หลังจากที่ทุกคนออกมาข้างนอกแล้ว ไช่เสี่ยวโปก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า: “หงเจี้ยว คุณรู้จักแพทย์เซียนด้วยเหรอ?”“รู้จักสิ เขาเป็นแพทย์เซียนที่รักษาแม่ของผมหาย เมื่อได้ยินเรื่องอาการป่วยของหลานชายคุณ ผมก็รีบโทรหาเขาทันที เขาบอกว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล”“ที่แท้แพทย์เซียนก็คือคนคนนั้นที่คุณโทรมาแนะนำให้รู้จัก”อันที่จริงไช่เสี่ยวโปเคยได้ยินหวงหงเจี้ยนพูดเกี่ยวกับเรื่องแม่ของเขา แต่แค่รู้สึกว่ามันโอเวอร์เกินไป จึงทำให้ไม่ไว้ใจแพทย์เซียนคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแพทย์เซียนจริงๆโชคดีที่แพทย์เซียนเย่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาคงจะเลวร้ายจนไม่อยากจะคิดในเวลานี้เขาก็สังเกตเห็นผู้อำนวยการหม่านั่งทรุดตัวลง ด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดอยู่ด้านข้าง จึงถ่มน้ำลายใส่อย่างแรง ไอ้สารเลวคนนี้ เกือบจะทำให้หลานชายของตนเสียชีวิตแล้วหลังจากที่เย่เทียนหยู่ปรับร่างกายให้เป็นพิเศษแล้ว เด็กทั้งสองก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เนื่องจากเด็กๆชอบความเฮฮาสนุกสนานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเริ่มลุกขึ้นมาวิ่งเล่นด้วยกันภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของพวกเขามีความสุขเป็นที่สุด จึงรู้สึกขอบคุณเย่เทียนหยู่เป็นอย่างมาก จึงขอ
“ชดเชย?”“คุณชดเชยให้ผมได้เหรอ สามารถชดเชยให้คนป่วยที่น่าสงสารเหล่านั้นได้ไหม?”“พวกเขาหลายคนระดมเงินเพื่อมารักษาโรค ขายบ้านขายที่ดิน และขายแม้กระทั่งเลือด! แต่คุณทำได้ยังไง แค่ออกบิลค่าใช้จ่ายตามใจชอบ ก็สามารถชิงเงินที่พวกเขาหามาได้ด้วยความยากลำบากไปทั้งหมด”“คุณน่าขยะแขยงยิ่งกว่าโจรเป็นร้อยเท่า!”ยิ่งเย่เทียนหยู่พูดมากเท่าไรก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะตอนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉินเข่อซิน ในใจก็รู้สึกทุกข์ระทมเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินดังนี้ หม่าจวินก็อ่อนแรง และล้มลงไปทันทีเพราะเขารู้ว่า เรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้อีกต่อไป ซึ่งก็หมายความว่าเขาจบเห่แล้ว และอาจจะถึงขั้นติดคุก“เกิดอะไรขึ้น?”คณบดีหูรีบกล่าวถามทันทีในเวลานี้ เย่เทียนหยู่ก็เอาบิลค่าใช้จ่ายออกมา แล้วส่งให้คณบดีดู ในขณะเดียวกันก็อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนแรกให้ฟังด้วยหลังจากที่ผู้นำหลายได้ยินดังนี้แล้ว ต่างก็พากันเกรี้ยวโกรธ คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเช่นนี้อยู่ที่เมืองเทียนไห่ โหดร้ายราวกับว่ากินคนไม่คลายกระดูกเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก
หลังจากที่ออกจากบ้านของเฉินเข่อซินแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกว้าวุ่นใจเขามักจะรู้สึกว่าตนมีความสัมพันธ์บางอย่างกับทั้งสองคน และอาจเกี่ยวข้องกับประวัติชีวิตของตนก่อนหน้านี้ แต่เขากลับจำเหตุการณ์ก่อนอายุแปดขวบไม่ได้เลยหลังจากลงไปชั้นล่าง เย่เทียนหยู่ก็สตาร์ทรถแล้วกลับไปที่วิลล่าถนนเก่าสายนี้แคบเล็กน้อย แถมยังเป็นถนนเดินรถทางเดียวอีก หลังจากขับไปได้สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้ารถ“ลงมา!”ชายหนุ่มเคาะฝากระโปรงหน้ารถเบาๆ และทำสัญลักษณ์มือให้ลงมาจากรถเย่เทียนหยู่เปิดประตูรถ แล้วเดินลงมา ในขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะพินิจดูอีกฝ่ายรูปร่างกำยำ ตัวสูงโปร่ง และมีผมสั้น ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ในนัยน์ตาที่ดุร้ายคู่นั้นยังแฝงไปด้วยพลังอีกด้วยเขามีความเป็นลูกผู้ชายมาก โดยเฉพาะร่างกายที่แข็งแกร่งภายใต้เสื้อผ้าบางๆ ทำให้เขามีออร่าที่น่าเกรงขามไปอีกแบบนี้ความแปลกประหลาดใจแวบขึ้นมาในนัยน์ตาของเย่เทียนหยู่ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย“คุณก็คือเย่เทียนหยู่?”“ผมเอง!”“ได้ยินมาว่าคุณเก่งกังฟูมาก?”“ก็พอได้”“แต่ว่าเมื่อมาเจอฉัน กงฟูจะดีแค้ไหนก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ขาของค
ไทเก๊กของคู่ต่อสู้นั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เข้าโจมตีโดยตรงแต่เย่เทียนหยู่ก็ยังคงไม่เกรงกลัว ใช้มือทั้งสองข้างกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะรับการโจมตีอีกครั้งของเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว ในระหว่างที่เขาโบกมือ ก็สามารถทำให้เขาถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้อีกครั้งในเวลานี้ ชายหนุ่มก็เข้าใจว่า ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย“คุณแข็งแกร่งมาก ผมสู้คุณไม่ได้!” ชายหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึม“คุณชื่ออะไร?”“หยางผั่วจวิน!”“เป็นชื่อที่ดี มันเหมาะกับคุณมาก ตอนนี้ผมชนะแล้ว คุณจะบอกผมได้หรือยัง ว่าทำไมคุณถึงได้ช่วยทำงานให้หลิวเจี๋ย?”เย่เทียนหยู่ถามหยางผั่วจวินลังเลนิดหน่อย แล้วพูดว่า “น้องสาวของฉันป่วยหนัก ต้องการเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อทำการผ่าตัด ถ้าฉันสามารถทำลายขาทั้งสองข้างของคุณและทำให้คุณไม่สามารถยืนได้ นายน้อยหลิวก็ยินดีที่จะออกเงินให้”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณยังทำไม่สำเร็จ จะทำยังไง?”“ก็แค่คิดหาวิธีอื่น”“เป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วเคยคิดที่จะช่วยผมทำงานบ้างไหม?” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่องที่หยางต้าฝูกำลังทำอยู่อย่างลับๆ จ
หลิวเจ๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง กำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อีกฝ่ายก็วางสายทันที ทำให้เขาโกรธมากจนเอาโทรศัพท์มือถือกระแทกไปที่บนพื้นอย่างแรงแม่งเอ๊ย ไอ้เด็กเวรนั่นเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?แม้แต่หยางผั่วจวินที่มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นก็ยังสู้ไม่ได้ให้ตายเถอะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะต้องฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นให้ได้“เป็นอะไรไป?”คุณพ่อตระกูลหลิวเห็นลูกชายมีท่าทางที่เกรี้ยวโกรธ“เพราะไอ้สารเลวเย่เทียนหยู่นั่น!” หลิวเจี๋ยพูดด้วยความโกรธคุณพ่อตระกูลหลิวขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “ไอ้เด็กเวรคนนั้นรับมือยากขนาดนี้เลยเหรอ?”“ไม่ยาก ก็แค่เก่งกังฟูก็เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขามักจะมายุ่งเรื่องของผม จนเกือบจะทำให้ผมเอาเงินของตระกูลหลินมาไม่ได้”เมื่อหลิวเจ๋ยพูดถึงตรงนี้ ใจก็สั่นไหว และถามว่า “พ่อครับ ให้มือสังหารไปจัดการเขาพร้อมกันได้ไหมครับ?”คุณพ่อตระกูลหลิวพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า:“ในเมื่อเขาสมควรตายขนาดนี้ งั้นก็จัดการไปพร้อมกันเลย”“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณครับพ่อ!”“อย่ามัวแต่ขอบคุณพ่อ คว้าช่วงเวลาสุดท้ายเอาไว้ เพื่อให้ได้เงินมากกว่าเดิม”“อืม!”เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหลิ
“แล้วไงล่ะ ผมเคยพูดกับคุณไปแล้ว แล้วคุณเชื่อผมไหม?”“ใช่ แต่นายน้อยหลิวพูดอย่างจริงใจมาก ฉันก็เลยอยากจะถามคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อย”“ไม่ต้องถาม ถ้าเชื่อผมก็อย่าซื้อ ถ้าไม่เชื่อ ก็ถือเสียว่าผมไม่ได้พูด”“เชื่อ ฉันเชื่อคุณอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว ฉันอยากจะพบคุณ อยากจะคุยกับคุณ ก่อนหน้านี้ฉันช่างตาถั่วจริงๆ มาถึงตอนนี้ถึงได้รู้ว่า คุณดีกว่านายน้อยหลิวมากเลย” ซูถิงพูดเป็นนัยๆหลังจากที่เย่เทียนหยู่ฟังจบแล้วก็ขมวดคิ้ว ซูถิงจะทำอะไร คงจะไม่ได้ชอบตนหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะตนมีแต่ความรังเกียจให้เธอเท่านั้น“พี่ พี่เย่ คุณกำลังฟังอยู่หรือเปล่า? ฉัน ฉันพบว่า…”“เอาล่ะ ผมยังมีธุระ ขอวางสายก่อนนะ”เย่เทียนหยู่ไม่อยากทำให้ซูถิงอับอาย เพื่อหยุดคำพูดที่เธอจะพูดต่อไป เขาจึงวางสายโทรศัพท์ซูถิงชะงักไปครู่หนึ่ง พี่เย่มีธุระจริงๆ หรือว่าจงใจขัดจังหวะ? ไม่ว่ายังไง เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาดหลังจากรอคอยมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้พบกับชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้แล้ว โดยเฉพาะพลังอำนาจของเขา ถ้าสำเร็จขึ้นมา เธอจะโบยบินขึ้นไปบนกิ่งไม้แล้วกลายเป็นนกฟีนิกซ์หลินหว่านหรู ทางที่ดีคุณอย่
หยางผั่วจวินยืนด้วยท่าทางที่ประหม่าอยู่นอกประตู ในเวลานี้เอง หมอหวัง แพทย์ประจำแผนกก็เข้ามา ทันทีที่เห็นก็พูดขึ้นว่า “หยางผั่วจวิน คุณมัวยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อะไรอยู่หน้าประตู?”“คือว่า คุณเย่กำลังช่วยดูอาการน้องสาวผมอยู่ข้างในน่ะครับ”“คุณเย่งั้นเหรอครับ? ”“เขาเป็นหมอในโรงพยาบาลของเรางั้นเหรอครับ? ”“เปล่าหรอกครับ”“ไร้สาระ ไม่ใช่หมอ แล้วคุณยังจะให้เขารักษาอยู่ข้างในเนี่ยนะ ไม่กลัวว่าเขาจะทำให้น้องสาวของคุณตายรึไง”หมอหวังพูดด้วยความโกรธทันที “ยังไม่หลีกทางให้ผมอีก”“ไม่ได้ครับ คุณเย่บอกว่า ตอนที่เขากำลังฝังเข็ม ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน”“ฝังเข็มงั้นเหรอ? คงแค่การฝังเข็มคลายเส้นสินะ นี่คุณเชื่อคนเจ้าเล่ห์นั่นจริง ๆ งั้นเหรอ เขามีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์รึไง? ”“ผมก็ไม่ทราบครับ”“ไม่ทราบอะไรกัน ไม่มีน่ะสิไม่ว่า ถ้ามีก็คงให้คุณดูตั้งแต่แรกแล้ว หมอเถื่อนที่ไม่มีแม้แต่ใบรับรองคุณวุฒิคุณก็ยังเชื่อได้ พอที รีบหลีกทางให้ผมได้แล้ว ไม่อย่างงั้น ต่อให้เทพเซียนลงมาโปรดก็ช่วยชีวิตน้องคุณไม่ได้! ”หมอหวังไม่สนใจว่าจะหยางผั่วจวินจะขวางทางอยู่หรือไม่ เขาก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตูทันทีหยา
แต่ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะไม่ผิดต่อความช่วยเหลือของคุณชายหรอกเหรอ?เย่เทียนหยู่เดิมทีอยากจะโอนเงินให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เขาแค่กลัวว่าหากให้เงินมากเกินไป หยางผั่วจวินอาจจะคิดมากก็ได้อย่างไรก็ตาม เขาเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าหยางผั่วจวินจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ น้องสาวของเขา หยางหยิ่งเองก็มีพรสวรรค์มากเช่นกันแต่น่าเสียดายที่หยางหยิ่งไม่เคยฝึกฝนมาก่อน หากจะฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น มันก็ค่อนข้างที่จะยากเกินไปสำหรับเธอหลังจากออกมาแล้ว เขาก็กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากเขารู้สึกถึงจิตสังหารลาง ๆ และอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมองเป็นหมอผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างผอมบาง สวมหน้ากากอนามัยเขาเป็นนักฆ่า!ด้วยประสบการณ์และการรับรู้ที่ไม่ธรรมดาของเขา เย่เทียนหยู่จึงมั่นใจมากว่าอีกฝ่ายคือนักฆ่านักฆ่าคนนี้มั่นใจมากถึงได้กล้าบุกเข้ามาในโรงพยาบาลกลางวันแสก ๆ ไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาคือใครกันแน่หากยังได้ไม่สังเกตเห็น ก็คงช่างมันไปแล้ว แต่ในเมื่อสังเกตเห็นแล้ว เย่เทียนหยู่จึงได้ตามเขาไปเงียบ ๆท่าทางของหมอผู้ชายคนนั้นทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานก็เดินไปที่ประตูวอร์ด ผลักประ