รรินธรรีบเดินไปขึ้นรถตัวเอง แล้วขับตามหลังรถของเขาไป เพื่อหาโอกาสแซงเธออยากจะโทรไปหาน้องสาว..แต่จะบอกน้องยังไงดีล่ะว่าให้เอาหลานไปซ่อนไว้ก่อนขับรถตามมาเรื่อยๆ ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะแซง เพราะเขาขับเร็วแบบสม่ำเสมอ"ไม่คิดจะแวะซื้ออะไรหน่อยหรือไง" สิ้นคำพูดของเธอเท่านั้นแหละ รถคันข้างหน้าก็แวะจอดที่ร้านสะดวกซื้อทางเข้าบ้าน ..เขาได้ยินเราพูดเหรอ? ก็ไม่น่าจะใช่ หญิงสาวก็เลยรีบขับรถแซงหน้าไปทำไงดี..ถ้าเราจอดรถไว้หน้าบ้านหรือที่จอดรถแบบนี้ เขาต้องเห็นแน่เลย ..รรินธรก็เลยขับรถอ้อมไปหลังบ้านแล้วจอดแอบไว้ตรงนั้นหญิงสาวรีบตรงเข้าไปด้านใน แล้วเดินไปที่ห้องของน้องสาว ซึ่งทั้งสองได้ย้ายลงมาอยู่ข้างล่างแล้ว เพราะคฑาไม่อยากให้ภรรยาต้องขึ้นลงบันไดบ่อยๆ รรินธรก็เลยย้ายตามน้องลงมาอยู่ห้องข้างล่างด้วย"หนูรักล่ะ" รรินธรถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเพราะห้องไม่ได้ล็อก"อุ๊ย" รรรรรรถึงกับตกใจถอยออกจากสามีแบบอัตโนมัติ เพราะทั้งสองกำลังแสดงความรักกันอยู่แต่นาทีนี้รรินธรไม่มีเวลาจะมาให้ความสนใจอะไรแบบนี้ "พี่ถามว่าหนูรักอยู่ไหน""อยู่กับคุณแม่ค่ะ""ดึกขนาดนี้แล้วทำไมเราไม่รับหลานกลับมา!"รรรรรรตกใจที่เห็นพี่สาว
"คุณ?" รรินธรตกใจเมื่อถูกเขาจับได้ หญิงสาวรีบแย่งอุ้มลูกมากอดไว้จนแน่น แล้วเดินตรงมาที่ห้องนอน ..แต่จังหวะที่เธอกำลังจะปิดห้อง ชายร่างสูงที่เดินตามมาติดๆ ก็ได้ขัดขวางไว้"คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!"เขาแทรกตัวเข้ามาในห้องแล้วก็ปิดประตูโดยที่ไม่พูดไม่จา"ถ้าคุณไม่ออกไปฉันจะตะโกนให้คนช่วย""เอาเลยสิ ผมจะได้รู้ความจริงสักทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น""มันเกิดอะไรขึ้นหมายความว่ายังไง!" เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่เริ่มงัวเงีย เพราะเสียงดัง "โอ๋~ นอนต่อนะลูก" หญิงสาวตบสะโพกของลูกเบาๆ เพื่อกล่อมให้นอนต่อ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเอาลูกไปวางไว้เตียง เพราะกลัวเขาแย่งลูกไป"บอกความจริงผมมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนี้เป็นลูกของผมใช่ไหม""ไม่ใช่ รักนรินทร์เป็นลูกของฉัน""กับผม""ไม่ใช่! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่!!"ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธยังไงเขาก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว "ทำไมคุณถึงไม่บอกเรื่องนี้ คุณรู้ก่อนที่จะไปแต่งงาน หรือรู้หลังแต่งงานว่าท้องกับผม" คริสหมายถึงเรื่องที่เธอไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น"คุณพูดอะไร คุณเองต่างหากที่ไม่ยอมรับลูก แล้วยังจะมาป้ายความผิดให้กับฉันอีกเหรอ!""ไม่ยอมรับลูก? ก็คุณเองไม่ใช่เหรอ ท
"เราไปกันเถอะค่ะพี่" ถึงแม้ชายคนนั้นจะยังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า รรรรรรก็ไม่มีความเห็นใจใดๆ ให้กับเขา"คุณจะไปไหน" คำนี้คริสและคฑาพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน"ฉันจะพาพี่สาวของฉันไปจากที่นี่ เราขอโทษด้วย ที่เข้ามาทำให้ชีวิตของพวกคุณตกต่ำ" ได้ยินแค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าครอบครัวนี้รังเกียจเธอกับพี่มากแค่ไหน และรรินธรก็ไม่ได้ห้ามในการตัดสินใจของน้องสาวเลย"ผมไม่ให้คุณไปนะ" คฑารีบรั้งตัวภรรยาไว้ "ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม" คนที่เอ่ยพูดขึ้นก็คืออัญชัญ กว่าที่นางจะรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด เกือบจะสาย แต่หรือว่าสายไปแล้ว"ปล่อยฉันกับพี่ไปเถอะค่ะ คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่อยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางที่เกลือจะหวานได้ เฉกเช่นเดียวกันกับไม่มีทางที่น้ำตาลจะเค็ม.." "รัน" กัลยาเอื้อมมือไปกุมมือน้องสะใภ้ไว้ "พี่ขอโทษแทนแม่ได้ไหม พี่ขอร้องให้เราอยู่ที่นี่ อย่าไปไหนเลย""ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ ฉันกับพี่คงไม่ใช่ตั้งแต่แรก ขอตัวนะคะ" รรรรรรเอื้อมมือไปคว้าแขนของพี่สาวให้เดินตามออกมาจากบ้าน จนทุกคนต้องรีบเดินตามหลังมา"พวกคุณไม่ต้องตามมาหรอก..เรามีบ้านอยู่ มีข้าวกิน และถ้าคุณอยากจะไปหาลูกฉันก็ไม่ห้าม""ผมไม่ให้คุณไป ถ้าจะไป คุณต้องข้ามศพผมไ
"ผมจะรอรับคุณไปด้วยนะ" คริสยังพยายามตะโกนตามหลังเธอเข้าไป"คุณจะรอรับฉันทำไม แค่บริษัทฉันไปเองได้""แต่คุณไม่มีรถ" เขามองเข้าไปในบ้านของเธอดูโล่งๆ"ฉันไม่เคยมีรถค่ะ แต่ฉันก็อยู่มาได้จนทุกวันนี้นี่""เออ..ครับ"คฑาต้องกลับมาส่งคริสก่อน และเขาก็ต้องได้รีบไปเคลียร์งานที่บริษัท เพื่อจะได้กลับมารอง้อเมียต่อส่วนคริสมาถึงคอนโด ก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า[บริษัท]"ทำไมวันนี้คริสมาสายล่ะคะ.. แต่คริสมาสายก็ไม่แปลกหรอกเพราะเป็นเจ้าของบริษัท กับอีกคนนี่สิคะ ป่านนี้ยังไม่เห็นมาเลย" คนที่ทับทิมหมายถึงก็คือรรินธร"ผู้จัดการมีอะไรทำก็ไปทำเถอะครับ""ผู้จัดการ?" ทับทิมถึงกับทวนคำพูด ถ้าไม่อยู่ต่อหน้าลูกค้า หรืออยู่ในที่ประชุม เขาจะไม่เรียกเธอห่างเหินแบบนี้ แต่ที่นี่ไม่มีใคร ทำไมเขาถึงใช้คำนี้กับเธอ"ผมขอทำงาน" ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเหมือนจะพูดไม่รู้เรื่อง เขาก็เลยทวนคำพูดของตัวเองให้ฟังใหม่"ค่ะ" ทับทิมรีบพาตัวเองออกมาจากห้องนั้นก่อนตอนนี้คริสต้องรีบเคลียร์ตัวเอง ถึงแม้เขาจะไม่ได้ตกลงเป็นมั่นเป็นเหมาะเรื่องคบกับทับทิม แต่เขาก็ให้ความหวังทับทิมมาโดยตลอด เพราะเขาคิดว่าจะเปิดใจให้ใครสักคนชายหนุ่มรีบเดินออก
คำพูดของอัญชัญมันทำให้รรินธรต้องคิดหนัก มีอยู่ประโยคหนึ่งที่นางบอกว่า เธอต้องการให้ลูกและหลานขาดพ่อจริงเหรอ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ผิดคือนางเอง"พี่มาตั้งแต่เมื่อไร"รรินธรถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงน้องสาว เธอมาถึงได้สักพักแล้ว แต่ก็ยังนั่งอยู่หน้าบ้าน เพื่อใช้เวลาถามตัวเองดู"รัน""คะ""รันกลับไปหาคุณคฑาเถอะนะ""รันบอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก""รันก็รู้การไม่มีพ่อมีแม่มันเป็นยังไง รันอยากจะให้ลูกของรัน เดินตามรอยเราทั้งสองเหรอ อย่าลืมสิว่าคนเราอยู่ไม่ค้ำฟ้า ถ้าวันหนึ่งเกิดเราต้องจากโลกนี้ไปแบบกะทันหัน เหมือนพ่อและแม่ ลูกเราจะอยู่ยังไง ต้องกอดคอกันอดมื้อกินมื้อเหมือนเราใช่ไหม"ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของน้องสาวนอกจากเสียงสะอื้น ทำไมเธอจะไม่คิดเรื่องนี้ เพราะมันเคยเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอและพี่สาวมาแล้ว"แต่พวกเขาไม่ได้มีความจริงใจให้กับเราเลย""รู้ได้ยังไง""เขารังเกียจเราพี่ไม่เห็นเหรอ ว่าเขาทำทุกวิถีทางเพื่อไล่เราออกจากชีวิต""นั่นเพราะความคิดของพวกเขา คิดว่าคนจนต้องการไขว่คว้าหาความมั่งมี เราก็ทำให้เขาเห็นสิ ว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด""แล้วพี่ล่ะ""เรื่องของพี
เช้าวันต่อมา..รรินธรออกมาจากห้องก็เห็นน้องสาวยืนมองพ่อของรักนรินทร์นอนขดอยู่บนโซฟา "สงสัยจะเป็นไข้" รรรรรรลองเอามือไปแตะหน้าผากดูแล้ว"เป็นไข้เหรอ? เราถอยออกมาก่อน" เธอเป็นห่วงน้องสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะกลัวว่าจะติดไข้ "จะไม่ให้เป็นไข้ได้ยังไง ดูสิเสื้อผ้าก็ยังไม่เปลี่ยน แล้วทำไมไม่กลับบ้านตัวเอง มานอนอยู่ตรงนี้ทำไม" เมื่อคืนนี้เธอนอนร้องไห้จนเผลอหลับไป และไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่"จะเอายังไงกับเขาดีล่ะพี่ วันนี้ฉันต้องได้ไปหาหมอตามนัดด้วย""รันจะไปยังไง""พี่ตกใจทำไม" ฟังแค่น้ำเสียงเธอก็รู้แล้วว่าพี่สาวตกใจ"พี่กลัวว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันจะเกิดขึ้นกับพวกเราอีก" สิ่งที่รรินธรกลัวก็คือกลัวประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอย เพราะตอนที่เธอท้องโตไปพบแพทย์ตามนัด เธอเกิดอุบัติเหตุจนต้องได้ผ่าคลอดจังหวะนั้นชายร่างสูงที่นอนอยู่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เพราะเขาทนฟังที่พี่กับน้องคุยกันต่อไม่ได้อีกแล้วชีวิตของพวกเธอช่างน่าสงสาร ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะตามหาความจริงด้วยตัวเอง ..ในช่วงเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด เขากลับไม่ได้อยู่กับเธอ..คิดแล้วก็เสียดายเวลาที่เสียไป"คุณเป็นยังไงบ้าง" คนที่ถามก็คือน้องสาว ส
"ฉันว่าพี่ไปพักที่บ้านฉันดีกว่าไหม""ไม่หรอกตาคริสไม่รู้ว่าพี่มา""ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงปิดลูกเรื่องนี้ด้วย""พี่มีอะไรจะทำนิดหน่อย ระหว่างนี้เราก็ไม่ต้องสนใจพี่หรอกว่าพี่จะทำอะไร""แบบนี้ก็ได้เหรอ" น้องสาวยังจัดจ้านขนาดนี้ แล้วพี่จะขนาดไหนพิกุลเดินดูโรงแรมของหลานสาว ใช่แล้ว..นางมาเปิดห้องที่โรงแรมกัลยา และใช้ชื่อคนอื่นเปิด เพราะเรื่องนี้นอกจากน้องสาวแล้วไม่มีใครรู้ว่านางเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย"หนึ่งเดือนเลยเหรอ ห้องสวีทเนี่ยนะ" อิฐถึงกับทวนคำพูดของพนักงาน ว่ามีป้าคนหนึ่งมาจองห้องสวีทหนึ่งเดือน ซึ่งราคาต่อคืนมันไม่ใช่น้อย ถ้าเป็นเดือนมันต้องมากแน่"ผู้จัดการไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ป้าเขาจ่ายเงินไว้ครบแล้ว""จ่ายเงินแล้วด้วย?""ใช่ค่ะ"ใกล้เที่ยงวันเดียวกัน..ที่บริษัทของคริส"ไปกันเถอะค่ะ ทับทิมหิวแล้ว" ทับทิมเดินมาเปิดประตูห้องคริสแบบถือวิสาสะ"ผมคงไปทานข้าวกับคุณไม่ได้""แต่คุณตกลงแล้วนี่คะ คุณจะผิดคำพูดเหรอ"[ร้านอาหาร]คริสจำเป็นต้องออกมาทานข้าวกับทับทิม และวันนี้เขาก็อยากจะพูดอะไรให้ทับทิมเข้าใจ"ทานนี่สิคะคริส ทับทิมตักอาหารวางใส่จานให้คริส""ขอโทษนะคะ คุณคือคุณคริสใช่ไหมค
วันต่อมา..ที่บริษัทรรินธรยังคงต้องทำงานต่อ เพราะกำจรขอเพิ่มงาน และแก้งานอีกหลายจุด ทั้งๆ ที่งานออกมาดีแล้ว แต่เพราะอะไร..ทุกคนคงรู้ดีช่วงใกล้เที่ยงวัน.."ทำไมถึงยังไม่มีข่าวออกมาสักที" ทับทิมพยายามดูตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ว่าทำไมสำนักข่าวนั้นถึงไม่ปล่อยข่าวที่เธอไปทานข้าวกับผู้บริหารหนุ่มหล่อแบบคริสสักที จนถึงเที่ยงอีกวันก็ยังเงียบอยู่"นุ่นก็ไม่เห็นเหมือนกันค่ะ หรือมันผิดพลาดอะไรหรือเปล่า""ไม่น่าจะพลาดนะ" เพราะข่าวแบบนี้นักข่าวชอบมากทั้งสองรู้กันอยู่แล้ว แค่รอข่าวออกมา ถึงจะแกล้งเอาข่าวนั้นไปให้รรินธรได้เห็น แต่นี่ข่าวก็ไม่ออกมาสักที"นุ่นมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจะดูเอง""ค่ะ"12 : 00 น. ทุกคนเริ่มทยอยลงไปทานข้าว"หนู""เรียกฉันเหรอ" ทับทิมหันไปถามป้าที่ดูเนื้อตัวมอมแมม"ใช่จ๊ะ""มีอะไร" ถามไปเหมือนไม่อยากจะคุยด้วย"หนูรู้จักคนที่ชื่อรินไหมจ๊ะ""ริน?.. มาหามันทำไม""เรียกหนูรินให้ป้าหน่อยได้ไหม""ใครจะมีเวลาไปเรียกให้ เห็นไหมคนกำลังจะไปทานข้าว""ถ้าหนูไม่เรียกให้ งั้นป้าขอสัก 50 บาท จะไปซื้อข้าวกิน""อะไรของป้าเนี่ย มาขอเงินกันหน้าด้านๆแบบนี้เลยเหรอ!""ตอนนี้ป้าหิวข้า
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง