“มีคำกล่าวที่ว่าศิลปินมีขอบเขตของชนชาติ แต่ตัวศิลปะเอนั้นไร้ขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นตะวันตกหรือตะวันออก แก่นแท้ของศิลปะก็ล้วนเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์”“เพราะอย่างนั้นคุณแมนเทล คำพูดที่ไม่เป็นมืออาชีพของคุณนั่นมันทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะมันดูถูกชื่อเสียงของคุณในฐานะปรมาจารย์เปียโนอันดับหนึ่งของโลก”เย่เทียนหยู่พูด“ฮึ่ม ไร้สาระ” ใบหน้าของแมนเทลเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาเมินเฉยต่อเขาและทำได้เพียงปฏิบัติต่อเขาตามอำเภอใจเท่านั้น“ช่างเถอะ ในเมื่อคุณอยากจะดับออกจากวงการ งั้นก็ขอเห็นเป็นดั่งปราถนา”ภายใต้การจ้องมองที่ประหลาดใจของทุกคน เย่เทียนหยู่นั่งลงข้างเปียโน จากนั้นยิ้มเล็กน้อยและพูดอย่างสงบ “บทเพลง “สิ้นหวัง” แด่มิสเตอร์แมนเทล”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป สถานที่จัดงานก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเพราะความสิ้นหวังเป็นเพลงที่โด่งดังของแมนเทล และยังเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เขาคิดว่าเขาสามารถเล่นได้เขายังบอกด้วยว่า ในอีกร้อยปีข้างหน้าเพลงนี้ก็ยังไม่มีใครเทียบชั้นกับเขาได้แมนเทลตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเยาะเย้ย เด็กคนนี้จะโกรธจนสับสนไปแล้วสินะ หาเพลงไหนมาเล่นไม่เล่นดันไปหาเพ
“ยอมแล้ว ผมยอมแล้ว!”“ยอมแล้วทั้งกายทั้งใจ!”แมนเทลพึมพำ เห็นได้ชัดว่าเขาเสียสติไปแล้วเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนบนโลกที่สามารถเล่นดนตรีได้อย่างน่าอัศจรรย์และสมบูรณ์แบบขนาดนี้และเขายังเป็นชาวอาณาจักรมังกรด้วยดูเหมือนว่าเพื่อนเก่าจะไม่ได้โกหกเขา อาณาจักรมังกรประเทโบราณที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ที่มีมนต์ขลังและเป็นตำนานมากมายได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่หลินหว่านหรูตื่นเต้นมาก เธอไม่เคยมีความประทับใจกับเย่เทียนหยู่มากเท่านี้มาก่อนแต่พอคิดได้ถึงตรงนี้ เธอก็คิดได้ว่าไอ้หมานี่ไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาเล่นเปียโนเป็น จนก่อนหน้านี้เธอใช้เปียโนมาเป็นตัวอย่างแบ่งแยกโลกของทั้งคู่ด้วยซ้ำไปบางทีเขาอาจจะแอบหัวเราะเยาะตัวเธอตอนกำลังพูดเรื่องนี้กับเขาอยู่ก็ได้ในทางตรงกันข้าม หลิวเจี๋ยเกือบจะกระอักเลือดอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอน หลินหว่านหรูมองไปที่เย่เทียนหยู่อย่างตื่นเต้น ดวงตาของเธอไม่อาจเก็บแสงประกายเอาไว้ได้เลยไม่ จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ในเวลานี้ เย่เทียนหยู่เดินกลับมาและกระซิบ “หว่านหรู ผมจะกลับแล้ว คุณจะกลับด้วยกันไหมครับ?”เขาเห็นความตื่นเต้นข
“ไม่ครับ ผมซื้อเอง”“คุณซื้อมันมาเหรอ รถคันนี้ไม่ถูกเลยนะ”“ก็แพงอยู่นะครับ เดิมทีผมต้องการซื้อคันหนึ่งในราคาประมาณล้านห้าแสนบาท แต่เพราะผมเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งกำลังถูกรังแกผมก็เลยซื้อมันมาแบบรีบ ๆ ผมเลยจ่ายไปประมาณยี่สิบล้านบาท”“สาวน้อยคนนั้นก็สวยมากใช่ไหมล่ะ”“ใช่ ดวงตาคู่นั้นของเธอเหมือนพูดได้เลยล่ะ มันมีเสน่ห์มาก”“เหอะ ๆ ดีขนาดนั้น ทำไมไม่เอากลับบ้านล่ะ?”“ที่บ้านมีภรรยาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”“คุณรู้ด้วยเหรอว่ามีภรรยาแล้ว?”“เย่เทียนหยู่ ฉันจะบอกคุณให้นะ ต่อให้คุณอยากจะหาผู้หญิงน่ะ คุณก็ต้องรอหลังจากเดือนนี้ที่เราหย่ากันไปแล้ว” หลินหว่านหรูพูดด้วยความโกรธเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจเธอ เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาไม่ดีพอสำหรับเธอ แต่การได้อยู่กับเขาทำให้เธอรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างอธิบายไม่ถูก และเธอไม่ชอบให้เขาไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น“แค่หนึ่งเดือนเอง มันเร็วมาก ผมเตรียมตัวล่วงหน้าหน่อย ถึงตอนนั้นจะได้เริ่มต้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว”“ให้ตายเถอะ นายยังคิดจะเริ่มใหม่ทันทีอีกเหรอ เชื่อไหมว่าฉันจะตัดตอนนายก่อน!”หลินหว่านหรูโกรธมาก“อย่านะครับ ผมไม่เริ่มใหม่แล้ว!”เ
เย่เทียนหยู่ยักไหล่เงียบ ๆ เขาขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้า แล้วหันหลังกลับแล้วเดินจากไปเมื่อหลิวอวิ๋นซิ่วเห็นแบบนั้น เธอก็โกรธมากและต้องการหยุดเขาเอาไว้เพื่อดุด่าหลินหว่านหรูพูดอย่างร้อนใจ “แม่ หยุดกรีดร้องได้แล้ว เย่เทียนหยู่ซื้อมันมาด้วยเงินของเขาเองจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่จากหนู”“ไร้สาระ คนบ้านนอกที่ลงมาจากภูเขาแบบเขาจะหาเงินล้านมาได้ยังไง”“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เขาซื้อมันเอง” หลินหว่านหรูกล่าว“พอแล้ว ลูกคิดว่าแม่เป็นเด็กหรือไง ยังคิดมาหลอกแม่อีก?”“ตอนนี้ลูกกำลังคิดอะไรอยู่? ตอนแรกก็ไม่เต็มใจหย่า พอมาตอนนี้ยังให้เงินเขามากมาย หรือนี่ลูกมีความลับอะไรกับเขาเหรอ?”“ไม่มีหรอกค่ะ แม่คิดมากเกินไปแล้ว”“แบบนั้นก็ดีแล้ว เย่เทียนหยู่คนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ เป็นผู้ชายแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ก็ไม่รู้”“หว่านหรู อย่าโทษแม่ที่เตือนนะ ผู้ชายคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษเหมือนนายน้อยหลิวคนที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์ ลูกต้องระวังตัวเอาไว้นะ”หลิวอวิ๋นซิ่วเตือน“อือ หนูจะระวังค่ะ”“ดีมาก ปกติลูกก็คุยกับนายน้อยหลิวให้มาก ๆ นะ คนดีอย่างนายน้อยหลิวที่ทั้งซื่อสัตย
ในตอนนั้นเอง เขาเหลือบมองนามบัตรของอีกฝ่ายและจำหมายเลขได้อย่างรวดเร็ว“สวัสดี!”“พี่ พี่เย่ ได้โปรดช่วยผมหน่อยได้ไหม” เสียงขอร้องดังมาจากอีกด้านหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังได้ยินเสียงแผ่ว ๆ แทรกเข้ามาอีกด้วย“ฉันให้เวลาเธอเตรียมตัวหลายวัน แต่เธอก็ยังหาเงินห้าแสนบาทมาไม่ได้ กล้าดียังไงมาขอให้ฉันช่วยแม่ของเธอ”“ฉันขอบอกคุณตามตรง ว่าถ้าไม่เริ่มผ่าตัดภายในครึ่งชั่วโมงแม่ของเธอจะต้องตายอย่างแน่นอน”“ถ้าหาเงินไม่ได้จริง ๆ ให้แม่ของเธอออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด จะตายก็ไปตายข้างนอก อย่าให้คนมาหาว่าฝีมือการแพทย์ของเราไม่ได้เรื่อง”เย่เทียนหยู่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและถามทันที “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“แม่ของฉันป่วยหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที แต่ฉันมีเงินไม่พอค่ะ ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะนะคะ ต่อไปฉันจะไปเป็นคนรับใช้คุณเองค่ะ”เฉินเข่อซินไม่มีทางเลือกนอกจากยืมทุกทางเท่าที่เธอทำได้ เธอไม่รู้จักคนรวยคนอื่นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเดียวที่ดูเหมือนจะช่วยเธอได้คือพี่เย่ เจ้าพ่อท้องถิ่นที่เธอเพิ่งพบในวันนี้“ไม่ต้องกังวล คุณอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ให้พวกเขาทำการผ่าตัดก่
“ดูสิ ผมบอกแล้วว่ามันไม่น่าเชื่อถือ” ดร.หม่ามองด้วยสายตาเป็นเชิงว่าไปตามที่เขาคาดไว้“ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก”เฉินเข่อซินหน้าซีด จากนั้นหันกลับมาและคุกเข่าต่อหน้าดร.หม่าและวิงวอน “ดร.หม่า ได้โปรดช่วยทำการผ่าตัดแม่ของฉันก่อนเถอะนะคะ”“ไม่ต้องกังวล ต่อให้พี่เย่ไม่มา ฉันก็จะหาเงินมาใช้คืนให้แน่นอนค่ะ”จากนั้นเขาก็หันไปมองพยาบาลคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น “ได้โปรด ได้โปรดเถอะนะคะ....”ในที่แห่งนี้ พยาบาลคนหนึ่งรู้สึกสะเทือนใจและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เราจะระดมเงินได้หรือเปล่าคะ ถ้าอย่างนั้น ดร.หม่าจะช่วยทำการผ่าตัดให้เธอก่อนได้หรือเปล่า”“หลิวอิ๋งอิ๋งเธออยากเป็นคนดีมากนักเหรอ? ก็ได้ งั้นเธอก็เอาเงินสองแสนห้าออกมาสิ แล้วผมจะทำการผ่าตัดเธอก่อน แล้วผมจะเก็บส่วนที่เหลือทีหลัง” ดร.หม่าพูดด้วยความโกรธหลิวอิ๋งอิ๋งเผยสีหน้าอึดอัด เธอเพิ่งเริ่มฝึกงานเป็นพยาบาล และครอบครัวของเธอมีเงินไม่มาก เธอจะหาเงินมารวมกันได้มากขนาดนี้ได้ยังไงมากที่สุดสำหรับเธอก็คือสามหมื่นบาท แต่เธอก็ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วพูดว่า “แต่โรงพยาบาลของเราอยู่มาก็เพื่อช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ ดังนั้น เราจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อสถานการ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ประกาศออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเฉินเข่อซินมองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาว่างเปล่าพี่เย่หมายถึงอะไรในเรื่องนี้?เย่เทียนหยู่เมินพวกเขา เขาก้าวไปข้างหน้าและเปิดผ้าสีขาวที่เพิ่งคลุมไว้ เข็มเงินปรากฏขึ้นในมือของเขา และบินเข้าไปหาแม่ของเฉินเข่อซินด้วยความเร็วที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าดร.หม่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหนู แกกำลังทำอะไรอยู่ คนตายไปแล้ว แกจะมาแทงคนตายมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้!”ในเวลานี้ พลังชีวิตแม่ของเฉินเข่อซินเกือบจะหมดสิ้นไปแล้ว และเย่เทียนหยู่ก็ไม่มีเวลาให้สนใจพวกเขา เขามุ่งความสนใจไปที่การหมุนเวียนชี่แท้ และไหลเข้าสู่ร่างกายของแม่ของเฉินผ่านเข็มเงินปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ หลายปัญหาเกิดจากการอุดตันของเส้นชีพจร หรือความเสียหายจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียสิ่งเหล่านี้สามารถกำจัดและฟื้นฟูได้โดยการใช้ชี่แท้โดยเฉพาะถ้าได้ใช้เก้าเข็มนภาธรณี ซึ่งสามารถฟื้นฟูเนื้อและกระดูกของมนุษย์ได้ มีความสามารถในการซ่อมแซมเหนือจินตนาการของมนุษย์ แต่คนที่จะใช้งานมันได้ก็ต้องมีทักษาะสูงเช่นกันโดยเฉพาะข้อกำหนดถึงคุณส
“ยอดมากเลย ดีจังเลยนะ แม่รอดแล้ว!” เฉินเข่อซินรู้สึกตื่นเต้นทันทีในขณะนี้ เธอทั้งเศร้าและมีความสุขมากในเวลาเดียวกัน ความเสียใจมหาศาลเมื่อครู่ แต่ตอนนี้กลับตื่นเต้นมากจนแทบจะเป็นลมโชคดีที่เย่เทียนหยู่อยู่ใกล้ ๆ และตบหลังเธออย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้เธอสงบลง“เหอะ ๆ เฉินเข่อซิน ฉันเกรงว่าแกจะมีความสุขเร็วเกินไป!”ในเวลานี้เองที่จู่ ๆ ดร.หม่าก็หัวเราะเยาะเฉินเข่อซินตกตะลึงและรีบถาม “ดร.หม่า คุณหมายถึงอะไร”“หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ แกคิดว่าแม่แกฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ หรือไง?”“ไม่คิดหน่อยเลยเหรอ ว่าเด็กหนุ่มจะช่วยคนตายได้ยังไง ถ้าเขาเก่งขนาดนั้น เขาคงจะโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว แต่เขากลับเป็นแค่คนธรรมดาไร้ชื่อไร้เสียง”“ฉันจะบอกแกให้นะ ว่าเขาแค่อยากเอาชนะฉันและหลอกลวงแก ไม่อย่างนั้นทำไมแม่ของแกถึงยังไม่ขยับ!”ทันทีที่คำพูดจบลง ทุกคนก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลเมื่อสักครู่นี้พวกเขาเกือบจะถูกหลอกกันs,fสีหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะคิดว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนดี แต่คำพูดของดร.หม่าก็ไม่สมเหตุสมผลแต่ในขณะนี้ เฉินหมิ่น แม่ของเฉินเข่อซิน ขยับนิ้วของเธอบนเตียงผู้ป่วยดร.หม่าบั