ผู้คนต่างก็พูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้สมองเสียจริงถึงว่าทำไมเขาถึงว่ากันว่าผู้หญิงนมใหญ่ชอบไร้สมอง และมันก็ได้พิสูจน์ไปเมื่อกี้เมื่อหยางปินอาละวาดหลังเหตุการณ์ที่เย่เทียนหยู่ทำ ทั้งตัวทั้งใจเขาก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย ประเด็นคือเขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหวังลี่ เขาถึงได้คลี่คลายใจจากนั้นเขาก็หันหน้าไป “แพทย์เซียนเย่ ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ท่านช่วยผม”“เรื่องเล็ก อันที่จริงไม่ใช่แค่ผมหรอกที่ช่วยคุณ”ขณะที่เขาพูด เย่เทียนหยู่มองไปที่หลินจื่อตงและพูดอย่างใจเย็น: “ถึงหลินจื่อตงจะทำเกินไป แถมยังไร้ยางอาย แต่ถ้าลองคิดอีกทาง เขาก็ถือว่าบังเอิญช่วยคุณไว้เหมือนกันนะ”“เขาช่วยให้คุณเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าคุณจะถูกหลอกไปนานแค่ไหน วันหลังแต่งเข้าตระกูลหยาง คงจะผลเสียจะยิ่งใหญ่กว่านี้”ทันทีที่สิ้นคำพูด หยางปินก็พยักหน้า แพทย์เซียนเย่พูดถูก ถ้าไม่ใช่เพราะการกระทำของหลินจื่อตง เขาอาจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ในตอนนั้นเอง ในที่สุดหวังลี่ก็เข้าใจ ว่าทำไมเย่เทียนหยู่ถึงพูดแบบนั้น มันทำให้เขารู้สึกละอายใจมาก และสีหน้าของเธอก็หมองหม่นอย่างหนักทั้งที่เมื่อกี้
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ หลินจื่อตงคิดน้อยกว่าคนอื่นมาก เขานั่งลงข้างเย่เทียนหยู่ในทันที “พี่เขย วันนี้พี่สุดยอดไปเลย” เขาเอ่ยปาก“คิดไม่ถึงเลขว่าพี่จะมีบารมีเอ่อล้นขนาดนี้!”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ใครให้นายนั่งที่นี่?”หลินจื่อตงตกใจจนลุกขึ้นในทีนที ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “โถ่พี่เขย ผมรู้นะว่าเมื่อก่อนผมทำตัวไม่ได้ ประพฤติความชั่วไว้มาก” “แต่พี่วางใจเลยนะครับ ต่อไปผมจะปรับตัวแน่นอน”“แล้วผมก็จะโน้มน้าวไม่ให้พี่สาวหย่ากับคุณด้วย รับประกันได้ว่าไม่หย่ากันแน่นอน!”“หย่า?”เฉินเข่อซินฟังคำพูดเหล่านั้นพร้อมสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความสงสัย พี่เย่มีภรรยาจริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าภรรยาของเขาหน้าตาเป็นยังไงบ้าง“ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากให้นายช่วย”เย่เทียนหยู่พูดพร้อมส่ายหน้า“ก็จริงนะครับ ด้วยบารมีระดับพี่เขย การจะจับพี่สาวผมให้อยู่หมัดก็แค่เอ่ยปาก”“พี่สาวของผมแค่ไม่รู้ความเก่งกาจของพี่เท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นพี่ต้องรักคุณมากแน่ ๆ”หลินจื่อตงพูดโน้มน้าวซ้ายทีขวาที ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาหลอกผู้หญิงได้เยอะขนาดนั้น“เอาล่ะ นายไม่ต้องบอกผมเรื่องพวกนี้หรอก วันนี้ที่ผมช่ว
“ใช่ คุณชอบเธอไหม?”“ชอบสิครับ”“งั้นคุณเตรียมสู่ขอเธอหรือเปล่าคะ?” เฉินหมิ่นถามตามตรงเย่เทียนหยู่ได้ยินแล้วก็รีบตอบ “ผมมีภรรยาแล้วครับ”“คุณมีภรรยาจริงด้วย”เฉินหมิ่นรู้สึกโกรธเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ในเมื่อมีภรรยาอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาใจเข่อซินด้วยล่ะคะ? แล้วยังบอกว่าชอบเธออีก?”“คุณน้าครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว ความชอบของผมต่อเข่อซินเป็นแบบพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้นครับ” เย่เทียนหยู่อธิบาย“เพียงเพราะเหตุนี้ คุณเลยให้วิลล่าห้าร้อยล้านกับเธอเหรอคะ?”เฉินหมิ่นตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลย หากไม่ใช่เพราะความตั้งใจของเฉินเข่อซิน เธอคงไม่มีทางย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แน่“ใช่ครับ!”“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคุณดีไหม แต่จริง ๆ แล้ว ฉันไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในวิลล่าแห่งนี้เลย”เฉินหมิ่นส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “เทียนหยู่ น้าคิดว่าวิลล่านี้ไม่เหมาะกับเราจริง ๆ นะ แล้วในเมื่อเรายังมีเงินอยู่อีกสามสิบห้าล้าน แค่นี้ก็เอาไปซื้อบ้านดี ๆ สักหลังได้แล้วล่ะ”เย่เทียนหยู่ลังเลเล็กน้อย และตระหนักได้ว่าเขาอาจคิดไม่รอบคอบพอเขาแค่อยากชดเชยพวกเขาสองคน ถ้าไม่ใช่เพื่อเขา สถานเลี้ยงเด็กกำพ
“คุณพูดอะไร!”หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชา: “เขามาบอกให้แม่กับฉันทำดีกับคุณอย่างกับคนประสาทกลับ ยังบอกอีกว่าคุณเป็นคนที่เก่งมาก เป็นลูกเขยที่ดีที่สุดของตระกูลหลิน ไปเสาะหาที่ไหนก็คงไม่เจออีกแล้ว”เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคิดว่าหลินจื่อตงทำอะไรซะอีก เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ผมว่าที่เขาพูดก็ถูกอยู่นะ”“ถูกกับผีนนายน่ะสิ”“เราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนนายไม่รู้เหรอ”“เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเราก็จะหย่ากันแล้วนะ!”ยิ่งหลินหว่านหรูพูดมากเท่าไร เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเธอคิดว่าทั้งสองคนกำลังจะหย่าเธอก็รู้สึกแย่ขึ้นมา แต่แรกเริ่มเธอบอกว่าจะหย่าภายในหนึ่งเดือน และตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว“งั้นก็ไม่ไปหย่าก็ได้นี่ครับ” เย่เทียนหยู่พูด“ฮึ วาดฝัน!”หลินหว่านหรูปากบอกแบบนั้นแต่ในใจของเธอเองก็กำลังคิดเรื่องนี้ ถึงตอนนั้นค่อยยืดระยะเวลาไปนานหน่อยก็พอแล้วถึงยังไงซะเย่เทียนหยู่ก็เป็นคนเสนอเอง ไม่ใช่เธออยากทำแบบนั้นเองเสียหน่อย“รอเดี๋ยว พูดไปเรื่อยแล้วนะ นายบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าตกลงนายทำอะไรกับน้องชายฉันกันแน่ ทำไมจู่ ๆ เขาถึงได้ชอบนายมากขนาดนี้” หลินหว่านหรูถาม“ผมไ
มองดูเย่เทียนหยู่ที่วางโทรศัพท์ เฉินเข่อซินก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “พี่เย่ ภรรยาพี่โทรมาเหรอคะ?”“อืม!”“เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินว่าหย่ากันเลยนะคะ?”“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เธออยากหย่ากับผมน่ะ”“เธออยากหย่ากับพี่เหรอ?”ดวงตาของเฉินเข่อซินเป็นประกายทันทีเย่เทียนหยู่กลับมามีสติอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่และไม่ได้โต้ตอบ เขาพูดอย่างเร่งรีบ: “เธอแค่โกรธ ก็เลยล้อเล่นน่ะ”“อ่อ พี่เย่ ภรรยาของพี่คงจะสวยและอ่อนโยนมากใช่ไหมคะ?”“สวยน่ะสวย แต่อ่อนโยนน่ะไม่ติดฝุ่นเลย”เย่เทียนหยูอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น“งั้นเหรอคะ วันไหนเราคงได้รู้จักกันนะ”“อือ!”“แต่พี่เย่ เมื่อกี้เราจริงจังนะคะ วิลล่าไม่เหมาะกับเราจริง ๆ เราจะใช้เงินของเราเองเพื่อซื้อหลังใหม่”เฉินข่อซินพูด“ก็ได้ ผมจะลองโทรถามว่าคอมมูนิตี้นี้ยังมีห้องดี ๆ อยู่บ้างไหม”เย่เทียนหยู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาขณะที่เขาพูด“ไม่ต้องหรอก เราออกไปดูข้างนอกกันดีกว่า” เฉินหมิ่นไม่อยากอยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกับเย่เทียนหยู่“แบบนั้นก็ลำบากแย่สิครับ อีกอย่างอยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกัน จะได้คอยดูแลกันได้” เย่เทียนหยู่กล่าวเฉินหมิ่นยิ
ในภาพแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเย่เทียนหยู่และจางลี่รู้จักกัน ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารใกล้กับเครซี่บาร์พวกเขากำลังรับประทานอาหารและพูดคุยกันยิ่งกว่านั้น เวลาที่ถ่ายรูปนั้นบังเอิญมาก เพราะมันเป็นวันก่อนที่เธอจะถูกวางยา ทำให้เธออดคิดมากไม่ได้ในเวลานี้เอง ซูถิงโทรมาหาเธอ“หว่านหรูเห็นรูปถ่ายแล้วใช่ไหม?”“แต่ว่า แค่รูปถ่ายใบเดียวคงพิสูจน์อะไรไม่ได้ บางทีเราอาจจะเข้าใจเขาผิดไปจริง ๆ”แต่ซูถิงพูดแล้วก็เสริมว่า: “แต่จังหวะเวลาก็บังเอิญจริง ๆ เลยนะ”“โลกนี้จะไปมีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง” หลินว่านหยูพูดด้วยความโกรธ แม้เธอจะคาดเดาแบบนั้นแต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังว่ามันจะเป็นจริงซู่ถิงถอนหายใจและพูดว่า “ใช่ มันจะบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่าเย่เทียนหยู่เป็นแค่คนจน แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีแผนการลึกล้ำแบบนี้”“เขาไม่ได้ลึกล้ำ เขามันไร้ยางอาย!”“ไอ้คนชั่ว ถ้าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องวางยาจริง ๆ ฉันให้เขาได้เห็นดีกันแน่”หลินหว่านหรูก่นด่าด้วยความโกรธแล้วถามว่า: “รูปภาพเหล่านี้มาจากไหน”เรื่องนี้ซูถิงคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว “ฉันเจอนักสืบเอกชนแล้วและขอให้พวกเขาตรวจสอบที่อยู่
หรือเป็นเพราะเฉินเข่อซิน?หลินจื่อตงพูดอะไรไปหรือเปล่า?ถ้าหลินหว่านหรูต้องการหย่าจริง ๆ โดยที่ไม่ได้ถามอะไรเลยแบบนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคงไม่ใช่คำพูดดี ๆ แน่คิดไม่ถึงว่าหลินหว่านหรูจะโกรธมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น “ดีนี่ ดูท่านายคงเตรียมตัวรอวันนี้มานานแล้วสินะ นายคิดจะหย่ากับฉันใช่ไหม?”“งั้นก็มาเถอะ ฉันจะรอคุณ!”หลังจากที่หลินหว่านหรูพูดจบ เธอก็วางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธไอ้สารเลว พอเรื่องผุดเขาก็พร้อมจะมาขอใบหย่าเลยเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกโกรธและไม่สบายใจอย่างยิ่งอย่างไม่อาจอธิบายเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อะไรเรียกว่าเขาเตรียมจะหย่ามานานแล้ว ก็เธอจะไม่หย่ากับเขาไม่ใช่เหรอ?เขาวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดหนทางเฉินเข่อซินมองดูและพูดอย่างเร่งรีบ: “พี่เย่ เกิดอะไรขึ้น?”“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย”“เป็นเพราะฉันหรือเปล่าคะ ถ้าเป็นเพราะฉัน ฉันจะไปกับคุณและอธิบายความสัมพันธ์ของเรา” เฉินเข่อซินได้ยินเรื่องเมื่อครู่แล้ว ว่าเป็นเพราะภรรยาของเขารู้อะไรบางอย่างและโกรธจนต้องการหย่า“ไม่ใช่คุณ อย่ากังวลไป”“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ต้องการอะไร พี่สามารถบอกฉัน
เมื่อเห็นท่าทางของเย่เทียนหยู่ หัวใจของหลินว่านหรูก็จมดิ่งลงขึ้นเรื่อย ๆ และเธอก็พูดอย่างเย็นชา: “ดูเหมือนว่านายจะรู้จักเขามานานแล้วสินะ”“ไม่ใช่สิ ผมยังไม่ได้ยอมรับเลยนะ”เย่เทียนหยู่รีบพูดขึ้น“คุณยังไม่ได้ยอมรับเหรอ?”“กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือนายรู้จักเขามานานแล้ว แต่นายแค่ไม่ต้องการที่จะยอมรับใช่ไหม?” หลินหว่านหรูถามด้วยความโกรธ ทำเอาเนินทิวทัศน์ที่สูงตระหง่านสั่นด้วยความโกรธ“ไม่ใช่แบบนั้นนะ!”“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จักเขา!”“ผมบอกแล้วไงว่าเราเจอกันครั้งแรกเป็นตอนที่เขามาทวงหนี้”เย่เทียนหยู่ตอบ“ดี ดูท่านายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ นายคิดว่าฉันไม่มีหลักฐานหรือไง?”“คุณมีหลักฐานด้วย?”“แน่นอนสิ!”หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชา: “เย่เทียนหยู่ วันนี้ฉันได้เห็นธาตุแท้ของนายจริง ๆ สักทีนะ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะไร้ยางอายขนาดนี้!”ความโกรธและความสิ้นหวังที่ต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไป จนเธอคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นปัญหาของตัวเธอเอวแต่ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่วางแผนไว้เมื่อนานมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น ผู้สมรู้ร่วมคิดคนนี้เองที่รับบทเป็นผู้ช่วยให้รอดครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้