การเปลี่ยนคำของเธอมันชัดเจนเกินไป เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “ซูถิงใช่ไหม เธอเชื่อใจเขาขนาดนั้นเลยหรอ?”หลินหว่านหรูมองท่าทางเหนื่อยหน่ายของเย่เทียนหยู่ออกก่อนจะรีบอธิบาย “นายไม่ชอบเธอฉันพอจะเข้าใจแต่ว่าเธอไม่ได้คิดร้ายจริงๆนะ”“ครั้งนี้ก็เพราะเธอได้ยินว่าทีม 1 กับทีม 2 แข่งกันเรื่องยอดขายก็เลยช่วยหาคนมาจัดการเรื่องนี้ให้ จะได้ทำให้ทีม 2 มีโอกาสชนะทีม 1 ก็เหมือนกับว่าได้ช่วยนายด้วย”“ช่วยฉัน?”“ไม่จำเป็นหรอก!”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า “ฉันสงสัยจริงๆนะ เรื่องที่ทั้งสองทีมแข่งจะแข่งกันก็เป็นเรื่องที่ตกลงกันไปแค่ไม่กี่วันนี้เอง ทำไมถึงรู้?”“เธอก็ทำงานที่บริษัท ตอนนี้ทำอยู่ที่ฝ่ายบริหาร!”“ก่อนหน้านี้ก็ใช่อยู่ว่ามีปัญหากัน แต่ว่าตอนหลังเธอก็เข้ามาขอโทษฉัน เธอบอกว่าถึงแม้จะรู้ว่าทำไปเพื่อฉันแต่ก็ไม่ควรตัดสินใจเอง ต่อจากนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถามความคิดเห็นฉันก่อน”พูดมาถึงตรงนี้ หลินหว่านหรูก็เริ่มที่จะพูดแทนซูถิง “ท่าทางของเธอจริงใจมาก เธอรู้สึกผิดจริงๆ ฉันเองก็ห้ามใจไม่ได้เลยให้อภัยไป”พูดถึงตอนนี้ก็มีคนมาเคาะประตู“เข้ามา!”หลินหว่านหรูพูดหลังจากประตูเปิดอ
ซูถิงถือโอกาสเสนอความคิดเห็น“อืม ถ้ามีเวลาไว้ค่อยนัดกัน”“ค่ะ งั้นฉันไปทำงานก่อนนะคะ”หลังจากหลินหว่านหรูพยักหน้าแล้ว ซูถิงถึงได้เดินออกไป ในใจอดจะหัวเราะไม่ได้ก้าวแรกเรียบร้อยแล้วต่อไปก็เริ่มก้าวที่สองเย่เทียนหยู่ อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกาจมาจากไหนแล้วก็จะได้หว่านหรูไปถ้ามีฉันอยู่อย่าหวังว่าจะสมหวังหลินหว่านหรู ในเมื่อเธอแย่งผู้ชายของฉันไปก็อย่ามาโทษฉัน เพราะไม่ว่ายังไงก็จะแยกพวกเธอให้ได้รอดูเถอะ เจ้าชีวิตของเธออย่างคุณชายกงซุนกำลังจะมาแล้วในเมื่อซูถิงทั้งเกรงใจทั้งขอโทษทั้งรับรองแสดงละครครบด้านขนาดนี้เย่เทียนหยู่ก็พูดอะไรไม่ได้“เย่เทียนหยู่นายเองก็เห็นแล้วว่าซูถิงเขารู้สึกผิดจริงๆ”“ต่อจากนี้นายก็อย่ามองเธอในแง่ลบนักเลย ที่จริงแล้วถ้าตัดว่าเธอเป็นคนปากร้ายไปก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ”“โอเค!”เมื่อกี้เย่เทียนหยู่ก็จ้องมองสายตาของเธอตอนพูดว่ามีวี่แววว่าจะกลับใจหรือไม่เพราะแค่มองดูก็รู้แล้ว อย่างน้อยๆเขาก็พอดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีวี่แววว่าจะกลับใจเลยแต่ตอนนี้พูดอะไรมากไม่ได้ ได้แต่รอเวลามาพิสูจน์ทุกอย่างเท่านั้น“เอาล่ะ เรื่องของซูถิงก็ถือว่าจบไปแล้วพวกเรามาคุยเรื่องค
“นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ กลับไปตั้งใจทำงานล่ะ ตราบใดที่ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ฉันจะปกป้องคุณ”ในที่สุดหลินหว่านหรูก็โล่งอก“โอเค ฉันจะฟังคุณ”เย่เทียนหยู่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดมากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วแค่ซูถิงคนเดียวก็ไม่สามารถเอาชนะพายุลมนี้ได้ เมื่อออกจากสำนักงานก็เดินทางกลับไปที่ทีมทันทีในเวลานี้ ทีมสองก็ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ หลายคนคาดเดาว่าเย่เทียนหยู่จะเผชิญกับสถานการณ์ยังไงเพราะนั่นคือประธานหลินที่ทุกคนเกรงกลัวประธานหลินในสายตาของทุกคน มันดูสง่างามและน่ากดดันมาก แม้แต่การพูดสองสามคำก็ทำให้พวกเขารู้สึกประหม่ามากเพราะในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ประธานหลินที่บ้าอำนาจเมื่ออยู่ในบริษัทมักจะทำให้ผู้คนหวาดกลัว และยังกวาดล้างมอดที่มีผู้นำระดับสูงวางแผนไว้ไม่น้อย“ รีบดูสิ เย่เทียนหยู่กลับมาแล้ว! ”“ใช่ เขากลับมาแล้ว! ”“แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ดีไม่น้อยเลย ไม่ได้คอตกเหมือนคนหดหู่ใจ”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่ากำลังฮัมเพลงอยู่ด้วย”ทุกคนพูดไม่ออก และหลี่ซินเยว่ก็งงเช่นกัน เพราะในกรณีปกติแแล้วเย่เทียนหยู่จะต้องถูกไล่ออกแน่นอน แม้ว่าเขาจะบุกเข้าไปที่ห้องทำงานประธานก็ตามไม่ใช่ ผลที่ตามมาของการบุกเข้าไป
“ แต่นั่นคือความจริง! ”“ เมื่อสักครู่ฉันตั้งใจไปที่สำนักงานของประธานหลินโดยเฉพาะ และได้รับการยืนยันว่าเย่เทียนหยู่จัดการกับเงินคืนทั้งสามรายการนั้น” หลิวเหวินตอบอย่างเย็นชาอ๋า!มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง!สีหน้าของหวังลิ่วน่าเกลียดเหมือนกินแมลงวันหมื่นตัวเข้าไป เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้คนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนไม่กี่คนที่มักโจมตีเย่เทียนหยู่อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ดีกว่าหวังลิ่วมาก เพราะส่วนมากเป็นการโจมตีด้วยความโกรธในเวลานี้ หวังลิ่วนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดไป ถ้ามีเขาต้องไม่มีเย่เทียนหยู่ ถ้ามีเย่เทียนหยู่ต้องไม่มีเขาตอนนี้เย่เทียนหยู่ผู้เป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกไล่ออกตอนนี้หวังลิ่วรู้สึกเสียใจมาก ถ้ารู้อย่างนี้เขาคงรอและค่อยจัดการทีเดียวเมื่อนึกถึงเย่เทียนหยู่บอกว่าให้เขาอย่าชะล่าใจ ถ้าไม่รู้ว่าจะเสียใจแค่ไหน ก็ไม่ควรดีใจไปตั้งแต่เนิ่นๆหลี่ซินเยว่ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา "เย่เทียนหยู่ ขอโทษนะ เมื่อสักครู่ฉันเข้าใจผิดคุณและฉันหยาบคายกับคุณเล็กน้อย"“ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจอารมณ์ของคุณ ยิ่งไป
ใบหน้าหลี่ซินเยว่ที่ดูลำบากใจและมองไปที่หลิวเหวินอย่างช่วยไม่ได้สีหน้าหลิวเหวินเยือกเย็นและเคร่งครึมมาก จึงถามด้วยความเย็นชาว่า “ เย่เทียนหยู่ คุณแน่ใจหรือว่าจะต้องทำแบบนี้ ต้องให้พวกคุณใครสักคนหนึ่งออกไป ”ทุกคนตกใจมาก แม้ว่าประธานหลิวจะดูไม่บ้าอำนาจเหมือนประธานหลิน แต่การลงมือก็แข็งแกร่งมากเช่นกันจากทัศนคติของเธอแล้ว หากเย่เทียนหยู่ไม่เชื่อฟังวินัย คนที่ต้องออกไปอาจจะเป็นเขาเมื่อหลี่ซินเยว่เห็นแบบนี้จึงก็กระซิบอย่างรวดเร็วว่า “เย่เทียนหยู่ อย่าเพิ่งตื่นเต้นไปก่อนเลย เรามาปรึกษากันหน่อยไหม บางทีอาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ก็ได้ ”“ ใช่ๆ เย่เทียนหยู่ ฟังหัวหน้าทีมของเราเถอะ ”หลิวสุ่ยก็เข้าใจหลิวเหวินอยู่บ้าง จึงรีบพูดโน้มน้าวใบหน้าหวังลิ่วรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าประธานหลิวจะช่วยตนจริงๆ ภายในใจยังคงพึมพำอยู่ว่าอย่าปรึกษา อย่าปรึกษาแน่นอน เย่เทียนหยู่ส่ายหัวอย่างที่เขาคิดจริงๆ และเขาพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ ขอโทษนะ คุณหัวหน้าทีม ผมไม่สามารถฟังคุณเรื่องนี้ได้ วันนี้ใครก็ตามไม่สามารถพูดคุยเรื่องความรู้สึกกับผมได้ ”ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และไม่คิดว่าเย่เทียนหยู่จะแข็งแกร
เนื่องจากประธานหลินใส่ใจในตัวเย่เทียนหยู่ หลังจากหลิวเหวินเดินออกมาก็รีบไปรายงานกับหลินหว่านหรูทันทีไม่คิดว่าเมื่อหลินหว่านหรูได้ฟังแล้วจะรู้สึกโกรธมาก ๆ และเป็นเรื่องยากที่จะทำเธอโกรธได้ขนาดนี้เมื่อพูดคุยเจรจากันอย่างชัดเจนว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน จึงขอร้องให้เธอต้องเก็บเย่เทียนหยู่ไว้ทันทีหลิวเหวินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินกลับไป เพีงแต่ในใจเธองงจริง ๆ ว่า เย่เทียนหยู่มีพลังศักดิ์สิทธิ์อะไรทำไมถึงทำให้ประธานหลินสนใจขนาดนี้“ ซินเยว่ คุณมาที่นี่สักครู่ ”หลี่ซินเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย รีบลุกขึ้นและติดตามไปเมื่อเดินไปข้าง ๆ หลิวเหวินก็พูดว่า “ คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเย่เทียนหยู่และหวังลิ่วตั้งแต่เริ่มต้นให้ฉันฟังที”หากคุณต้องการเปลี่ยนการประกาศเมื่อกี้คุณต้องหาข้อแก้ตัว มิฉะนั้นอำนาจของเธอก็จะไม่มีทันทีที่หลี่ซินเยว่ได้ยินเรื่องนี้ก็รีบแจ้งให้ทราบทันทีฉันไม่ได้กล่าวถึงสิ่งก่อนหน้านี้ เพราะยังไงซะทุกคนก็ไม่ชอบหน้าเย่เทียนหยู่อยู่แล้วในในตอนแรกนี่เป็นเพียงสิ่งที่หวังลิ่วโต้เเย้งขึ้นมาหลายครั้งในวันนี้ เธอบอกหลิวเหวินอย่างชัดเจน รวมทั้งคำพูดท
แน่นอนว่ามันไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หลิวเหวินมองไปที่หวังลิ่วและพูดอย่างเย็นชา “ หวังลิ่ว คุณพูดและทำอะไรลงไปตัวเองเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด ดังนั้นอย่าโทษบริษัท ”“ คุณไปที่ฝ่ายธุรการและเคลียร์บัญชีบริษัทให้ชัดเจน จากนั้นก็สามารถไปได้ ”ใบหน้าของหวังลิ่วซีดเซียว เพราะเขาอายุมากแล้วจึงไม่อยากออกจากบริษัทไปแบบนี้จริง ๆ ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหางานใหม่ที่ดีกว่านี้ด้วยอายุและความสามารถของเขาเขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ ประธานหลิว ฉันรู้ว่าฉันผิด ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม? ”หลิวเหวินส่ายหัวแล้วพูดว่า “ คุณและเย่เทียนหยู่บอกครั้งแล้วครั้งเล่าว่าทั้งสองคนสามารถอยู่ต่อได้เพียงคนเดียว คุณคิดว่าฉันควรให้ใครอยู่ต่อดีล่ะ? ”ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ใบหน้าของหวังลิ่วก็ซีดและไม่มีอะไรจะพูด เพราะเขารู้ว่าเย่เทียนหยู่ไม่มีทางจะที่จะปล่อยให้ตัวเองอยู่ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเย่เทียนหยู่ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากจะออกไปอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อหลิวเหวินจากไป หลี่ซินเยว่และคนอื่น ๆ ก็มีความสุขมาก ประการแรกคือ หวังลิ่วไม่เป็นที่ชื่นชอบจริงๆ ประการที่สองคือ เพราะเย่
ทุกคนงงเล็กน้อย ใครบ้างในทีมขายที่ไม่ลือว่าเย่เทียนหยู่มีแบคอัพที่ใหญ่ แต่พี่เหม่ยเพิกเฉยต่อมันโดยสิ้นเชิง หนำซ้ำยังเยาะเย้ยเขาอย่างเปิดเผยสีหน้าเย่เทียนหยู่ดูสงบและพูดสบาย ๆ ว่า “ ใช่ ฉันเป็นผู้สูงส่งที่คุณพูดถึง ทำไม คุณอยากมาเยี่ยมฉันเหรอ? ”“ ไปเยี่ยมคุณเหรอ? ฮ่าๆ อยากจะหัวเราะให้ตาย เย่เทียนหยู่ คุณคงไม่คิดว่าตัวเองเก่งจริงๆ ใช่ไหม? ” พี่เหม่ยเยาะเย้ยทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เย่เทียนหยู่ก็ขมวดคิ้วและถามว่า “ คุณหมายถึงอะไร? ” “ หมายถึงอะไรคุณรู้อยู่แก่ใจ เชื่อหรือไม่ ตราบใดที่ฉันพูดหนึ่งประโยค คุณจะได้ออกจากบริษัททันที ” พี่เหม่ยพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจและบ้าอำนาจ“ เหมยหรงหรง คุณพอได้แล้ว คุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงอยากจะไล่ใครออกก็ไล่ได้? ” หลี่ซินเยว่พูดด้วยความโกรธ“ ฮ่าๆ แน่นอนว่าฉันไม่สามารถไล่ใครก็ได้ตามที่ฉันต้องการ แต่ตราบใดที่เขาเป็นคนของบริษัท ทุกคนก็อยากจะไล่เขาออกไป ”พี่เหม่ยตะโกนเสียงดัง“ คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร! ” หลี่ซินเยว่รู้สึกว่าเหมยหรงหรงบ้าไปแล้วหรือเปล่า แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไร้ยางอายและร้ายกาจ แต่ก็ไม่ได้บ้าขนาดนั้น
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้