากลัวและทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?แค่โทรไปสายเดียวก็ทำให้ท่านชายเป้ากลัวได้ขนาดนี้?ทำไมเรื่องราวต่าง ๆ ถึงรู้สึกเหลือเชื่อจนแทบไม่อาจทำให้ผู้คนเชื่อได้เลยไม่ มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆแต่ในเวลานี้ หลินจื่อตงคือคนที่รู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดเป็นไปตามที่คาด ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ ขอแค่พี่เขยของเรายอมออกหน้าไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาไม่ได้ไม่เพียงแต่แก้ไข แต่ยังน่าตกใจมากที่แม้แต่ท่านชายเป้าซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในเมืองเจียงไห่ก็ยังเคารพนบน้อม น่าตกใจเกินกว่าที่เขาเองจินตนาการเอาไว้เสียอีกพี่เขย!คุณหล่อมาก คุณคือไอดอลที่แท้จริงของผม!หลินหว่านหรูสงบลงและพูดอย่างเร่งรีบ: “ท่านชายเป้า ฉันขอโทษนะคะ พวกเขาไม่รู้จักค่อยรู้จักคุณ เพราะอย่างนั้นพวกเขาก็เลยเข้าใจผิดว่าคุณไม่ใช่ตัวจริง”“มันไม่สำคัญหรอกครับ ขอแค่คุณหลินไม่ตำหนิเรื่องที่ผมทำก็พอแล้ว”เท่าชายเป้ากล่าวอย่างสุภาพ“จะเป็นแบบนั้นไ
ครั้งนั้นท่านชายเป้าล่าถอยไปกะทันหันไม่ใช่เพราะหลิวเจี๋ยแต่เป็นเพราะเทียนหยู่ถึงได้ยอมถอยเธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ แต่ข้อเท็จจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอทำให้เธอต้องเชื่อแบบนั้นมันเป็นความจริง!ถ้าอย่างนั้นอำนาจของเย่เทียนหยู่?คนที่สามารถทำให้ท่านชายเป้าหวาดกลัวได้นั้นจะต้องมีความมีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวขนาดไหนหลินจื่อตงรู้สึกตื่นเต้นมาก รู้อยู่แล้วเชียวว่าต้องเป็นพี่เขยที่ช่วยเราไว้ในวันนั้นจริง ๆต่อให้ตัวเองปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น แต่เขาก็ยังช่วยตัวเองเอาไว้แต่เขาไม่เคยคิดเลย ว่าในเวลานั้นเย่เทียนหยู่ไม่พูดอะไรเลย และจางเป้าก็ถอยกลับไปด้วยตัวเองหลังจากที่ท่านชายเป้าพูดจบ เขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเสียง เขากังวลมากจึงพูดอย่างเร่งรีบ: “ประธานหลิน ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่าครับ? ถ้าผมพูดไปก็อย่าถือโทษผมเลยนะครับ”เป็นความผิดของเขาเองที่เมื่อครู่พูดจาเย่อหยิ่งไปหน่อยแต่แน่นอนว่าเขาดูถูกขยะอย่างหลิวเจี๋ยจริง ๆ“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เพราะคุณหรอกนะคะ” หลินหว่านหรูส่ายหน้าแต่คุณแม่ตระกูลหลินยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ “ท่านชายเป้า ความสัมพันธ์ของคุณกับเย่เทียนหยู่เป็นยังไงบ้าง? ทำไมคุณถึงต้
“อะไรนะ ได้เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงเพราะเย่เทียนหยู่เหรอ?”“แล้วยังเรื่องที่ไปจัดการภรรยาตระกูลซา กับทำให้ซ่งหยางยอมอ่อนข้อ เรื่องทั้งหมดนี่เย่เทียนหยู่ทำเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ?”“แถมเรื่องท่านชายเป้าด้วยวันนี้!”“เย่เทียนหยู่ ไอ้คนไร้อำนาจที่ลงจากภูเขาอย่างมันมีอำนาจขนาดนี้ได้ยังไง หว่านหรู ลูกแน่ใจหรือเปล่าว่าลูกไม่ได้ถูกเย่เทียนหยู่หลอกอยู่น่ะ?”“ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ หนูไปรู้เรื่องนี้มาด้วยตัวเอง ว่าไปแล้วหลังจากเรื่องวันนี้ เขาคงไม่ได้หลอกเราหรอกใช่ไหมคะ” หลินหว่านหรูถามกลับ“ถ้าอย่างนั้นเย่เทียนหยู่ก็กำลังซ่อนความลับอะไรเอาไว้จริง ๆ สินะ”คุณแม่ตระกูลหลินตกใจมาก ถ้าเย่เทียนหยู่มีอำนาจขนาดนั้นเธอยังจะต้องไปตามหาลูกเขยใหม่ที่ข้างนอกนั่นทำไมอีก“แม่ครับ เรื่องที่ผมบอกมันเป็นเรื่องจริงนะ ผมบอกไปตั้งนานแล้วว่าพี่เขยผมคนนี้น่ะอำนาจเหนือคนธรรมดา ต้องไม่ใช่แบบที่แม่คิดแน่” หลินจื่อตงกล่าวเสริม“จื่อตง ลูกไปเจอเรื่องอะไรมาใช่ไหม?”ก่อหน้านี้ คุณแม่ตระกูลหลินคิดมาตลอดว่าลูกชายของเธอเป็นบ้า แต่การค้นพบหลายเรื่องในระยะนี้ นอกจากมุมมองที่มีต่อเย่เทียนหยู่แล้ว ลูกของเธอก็ยังปกติดีทุ
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอเชิญเย่เทียนหยู่แล้ว คุณแม่ตระกูลหลินก็พออกพอใจ ก่อนจะให้ลูกสาวกลับไปที่ห้องได้คุณพ่อตระกูลหลินกลับมาดึกเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจมาก เขาไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะมีความสามารถขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปกติเขาจะทนงตนขนาดนั้นดูท่าพรุ่งนี้คงต้องพยายามกำจัดความขัดแย้งกันเสียหน่อยไม่นานก็มาถึง 11 โมงของวันรุ่งขึ้น แต่ว่าเย่เทียนหยู่ก็ยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี้ทำให้คุณแม่ตระกูลหลินออกจะรู้สึกกังวลเล็กน้อย: “หว่านหรู ทำไมเย่เทียนหยู่ยังไม่มาอีก ลูกช่วยโทรไปถามหน่อยสิว่าเขาอยู่ที่ไหน” เธอพูดกับหลินหว่านหรูหลินหว่านหรูไร้ทางเลือก แม่ของเธอดูใช้อำนาจมากเกินไปแล้วเมื่อก่อน เธอใช้ทุกวิถีทางเพื่อขับไล่เย่เทียนหยู่ออกจากบ้าน แต่ตอนนี้ดันอยากจะหาราชรถไปรับเขากลับเข้าบ้านมาเสียอย่างนั้นแต่ในตอนนั้นเอง คนรับใช้ที่ถูกจัดให้เฝ้าประตูเข้ามาและรายงานว่า: “คุณนายคะ เย่เทียนหยู่มาแล้วค่ะ”“มาแล้วเหรอ? ยอดเลย!”“แล้วนี่เธออะไรกัน กล้ามาเรียกชื่อเย่เทียนหยู่ ต้องเรียกว่าคุณชาย!”แม้ว่าคุณแม่ตระกูลหลินจะกำลังตื่นเต้น แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะดุคนรับใช้“ค…ค่ะ ฉันผิดไปแ
หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อยากจะบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นแบบไหนกัน แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะเธอเองก็อยากยกเลิกข้อตกลงนี้เหมือนกัน“เจ้าเด็กโง่ มัวอมพะนำอะไรอยู่ ทำไมไม่พูดล่ะ?” แม่หลินเป็นกังวล“ฉ…ฉันฟังพ่อแม่ของฉันค่ะ”หลังจากที่ หลินหว่านหรูพูดจบคอของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยทันที แน่นอนว่าเธอไม่อยากหย่า ก็เลยอาศัยจังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์“นั่นสินะ เทียนหยู่คุณก็เห็นแล้วใช่ไหม ว่าหว่านหรูไม่ได้ต้องการหย่ากับคุณหรอกนะ”“แม่ พูดถึงเรื่องอะไรกันคะ”“แม่พูดไร้สาระหรือไง แกคิดอะไรแม่จะไม่รู้เหรอ? เมื่อก่อนบอกให้หย่ากับเย่เทียนหยู่ลูกเคยฟังที่ไหน พอมาตอนนี้บอกให้ยกเลิกการหย่าแล้วคบกับเย่เทียนหยู่ต่อล่ะรับปากไวเสียยิ่งกว่าใคร”บางครั้งแม่ตระกูลหลินก็ฉลาดพอตัว“แม่!”“ก็ได้ แม่ไม่บ่นลูกก็ได้!”คุณแม่ตระกูลหลินหันไปหาเย่เทียนหยู่ แล้วพูดว่า “เทียนหยู่ เมื่อก่อนแม่อาจจะปฏิบัติต่อคุณเอาไว้แย่มาก แต่นั่นเป็นเพราะแม่เข้าใจผิดไป”“แม่คิดมาตลอดว่าคุณเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เอาแต่เที่ยวเล่นใช้ประโยชน์จากคนอื่น คิดว่าคุณคงให้ความสุขกับหว่านหรูไม่ได้ ก็เลยพูดคำ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ
ในตอนที่เพิ่งจะเดินเข้าไป ก็เห็นว่าพ่อตระกูลหลินกำลังเดินออกมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นออกไปว่า “หว่านหรู ในที่สุดแกก็มาแล้ว ขืนแกยังไม่มา แม่แกคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอแทบไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยสีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชาอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของทั้งสอง สีหน้าพ่อตระกูลหลินก็ดูหมดหวัง และคิดว่าหลายสิ่งที่พวกเขาทำมันเกินไปแล้วจริง ๆ เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีเป็นเพราะเขาเดินตามทั้งสองเข้าไป พ่อตระกูลหลินถึงเข้าไปด้วยได้ เดิมที เขาแค่จะมาดูแม่ตระกูลหลินเท่านั้นภายใต้การนำทางของตำรวจ หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ก็ได้มาถึงห้องขังที่แม่ตระกูลหลินอยู่แม่ตระกูลหลินเองก็รู้ว่าหลินหว่านหรูมาถึงแล้ว ทันทีที่เห็นทั้งสอง เธอก็รีบลุกขึ้น และเดินมาหาทันที ดวงตาของเธอแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “หว่านหรู ลูกรักของแม่ ลูกมาแล้วเหรอ!”มองดูดวงตาที่แดงก่ำของแม่ตระกูลหลิน บวกกับท่าทีตื่นเต้นโดยเฉพาะสีหน้าที่ดูอ่อนเพลียและซีดเซียวของเธอ แม้แต่ผมเผ้าเองก็ยังดูยุ่งเหยิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เธอดูน่าสงสารอย่างมากบวกกับที่เธอพูดคำว
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต
ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน
“ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้