แต่ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะไม่ผิดต่อความช่วยเหลือของคุณชายหรอกเหรอ?เย่เทียนหยู่เดิมทีอยากจะโอนเงินให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เขาแค่กลัวว่าหากให้เงินมากเกินไป หยางผั่วจวินอาจจะคิดมากก็ได้อย่างไรก็ตาม เขาเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าหยางผั่วจวินจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ น้องสาวของเขา หยางหยิ่งเองก็มีพรสวรรค์มากเช่นกันแต่น่าเสียดายที่หยางหยิ่งไม่เคยฝึกฝนมาก่อน หากจะฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น มันก็ค่อนข้างที่จะยากเกินไปสำหรับเธอหลังจากออกมาแล้ว เขาก็กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากเขารู้สึกถึงจิตสังหารลาง ๆ และอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมองเป็นหมอผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างผอมบาง สวมหน้ากากอนามัยเขาเป็นนักฆ่า!ด้วยประสบการณ์และการรับรู้ที่ไม่ธรรมดาของเขา เย่เทียนหยู่จึงมั่นใจมากว่าอีกฝ่ายคือนักฆ่านักฆ่าคนนี้มั่นใจมากถึงได้กล้าบุกเข้ามาในโรงพยาบาลกลางวันแสก ๆ ไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคือใครกันแน่หากยังได้ไม่สังเกตเห็น ก็คงช่างมันไปแล้ว แต่ในเมื่อสังเกตเห็นแล้ว เย่เทียนหยู่จึงได้ตามเขาไปเงียบ ๆท่าทางของหมอผู้ชายคนนั้นทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานก็เดินไปที่ประตูวอร์ด ผลักประ
เป็นไปไม่ได้!ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!บนโลกใบนี้จะไปมีปรมาจารย์ที่อายุน้อยขนาดนี้ได้ยังไง!แต่หากสามารถใช้ชี่แท้ปกป้องร่างกายได้แบบนี้ นอกจากปรมาจารย์แล้ว ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ไม่ถูก เขาจะต้องใช้วิธีพิเศษอะไรอย่างแน่นอนหมอผู้ชายชายระงับอาการสั่นในใจของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องราวกับภูติผี ปรากฏตัวที่ด้านซ้ายของเย่เทียนหยู่ในทันที ต้องการที่จะใช้มีดสั้นแทงเข้าที่คอของเย่เทียนหยู่อย่างเหี้ยมโหดแต่เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะหันศีรษะด้วยเลยซ้ำ ราวกับว่าเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าหมอผู้ชายคนนี้จะปรากฏตัวตรงนั้น เขายกมือขวาขึ้นแล้วคว้าข้อมือของคู่ต่อสู้เบา ๆ จากนั้นโยนเขาลงไปที่พื้นอย่างแรงผั๊วะ!หมอผู้ชายล้มลงกับพื้นอย่างแรง รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขากระโดดลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ตัวตนที่น่ากลัวของเขาในการเคลื่อนไหวแทบจะทำให้คนทั่วไปมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลยด้วยซ้ำแต่ทุกครั้งที่เขาพยายามจะเข้าใกล้ เย่เทียนหยู่กลับจับเขาได้อย่างง่ายดาย ทุกครั้งที่คว้าเอาไว้ได้ ก็จะถูกโจมตีอย่างแรงกลับทุกครั้ง ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาแทบไม่อยากลุกขึ้นอีกหมอผู้ชา
ในเวลานี้เอง หลังจากที่เย่เทียนหยู่จัดการเรื่องที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็กลับวิลล่าทันที เขากำลังจะพูดกับนายท่านเป็นการส่วนตัว ว่าต่อไปเขาจะอาศัยอยู่ข้างนอก และจะไม่กลับมาที่วิลล่าตระกูลหลินแล้วทันทีที่เขามาถึงประตูวิลล่า โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสายจากหยางต้าฝู“ราชามังกร ซาป้าเทียนพ่อของซาวั่นไห่กลับมาแล้ว” หยางต้าฝูเพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อเช้า“โอ้? ”“มีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า? ” เย่เทียนหยู่ถาม“ปัจจุบันยังไม่มีครับ ครั้งแรกที่เขากลับมาคือการรวมกองกำลังของตระกูลซาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยเฉพาะบุคลากรของบริษัทรักษาความปลอดภัยสำนักซา”“แถมยังเห็นได้ชัดว่าทุกคนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เท่าที่ผมรู้ เขากระตือรือร้นและต้องการช่วยเหลือลูกชายและหลานชายของเขาอย่างมาก”ความคล่องตัวของปรมาจารย์คนนั้น ช่างไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาเล่นกันไปก่อน หากมีสถานการณ์พิเศษใด ๆ อีก ก็บอกผมรู้ทันที” เย่เทียนหยู่พูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย และพูดอย่างไม่แยแสหลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หยางต้าฝูก็มีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา ไม่รู้จริง ๆ ว่าราชามังกรได้รับความมั่นใจขนาดนี้ม
จากคพูดของหลินหว่านหรู นายท่านหลินเองก็สนับสนุนด้วยเช่นกัน และกล่าวว่า “เทียนหยู่ ไปเถอะ นายเองก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ในตระกูลหลินอีกต่อไปแล้ว”เย่เทียนหยู่ยิ้มอย่างขมขื่น และพูดอย่างช่วยไม่ได้ “อันที่จริง ซาป้าเทียนไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น”“ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นงั้นเหรอ? ”คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนโกรธขึ้นอีกครั้ง นายเพิ่งทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ไปก็ช่างเถอะ แต่นี่กลับไม่รู้ถึงความร้ายแรงของมันเลยด้วยซ้ำ“นายรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร นายรู้ไหมว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในเมืองเทียนไห่ แม้แต่ประธานหยางก็ยังต้องถอยให้” หลินหงพูดด้วยความโกรธ“ช่างเป็นคนกล้าหาญแต่คนโง่เขลาจริง ๆ นายคิดว่านายสามารถอยู่รอดได้โดยไรศัตรูด้วยกังฟูที่มีอยู่น้อยนิดของนายอย่างงั้นเหรอ? ”“กังฟูแมวสามขานั่นของนาย หากปะทะกับซาป้าเทียน เกรงว่าจะถูกฆ่าก่อนที่จะทันได้มีโอกาสโต้กลับด้วยซ้ำ”“ตระกูลหลินของเราจะต้องโชคร้ายไปแปดชั่วอายุคนแล้วจริง ๆ ที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับคนแบบนาย”นายท่านหลินรู้สึกหงุดหงิด และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เทียนหยู่ เลิกพูดเรื่องไร้สาระที่ไม่จำเป็นพวกนั้นได้แล้ว ตอนนี้นายรีบออกไปจากตระกูลหลินซะ ที่นี่พวกเ
“ไม่มีปัญหา” หลินหว่านหรูตอบอย่างรวดเร็ว“ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้ อ่อ ใช่แล้ว ครั้งนี้คุณอาจจะต้องเตรียมเงินหรือของมีค่าบางส่วนเอาไว้ด้วยนะ พวกเราอาจจะต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยของบางอย่าง”หลิวเจี๋ยเตือน“อืม เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”ยิ่งพูดมาแบบนี้ หลินหว่านหรูก็ยิ่งเชื่อในความถูกต้องของมันมากขึ้นเท่านั้นยังไงซะ ทุกคนในโลกต่างก็สนใจแต่เรื่องของผลกำไร จะมีใครบ้างล่ะที่จะทำอะไรโดยไม่หวังผลกำไรสายโทรศัพท์ถูกตัดทันที โดยที่ไม่รอให้หลินหว่านหรูพูด หลิวอวิ๋นซิ่ว แม่ตระกูลหลินรีบพูดขึ้นว่า “ฉันว่าแล้ว เรื่องพวกนี้ยังไงก็ต้องพึ่งนายน้อยหลิว นายน้อยหลิวต่างหากถึงจะเป็นดาวนำโชคของตระกูลหลินเรา คอยช่วยพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า”“นั่นสิ ลองคิดดูสิ แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมา นายน้อยหลิวช่วยพวกเราเอาไว้แล้วตั้งกี่ครั้ง ไม่เหมือนตัวปัญหาอย่างเย่เทียนหยู่นั่น ดีแต่นำพาความชิปหายมาให้พวกเราอยู่ตลอด”“หว่านหรู เธอเห็นไหม ยังไงก็ต้องเป็นนายน้อยหลิว ต่อไปต้องพิจารณานายน้อยหลิวไว้บ้างได้แล้วนะ” หลินหงกล่าว“อืม! ”หลินหว่านหรูตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วพูดว่า “แต่ยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเตรี
“คุณชายเย่ ผมไม่รู้จะขอบคุณยังไงจริง ๆ ต่อจากนี้ไป หากคุณมีอะไรที่จะสั่ง ก็สามารถสั่งการผมได้เสมอ ต่อให้จะต้องปีนขึ้นไปบนภูเขาดาบ หรือต้องลงไปในกระทะน้ำมันก็ตาม ผมก็จะทำให้สำเร็จอย่างแน่นอน”จางลี่พูดอย่างมั่นใจ“เอาล่ะ อย่างนายเนี่ยนะ เวลาเจอเรื่องอันตราย ก็ไม่รู้ว่าวิ่งหนีหายไปซ่อนที่ไหนแล้ว” เย่เทียนหยู่ส่ายหัวแล้วพูดต่อว่า “ต่อไป ก็พาคนของนายมาช่วยฉันเถอะ”“จริงเหรอครับ เยี่ยมไปเลยครับ ต่อไปก็สั่งการได้เต็มที่เลยครับ! ” จางลี่กล่าวทันทีแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ได้เห็นพลังและความน่ากลัวของคุณชายเย่ครั้งแล้วครั้งเล่าแค่ทักษะทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวนี้ก็ไม่มีใครในโลกสามารถเทียบได้แล้ว หากติดตามคนแบบนี้ อนาคตก็จะสดใสแน่นอน“อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป เมื่อมาทำงานให้ฉันแล้ว แต่นายก็ห้ามไปทำเรื่องอะไรที่มันผิดต่อกฎหมายเด็ดขาด”“คุณชายโปรดวางใจ คุณพูดอะไร เราก็จะทำแบบนั้น”“ดี จำสิ่งที่นายพูดเอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นล่ะก็ การลงมือของฉันนายเองก็รูดีนี่”หลังจากที่เย่เทียนหยู่เตือนเสร็จ เขาก็ถามว่า “ทำไมนักฆ่าถึงต้องการสังหารนาย? ”เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ จางลี่ก็กัดฟั
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของคุณแล้ว ผมเกรงว่าคงมีแค่นักฆ่าห้าอันดับแรกของโลกเท่านั้นถึงจะเทียบเคียงได้ ผมจะไปมีความสามารถทำร้ายคุณได้อย่างไร”“นายผิดแล้ว”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว“ผิดงั้นเหรอครับ? ”หรือว่าความแข็งแกร่งของดาวตกไม่สามารถรับมือกับห้าอันดับแรกได้?พอมาลองคิดดูแล้วก็ใช่ แม้ว่าเรื่องที่เขาทำมันจะสุดยอดมากแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นการลอบสังหาร ซึ่งแตกต่างจากการเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัว“อืม นักฆ่าห้าอันดับแรกพวกนั้น ยกเว้นอันดับแรกที่อาจจะต้องใช้แรงมากหน่อย ส่วนที่เหลือ ต่อให้ลงมือพร้อมกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีที่ราบเรียบ“......”“นี่นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่เราได้เจอกัน ใช่หรือเปล่า? ”“ใช่ครับ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้ในสองครั้งแรก ส่วนครั้งนี้ ผมยิ่งรู้สึกละอายใจมากกว่าเดิมอีกครับ”“เราถูกลิขิตให้มาพบกัน ส่วนนี่ ให้นายนะ” เย่เทียนหยู่หยิบหนังสือออกมา แล้วโยนมันไปให้เขาทันทีในฐานะราชามังกรแห่งด่านหลงเหมิน บวกกับที่เขาเองก็เคยได้รับโอกาสมาเช่นกัน สิ่งที่มีก็คือทรัพยากร“มันคืออะไรเหรอครับ! ”นักฆ่าหมายเลข
“คุณชาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”จางลี่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังชี่ในตัวของเย่เทียนหยู่“ไม่เป็นไร นายคุ้นเคยกับเถ้าแก่ที่นี่หรือเปล่า? ”“คุ้นเคยสิครับ คุ้นเคยมากด้วย”“หาคนช่วยฉันจับตาดูห้องนี้เอาไว้ อีกเดี๋ยวถ้ามีผู้หญิงเข้ามาแล้ว จำไว้ว่าต้องมาบอกให้ฉันทราบโดยเร็วที่สุด”“ครับ! ”หลังจากที่จางลี่ฟังจบ เขาก็โทรหาผู้จัดการที่รับผิดชอบทันที และอธิบายทุกอย่างให้ฟังไม่นานหลังจากที่เขาเข้ามาและนั่งลง จางลี่ก็ได้รับข่าวมาทันที หลังจากที่เย่เทียนหยู่รู้เรื่องแล้ว เขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีภายใต้การแนะนำของหลิวเจี๋ย หลินหว่านหรูก็ตามเข้ามา และในไม่ช้าก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก เมื่อพิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว เขาก็น่าจะเป็นนายน้อยฉู่ในเวลานี้ หลิวเจี๋ยก็รีบพูดด้วยความเคารพ "นายน้อยฉู่! ”นายน้อยฉู่ยังคงรักษาท่าทางของเขาไว้ มองไปที่หลินหว่านหรู แล้วพูดอย่างใจเย็น “เธอคือหลินหว่านหรูที่คุณพูดถึงอย่างงั้นน่ะเหรอ? ”“ใช่ครับ! ”“นั่งลงเถอะ” นายน้อยฉู่กล่าว“หว่านหรู มา พวกเราดื่มให้กับนายน้อยฉู่สักแก้วดีกว่า”ในเวลานี้ บนโต๊ะมีไวน์และอาหารมากมาย หล
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้