อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลย
ปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...
“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ
“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”
ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโหมดเป็นงานเป็นการเช่นกัน เขากดปิดทีวีจอยักษ์ ผุดลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับชะเอม
“คะ?!!”
ชะเอมมึน...ไม่รู้ว่าหนุ่มมหาเศรษฐีพ่อหม้ายจะมาไม้ไหน เขาไม่มีวี่แววว่าจะกะล่อน ดูขึงขังจริงจังจนไม่อยากเชื่อ
“ทำห้องเอวาจบ...รบกวนช่วยปรับห้องทำงานผมให้ใหม่ด้วยได้ไหมครับ...อะ...อ๋อ!! เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนั้นผมไหว”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกไปมา เขารู้ว่าหล่อนจะบอกปัด แต่หากเอาเงินมาล่อมีหรือจอมงกอย่างชะเอมจะปฏิเสธ แบบนี้หล่อนได้กำไรเห็นๆ หากชะเอมถอย...หล่อนก็โง่เต็มประดา...
“ค่ะ!!” ชะเอมกระแทกเสียงตอบแบบฉุนๆ เขามัดมือชก บีบให้เธอเสียดาย เอาน่า...เธอคงไม่โชคร้ายเกินไป และนักธุรกิจแบบเขาก็คงไม่ว่างงานนานนัก...
“จะไปดูห้องยัยหนูก่อน หรือจะเข้าห้องผมก่อนดีครับ”
อเล็กไซถามยวนๆ เขาอยากรู้ว่าชะเอมจะโต้กลับแบบไหน?
“ห้องเอวาค่ะ ส่วนห้องคุณ...เราต้องคุยรายละเอียดกันก่อน เอมไม่รู้ว่าคุณต้องการแบบไหน เราต้องวางโครงก่อนที่จะไปดูของจริง”
รอยยิ้มหยันๆ แต้มมุมปากสีระเรื่อก่อนจะหายไปเมื่อหล่อนตอบกลับมาแบบเป็นจริงเป็นจัง ชะเอมทำท่าทางขึงขัง หล่อนไม่สนใจสายตากรุ้มกริ่มของอเล็กไซ
ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาหมุนตัวเดินนำหน้า สองมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง...ผิวปากแบบสบายอารมณ์ จนชะเอมแอบหมั่นไส้เล็กๆ
ห้องนอนของอิรินาน่ารักสมกับตัว ชะเอมขมวดคิ้ว เธอยกมือถูกับสีที่ผนังห้อง ความรู้สึกบางอย่างเตือน ห้องนี้เพิ่งจะถูกรีโนเวทได้ไม่นาน...เพราะสียังไม่ฝังแน่นแค่ถูเบาๆ ยังหลุดติดมือมา ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่...
“เอวาไม่อยู่เหรอคะ? ...เอมอยากคุยกับแกเองจะได้รู้ว่าแกอยากได้ห้องแบบไหน”
เธอหันมาถามเจ้าของบ้าน เขายืนอิงกรอบประตูด้วยทีท่าแสนสบาย
“อีกสักพักครับคงกลับครับ...เอวาเข้าโรงเรียนแล้ว...” เขายกมือขึ้น พลิกดูเวลาที่นาฬิกาโรเล็กซ์บนข้อมือแข็งแรงก่อนจะประเมินช่วงเวลา
“ค่ะ!! งั้นเอมขอเวลาส่วนตัว เอมจะร่างแบบไว้ให้เอวาเลือก ไม่ต้องเทคแคร์ค่ะ เอมถนัดทำงานคนเดียวมากกว่า”
ชะเอมเอ่ยปากไล่ซึ่งๆ หน้า สีหน้าหล่อนนิ่งสนิท อเล็กไซเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาไหวไหล่ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้ตอแยต่อ
ที่ชะเอมไม่รู้ อเล็กไซยอมถอยทัพ ไม่ได้หมายความว่าเขายอมแพ้ ชายหนุ่มกลับไปนั่งคิดแผนเงียบๆ ในห้องทำงาน เขาวาดฝันในใจ... ให้เวลาชะเอม3 วันหากหล่อนสามารถหนีรอดจากกรงเล็บเขาได้ อเล็กไซยินดีปล่อยหล่อน เพราะเวลานานขนาดนี้ ยังไม่มีสาวคนไหนหนีพ้นเสน่ห์ของเขาสักที
“หม่ามี้!!” เสียงวิ่งดังตึงตัง ก่อนที่ร่างกลมป้อมของอิรินาจะโผล่หน้ามาให้เห็น พวงแก้มอิ่มปะแป้งลายพร้อย คงเพิ่งจะนอนกลางวัน ก่อนเวลากลับผมสีดำยับยุ่งกระเซอะกระเซิงจนคนมองเห็นแล้วอ่อนใจ หากเธอมีลูกสาวน่ารักขนาดนี้ เธอจะจับแต่งตัวสวยๆ มัดผมให้เรียบร้อยไม่มีทางปล่อยให้รุงรังเช่นนี้แน่
“ดีจ้ะเอวา...ทำไมมอมแมมจังเลย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม เดี๋ยวหม่ามี้ทักเปียให้”
ชะเอมวางสมุดโน้ตในมือ เธอเดินไปสวมกอดอิรินา กดจมูกกับพวงแก้มยุ้ยของลูกสาวนอกไส้
“ได้ค่า รอเอวาแป๊บเดียวค่า”
เด็กหญิงกอดตอบ ก่อนจะวิ่งตื๋อไปกับพี่เลี้ยงที่ยืนรออยู่ทางด้านหลัง เพื่อจัดการตามที่ชะเอมบอก
หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน เธอเดินสำรวจห้องนอนของอิรินาซ้ำ จดบันทึกสิ่งที่ควรแก้ เพราะเมื่อร่างแบบแล้ว ผลออกมาจะได้เป็นที่ถูกใจ
เด็กหญิงย้อนกลับมาอีกครั้งหลังหายไปเกือบ30 นาที คราวนี้มาในชุดอยู่บ้านสุดน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเดินได้ จริงอยู่อิรินามีตาสีเขียวมรกต แต่ผมของเธอกลับเป็นสีดำสนิท มันอาจจะเป็นเพราะยีนของอเล็กไซก็ได้ เพราะชายหนุ่มเองก็มีผมสีดำ
“มาแว้วววว...หิวแล้วอ่า”
เสียงเล็กๆ ร้องแจ้วๆ พอโผล่หน้าเข้ามาก็ร้องแต่หิวๆ พี่เลี้ยงยิ้มกร่อยๆ หล่อนอยู่กับอิรินามานานพอสมควร เรื่องกินนี่มาเป็นอันดับหนึ่ง
“เดี๋ยวดิฉันเอาของว่างมาให้ค่ะ”
หล่อนเปรยกับนายจ้างตัวน้อย เตรียมตัวจะหมุนตัวกลับเพื่อไปจัดการตามความต้องการของคุณหนูของบ้าน
“เดี๋ยวจ้ะ...ลงไปข้างล่างดีกว่าไหม ห้องนอนไม่สมควรนำขนม หรือของหวานเข้ามา มันไม่สะอาด”
ชะเอมย่อตัวลง เธอกล่าวกับเด็กหญิง สอนในเรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้
“แต่ว่า...”
อิรินาเป็นคนติดห้อง เธอมักจะขลุกอยู่แต่ในห้องนอน มันอาจเป็นเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยก็ได้
“เอาขนมมาทานในห้อง ตกกลางคืนน้องหนูก็เข้ามาหา...ไหนจะพี่แมลงสาบอีก เอวากลัวไหมล่ะคะ”
“หูยยย...เอวาเกลียดที่สุดค่า ไปค่ะไปค่ะ ลงไปทานข้างล่างก็ได้”
เด็กหญิงห่อปากทำตาโต รีบฉุดมือของชะเอมแล้วรีบจูงออกจากห้องนอนตัวเอง เพราะหากมีสัตว์จำพวกนั้นแวะเวียนมาเยี่ยมตอนที่ตัวเองหลับ คงนอนผวาไปทั้งคืน
พี่เลี้ยงอมยิ้ม เธอมองชะเอมด้วยความชื่นชม ไม่มีใครชี้นำคุณหนูอิรินาได้ เมื่อเจ้าตัวทั้งรั้นและดื้อ
ดังนั้นวันนี้ เก้าอี้เหล็กในบริเวณสวนหลังบ้านจึงได้มีโอกาสได้รับใช้เจ้าของบ้านสุดป่วน เมนูวันนี้ไม่ถูกปากเจ้าตัวเท่าไหร่ จึงมีเสียงบ่นอุบตลอดเวลา แม้ขณะที่กำลังเคี้ยวหยับๆ
“ไม่อร่อยเลยสู้ฝีมือหม่ามี้ก็ไม่ได้ วันหลังหม่ามี้มาทำให้เอวาทานอีกนะคะ”
ชะเอมอมยิ้ม ดูดน้ำหวานในแก้วเฉย ไม่ได้ตอบอะไรออกมา...
“บ้านเอวามีสระด้วยนะคะ หากหม่ามี้ว่างๆ เราลงสระกันนะคะ เอวาอยากว่ายน้ำเป็น แต่...ไม่มีใครสอน”
เรื่องออดอ้อนฉอเลาะ ไม่ต้องมีใครสอนสั่ง มันเป็นสัญชาตญาณของคนที่ขาด มีระบบในตัวเอง เป็นกลไกแบบอัตโนมัติ
ใบหน้ากลมแป้นม่อยลง แม้จะกำลังเจริญอาหารแบบนี้จะไม่ให้ชะเอมใจอ่อนยวบได้ยังไง
“ได้สิ...ยังไงหม่ามี้ก็ต้องมาบ่อยๆ ไว้ว่างๆ หม่ามี้จะสอนเอวาว่ายน้ำเองค่ะ”
พอได้ยินคำตอบที่เป็นที่พอใจ ใบหน้าหงิกหงอยก็ผลิบานเหมือนดอกไม้ได้น้ำฝน ชะเอมอมยิ้ม มีลูกสาวสุดน่ารักแบบนี้ ทำไมคนเป็นพ่อถึงปล่อยให้เจ้าตัวหงอยเหงาได้ เท่าที่เห็นรอบตัวอิรินามีแต่พี่เลี้ยงกับการ์ด มันไม่ใช่การเลี้ยงเด็กที่ถูกวิธีนัก
“บ้านเอวาไม่มีสวนดอกไม้เหรอจ๊ะ”
บรรยากาศแห้งแร้ง แม้จะร่มครึ้มไปด้วยไม้ยืนต้นใหญ่ๆ แต่พรรณไม้ที่มีสีสันกลับไม่มีให้เห็นในสายตา ชะเอมจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“นั่นสิค่า... ทำไมไม่มี”
เด็กหญิงรีบสนับสนุน มีบริเวณกว้างขวางแต่ไม้ดอกไม้ประดับกลับไม่มีให้เห็น
“คุณท่านให้คนแต่งสวนให้น่ะค่ะ ผลออกมาแบบนี้ ท่านก็ไม่เห็นว่าอะไร”
ชะเอมกวาดตามองไปรอบตัว สวนสวยก็จริงแต่มันดูโล้นๆ พิกล มีแต่สีเขียวขจี สีอื่นแทบไม่มีให้เห็น มันเป็นบรรยากาศทำให้ไม่สดชื่นเท่าที่ควร
“มีคนสวนไหมจ๊ะ ขอเอมคุยกับเขาหน่อย”
บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ คนสวน คนขับรถ คนรับใช้น่าจะมี ชะเอมแค่อยากถามหากสามารถปรับภูมิทัศน์ได้ มันก็จะเป็นผลดีกับคนที่อยู่อาศัย...
“สักครูค่ะอิฉันจะไปตามให้”
ความจริงชะเอมไม่อยากยุ่ง แต่หากมีสีสันเพิ่มเติมเข้ามาบ้างมันน่าจะสดชื่นกว่า
ชายสูงวัยค่อนข้างมีอายุสักนิด เขาเดินเข้ามานอบตัวใกล้ๆ ชะเอม
“ลุงเป็นคนสวนบ้านนี้ใช่ไหมจ๊ะ ทำไมสวนมีแต่ไม้ประดับไม่มีไม้ดอกบ้างเลยล่ะ”
คุยไปคุยมา ชะเอมจึงได้รู้ หลังจากแต่งสวนเสร็จ คนดูแลไม่กล้าเพิ่มเติมต้นไม้ต้นอื่นลงไปเพราะกลัวว่าสวนที่ถูกเซตไว้อย่างสวยงามจะไม่เหมือนเดิม ได้แต่ดูแลตามหน้าที่ หญิงสาวจึงแนะนำ ชายสูงวัยยิ้มแป้น เมื่อชะเอมรับรองแข็งขันหากอเล็กไซบ่นหรือดุ เธอจะรับไว้คนเดียว ขอแค่เพียงมีต้นไม้ที่เธออยากได้มาเสริม เมื่อชายหนุ่มมีงบส่วนนั้นไว้ให้อยู่แล้ว
“เอาเหมือนที่บ้านหม่ามี้นะคะ ขอดอกไม้สวยๆ ที่มีกลิ่นหอมๆ ด้วย”
คุณหนูจอมแสบที่พวกเขาเคยได้ยินแต่เสียงร้องกรี๊ดๆ กับใบหน้าบึ้ง วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังลงมาให้บริวารได้ชื่นชม อาจจะเป็นเพราะมีคนคุมที่เอาอยู่อย่างคุณชะเอม จนหลายๆ คนลงความเห็น ชะเอมเหมาะที่จะมาเป็นนายหญิงของบ้าน เพราะหากมีคนใจดีอย่างคุณชะเอมเป็นนายผู้หญิง บ้านจะได้เป็นบ้านเสียที
“ได้เลยจ้ะ หม่ามี้สั่งลุงชมแล้ว พรุ่งนี้กลับจากโรงเรียนเอวาจะได้เห็นดอกไม้สวยตรงนี้แน่ๆ”
อิรินาทำปากจู๋ “แล้วพรุ่งนี้หม่ามี้มาอีกไหมคะ?”
เป็นคำถามที่ทำให้ชะเอมสะท้อนในอก...ดวงตาหงอยเหงากับความหวังที่กลิ้งไปมาในดวงตาของอิรินา ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง แม้ว่าจะขัดกับความตั้งใจของตัวเอง...เอาน่า เขาไม่ได้ว่างบ่อยๆ หรอก เป็นไปไม่ได้ที่คนงานเยอะอย่างอเล็กไซจะอยู่บ้านให้เธอเห็นหน้าทุกวัน
“มาสิ พรุ่งนี้หม่ามี้จะทำแบบห้องมาให้เอวาเลือก ถูกใจแบบไหนจะได้ลงมือทำห้องนอนเอวาไงจ๊ะ”
“จริงๆ นะคะ เย้ๆ”
เด็กหญิงไม่ได้ดีใจที่ได้ห้องนอนใหม่ เธอดีใจที่ชะเอมจะมาหาต่างหาก
“ดีใจอะไรคะ? เสียงดังไปยันห้องทำงานคุณป๊าเลย”
คนที่ไม่ได้อยากเจอหน้า คนที่ชะเอมต้องกันตัวเองออกห่างๆ ที่สุด ดันโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ จนค่อนไปทางรำคาญ เธอเบื่อตัวเองที่คอยจะแอบมองเขา ชะเอมเองก็เป็นผู้หญิง แล้วอเล็กไซก็หล่อวายร้ายขนาดนี้ ไม่แปลกหรอกที่สายตาเธอจะแวะเวียนไปชำเลืองมองเขาบ่อยครั้ง...
“เปล่าค่า แค่หม่ามี้รับปากจะมาหาเอวาบ่อยๆ”
เด็กหญิงตอบ เธอยัดชิ้นขนมใส่ปาก มีความสุขกับการกินเมื่ออารมณ์ดีสุดๆ
“อย่าลืมนะคุณ...ห้องทำงานผมด้วย...”
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
ชะเอมพูดแบบเหลืออด...เธอกับเขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้างกับ คนทำงานให้เป็นจ็อปๆ ไป ไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านยามวิกาลได้...เธอยังไม่อยากตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นพูดถึง แม้คู่กรณีจะเป็นผู้ชายที่น่าปรารถนา...“อยากให้ผมไปมากเลยเหรอ?”เสียงของอเล็กไซฟังดูหงอยๆ แต่หากเธอใจอ่อน คนที่เสียหายคือตัวเอง ชะเอมเลยฝืนทำใจแข็ง กลั้นใจพยักหน้าหงึกหงัก...“เอม...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาปรือเปลือกตาขึ้นมองเธอ หญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่ได้ดูดีกว่าบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จัก...แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงติดใจเธอนักหนา ติดใจจนกระทั่งอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหล่อนทั้งกาย...และใจชะเอมยกมือขึ้นกอดอกทันที...เธอไม่อยากเห็นสายตาของเขาเลย เธอกลัวตัวเองใจอ่อน นัยน์ตาของอเล็กไซสวยประหนึ่งอัญมณีชั้นเลิศที่ผ่านการเจียระไนด้วยฝีมือช่างชั้นครู เธอชมชอบมาตลอด... แต่หากอยากให้ตัวเองปลอดภัย เธอต้องฝืนความรู้สึกไว้ ต้องไม่สบตากับเขา!! ชะเอมตัวชาวาบ!! ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของอเล็กไซที่เธอเผลอมอง เขาตรึงเธอไว้ด้วยแววตาเต้นระริก ดวงตาคู่คมเหมือนอัญมณีสีสวย มันกลอกกลิ้งล้อเล่นกับแสงไฟ..
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...
บทที่7.เป็นแฟนกันมั้ย!!ชะเอมปิดประตูห้องนอนด้วยมือที่สั่นระริก เธอแสร้งทำเป็นใจแข็งไปอย่างนั้นเอง เพราะมันคือ ‘เกราะ’ ที่ใช้กางกั้นชายหนุ่ม ใครเข้าใกล้อเล็กไซ แล้วไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มบ้างล่ะ...ไม่มี...ชะเอมยืนยันได้ แม้แต่ตัวเองที่แกร่งและเชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ยังหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขา เมื่อชายหนุ่มรุกคืบเข้าประชิดตัวแบบนี้...หญิงสาวหลับตานิ่งๆ เธอยืนพิงประตูห้อง เงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวภายนอก...อเล็กไซอึ้ง!!ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดกับชะเอมถึงแค่ไหน...ที่เขารู้คือ...ชะเอมเข้ามาป่วนความคิดเขา หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก มันอาจจะเป็นความเคยตัวก็ย่อมได้ สาวๆ ส่วนใหญ่ วิ่งใส่...พอมาเจอคนที่วิ่งหนีเขาเลยไปไม่ถูก แถมหล่อนไม่เลิศเลออะไรเลย มันจึงทำให้ต่อมอยากเอาชนะของเขาทำงาน...คงเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ มือดันโซฟาพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแม้จะมึนหัวตุ๊บๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ตรงจุดนี้...ชะเอมตัดเยื่อใย หล่อนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการ...มันเสียหน้าจนอยากหายตัวได้...เสียงการเคลื่อ
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า
ชะเอมพูดแบบเหลืออด...เธอกับเขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้างกับ คนทำงานให้เป็นจ็อปๆ ไป ไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านยามวิกาลได้...เธอยังไม่อยากตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นพูดถึง แม้คู่กรณีจะเป็นผู้ชายที่น่าปรารถนา...“อยากให้ผมไปมากเลยเหรอ?”เสียงของอเล็กไซฟังดูหงอยๆ แต่หากเธอใจอ่อน คนที่เสียหายคือตัวเอง ชะเอมเลยฝืนทำใจแข็ง กลั้นใจพยักหน้าหงึกหงัก...“เอม...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาปรือเปลือกตาขึ้นมองเธอ หญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่ได้ดูดีกว่าบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จัก...แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงติดใจเธอนักหนา ติดใจจนกระทั่งอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหล่อนทั้งกาย...และใจชะเอมยกมือขึ้นกอดอกทันที...เธอไม่อยากเห็นสายตาของเขาเลย เธอกลัวตัวเองใจอ่อน นัยน์ตาของอเล็กไซสวยประหนึ่งอัญมณีชั้นเลิศที่ผ่านการเจียระไนด้วยฝีมือช่างชั้นครู เธอชมชอบมาตลอด... แต่หากอยากให้ตัวเองปลอดภัย เธอต้องฝืนความรู้สึกไว้ ต้องไม่สบตากับเขา!! ชะเอมตัวชาวาบ!! ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของอเล็กไซที่เธอเผลอมอง เขาตรึงเธอไว้ด้วยแววตาเต้นระริก ดวงตาคู่คมเหมือนอัญมณีสีสวย มันกลอกกลิ้งล้อเล่นกับแสงไฟ..
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน