“ยอดมากเลย ดีจังเลยนะ แม่รอดแล้ว!” เฉินเข่อซินรู้สึกตื่นเต้นทันทีในขณะนี้ เธอทั้งเศร้าและมีความสุขมากในเวลาเดียวกัน ความเสียใจมหาศาลเมื่อครู่ แต่ตอนนี้กลับตื่นเต้นมากจนแทบจะเป็นลมโชคดีที่เย่เทียนหยู่อยู่ใกล้ ๆ และตบหลังเธออย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้เธอสงบลง“เหอะ ๆ เฉินเข่อซิน ฉันเกรงว่าแกจะมีความสุขเร็วเกินไป!”ในเวลานี้เองที่จู่ ๆ ดร.หม่าก็หัวเราะเยาะเฉินเข่อซินตกตะลึงและรีบถาม “ดร.หม่า คุณหมายถึงอะไร”“หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ แกคิดว่าแม่แกฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ หรือไง?”“ไม่คิดหน่อยเลยเหรอ ว่าเด็กหนุ่มจะช่วยคนตายได้ยังไง ถ้าเขาเก่งขนาดนั้น เขาคงจะโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว แต่เขากลับเป็นแค่คนธรรมดาไร้ชื่อไร้เสียง”“ฉันจะบอกแกให้นะ ว่าเขาแค่อยากเอาชนะฉันและหลอกลวงแก ไม่อย่างนั้นทำไมแม่ของแกถึงยังไม่ขยับ!”ทันทีที่คำพูดจบลง ทุกคนก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลเมื่อสักครู่นี้พวกเขาเกือบจะถูกหลอกกันs,fสีหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะคิดว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนดี แต่คำพูดของดร.หม่าก็ไม่สมเหตุสมผลแต่ในขณะนี้ เฉินหมิ่น แม่ของเฉินเข่อซิน ขยับนิ้วของเธอบนเตียงผู้ป่วยดร.หม่าบั
“คุณน้า คุณหมายถึงอะไรครับ” เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่อธิบายไม่ถูกเช่นกัน แต่เขากลับจำไม่ได้“น้าจำผิดน่ะจ๊ะ คุณคล้ายกับเด็กที่น้ารับเลี้ยงตอนเด็ก ๆ มาก เพียงแต่ว่าเขาหายตัวไปหลังเหตุเพลิงไหม้เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว”สิบแปดปีที่แล้ว ฉันอายุเจ็ดหรือแปดขวบไม่ใช่หรือ เป็นช่วงเวลาที่เขาสูญเสียความทรงจำพอดีความแปลกประหลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเขา และเย่เทียนหยู่ก็รู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างที่เขาลืมไปในเวลานี้เองที่ดร.หม่าพูดขึ้นว่า “ไอ้เด็กหนุ่มสกุลเย่ ตอนนี้เธอยังยืนไม่ได้เลยนะ แกไม่ควรจะรีบมาคุกเข่าก้มหัวให้ฉันเพื่อยอมรับความผิดเหรอ?”“ใครบอกว่าเธอยืนไม่ได้”เย่เทียนหยู่สูดลมหายใจเข้า แล้วพูดว่า “คุณน้า โปรดลุกขึ้นมาแสดงให้เขาดูเถอะครับ”เฉินหมิ่นตกตะลึงเล็กน้อย ตอนนี้เธอลุกขึ้นได้เหรอ เธอจำได้ว่าเธอทรมานมากจนขยับตัวไม่ได้ ต่อให้ฝีมือแพทย์ของเขาดีขนาดไหน มันก็คงไม่ได้อัศจรรย์มากขนาดนั้นแต่ผู้มีพระคุณของเธอพูดขนาดนี้แล้ว เธอก็ต้องพยายาม ในไม่ช้าเธอก็พบว่าเธอสามารถยืนขึ้นได้อย่างง่ายดายและเดินได้โดยไม่รู้สึกทรมานอีกต่อไปถึงแม้ฉันจะยังเดินได้เดินเหิน
“พี่เย่ เป็นยังไงบ้าง?”เฉินเข่อซินถามด้วยความกังวลเฉินหมิ่นมองดูเย่เทียนหยู่อย่างประหม่าเมื่อเห็นค่ารักษาพยาบาลที่สูงลิบแบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ เดิมทีเธอเสียใจที่กำลังลากลูกสาวของเธอให้ต้องมาลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกแย่ลงไปอีก“ไอ้สารเลวคนนี้ อาการเมื่อกี้คุณรักษาไม่ได้เป็นปัญหาที่ทักษะของคุณ แต่บัญชีพวกนี้ โกงจนไม่รู้จะโกงยังไงแล้ว”เย่เทียนหยู่พูดด้วยความโกรธ ประกอบกับการที่ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธการรักษาชีวติคนไข้ บุคคลแบบนี้จะมีคุณสมบัติเป็นแพทย์ได้ยังไง และถึงขั้นดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการได้ด้วย“ในบิลมีค่าใช้จ่ายเกินเหรอคะ?” เฉินเข่อซินถามอย่างร้อนใจ“ใช่ มีการฉ้อโกงและสั่งยาแบบต่าง ๆ ที่ดูจากชื่อแล้ว ส่วนมากไม่จำเป็นต้องใช้กับแม่ของเธอเลยสักนิด”เย่เทียนหยูพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ดร.หม่าเมื่อหม่าจวินได้ยินแบบนั้น เขาเกิดความกังวลทันทีและพูดด้วยความโกรธ “ไร้สาระ ยาเหล่านี้ล้วนใช้เพื่อช่วยเฉินหมิ่น ไม่มีการสั่งยาสุ่มสี่สุ่มห้าบ้า ๆ นั่นหรอก”“จะบอกให้นะ ว่าแพทย์ของเราเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ การประเมินและทวนอาการก็เข้มงวดมาก ถ้าผมไม่
“ผมว่ามันไม่ผิดพลาดหรอก แต่เพราะถูกผมจับได้ก็เลยคิดจะทำลายหลักฐานมากกว่า”“ไอ้หนู อย่าพูดเหลวไหลนะ ถ้าผมบอกว่าผมทำผิด ผมก็ทำผิด แกจะเอาบิลไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ หรือจะบอกแกไว้ก็ว่าสำนักอนามัยเป็นของลูกพี่ลูกน้องของผม““ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของคุณอยู่กับคุณ?” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างจงใจคราวนี้หม่าจวินฉลาดไม่ยอมรับ ก่อนที่เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของผมจริง ๆ”“ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็พยายามไปฟ้องผมดูก็ได้ แล้วดูว่าจะฟ้องผมได้หรือเปล่า ผมยังมีอย่างอื่นต้องทำ ไม่มีเวลาคุยกับคุณหรอก”เขาทิ้งคำพูดไว้แล้วเดินออกไปทันทีเห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยูไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เขาจากไปทั้งแบบนี้แน่นอนแต่ในเวลานี้ คนจำนวนหนึ่งกรูกันเข้ามาตรงทางเดิน นำโดยผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งซึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยมีเด็กอายุประมาณห้าขวบอยู่ในอ้อมแขนของเธอผู้หญิงคนนั้นดูกังวลและรีบวิ่งไปหาพยาบาล เมื่อเห็นพยาบาลชี้ไปที่หม่าจวิน เธอก็รีบพูดว่า “ผู้อำนวยการหม่า รีบช่วยดูลูกสาวของฉันหน่อยเถอะนะคะ”พยาบาลที่ตามมาก็รีบพูดว่า “ผู้อำนวยการหม่า นี่คือคุณโจวเ
เย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ส่ายหน้าแล้วพูดอย่างใจเย็น “อย่าเพิ่งมั่นใจเกินไป ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าจะตัดสิน ลองดูไปก่อน”“คุณกำลังพูดอะไรคะ? นี่คุณสาปแช่งลูกสาวของฉันอยู่เหรอ? ตอนนี้เธอดีขึ้นมากแล้วนะ”“ส่วนผู้อำนวยการหม่าน่ะ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ของโรงพยาบาล ฉันเชื่อในทักษะทางการแพทย์ของเขาค่ะ ส่วนคุณ คุณมีทักษะทางการแพทย์หรือยังไง?”เมื่อเห็นว่าหม่าจวินที่กำลังช่วยเหลือเธอ แต่กลับมีคนที่ไม่มีทักษะทางการแพทย์มาพูดจาไม่รู้สี่รู้แปด โจวเมี่ยวถงก็รู้สึกทนไม่ไหว “เขาจะรู้อะไรที่ไหน แม้แต่ใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์เขายังไม่มีเลย หนุ่มน้อย แกมีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ไหม?”หม่าจวินเยาะเย้ย“จริงครับที่ผมไม่มีใบรับรอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นถูกต้องนะ ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกห้าวินาที” เย่เทียนหยู่พูด“พูดจาไร้สาระ”หม่าจวินกำลังจะโต้กลับ แต่ในขณะนี้ อุณหภูมิของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายและแขนขาของเธอเริ่มกระตุก และมีน้ำลายฟูมปากเธอดูน่ากลัวมากราวกับว่าเธออาจจะตายเมื่อใดก็ได้โจวเมี่ยวถงหน้าซีดด้วยความตกใจและถามขึ้นอย่างรีบ
เพราะถึงยังไงพวกเขาก็เป็นคนที่ได้เห็นอาการชักกระตุกอันน่าสะพรึงกลัวของเด็กหญิงที่ราวกับจะสามารถตายได้ตลอดเวลาแบบนั้นแค่ แค่นี้ก็หยุดแล้วเหรอ?หม่าจวินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย เขาเริ่มเชื่อว่าเย่เทียนหยู่มีความสามารถจริง ๆ อย่างน้อยก็เก่งในด้านการแพทย์แผนจีนมากแต่ในความเห็นของเขา ภาพรวมของการแพทย์แผนจีนดูแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากนัก เพียงแค่ไอ้เจ้านี่โชคดีบังเอิญเจอโรคที่เขารักษาเป็นถึงสองครั้งก็เท่านั้นดวงตาของพยาบาลคนอื่น ๆ เปล่งประกาย ผู้ชายที่มีทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ แถมยังหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ ถึงกับมีอาการตกหลุมรักกันไปหลายคนโจวเมี่ยวถงมองดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าเย่เทียนหยู่จะมหัศจรรย์ขนาดนี้ ทันทีที่เขาลงมือก็สามารถหยุดอาการป่วยของเธอได้ เธอรีบถาม “เชี่ยนเชี่ยนเป็นยังไงบ้าง? ลูกฉันเป็นอะไรไปเหรอ?”“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ในเมื่อผมลงมือแล้ว จะไม่มีปัญหาตามมาแน่นอน”“สำหรับเหตุผลนั้น เธอติดเชื้อไวรัสชนิดพิเศษจริง ๆ แต่ไม่ใช่ไข้หวัด”“อะไรนะ ไวรัสพิเศษ มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันคะ!”สีหน้าของโจวเมี่ยวถงเปลี่ยนไป หรือนี่จะเป็นเรื่องที่คู่แข่งทางการคนไหนท
โจวเมี่ยวถงกำลังจะขอบคุณเย่เทียนหยู่ แต่ในขณะนี้โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น หลังจากรับสายแล้ว ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่จนใจว่า: “แพทย์เซียนเย่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมากนะ ในกระเป๋าของฉันมีเงินสดแค่สองแสนห้าหมื่นบาท ถือเสียว่าเป็นค่ารักษาก็แล้วกัน”“อันนี้ นามบัตรของฉัน ต่อไปถ้าคุณต้องการอะไร โทรศัพท์หาฉันได้ทันที ถ้าฉันสามารถทำได้ ฉันจะช่วยคุณอย่างแน่นอน”เธอพลางพูดพลางยื่นเงินและนามบัตรให้กับเย่เทียนหยู่ แล้วกล่าวว่า “ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ต้องขอตัวกลับไปก่อน”“ได้ครับ!”เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้เสแสร้งอะไร รับเงินมาโดยตรง เพราะอย่างไรเสียผู้หญิงคนนี้ดูรวยมาก เงินสองสามแสนบาทน่าจะเป็นแค่เงินเล็กน้อยสำหรับเธอแต่ชีวิตของลูกสาว ถือว่าเป็นสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่าได้เมื่อหม่าจวินเห็นเงินที่อยู่ในมือของเย่เทียนหยู่ ก็รู้สึกอิจฉา จึงทำได้แค่รู้สึกเสียดาย ที่มันไม่ได้ตกเป็นของเขาหม่าจวินรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก จึงรีบพูดแซะไปว่า “ไอ้คนแซ่เย่ ที่นี่คือโรงพยาบาล เงินค่ารักษาที่ได้รับมาจะเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ได้นะ คุณเอาเงินสองแสนห้าหมื่นบาทก้อนนั้นมาให้ผม ผมจะมอบให้โรงพยาบาล”ทันท
เพราะว่าเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้อยู่คนเดียว เพื่อนอีกสามคนที่เล่นด้วยกันก็มีอาการแบบเดียวกัน แต่โรงพยาบาลที่พวกเขาไปนั้นกลับไม่มีวิธีรักษา จึงทำได้แค่ยื้อชีวิตของพวกเขาเอาไว้เท่านั้น“ใช่ครับ!”หม่าจวินกล่าวอย่างมั่นใจทันทีว่า “ทันทีที่ผมเห็นอาการของเธอ ผมก็รู้สาเหตุของโรคทันที ตอนนี้เธอหายดีแล้ว จึงกลับไปพักฟื้นที่บ้าน”“ดี คุณทำได้ดีมาก” นายกเทศมนตรีเผยความปีติยินดีออกมาเด็กๆที่เล่นกับลูกสาวของโจวเมี่ยวถงล้วนมีสถานะที่ไม่ธรรมดา หาก สามารถรักษาทั้งหมดให้หายขาดได้ในครั้งนี้ มันจะเอื้อประโยชน์ต่ออาชีพการงานของเขาในอนาคตโดยเฉพาะหลานชายของไช่เสี่ยวโปไช่หยาง แม้ว่าตอนนี้ไช่เสี่ยวโปจะเกษียณแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเป็นถึงรองรัฐมนตรี มีตำแหน่งระดับสูงและมีอำนาจมากมายแต่คณบดีหูแอบรู้สึกแประหลาดใจ ปกติแล้วไม่เคยเห็นหม่าจวินจะเก่งกาจขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นมีผู้อำนวยการหม่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ไม่ถึงขั้นต้องใช้เวลาหลายปีในการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการหรอกปัญหาที่ยุ่งยากขนาดนี้ แค่เขาดูก็สามารถรู้สาเหตุของโรค แถมยังใช้ยารักษาให้หายได้อย่างง่ายดายอีกด้วย“ผู้อำนวยการหม่า คุณเป็นคนที่รักษาหายจริงๆเหรอ?”