“พี่เย่…”เมื่อเห็นทุกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว เฉินเข่อซินก็อดไม่ได้ที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างเย่เทียนหยู่ส่ายหัว แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า:“ไม่ต้องใจร้อน รอดูต่อไปก่อน”ถ้าเขาเดาไม่ผิด คนงี่เง่าคนนี้น่าจะอยากช่วยชีวิตคนด้วยตนเองจริงๆเฉินเข่อซินพยักหน้าในขณะที่กำลังพูด ก็มีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกอีกครั้ง หัวหน้าพยาบาลกำลังอุ้มเด็กน้อยคนหนี่งอยู่ ด้านข้างยังมีชายชราที่ดูไม่ธรรมดาและหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งด้วย“รัฐมนตรีไช่...”นายกเทศมนตรีสื่อและคนอื่นๆก็รีบเข้าไปทักทายเขา“อืม ใครคือผู้อำนวยการหม่า รีบช่วยตรวจดูหลานชายของผมหน่อย” ไช่เสี่ยวโปกล่าวอย่างกังวลผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเป็นแม่ของเด็ก ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลเช่นกัน“ผม ผมเองครับ!”ผู้อำนวยการหม่ามีเหงื่อออกที่หน้าผาก เห็นได้ชัดว่ารู้สึกประหม่า แต่แล้วก็คิดได้ว่า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเช่นกันเมื่อเห็นนายกเทศมนตรีสื่อและคนอื่นๆเคารพต่อชายชราแล้ว หากรักษาหลานชายของเขาให้หายขาด ต่อไปยังจะกลัวว่าอาชีพการงานจะไม่รุ่งเรืองอีกเหรอ?“คุณคือคนที่รักษาลูกสาวของประธานโจวหายใช่ไหม”“ใช่ครับ!”“ถ้าอย่างนั้น
คณบดีหูโกรธหม่าจวินมาก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่ยอมพูดอีก แล้วหันไปมองเย่เทียนหยู่ที่หลิวอิ๋งอิ๋งชี้ไป แล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า: “คุณครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับหม่าจวิน แต่ถ้าคุณมีวิธีรักษาจริงๆ ได้โปรดช่วยรักษาด้วย แล้วผมจะตอบแทนคุณเป็นอย่างงาม”“ใช่ ใช่แล้ว คุณคะ ได้โปรดช่วยลูกชายของฉันด้วย คุณไม่ต้องกังวล ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ฉันก็จะรับปากคุณ”หญิงสาวก็กล่าวอย่างร้อนใจเช่นกัน“ผมชื่อไช่เสี่ยวโป ผมพอมีเส้นสายอยู่บ้าง คุณได้โปรดยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย ต่อไปผมจะต้องตอบแทนคุณอย่างแน่นอน”ไช่เสี่ยวโปอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเขามีหลานชายสุดที่รักแค่เพียงคนเดียว ปกติแล้วก็มีแต่เรื่องที่ทำให้วิตกกังวลใจ หลังจากเกษียณแล้ว ก็อยากจะมีความสุขกับครอบครัวกับหลานชายเย่เทียนหยู่กลับมีสีหน้าที่สงบนิ่ง และไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับคำสัญญาของพวกเขาเลย แค่พูดเบาๆว่า: “หลีกทางหน่อย เดี๋ยวผมจะรักษาเอง!”เมื่อทุกคนได้ยินดังนี้ ก็รีบหลีกทางให้ทันทีเย่เทียนหยู่ก้าวไปข้างหน้า ตวัดมือขวา เข็มเงินหลายเข็มที่หม่าจวินฝังอยู่บนร่างกายเด็กชายก็ลอยกระเด็นออกไปทั้งหมด จากนั้นก็ลอยออกจาก
หลังจากที่ทุกคนออกมาข้างนอกแล้ว ไช่เสี่ยวโปก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า: “หงเจี้ยว คุณรู้จักแพทย์เซียนด้วยเหรอ?”“รู้จักสิ เขาเป็นแพทย์เซียนที่รักษาแม่ของผมหาย เมื่อได้ยินเรื่องอาการป่วยของหลานชายคุณ ผมก็รีบโทรหาเขาทันที เขาบอกว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล”“ที่แท้แพทย์เซียนก็คือคนคนนั้นที่คุณโทรมาแนะนำให้รู้จัก”อันที่จริงไช่เสี่ยวโปเคยได้ยินหวงหงเจี้ยนพูดเกี่ยวกับเรื่องแม่ของเขา แต่แค่รู้สึกว่ามันโอเวอร์เกินไป จึงทำให้ไม่ไว้ใจแพทย์เซียนคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแพทย์เซียนจริงๆโชคดีที่แพทย์เซียนเย่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาคงจะเลวร้ายจนไม่อยากจะคิดในเวลานี้เขาก็สังเกตเห็นผู้อำนวยการหม่านั่งทรุดตัวลง ด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดอยู่ด้านข้าง จึงถ่มน้ำลายใส่อย่างแรง ไอ้สารเลวคนนี้ เกือบจะทำให้หลานชายของตนเสียชีวิตแล้วหลังจากที่เย่เทียนหยู่ปรับร่างกายให้เป็นพิเศษแล้ว เด็กทั้งสองก็เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เนื่องจากเด็กๆชอบความเฮฮาสนุกสนานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเริ่มลุกขึ้นมาวิ่งเล่นด้วยกันภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของพวกเขามีความสุขเป็นที่สุด จึงรู้สึกขอบคุณเย่เทียนหยู่เป็นอย่างมาก จึงขอ
“ชดเชย?”“คุณชดเชยให้ผมได้เหรอ สามารถชดเชยให้คนป่วยที่น่าสงสารเหล่านั้นได้ไหม?”“พวกเขาหลายคนระดมเงินเพื่อมารักษาโรค ขายบ้านขายที่ดิน และขายแม้กระทั่งเลือด! แต่คุณทำได้ยังไง แค่ออกบิลค่าใช้จ่ายตามใจชอบ ก็สามารถชิงเงินที่พวกเขาหามาได้ด้วยความยากลำบากไปทั้งหมด”“คุณน่าขยะแขยงยิ่งกว่าโจรเป็นร้อยเท่า!”ยิ่งเย่เทียนหยู่พูดมากเท่าไรก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะตอนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฉินเข่อซิน ในใจก็รู้สึกทุกข์ระทมเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินดังนี้ หม่าจวินก็อ่อนแรง และล้มลงไปทันทีเพราะเขารู้ว่า เรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้อีกต่อไป ซึ่งก็หมายความว่าเขาจบเห่แล้ว และอาจจะถึงขั้นติดคุก“เกิดอะไรขึ้น?”คณบดีหูรีบกล่าวถามทันทีในเวลานี้ เย่เทียนหยู่ก็เอาบิลค่าใช้จ่ายออกมา แล้วส่งให้คณบดีดู ในขณะเดียวกันก็อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนแรกให้ฟังด้วยหลังจากที่ผู้นำหลายได้ยินดังนี้แล้ว ต่างก็พากันเกรี้ยวโกรธ คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเช่นนี้อยู่ที่เมืองเทียนไห่ โหดร้ายราวกับว่ากินคนไม่คลายกระดูกเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก
หลังจากที่ออกจากบ้านของเฉินเข่อซินแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกว้าวุ่นใจเขามักจะรู้สึกว่าตนมีความสัมพันธ์บางอย่างกับทั้งสองคน และอาจเกี่ยวข้องกับประวัติชีวิตของตนก่อนหน้านี้ แต่เขากลับจำเหตุการณ์ก่อนอายุแปดขวบไม่ได้เลยหลังจากลงไปชั้นล่าง เย่เทียนหยู่ก็สตาร์ทรถแล้วกลับไปที่วิลล่าถนนเก่าสายนี้แคบเล็กน้อย แถมยังเป็นถนนเดินรถทางเดียวอีก หลังจากขับไปได้สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้ารถ“ลงมา!”ชายหนุ่มเคาะฝากระโปรงหน้ารถเบาๆ และทำสัญลักษณ์มือให้ลงมาจากรถเย่เทียนหยู่เปิดประตูรถ แล้วเดินลงมา ในขณะเดียวกันเขาก็อดไม่ได้ที่จะพินิจดูอีกฝ่ายรูปร่างกำยำ ตัวสูงโปร่ง และมีผมสั้น ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูมีชีวิตชีวามาก ในนัยน์ตาที่ดุร้ายคู่นั้นยังแฝงไปด้วยพลังอีกด้วยเขามีความเป็นลูกผู้ชายมาก โดยเฉพาะร่างกายที่แข็งแกร่งภายใต้เสื้อผ้าบางๆ ทำให้เขามีออร่าที่น่าเกรงขามไปอีกแบบนี้ความแปลกประหลาดใจแวบขึ้นมาในนัยน์ตาของเย่เทียนหยู่ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย“คุณก็คือเย่เทียนหยู่?”“ผมเอง!”“ได้ยินมาว่าคุณเก่งกังฟูมาก?”“ก็พอได้”“แต่ว่าเมื่อมาเจอฉัน กงฟูจะดีแค้ไหนก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ขาของค
ไทเก๊กของคู่ต่อสู้นั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เข้าโจมตีโดยตรงแต่เย่เทียนหยู่ก็ยังคงไม่เกรงกลัว ใช้มือทั้งสองข้างกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะรับการโจมตีอีกครั้งของเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว ในระหว่างที่เขาโบกมือ ก็สามารถทำให้เขาถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้อีกครั้งในเวลานี้ ชายหนุ่มก็เข้าใจว่า ตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย“คุณแข็งแกร่งมาก ผมสู้คุณไม่ได้!” ชายหนุ่มพูดอย่างเคร่งขรึม“คุณชื่ออะไร?”“หยางผั่วจวิน!”“เป็นชื่อที่ดี มันเหมาะกับคุณมาก ตอนนี้ผมชนะแล้ว คุณจะบอกผมได้หรือยัง ว่าทำไมคุณถึงได้ช่วยทำงานให้หลิวเจี๋ย?”เย่เทียนหยู่ถามหยางผั่วจวินลังเลนิดหน่อย แล้วพูดว่า “น้องสาวของฉันป่วยหนัก ต้องการเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อทำการผ่าตัด ถ้าฉันสามารถทำลายขาทั้งสองข้างของคุณและทำให้คุณไม่สามารถยืนได้ นายน้อยหลิวก็ยินดีที่จะออกเงินให้”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณยังทำไม่สำเร็จ จะทำยังไง?”“ก็แค่คิดหาวิธีอื่น”“เป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วเคยคิดที่จะช่วยผมทำงานบ้างไหม?” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่องที่หยางต้าฝูกำลังทำอยู่อย่างลับๆ จ
หลิวเจ๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง กำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อีกฝ่ายก็วางสายทันที ทำให้เขาโกรธมากจนเอาโทรศัพท์มือถือกระแทกไปที่บนพื้นอย่างแรงแม่งเอ๊ย ไอ้เด็กเวรนั่นเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?แม้แต่หยางผั่วจวินที่มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นก็ยังสู้ไม่ได้ให้ตายเถอะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะต้องฆ่าไอ้เด็กเวรนั่นให้ได้“เป็นอะไรไป?”คุณพ่อตระกูลหลิวเห็นลูกชายมีท่าทางที่เกรี้ยวโกรธ“เพราะไอ้สารเลวเย่เทียนหยู่นั่น!” หลิวเจี๋ยพูดด้วยความโกรธคุณพ่อตระกูลหลิวขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “ไอ้เด็กเวรคนนั้นรับมือยากขนาดนี้เลยเหรอ?”“ไม่ยาก ก็แค่เก่งกังฟูก็เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขามักจะมายุ่งเรื่องของผม จนเกือบจะทำให้ผมเอาเงินของตระกูลหลินมาไม่ได้”เมื่อหลิวเจ๋ยพูดถึงตรงนี้ ใจก็สั่นไหว และถามว่า “พ่อครับ ให้มือสังหารไปจัดการเขาพร้อมกันได้ไหมครับ?”คุณพ่อตระกูลหลิวพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า:“ในเมื่อเขาสมควรตายขนาดนี้ งั้นก็จัดการไปพร้อมกันเลย”“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณครับพ่อ!”“อย่ามัวแต่ขอบคุณพ่อ คว้าช่วงเวลาสุดท้ายเอาไว้ เพื่อให้ได้เงินมากกว่าเดิม”“อืม!”เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหลิ
“แล้วไงล่ะ ผมเคยพูดกับคุณไปแล้ว แล้วคุณเชื่อผมไหม?”“ใช่ แต่นายน้อยหลิวพูดอย่างจริงใจมาก ฉันก็เลยอยากจะถามคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อย”“ไม่ต้องถาม ถ้าเชื่อผมก็อย่าซื้อ ถ้าไม่เชื่อ ก็ถือเสียว่าผมไม่ได้พูด”“เชื่อ ฉันเชื่อคุณอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้ว ฉันอยากจะพบคุณ อยากจะคุยกับคุณ ก่อนหน้านี้ฉันช่างตาถั่วจริงๆ มาถึงตอนนี้ถึงได้รู้ว่า คุณดีกว่านายน้อยหลิวมากเลย” ซูถิงพูดเป็นนัยๆหลังจากที่เย่เทียนหยู่ฟังจบแล้วก็ขมวดคิ้ว ซูถิงจะทำอะไร คงจะไม่ได้ชอบตนหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เพราะตนมีแต่ความรังเกียจให้เธอเท่านั้น“พี่ พี่เย่ คุณกำลังฟังอยู่หรือเปล่า? ฉัน ฉันพบว่า…”“เอาล่ะ ผมยังมีธุระ ขอวางสายก่อนนะ”เย่เทียนหยู่ไม่อยากทำให้ซูถิงอับอาย เพื่อหยุดคำพูดที่เธอจะพูดต่อไป เขาจึงวางสายโทรศัพท์ซูถิงชะงักไปครู่หนึ่ง พี่เย่มีธุระจริงๆ หรือว่าจงใจขัดจังหวะ? ไม่ว่ายังไง เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาดหลังจากรอคอยมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้พบกับชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้แล้ว โดยเฉพาะพลังอำนาจของเขา ถ้าสำเร็จขึ้นมา เธอจะโบยบินขึ้นไปบนกิ่งไม้แล้วกลายเป็นนกฟีนิกซ์หลินหว่านหรู ทางที่ดีคุณอย่
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ