เมื่อเห็นแบบนั้นใบหน้าของซูถิงหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเธอต้องการของก่อน และเมื่อกี้เธอก็ไม่ได้ทะเลาะกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ นี่มันมากเกินไปแล้วใบหน้าของติงฮุยก็ดูไม่ดีเช่นกัน เขาลังเลและกระซิบว่า “ซูถิง ลำบากคุณหน่อยได้ไหม”“คุณกำลังพูดอะไร อยากให้ฉันคุกเข่าลงจริง ๆ เหรอ?”แม้ว่าตอนนี้ซูถิงจะผิดหวังเล็กน้อยกับติงฮุย แต่เธอก็คิดว่าเขายังมีความผู้ชาย แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมาขี้ป๊อดในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้“เราทำอะไรได้ เราสู้เขาไม่ได้นะ”ซูถิงดูสีหน้าย่ำแย่ คนอย่างคุณยังบอกว่าเย่เทียนหยู่น่าอายอีกเหรอ?ตั้งแต่ครั้งเมื่อกี้จนถึงตอนไหน ครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่นายขายหน้า?หลินหว่านหรูทนไม่ไหว และเพราะเธอต้องการซื้อเสื้อผ้า เธอจึงชักชวนเธอว่า “คนสวย ฉันว่าเราเข้าใจกันผิดเรื่องนี้นะคะ”“เราจะจ่ายค่าเสื้อผ้าเพื่อเป็นการขอโทษ!”แต่ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะเยาะและพูดว่า: “หุบปาก เงินแค่นี้ฉันขาดเหรอ? เรื่องวันนี้ต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉันซะ”ติงฮุยยังโน้มน้าวต่อ “ซูถิงครั้งนี้คุณผิดจริง ๆ แค่คุกเข่าและยอมรับความผิดพลาด ไม่อย่างนั้น ผมเกรงว่าผลที่ตามมาจะไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทนได้หรอก”
ทุกคนที่ได้ยินก็ตกใจงงงวยงุนงงกันหมด!หลินหว่านหรูถูกเย่เทียนหยู่ที่ยืนหยัดเพื่อเธออีกครั้งทำเอาประทับใจ แต่ยังรู้สึกรำคาญกับความไม่รู้และความไม่แยแสโลกของเขาอยู่ดีนี่มันรนหาที่ตายชัด ๆ เลยแน่นอนว่าจู่ ๆ ซ่งหยางก็โกรธจัด“มึงมันแกว่งเท้าหาเสี้ยน!”ทันทีที่เขาพูดจบซ่งหยางก็ก้าวไปข้างหน้า ยกมือขวาขึ้น และตบเขาอย่างแรงโดยไม่ลังเลดูเหมือนการเคลื่อนไหวจะเร็วมากและความเร็วก็พุ่งเต็มปรอทหลินหว่านหรูตกใจมาก นายน้อยซ่งคนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นปรมาจารย์วิทยายุทธ์จริง ๆเธอเพิ่งรู้ว่าเย่เทียนหยู่รู้จักกังฟู และเธอไม่รู้ว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงมันได้หรือไม่เย่เทียนหยู่ดูสงบและไม่ได้หลบเลย เขาไม่ได้ตบคู่ต่อสู้กลับจนกว่าเขาจะเข้ามาใกล้ตึง!เสียงดังฟังชัด!ซ่งหยางคร่ำครวญอย่างน่าอนาถ รู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนจัดด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขาถูกผลักกลับทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งพวกเขาไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยซ้ำไป!เพราะในความเห็นของพวกเขา เย่เทียนหยู่น่าจะเป็นคนที่โดนทำร้ายซ่งหยางโกรธมาก เขารู้สึกว่าเขาเพิ่งประมาทเขาจึงลุกขึ้นมมาอีกครั้งและกระโจนขึ้นไปในอากาศเหมือนนกอินทรีก
หลังจากที่พนักงานร้านตกใจแล้วก็รีบหยิบการ์ดเข้าไปรูด มันเป็นเรื่องจริงหลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาก็ส่งคืนให้เย่เทียนหยู่ทันที และพูดด้วยความเคารพ: “ท่านคะ เสื้อผ้าและบัตรของคุณค่ะ”เย่เทียนหยู่รับมันไว้และเก็บการ์ดไว้ไป ก่อนจะถือเสื้อผ้าเอาไว้เมื่อเห็นว่าแบล็กการ์ดมังกรดำเป็นของจริง ซ่งหยางก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น เขารีบลุกขึ้นและเดินจากไป เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาลุงของเขา เขาต้องยืนยันก่อนหากเราไปขุ่นเคืองกับคนใหญ่โตแบบนี้ เราก็ต้องแก้ไขโดยเร็ว มิฉะนั้นเขาจะตายอย่างน่าสังเวชและอาจนำความเสียหายมาสู่ตระกูลซ่งด้วยหลินหว่านหรูมึนงง และเธอก็พูดอย่างขมขื่นด้วยใบหน้าที่น่าเกลียด: “เย่เทียนหยู่คราวนี้ นายประสบปัญหาใหญ่จริง ๆ แน่”“ไม่เป็นไร ผมจัดการได้หรอกน่า!” เย่เทียนหยู่ดูราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“นายจัดการกับมันได้ ลงมาจากเขาแบบไหนจะจัดการยังไงย่ะ”“นายคิดว่าการรู้กังฟูหมายความว่านายจะอยู่ยงคงกระพันเหรอ นี่ไม่ใช่สมัยโบราณนะ”“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เย่เทียนหยู่ต้องการอธิบาย“ไม่ว่าจะหมายถึงอะไร มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจัดการได้นะ คราวนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแ
จากนั้นเขาก็คิดว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่ซูถิงโทรมาเมื่อกี้เป็นเขาจริง ๆเมื่อนึกถึงซ่งเหวินหวู่ที่บอกว่าอีกฝ่ายชอบเก็บตัว ตัวตนของเขาก็ต้องไม่เปิดเผย เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสดงความเคารพจากระยะไกล แล้วรีบจากไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นสิ่งที่เขาคิดคือการรอโอกาสแล้วเขาจะไปขอรับผิดกับเย่เทียนหยู่ด้วยตนเองผู้หญิงคนนั้นไม่คาดคิดว่าซ่งหยางจะจากไปแบบนี้ด้วยท่าทีไม่เต็มใจ ในท้ายที่สุดซ่งหยางก็ตบเธออย่างแรงไปหลายทีจะอีกฝ่ายได้สติหลินหว่านหรูมองไปที่การแสดงของซ่งหยางและตกใจเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้น เมื่อพิจารณาจากความตั้งใจของอีกฝ่าย ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เรียกใคร แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแก้ไขปัญหาได้แล้วซูถิงก็ตกตะลึงและอุทาน: “ไม่คิดเลยว่านายน้อยหลิวจะมีบารมีขนาดนี้ แม้แต่ซ่งหยางยังกลัวเขา”หลินหว่านหรูพยักหน้าและกล่าวว่า: “ฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน ดูเหมือนว่าคุณหลิว จะมีอำนาจมากกว่าที่เราคิดไว้มาก ครั้งนี้ต้องขอบคุณเขาจริงๆ”“ถูกต้อง ไม่เหมือนบางคนที่ต้องการสร้างปัญหาเท่านั้น” ซูถิงมองไปที่เย่เทียนหยู่แล้วพูดเย่เทียนหยู่ดูสงบ เขามีประสบการณ์มามากและคำด่าพวกนี้ก็ไม่สะทกสะท้านเขาเลย“เย่เทียนหยู
หญิงสาวสองคนมีคิ้วโต้งมนงดงาม แก้มและริมฝีปากที่ใสราวกับเนื้อหยก ใบหน้าละเอียดอ่อนราวกับเทพธิดาในภาพวาด ชุดสีดำไม่สามารถซ่อนรูปร่างอันน่าทึ่งและสมบูรณ์แบบของเธอได้ลมยามค่ำคืนดูเหมือนจะหลงใหลในความงามของเธอเธอดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที โดยที่ทุกคนต่างก็มองเมินซูถิงที่เป็นสาวสวยงดงามและมีเสน่ห์ซึ่งกำลังเดินติดตามเธอไปโดยสิ้นเชิงไม่ต้องพูดถึงเย่เทียนหยู่ที่แต่งตัวสบาย ๆ“นี่เป็นคุณหนูบ้านไหนกันนะ เธอสวยมากเลย”“นี่คุณไม่รู้จักเธอเหรอ ก็หลินหว่านหรู ประธานหลินซื่อกรุ๊ป ประธานคนสวยของเมืองเทียนไห่เราไง”“เป็นเธอนี่เอง ถึงว่าทำไมถึงดูเย็นชาขนาดนี้”ขณะเดียวกันรถคันหรูอีกคันก็หยุดลงชายที่ออกมาก่อนนั้นหล่อและหุ่นดี เขาสวมเสื้อผ้าผู้ชายเวอร์ซาเช่ราคาแพงลิบซึ่งทำให้เขาดูเป็นชนชั้นสูงข้างหลังเขามีคู่ชายหญิงสองพี่น้องหยูเว่ยและหยูลู่ ซึ่งเขาเคยพบที่สโมสรฟันดาบวันนั้นผู้ที่เดินนำมาคือ หลิวเจี๋ย หลังจากลงมาเขาก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและตะโกน: “หว่านหรู!”“คุณมาแล้ว”หลินหว่านหรูยิ้มและกล่าวสวัสดีด้วยความช่วยเหลือจากผู้อื่น ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ในวันนี้และในค่ำ
ดวงตาของหยู่เว่ยก็เบิกกว้างขึ้นทันทีสวย!สวยงามมาก!นี่ไม่ใช่ความงามทั่วไป แต่เป็นความงามที่บริสุทธิ์!เธอสวมชุดสีขาว ใบหน้างดงาม ดวงตาสีดำเปล่งประกายมีชีวิตชีวา ผิวของเธอใสราวกับหยก เธอดูเหมือนเอลฟ์สาวที่อยู่บนภูเขา“สวัสดี...”หยูเว่ยก้าวไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นเพื่อกล่าวทักทายน่าเสียดายที่เธอไม่สนใจเขาเลย แต่เดินไปหาเย่เทียนหยู่แล้วยื่นมือขวาออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีคุณชายเย่”เย่เทียนหยู่ยกมือขึ้นแล้วแตะเบา ๆ จากนั้นปล่อยมือทันที: “สวัสดี!”เมื่อเห็นหยางเฉียนเฉียนอีกครั้ง เขาก็พบว่าเธอมีมีสีหน้าที่ดีขึ้นและสดใสกว่าครั้งที่แล้วมากโดยเฉพาะอารมณ์ของความบริสุทธิ์นั้น ราวกับผู้ที่ไม่เคยแปดเปื้อนมลทินของโลกมนุษย์ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาของหยางเฉียนเฉียน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ชายที่เย็นชากับเธอมากขนดานี้“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้คราวที่แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตฉันคงตกอยู่ในอันตรายค่ะ”“เกรงใจเกินไปแล้วครับ”“ไปนั่งคุยกันดีไหมคะ?” หยางเฉียนเชียนกล่าวเย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาไม่ต้องการฟังคนโง่สองคนคุยกันที่นี่จนกระทั่งพวกเขาทั้งสองเดินจากไป หยูเว่ยก็กลับมามีสต
“อ่อ?”หยางเฉียนเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่รู้ที่มาของเย่เทียนหยู่ก็ตาม แต่จากสิ่งที่พ่อของเธอพูด เย่เทียนหยู่เป็นผู้ที่ทรงพลังมากอย่างแน่นอน อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ด้วยตัวเองไปแล้วหลิวเจี๋ยคิดว่าอีกฝ่ายเชื่อเขา และพูดต่อ: “จริง ๆ แล้ว ไม่เพียงแต่เขาไม่มีความสามารถเท่านั้น แต่เขาเพิ่งมาจากชนบทด้วย เขาน่ะไม่มีทั้งเงินทั้งยังไร้พรสวรรค์”“ถ้าวันนี้ผมไม่เชิญเขา เขาคงเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก”“ถ้าอย่างนั้น ฉันควรจะขอบคุณจริง ๆ ที่ให้โอกาสฉันได้ใกล้ชิดกับพี่เย่” หยางเฉียนเฉียนพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“...”หลิวเจี๋ยพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ปัญญาอ่อนหรือเปล่า เธอไม่เข้าใจคำพูดของตัวเองเหรอ เขาพูดอย่างคนทำอะไรไม่ถูก: “คนสวยลองคิดดู ด้วยคุณที่สมบูรณ์แบบอย่างคุณไม่ว่าจะกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนไหนคุณก็คู่ควร แล้วทำไมต้องเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับขยะสังคมด้วยครับ?”เมื่อหยางเฉียนเฉียนได้ยินแบบนั้น เธอก็โกรธทันทีและพูดอย่างเย็นชา: “คุณบอกว่าพี่เย่เป็นขยะ แต่ฉันคิดว่าคุณนั่นแหละที่เป็นขยะ”“ผม……”หลิวเจี๋ยกำลังจะอาเจียนเป็นเลือด เขาใจดีช่วยเหลือเธอ แต่เธอด
แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ เพราะหลังจากที่หลิวเจี๋ยช่วยนำทางเธอไป โดยเฉพาะซ่งเหวินป๋อ หรือคุณชายซ่งที่ให้เกียรติกันมากและเต็มใจที่จะจัดสรรโควต้าให้กับตระกูลหลินซ่งเหวินป๋อเป็นหนึ่งในหกผู้อำนวยการหอการค้าหลงเถิง และมีสถานะที่สูงมากเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้ามันควรจะเป็นสิ่งที่แน่นอนหลิวเจี๋ยพยักหน้าเดินจากไป และด่าพวกหยูเล่ยทั้งสองคน: “คุณสองคนเป็นอะไรกัน ผมพาคุณเข้ามาเพื่อทำให้เย่เทียนหยู่อับอาย แต่ทำไมคุณปล่อยให้เขาสบายใจขนาดนี้”หยูเว่ยดูเสียใจและพูดอย่างหดหู่: “นายน้อยหลิว เราก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเพิกเฉยต่อเราเลยและปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นอากาศธาตุ”“ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อมาถึงสถานที่เช่นนี้ ไม่มีความตึงเครียดหรือความยับยั้งชั่งใจใด ๆ อย่างที่เราคาดไว้เลย”“ทำไมฉันถึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น”“แม่งเอ้ย มันก็แค่หน้าด้านเท่านั้นเอง”หลิวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา: “ช่างมันเถอะ แบบนี้ก็พอทำให้หลินหว่านหรูโกรธได้อยู่ มันจะช่วยให้ฉันได้ตัวหลินหว่านหรูมาเร็ว ๆ ยังไงล่ะ”แม้ว่าเธอจะรำคาญกับการกระทำของเย่เทียนหยู่แต่โชคดีที่การเข