ในตอนนั้นเอง เขาเหลือบมองนามบัตรของอีกฝ่ายและจำหมายเลขได้อย่างรวดเร็ว“สวัสดี!”“พี่ พี่เย่ ได้โปรดช่วยผมหน่อยได้ไหม” เสียงขอร้องดังมาจากอีกด้านหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังได้ยินเสียงแผ่ว ๆ แทรกเข้ามาอีกด้วย“ฉันให้เวลาเธอเตรียมตัวหลายวัน แต่เธอก็ยังหาเงินห้าแสนบาทมาไม่ได้ กล้าดียังไงมาขอให้ฉันช่วยแม่ของเธอ”“ฉันขอบอกคุณตามตรง ว่าถ้าไม่เริ่มผ่าตัดภายในครึ่งชั่วโมงแม่ของเธอจะต้องตายอย่างแน่นอน”“ถ้าหาเงินไม่ได้จริง ๆ ให้แม่ของเธอออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด จะตายก็ไปตายข้างนอก อย่าให้คนมาหาว่าฝีมือการแพทย์ของเราไม่ได้เรื่อง”เย่เทียนหยู่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและถามทันที “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“แม่ของฉันป่วยหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที แต่ฉันมีเงินไม่พอค่ะ ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะนะคะ ต่อไปฉันจะไปเป็นคนรับใช้คุณเองค่ะ”เฉินเข่อซินไม่มีทางเลือกนอกจากยืมทุกทางเท่าที่เธอทำได้ เธอไม่รู้จักคนรวยคนอื่นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเดียวที่ดูเหมือนจะช่วยเธอได้คือพี่เย่ เจ้าพ่อท้องถิ่นที่เธอเพิ่งพบในวันนี้“ไม่ต้องกังวล คุณอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ให้พวกเขาทำการผ่าตัดก่
“ดูสิ ผมบอกแล้วว่ามันไม่น่าเชื่อถือ” ดร.หม่ามองด้วยสายตาเป็นเชิงว่าไปตามที่เขาคาดไว้“ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก”เฉินเข่อซินหน้าซีด จากนั้นหันกลับมาและคุกเข่าต่อหน้าดร.หม่าและวิงวอน “ดร.หม่า ได้โปรดช่วยทำการผ่าตัดแม่ของฉันก่อนเถอะนะคะ”“ไม่ต้องกังวล ต่อให้พี่เย่ไม่มา ฉันก็จะหาเงินมาใช้คืนให้แน่นอนค่ะ”จากนั้นเขาก็หันไปมองพยาบาลคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น “ได้โปรด ได้โปรดเถอะนะคะ....”ในที่แห่งนี้ พยาบาลคนหนึ่งรู้สึกสะเทือนใจและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เราจะระดมเงินได้หรือเปล่าคะ ถ้าอย่างนั้น ดร.หม่าจะช่วยทำการผ่าตัดให้เธอก่อนได้หรือเปล่า”“หลิวอิ๋งอิ๋งเธออยากเป็นคนดีมากนักเหรอ? ก็ได้ งั้นเธอก็เอาเงินสองแสนห้าออกมาสิ แล้วผมจะทำการผ่าตัดเธอก่อน แล้วผมจะเก็บส่วนที่เหลือทีหลัง” ดร.หม่าพูดด้วยความโกรธหลิวอิ๋งอิ๋งเผยสีหน้าอึดอัด เธอเพิ่งเริ่มฝึกงานเป็นพยาบาล และครอบครัวของเธอมีเงินไม่มาก เธอจะหาเงินมารวมกันได้มากขนาดนี้ได้ยังไงมากที่สุดสำหรับเธอก็คือสามหมื่นบาท แต่เธอก็ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วพูดว่า “แต่โรงพยาบาลของเราอยู่มาก็เพื่อช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ ดังนั้น เราจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อสถานการ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเฉินเข่อซินมองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาว่างเปล่าพี่เย่หมายถึงอะไรในเรื่องนี้?เย่เทียนหยู่เมินพวกเขา เขาก้าวไปข้างหน้าและเปิดผ้าสีขาวที่เพิ่งคลุมไว้ เข็มเงินปรากฏขึ้นในมือของเขา และบินเข้าไปหาแม่ของเฉินเข่อซินด้วยความเร็วที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าดร.หม่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหนู แกกำลังทำอะไรอยู่ คนตายไปแล้ว แกจะมาแทงคนตายมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้!”ในเวลานี้ พลังชีวิตแม่ของเฉินเข่อซินเกือบจะหมดสิ้นไปแล้ว และเย่เทียนหยู่ก็ไม่มีเวลาให้สนใจพวกเขา เขามุ่งความสนใจไปที่การหมุนเวียนชี่แท้ และไหลเข้าสู่ร่างกายของแม่ของเฉินผ่านเข็มเงินปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ หลายปัญหาเกิดจากการอุดตันของเส้นชีพจร หรือความเสียหายจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียสิ่งเหล่านี้สามารถกำจัดและฟื้นฟูได้โดยการใช้ชี่แท้โดยเฉพาะถ้าได้ใช้เก้าเข็มนภาธรณี ซึ่งสามารถฟื้นฟูเนื้อและกระดูกของมนุษย์ได้ มีความสามารถในการซ่อมแซมเหนือจินตนาการของมนุษย์ แต่คนที่จะใช้งานมันได้ก็ต้องมีทักษาะสูงเช่นกันโดยเฉพาะข้อกำหนดถึงคุณส
“ยอดมากเลย ดีจังเลยนะ แม่รอดแล้ว!” เฉินเข่อซินรู้สึกตื่นเต้นทันทีในขณะนี้ เธอทั้งเศร้าและมีความสุขมากในเวลาเดียวกัน ความเสียใจมหาศาลเมื่อครู่ แต่ตอนนี้กลับตื่นเต้นมากจนแทบจะเป็นลมโชคดีที่เย่เทียนหยู่อยู่ใกล้ ๆ และตบหลังเธออย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้เธอสงบลง“เหอะ ๆ เฉินเข่อซิน ฉันเกรงว่าแกจะมีความสุขเร็วเกินไป!”ในเวลานี้เองที่จู่ ๆ ดร.หม่าก็หัวเราะเยาะเฉินเข่อซินตกตะลึงและรีบถาม “ดร.หม่า คุณหมายถึงอะไร”“หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ แกคิดว่าแม่แกฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ หรือไง?”“ไม่คิดหน่อยเลยเหรอ ว่าเด็กหนุ่มจะช่วยคนตายได้ยังไง ถ้าเขาเก่งขนาดนั้น เขาคงจะโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว แต่เขากลับเป็นแค่คนธรรมดาไร้ชื่อไร้เสียง”“ฉันจะบอกแกให้นะ ว่าเขาแค่อยากเอาชนะฉันและหลอกลวงแก ไม่อย่างนั้นทำไมแม่ของแกถึงยังไม่ขยับ!”ทันทีที่คำพูดจบลง ทุกคนก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลเมื่อสักครู่นี้พวกเขาเกือบจะถูกหลอกกันs,fสีหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะคิดว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนดี แต่คำพูดของดร.หม่าก็ไม่สมเหตุสมผลแต่ในขณะนี้ เฉินหมิ่น แม่ของเฉินเข่อซิน ขยับนิ้วของเธอบนเตียงผู้ป่วยดร.หม่าบั
“คุณน้า คุณหมายถึงอะไรครับ” เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่อธิบายไม่ถูกเช่นกัน แต่เขากลับจำไม่ได้“น้าจำผิดน่ะจ๊ะ คุณคล้ายกับเด็กที่น้ารับเลี้ยงตอนเด็ก ๆ มาก เพียงแต่ว่าเขาหายตัวไปหลังเหตุเพลิงไหม้เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว”สิบแปดปีที่แล้ว ฉันอายุเจ็ดหรือแปดขวบไม่ใช่หรือ เป็นช่วงเวลาที่เขาสูญเสียความทรงจำพอดีความแปลกประหลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเขา และเย่เทียนหยู่ก็รู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างที่เขาลืมไปในเวลานี้เองที่ดร.หม่าพูดขึ้นว่า “ไอ้เด็กหนุ่มสกุลเย่ ตอนนี้เธอยังยืนไม่ได้เลยนะ แกไม่ควรจะรีบมาคุกเข่าก้มหัวให้ฉันเพื่อยอมรับความผิดเหรอ?”“ใครบอกว่าเธอยืนไม่ได้”เย่เทียนหยู่สูดลมหายใจเข้า แล้วพูดว่า “คุณน้า โปรดลุกขึ้นมาแสดงให้เขาดูเถอะครับ”เฉินหมิ่นตกตะลึงเล็กน้อย ตอนนี้เธอลุกขึ้นได้เหรอ เธอจำได้ว่าเธอทรมานมากจนขยับตัวไม่ได้ ต่อให้ฝีมือแพทย์ของเขาดีขนาดไหน มันก็คงไม่ได้อัศจรรย์มากขนาดนั้นแต่ผู้มีพระคุณของเธอพูดขนาดนี้แล้ว เธอก็ต้องพยายาม ในไม่ช้าเธอก็พบว่าเธอสามารถยืนขึ้นได้อย่างง่ายดายและเดินได้โดยไม่รู้สึกทรมานอีกต่อไปถึงแม้ฉันจะยังเดินได้เดินเหิน
“พี่เย่ เป็นยังไงบ้าง?”เฉินเข่อซินถามด้วยความกังวลเฉินหมิ่นมองดูเย่เทียนหยู่อย่างประหม่าเมื่อเห็นค่ารักษาพยาบาลที่สูงลิบแบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ เดิมทีเธอเสียใจที่กำลังลากลูกสาวของเธอให้ต้องมาลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกแย่ลงไปอีก“ไอ้สารเลวคนนี้ อาการเมื่อกี้คุณรักษาไม่ได้เป็นปัญหาที่ทักษะของคุณ แต่บัญชีพวกนี้ โกงจนไม่รู้จะโกงยังไงแล้ว”เย่เทียนหยู่พูดด้วยความโกรธ ประกอบกับการที่ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธการรักษาชีวติคนไข้ บุคคลแบบนี้จะมีคุณสมบัติเป็นแพทย์ได้ยังไง และถึงขั้นดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการได้ด้วย“ในบิลมีค่าใช้จ่ายเกินเหรอคะ?” เฉินเข่อซินถามอย่างร้อนใจ“ใช่ มีการฉ้อโกงและสั่งยาแบบต่าง ๆ ที่ดูจากชื่อแล้ว ส่วนมากไม่จำเป็นต้องใช้กับแม่ของเธอเลยสักนิด”เย่เทียนหยูพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ดร.หม่าเมื่อหม่าจวินได้ยินแบบนั้น เขาเกิดความกังวลทันทีและพูดด้วยความโกรธ “ไร้สาระ ยาเหล่านี้ล้วนใช้เพื่อช่วยเฉินหมิ่น ไม่มีการสั่งยาสุ่มสี่สุ่มห้าบ้า ๆ นั่นหรอก”“จะบอกให้นะ ว่าแพทย์ของเราเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ การประเมินและทวนอาการก็เข้มงวดมาก ถ้าผมไม่
“ผมว่ามันไม่ผิดพลาดหรอก แต่เพราะถูกผมจับได้ก็เลยคิดจะทำลายหลักฐานมากกว่า”“ไอ้หนู อย่าพูดเหลวไหลนะ ถ้าผมบอกว่าผมทำผิด ผมก็ทำผิด แกจะเอาบิลไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ หรือจะบอกแกไว้ก็ว่าสำนักอนามัยเป็นของลูกพี่ลูกน้องของผม““ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของคุณอยู่กับคุณ?” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างจงใจคราวนี้หม่าจวินฉลาดไม่ยอมรับ ก่อนที่เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของผมจริง ๆ”“ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็พยายามไปฟ้องผมดูก็ได้ แล้วดูว่าจะฟ้องผมได้หรือเปล่า ผมยังมีอย่างอื่นต้องทำ ไม่มีเวลาคุยกับคุณหรอก”เขาทิ้งคำพูดไว้แล้วเดินออกไปทันทีเห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยูไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เขาจากไปทั้งแบบนี้แน่นอนแต่ในเวลานี้ คนจำนวนหนึ่งกรูกันเข้ามาตรงทางเดิน นำโดยผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งซึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยมีเด็กอายุประมาณห้าขวบอยู่ในอ้อมแขนของเธอผู้หญิงคนนั้นดูกังวลและรีบวิ่งไปหาพยาบาล เมื่อเห็นพยาบาลชี้ไปที่หม่าจวิน เธอก็รีบพูดว่า “ผู้อำนวยการหม่า รีบช่วยดูลูกสาวของฉันหน่อยเถอะนะคะ”พยาบาลที่ตามมาก็รีบพูดว่า “ผู้อำนวยการหม่า นี่คือคุณโจวเ
เย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ส่ายหน้าแล้วพูดอย่างใจเย็น “อย่าเพิ่งมั่นใจเกินไป ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าจะตัดสิน ลองดูไปก่อน”“คุณกำลังพูดอะไรคะ? นี่คุณสาปแช่งลูกสาวของฉันอยู่เหรอ? ตอนนี้เธอดีขึ้นมากแล้วนะ”“ส่วนผู้อำนวยการหม่าน่ะ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ของโรงพยาบาล ฉันเชื่อในทักษะทางการแพทย์ของเขาค่ะ ส่วนคุณ คุณมีทักษะทางการแพทย์หรือยังไง?”เมื่อเห็นว่าหม่าจวินที่กำลังช่วยเหลือเธอ แต่กลับมีคนที่ไม่มีทักษะทางการแพทย์มาพูดจาไม่รู้สี่รู้แปด โจวเมี่ยวถงก็รู้สึกทนไม่ไหว “เขาจะรู้อะไรที่ไหน แม้แต่ใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์เขายังไม่มีเลย หนุ่มน้อย แกมีใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ไหม?”หม่าจวินเยาะเย้ย“จริงครับที่ผมไม่มีใบรับรอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นถูกต้องนะ ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกห้าวินาที” เย่เทียนหยู่พูด“พูดจาไร้สาระ”หม่าจวินกำลังจะโต้กลับ แต่ในขณะนี้ อุณหภูมิของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายและแขนขาของเธอเริ่มกระตุก และมีน้ำลายฟูมปากเธอดูน่ากลัวมากราวกับว่าเธออาจจะตายเมื่อใดก็ได้โจวเมี่ยวถงหน้าซีดด้วยความตกใจและถามขึ้นอย่างรีบ
“อ่า แต่พอฉันส่งคุณไปที่ห้องพักแล้วฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันที” หยางไฉ่อวิ๋นไม่ค่อยอยากจะเชื่อเย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ เขายิ้มและพูดว่า: “ตอนที่ผมเข้าลิฟต์ผมได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว อีกอย่างผมใช้วิธีการที่พิเศษ แม้แต่คนของโรงแรมก็ไม่รู้หรอก”เมื่อได้ยินแบบนั้นหยางไฉ่อวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ที่แท้เขาก็มีวิธีการที่น่าแปลกใจแบบนั้นซ่อนอยู่สินะ: “แต่ วิดีโออันหลังดูเหมือนคุณเป็นคนถ่ายเลย แต่ฉัน...”“แต่คุณไม่เห็นว่าผมถ่ายงั้นสินะ”เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “ผมมีกล้องรูเข็มและเครื่องบันทึกเสียงอยู่บนร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถบันทึกทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”“เอาละ คุณคงไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย?”“ไม่…ไม่มีแล้วค่ะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ คือเรื่องต่อจากนั้น…” หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกสงสัยมากเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้น“เรื่องหลังจากนั้นรอคืนพรุ่งนี้คุณจะได้รู้เอง”เย่เทียนหยู่ส่งเธอออกไป ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถทีเดียว ถ้าคุณฝึกฝนเธออย่างดี เธอจะเป็นคน
แม้หลายความคิดเห็นจะมีอคติเล็กน้อย แต่ผู้ฟังที่เป็นกลางหลายคนเริ่มเข้าข้างหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่อย่างชัดเจน จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับตัวยงเท่านั้นที่ยังพยายามคืนความบริสุทธิ์ และยังออกหน้าพูดแทนปาร์คดาฮยอนทิศทางของเรื่องราวทั้งหมดเริ่มวุ่นวาย ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่เพราะเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จึงขยายวงกว้างขึ้นไม่หยุดเมื่อผู้จัดการเห็นแบบนั้น เขาก็รีบรายงานปาร์คดาฮยอน ส่วนปาร์คดาฮยอนก็ส่งเสียงเหอะออกมาด้วยความไม่แยแส: “มีอะไรอีก”“คือ คุณดูเองเถอะ”ผู้จัดการไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโทรศัพท์ให้ปาร์คดาฮยอน ปาร์คดาฮยอนหยิบมันขึ้นมาดู และเห็นเนื้อหาของวิดีโอ สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำนั้นชัดเจน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความโมโหที่ปะปนกัน“แม่งเอ้ย ได้ยังไงกันวะ ทำไมมีวิดีโอที่บันทึกเสียงไว้ชัดเจนแบบนี้”เมื่อเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างท่วมท้นปาร์คดาฮยอนก็เริ่มวิตกกังวลและสั่งทันที: “ไป ซื้อพวกหน้าม้ามาเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนความเห็นของผู้คน”“แล้วก็ หากคุยกับแพลตฟอร์ม จะจ่ายเงินเท่าไหร่ก็ได้ พยายามกดเรื่องนี้ให้เงียบไปซะ”เพียงแต่ ผู้จัดการดูหมดหนทาง และมันก็เ
สถานการณ์ในตอนนั้นทุกคนต่างก็กำลังโมโหผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าด้วยความโกรธ: “บ้าจริง นี่ฉันตาบอดหรือไงที่มาซัพพอร์ตพวกขยะนี่”“บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้หน้าด้านเป็นบ้าเลย ถ้าฉันไปอยู่ในที่เกิดเหตุ มีหวังฉันตบยัยนั่นจนแยกเหนือใต้ออกตกไม่ออกแน่”“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษนะพี่ชาย ที่ก่อนหน้านี้ฉันด่าคุณ”“มีคนแบบนี้ได้ยังไง? ปาร์คดาฮยอนคนนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ เลย”“บอกไปนานแล้วว่าต้องมีอะไรผิดปกติ เป็นอย่างที่พูดจริงด้วย!”“อย่างเขาน่ะเหรอแบบอย่างศิลปิน น่าจะเป็นได้แค่แบบแม่พิมพ์ขนมปังมากกว่า ขยะจริงๆเลย”“ขอโทษนะคุณหลิน ฉันผิดไปแล้วละ!”“คุณหลิน เราเข้าใจคุณผิด เราขอโทษนะ” พวกเขาไม่รู้จักชื่อเย่เทียนหยู่ แต่พวกเขารู้จักหลินหว่านหรู“…”ทันใดนั้น กระแสทั้งหมดก็เปลี่ยนไป และหลายคนก็ขอโทษความผิดของตัวเองก่อนหน้านี้ทันใดนั้น คำว่า “ขอโทษ” ก็ถูกพิมพ์ส่งเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะ กับคนที่หน้าตาสวยอย่างกับนางฟ้าแบบเธอในตอนแรกทุกคนใช้อารมณ์มองเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง ผู้จัดการหลินสวยสมบูรณ์แบบมากจนเกินจินตนาการ ถ้าเธอมาเป็นคนถ่ายทอดสดบ้างละก็ เธอจะต้องใช้ความสวยฆ่าคนนั
ทันทีที่สี่ทุ่มมาถึง เย่เทียนหยู่ก็โพสต์วิดีโอทันทีโดยใช้บัญชีของหลินหว่านหรูส่วนนี้บันทึกกระบวนการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นตอนที่พวกเขากำลังรอลิฟต์จนถึงตอนที่เย่เทียนหยูทุบตีผู้คน รวมถึงบอดี้การ์ดด้วยทันทีที่วิดีโอตัวเต็มออกมา ทุกคนก็เริ่มโต้เถียงกันอย่างระมัดระวัง น่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีเสียง จึงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันแน่แต่เห็นได้ชัดว่าปาร์คดาฮยอนเห็นผู้จัดการหลินก่อนและพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องตามมา แสดงให้เห็นว่า หลินหว่านหรูไม่ได้เริ่มเข้าหาปาร์คดาฮยอนก่อนแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เทียนหยู่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแต่ว่าผู้จัดการต้องตกใจเมื่อเห็นวิดีโอฉบับเต็มและรีบไปพบปาร์คดาฮยอน เพื่อรายงาน เพราะตอนนั้นเขาทุ่มเงินทำลายกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนปาร์คดาฮยอนสะดุ้ง แต่เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นแค่วิดีโอ เขาก็เยาะเย้ยทันที: “ถึงจะมีวิดีโอที่สมบูรณ์แต่ก็ไม่มีเสียง พิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”“ถึงยังไง การที่เขาทำร้ายผู้หญิงแล้วก็ใช้ความรุนแรงหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องผิดอยู่ดี”ปาร์คดาฮยอนกล่าวขณะอ่านความคิดเห็นด้านล่าง แม้ว่าหลายคนจ
“จะอะไรได้อีก ก็แค่ถ่วงเวลาแล้วพยายามหาทางหนี ถ้าไม่เชื่อก็รอดู ตอนสามทุ่มพวกนั้นปล่อยอะไรออกมาไม่ได้หรอก”เวลาสองทุ่มเป็นเวลาที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าสามทุ่มออกจะดึกไปหน่อย ถ้าเลยช่วงเวลานั้นไป คงจะไม่มีหลักฐานแน่ถึงได้ทำแบบนั้นเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของปาร์คดาฮยอน พวกเขาต่างก็เห็นด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เดินทางมาด้วยกัน เธอชมเขาไม่ขาดปากว่าเก่งกาจแค่ไหนพี่ดาฮยอนเก่งทุกอย่างจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสพยาก็ตามที“ดาฮยอน ดูสิ พวกเขาโพสต์บัญชีติ๊กต็อก ได้ยินมาว่าพวกเขาจะลงหลักฐานในนั้น” ผู้จัดการรีบพูด“แล้วพวกเขาลงหรือยัง?” ปาร์คดาฮยอนถาม“ยังหรอก”“ก็นั่นละ หลอกลวงคนอื่นใครจะทำไม่เป็น ไม่เห็นเหรอว่าออฟฟิศเชียลของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร?”“นั่นสินะ”ที่แท้แล้วตอนนั้นเอง เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว เย่เทียนหยู่จึงเป็นผู้นำในการลงทะเบียนบัญชีในนามของหลินหว่านหรู และแจ้งลงในบัญชีนั้นว่าจะมีการเผยแพร่หลักฐานในตอนแรกทุกคนไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและอยากจะเชื่อมัน ผู้คนก็เริ่มเชื่อมันมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มก็ยืนยันเรื่องนี้ ในขณ
เมื่อกลับมาที่ห้อง หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล: "เทียนหยู่นายเตรียมหลักฐานทั้งหมดแล้วจริงๆ เหรอ?""แน่นอน!"เย่เทียนหยู่ยืนยัน ถ้าหากไม่ต้องเตรียมตัวให้เรื่องของหลินหว่านหรูมากหน่อย ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยก่อนแล้วเพราะเรื่องคราวนี้ อาจโปรโมตไปถึงเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป แต่ถึงเขาจะใจดีสุดๆ แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนอย่างแม่ตระกูลหลินระเริงใจมากไปนักประเด็นเพราะนิสัยของแม่ตระกูลหลิน เวลาได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ไม่เคยรู้สึกขอบคุณ แต่เธออาจจะแว้งมาเยาะเย้ยหลินหว่านหรูไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลกับการปล่อยให้แม่หลินฉวยโอกาสพูดถึงแม่หลินถึงแม้จะเป็นวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง แต่มันก็ไปได้ไม่ดีนัก เพราะคนที่เป็นระดับลูกน้องของเธอไม่มีความประทับใจในตัวเธอเลยยิ่งไปกว่านั้น คือทันทีที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เธอก็เข้ามาชี้แนะอะไรมากมายราวกับตัวเองรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดีสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสามสิ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใหม่เข้ารับตำแหน่ง พวกเขาจะต้องควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดและลดรางวัลที่ไม่จำเป็นมากมาย ซึ่งก็คือการลดเงินเดือนของทุกคนแค่ลดค่าจ้างไม่สะดวกจริงๆ
“สมควรตายจริงๆ ถ้าแกด่าพ่อแม่ฉันยังพอทน แต่แกกล้าด่าพี่ดาฮยอนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้าง” หนึ่งในหมู่แฟนคลับพ่นประโยคไร้สมองที่ทำให้คนอื่นๆต้องตกตะลึงออกมา และเธอเป็นแค่เด็กสิบขวบเจ้าหน้าที่หวงกังวลมากจนเหงื่อไหลผุดออกมาบนหน้าผาก กองกำลังตำรวจของเขาเพียงลำพังไม่สามารถรักษาสถานการณ์ได้อีกต่อไป และทุกอย่างกำลังจะเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายเย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะเป็นเชิงเยาะเย้ยออกมาด้วยความโกรธ และเสียงนั่นก็ทำให้ฝูงชนตะลึงงันไปชั่วขณะ: “พวกคุณไม่เชื่อใช่มั้ย คืนนี้ผมจะปล่อยหลักฐานให้พวกคุณดู ให้พวกคุณได้ตาสว่างสักที” เขาพูดด้วยความโกรธทุกคนหยุดครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็มีคนพูดอย่างไม่มั่นใจ: "คุณต้องการนำหลักฐานประเภทใดมา ฉันคิดว่าคุณแค่อยากจะชะลอเวลาและหลบหนี"“หนีเหรอ คนโง่อย่างพวกคุณ คุ้มค่าให้ผมต้องหนีด้วยเหรอ?”เย่เทียนหยู่ดูถูกเหยียดหยาม และเสียงของเขาก็ดังพอจะเข้าถึงหูของทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็โมโหจนแทบคลั่งขึ้นมาทันที และอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆเจ้าหน้าที่หวงทำอะไรไม่ถูก หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแต่ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ปร
ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนถ่ายทอดสดที่มาถึงสถานที่แล้วต่างก็พากันโพสต์วิดีโอ ส่วนคนที่มาไม่ได้ก็รีบพากันแชร์ในขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ มากมายแห่แหนกันเข้ามาทำข่าวอย่างบ้าคลั่งมีคนที่ได้รับชมวิดีโอก่อนหน้านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนคนที่ด่าเย่เทียนหยู่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องท่าทางเย่อหยิ่งและพฤติกรรมอำมหิตของเขาแฟนคลับสมองนิ่มของปาร์คดาฮยอนหลายคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นแบบนั้น พวกเธอภูมิใจกับพฤติกรรมอันทรงพลังในการปกป้องเจ้านายของพวกเขาผู้นำของอาณาจักรมังกรกลัวสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คราวนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขายังคงกังวลว่าจะไม่สามารถลงโทษฆาตกรอย่างรุนแรงได้โดยไม่สังเกตว่าแกนนำ สภ. ปรากฏตัวแล้ว เจ้าหน้าที่หวงก็ตะโกนดังลั่น: "ทุกคนอย่ากังวล เราจะสอบสวนความจริงอย่างเคร่งครัดและจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัยหลุดลอยไป"อย่างไรก็ตามทุกคนยังคงไม่พอใจและตะโกนลั่นและเรียกร้องให้จับฆาตกรทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่หวงเองก็ทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้ว ในความเห็นของเขา ไม่ว
เย่เทียนหยู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น คนพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ เป็นเรื่องยากมากที่ในอาณาจักรมังกรจะมีคนจำนวนมากจับกลุ่มประท้วงคราวนี้ เกรงว่าคงจะโกรธจริงเข้าแล้วความจริงทั้งหมดต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด!ต่อให้เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย เกรงว่าก็คงจะหาทางตรวจสอบจนละเอียดยิบคนโง่เหล่านี้ไม่ได้ช่วยเหลือปาร์คดาฮยอน ซึ่งพวกเขาต้องการ แต่กำลังพยายามทำร้ายปาร์คดาฮยอนไม่ว่าปาร์คดาฮยอนจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถต่อสู้กับพลังเช่นนี้ได้เป็นกรณีนี้จริง ๆ เรื่องนี้ได้รับการรายงานอย่างรวดเร็วไปยังผู้นำที่รับผิดชอบข้างต้น ซึ่งโกรธเคืองและขอให้ผู้คนดำเนินการทันทีต้องตรวจหาความจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใคร ล้วนต้องถูกโทษสถานหนักเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินคำพูดของหยางไฉ่อวิ๋นเธอก็ร้อนใจขึ้นมาทันที: “เทียนหยู่ฉันควรทำยังไงดี? นายหลบไปก่อนดีมั้ย ฉันจะรับหน้าให้เอง” เธอรีบเอ่ยปากถึงคนพวกนั้นจะด่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ถึงยังไง คนที่ทำร้ายร่างกายก็เป็นเทียนหยู่ก็ ไม่ใช่เธอเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง”หยางไฉ่อวิ๋นรู้สึกกังวลมากจ