ดึกๆ ของคืนเดียวกันนั้น คริสรีบพารรินธรกลับมาส่งที่บ้านเมื่อเธอบอกว่าอยากจะกลับบ้านแล้ว"ผมจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าน้องสาวคุณจะกลับ" ชายหนุ่มอุ้มลูกมาวางลงที่เตียงนอน เพราะรักนรินทร์หลับตอนที่นั่งรถกลับมา แล้วเขาก็ถอยออกมาเล็กน้อย เพื่อให้เธอสบายใจ"ค่ะ" รรินธรตอบออกไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย"คืนนี้คุณสวยมากเลยนะ" เขาอยากจะพูดแบบนี้ตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าของเธอยังคงเหมือนเดิม และสายตานั้นก็ไม่ได้มองไปที่เขาเลย"คุณเป็นอะไร" ชายหนุ่มสัมผัสถึงพลังงานบางอย่าง"คุณบอกจะรีบกลับไม่ใช่หรือคะ ไม่ต้องรอน้องสาวฉันหรอก ถ้ารีบก็กลับไปเถอะค่ะ""ผมไม่ได้บอกว่ารีบสักหน่อย""ก็เมื่อกี้ไง คุณยังบอกอยู่เลยว่าจะกลับ""คุณอยากให้ผมอยู่ต่อไหม" ดวงตาคมมองใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้ มือหนาเอื้อมมาลูบผมของเธอเบาๆ "ขอแค่คุณพูดมาคำเดียว ผมก็พร้อมที่จะไม่ไปไหน" เขาเป็นห่วงความรู้สึกของเธอมาก ใจจริงแล้วเขาไม่อยากจะไปไหนเลยด้วยซ้ำ แต่กลัวว่าเธอจะไม่พอใจถ้าเขาขอค้างที่นี่รรินธรทำแค่พยักหน้าเบาๆ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงบึ้งตึงอยู่"คุณอนุญาตให้ผมอยู่ที่นี่ต่อได้เหรอ" แค
"อุ๊วว..ใจเย็นก่อนครับ" เมื่อเธอนั่งทับลงมาชายหนุ่มถึงกับเสียวแปล๊บ "ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ต่อเลยครับ" เขาสังเกตดูเธอเหมือนจะอายที่ถูกเขาเบรค"ไม่แล้วค่ะ" หญิงสาวลืมตัวไป แต่ก่อนเธอกับเขาเปลี่ยนกันรับเปลี่ยนกันรุกแบบนี้ประจำ"ถ้าคุณไม่..ผมจะจัดเองนะ" เขาไม่ยอมหยุดแน่..ชายหนุ่มก็จับร่างบางให้เอนกายนอนลงที่อ่างน้ำนั้นแทนตัวของเขา ..มือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกัน แล้วก็ส่งแก่นกายลำใหญ่เข้าไปตรงกลางหว่างขา"อื้ออ""แน่นดีจังเลยที่รัก" ชายหนุ่มพยายามส่งมันเข้าไปให้ได้ลึกที่สุด ส่วนมืออีกข้างเขาเซฟท้ายทอยเธอไว้เพื่อไม่ให้ กระแทกกับขอบอ่างในขณะที่กำลังขยับท่อนล่าง"ผมไม่ถนัดเลย คุณช่วยหน่อยได้ไหม" คริสเริ่มอ้อน ..พอเห็นว่าเธอไม่ตอบเขาก็เลยจับร่างของเธอพลิกขึ้นมาด้านบนแทน ซึ่งทั้งสองก็ยังแช่อยู่ในอ่างน้ำนั้น"อื้อ" ท่อนเอ็นของเขาเกินขนาดมาตรฐาน จนเธอนั่งทับลงมาได้ไม่เยอะ หญิงสาวจึงใช้เข่าตัวเองค้ำยันร่างไว้ "อ๊อย..อื้อ ..อ" รรินธรปล่อยเสียงออกมาโดยที่ไม่เก็บงำ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มกลับมาเหมือนคราวที่เคยรักกันมากมือหนาช่วยจับสะโพกได้รูปโยกขึ้นลง บางทีก็หงุดหงิดที่ขนาดของตัวเองยาวเกิน จนท่อ
หลังคุยงานเสร็จ..ก๊อก ก๊อก "มีอะไรอีกคะบอส" ตอนที่คุยงานรรินธรไม่ได้อยู่กับคริส พอเสิร์ฟกาแฟเสร็จเธอก็กลับไปทำงาน แต่ผ่านไปเกือบจะสองชั่วโมงก็มีข้อความให้เข้ามาพบที่ห้องทำงาน"คุณรู้ไหมว่าผมคุยงานแทบจะไม่รู้เรื่อง" ใบหน้าของเขาจริงจังกับคำพูดมาก"คุณเป็นอะไร" หญิงสาวเดินตรงเข้ามาหาสามีที่นั่งทำหน้ามุ่ยอยู่เก้าอี้ทำงาน "อุ๊ย..คุณ!" พอเข้ามาใกล้ก็ถูกเขาคว้าร่างให้มานั่งลงที่ตัก"ก็เป็นห่วงคุณไง""คุณเป็นห่วงฉันทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย""เป็นสิเห็นว่าคุณอยากจะคราง.....""คุณ!" เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ริมฝีปากของเธอก็ไม่ว่างแล้ว เพราะถูกเขากดศีรษะเข้ามาเพื่อจะจูบลิ้นสากแทรกเข้าไปในปากของอีกฝ่ายทันทีที่เธอเปิดทางให้ ทั้งสองจูบกันแบบดูดดื่มจนเธอสัมผัสถึงความแข็งตรงกลางลำตัวที่มันดันสะโพกของเธออยู่ แค่นี้หญิงสาวก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร"พอแล้วค่ะ""จะพอได้ยังไง" สายตาคมมองต่ำลงไปที่เป้าของตัวเอง เพราะตอนนี้มันแข็งจนปวดไปทั้งลำ"ที่ทำงานนะคะ""กลับบ้านกันไหม""ไม่เอาคุณทำงานต่อเลย""ใครจะมีกะจิตกะใจทำงานต่อได้ล่ะ""แล้วจะทำยังไงล่ะคะ ตัวเองเริ่มก่อนทำไมล่ะ""ช่วยกล่อมให้มัน
"คุณคฑา!" พอได้ยินสามีเอ่ยพูดแบบนั้น รรรรรรก็พอจะเดาได้แล้วว่าทำไมข้างในถึงเงียบ "ไหนคุณบอกว่าจะชวนฉันไปค้างที่บ้านคุณไงคะ""คุณยอมไปค้างที่บ้านผมแล้วเหรอ""ถ้าคุณช้า ฉันไม่ไปด้วยนะ"จากที่กำลังจะแซวคริส คฑาต้องได้รีบเดินตามภรรยาออกมา เพราะเขาชวนภรรยาหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่ยอมไปที่คฑาอยากพาเธอกลับไปอยู่ที่บ้าน เพราะที่นั่นยังมีคนเป็นหูเป็นตาแทนเวลาที่เขาเข้าบริษัท ยิ่งใกล้คลอดเข้าไปทุกทีแล้ว[คฤหาสน์ของอัญชัญ] "แม่ให้คนทำความสะอาดห้องไว้ให้แล้ว" ที่จริงอัญชัญก็ให้คนดูแลห้องของลูกชายทุกวันอยู่แล้ว เพราะนางรอวันที่ลูกชายจะพาภรรยากลับมาอยู่ที่บ้าน"ขอบคุณค่ะ" ถ้าไม่เพราะอยากเปิดโอกาสให้พี่สาวได้อยู่กับคนรักแบบเป็นส่วนตัว เธอคิดว่าถ้าคลอดแล้วก็จะพาลูกไปอยู่ที่บ้านกับพี่สาว แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว พี่สาวของเธอมีชายคนรักคอยดูแล และคอยห่วงใย"มากันแล้วเหรอ" กัลยาพึ่งกลับมาจากโรงแรม เห็นว่าน้องชายพาน้องสะใภ้กลับมาที่บ้าน"ครับ.. แล้วพี่สันติล่ะครับ""ช่วงนี้งานเขายุ่งๆ" พอพูดถึงสามี..กัลยาก็ดูหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก"คุณกัลยาคะ..เออ..พี่กัลคะ""จ๊ะ""รันอยากจะให้ช่วยเลือกของใช้เด็กห
"ห้องอาหารหนึ่งมีพนักงานที่ชื่อน้ำใจไหมครับ""มีค่ะผู้จัดการ.. น้องน้ำทำอยู่ห้องอาหารนี้ค่ะ" "ตอนนี้อยู่ไหนเรียกมาพบผมหน่อย""ตอนนี้น้องอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงค่ะ""ห้องจัดเลี้ยง?" เขาก็เพิ่งมาจากห้องจัดเลี้ยงนั้น เพราะวันนี้มีแขกจองไว้แค่ห้องเดียวชายหนุ่มรีบเดินกลับมาที่ห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง เขาไม่ค่อยได้สังเกตพนักงานเท่าไร ไม่ว่าจะสวยหรือไม่สวย เพราะเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมากกว่า"คุณอมร คนไหนที่ชื่อน้ำใจครับ" สายตาคมมองกวาดไปทั่วห้องจัดเลี้ยง ซึ่งตอนนี้มีพนักงานเดินสวนกันไปมา เพื่อรีบจัดห้องให้ทันก่อนจะเริ่มงาน"น้ำใจหรือคะ" อมรเป็นหัวหน้าห้องจัดเลี้ยง เวลามีงานเลี้ยง อิฐจะประสานงานมาที่อมร แต่เขาก็ต้องมาดูเองเหมือนกัน"ตอนนี้คงจะอยู่ห้องด้านหลังมั้งคะ"อิฐได้ยินแบบนั้นก็เลยไปด้านหลังห้องจัดเลี้ยงซึ่งเป็นห้องที่ใช้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้สำหรับห้องนี้ชายหนุ่มร่างสูงแต่ทว่าดูสมส่วนมาก เดินเข้าไปในห้องที่มืดพอสมควร เพราะยังไม่เปิดไฟ หรือไฟถูกปิดไว้โดยฝีมือของใครอันนี้เขาก็ยังไม่ทราบ>>{"อีกสองวันเดี๋ยวโอนเงินไปให้"}มันคือประโยคที่อิฐได้ยินเมื่อเดินเข้ามา และเธอคนนั้นก็รี
กัลยามองดูแบบไม่เชื่อสายตา ใจหนึ่งก็แอบคิดไปว่าอิฐจะช่วยทำให้เธอสบายใจ แต่อิฐไม่น่าจะรู้เรื่องนี้ ทันใดนั้นสายตาของกัลยาก็มองพนักงานที่ทำงานอยู่ในห้องจัดเลี้ยง เพราะเหมือนทุกคนมองมาที่เธอ พอเห็นว่ากัลยามองไปพนักงานทั้งหลายต่างก็รีบตั้งใจทำงานกันให้วุ่น"งานเลี้ยงคืนนี้ พี่ขอฝากอิฐดูด้วยแล้วกัน" กัลยาพูดแค่นี้ก็รีบเดินปลีกตัวออกมา ถ้ามีเรื่องชู้สาวในโรงแรม ต้องถูกเอาออก ทั้งสองฝ่าย แต่เรื่องนี้ดันเกิดขึ้นกับสามีของเจ้าของโรงแรมเอง แล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"ที่จริงไม่ต้องลำบากผู้จัดการก็ได้นะครับ คืนนี้ผมคิดว่าจะค้างที่โรงแรมเดี๋ยวผมดูเองได้" พอภรรยาไปแล้วสันติก็ไม่ได้ตามไปหรอก ยังหันมาพูดกับผู้จัดการโรงแรม"ถ้าจะให้เจ้าของโรงแรมดูหมดแบบนี้ จะมีผู้จัดการไว้ทำไมล่ะครับ" แต่ก่อนถ้าสันติสั่งอะไรมา อิฐเชื่อฟังเหมือนกับเป็นตัวแทนของกัลยายังไงยังงั้น แต่วันนี้เขากลับเถียงซึ่งสันติก็แปลกใจ เพราะว่าอิฐไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้กับเขา"ฉันขอตัวค่ะ" น้ำใจรีบขอตัว ที่จริงอิฐปล่อยเธอตั้งแต่กัลยาออกไปแล้ว"ตามมาทางนี้" สันติพูดพร้อมกับเดินนำหน้าไป และคนที่สันติสั่งให้ตามมาก็คือน้ำใจน้ำใจจำเป็นต้องได้
กึก! เสียงของในมืออิฐหล่นลงพื้น เมื่อฟังและจับใจความได้ว่าน้ำใจกำลังหมายถึงอะไรอยู่"ผู้จัดการได้หรือยังคะ น้ำรอนานแล้วนะ" หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจอัญชัญอีก เธอหันมองไปที่อิฐซึ่งยังยืนอยู่ที่เดิม"??" พอเห็นว่าผู้ชายคนที่ น้ำใจกล่าวอ้างมาคือผู้จัดการของโรงแรม นางถึงกับหวนกลับมาคิดคำพูดของตัวเอง ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง..แล้วผู้จัดการจะได้ยินไหม ..ที่นางไม่ได้สนใจแต่ทีแรกเพราะคิดว่าเป็นพนักงานธรรมดาโดยไม่ดูให้ดีก่อน"ขอตัวก่อนนะคะคุณนาย" ว่าแล้วน้ำใจก็เดินเข้าไปหาอิฐที่เพิ่งจะปิดประตูรถ"ฉันจะให้คุณจูบอีกครั้งหนึ่ง ช่วยพาฉันไปจากตรงนี้ที" เธอกระซิบพูดให้เขาได้ยินแค่คนเดียว"หือ?" ทีแรกอิฐคิดว่าฟังผิด "คุณว่าอะไรนะ" เขาก็เลยถามใหม่อีกครั้ง"ฉันบอกว่าจะให้คุณจูบ แต่คุณช่วยพาฉันไปจากแม่มดคนนั้นที""แม่มด??" ขณะที่อิฐกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น น้ำใจก็ได้ควงแขนของเขาแล้วใช้แรงฉุดให้เดินตามเข้ามาในโรงแรมพอเข้ามาถึงอิฐกำลังจะแกะมือเธอออก เพราะเห็นสายตาของหลายคนกำลังมองมา ..แต่หญิงสาวก็ไม่ยอม เธอกอดแขนเขาไว้แน่นแล้วก็ยังฉุดให้เดินตามเข้ามาจนถึงลิฟต์ตอนนี้ทางลูกค้าของโรงแรมและพนักงาน ที่กำลังปฏิบัติหน้าท
ห้องผู้จัดการ.."ป้าไม่ได้เอาไปจริงๆ นะคะผู้จัดการ" ป้าแม่บ้านยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าของลูกค้าที่หายไปไม่ใช่ฝีมือของนาง"ฉันก็ไม่ได้เอาไป" น้ำใจที่นั่งอยู่ข้างๆ ป้าก็ปฏิเสธเช่นกัน"จากตอนที่ลูกค้าเช็คอิน คนนอกที่เข้าไปในห้องมีแค่สองคนเท่านั้น ถ้าพวกคุณไม่ได้เอา แล้วมันจะหายไปได้ยังไง" มันเป็นหน้าที่ของอิฐที่ต้องจัดการทุกอย่างในโรงแรมนี้ เพราะตำแหน่งของเขาคือตำแหน่งผู้จัดการ"พวกคุณก็ให้คนไปค้นห้องป้าแล้วนี่คะ ในตัวป้าก็ไม่มีของอะไรพวกนั้น" ป้าแม่บ้านเป็นทำความสะอาดโรงแรมที่นี่มาหลายปีแล้ว และป้าก็พักที่ห้องของพนักงานในโรงแรม ..ใครที่เป็นพนักงานเก่า ก็จะมีสิทธิพิเศษได้พักในห้องของโรงแรมที่อยู่ด้านหลัง"ถ้าพวกคุณจะไปค้นที่ห้องเช่าฉันก็ได้นะคะ" น้ำใจให้ที่อยู่ห้องเช่าของเธอไป ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก แต่ก็ต้องได้ใช้รถโดยสาร..เพราะถ้าเดินก็ใช้เวลาพอสมควร"แล้วขโมยที่ไหนจะเอาของไปซ่อนไว้ในห้อง เพื่อให้คนอื่นจับได้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับพยายามจับพิรุธของทั้งสอง"ป้าสาบานได้ค่ะว่าป้าไม่ได้เอาไป""แต่ในห้องนั้นไม่ได้มีแค่ฉันกับป้าเท่านั้นที่เข้าออก ก็ยังมีเจ้าของห้อง" น้ำใจเอ่ยพูด
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่