หลังจากได้รับกุญแจคืนจากหลินหว่านหรูแล้ว เย่เทียนหยู่ก็มาถึงโรงรถ แล้วขึ้นรถของตัวเองหลิวซือซือก็ขึ้นรถไปแล้วด้วยเช่นกัน แต่แค่เธอเข้าไปนั่งตรงเบาะหลังแทนเย่เทียนหยู่ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก บางทีหญิงสาวอาจจะคิดว่าเขาอาจจะทำเรื่องไม่ดีกับเธอก็ได้ล่ะมั้งเดิมทีหลิวซือซือคิดว่าเย่เทียนหยู่จะให้เธอมานั่งข้างหน้า แต่เย่เทียนหยู่ไม่เพียงแต่ไม่ให้เธอนั่งเท่านั้น ระหว่างทาง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียวสายตามองทางไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว“หัวหน้าเย่ คุณไม่มีอะไรจะอธิบายหน่อยเหรอคะ? ” หลิวซือซืออดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดก่อน“ไม่มีนะ เพราะตัวผมเองก็สับสนเหมือนกัน ไม่รู้อะไรเลย จะให้ผมอธิบายอะไรให้คุณฟังล่ะ”“นี่ คุณไม่ได้ทำความเข้าใจภูมิหลังของอีกฝ่าย ไม่ได้ทำความเข้าใจว่าพวกเราควรจะใช้วิธีไหนในการรับมือกับพวกเขาเลยอย่างงั้นเหรอ? ”“ไม่มี ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรพวกนั้นก็ได้มั้ง ก็เคยพูดเอาไว้แล้วนี่ เราแค่มาหารือเกี่ยวกับการชำระหนี้ของพวกเขาก็เท่านั้น จากนั้นก็จัดการเอกสารอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เสร็จแล้วไม่ใช่รึไง? ”“นี่……”หลิวซือซือยิ้มอย่างขมขื่น เธอไ
ในทางตรงกันข้าม สีหน้าของหลิวซือซือกลับเปลี่ยนไป เธอกังวลจนทำอะไรไม่ถูก ต่อให้จะรู้อยู่แล้วว่าประธานหลี่ว์จะอธิบายกับคนพวกนั้นเอาไว้ก่อนแล้ว และต่อให้คนพวกนั้นจะไม่ทำร้ายเธอก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกกลัวอยู่ดีเธออดไม่ได้ที่จะมองไปยังเย่เทียนหยู่ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ แต่เธอกลับตกใจมากว่าเมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่กังวลเลยสักนิด สงบนิ่งโดยสมบูรณ์นี่เขามองไม่ออกเหรอว่าคนพวกนี้มาเพื่อจัดการเขา?คนที่นั่งตรงกลาง ใบหน้าที่ดูหยาบกร้านของเกาเซ่อก็รู้สึกตกใจเช่นกัน แล้วพูดออกไปด้วยท่าทีที่เย็นชา “คุณก็คือหัวหน้าคนใหม่ของหลินซื่อกรุ๊ป เย่เทียนหยู่สินะ? ”“ใช่! ”สีหน้าของเย่เทียนหยู่ดูสงบ ถึงขั้นเดินไปนั่งด้านหน้าด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ประธานเกา ผมอยู่นี่แล้ว คุณเตรียมเงินของคุณไว้แล้วหรือยัง? ”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนรอบ ๆ ก็หัวเราะกันใหญ่“ฮ่า ๆ ตลกชะมัด เจ้าหนูนี่ คิดว่าเขามาทวงหนี้จริง ๆ แล้วนะเนี่ย”“ไม่สิ เคยเห็นคนโง่นะ แต่ไม่เคยเห็นคนที่โง่ได้ขนาดนี้มาก่อน” ชายผมสั้นก็พูดเช่นกันแม้แต่หลิวซือซือก็ยังพูดไม่ออก หัวหน้าเย่ คุณพูดจาโอ้อวดมากขนาดนั้นในบริษัท แ
“พอได้แล้ว จะโวยวายแค่ไหนก็ไม่มีใครสนใจคุณหรอก อย่าว่าแต่ประธานหลี่ว์ไม่เคยพูดถึงคุณเลย วันนี้ต่อให้ประธานหลี่ว์อยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องมอบตัวคุณให้ผมอยู่ดี”เกาเซ่อหัวเราะอย่างเย็นชาเดิมทีประธานหลี่ว์ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเลยตั้งแต่แรก ซึ่งก็หมายความว่าเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนี้แล้วอีกอย่าง ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ลูกน้องประธานหลี่ว์สักหน่อย มีแค่ร่วมมือกันก็เท่านั้น เพื่อช่วยเขาจัดการกับเย่เทียนหยู่ทำยังไงก็ได้ให้เขากลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ทำให้เขากลายเป็นแค่คนโง่คนหนึ่ง ถ้าไม่สำเร็จจริง ๆ อย่างน้อยก็ตัดขาทั้งสองข้างของเขาซะในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะมามัวสนใจประธานหลี่ว์อะไรนั่นอยู่ทำไมกันทันทีที่เกาเซ่อพูดคำเหล่านี้ออกมา หลิวซือซือก็กลัวแทบตาย ในตอนนี้เอง เธอรู้สึกเสียใจมาก ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอคงไม่มาตั้งแต่แรกแล้วเธอกังวลมากจนเกือบจะเป็นบ้า แล้วพูดออกไปเสียงดัง “หัวหน้าเย่ คุณพูดเอาไว้แล้วไม่ใช่รึไง ในฐานะสมาชิกในทีมของคุณ คุณจะไม่ยอมให้ใครถูกรังแกทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้คุณเป็นคนพาฉันมาที่นี่ด้วยตัวเองอีก”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็หัวเราะออกมาเบา ๆ แล้ว
“รนหาที่ตายนักนะ!”ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกดูหมิ่น แต่ละคนพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง การโจมตีในแต่ละครั้งของพวกเขารุนแรงมาก แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเรื่องแบบนี้ผั๊วะ ผั๊วะ......ในแววตาที่เป็นกังวลและตื่นตระหนกของหลิวซือซือ เธอเห็นแค่พวกอันธพาลที่รีบบุกเข้าไปก่อนหน้านี้ ต่างก็กรีดร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด จากนั้นล้มลงไปกองอยู่กับพื้นกันทีละคนได้แต่นอนอยู่กับพื้น จะลุกขึ้นมาก็ไม่ไหว รวมถึงหัวหน้าของพวกเขาอย่างเกาเซ่อก็เช่นกันต่อให้เกาเซ่อจะดูทรงพลังมากแค่ไหน จะลงมือได้โหดเหี้ยมสักเพียงใด แต่เขาก็ยังไม่สามารถรับมือกับหัวหน้าเย่ได้อยู่ดี ได้แต่ต้องยอมจำนนเท่านั้นในตอนนี้เอง เธอก็รู้สึกตกใจมากเธอเคยเห็นฉากดังกล่าวแต่ในทีวี แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ในความเป็นจริงจะมีคนที่เก่งกังฟูขนาดนี้อยู่ ไม่นานก็ทำให้เธอรู้สึกนับถือในตัวเขามากจริง ๆแน่นอนว่าเธอรู้สึกตกใจมากกว่าเกาเซ่อและคนอื่น ๆ มองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยความตกใจและหวาดกลัว แล้วถามด้วยความไม่เชื่อ “คะ คุณเป็นใครกันแน่? ”“ผมชื่อเย่เทียนหยู่ หัวหน้าทีมฝ่ายการขายของหลินซื่อกรุ๊ปไง เมื่อกี้ผมเพิ่งจะแนะนำตัวให้คุณร
เย่เทียนหยู่จึงถามออกไปอีกว่า “งั้นคุณมีหลักฐานว่าคุณกับประธานหลี่ว์ร่วมมือกันไหม อย่างเช่นคลิปเสียง หรืออะไรอย่างอื่น?”“เรื่องนี้ ไม่มีเลย! ”พอเห็นว่าแววตาของเย่เทียนหยู่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาก็ตกใจแทบแย่ จึงพูดขอร้องออกมา “ผมไม่มีจริง ๆ ถ้าผมมี ผมจะต้องมอบให้คุณอย่างแน่นอน”“ก็พอจะดูออก ว่าคุณคงไม่มีจริง ๆ คุณนี่ทำให้ผมลำบากจริง ๆ” เย่เทียนหยู่ถอนหายใจ“อย่า อย่าคิดว่ามันลำบากเลยครับ หัวหน้าเย่ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริง ๆ หากคุณมีอะไรที่ต้องการให้เราช่วย ขอแค่คุณบอกมาได้เลย ผมจะทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน”เกาเซ่อพูดขอร้องอย่างสั่นเทาใบหน้าของคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้จะทำให้พวกเขาลำบากใจอยู่แล้ว เขาส่ายหัว ถอนหายใจ แล้วพูดออกมา “ช่างมันเถอะ ผมคนนี้เป็นคนมีน้ำใจซะด้วยสิ ไม่อยากทำร้ายผู้อื่นไหร่”“ในเมื่อคุณสารภาพทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ผมก็จะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ครั้งนี้ผมจะปล่อยไปก็ได้”“ดีมากเลย ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ หัวหน้าเย่! ”พอเกาเซ่อได้ยินแบบนั้น ก็ตื่นเต้นมาก เขาก้มหัวคำนับให้หลายที ทำให้เห็นถึงความหวาดกลัวในใจของเขา และก็ทำให้เห็นถึ
“มีไม่มีก็ไม่สำคัญหรอก เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แล้วก็นะ เมื่อกี้ที่ผมจงใจยกตัวคุณให้พวกเขา คุณไม่โทษผมแล้วเหรอ?”เย่เทียนหยู่กล่าวพอพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของหลิวซือซือก็โกรธอยู่จริง ๆ แต่ไม่นานเธอก็นึกขึ้นได้ เรื่องทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพราะตัวเธอเองทั้งนั้น คนที่ผิดก็ยังเป็นเธออยู่ดีดังนั้น เธอจึงส่ายหัว และพูดว่า “เอาจริง ๆ ตอนนั้นฉันโกรธมากค่ะ แต่ฉันจะโทษคุณก็ไม่ได้”“ไม่โทษผมก็ดี อันที่จริง ผมอยากถามอะไรคุณหน่อยน่ะ ถ้าผมจะไล่เหมยหรงหรงออกจากบริษัท คุณจะเกลียดผมไหม? ” เย่เทียนหยู่ถามออกไปทันที“เรื่องนี้ ทำไมฉันจะต้องเกลียดคุณด้วยล่ะคะ? ” ใบหน้าของหลิวซือซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย“เพราะเหมยหรงหรงเป็นหัวหน้าของคุณไง ความสัมพันธ์ของพวกคุณก็น่าจะดีมาก ๆ เลยไม่ใช่รึไง”“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็น่าจะรู้ว่าตอนที่เหมยหรงหรงอยู่ในบริษัท เธอแอบทำอะไรเอาไว้บ้างสินะ? ”พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของหลิวซือซือก็ดูเครียดมาก และพูดขึ้นมาทันที “หัวหน้าเย่คะ เมื่อกี้คุณเป็นคนช่วยฉันเอาไว้ก็จริง แต่ถ้าจะให้ฉันพูดเรื่องไม่ดีของพี่หรงออกมา ฉันคงพูดออกมาไม่ได้หรอกค่ะ”“เป็นแบบ
“หา ขนาดประธานหลิวก็ยังไม่รู้ ทำไมคุณถึงบอกฉันล่ะคะ?”“เพราะคุณเป็นคนจิตใจดี ผมเลยเชื่อคุณ อย่าคิดว่าผมตั้งใจชมคุณนะ คุณเตือนผมให้ระวังครั้งแล้วครั้งเล่า แค่นั้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าคุณเป็นคนที่จิตใจดีแล้ว”“คุณที่เป็นแบบนี้ สมควรแล้วที่จะได้รับความเชื่อใจ”เย่เทียนหยู่กล่าวออกมาพอถูกเย่เทียนหยู่ชมมากขนาดนี้ หัวใจของหลิวซือซือก็เต้นแรงอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เธอจะไม่ทำร้ายเย่เทียนหยู่อย่างแน่นอนอันที่จริง ตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาพูดกับหลิวซือซือ เย่เทียนหยู่ก็มีจุดประสงค์ของตัวเองอยู่แล้ว อันดับแรกคือเอาชนะความเชื่อใจของอีกฝ่ายที่มีต่อเหมยหรงหรงให้ได้จากนั้นเขาก็ค่อยย้ายหลินหว่านหรูออกมา ค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าว เพื่อที่จะได้ล้างสมองของหลิวซือซืออย่างสมบูรณ์ ทำให้เธอไม่ต้องเป็นหมากของประธานหลี่ว์อีก ทางที่ดีก็ทำให้เธอช่วยเป็นสายให้ตัวเองเข้าสืบข่าวภายในของหลี่ว์ซิงเหอเลยยิ่งดี“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ล่ะ? ”“เรื่องวันนี้คุณวางใจเถอะ คุณสั่งให้เกาเซ่อพูดอะไรบ้าง ฉันก็จะให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน” หลิวซือซือพูดรับประโยคของเขาต่อทันที ดูท่าแล้ว เธอคงจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่
พอเห็นว่าจางเหยียนตื่นเต้นมาก หลิวซือซือเลยคิดถึงเรื่องที่ตัวเองเกือบโดนข่มขืน จึงตอบออกไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา “พี่เหยียน พี่แน่ใจเหรอ ว่าประธานหลี่ว์อธิบายเรื่องของฉันให้พวกนั้นรู้แล้วจริง ๆ?”จู่ ๆ จางเหยียนก็ถูกถามออกมาแบบนี้ เธอเลยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็รีบพูดขึ้นว่า “แน่ใจสิ ฉันต้องแน่ใจอยู่แล้ว”พอสังเกตเห็นถึงความลังเลของจางเหยียน หลิวซือซือก็เดาคำตอบได้ แล้วพูดออกไปด้วยความโกรธ “ไร้สาระ เกาเซ่อบอกว่าไม่มีใครอธิบายเรื่องของฉันเลย เขาเกือบจะข่มขืนฉันแล้วด้วยซ้ำ”“หา มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ งั้นฉันก็น่าจะฟังผิดแล้วล่ะ” พอจางเหยียนเห็นว่าไม่สามารถซ่อนมันได้อีกแล้ว จึงพูดขึ้นทันที“งั้นเหรอ? ”“จริงสิ เธอคงไม่คิดว่าฉันโกหกเธอหรอกนะ พวกเราสนิทกันขนาดไหน ฉันจะโกหกเธอได้ยังไง”“นั่นก็จริง ฉันคงจะคิดมากไปเองแหละ” ปากหลิวซือซือพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับยังสงสัยในตัวเธออย่างชัดเจน“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ ว่าเย่เทียนหยู่เป็นยังไงบ้าง? ” จางเหยียนอดไม่ได้ที่จะถามต่อไปพอหลิวซือซือได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของเธอเย็นยะเยือกมากกว่าเดิม แล้วเธอก็ย
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ