“หลังใหญ่ๆ ท้ายหมู่บ้านค่ะ นั่นแหละบ้านเอวา” เด็กหญิงตอบ เธอยัดพิซซ่าชิ้นโตๆ เข้าปาก กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยจนคราบซอสเลอะเทอะมุมปาก อาจจะเป็นเพราะหิวจัด เมื่อออกแรงกอดปล้ำ ฟัดกับเจ้าตูบสองตัวอยู่เป็นนาน และพิซซ่าที่เธอกำลังกินมันอร่อยจริงๆ
ชะเอมเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอครางในอก... คฤหาสน์หลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เธอเคยเห็นผ่านตาตอนออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เคยค่อนคอดในใจเพราะแอบอิจฉาเล็กๆ ตัวบ้านหลังใหญ่ปานพระราชวังแวซาย เจ้าของบ้านคงร่ำรวยมหาศาล ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มาพบเจอคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตัวเป็นๆ
“คุณป๊าเอวาไม่อยู่เหรอ? ป่านนี้ทำไมไม่มีใครมาตามหาเอวาเลยล่ะ” เธอบ่นแบบไม่ค่อยเข้าใจ คอยใช้ทิชชูซับมุมปากให้อิรินาบ่อยๆ เป็นความเอาใจใส่แบบที่เด็กหญิงรู้สึกอิ่มเอม หญิงสาวย่นหัวคิ้ว แอบค่อนบิดาของเด็กหญิงในใจคุณหนูของบ้านหายตัวไปเป็นเวลานาน ทำไมไม่มีใครในบ้านนั้นรู้เรื่องสักคน
“อยู่ค่ะ แต่คุณป๊าไม่สนใจเอวาหร๊อก!! เอวาดื้อ” อิรินาเริ่มน้ำตาตกอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงบิดา อเล็กไซบิดาของเธอคงกำลังป้อยอแม่สาวทรงโตที่เขาพามารับประทานมื้อค่ำด้วย เธอไม่พอใจอย่างแรง!! แต่บิดาไม่สนใจ...อิรินาก็เลยหลบออกมาจากบ้านโดยไม่บอกพี่เลี้ยง เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากบิดา และป่านนี้ที่บ้านคงวุ่นวาย แต่...ช่างเถอะ!! ทุกคนจะได้รู้เธอไม่พอใจผู้หญิงคนนั้น ไม่ชอบแววตาและการเสแสร้งของหล่อน มันไม่จริงใจ แม้แต่เด็กอย่างเธอยังรู้ แล้วทำไมบิดาถึงไม่รู้!! คงเป็นเพราะบิดาเอาแต่จ้องทรวดทรงของเจ้าหล่อน จนลืมความไม่เอาไหนส่วนอื่น และเธอไม่พอใจอย่างแรง!!
“ไม่มีพ่อ-แม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะจ๊ะ ท่านอาจจะแสดงออกไม่เป็นเพราะเป็นผู้ชาย เอวาเลยเข้าใจผิด”
ชะเอมพยายามช่วย เธอแก้ต่างให้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้า เพราะสงสารความรู้สึกของเด็กหญิงที่เธอหลงรัก
“เอวาไม่อยากพูด...คุณป๊ามีเวลาให้แม่พวกนั้น แต่กลับเอวา คุณป๊าไม่เคยว่าง” เด็กหญิงจีบปากเล่า มุมปากอิ่มบิดเบี้ยวเมื่อย้อนนึกถึงความหลัง เธอไม่เคยอยู่ในสายตาบิดา...ไม่ว่าจะงานกิจกรรมที่โรงเรียน หรือการออกไปเที่ยวกันเป็นการส่วนตัว...อิรินามักต้องไปกับพี่เลี้ยงหรือไม่ก็คนสนิทบิดา ไร้เงาอเล็กไซ เมื่อเขายุ๊งยุ่ง!!
ชะเอมยิ่งปวดตับ!! เศรษฐีส่วนใหญ่เลี้ยงลูกแบบใช้เงิน ไร้ซึ่งความอบอุ่น
“เอ่อ...พี่เอม” เธอหยุดพูดเมื่ออิรินาช้อนสายตาตัดพ้อขึ้นมอง “เอ่อ...ไม่ชินน่ะ หม่ามี้ขอถามนี๊ด...ได้ไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนสรรพนามและมันได้ผล นางฟ้าของเธอค่อยๆ ยิ้มออก
“ได้ค่า...ถามมาเลย...เอวาจะตอบ”
“หม่ามี้ของเอวาไปไหนเหรอคะ?” เธออยากรู้เพราะหากพูดอะไรผิดๆ ออกไปจะได้แก้ต่างทันนิ้วกลมป้อมชะงักนิดๆ ก่อนจะยกชิ้นพิซซ่าขึ้นกัดกินต่อ ปากอิ่มรูปกระจับขยับตอบ หลังเคี้ยวพิซซ่าชิ้นโตๆ ไปได้สักพัก
“หม่ามี้ฟิริเซีย...อยู่ที่อื่นค่า หม่ามี้ไม่ชอบเอวาหร๊อก!! ชอบว่าเอวาบ่อยๆ ว่าเอวาดื้อ...เอวามีคุณป๊าคนเดียวก็พอค่ะ” คำพูดของเด็กมีปัญหาตรงหน้า มันบ่งบอกถึงสถาบันครอบครัว เด็กที่ยังไม่ประสีประสามักจะจดจำฝังใจกับเหตุการณ์ในชีวิต ชะเอมนึกอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ให้กำเนิดอิรินาเสียยิ่งนัก เด็กหญิงน่ารักเช่นนี้ ทำไมมารดาถึงรังเกียจรังงอน
“คุณป๊าเอวายังไม่ได้แต่งงานใหม่ใช่ไหมจ๊ะ?” ปัญหาโลกแตกที่ไม่ว่าใครก็แก้ไม่ตก เมื่อเป็นความพอใจของคนทั้งคู่ โดยลืมนึกถึงผลพวงที่เกิดตามมา พ่อไปทาง แม่ไปทาง ปล่อยให้สายใยความรักที่ขึ้นชื่อว่า ‘ลูก’ จมอยู่กับความอ้างว้าง และหวาดระแวง
“ค่ะ เอวาไม่เอาแม่ใหม่ ถ้าคุณป๊าจะมีใคร? ต้องถามเอวาก่อน” เด็กหญิงตอบเสียงหนักๆ หากบิดาคิดจะหาใครเข้ามาแทนที่มารดา ท่านต้องถามความเห็นของเธอก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะโวยให้บ้านพัง!!
ชะเอมถอนใจพรวดๆ มันเป็นปัญหาใหญ่ที่เธอสุดปัญญาที่จะสอดมือเข้าไปยุ่ง เมื่อเธอเป็นแค่คนนอก “ตามสบายนะจ๊ะ หม่ามี้ขอไปล้างตัวก่อน เหนียวตัวชะมัด” วันนี้ทั้งวันเธอเดินเที่ยวเสียจนสมอยาก แต่เมื่อเห็นท้องฟ้าครึ้มฝนจึงรีบกลับที่พัก เพราะฉะนั้นเนื้อตัวเลยเหนียวเหนอะหนะ อยากจะอาบน้ำล้างตัวให้ชุ่มฉ่ำสบายอุรา
“ค่า...เอวาอยากอาบด้วย แต่ไม่ดีกว่า”
มีของกินอยู่ตรงหน้า เรื่องเล่นน้ำเลยเป็นเรื่องรอง...
ชะเอมอมยิ้ม เธอยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมของเด็กหญิงที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่เข้าทาง...แล้วจึงลุกขึ้นยืน ไปจัดการธุระส่วนตัว ปล่อยให้อิรินาเอ็นจอยกับการกินพิซซ่าถาดโตๆ เพียงลำพัง
น้ำค่อนข้างเย็น คงเป็นเพราะอากาศรอบตัวเย็นฉ่ำเพราะสายฝน เธอไม่ได้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะรู้ดีว่าน้ำอุ่นๆ ทำให้ผิวแตก หากทนไหว...ก็ต้องทนเพื่อสุขภาพผิว เรื่องของเรื่องคือ...ชะเอม ขี้เกียจประทินผิวด้วยครีมหรือโลชั่น เธออยากให้ผิวเป็นอิสระจากครีมต่างๆ บ้าง
หญิงสาวเหลือบมองตัวเองผ่านกระจกเงา เธอยิ้มกับทรวดทรงเตะตาของตัวเอง ไม่มีเพศตรงข้ามคนใดเคยได้เห็น เมื่อชะเอมชอบสวมใส่เสื้อผ้าตัวหลวมโพรก เธอไม่นิยมแต่งตัวรัดรูป เพราะถนัดที่จะลุยงาน มากกว่านั่งโต๊ะ หญิงสาวดำรงชีพด้วยการเป็นมัณฑนากร รับออกแบบและตกแต่งภายใน ทั้งอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย บ้านเรือน ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้ามีบริษัทเล็กๆ ซึ่งงานชุกพอสมควร เมื่อเป็นงานดีที่ผู้คนปากต่อปาก เธอไม่เคยเกี่ยงงาน ไม่ว่าจะงานเล็กจ้อย หรืองานช้าง หากตกถึงมือชะเอม เธอทุ่มสุดตัว!!
“เหอะๆ” เธออดหัวเราะไม่ได้ อายุล่วงเข้าเกือบ30ปีรอมร่อ แต่เธอยังเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนๆ ที่ไร้คนข้างกาย
‘ใช่เธอเยอะ!! เธอเรื่องมาก...แล้วจะทำไมล่ะ เธอไม่อยากกินน้ำตาต่างข้าว เมื่อเห็นความเจ็บปวดจากชีวิตคู่จากผู้คนรอบตัวจนชิน’
ที่สำคัญเลยคือ...ไม่มีผู้ชายคนไหน ทำให้หัวใจเธอกระตุก!! ได้สักคน...ส่วนมากที่พบเจอมีแต่ขี้เมา เจ้าชู้ ซึ่งมันไม่ใช่สเปคของเธอเลย
ชะเอมตั้งความหวังไว้เยอะ หากจะก้าวข้ามเข้ามาเป็นสามีนางสาวชะเอม...เขาต้องเพอร์เฟค ไร้ที่ติ!!
แต่ในสังคมทุกวันนี้ หญิงสาวจึงได้แต่ปลง...ผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันไว้...คงเป็นได้แค่จินตนาการ เมื่อผู้ชายดีๆ เช่นนั้น คงไม่มีอยู่ในโลกความจริง ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผู้หญิง ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่สำคัญเลย...ต้องไม่เจ้าชู้!!
“36-24-35 เซี๊ยะขนาดนี้ ยังไม่มีใครแล”
เธอบ่นไปเรื่อยเปื่อย หมุนซ้ายแลขวา เอียงตัวดูข้อด้อยที่อาจจะมองข้าม ไม่มีเซลลูไลท์เกาะที่ต้นขาเพราะเป็นคนชอบออกกำลังกาย แถมยังไม่กินจุบจิ๊บ!! หุ่นเธอเพอร์เฟค แต่ไม่เคยโชว์ให้ใครดู ไม่ว่าจะชุดบิกินี่สำหรับว่ายน้ำ หรือชุดเดรสสวยๆ ชะเอมขอบาย เธอชอบใส่กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ และคลุมตัวด้วยเสื้อคลุมตัวโตๆ หมวกแก็บปิดพวงผมสวย เท่านี้... ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนแลเห็นรูปทรงที่ซ่อนไว้สักคน
ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงแต่งตัวดีๆ แต่งหน้าเนียนๆ และทาปากแดงๆ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคนอย่างนางสาวชะเอม เธอเลยไม่มีหนุ่มหลงมาจีบสักที
หญิงสาวตะแคงหูฟังเสียงลูกสุนัขตัวแสบ กับบุตรสาวคนใหม่หมาดๆ มันเงียบเชียบผิดปกติ จนเธอร้อนใจ
ชุดคลุมหลังอาบน้ำใกล้มือ เธอคว้ามาสวมบนร่างกายลวกๆ โดยที่ด้านใต้ชุดคลุมไม่มีเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ เลย ชะเอมเป็นห่วงเด็กน้อยจนลืมการระวังตัว เพราะคิดง่ายๆ เธอกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ตัวเอง...
ใครจะรู้ล่ะ...ว่าจะเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก อิรินานอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟานั่งเล่นด้านหน้าทีวีจอยักษ์ เจ้าตัวคงเพลีย!! และอิ่มจัด มีตัวแสบ2 ตัววิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล ชะเอมกำลังจะเดินกลับเข้าห้องเพื่อจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย
แต่...
หญิงสาวอ้าปากค้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่อิรินานอนอยู่ บนโซฟาตัวถัดไป!!
มีผู้ชายหน้าตาดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นผ่านตาตัวเองมา...เขานั่งอยู่ตรงนั้น และทอดสายตาหวานฉ่ำมองตรงมายังเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดๆ มือเรียวรวบชุดคลุมให้กระชับแน่นขึ้น รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะป่านนี้.... เขาผู้นั้นคงมองทะลุไปถึงไหนต่อไหน เมื่อเธอไม่ได้ระวังตัวเองเลย อาจจะเผอเรอจนคนมาใหม่มองเพลินตาไป
อเล็กไซตาค้าง!! ลมหายใจสะดุด หายใจติดๆ ขัดๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า...เซ็กซี่สุดๆ ผิวของเธอขาวอมชมพู คงเป็นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ ผมของเธอจึงเปียกฉ่ำแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง เรียวขาที่โผล่พ้นชายเสื้อคลุม เพรียวสวยจนเขาแทบหยุดหายใจ มันเรียวสวยเรียวยาวเกลี้ยงเกลาดั่งลำเทียน ยิ่งเป็นการมองเห็นแบบวับๆ แวมๆ มันยิ่งเร้าใจสุดๆ
หล่อนทำท่าเหมือนไม่เห็นเขา วิ่งหน้าตั้งมายืนมองบุตรสาวตัวแสบของเขา ก่อนจะถอนใจเฮือกๆ หล่อนเป็นใคร? แล้วอิรินารู้จักหล่อนได้ยังไง? มันเป็นคำถามที่ดังสะท้อนไปมาในหัวสมองขาวโพลน เมื่อเวลานี้ในหัวของอเล็กไซ มีแต่จินตนาการตอนที่หล่อนไม่สวมอะไรเลยบนร่างกายสุดเซ็กซี่นั่น!! และทอดกายนอนยั่วเย้าเขาอยู่กลางเตียงขนาดบิ้กไซส์!!
“คุณเป็นใครคะ?” เสียงของหล่อนห้วนห้าว แต่ฟังยังไงก็ยังถูกใจอยู่ดี ดวงตาสีนิลของหล่อนวาววับ หล่อนมองเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ร้ายหาใช่มิตรผู้มาเยือน
ชายหนุ่มไม่ตอบเขาบุ้ยปากไปทางอิรินา ก่อนจะตวัดปลายขาลง ผุดลุกขึ้นมายืน พร้อมทั้งยกมือเสยผม
เขาใจร้อนแทบเป็นบ้า!! หลังพี่เลี้ยงของบุตรสาวเข้ามาแจ้งข่าว คู่ขาคนล่าสุดถูกส่งกลับแบบไม่มีคำอธิบาย แล้วเขาก็ออกตระเวนหาบุตรสาวจากร่องรอยที่เหลืออยู่ ไม่คิดว่าเด็กดื้ออย่างบุตรสาวจะมาไกลถึงที่นี่ เมื่ออิรินามีคนติดตาม แต่มันอาจจะเป็นความซวย หรือชะตาลิขิตให้เขาได้มาเจอหล่อนก็ไม่รู้ เนื้อตัวของอเล็กไซเต้นยุบยับ เหมือนกับว่าสัญชาตญาณนักล่าของเขากำลังถูกปลุกให้ตื่น เมื่อไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมีลักษณะแข็งกร้าวใส่เขามาก่อน ผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนแรก ที่มองเขาด้วยแววตาลุกโพลง ไม่ได้มีแววเสน่หามีแต่แววตาขึ้งโกรธ
มือเรียวจับสาบเสื้อแน่นๆ เธอเพิ่งถึงบางอ้อ หลังพิจารณาคนแปลกหน้าแบบถี่ถ้วน
โครงหน้า ‘เขา’ คล้ายคลึงกับนางฟ้าตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ย ดวงตาของเขาสีเดียวกับเด็กน้อยคนนั้นเลย ชะเอมไม่คิดว่าเด็กหญิงที่รูปหน้าสวยขนาดนั้น จะถอดเค้าโครงมาจากบิดา...ใช่!! เขาหล่อระเบิด!! และผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจกระตุก เพียงแค่เผลอสบตากันจังๆ
สัญญาณอันตราย...ร้องสั่ง ให้เธออยู่ห่างๆ เขา...
เมื่อลักษณะท่าทางแบบนี้ คงไม่ใช่ผู้ชายในอุดมคติของเธอแน่...
เขาคือความต่างแทบทุกข้อ เขาไม่น่าจะเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อลุค...เขาดูเถื่อนๆ ชอบกล
เขาไม่น่าจะไม่ดื่ม...เมื่อคำบอกเล่าคร่าวๆ ของอิรินา บิดาของเธอชอบปาร์ตี้!! เรื่องบุหรี่คงไม่ต้องถาม เมื่อกลิ่นมันฟ้อง โชยมาเข้าจมูกเธออยู่นี่ไง ดูโดยรวมแล้ว...เขาเป็นตัวอันตราย!! สมควรอยู่ให้ห่างๆ เป็นพันไมล์เลยยิ่งดี
หลังบังคับไม่ให้เสียงพูดออกมาสั่นพร่า ชะเอมตัดสินใจสื่อสารกับคนแปลกหน้า เธอไม่อยากอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดนี่นานๆ มันเปลืองตัว!!
จะอะไรเสียอีกล่ะ ‘ก็ไอ้ลูกตาวาวๆ ของอีกฝ่ายไง!! เขาทำเหมือนกับว่า กำลังเปลืองผ้าเธอทีละชิ้น’ คนบ้าอะไรไม่รู้ นัยน์ตาคมเหมือนใบมีดโกน
“คุณคงเป็นคุณป๊าของเอวา?”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ...เขาหรี่ตาลง เมื่อหล่อนเดินไปหยุดหลังโซฟาตัวใหญ่ เอาความหนาหนักของโซฟาช่วยพรางร่างกายอวบอิ่มนั่น
“คุณปล่อยลูกสาวหายมาแบบนี้บ่อยๆ เหรอคะ...เวลาเกือบ2 ชั่วโมง...มัวทำอะไรอยู่!!” อดไม่ได้เลยที่จะตำหนิ...เธอตวัดตาค้อนขวับๆ แต่ที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจนชะเอมเริ่มเดือดปุดๆ
“เอวาแค่งอนผม...แกก็เป็นแบบนี้ประจำ และผมไม่ได้ปล่อยเธอหายไป ยัยตัวยุ่งนั่นหนีมาเองครับ เราวุ่นวายไปทั้งบ้าน เอวามีคนติดตาม...แต่ครั้งนี้เขาเผลอ เราไม่คิดว่าเอวาจะมาไกลถึงนี่...มันห่างจากบ้านของผมพอสมควร และเธอ...รู้จักกับเอวามาก่อนหรือเปล่า?”
อเล็กไซอธิบายเสียงเนิบนาบ เขาเดินวนไปใกล้ๆ และหล่อนก็ขยับถอยหนีไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังเล่นเกมแมวจับหนูยังไง ยังงั้นเลย
บทที่2.ผู้หญิงแปลกหน้า...กับตำแหน่ง ‘หม่ามี้’ชะเอมกลอกตาไปมา...เธอรู้สึกอึดอัด และอยากพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ที่คุกคามความรู้สึกตัวเองแบบนี้สักที เธออยากขอตัวไปแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่ค่อยชินกับการอยู่ในสภาพไม่พร้อม แถมมีสายตาคมกริบคู่นั้นคอยมอง สายตาที่เหมือนกับกำลังส่องเนื้อในเธอ สายตาที่เต็มไปด้วยร่องรอยกรุ้มกริ่มของผู้ชายเจ้าชู้!!เขาหล่อแล้วไง...เธอควรต้องสนเหรอ? เพราะต่อให้หล่อเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือแฟชั่นชั้นนำที่ฝรั่งเศส เธอก็ไม่สน!! เมื่อเขาคือคน...แปลกหน้า...“คุณบุกรุกบ้านคนอื่นแบบนี้บ่อยเหรอคะ?” เป็นคำเปรยที่กระแทกเข้ากลางแสกหน้าอเล็กไซ เหมือนกับว่าหล่อนกำลังด่าเขาแบบ...อ้อมๆ เนียนๆ ในแบบที่เขาไม่เคยเจอ เมื่อมีแต่สาวๆ อ้าแขนรับ“ต้องขอโทษที่ทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้นครับ บังเอิญว่าผมเห็นเอวาในบ้านหลังนี้ และไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่สักคน ให้ผมทันได้ขออนุญาตก่อน”ชายหนุ่มแจงเสียงอ่อน เขาหรี่ตามองเรียวขาเพรียว ยามที่หล่อนขยับก้าวเดิน“อ๋อ...” หล่อนลากเ
บทที่3.คาสโนว่าพ่อลูกอ่อน“คุณป๊า...เอวาจะไปหาหม่ามี้ค่า” ในเช้าวันหนึ่ง อิรินาเรียกร้องเอากับบิดา ช่วงเวลาที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเช้าชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาลืมชะเอมไปเสียสนิทใจ เมื่อการงานของอเล็กไซรัดตัว เขาวุ่นวายจนลืมนางฟ้าในฝันคนนั้นเสียหมดสิ้นใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวหงิกงอ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า ถึงแม้บิดาไม่พาผู้หญิงคนไหนของท่านมาเหยียบที่คฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนเมื่อก่อนก็จริง...แต่อเล็กไซก็ยังไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเหมือนเดิม ความเหงา... ความเบื่อหน่าย ทำให้เด็กหญิงแสดงออกแบบก้าวร้าว เมื่อพี่เลี้ยงเป็นแค่เพียงลูกจ้าง...ไม่สามารถสอนสั่งบุตรสาวนายจ้างได้ นอกจากตามใจ“อืม...ตามใจเอวาค่ะ แต่...ให้การ์ดไปด้วยนะ” ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์ในมือวางลงตรงหน้า เขาฉวยแก้วกาแฟขึ้นมายกจิบ พยักใบหน้าอนุญาตและสั่งงานการ์ดด้านหลังชายหนุ่มสกรีนชะเอมแล้ว หล่อนไม่มีนอกมีใน ไม่มีพิษภัยสำหรับอิรินา“หม่ามี้ทำงานหนัก จะไปหาแต่ล่ะทีต้องนัดล่ว
อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลยปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโห
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
บทที่7.เป็นแฟนกันมั้ย!!ชะเอมปิดประตูห้องนอนด้วยมือที่สั่นระริก เธอแสร้งทำเป็นใจแข็งไปอย่างนั้นเอง เพราะมันคือ ‘เกราะ’ ที่ใช้กางกั้นชายหนุ่ม ใครเข้าใกล้อเล็กไซ แล้วไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มบ้างล่ะ...ไม่มี...ชะเอมยืนยันได้ แม้แต่ตัวเองที่แกร่งและเชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ยังหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขา เมื่อชายหนุ่มรุกคืบเข้าประชิดตัวแบบนี้...หญิงสาวหลับตานิ่งๆ เธอยืนพิงประตูห้อง เงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวภายนอก...อเล็กไซอึ้ง!!ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดกับชะเอมถึงแค่ไหน...ที่เขารู้คือ...ชะเอมเข้ามาป่วนความคิดเขา หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก มันอาจจะเป็นความเคยตัวก็ย่อมได้ สาวๆ ส่วนใหญ่ วิ่งใส่...พอมาเจอคนที่วิ่งหนีเขาเลยไปไม่ถูก แถมหล่อนไม่เลิศเลออะไรเลย มันจึงทำให้ต่อมอยากเอาชนะของเขาทำงาน...คงเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ มือดันโซฟาพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแม้จะมึนหัวตุ๊บๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ตรงจุดนี้...ชะเอมตัดเยื่อใย หล่อนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการ...มันเสียหน้าจนอยากหายตัวได้...เสียงการเคลื่อ
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า
ชะเอมพูดแบบเหลืออด...เธอกับเขาเป็นแค่ผู้ว่าจ้างกับ คนทำงานให้เป็นจ็อปๆ ไป ไม่ได้สนิทสนมกันถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านยามวิกาลได้...เธอยังไม่อยากตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นพูดถึง แม้คู่กรณีจะเป็นผู้ชายที่น่าปรารถนา...“อยากให้ผมไปมากเลยเหรอ?”เสียงของอเล็กไซฟังดูหงอยๆ แต่หากเธอใจอ่อน คนที่เสียหายคือตัวเอง ชะเอมเลยฝืนทำใจแข็ง กลั้นใจพยักหน้าหงึกหงัก...“เอม...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาปรือเปลือกตาขึ้นมองเธอ หญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่ได้ดูดีกว่าบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จัก...แล้วทำไมนะ ทำไมเขาถึงติดใจเธอนักหนา ติดใจจนกระทั่งอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของหล่อนทั้งกาย...และใจชะเอมยกมือขึ้นกอดอกทันที...เธอไม่อยากเห็นสายตาของเขาเลย เธอกลัวตัวเองใจอ่อน นัยน์ตาของอเล็กไซสวยประหนึ่งอัญมณีชั้นเลิศที่ผ่านการเจียระไนด้วยฝีมือช่างชั้นครู เธอชมชอบมาตลอด... แต่หากอยากให้ตัวเองปลอดภัย เธอต้องฝืนความรู้สึกไว้ ต้องไม่สบตากับเขา!! ชะเอมตัวชาวาบ!! ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของอเล็กไซที่เธอเผลอมอง เขาตรึงเธอไว้ด้วยแววตาเต้นระริก ดวงตาคู่คมเหมือนอัญมณีสีสวย มันกลอกกลิ้งล้อเล่นกับแสงไฟ..
บทที่6. More than love.เวลา1เดือนที่เขาไล่ต้อนชะเอม หล่อนหาได้จนมุมไม่ ที่ทำได้ก็แค่ ‘จูบ’ กับแทะโลมนิดๆ หน่อยๆ งานคืบหน้าใกล้จะเสร็จ เขายอมรับว่าทึ่งกับการทำงานของชะเอม หล่อนจริงจังและมีฝีมือ ไม่แปลกเลยที่งานของชะเอมจะแน่น เมื่อคุณภาพที่ได้รับสมกับราคาที่ต้องจ่าย แถมงานยังออกมาสวยถูกใจ“หมู่นี้...คุณหายหน้าไปนะอเล็กไซ?”เสียงร้องทักจากคนคุ้นเคย วันนี้อเล็กไซนึกเซ็งๆ เขาเลยออกมาจิบแอลกอฮอล์แก้เบื่อในผับเจ้าประจำ และคนที่ทักคือเพื่อนสนิทที่หันมาจับธุรกิจสถานบริการ...หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยผสมกับแขก ราจีฟ ราย หนุ่มอีกหนึ่งคนที่สังคมจับตามอง เมื่อเขามีฐานการเงินแน่นปึก!! แต่ทำตัวสำรวยเหมือนคาสโนว่าทั่วๆ ไป มีผู้หญิงหลายคนหลงเป็นเหยื่อ...โดยการเดินเข้าหาราจีฟ แต่พวกหล่อนกลับได้ไปแค่ความสำราญ...ส่วนสิ่งสำคัญที่อยากได้ แม้แต่ได้จับต้องยังไม่เคย เพราะราจีฟหวงความโสดของตัวเอง เขาไม่หวงตัว พร้อมสนองความต้องการของผู้หญิงแบบไม่ยอมให้เสียชื่อ...แต่จะให้เขาจริงจัง...คงต้องรอให้ชายหนุ่ม...เผลอ...“นึกว่าใคร ไอ้
“หม่ามี้เอวาหิวค่ะ มีอะไรทานมั้ยคะ?” หญิงสาวตะโกนบอก เจ้าหล่อนลอยคออยู่กลางน้ำ ออกแรงกระทุ่มน้ำเปาะแปะ อาจจะเหนื่อยและหิว“ได้จ้า เดี๋ยวหม่ามี้สั่งแม่ครัวให้” หญิงสาวยิ้ม...โอกาสมาถึงเธอรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ เธอหมุนตัวกลับไปมองสบนัยน์ของอเล็กไซ พยายามไม่สนใจสายตาของเขา สายตาเจ้าชู้ที่วนเวียนอยู่กับส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเอง อาย...แต่ต้องทน เพื่อตรึงสายตาเขาไว้ เวลาที่เธอเอาคืน จะได้หัวเราะด้วยความสาแก่ใจเพลินสิครับ...อเล็กไซมองเพลินไป เขาไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนหวงตัวอย่างชะเอม ถึงไม่ยอมสวมชุดคลุม เธอเดินกรายไป กรายมาริมสระ เหมือนกำลังยั่ว...และเขาก็สนองความต้องการของหล่อน มองเสียให้จุใจไปเวลาผ่านไปกว่า10 นาที และชายหนุ่มกำลังชิลๆ“มาแล้วๆ จ้า...ขึ้นมาทานก่อนมั้ยจ้ะ...เอวา” เสียงของหล่อนหวานหยด จนชายหนุ่มขนลุกซู่!!แต่ก็ไม่ทันได้คาดคิดถึงเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น...เขาโผตามติดบุตรสาว เพราะอิรินากระดี๋กระด๋ามาก เด็กหญิงวิ่งตุ๊บตับ!! เมื่อมีอาหารว่างจานโตแถมยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาเสิร์ฟถึงที่เด็กหญิงรับส้อม
บทที่5.บิกินนี่เป็นเหตุ!!การประชุมแสนเคร่งเครียด เป็นการวางแผนงานของไตรมาสต่อไปของปี...หัวหน้าแผนกต่างๆ จึงนำเสนอผลงานของตัวเองกันอย่างแข็งขัน อเล็กไซนั่งฟัง เขายกนิ้วให้หากชิ้นงานนั่นถูกใจจังๆมาชะงักเอาก็ต่อเมื่อ...มีเสียงเรียกเข้าจากเบอร์ส่วนตัวชายหนุ่มกดรับ เขาฟังเงียบๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน ร้องโวยดังลั่น“อะไรนะ มึงว่าไงนะ!!”ไฟฟ้าถูกเปิด ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ไม่มีเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงบิ้กบอสที่กำลังโวยแหลก“พวกมึงถอยออกมาให้หมดเลย...กูเห็นใครอยู่บริเวณสระ กูจะควักลูกตาออกมาเตะเล่น...ทุกคน”คำสั่งสุดเข้มยังไม่น่ากลัวเท่ากับตาขวางๆ หน้าตึงๆ“เลิกประชุม ยกยอดไปพรุ่งนี้!! หมดอารมณ์ทำงานแล้วโว้ย!!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาเดินฉับๆ ออกจากห้องประชุมใหญ่ มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์หลังโต เหมือนมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ปล่อยให้บรรดาลูกน้องนั่งงงเป็นไก่ตาแตก...รถยนต์วิ่งฉิว...ความเร็วเกินกฎหมายบังคับ เมื่อผู้โดยสารกิตติมศักดิ์ตบเบาะเร่งทุกครั้งที่ค
บทที่4.มูลเหตุและแรงจูงใจห้องนอนของอิรินามีทีมงานของชะเอมกำลังเร่งทำ ชะเอมเลยใช่เวลาว่างช่วงนั้นมาดูห้องทำงานของอเล็กไซ ไหนๆ วันนี้ก็ทางสะดวก เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไม่มีคนกดดันทำให้เธอเสียวหลังวูบๆเพราะคลุกฝุ่นอยู่เกือบครึ่งวัน เพียงเพื่อที่จะกำหนดจุดวางเฟอร์นิเจอร์ เพื่อจะเปลี่ยนรูปแบบห้องทำงานของอเล็กไซ ให้ออกมาดูดีและถูกใจผู้ว่าจ้างที่สุดชะเอมจึงลงทุนนอนกลิ้งไปมาบนพื้นพรม เพื่อกะเกณฑ์ วัดระยะ หากจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางให้เข้ารูปเข้ารอยที่สุดผลเหรอ...หัวหูเธอจึงมีแต่ฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวอิรินาจึงอนุญาตให้หญิงสาวใช้ห้องน้ำในห้องนอนตัวเอง เพื่อล้างคราบฝุ่น เพราะความเปิ่นเป๋อ!! เหงื่อเลยออกจนเปียกซก มัณฑนากรสาวเลยจำใจต้องอาบน้ำ เมื่อไหนๆ ก็เปียกทั้งตัวชะเอมลูบไล้ผิวกายด้วยสบู่อย่างดีแบบอ้อยอิ่ง มือเรียวบางลูบฟองสบู่กลิ่นดอกไม้ไปทั่วร่างกาย พร้อมกับพลิ้มเปลือกตาหลุบลง เธอเผลอยิ้มออกมานิดๆ นึกขำขันในใจ เกิดมาจนอายุปูนนี้ เธอยังไม่เคยนอนแช่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่เช่นนี้สักครั้ง กระแสน้ำอุ่นไหลวนโอบล้อ
ชายหนุ่มท้วง เขาทรุดนั่งข้างบุตรสาวฉวยแก้วน้ำหวานเย็นเฉียบขึ้นมาดูดหน้าตาเฉย โดยที่ชะเอมได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อแก้วน้ำแก้วนั้น เป็นของเธอ...อเล็กไซกดยิ้มมุมปาก เขามองริ้วสีแดงๆ ข้างแก้มผู้หญิงตรงหน้ายิ้มๆ หล่อนก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนัก...ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งมีความรู้สึกรู้สาเหมือนคนอื่นๆ หาได้เฉยชาอย่างที่พยายามแสดงออกให้เห็น...“คราวหน้าหม่ามี้เอาไอ้สองตัวนั่นมาด้วยก็ได้นะคะ...บ้านเอวามีที่กว้างๆ น้ำตาลกับเฉาก๊วยจะได้มีที่วิ่งเล่น”อิรินาเปรยถึงลูกสุนัขสองตัวที่เจ้าตัวชมชอบ...เธอคิดถึงมันแต่ยังไม่มีเวลาไปหา“คุณป๊าไม่ว่านะคะ เอวาอยากมีเพื่อนเล่น” เจ้าจอมซนหันไปถามบิดา“ตามสบายค่ะ คุณป๊าไม่ว่า...แต่อย่าเล่นจนสวนพังล่ะ สงสารคนดูแล”ชายหนุ่มไหวไหล่ เขาวางแก้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้...เอ่ยปากอนุญาตแถมยังใจป้ำ...“คุณ!!” ไหนๆ เจ้าของบ้านตัวเป็นๆ ก็มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนี้ “เอมให้คนสวนเพิ่มดอกไม้ตรงนี้นะคะ เอวาจะได้มานั่งเล่นดีกว่าขลุกอยู่แต่ในห้องนอน”เธอเปรยเหมือน