“คุณชายเย่ ผมไม่รู้จะขอบคุณยังไงจริง ๆ ต่อจากนี้ไป หากคุณมีอะไรที่จะสั่ง ก็สามารถสั่งการผมได้เสมอ ต่อให้จะต้องปีนขึ้นไปบนภูเขาดาบ หรือต้องลงไปในกระทะน้ำมันก็ตาม ผมก็จะทำให้สำเร็จอย่างแน่นอน”จางลี่พูดอย่างมั่นใจ“เอาล่ะ อย่างนายเนี่ยนะ เวลาเจอเรื่องอันตราย ก็ไม่รู้ว่าวิ่งหนีหายไปซ่อนที่ไหนแล้ว” เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า “ต่อไป ก็พาคนของนายมาช่วยฉันเถอะ”“จริงเหรอครับ เยี่ยมไปเลยครับ ต่อไปก็สั่งการได้เต็มที่เลยครับ! ” จางลี่กล่าวทันทีแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ได้เห็นพลังและความน่ากลัวของคุณชายเย่ครั้งแล้วครั้งเล่าแค่ทักษะทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวนี้ก็ไม่มีใครในโลกสามารถเทียบได้แล้ว หากติดตามคนแบบนี้ อนาคตก็จะสดใสแน่นอน“อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป เมื่อมาทำงานให้ฉันแล้ว แต่นายก็ห้ามไปทำเรื่องอะไรที่มันผิดต่อกฎหมายเด็ดขาด”“คุณชายโปรดวางใจ คุณพูดอะไร เราก็จะทำแบบนั้น”“ดี จำสิ่งที่นายพูดเอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นล่ะก็ การลงมือของฉันนายเองก็รูดีนี่”หลังจากที่เย่เทียนหยู่เตือนเสร็จ เขาก็ถามว่า “ทำไมนักฆ่าถึงต้องการสังหารนาย? ”เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ จางลี่ก็กัดฟั
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของคุณแล้ว ผมเกรงว่าคงมีแค่นักฆ่าห้าอันดับแรกของโลกเท่านั้นถึงจะเทียบเคียงได้ ผมจะไปมีความสามารถทำร้ายคุณได้อย่างไร”“นายผิดแล้ว”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว“ผิดงั้นเหรอครับ? ”หรือว่าความแข็งแกร่งของดาวตกไม่สามารถรับมือกับห้าอันดับแรกได้?พอมาลองคิดดูแล้วก็ใช่ แม้ว่าเรื่องที่เขาทำมันจะสุดยอดมากแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นการลอบสังหาร ซึ่งแตกต่างจากการเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัว“อืม นักฆ่าห้าอันดับแรกพวกนั้น ยกเว้นอันดับแรกที่อาจจะต้องใช้แรงมากหน่อย ส่วนที่เหลือ ต่อให้ลงมือพร้อมกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีที่ราบเรียบ“......”“นี่นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่เราได้เจอกัน ใช่หรือเปล่า? ”“ใช่ครับ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้ในสองครั้งแรก ส่วนครั้งนี้ ผมยิ่งรู้สึกละอายใจมากกว่าเดิมอีกครับ”“เราถูกลิขิตให้มาพบกัน ส่วนนี่ ให้นายนะ” เย่เทียนหยู่หยิบหนังสือออกมา แล้วโยนมันไปให้เขาทันทีในฐานะราชามังกรแห่งด่านหลงเหมิน บวกกับที่เขาเองก็เคยได้รับโอกาสมาเช่นกัน สิ่งที่มีก็คือทรัพยากร“มันคืออะไรเหรอครับ! ”นักฆ่าหมายเลข
“คุณชาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”จางลี่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังชี่ในตัวของเย่เทียนหยู่“ไม่เป็นไร นายคุ้นเคยกับเถ้าแก่ที่นี่หรือเปล่า? ”“คุ้นเคยสิครับ คุ้นเคยมากด้วย”“หาคนช่วยฉันจับตาดูห้องนี้เอาไว้ อีกเดี๋ยวถ้ามีผู้หญิงเข้ามาแล้ว จำไว้ว่าต้องมาบอกให้ฉันทราบโดยเร็วที่สุด”“ครับ! ”หลังจากที่จางลี่ฟังจบ เขาก็โทรหาผู้จัดการที่รับผิดชอบทันที และอธิบายทุกอย่างให้ฟังไม่นานหลังจากที่เขาเข้ามาและนั่งลง จางลี่ก็ได้รับข่าวมาทันที หลังจากที่เย่เทียนหยู่รู้เรื่องแล้ว เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีภายใต้การแนะนำของหลิวเจี๋ย หลินหว่านหรูก็ตามเข้ามา และในไม่ช้าก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก เมื่อพิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว เขาก็น่าจะเป็นนายน้อยฉู่ในเวลานี้ หลิวเจี๋ยก็รีบพูดด้วยความเคารพ "นายน้อยฉู่! ”นายน้อยฉู่ยังคงรักษาท่าทางของเขาไว้ มองไปที่หลินหว่านหรู แล้วพูดอย่างใจเย็น “เธอคือหลินหว่านหรูที่คุณพูดถึงอย่างงั้นน่ะเหรอ? ”“ใช่ครับ! ”“นั่งลงเถอะ” นายน้อยฉู่กล่าว“หว่านหรู มา พวกเราดื่มให้กับนายน้อยฉู่สักแก้วดีกว่า”ในเวลานี้ บนโต๊ะมีไวน์และอาหารมากมาย หล
“นั่นเป็นเพราะว่า ไวน์เหยือกนี้มีบางอย่างผิดปกติ นี่คือเหยือกยวนยาง ข้างในมีไวน์สองชนิด สามารถควบคุมไวน์ที่อยู่ข้างในได้ สามารถเลือกเทไวน์หนึ่งในนั้นได้ตามต้องการ”เย่เทียนหยู่อธิบาย“ไร้สาระ เย่เทียนหยู่ นายมาที่นี่เพื่อเล่าเรื่องรึไง? ” หลิวเจี๋ยรู้สึกลนลาน“เอาล่ะ เถียงกันพอแล้วรึยัง เจ้าหนู นายรู้ไหม พูดจาใส่ร้ายผู้อื่นต่อหน้าฉันแบบนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงแค่ไหน” นายน้อยฉู่พูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าโกรธเคือง“ก็แค่ของปลอม มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ” เย่เทียนหยู่เยาะเย้ยจู่ ๆ ท่าทางของนายน้อยฉู่ก็เปลี่ยนไป เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมองออก มันทำให้เขาตื่นตระหนกอย่างมากแต่หลินหว่านหรูเองก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น เพราะวันนี้นายน้อยฉู่คือฟางช่วยชีวิตของเธอ แล้วจะไม่ให้เธอโกรธเคืองขนาดนี้ได้อย่างไร เธอลุกขึ้นและพูดด้วยความโกรธกับเย่เทียนหยู่ “เย่เทียนหยู่ นายกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ นี่นายอยากตายมากขนาดนั้นเลยรึไง? แต่ต่อให้นายจะอยากตายจริง ๆ นายเคยนึกถึงตระกูลหลินบ้างไหม”“ฉัน……”“นายมันทำไม นายไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย” หลินหว่านหรูกลัวว่าจะไปล่วงเกินนายน้อยฉู่เ
เมื่อเห็นนายน้อยฉู่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยวแบบนั้นแล้ว หลินหว่านรูก็หน้าซีดลง ได้แต่นั่งลงอย่างว่างเปล่าหลิวเจี๋ยถอนหายใจและพูดว่า “หว่านหรู ผมไม่ได้จะตำหนิคุณนะ แต่ทำไมคุณถึงยังเข้าไปพัวพันกับคนอย่างเย่เทียนหยู่อยู่อีก? ตราบใดที่ยังมีเขาอยู่ ช้าเร็วเขานั่นแหละที่อาจจะทำร้ายคุณได้”“ไม่ใช่สิ ตอนนี้เขาก็ได้ทำร้ายคุณไปแล้ว”“ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะโผล่มา” หลินหว่านหรูรู้สึกหดหู่มาก และถามออกไปว่า “นายน้อยหลิว คุณพอจะคิดหาวิธีอื่นได้อีกไหมคะ? ”“ผมขอลองคิดดูก่อนก็แล้วกัน”หลิวเจี๋ยเข้าใจดี ว่าวันนี้หากมีเย่เทียนหยู่อยู่ด้วย เขาก็จะไม่ประสบความสำเร็จแน่ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการหน่อย“คุณอยู่ที่นี่รอผมนะ ผมจะลองตามไปดู”“ได้ค่ะ! ”หลินหว่านหรูกลัวว่านายน้อยฉู่จะไม่ต้องการพบเธออีก ดังนั้นเธอจึงได้แต่นั่นรอขณะที่หลิวเจี๋ยกำลังจะลงไปชั้นล่าง เขาก็เห็นเย่เทียนหยู่ เขาพูดถูก เย่เทียนหยู่กำลังจับตาดูเขาอยู่ตลอด หากอยู่ที่นี่วันนี้แผนที่วางไว้ก็จะไม่มีทางสำเร็จแน่นี่ทำให้ในใจเขาเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อไม่มีหลินหว่านหรูอยู่ข้าง ๆ หลิวเจี๋ยก็ไม่อ่อนโยนเหมือนปกติอีกต่อไป และพูดอย่
“เฮ้อ เย่เทียนหยู่เองก็ทำเกินไปจริง ๆ แต่ยังไงเขาก็ไม่ได้มีเจตนาเลวร้ายอะไรเลย แค่บางทีเขาอาจจะอิจฉาและเข้าใจเราผิดไปก็เท่านั้น” หลินหว่านหรูไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายเพื่อเย่เทียนหยู่“จนถึงตอนนี้ คุณยังหาเหตุผลเพื่อเข้าข้างเขาอีกเหรอ? ”“ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ ขืนคุณยังไม่กำจัดคนแบบนี้ออกไปจากชีวิต ช้าเร็วก็จะถูกเขาทำร้ายในสักวัน ไม่สิ ตอนนี้ก็ถูกเขาทำร้ายไปแล้วนี่” หลิวเจี๋ยโกรธมากหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่น ในเวลานี้ปู่ของเธอโทรมาถามถึงความคืบหน้าของเรื่องนี้ ด้วยความสิ้นหวัง เธอเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่าเกิดอะไรขึ้นนายท่านโกรธมากในตอนแรก แต่ไม่นานก็ถอนหายใจ บางที นี่อาจเป็นชะตากรรมก็ได้จากนั้นเธอก็กลับไปทานอาหารเย็น พอดีกับที่ครอบครัวได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง แม้แต่หลิวเจี๋ยเองก็ได้รับเชิญให้กลับไปด้วย หลิวเจี๋ยเองก็มีความสุขมากที่ได้ไปด้วยหลังจากกลับไปแล้ว ทุกคนต่างก็พูดดูถูกเย่เทียนหยู่ จากนั้นจึงกล่าวชมเชยหลิวเจี๋ยในทุก ๆ เรื่องอาหารมื้อนี้ หลิวเจี๋ยทานได้อย่างมีความสุขมากหลังจากที่เย่เทียนหยู่และหลินหว่านรู่แยกจาก
“เจ้าหนู ยังถือว่าแกพอจะฉลาดอยู่บ้าง” ซาป้าเทียนพูดอย่างเย็นชาทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนในตระกูลหลินก็ตกตะลึงและหน้าซีดเผือดกันหมด คิดไม่ถึงเลยว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าหรือก็คือซาป้าเทียน ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงผู้ทรงพลังที่โด่งดังในเมืองเทียนไห่หลินจื่อตงเพิ่งจะออกมา เลยไม่รู้ชื่อเสียงของซาป้าเทียนผู้นี้ หลังจากที่โดนโจมตี ก็กลับทำให้เขาโกรธมาก จนเกือบจะพ่นคำด่าออกไป แต่นายท่านหลินก็ได้หยุดเขาเอาไว้ก่อนสีหน้าของนายท่านหลินดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก ในที่สุดซาป้าเทียนก็ไล่ตามมาถึงที่จนได้ แถมยังป่าวประกาศว่าต้องการตัวลูกสาวของตนอีกจะทำยังไงดี ตอนนี้จะทำยังไงดีซาป้าเทียนเหลือบมองทุกคนอย่างเย็นชา และพูดว่า “พวกแกฟังไว้ดี ฉันคือซาป้าเทียน วันนี้ที่ฉันมาที่นี่ ก็มีแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น ก็คือตามหาคนที่ทำร้ายคนของตระกูลซา”“ดังนั้น ตราบใดที่พวกแกตอบคำถามของฉันอย่างตรงไปตรงมา ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ล่ะก็ ฉันรับประกันได้เลย ว่าวันนี้ในปีหน้า มันจะกลายเป็นวันระลึกถึงพวกแกแทน”“ใช่ ใช่ หากอาจารย์ซามีอะไรอยากจะถามก็เชิญถามมาได้เลย ไม่ว่ายังไง หากเป็นสิ่งที่พวกเรารู้
หลิวเจี๋ยรู้สึกหวาดกลัวมาก และต้องการที่จะปกป้องตัวเองหลินจื่อตงก็โกรธขึ้นทันที และพูดออกไปเสียงดัง “ใช่แล้ว เป็นนายน้อยหลิวนั่นแหละ คุณรู้ไหมว่านายน้อยหลิวเป็นใคร เขาเป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลิว เป็นนายน้อยของฉีเฟยกรุ๊ป กล้ายั่วโมโหเขา ฉันว่าแม้แต่คำว่าตายแกยังสะกดไม่ถูกด้วยซ้ำ”เวรเอ้ย!ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา หลิวเจี๋ยก็เกือบจะทรุดตัวลง เขาจึงพูดด้วยความกลัว “ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างนั้น...... ”“นายน้อยหลิว คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณต้องกลัวเขาด้วย เขาทำให้พวกเราไม่พอใจขนาดนี้ คุณก็แค่เชิญคนใหญ่คนโตมา ในพวกเขาได้รู้ว่ายังมีคนที่อยู่เหนือกว่าพวกเขาอยู่”หลินจื่อตงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“หุบปาก ฉันสั่งให้แกหุบปากเดี๋ยวนี้! ”หลิวเจี๋ยแทบจะจะหลั่งน้ำตาออกมา เขาจึงตะคอกด้วยความโกรธนายท่านหลินเองก็พูดอย่างเร่งรีบ “จื่อตง หยุดพูดได้แล้ว ท่านนี้คืออาจารย์ซา เป็นถึงปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่”“เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้วยังไง ตอนนี้เราอยู่ในสังคมแบบไหนกันแล้ว ทักษะศิลปะการต่อสู้ของเขาน่าทึ่งมากรึไง แค่โทรศัพท์จากนายน้อยหลิวเพียงสายเดียว ก็ทำให้เขาตายฝังดินได้ภายในไม่กี่นาที”หลังจากพูดจบ
ต้องขอบคุณคุณชายเย่จริง ๆ จะบอกว่าเขาเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลกเลยก็ได้โชคยังดีที่ตอนนั้นเขาไม่ได้จับตัวอีกฝ่ายไป เพราะถ้าเป็นแบบนั้น การขอโทษเขาคงเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็คงจะกระทบกับจังหวะการจัดการเรื่องนี้ของเขาหากดูจากสถานการณ์ เรื่องนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของเบื้องบน เกรงว่าต่อไป คงใช้โอกาสนี้ออกข้อกำหนดเข้มงวดใหม่ดูท่าคราวนี้จะเกี่ยวข้องกับอีกหลายส่วนและคงจะมีคนโชคร้ายอยู่หลายคนเลยด้วยไม่รู้ว่าพวกเขาจะอดใจไม่ด่าปาร์คดาฮยอนได้หรือเปล่าขณะที่มองดูทุกอย่างเบื้องหน้า ในที่สุด หลินหว่านหรูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เรื่องที่เขาพูดเกี่ยวกับเธอ ตัวเธอเองยังแอบงงเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม: “เทียนหยู่ นี่นายไปเจอของพวกนี้ที่ไหน”“ฮ่าฮ่า ผมแค่ให้คนไปค้นๆ หน่อยก็เจอแล้วนี่” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านหรูแอบยิ้มแห้งและถอนหายใจ เทียนหยู่มีความสามารถที่น่าทึ่งจริงๆเธอไม่มีภาพบันทึกวิดีโอของเหตุการณ์ที่แสดงอยู่ตอนนี้ และบริษัทก็ไม่มีเช่นกัน ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาไปขุดมันมาจากไหนแต่โลกนี้ช่างเลวร้ายจริง ๆ ทุกคำพูดและการกระทำของเขาล้วนถูกบันทึกเอาไว้แต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้บอกเธอ
ในที่สุด บรรดาแฟนคลับก็ได้รับรู้ว่า ไอดอลของพวกเขากลายเป็นคนไร้ยางอาย และพวกเขาทุกคนล้วนเข้าใจเย่เทียนหยู่ผิดไปในขณะนี้ หลายคนนึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดในตอนแรก เขาบอกว่าหากพวกเขาสนับสนุนคนเช่นนี้ สุดท้ายพวกเขาจะต้องคุกเข่าคร่ำครวญเพราะความผิดหวังเสียใจและวินาที พวกเขาก็เสียใจจริงๆ ที่สนับสนุนคนแบบเขาแต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แฟนคลับหลายคนยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนว่าเขาถูกใส่ร้ายและทั้งหมดนี้ เป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดทุกเหตุการณ์รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดในลิฟต์ตอนแรก ก็เป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดความคิดเห็นดังกล่าวแพร่ไปยังที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว และก็มีความเห็นประมาณเดียวกันจำนวนมากก็ปรากฏนอกจากพวกหน้าม้าแล้ว ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ยังเลือกจะเชื่อในตัวปาร์คดาฮยอนไอดอลของพวกเขา และไม่เต็มใจที่จะเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยตาตนเองในขณะนี้ปาร์คดาฮยอนก็ได้รับข่าวเช่นกัน เขาตกใจและโกรธมากเขาค้นหากล้องไปทั่วทุกมุม พร้อมกับก่นด่าผู้จัดการอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่า เรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ ต้องมีพวกผีพรายกระซิบและช่วยอีกฝ่ายแอบถ่ายแน่ ไม่อย่างนั้น จะมีวีดีโอแบบนั่นได้ยังไงกัน
“งั้นก็ได้”ผู้จัดการไปจัดการทันที แต่ในตอนแรก เสี่ยวหลิงไม่เต็มใจเท่าไหร่นักแต่หลังจากรู้ว่าเป็นคำขอของปาร์คดาฮยอน แถมเขายังบอกว่าจะพาเธอไปแดนกิมจิหลังจากจบเรื่อง เธอเลยคิดว่าอนาคตตัวเองจะยังได้ติดตามดาฮยอน เธอก็มีกำลังใจไปแจ้งตำรวจทันทีเนื่องจากตำรวจถูกเรียกมาที่นี่ เย่เทียนหยู่ก็ย่อมถูกตำรวจเรียกตัวมาอย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาก็โกรธทันทีที่มีผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้เย่เทียนหยู่โกรธมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการทำร้ายหว่านหรู ทั้งตบเธอ แล้วยังต้องมาถูกผู้คนรุมด่าอีกเดิมทีเขาไม่ได้คิดที่จะดำเนินคดีต่อแล้วด้วยซ้ำ แต่คราวนี้การที่เสี่ยวหลิงแจ้งตำรวจทำให้เขาโกรธมากเย่เทียนหยู่โพสต์วิดีโออีกครั้ง จุดเริ่มต้นของวิดีโอคือข้อความ:“เดิมทีผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาผิดกับพฤติกรรมไร้ยางอายของเธอ แต่ไม่คิดว่าเธอจะไปโรงพักเพื่อกล่าวหาว่าผมทำร้ายคนอื่น ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไป”"ที่นี่ฉันใส่วิดีโอโดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งเดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ กรุณาเพลิดเพลิน ด้วยเหตุผลพิเศษบางส่วนจึงต้องมีการเข้ารหัส โปรดอย่าตำหนิฉัน”สิ่งนี้ทำให้ทุกคนดียิ่ง
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า จนกระทั่งบ่ายสองโมงของวันรุ่งขึ้น หกชั่วโมงก่อนการเปิดเผยครั้งสุดท้าย ผู้จัดการของปาร์คดาฮยอนปรากฏตัว ก่อนที่เขาจะเคาะประตูเย่เทียนหยู่เปิดประตูและมองไปที่คนตรงหน้า เขาไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแต่ใช้มือปิดประตู“รอเดี๋ยวก่อน!”“คุณเย่ ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราคุยกันก่อนได้ ลองเสวนากันก่อนสิ” ผู้จัดการกล่าวด้วยท่าทีประนีประนอม ก่อนหน้านี้ปาร์คดาฮยอนบอกเขาอยู่ตลอดว่าเย่เทียนหยู่ต้องไม่มีหลักฐานอะไรแน่แต่เมื่อถึงบ่ายวันนี้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีวิกฤติร้ายแรงกำลังจะเข้ามาหาตัวเขา และเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเลยขอให้ผู้จัดการของเขามาสืบข่าว“คุยอะไร” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“คุณเย่ ดาฮยอนของเราเคยทำผิดพลาดและทำให้คุณกับแฟนขุ่นเคือง เราต้องขออภัยจริงๆ”“แค่นั้นเหรอ?”“ไม่หรอก เป็นคำถามต่อจากนี้ต่างหาก ไม่ทราบว่าคุณเย่กุมข่าวอะไรเอาไว้เหรอครับ” ผู้จัดการถาม“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย” เย่เทียนหยู่ถาม“เพราะว่าเราจะยอมซื้อข่าวที่คุณมีในราคาที่เหมาะสมที่สุด”“ถ้างั้นผมเกรงว่าคุณคงจะจ่ายไม่ไหวหรอก” เย่เทียนหยู่ยิ้มเยาะ ของในมื
“อ่า แต่พอฉันส่งคุณไปที่ห้องพักแล้วฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันที” หยางไฉ่อวิ๋นไม่ค่อยอยากจะเชื่อเย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ เขายิ้มและพูดว่า: “ตอนที่ผมเข้าลิฟต์ผมได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างผมใช้วิธีการที่พิเศษ แม้แต่คนของโรงแรมก็ไม่รู้หรอก”เมื่อได้ยินแบบนั้นหยางไฉ่อวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ที่แท้เขาก็มีวิธีการที่น่าแปลกใจแบบนั้นซ่อนอยู่สินะ: “แต่ วิดีโออันหลังดูเหมือนคุณเป็นคนถ่ายเลย แต่ฉัน...”“แต่คุณไม่เห็นว่าผมถ่ายงั้นสินะ”เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “ผมมีกล้องรูเข็มและเครื่องบันทึกเสียงอยู่บนร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถบันทึกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”“เอาละ คุณคงไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย?”“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ คือเรื่องต่อจากนั้น…” หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกสงสัยมากเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้น“เรื่องหลังจากนั้นรอคืนพรุ่งนี้คุณจะได้รู้เอง”เย่เทียนหยู่ส่งเธอออกไป ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถทีเดียว ถ้าคุณฝึกฝนเธออย่างดี เธอจะเป็นคน
แม้หลายความคิดเห็นจะมีอคติเล็กน้อย แต่ผู้ฟังที่เป็นกลางหลายคนเริ่มเข้าข้างหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่อย่างชัดเจน จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับตัวยงเท่านั้นที่ยังพยายามคืนความบริสุทธิ์ และยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนทิศทางของเรื่องราวทั้งหมดเริ่มวุ่นวาย ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่เพราะเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จึงขยายวงกว้างขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้จัดการเห็นแบบนั้น เขาก็รีบรายงานปาร์คดาฮยอน ส่วนปาร์คดาฮยอนก็ส่งเสียงเหอะออกมาด้วยความไม่แยแส: “มีอะไรอีก”“คือ คุณดูเองเถอะ”ผู้จัดการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโทรศัพท์ให้ปาร์คดาฮยอน ปาร์คดาฮยอนหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นเนื้อหาของวิดีโอ สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำนั้นชัดเจน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความโมโหที่ปะปนกัน“แม่งเอ้ย ได้ยังไงกันวะ ทำไมมีวิดีโอที่บันทึกเสียงไว้ชัดเจนแบบนี้”เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้นปาร์คดาฮยอนก็เริ่มวิตกกังวลและสั่งทันที: “ไป ซื้อพวกหน้าม้ามาเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนความเห็นของผู้คน”“แล้วก็ หากคุยกับแพลตฟอร์ม จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ พยายามกดเรื่องนี้ให้เงียบไปซะ”เพียงแต่ ผู้จัดการดูหมดหนทาง และมันก็เ
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ