ร้านอาหารที่เขาพามาตั้งอยู่ในย่านชานเมือง บรรยากาศสวนสงบร่มรื่น มีลูกค้านั่งประปราย“ขอห้องส่วนตัวนะ” คนเผด็จการรีเควสต์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่สนใจแม้คนที่มาด้วยจะแอบสะกิดท้วงเบาๆ“ทำไมไม่นั่งข้างนอกล่ะคะ บรรยากาศร่มรื่นดีออก”“ผมชอบที่เงียบๆ เป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครรบกวนเวลาคุยกัน”ชอบที่เงียบๆ ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะ เธอจะได้ชวนไปกินในป่าช้าซะจะได้หมดเรื่อง อีตาบ้าเอ๊ย!“แล้วอีกอย่างผมไม่ค่อยชอบเป็นอาหารปากของใคร”ภีรดาเหลือบมองผู้คนในร้านที่เริ่มชี้ชวนให้หันมามองทางตนและบุรุษข้างกายแล้วหันไปซุบซิบกันก็เริ่มจะเห็นด้วย โอ๊ย...เมื่อไหร่คนจะลืมข่าวบ้าๆ นั่นเสียทีเนี่ย แล้วนี่เธอก็มากับเขาสองต่อสองด้วย งานนี้คงได้ลือสนั่นกว่าเดิมแน่ๆ เฮ้อ...คนสวยเซ็ง หลังจากบริกรพาเข้ามาที่ห้องวีไอพี และชายหนุ่มสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย ภีรดาจึงได้โอกาสเปิดฉากถามเพื่อไขข้อข้องใจ“เอาละ ทีนี้คุณบอกมาได้หรือยังว่ารู้เรื่องหนี้สินของฉันได้ยังไง”“ผมรู้ได้ยังไงน่ะไม่สำคัญเท่า...คุณจะจัดการปัญหานั่นยังไงต่อไปหรอกนะ”“เอ่อ...” พริตตีสาวอึกอักอย่างจนแต้ม จริงของเขานั่นแหละ ตอนนี้อย่าว่าแต่จัดการเรื่องหนี้เลย คืนนี
“ผมไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกน่า อย่างน้อยผู้หญิงที่จะมาอุ้มท้องลูกให้ผมน่ะจะต้องผ่าน QC จากพ่อแม่ของผมด้วย แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เอาปัญหาเฉพาะหน้าให้รอดก่อนเถอะ ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะมีปัญญาทำใครท้องได้...”พริตตีสาวยิ่งฟังก็ยิ่งกลุ้มแทน“แล้วคุณจะมั่นใจได้ไงว่าฉันจะปลุกความเป็นชายของคุณให้กลับมาได้”“ไม่รู้สิ ผมถึงได้ลองเสี่ยงอยู่นี่ไง แต่สิ่งที่ผมมั่นใจคือระหว่างที่เราทำภารกิจนี้ร่วมกัน คุณจะไม่คิดจับผมเพื่อหวังรวยทางลัดแน่ และถึงคิดก็ไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าผมไม่ยินยอม”ต๊ายยย ฟังดูดี๊ดี แต่เดี๋ยวนะ อะไรทำให้เขาเชื่อมั่นได้ขนาดนั้น หรือเขาลืมวีรกรรมสุดหื่นของเธอไปแล้ว“เอาอย่างงี้ สมมุตินะคะแค่สมมุติ ถ้าฉันรับทำงานนี้ แล้วเกิดคุณกลับมา...เอ่อ...ปึ๋งปั๋งได้อีกครั้ง แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่หันมาปล้ำฉันแทนน่ะ”“ที่ผ่านมาผมไม่เคยมีประวัติบังคับหรือใช้กำลังขืนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน” คนพูดมองคู่สนทนาแล้วส่ายหน้า “และผมคิดว่าคุณก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น”“แหม แล้วถ้าคุณเกิดหน้ามืดตามัว หรือเมาล่ะคะ”“ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริง ผมจะยอมให้คุณเอาไม้ทุบหัวเรียกสติก็ได้”หญิงสาวทำตาเป็นประก
“อืม ค่อยเริ่มพรุ่งนี้แล้วกัน วันนี้ผมเหนื่อย หมดอารมณ์แล้วละ”เฮ้อ...ค่อยยังชั่วชายหนุ่มเห็นสีหน้าโล่งใจของอีกฝ่ายก็อดขำไม่ได้ หกเดือนต่อจากนี้ชีวิตของเขาคงมีแต่เรื่องสนุกปนน่าปวดเฮดเข้ามาไม่เว้นแต่ละวันแน่“แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนคะ” ผู้อาศัยถามอย่างเจี๋ยมเจี้ยมเจียมตัว“อยากนอนที่ไหนก็ตามใจคุณละกัน ขออย่างเดียวอย่านอนในชักโครกก็พอ”แหม ปากแบบนี้มันน่าหาแมลงสาบมาโยนใส่ให้แต๋วแตกเหลือเกินในที่สุด หญิงสาวก็ได้ที่นอนใหม่เป็นโซฟาในห้องรับแขกของเขานั่นเอง แม้ว่าเจ้าของห้องจะใจป้ำเสนอแบ่งเตียงของเขาให้เธอครึ่งหนึ่งก็ตามที ภีรดายืนมองโซฟาอย่างปลงๆ โอย...อยากจะร้องไห้ หกเดือนของเธอต่อจากนี้ ต้องนอนบนโซฟาแคบๆ นี่ทุกวันเลยหรือเนี่ย “คุณไปอาบน้ำสิ จะได้พักผ่อน”“แต่...ฉัน...เอ้อ...ไม่มีเสื้อผ้าใส่นี่คะ” เสื้อผ้าทั้งหมดของเธออยู่ในบ้านที่ถูกยึด เอาออกมาไม่ได้“ใส่ของผมไปก่อนก็ได้ ส่วนพวกอันเดอร์แวร์ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมพอมีตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้งาน”พริตตีสาวฟังแล้วทำตาปริบๆ กะจากขนาดรูปร่างที่ใหญ่โตของอีกฝ่ายแล้วจึงเอ่ยปาก“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะคะ แต่ฉันกลัวใส่แล้วหลุดไปกอง
“Good Night ยายจอมยุ่ง”ทว่าคนที่เขาคิดว่าหลับนั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพักใหญ่แล้ว ในความมืดร่างอรชรนอนตัวแข็งทื่อด้วยหัวใจที่เต้นระทึกสั่นไหว รอยอุ่นที่ประทับบนหน้าผากยังไม่เจือจางไป นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอได้นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย แถมผู้ชายที่ว่าก็ไม่ใช่ไก่กาเสียด้วย ดวงตากลมโตแอบมองเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นอนหลับอยู่ห่างแค่คืบด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดแกมไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งที่เธอควรลุกขึ้นมาฟ้อนเล็บใส่คนฉวยโอกาสข้างๆ หรือไม่ก็ทุบเขาสักตุ้บ แล้วรีบลุกไปนอนที่โซฟาตามเดิม ไม่ก็หนีไปให้พ้นๆ แต่เธอก็ทำไม่ได้เสียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขาหลับสนิทไปแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาที่ติดจะเย็นชายามหลับสนิทแลดูไร้พิษภัย แล้วก็น่ามองชะมัด ไออุ่นจากเรือนร่างอันแข็งแกร่งใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนั้นทำให้ธาตุไฟของสาวโก๊ะแทบแตกซ่าน หรือเธอควรเริ่มปฏิบัติภารกิจตอนนี้เสียเลยดีไหมนี่ หลับได้น่าปล้ำมากพ่อคุณเอ๊ย ยิ่งมองยิ่งเคลิ้ม เกิดความรู้สึกดีขึ้นมานิดๆ ยามที่คิดถึงตอนเขาห่มผ้าให้ โดยไม่ได้ฉวยโอกาสทำมิดีมิร้ายอะไรมากไปกว่าจูบหน้าผากราตรีสวัสดิ์เท่านั้นถ้าไม่นับเรื่องกวนประสาทที่ผ่านมา อย่างน้อยเขาก็เป
“อ้าว แล้วถ้าเกิดผมเป็นฝ่ายโดนคุณลวนลามปลุกปล้ำล่ะ จะทำยังไง” ชายหนุ่มแย้งหน้าตายภีรดาแอบกัดริมฝีปากเพราะข้อนี้มีความเป็นไปได้สูง ดูจากเหตุการณ์เมื่อเช้าก็เป็นเหตุผลสมควรที่เขาจะต้องกลัวเป็นธรรมดา“งั้น...ถ้าห้ามดีๆ ไม่ฟัง ฉันอนุญาตให้คุณเอาไม้หน้าสามฟาดหัวเรียกสติฉันได้” ประโยคแรกไม่เท่าไหร่ แต่ประโยคต่อมานี่สิ ทำเอาคนที่มีหน้าที่ร่างสัญญาถึงกับเงยหน้ามองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง “แต่ถ้าฉันปล้ำแล้วคุณดันสมยอมเองอันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยแล้วกัน”“ตกลง อ้อ คุณพัลลภช่วยเพิ่มไปอีกสองข้อด้วยคือ ทุกอย่างในสัญญาการว่าจ้างงานนี้จะต้องเป็นความลับ นอกจากผม คุณ และคุณภีรดาแล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด”“ข้อนี้ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะถึงคุณไม่ห้าม ฉันก็ไม่คิดจะป่าวประกาศให้ใครรู้อยู่แล้ว” ใครมันจะอยากบอกคนอื่นล่ะว่ามารับจ็อบช่วยปลุกนกเขาให้ผู้ชายเซ็กซ์เสื่อม รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นประไร“ส่วนข้อสุดท้าย สำคัญสุดในภารกิจนี้ นั่นคือในระหว่างปฏิบัติหน้าที่...ห้ามคุณรักผมโดยเด็ดขาด!”คราวนี้คนฟังทั้งสองถึงขั้นหันขวับไปมองคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“ไม่เช่นนั้นสัญญาทุกอย่างที่ว่ามาจะเป็นโม
ภีรดาอ้าปากค้าง หน้าเหวอ แอบเหลือบมองร่างสูงตระหง่านที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ในระยะประชิด พอได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองภาพที่หน้าจอด้วยความสนใจจนตาแทบไม่กะพริบก็อดที่จะกระดากอายขึ้นมาไม่ได้ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงด้วยความประหม่า รู้สึกเหมือนถูกแม่จับได้ว่ากำลังดูหนังโป๊อย่างไรอย่างนั้นฮือๆ...หมดกันไอ้แพนด้าเอ๊ย ทำไมเธอต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้พร้อมกับผู้ชายที่เป็นนายจ้าง แถมยังเซ็กซ์เสื่อมด้วยเนี่ยช่วงเวลาที่น่าอึดอัดจบลงพร้อมภาพติดเรตบนหน้าจอท่ามกลางความโล่งอก แต่แล้วจู่ๆ ร่างสูงใหญ่ก็โน้มกายลงมาแล้วเอื้อมมือมากุมมือที่จับเมาส์ของเธอไว้ก่อนเลื่อนลงมาช้าๆ ความใกล้ชิดที่มาโดยไม่ได้ตั้งตัวทำเอาร่างกายแข็งทื่อเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ลมหายใจอุ่นๆ ของอีกฝ่ายกระทบผิวแก้มใสๆ จนร้อนผ่าว อายจนหน้าแดงแล้วแดงอีกนี่มันอ่อยกันชัดๆ ! หน็อย...คิดจะให้ฉันหลงรักแล้วมายกเลิกสัญญาทีหลังละสิท่า หึ...แผนสูงมากหญิงสาวตัดสินใจหันไปหมายจะบอกให้เขาถอยห่างไปหน่อยเพื่อที่เธอจะได้ลุกขึ้นให้เขานั่งอ่านได้สะดวก แต่นั่นกลับเป็นความคิดที่ผิดมหันต์“คะ...คุณช่วยถอยไปนิดได้ไหม ฉันหายใจ
“ไม่เป็น...ผมแข็งแรงดี ตรวจสุขภาพทุกปีไม่เคยขาด และออกกำลังกายเป็นประจำด้วย”“ถ้างั้น...คุณชอบสูบบุหรี่ ดื่มพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินยาอะไรติดต่อกันนานๆ หรือว่าเคยประสบอุบัติเหตุอะไรหนักๆ บ้างไหม” หมอเถื่อนซักต่อ“ผมไม่สูบบุหรี่ ส่วนพวกแอลกอฮอล์ก็มีบ้างตามโอกาส แต่ก็นานๆ ที ไม่เคยกินยาอะไรต่อเนื่อง ส่วนอุบัติเหตุ...” เขานิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ผมเคยประสบอุบัติเหตุหนักๆ ตอนขี่รถบิ๊กไบก์ครั้งหนึ่ง”“นั่นไง!” หญิงสาวดีดนิ้วดังเปาะ ยิ้มร่า “อาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ว่านี่แน่ๆ เลย เวลาขี่รถบิ๊กไบก์มันต้องแนบตรงส่วนนั้นกับตัวถังรถร้อนๆ นานๆ ด้วยใช่ไหม ฉันว่ามันอาจจะมีผลทำให้กล้วยหอมจอมซนของคุณไม่คึกก็ได้นะ”“อืม...ก็อาจเป็นได้นะ” ชายหนุ่มฟังแล้วชักจะคล้อยตามหมอเถื่อนหน่อยๆ “แต่ทำไมพวกเพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ที่แข่งมานานกว่าผมไม่เห็นเป็นแบบผมเลยล่ะ”“โหย คุณนี่ไม่รู้อะไร ร่างกายคนเราน่ะจะไปเหมือนกันได้ไง พวกเพื่อนคุณเขาอาจจะอึด ถึก ทนกว่า แล้วก็ไม่ได้ใช้งานส่วน
เป็นครั้งแรกที่ภีรดาได้เปิดประสบการณ์การชอปปิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อหรือเพื่อน รวินรุตม์จัดเป็นผู้ชายในฝันที่พวกสาวๆ ยอมแลกทุกอย่างขอแค่ได้ควงเขา แถมยังเป็นผู้ชายสายเพย์แบบไม่แคร์สื่อเสียด้วย“อยากกินอะไร”ในเมื่อเขาอุตส่าห์ถามมา เธอจึงไม่ขัดศรัทธาโดยการชี้ไปที่...ร้านไก่ทอดผู้พันชื่อดัง...ที่ดูเหมือนราคาจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้านอื่นในบริเวณนั้นในกรณีที่ต้องจ่ายแบบหารสอง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บหนัก แต่เขาดันส่ายหน้า“ผมไม่ชอบอาหารฟาสต์ฟูด มันไม่ดีต่อสุขภาพ”อ้าว...แล้วจะมาถามกันเพื่อ?“เอ๊ะ! นั่นมันคุณราล์ฟ นักแข่งรถหรือเปล่าน่ะแก”“อุ๊ย...ใช่จริงด้วยอ่ะ แล้วนั่นเขามากับใครน่ะ”เสียงซุบซิบรอบกายดังขึ้น ทำให้ภีรดาชักจะหวาด รีบก้มหน้างุด“นั่นมันยายพริตตีดาวยั่วที่กำลังมีข่าวกับเขาไม่ใช่เหรอแก”“เออ ใช่จริงด้วยอะ งั้นข่าวฉาวนั่นก็เป็นจริงละสิ”“นี่เขาว่านางขายตัวด้วยไม่ใช่เหรอ ในข่าวบอกว่านางมีฉายาว่าเงินมาผ้าหลุดด้วย
ติ๊ด! ภีรดาจัดการกดปุ่มเปิดสปีกเกอร์โฟนกระจายเสียงให้คนข้างกายฟังด้วยเสียเลย จะได้ปลื้มที่ถูกสาวอวด“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะฝากถึงคุณราล์ฟอีกไหมคะ พอดีฉันทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อย”“อ้าว...ตายจริง ฉันขอโทษนะคะ แค่จะโทร. มาบอกราล์ฟว่า...ฉันมีเรื่องเร่งด่วนมากอยากจะปรึกษากับเขา ถ้าเขากลับมาคุณช่วยบอกให้เขามาหาฉันที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือฟังดูร้อนรนราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย“ได้ค่ะ ถ้าเขากลับมาฉันจะรีบบอกให้นะคะ เท่านี้ใช่ไหมคะ”“เดี๋ยวค่ะ คือฉันไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม”หืม? ภีรดาหันไปมองหน้านายจ้างที่กำลังนั่งทำคิ้วผูกโบข้างๆ“คือ...ราล์ฟเขาเปรยๆ กับฉันเมื่อคืนน่ะค่ะ ว่าคุณทำงานไม่ค่อยถูกใจ เขาเลยต้องการให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาแทนคุณ เพราะอยากจะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา”“เหรอคะ ไม่เห็นเขาบอกฉันนะคะ” คนพูดชักจะหน้าตึงๆ เมื่อเรื่องเริ่มจะลามมาถึงตัว“คือ...เขาบอกว่า เขาไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงน่ะค่ะ เพราะเกรงใจ เลยให้ฉันมาคุยกับคุณแทน ผู้หญิงเหมือนกันคงคุยกันง่ายกว่า เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะตกงานหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันพอจะแนะนำบริษัทของเพื่อนๆ
ภีรดาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าเช้านี้จะมองหน้าเจ้าของบ้านติดโดยที่ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหม เธอไม่รู้หรอกว่าอีตาหมีน้ำแข็งจะมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง หัวใจของเขาอาจจะด้านชาไปแล้ว แต่เธอไม่!เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้คนนอนบนโซฟาแกล้งทำเป็นหลับตาทันที“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว...” เสียงเรียบนิ่งดักคอมาแต่ไกล ทำให้คนแกล้งหลับนึกอยากใช้แผนแกล้งตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะได้จบๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าภีรดาจำต้องลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับนายจ้างหนุ่ม โดยไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอ หรือว่าหิว”“คุยกันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ...แต่ขอเวลาฉันไปล้างหน้าล้างตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนสักครู่ได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ และนั่งรอจนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น“เอาละ ฉันพร้อมแล้วคุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ” “ผมอยากพูดเรื่องรียา...” แค่เริ่มก็จุกแล้ว แต่เอาเหอะ เจ็บมันไปเลยทีเดียวจะได้จบๆ “คือผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด...”อะไรคือการเข้าใจผิดหว่า เอ...หรือเขากำลังจะสื่อแบบอ้อมๆ ว
ภีรดาฟังแล้วอ่อนใจ หันไปหยิบไฟแช็กที่เตรียมไว้มาจุดเทียนบนเค้กจนครบ ก่อนที่เสียงหวานจะดังขึ้น“แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูมายบอส แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู...” หญิงสาวถือเค้กยื่นไปตรงหน้าเจ้าของวันเกิด พร้อมสบตาเขา “อธิษฐานสิคะ”“อืม...” ชายหนุ่มหลับตานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนก้มลงเป่าเทียนเบาๆ“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พริตตีสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มละไม “ทีนี้ก็ชิมเค้กได้แล้ว เค้กก้อนนี้ฉันอุตส่าห์ทำเองกับมือเลยนะ และคุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมมัน”“อืม เห็นก็รู้แล้วละว่าทำเอง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก” หนูทดลองเอ่ยชมหน้าตาย จนคนพูดหมั่นไส้เลยปาดครีมแต่งหน้าเค้กป้ายที่ปากเขาเข้าให้“นี่แน่ะ! ปากดีนัก” รวินรุตม์มองรอยยิ้มกวนๆ ของแพนด้าจอมแสบตาวาววับ “เป็นไงคะฝีมือการทำเค้กครั้งแรกในชีวิตของฉัน อร่อยดีไหม”ภีรดาหัวเราะเสียงใสออกมาอย่างไม่รู้ชะตากรรม“อยากรู้ก็ชิมดูสิ!”พอขาดคำ เขาจึงแกล้งเอาคืนด้วยการกดเรียวปากทาบลงมาบนกลีบปากหวานละมุนทันที ทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เธอพยายามส่งเสียงประท้วงขัดขืน แต่นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้รุกเข้ามาเต็มกำลัง รสครีมหวานละมุนที่เข้ามาสัมผัสที
ดวงตาหม่นแสงเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่เธอตั้งใจจัดไว้รอฉลองวันเกิดแบบเล็กๆ ให้เขาซึ่งถูกอุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ไหนจะขนมเค้กวันเกิดที่อุตส่าห์ลงมือทำเองเป็นครั้งแรกโดยเปิดดูวิธีทำจากยูทูป แต่เจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาสักที มีก็แต่มารดาของเขาที่ส่งรูปถ่ายตอนไปเที่ยวด้วยกันมาให้ แถมยังโทร. มาถามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของลูกชายกับคนรักเก่าสองสามรอบด้วยความเป็นห่วง ทุกครั้งหญิงสาวก็ต้องคอยปลอบไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอต่างหากที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางใจภีรดาเลื่อนรูปภาพที่หน้าจอไปจนถึงรูปที่เธอกับนายจ้างหนุ่มโดนแอบถ่าย ดูแล้วก็อดทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นในหัวใจไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับว่า...เธอและเขาเป็นคู่รักที่กำลังสวีตกันก็ไม่ปานเส้นตายของภารกิจก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ นอกจากจะไม่มีวี่แววว่าเธอจะทำสำเร็จแล้ว ยังจะมีชารียาเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเขาเพิ่มอีกคน“เฮ้อ...” ยังไงๆ ผู้หญิงอื่นคงไม่อาจจะสู้กับคนรักที่แท้จริงได้หรอก ทำใจเสียเถอะ แพนด้าเอ๋ย...อีกไม่นานทั้งสองคนนั้นก็จะแต่งงานกัน แล้วตำแหน่งผู้ช่วยของเราก็คงตกกระป๋อง ไม่จำเป็นสำหรับหมอนั่นอีกต่อไป ตัดใจเสียเถอะน่
“จะพาหนูแพนไปด้วยทำไมล่ะ ลูกจะไปหาแฟนเก่าก็ไปคนเดียวสิ” รวีวรรณเดือดร้อนแทนคนโปรด“ไม่เป็นไรค่ะ แพนไปด้วยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยๆ กันได้”“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ!” คนเป็นแม่รวบรัดอย่างเอาแต่ใจ“คุณ...ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาได้จัดการกันเองเถอะนะ” กฤษณ์หันไปปรามภรรยา ก่อนหันไปทางบุตรชายคนเดียว “หากมีอะไรที่ต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยก็โทร. มาแล้วกันนะตาราล์ฟ อ้อ! แล้วระวังให้ดี...อย่าให้อดีตมากระทบปัจจุบันได้ล่ะลูก”“ครับพ่อ...” ตอบพร้อมกับมองสบตาผู้ช่วยสาวผ่านกระจกมองหลังหลังจากไปส่งพ่อแม่เสร็จ รวินรุตม์ก็รีบบึ่งรถมาที่คอนโด แล้วก็เห็นรถของอดีตคนรักจอดอยู่ด้านหน้า พอเห็นชายหนุ่มลงจากรถ ชารียาก็รีบลงจากรถแล้วโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของเขาทั้งน้ำตานองหน้า ใบหน้านั้นมีร่องรอยฟกช้ำจนเห็นได้ชัด“ราล์ฟขา...ในที่สุดคุณก็มาสักที ฮือ...” ภาพนั้นทำให้ผู้ชมที่เดินตามลงมาจากรถอดค่อนขอดไม่ได้แหม...มาถึงก็ดรามาใส่เลยนะแม่คุณ ฮึ...ส่วนอีกคนนี่ก็จะพระเอกไปไหน ยืนนิ่งให้เขาไซ้อยู่ได้ เฮ้อ...แล้วตัวประกอบอย่างเราจะอยู่ไปไยให้เป็นส่วนเกินเล่า ไปดีกว่า...ภีรดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงไม่ได้ช
หืม? พริตตีสาวทำตาปริบๆ ขณะที่รวีวรรณกับสามีทำหน้าสนใจฟังป้าแม่ค้าโม้ต่อ“ผัวป้ากินประจำ สะกิดทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอน เอาไปให้ผัวเอ็งกินสักวันละเป๊กนะนังหนูเอ๊ย รับรองลูกหัวปีท้ายปี” ภีรดาถึงขั้นสะดุ้งหันไปสบตาลุกวาวกับคนจะทำลูกให้แล้วชักยิ้มไม่ออกเอิ่ม...ป้าจะรู้ไหมว่าพ่อพระเอกตรงหน้าขนาดไวอะกรายังเอาไม่อยู่ เอ...แต่พอหันไปมองลูกๆ หลานๆ ยั้วเยี้ยของป้าแล้วชักจะน่าสน ไม่แน่ว่าเจ้ายาดองบ้านๆ นี่อาจจะช่วยให้เธอทำสำเร็จใช้หนี้หมดไวขึ้นก็เป็นได้รวินรุตม์มองดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์คู่นั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ โดยไม่มีใครรู้ พอคล้อยหลังคนทั้งสาม ภีรดาก็ย้อนกลับมาเหมายาดองสรรพคุณล้ำอีกถึงสองกลม!เอาเซ่...โด่ไม่โด่เดี๋ยวได้รู้กัน!ทั้งสี่ช่วยกันชิมช่วยกันช้อปจนข้าวของเต็มมือจึงชวนกันมานั่งพักเหนื่อยด้วยการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือในร้านขึ้นชื่อริมคลอง ขณะที่รวีวรรณกำลังชี้ชวนให้สามีดูเรือขายของกลางคลองอย่างสนุกสนาน ภีรดาก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาตั้งท่าเก็บภาพความหวานของทั้งคู่“คุณพ่อคุณแม่คะ หันมาทางนี้หน่อยค่ะ” พอสองสามีภรรยาหันมามอง เธอก็กดถ่ายภาพนั้นทันทีแชะ!“ภาพแสงสวยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูส่งไ
“ไปทำอะไรมาล่ะ ถึงไม่ได้หลับได้นอน” คนเป็นแม่ส่งมุกให้ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า ‘ใคร’ ที่ทำให้ลูกชายตัวดีไม่ได้นอนทั้งคืน“ถูกผีอำทั้งคืนเลยน่ะสิครับแม่ นอนทับผมจนเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย”“แค็กๆ”ผี! เอ้ย...คนที่ถูกกล่าวหาสำลักออกมาจนหน้าเขียวหน้าแดง อยากหาอะไรเขวี้ยงใส่ปากคนพูด แต่ต้องเก็บอาการไว้ชำระทีเดียวเมื่อถึงเวลาหน็อย...ตาบ้านี่ต้องการอะไรจากสังคมมิทราบ! มานอนกอดเขาทั้งคืนไม่พอยังมีหน้ามาหาว่าเขาเป็นผีอีก ผีที่ไหนจะหุ่นแซ่บแบบนี้ล่ะ ฮึ!ภีรดาได้แต่ฮึดฮัดไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงขยันเดินละเมอมาให้เขากอดอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่จะรังเกียจหรอกนะ เพราะอันที่จริงการได้นอนในอ้อมกอดแสนอุ่นของเขามันทำให้เธอผ่อนคลายนอนหลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ หลับสบายแต่ตื่นมาหัวใจจะวายทุกครั้งที่รู้ว่าได้ใกล้ชิดกับขนมหวานต้องห้ามที่น่ากินแต่กินไม่ได้เฮ้อ...ตูละหน่าย!“อ้าว...นั่นพระมาแล้วจ้ะ” ภีรดาขยับก้าวถอยหลัง แต่ถูกรวีวรรณรุนหลังเอาไว้ “ยืนข้างๆ ตาราล์ฟสิจ๊ะหนูแพน ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้พบกันทุกชาติไปไงจ๊ะ”หึๆ แค่ชาติเดียวก็จะบ้าตายแล้ว ถ้าขืนได้พบทุกชาติคงไม่ได้แก่
ภีรดาหลับตาสูดลมหายใจพยายามจะข่มอารมณ์ ถึงจะจริงแต่ตอนนี้มันใช่เวลามารำลึกความหลังไหมเนี่ย“งั้นฉันไปนอนที่โซฟาตรงนั้นละกัน” หญิงสาวต่อรอง อย่างน้อยนี่ก็บ้านเขา ขืนใครรู้ว่าเธอนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วในบ้านของพ่อแม่เขา อีกทั้งยังเป็นนายจ้าง คนจะครหาเอาได้ ว่าแล้วพริตตีสาวก็ยักแย่ยักยันลุกขึ้นไป นอนที่โซฟาฝั่งตรงข้าม พยายามจะไม่ไยดีสายตาเว้าวอนที่ทอดมองมาคู่นั้น เพราะมันทำให้อดหัวใจสั่นไหวรุนแรงไม่ได้เธอพยายามจะตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ยังเข้ามาใกล้เหมือนกับแกล้ง!“หลับตาสิคะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ...นี่มันเลยเข้าวันใหม่แล้วนี่ เดี๋ยวเราต้องตื่นเช้าไปใส่บาตรวันเกิดคุณนะ ไม่รีบนอนตอนนี้ ระวังจะตื่นไม่ทัน” รวินรุตม์พลิกตัวนอนตะแคงข้างส่งสายตามองสบตาคนบนโซฟาในความมืดนิ่งๆ จนคนถูกมองเริ่มจะทนไม่ไหว ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ดีที่มืดเลยอำพรางความรู้สึกได้บ้าง แต่ความอึดอัดทำให้ต้องชวนคุย“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ ก็แค่ขอดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ถาม รปภ. คอนโด ก็รู้แล้วว่าคุณออกไปกับใคร”จ้ะ พ่อคนฉลาด! หมั่นไส้...“แล้ว...ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”“ผมจำไม่ได้..
เธอก็แค่มายืมพื้นที่ที่ควรเป็นของผู้หญิงแสนสวยคนนั้นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งที่ภารกิจสิ้นสุด ห้องนี้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาก็จะถูกยึดคืนโดยเจ้าของตัวจริง ส่วนภีรดาก็จะจากไปโดยไม่มีใครคิดถึงอีก แค่คิดก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาจับใจเธอไม่ควรปล่อยให้ใจถลำรู้สึกลึกซึ้งกับนายจ้างมากไปกว่านี้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใจมากนักภีรดาหันไปมองรูปของเจ้าของห้องที่วางไว้ที่ข้างเตียง“ไม่ต้องมามองอ่อยเลยนะ ต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาเพ่นพ่านในหัวใจของฉันอีก ต่างคนต่างอยู่เข้าใจไหม ฮึ” ว่าแล้วก็จับกรอบรูปนั้นคว่ำหน้าลงอย่างไม่ไยดีทว่าปณิธานที่ตั้งไว้มีอันต้องถูกทดสอบในกลางดึกของคืนนั้นจนได้!ในขณะที่กำลังนอนหลับสนิทคืนนั้นเอง ภีรดารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ในยามที่เสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น วัตถุหนักๆ บางอย่างพาดทับบนกายจนไม่อาจขยับได้ ไออุ่นหอมสะอาดๆ โอบล้อมกายเธอไว้เหมือนมนตร์สะกดผีอำ! ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นมาในมโนจิต ผีชนิดไหนวะ แทนที่จะทับ ดันมากอด...“ไอ้ผีชีกอ!” หญิงสาวงึมงำด่า ทำใจกล้าด้วยการปรือตามองสิ่งลี้ลับที่กำลังครอบงำร่าง