หลังจากที่ออกจากบ้านของเฉินเข่อซินแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกว้าวุ่นใจเขามักจะรู้สึกว่าตนมีความสัมพันธ์บางอย่างกับทั้งสองคน และอาจเกี่ยวข้องกับประวัติชีวิตของตนก่อนหน้านี้ แต่เขากลับจำเหตุการณ์ก่อนอายุแปดขวบไม่ได้เลยหลังจากลงไปชั้นล่าง เย่เทียนหยู่ก็สตาร์ทรถแล้วกลับไปที่วิลล่าถนนเก่าสายนี้แคบเล็กน้อย แถมยังเป็นถนนเดินรถทางเดียวอีก หลังจากขับไปได้สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้ารถ“ลงมา!”ชายหนุ่มเคาะฝากระโปรงหน้ารถเบาๆ และทำสัญลักษณ์มือให้ลงมาจากรถเย่เทียนหยู่เปิดประตูรถ แล้วเดินลงมา ในขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะพินิจดูอีกฝ่ายรูปร่างกำยำ ตัวสูงโปร่ง และมีผมสั้น ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ในนัยน์ตาที่ดุร้ายคู่นั้นยังแฝงไปด้วยพลังอีกด้วยเขามีความเป็นลูกผู้ชายมาก โดยเฉพาะร่างกายที่แข็งแกร่งภายใต้เสื้อผ้าบางๆ ทำให้เขามีออร่าที่น่าเกรงขามไปอีกแบบนี้ความแปลกประหลาดใจแวบขึ้นมาในนัยน์ตาของเย่เทียนหยู่ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย“คุณก็คือเย่เทียนหยู่?”“ผมเอง!”“ได้ยินมาว่าคุณเก่งกังฟูมาก?”“ก็พอได้”“แต่ว่าเมื่อมาเจอฉัน กงฟูจะดีแค้ไหนก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ขาของค
ไทเก๊กของคู่ต่อสู้นั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เข้าโจมตีโดยตรงแต่เย่เทียนหยู่ก็ยังคงไม่เกรงกลัว ใช้มือทั้งสองข้างกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะรับการโจมตีอีกครั้งของเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว ในระหว่างที่เขาโบกมือ ก็สามารถทำให้เขาถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้อีกครั้งในเวลานี้ ชายหนุ่มก็เข้าใจว่า ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย“คุณแข็งแกร่งมาก ผมสู้คุณไม่ได้!” ชายหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึม“คุณชื่ออะไร?”“หยางผั่วจวิน!”“เป็นชื่อที่ดี มันเหมาะกับคุณมาก ตอนนี้ผมชนะแล้ว คุณจะบอกผมได้หรือยัง ว่าทำไมคุณถึงได้ช่วยทำงานให้หลิวเจี๋ย?”เย่เทียนหยู่ถามหยางผั่วจวินลังเลนิดหน่อย แล้วพูดว่า “น้องสาวของฉันป่วยหนัก ต้องการเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อทำการผ่าตัด ถ้าฉันสามารถทำลายขาทั้งสองข้างของคุณและทำให้คุณไม่สามารถยืนได้ นายน้อยหลิวก็ยินดีที่จะออกเงินให้”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณยังทำไม่สำเร็จ จะทำยังไง?”“ก็แค่คิดหาวิธีอื่น”“เป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วเคยคิดที่จะช่วยผมทำงานบ้างไหม?” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่องที่หยางต้าฝูกำลังทำอยู่อย่างลับๆ จ
หลิวเจ๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง กำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อีกฝ่ายก็วางสายทันที ทำให้เขาโกรธมากจนเอาโทรศัพท์มือถือกระแทกไปที่บนพื้นอย่างแรงแม่งเอ๊ย ไอ้เด็กเวรนั่นเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?แม้แต่หยางผั่วจวินที่มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นก็ยังสู้ไม่ได้ให้ตายเถอะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะต้องฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นให้ได้“เป็นอะไรไป?”คุณพ่อตระกูลหลิวเห็นลูกชายมีท่าทางที่เกรี้ยวโกรธ“เพราะไอ้สารเลวเย่เทียนหยู่นั่น!” หลิวเจี๋ยพูดด้วยความโกรธคุณพ่อตระกูลหลิวขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “ไอ้เด็กเวรคนนั้นรับมือยากขนาดนี้เลยเหรอ?”“ไม่ยาก ก็แค่เก่งกังฟูก็เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขามักจะมายุ่งเรื่องของผม จนเกือบจะทำให้ผมเอาเงินของตระกูลหลินมาไม่ได้”เมื่อหลิวเจ๋ยพูดถึงตรงนี้ ใจก็สั่นไหว และถามว่า “พ่อครับ ให้มือสังหารไปจัดการเขาพร้อมกันได้ไหมครับ?”คุณพ่อตระกูลหลิวพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า:“ในเมื่อเขาสมควรตายขนาดนี้ งั้นก็จัดการไปพร้อมกันเลย”“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณครับพ่อ!”“อย่ามัวแต่ขอบคุณพ่อ คว้าช่วงเวลาสุดท้ายเอาไว้ เพื่อให้ได้เงินมากกว่าเดิม”“อืม!”เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหลิ
“แล้วไงล่ะ ผมเคยพูดกับคุณไปแล้ว แล้วคุณเชื่อผมไหม?”“ใช่ แต่นายน้อยหลิวพูดอย่างจริงใจมาก ฉันก็เลยอยากจะถามคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อย”“ไม่ต้องถาม ถ้าเชื่อผมก็อย่าซื้อ ถ้าไม่เชื่อ ก็ถือเสียว่าผมไม่ได้พูด”“เชื่อ ฉันเชื่อคุณอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว ฉันอยากจะพบคุณ อยากจะคุยกับคุณ ก่อนหน้านี้ฉันช่างตาถั่วจริงๆ มาถึงตอนนี้ถึงได้รู้ว่า คุณดีกว่านายน้อยหลิวมากเลย” ซูถิงพูดเป็นนัยๆหลังจากที่เย่เทียนหยู่ฟังจบแล้วก็ขมวดคิ้ว ซูถิงจะทำอะไร คงจะไม่ได้ชอบตนหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะตนมีแต่ความรังเกียจให้เธอเท่านั้น“พี่ พี่เย่ คุณกำลังฟังอยู่หรือเปล่า? ฉัน ฉันพบว่า…”“เอาล่ะ ผมยังมีธุระ ขอวางสายก่อนนะ”เย่เทียนหยู่ไม่อยากทำให้ซูถิงอับอาย เพื่อหยุดคำพูดที่เธอจะพูดต่อไป เขาจึงวางสายโทรศัพท์ซูถิงชะงักไปครู่หนึ่ง พี่เย่มีธุระจริงๆ หรือว่าจงใจขัดจังหวะ? ไม่ว่ายังไง เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาดหลังจากรอคอยมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้พบกับชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้แล้ว โดยเฉพาะพลังอำนาจของเขา ถ้าสำเร็จขึ้นมา เธอจะโบยบินขึ้นไปบนกิ่งไม้แล้วกลายเป็นนกฟีนิกซ์หลินหว่านหรู ทางที่ดีคุณอย่
หยางผั่วจวินยืนด้วยท่าทางที่ประหม่าอยู่นอกประตู ในเวลานี้เอง หมอหวัง แพทย์ประจำแผนกก็เข้ามา ทันทีที่เห็นก็พูดขึ้นว่า “หยางผั่วจวิน คุณมัวยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อะไรอยู่หน้าประตู?”“คือว่า คุณเย่กำลังช่วยดูอาการน้องสาวผมอยู่ข้างในน่ะครับ”“คุณเย่งั้นเหรอครับ? ”“เขาเป็นหมอในโรงพยาบาลของเรางั้นเหรอครับ? ”“เปล่าหรอกครับ”“ไร้สาระ ไม่ใช่หมอ แล้วคุณยังจะให้เขารักษาอยู่ข้างในเนี่ยนะ ไม่กลัวว่าเขาจะทำให้น้องสาวของคุณตายรึไง”หมอหวังพูดด้วยความโกรธทันที “ยังไม่หลีกทางให้ผมอีก”“ไม่ได้ครับ คุณเย่บอกว่า ตอนที่เขากำลังฝังเข็ม ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน”“ฝังเข็มงั้นเหรอ? คงแค่การฝังเข็มคลายเส้นสินะ นี่คุณเชื่อคนเจ้าเล่ห์นั่นจริง ๆ งั้นเหรอ เขามีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์รึไง? ”“ผมก็ไม่ทราบครับ”“ไม่ทราบอะไรกัน ไม่มีน่ะสิไม่ว่า ถ้ามีก็คงให้คุณดูตั้งแต่แรกแล้ว หมอเถื่อนที่ไม่มีแม้แต่ใบรับรองคุณวุฒิคุณก็ยังเชื่อได้ พอที รีบหลีกทางให้ผมได้แล้ว ไม่อย่างงั้น ต่อให้เทพเซียนลงมาโปรดก็ช่วยชีวิตน้องคุณไม่ได้! ”หมอหวังไม่สนใจว่าจะหยางผั่วจวินจะขวางทางอยู่หรือไม่ เขาก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตูทันทีหยา
แต่ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะไม่ผิดต่อความช่วยเหลือของคุณชายหรอกเหรอ?เย่เทียนหยู่เดิมทีอยากจะโอนเงินให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เขาแค่กลัวว่าหากให้เงินมากเกินไป หยางผั่วจวินอาจจะคิดมากก็ได้อย่างไรก็ตาม เขาเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าหยางผั่วจวินจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ น้องสาวของเขา หยางหยิ่งเองก็มีพรสวรรค์มากเช่นกันแต่น่าเสียดายที่หยางหยิ่งไม่เคยฝึกฝนมาก่อน หากจะฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น มันก็ค่อนข้างที่จะยากเกินไปสำหรับเธอหลังจากออกมาแล้ว เขาก็กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากเขารู้สึกถึงจิตสังหารลาง ๆ และอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมองเป็นหมอผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างผอมบาง สวมหน้ากากอนามัยเขาเป็นนักฆ่า!ด้วยประสบการณ์และการรับรู้ที่ไม่ธรรมดาของเขา เย่เทียนหยู่จึงมั่นใจมากว่าอีกฝ่ายคือนักฆ่านักฆ่าคนนี้มั่นใจมากถึงได้กล้าบุกเข้ามาในโรงพยาบาลกลางวันแสก ๆ ไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคือใครกันแน่หากยังได้ไม่สังเกตเห็น ก็คงช่างมันไปแล้ว แต่ในเมื่อสังเกตเห็นแล้ว เย่เทียนหยู่จึงได้ตามเขาไปเงียบ ๆท่าทางของหมอผู้ชายคนนั้นทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานก็เดินไปที่ประตูวอร์ด ผลักประ
เป็นไปไม่ได้!ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!บนโลกใบนี้จะไปมีปรมาจารย์ที่อายุน้อยขนาดนี้ได้ยังไง!แต่หากสามารถใช้ชี่แท้ปกป้องร่างกายได้แบบนี้ นอกจากปรมาจารย์แล้ว ก็ไม่มีใครสามารถทำได้ไม่ถูก เขาจะต้องใช้วิธีพิเศษอะไรอย่างแน่นอนหมอผู้ชายชายระงับอาการสั่นในใจของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องราวกับภูติผี ปรากฏตัวที่ด้านซ้ายของเย่เทียนหยู่ในทันที ต้องการที่จะใช้มีดสั้นแทงเข้าที่คอของเย่เทียนหยู่อย่างเหี้ยมโหดแต่เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะหันศีรษะด้วยเลยซ้ำ ราวกับว่าเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าหมอผู้ชายคนนี้จะปรากฏตัวตรงนั้น เขายกมือขวาขึ้นแล้วคว้าข้อมือของคู่ต่อสู้เบา ๆ จากนั้นโยนเขาลงไปที่พื้นอย่างแรงผั๊วะ!หมอผู้ชายล้มลงกับพื้นอย่างแรง รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เขากระโดดลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ตัวตนที่น่ากลัวของเขาในการเคลื่อนไหวแทบจะทำให้คนทั่วไปมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลยด้วยซ้ำแต่ทุกครั้งที่เขาพยายามจะเข้าใกล้ เย่เทียนหยู่กลับจับเขาได้อย่างง่ายดาย ทุกครั้งที่คว้าเอาไว้ได้ ก็จะถูกโจมตีอย่างแรงกลับทุกครั้ง ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาแทบไม่อยากลุกขึ้นอีกหมอผู้ชา
ในเวลานี้เอง หลังจากที่เย่เทียนหยู่จัดการเรื่องที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็กลับวิลล่าทันที เขากำลังจะพูดกับนายท่านเป็นการส่วนตัว ว่าต่อไปเขาจะอาศัยอยู่ข้างนอก และจะไม่กลับมาที่วิลล่าตระกูลหลินแล้วทันทีที่เขามาถึงประตูวิลล่า โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสายจากหยางต้าฝู“ราชามังกร ซาป้าเทียนพ่อของซาวั่นไห่กลับมาแล้ว” หยางต้าฝูเพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อเช้า“โอ้? ”“มีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า? ” เย่เทียนหยู่ถาม“ปัจจุบันยังไม่มีครับ ครั้งแรกที่เขากลับมาคือการรวมกองกำลังของตระกูลซาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยเฉพาะบุคลากรของบริษัทรักษาความปลอดภัยสำนักซา”“แถมยังเห็นได้ชัดว่าทุกคนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เท่าที่ผมรู้ เขากระตือรือร้นและต้องการช่วยเหลือลูกชายและหลานชายของเขาอย่างมาก”ความคล่องตัวของปรมาจารย์คนนั้น ช่างไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาเล่นกันไปก่อน หากมีสถานการณ์พิเศษใด ๆ อีก ก็บอกผมรู้ทันที” เย่เทียนหยู่พูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย และพูดอย่างไม่แยแสหลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หยางต้าฝูก็มีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา ไม่รู้จริง ๆ ว่าราชามังกรได้รับความมั่นใจขนาดนี้ม
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ