เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ หลินจื่อตงคิดน้อยกว่าคนอื่นมาก เขานั่งลงข้างเย่เทียนหยู่ในทันที “พี่เขย วันนี้พี่สุดยอดไปเลย” เขาเอ่ยปาก“คิดไม่ถึงเลขว่าพี่จะมีบารมีเอ่อล้นขนาดนี้!”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ใครให้นายนั่งที่นี่?”หลินจื่อตงตกใจจนลุกขึ้นในทีนที ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “โถ่พี่เขย ผมรู้นะว่าเมื่อก่อนผมทำตัวไม่ได้ ประพฤติความชั่วไว้มาก” “แต่พี่วางใจเลยนะครับ ต่อไปผมจะปรับตัวแน่นอน”“แล้วผมก็จะโน้มน้าวไม่ให้พี่สาวหย่ากับคุณด้วย รับประกันได้ว่าไม่หย่ากันแน่นอน!”“หย่า?”เฉินเข่อซินฟังคำพูดเหล่านั้นพร้อมสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความสงสัย พี่เย่มีภรรยาจริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าภรรยาของเขาหน้าตาเป็นยังไงบ้าง“ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากให้นายช่วย”เย่เทียนหยู่พูดพร้อมส่ายหน้า“ก็จริงนะครับ ด้วยบารมีระดับพี่เขย การจะจับพี่สาวผมให้อยู่หมัดก็แค่เอ่ยปาก”“พี่สาวของผมแค่ไม่รู้ความเก่งกาจของพี่เท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นพี่ต้องรักคุณมากแน่ ๆ”หลินจื่อตงพูดโน้มน้าวซ้ายทีขวาที ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาหลอกผู้หญิงได้เยอะขนาดนั้น“เอาล่ะ นายไม่ต้องบอกผมเรื่องพวกนี้หรอก วันนี้ที่ผมช่ว
“ใช่ คุณชอบเธอไหม?”“ชอบสิครับ”“งั้นคุณเตรียมสู่ขอเธอหรือเปล่าคะ?” เฉินหมิ่นถามตามตรงเย่เทียนหยู่ได้ยินแล้วก็รีบตอบ “ผมมีภรรยาแล้วครับ”“คุณมีภรรยาจริงด้วย”เฉินหมิ่นรู้สึกโกรธเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ในเมื่อมีภรรยาอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาใจเข่อซินด้วยล่ะคะ? แล้วยังบอกว่าชอบเธออีก?”“คุณน้าครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว ความชอบของผมต่อเข่อซินเป็นแบบพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้นครับ” เย่เทียนหยู่อธิบาย“เพียงเพราะเหตุนี้ คุณเลยให้วิลล่าห้าร้อยล้านกับเธอเหรอคะ?”เฉินหมิ่นตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลย หากไม่ใช่เพราะความตั้งใจของเฉินเข่อซิน เธอคงไม่มีทางย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แน่“ใช่ครับ!”“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคุณดีไหม แต่จริง ๆ แล้ว ฉันไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในวิลล่าแห่งนี้เลย”เฉินหมิ่นส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “เทียนหยู่ น้าคิดว่าวิลล่านี้ไม่เหมาะกับเราจริง ๆ นะ แล้วในเมื่อเรายังมีเงินอยู่อีกสามสิบห้าล้าน แค่นี้ก็เอาไปซื้อบ้านดี ๆ สักหลังได้แล้วล่ะ”เย่เทียนหยู่ลังเลเล็กน้อย และตระหนักได้ว่าเขาอาจคิดไม่รอบคอบพอเขาแค่อยากชดเชยพวกเขาสองคน ถ้าไม่ใช่เพื่อเขา สถานเลี้ยงเด็กกำพ
“คุณพูดอะไร!”หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชา: “เขามาบอกให้แม่กับฉันทำดีกับคุณอย่างกับคนประสาทกลับ ยังบอกอีกว่าคุณเป็นคนที่เก่งมาก เป็นลูกเขยที่ดีที่สุดของตระกูลหลิน ไปเสาะหาที่ไหนก็คงไม่เจออีกแล้ว”เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคิดว่าหลินจื่อตงทำอะไรซะอีก เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ผมว่าที่เขาพูดก็ถูกอยู่นะ”“ถูกกับผีนนายน่ะสิ”“เราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนนายไม่รู้เหรอ”“เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเราก็จะหย่ากันแล้วนะ!”ยิ่งหลินหว่านหรูพูดมากเท่าไร เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเธอคิดว่าทั้งสองคนกำลังจะหย่าเธอก็รู้สึกแย่ขึ้นมา แต่แรกเริ่มเธอบอกว่าจะหย่าภายในหนึ่งเดือน และตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว“งั้นก็ไม่ไปหย่าก็ได้นี่ครับ” เย่เทียนหยู่พูด“ฮึ วาดฝัน!”หลินหว่านหรูปากบอกแบบนั้นแต่ในใจของเธอเองก็กำลังคิดเรื่องนี้ ถึงตอนนั้นค่อยยืดระยะเวลาไปนานหน่อยก็พอแล้วถึงยังไงซะเย่เทียนหยู่ก็เป็นคนเสนอเอง ไม่ใช่เธออยากทำแบบนั้นเองเสียหน่อย“รอเดี๋ยว พูดไปเรื่อยแล้วนะ นายบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าตกลงนายทำอะไรกับน้องชายฉันกันแน่ ทำไมจู่ ๆ เขาถึงได้ชอบนายมากขนาดนี้” หลินหว่านหรูถาม“ผมไ
มองดูเย่เทียนหยู่ที่วางโทรศัพท์ เฉินเข่อซินก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “พี่เย่ ภรรยาพี่โทรมาเหรอคะ?”“อืม!”“เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินว่าหย่ากันเลยนะคะ?”“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เธออยากหย่ากับผมน่ะ”“เธออยากหย่ากับพี่เหรอ?”ดวงตาของเฉินเข่อซินเป็นประกายทันทีเย่เทียนหยู่กลับมามีสติอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่และไม่ได้โต้ตอบ เขาพูดอย่างเร่งรีบ: “เธอแค่โกรธ ก็เลยล้อเล่นน่ะ”“อ่อ พี่เย่ ภรรยาของพี่คงจะสวยและอ่อนโยนมากใช่ไหมคะ?”“สวยน่ะสวย แต่อ่อนโยนน่ะไม่ติดฝุ่นเลย”เย่เทียนหยูอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น“งั้นเหรอคะ วันไหนเราคงได้รู้จักกันนะ”“อือ!”“แต่พี่เย่ เมื่อกี้เราจริงจังนะคะ วิลล่าไม่เหมาะกับเราจริง ๆ เราจะใช้เงินของเราเองเพื่อซื้อหลังใหม่”เฉินข่อซินพูด“ก็ได้ ผมจะลองโทรถามว่าคอมมูนิตี้นี้ยังมีห้องดี ๆ อยู่บ้างไหม”เย่เทียนหยู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาขณะที่เขาพูด“ไม่ต้องหรอก เราออกไปดูข้างนอกกันดีกว่า” เฉินหมิ่นไม่อยากอยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกับเย่เทียนหยู่“แบบนั้นก็ลำบากแย่สิครับ อีกอย่างอยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกัน จะได้คอยดูแลกันได้” เย่เทียนหยู่กล่าวเฉินหมิ่นยิ
ในภาพแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเย่เทียนหยู่และจางลี่รู้จักกัน ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารใกล้กับเครซี่บาร์พวกเขากำลังรับประทานอาหารและพูดคุยกันยิ่งกว่านั้น เวลาที่ถ่ายรูปนั้นบังเอิญมาก เพราะมันเป็นวันก่อนที่เธอจะถูกวางยา ทำให้เธออดคิดมากไม่ได้ในเวลานี้เอง ซูถิงโทรมาหาเธอ“หว่านหรูเห็นรูปถ่ายแล้วใช่ไหม?”“แต่ว่า แค่รูปถ่ายใบเดียวคงพิสูจน์อะไรไม่ได้ บางทีเราอาจจะเข้าใจเขาผิดไปจริง ๆ”แต่ซูถิงพูดแล้วก็เสริมว่า: “แต่จังหวะเวลาก็บังเอิญจริง ๆ เลยนะ”“โลกนี้จะไปมีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง” หลินว่านหยูพูดด้วยความโกรธ แม้เธอจะคาดเดาแบบนั้นแต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังว่ามันจะเป็นจริงซู่ถิงถอนหายใจและพูดว่า “ใช่ มันจะบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่าเย่เทียนหยู่เป็นแค่คนจน แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีแผนการลึกล้ำแบบนี้”“เขาไม่ได้ลึกล้ำ เขามันไร้ยางอาย!”“ไอ้คนชั่ว ถ้าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องวางยาจริง ๆ ฉันให้เขาได้เห็นดีกันแน่”หลินหว่านหรูก่นด่าด้วยความโกรธแล้วถามว่า: “รูปภาพเหล่านี้มาจากไหน”เรื่องนี้ซูถิงคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว “ฉันเจอนักสืบเอกชนแล้วและขอให้พวกเขาตรวจสอบที่อยู่
หรือเป็นเพราะเฉินเข่อซิน?หลินจื่อตงพูดอะไรไปหรือเปล่า?ถ้าหลินหว่านหรูต้องการหย่าจริง ๆ โดยที่ไม่ได้ถามอะไรเลยแบบนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคงไม่ใช่คำพูดดี ๆ แน่คิดไม่ถึงว่าหลินหว่านหรูจะโกรธมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น “ดีนี่ ดูท่านายคงเตรียมตัวรอวันนี้มานานแล้วสินะ นายคิดจะหย่ากับฉันใช่ไหม?”“งั้นก็มาเถอะ ฉันจะรอคุณ!”หลังจากที่หลินหว่านหรูพูดจบ เธอก็วางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธไอ้สารเลว พอเรื่องผุดเขาก็พร้อมจะมาขอใบหย่าเลยเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกโกรธและไม่สบายใจอย่างยิ่งอย่างไม่อาจอธิบายเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อะไรเรียกว่าเขาเตรียมจะหย่ามานานแล้ว ก็เธอจะไม่หย่ากับเขาไม่ใช่เหรอ?เขาวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดหนทางเฉินเข่อซินมองดูและพูดอย่างเร่งรีบ: “พี่เย่ เกิดอะไรขึ้น?”“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย”“เป็นเพราะฉันหรือเปล่าคะ ถ้าเป็นเพราะฉัน ฉันจะไปกับคุณและอธิบายความสัมพันธ์ของเรา” เฉินเข่อซินได้ยินเรื่องเมื่อครู่แล้ว ว่าเป็นเพราะภรรยาของเขารู้อะไรบางอย่างและโกรธจนต้องการหย่า“ไม่ใช่คุณ อย่ากังวลไป”“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ต้องการอะไร พี่สามารถบอกฉัน
เมื่อเห็นท่าทางของเย่เทียนหยู่ หัวใจของหลินว่านหรูก็จมดิ่งลงขึ้นเรื่อย ๆ และเธอก็พูดอย่างเย็นชา: “ดูเหมือนว่านายจะรู้จักเขามานานแล้วสินะ”“ไม่ใช่สิ ผมยังไม่ได้ยอมรับเลยนะ”เย่เทียนหยู่รีบพูดขึ้น“คุณยังไม่ได้ยอมรับเหรอ?”“กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือนายรู้จักเขามานานแล้ว แต่นายแค่ไม่ต้องการที่จะยอมรับใช่ไหม?” หลินหว่านหรูถามด้วยความโกรธ ทำเอาเนินทิวทัศน์ที่สูงตระหง่านสั่นด้วยความโกรธ“ไม่ใช่แบบนั้นนะ!”“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จักเขา!”“ผมบอกแล้วไงว่าเราเจอกันครั้งแรกเป็นตอนที่เขามาทวงหนี้”เย่เทียนหยู่ตอบ“ดี ดูท่านายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ นายคิดว่าฉันไม่มีหลักฐานหรือไง?”“คุณมีหลักฐานด้วย?”“แน่นอนสิ!”หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชา: “เย่เทียนหยู่ วันนี้ฉันได้เห็นธาตุแท้ของนายจริง ๆ สักทีนะ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะไร้ยางอายขนาดนี้!”ความโกรธและความสิ้นหวังที่ต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไป จนเธอคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นปัญหาของตัวเธอเอวแต่ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่วางแผนไว้เมื่อนานมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น ผู้สมรู้ร่วมคิดคนนี้เองที่รับบทเป็นผู้ช่วยให้รอดครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้
“คุณก็ดูถูกผมเหมือนกัน หรือตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ คนเราเปลี่ยนกันได้ โดยเฉพาะตอนที่เธอรู้ว่าผมมีความสามารถมากพอ”“นายมีความสามารถ?”“ทักษะที่นายมี มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ต้องพึ่งพาอำนาจคนอื่น ถ้านายไม่ได้ใช้ทักษะทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตคนใหญ่คนโตพวกนั้น คุณคงจะจบเห่ไปนานแล้วเพราะความเย่อหยิ่งของคุณ”หลินหว่านหรูโต้กลับ“ได้ เราไม่เถียงกันเรื่องนี้ แต่ภาพนี้ผมจะไปหาความจริงมา!”หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งรูปถ่าย จากนั้นกดหมายเลขของจางลี่และต่อสายอย่างรวดเร็ว“คุณชาย มีอะไรรับสั่งครับ?” จางลี่รับสายและพูดอย่างเร่งรีบและด้วยความเคารพ“ผมจะส่งรูปถ่ายไปให้คุณ ลองดูสิว่านั่นเป็นใคร” เย่เทียนหยู่ถามจางลี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูด้วยสีหน้าตกตะลึง แล้วพูดว่า “ให้ตายสิ คุณชาย ใครกันครับทำเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ แต่งรูปน้องรองผมให้เป็นคุณเนี่ยนะ?”“วันนั้นผมไปกินข้าวที่นั่นน้องรองผมเองครับ”“น้องรอง? คุณมีรูปถ่ายของคุณสองคนในตอนนั้นไหม?” เย่เทียนหยู่ถาม“เรื่องนั้นผมไม่มีครับ แต่ผมบังเอิญอยู่ใกล้ร้านอาหาร และร้านอาหารก็มีกล้องอยู่นะ
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้