โจวเมี่ยวถงกำลังจะขอบคุณเย่เทียนหยู่ แต่ในขณะนี้โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น หลังจากรับสายแล้ว ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่จนใจว่า: “แพทย์เซียนเย่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมากนะ ในกระเป๋าของฉันมีเงินสดแค่สองแสนห้าหมื่นบาท ถือเสียว่าเป็นค่ารักษาก็แล้วกัน”“อันนี้ นามบัตรของฉัน ต่อไปถ้าคุณต้องการอะไร โทรศัพท์หาฉันได้ทันที ถ้าฉันสามารถทำได้ ฉันจะช่วยคุณอย่างแน่นอน”เธอพลางพูดพลางยื่นเงินและนามบัตรให้กับเย่เทียนหยู่ แล้วกล่าวว่า “ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ต้องขอตัวกลับไปก่อน”“ได้ครับ!”เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้เสแสร้งอะไร รับเงินมาโดยตรง เพราะอย่างไรเสียผู้หญิงคนนี้ดูรวยมาก เงินสองสามแสนบาทน่าจะเป็นแค่เงินเล็กน้อยสำหรับเธอแต่ชีวิตของลูกสาว ถือว่าเป็นสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่าได้เมื่อหม่าจวินเห็นเงินที่อยู่ในมือของเย่เทียนหยู่ ก็รู้สึกอิจฉา จึงทำได้แค่รู้สึกเสียดาย ที่มันไม่ได้ตกเป็นของเขาหม่าจวินรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก จึงรีบพูดแซะไปว่า “ไอ้คนแซ่เย่ ที่นี่คือโรงพยาบาล เงินค่ารักษาที่ได้รับมาจะเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ได้นะ คุณเอาเงินสองแสนห้าหมื่นบาทก้อนนั้นมาให้ผม ผมจะมอบให้โรงพยาบาล”ทันท
เพราะว่าเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้อยู่คนเดียว เพื่อนอีกสามคนที่เล่นด้วยกันก็มีอาการแบบเดียวกัน แต่โรงพยาบาลที่พวกเขาไปนั้นกลับไม่มีวิธีรักษา จึงทำได้แค่ยื้อชีวิตของพวกเขาเอาไว้เท่านั้น“ใช่ครับ!”หม่าจวินกล่าวอย่างมั่นใจทันทีว่า “ทันทีที่ผมเห็นอาการของเธอ ผมก็รู้สาเหตุของโรคทันที ตอนนี้เธอหายดีแล้ว จึงกลับไปพักฟื้นที่บ้าน”“ดี คุณทำได้ดีมาก” นายกเทศมนตรีเผยความปีติยินดีออกมาเด็กๆที่เล่นกับลูกสาวของโจวเมี่ยวถงล้วนมีสถานะที่ไม่ธรรมดา หาก สามารถรักษาทั้งหมดให้หายขาดได้ในครั้งนี้ มันจะเอื้อประโยชน์ต่ออาชีพการงานของเขาในอนาคตโดยเฉพาะหลานชายของไช่เสี่ยวโปไช่หยาง แม้ว่าตอนนี้ไช่เสี่ยวโปจะเกษียณแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเป็นถึงรองรัฐมนตรี มีตำแหน่งระดับสูงและมีอำนาจมากมายแต่คณบดีหูแอบรู้สึกแประหลาดใจ ปกติแล้วไม่เคยเห็นหม่าจวินจะเก่งกาจขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นมีผู้อำนวยการหม่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ไม่ถึงขั้นต้องใช้เวลาหลายปีในการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการหรอกปัญหาที่ยุ่งยากขนาดนี้ แค่เขาดูก็สามารถรู้สาเหตุของโรค แถมยังใช้ยารักษาให้หายได้อย่างง่ายดายอีกด้วย“ผู้อำนวยการหม่า คุณเป็นคนที่รักษาหายจริงๆเหรอ?”
“พี่เย่…”เมื่อเห็นทุกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว เฉินเข่อซินก็อดไม่ได้ที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างเย่เทียนหยู่ส่ายหัว แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า:“ไม่ต้องใจร้อน รอดูต่อไปก่อน”ถ้าเขาเดาไม่ผิด คนงี่เง่าคนนี้น่าจะอยากช่วยชีวิตคนด้วยตนเองจริงๆเฉินเข่อซินพยักหน้าในขณะที่กำลังพูด ก็มีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกอีกครั้ง หัวหน้าพยาบาลกำลังอุ้มเด็กน้อยคนหนี่งอยู่ ด้านข้างยังมีชายชราที่ดูไม่ธรรมดาและหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งด้วย“รัฐมนตรีไช่...”นายกเทศมนตรีสื่อและคนอื่นๆก็รีบเข้าไปทักทายเขา“อืม ใครคือผู้อำนวยการหม่า รีบช่วยตรวจดูหลานชายของผมหน่อย” ไช่เสี่ยวโปกล่าวอย่างกังวลผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเป็นแม่ของเด็ก ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลเช่นกัน“ผม ผมเองครับ!”ผู้อำนวยการหม่ามีเหงื่อออกที่หน้าผาก เห็นได้ชัดว่ารู้สึกประหม่า แต่แล้วก็คิดได้ว่า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเช่นกันเมื่อเห็นนายกเทศมนตรีสื่อและคนอื่นๆเคารพต่อชายชราแล้ว หากรักษาหลานชายของเขาให้หายขาด ต่อไปยังจะกลัวว่าอาชีพการงานจะไม่รุ่งเรืองอีกเหรอ?“คุณคือคนที่รักษาลูกสาวของประธานโจวหายใช่ไหม”“ใช่ครับ!”“ถ้าอย่างนั้น
คณบดีหูโกรธหม่าจวินมาก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่ยอมพูดอีก แล้วหันไปมองเย่เทียนหยู่ที่หลิวอิ๋งอิ๋งชี้ไป แล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า: “คุณครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับหม่าจวิน แต่ถ้าคุณมีวิธีรักษาจริงๆ ได้โปรดช่วยรักษาด้วย แล้วผมจะตอบแทนคุณเป็นอย่างงาม”“ใช่ ใช่แล้ว คุณคะ ได้โปรดช่วยลูกชายของฉันด้วย คุณไม่ต้องกังวล ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ฉันก็จะรับปากคุณ”หญิงสาวก็กล่าวอย่างร้อนใจเช่นกัน“ผมชื่อไช่เสี่ยวโป ผมพอมีเส้นสายอยู่บ้าง คุณได้โปรดยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย ต่อไปผมจะต้องตอบแทนคุณอย่างแน่นอน”ไช่เสี่ยวโปอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเขามีหลานชายสุดที่รักแค่เพียงคนเดียว ปกติแล้วก็มีแต่เรื่องที่ทำให้วิตกกังวลใจ หลังจากเกษียณแล้ว ก็อยากจะมีความสุขกับครอบครัวกับหลานชายเย่เทียนหยู่กลับมีสีหน้าที่สงบนิ่ง และไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับคำสัญญาของพวกเขาเลย แค่พูดเบาๆว่า: “หลีกทางหน่อย เดี๋ยวผมจะรักษาเอง!”เมื่อทุกคนได้ยินดังนี้ ก็รีบหลีกทางให้ทันทีเย่เทียนหยู่ก้าวไปข้างหน้า ตวัดมือขวา เข็มเงินหลายเข็มที่หม่าจวินฝังอยู่บนร่างกายเด็กชายก็ลอยกระเด็นออกไปทั้งหมด จากนั้นก็ลอยออกจาก
หลังจากที่ทุกคนออกมาข้างนอกแล้ว ไช่เสี่ยวโปก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า: “หงเจี้ยว คุณรู้จักแพทย์เซียนด้วยเหรอ?”“รู้จักสิ เขาเป็นแพทย์เซียนที่รักษาแม่ของผมหาย เมื่อได้ยินเรื่องอาการป่วยของหลานชายคุณ ผมก็รีบโทรหาเขาทันที เขาบอกว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล”“ที่แท้แพทย์เซียนก็คือคนคนนั้นที่คุณโทรมาแนะนำให้รู้จัก”อันที่จริงไช่เสี่ยวโปเคยได้ยินหวงหงเจี้ยนพูดเกี่ยวกับเรื่องแม่ของเขา แต่แค่รู้สึกว่ามันโอเวอร์เกินไป จึงทำให้ไม่ไว้ใจแพทย์เซียนคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแพทย์เซียนจริงๆโชคดีที่แพทย์เซียนเย่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาคงจะเลวร้ายจนไม่อยากจะคิดในเวลานี้เขาก็สังเกตเห็นผู้อำนวยการหม่านั่งทรุดตัวลง ด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดอยู่ด้านข้าง จึงถ่มน้ำลายใส่อย่างแรง ไอ้สารเลวคนนี้ เกือบจะทำให้หลานชายของตนเสียชีวิตแล้วหลังจากที่เย่เทียนหยู่ปรับร่างกายให้เป็นพิเศษแล้ว เด็กทั้งสองก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เนื่องจากเด็กๆชอบความเฮฮาสนุกสนานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเริ่มลุกขึ้นมาวิ่งเล่นด้วยกันภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของพวกเขามีความสุขเป็นที่สุด จึงรู้สึกขอบคุณเย่เทียนหยู่เป็นอย่างมาก จึงขอ
“ชดเชย?”“คุณชดเชยให้ผมได้เหรอ สามารถชดเชยให้คนป่วยที่น่าสงสารเหล่านั้นได้ไหม?”“พวกเขาหลายคนระดมเงินเพื่อมารักษาโรค ขายบ้านขายที่ดิน และขายแม้กระทั่งเลือด! แต่คุณทำได้ยังไง แค่ออกบิลค่าใช้จ่ายตามใจชอบ ก็สามารถชิงเงินที่พวกเขาหามาได้ด้วยความยากลำบากไปทั้งหมด”“คุณน่าขยะแขยงยิ่งกว่าโจรเป็นร้อยเท่า!”ยิ่งเย่เทียนหยู่พูดมากเท่าไรก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะตอนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉินเข่อซิน ในใจก็รู้สึกทุกข์ระทมเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินดังนี้ หม่าจวินก็อ่อนแรง และล้มลงไปทันทีเพราะเขารู้ว่า เรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้อีกต่อไป ซึ่งก็หมายความว่าเขาจบเห่แล้ว และอาจจะถึงขั้นติดคุก“เกิดอะไรขึ้น?”คณบดีหูรีบกล่าวถามทันทีในเวลานี้ เย่เทียนหยู่ก็เอาบิลค่าใช้จ่ายออกมา แล้วส่งให้คณบดีดู ในขณะเดียวกันก็อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนแรกให้ฟังด้วยหลังจากที่ผู้นำหลายได้ยินดังนี้แล้ว ต่างก็พากันเกรี้ยวโกรธ คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเช่นนี้อยู่ที่เมืองเทียนไห่ โหดร้ายราวกับว่ากินคนไม่คลายกระดูกเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก
หลังจากที่ออกจากบ้านของเฉินเข่อซินแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกว้าวุ่นใจเขามักจะรู้สึกว่าตนมีความสัมพันธ์บางอย่างกับทั้งสองคน และอาจเกี่ยวข้องกับประวัติชีวิตของตนก่อนหน้านี้ แต่เขากลับจำเหตุการณ์ก่อนอายุแปดขวบไม่ได้เลยหลังจากลงไปชั้นล่าง เย่เทียนหยู่ก็สตาร์ทรถแล้วกลับไปที่วิลล่าถนนเก่าสายนี้แคบเล็กน้อย แถมยังเป็นถนนเดินรถทางเดียวอีก หลังจากขับไปได้สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้ารถ“ลงมา!”ชายหนุ่มเคาะฝากระโปรงหน้ารถเบาๆ และทำสัญลักษณ์มือให้ลงมาจากรถเย่เทียนหยู่เปิดประตูรถ แล้วเดินลงมา ในขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะพินิจดูอีกฝ่ายรูปร่างกำยำ ตัวสูงโปร่ง และมีผมสั้น ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ในนัยน์ตาที่ดุร้ายคู่นั้นยังแฝงไปด้วยพลังอีกด้วยเขามีความเป็นลูกผู้ชายมาก โดยเฉพาะร่างกายที่แข็งแกร่งภายใต้เสื้อผ้าบางๆ ทำให้เขามีออร่าที่น่าเกรงขามไปอีกแบบนี้ความแปลกประหลาดใจแวบขึ้นมาในนัยน์ตาของเย่เทียนหยู่ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย“คุณก็คือเย่เทียนหยู่?”“ผมเอง!”“ได้ยินมาว่าคุณเก่งกังฟูมาก?”“ก็พอได้”“แต่ว่าเมื่อมาเจอฉัน กงฟูจะดีแค้ไหนก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ขาของค
ไทเก๊กของคู่ต่อสู้นั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เข้าโจมตีโดยตรงแต่เย่เทียนหยู่ก็ยังคงไม่เกรงกลัว ใช้มือทั้งสองข้างกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะรับการโจมตีอีกครั้งของเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว ในระหว่างที่เขาโบกมือ ก็สามารถทำให้เขาถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้อีกครั้งในเวลานี้ ชายหนุ่มก็เข้าใจว่า ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย“คุณแข็งแกร่งมาก ผมสู้คุณไม่ได้!” ชายหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึม“คุณชื่ออะไร?”“หยางผั่วจวิน!”“เป็นชื่อที่ดี มันเหมาะกับคุณมาก ตอนนี้ผมชนะแล้ว คุณจะบอกผมได้หรือยัง ว่าทำไมคุณถึงได้ช่วยทำงานให้หลิวเจี๋ย?”เย่เทียนหยู่ถามหยางผั่วจวินลังเลนิดหน่อย แล้วพูดว่า “น้องสาวของฉันป่วยหนัก ต้องการเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อทำการผ่าตัด ถ้าฉันสามารถทำลายขาทั้งสองข้างของคุณและทำให้คุณไม่สามารถยืนได้ นายน้อยหลิวก็ยินดีที่จะออกเงินให้”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณยังทำไม่สำเร็จ จะทำยังไง?”“ก็แค่คิดหาวิธีอื่น”“เป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วเคยคิดที่จะช่วยผมทำงานบ้างไหม?” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่องที่หยางต้าฝูกำลังทำอยู่อย่างลับๆ จ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้
“ฉัน…”จูเก่อหลิวหลีเกือบจะหลุเบอกความจริง แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านผู้หญิง ที่ว่าห้ามให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับการเข้าพักของท่านผู้หญิงในเมืองเทียนไห่เด็ดขาดเธอไม่สนใจอะไรอีกต่อไปและพูดว่า “คุณไม่เชื่อฉันก็หมดหนทางจะพูด อยากทำอะไรก็ทำเถอะ”“พูดจริงเหรอ ถึงผมจะไม่ชอบคุณ แต่ด้วยความสวยของคุณ คนรอบตัวผม…”“กล้าเหรอ!”จูเก่อหลิวหลีรู้สึกอับอาย แต่เสียใจมากกว่า เธอขัดจังหวะและพูดด้วยความโกรธ “ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้น ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ ต่อให้ฉันต้องตายไปเป็นผีก็ตาม!”ขณะที่เธอพูดน้ำตาของเธอก็ไหลไม่หยุดคราวนี้ ทำเอาเย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนโดยเฉพาะตอนที่เห็นอีกฝ่ายทั้งเสียใจและโกรธมากจนน่าสงสาร เขาก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนเป็นคนเลวทรามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าสงสารเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าเขาน่าสงสารเพียงใด เย่เทียนหยู่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวใด ๆ ได้และพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ถ้าคุณไม่พูดก็ช่างมันเถอะ แต่ในเมื่อคุณเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนนี้คุณคงยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้แล้วใช่มั้ย”ถึงยังไงมันไม่ก่ออันตรายใด ๆ กับเขา หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข และเขาไม่ตามเอาความทุกอย่างก็จบจ
จูเก่อหลิวหลีตกใจมาก นายน้อยคนนี้เก่งเชื่อมโยงเกินไปแล้ว อุตส่าห์เดาถูกเสียหมด แต่เธอรีบตอบทันทีว่า “เธอเป็นแค่หุ้นส่วนของฉัน คุณคงไม่คิดว่าเธอเป็นแม่ของคุณหรอกนะคะ”“คุณคิดมากไป ถ้าเธอเป็นแม่ของคุณจริง ๆ เธอคงออกมาพบคุณนานแล้ว”“ก็ใช่นะ”เย่เทียนหยู่พยักหน้าเห็นด้วย แต่เขาก็พูดต่อทันที “แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นหรอก ตามที่คุณพูด แม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่มาเจอผมด้วยตัวเองเลย บางทีเธออาจมีเหตุผลบางอย่าง”“…”จูเก่อหลิวหลียิ้มอย่างขมขื่น นายน้อยคนนี้สมองเร็วเสียจรงิ “ถ้าคุณอยากจะคิดแบบนั้นก็ตามใจ” เธอตอบอย่างเป็นหลาง“เอาล่ะ ถ้างั้น ผมขอถามคุณ ว่าตอนนี้แม่ของผมเป็นยังไงบ้าง”“ไม่ต้องห่วง เธอสบายดี เธอแค่ยุ่งอยู่กับเรื่องใหญ่ เมื่อเสร็จแล้ว เธอจะมาที่เมืองเทียนไห่เพื่อตามหาคุณเอง”“จริงเหรอ” เย่เทียนหยู่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับแม่ของเขา ตอนนี้เขารู้ว่าเธอปลอดภัย เขาก็ย่อมมีความสุข“จริงแท้แน่นอนค่ะ”“คุณคือคนที่คอยจัดการให้ผมหย่ากับหลินหว่านหรูแล้วแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียนเหรอ” เย่เทียนหยู่ถาม“ถูกต้อง!”จูเก่อหลิวหลียืนยัน“เพร
“ถ้าคุณจูเก่อชอบก็ทำตามที่ชอบเถอะครับ!” เย่เทียนหยู่กล่าวเสียงเรียบจูเก่อหลิวหลีเริ่มโกรธเล็กน้อยและพูดว่า “คุณเย่ คุณต้องการอะไร”“บอกผมมา ผู้หญิงที่อยู่กับคุณคือใคร ทำไมคุณถึงไม่อยากให้ฉันอยู่กับ หลินหว่านหรูและอยากให้ฉันแต่งงานกับหยางเฉียนเฉียน” เย่เทียนหยู่กล่าว“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”“ดูเหมือนว่าคุณจะหลั่งน้ำตาไม่ได้จริง ๆ จนกว่าคุณจะเห็นโลงศพ” เย่เทียนหยู่รู้สึกหงุดหงิด ลุกขึ้นยืนตรง ก้าวไปข้างหน้า และจู่ๆ ก็ดึงจูเก่อหลิวหลีตรงหน้าเขาจูเก่อหลิวหลีสะดุ้ง และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย“คุณ คุณจะทำอะไร”“ทำอะไรเหรอ คุณคิดว่าผู้ชายจะทำยังไง เวลาเผชิญหน้ากับผู้หญิงสวยแบบคุณน่ะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างจงใจแต่เมื่อเขาหรี่ตาลง เขาเห็นจูเก่อหลิวหลีสีขาวจาง ๆ ซึ่งสูงและสมบูรณ์แบบมากจนแทบจะกระโดดออกจากผ้าเช็ดตัวผิวโดยรอบเป็นสีขาวพราว และดวงตากลมโตที่สดใสเหล่านั้นปรากฏให้เห็นอารมณ์แสนซับซ้อน รวมถึงความเขินอาย ความกังวลใจ และแม้แต่ความหลงใหลเย่เทียนหยู่ไม่สามารถจัดการมันได้ในทันทีทั้งที่ถูกเขารุกขนาดนี้แล้ว แต่เธอยังมองเขาด้วยสายตาร้อนแรงแบบนั้นหมายความว่ายังไงจู
เธอพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ค่ะ ท่านผู้หญิง ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้อีกแม้แต่คำเดียว”“ลองดูสถานการณ์ก่อนเถอะ”“พวกเขาไม่ใช่ศัตรู เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง คำขอเดียวคืออย่าให้เขารู้ว่าฉันอยู่ในเมืองเทียนไห่”อีกฝ่ายทิ้งคำพูดไว้ แล้วรีบเก็บข้าวของพอประมาณ ก่อนจะออกจากโรงแรมไปพร้อมกับคนของเธอเธอเดินเร็วมากและไม่แม้แต่จะใช้ลิฟต์ แต่เลือกใช้บันไดเพื่อเลี่ยงกล่องวงจรปิดทั้งหมด และเดินย่างไร้เสียงทันทีที่เธอออกจากรถ รถของเย่เทียนหยู่ก็เข้ามาใกล้ เขาได้สอบถามและรู้ว่าจูเก่อหลิวหลีอาศัยอยู่ในห้องไหน เขาจึงเดินเข้าไปเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของจูเก่อหลิวหลีเขาก็เคาะเบา ๆจูเก่อหลิวหลีเปิดประตูเย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะในเวลานี้ จูเก่อหลิวหลีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเธอยังสวมเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ ขาของเธอเรียวยาว ใบหน้างดงามราวดอกบัวที่เพิ่งบานทำให้หัวใจของคนที่เห็นเต้นผิดจังหวะผิวพรรณที่เผยออกมาเล็กน้อยของเธอขาวโดดเด่น ทำให้ใครเห็นก็ไม่อาจกระพริบตา“คุณเย่เหรอคะ” จูเก่อหลิวหลีพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ“ผมเอง คุณจูเก่อจะนอนแล้วเหรอ”“ใช่ คุณเย่ เจอที่นี่ได้ยังไ