"ตกลงพี่จะให้ฉันเข้าไปไหม" ไม่รู้จะตอบพี่สาวยังไง เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
"อย่าทำให้พี่ลำบากใจเข้าใจไหม ..รู้ไหมว่างานสมัยนี้มันหายาก ยิ่งตอนนี้พี่ใกล้คลอด ต้องได้เก็บเงินไว้เลี้ยงหลานอีก"
"ค่ะ" ถ้าเขาไม่เริ่มก่อนนะ ..ประโยคหลังเธอได้แค่คิดเอาเพราะไม่กล้าพูดกลัวพี่สาวจะไม่สบายใจ
แล้วหญิงสาวร่างระหงก็ได้ก้าวเดินมาที่หน้าห้องของท่านประธาน พร้อมกับเคาะประตูเบาๆ
"เชิญ"
ประตูบานนั้นถูกเปิดเข้ามาทันทีที่เจ้าของห้องอนุญาต พอเธอเข้ามาก็เห็นว่าเขายืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ สายตามองทอดออกไปนอกอาคารที่รอบล้อมไปด้วยกระจก
"เธอต้องการเท่าไร" ชายหนุ่มพูดออกไปแบบไม่อ้อมค้อม แต่ที่จริงมันก็เป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว
"คะ??" ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากเจ้านาย
"ฉันจะให้เงินเท่าที่เธอต้องการ"
"บอสจะให้ฉันทำไม" หญิงสาวพยายามคิดถึงหน้าพี่สาวไว้ให้มาก เพราะถ้าบู่มบ่ามพูดอะไรออกไปกลัวพี่สาวจะลำบากไปด้วย
"ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวเธอหรอก"
"อ้าว!" หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้รอฟังให้จบก่อน ในเมื่อไม่พิศวาสแล้วจะเรียกเธอเข้ามาหาพระแสงอะไร
"ฟังให้จบก่อนสิ"
"ว่ามา...ค่ะ" เกือบลืมมีหางเสียง
"ฉันจำเป็นต้องใช้งานเธอ ก็อย่างที่เธอเห็น แม่กับพี่สาวของฉัน.."
"ไม่ค่ะ"
"??" ชายหนุ่มถึงกับมองเธอให้เต็มตา เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนปฏิเสธเขาแบบนี้ "เธอจะไม่ไปคิดดูหน่อยเหรอ"
"ทำไมต้องคิดด้วยล่ะคะ ถ้าบอสจะเรียกมาคุยเรื่องนี้ ฉันขอกลับไปทำงานก่อนนะคะ" ทำไมเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องครอบครัวของเขาด้วย เงินน่ะใครจะไม่อยากได้ แต่ถ้าได้มาแล้วมันทำให้ชีวิตวุ่นวาย ขอไม่เอาดีกว่า
ชายหนุ่มได้แต่มองตามผู้หญิงที่อวดเก่งอวดดี เพราะตอนนี้เธอออกจากห้องไปแล้ว
ธุรกิจเป็นหมื่นล้านเขายังจัดการมาได้ กับอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว..
สามวันผ่านไป..
"แม่เล่นแบบนี้เลยเหรอครับ" กลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าที่โต๊ะอาหารไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเขา
"ก็ในเมื่อชวนลูกออกไปทานข้างนอกแล้วลูกไม่ไป ก็ชวนหนูเอมมี่มาทานที่บ้านเรามันจะไปยากอะไรล่ะ" แม่กับลูกพูดกันเพียงแค่เบาๆ
"วันนี้ผมทำงานมาเหนื่อย ไม่หิวครับ"
"ตาคฑา! ลูกจะทำให้แม่อกแตกตายเลยหรือไง รู้ไหมว่าแม่กลุ้มใจกับลูกมากแค่ไหน"
"คุณแม่ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ"
"หยุดนะคฑาอย่าว่าให้แม่แบบนั้น!"
พอถูกพี่สาวตะคอกเขาถึงได้หยุดพูด
"พี่ว่าเรามานั่งทานข้าวดีกว่า" สันติพี่เขยก็เลยเลื่อนเก้าอี้ให้น้องชายของภรรยา คฑาถึงได้ยอมเดินไปนั่งด้วย
"เอมมี่ว่า.."
"ว่าอะไรครับ" ชายหนุ่มพูดสวนขึ้นโดยที่ยังไม่ให้ผู้หญิงได้พูดต่อ แต่มันไม่ใช่นิสัยของเขาหรอก เขาพยายามทำนิสัยไม่ดีออกมาให้ผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้ได้เห็นเฉยๆ
จนผู้หญิงที่ชื่อเอมมี่ไม่กล้าพูดต่อ แต่สายตาของแม่และพี่สาวต่างก็เพ่งเล็งมาที่เขา
"ทานสิครับรออะไรอยู่" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เริ่มทานข้าวแบบเอร็ดอร่อย แต่ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกชายกำลังทำประชด
วันต่อมา..
รรินธรมองดูสายตาของท่านประธานเวลามองมาที่น้องสาวของเธอมันดูแปลกๆ ถ้าจะว่าท่านสนใจในตัวน้องสาวก็คงไม่ใช่ เพราะคนระดับนี้แล้ว
เย็นวันนั้น..
เป็นอีกวันที่อัญชัญชวนเอมมี่มาทานข้าวที่บ้าน เพราะอยากจะให้ทำความรู้จักกับลูกชายไว้ให้มาก และเอมมี่ก็รู้เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวของเขาแล้ว และฝ่ายหญิงก็รับปากแม่เขาว่าจะช่วยให้เต็มที่
"ถ้าแม่ยังขืนทำแบบนี้อยู่อีก ผมจะไปค้างที่คอนโด"
"ลูกไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วแม่รู้ดี ลูกเคยสัญญากับพ่อไว้ก่อนที่จะตาย ว่าจะดูแลแม่แทนพ่อ"
เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อแม่ทวงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อก่อนตาย
"แม่แก่มากแล้ว ไม่รู้เมื่อไรแม่จะไปอยู่กับพ่อ แม่อยากจะอุ้มหลานก่อนไป"
"ไม่จริงหรอกครับ แม่ไม่ได้อยากอุ้มหลาน แต่แม่กลัวว่าผมจะไปคว้าผู้หญิง ที่แม่ไม่ชอบมาเป็นสมาชิกในครอบครัวมากกว่า"
"ในเมื่อลูกรู้แบบนั้นแล้ว ลูกก็อย่าทำให้แม่เสียใจสิ แม่รอเรือหลายๆ ตัวนั้น ไม่เหมาะสมกับลูกเลย"
"ใครรอเรือหลายๆ ตัวครับ" ชายหนุ่มถึงกับงงไม่รู้ว่าแม่กำลังพูดถึงใครอยู่
"ก็คนที่ลูกกำลังพัวพันอยู่ด้วยไง อย่าบอกนะว่าลูกไม่รู้จักชื่อของเธอ?"
"??" เขาลืมไปเลยแล้วเธอชื่ออะไร เคยเรียกแต่ชื่อเลขาที่เป็นพี่สาวของเธอ
ดวงตาอัญชัญมองลูกชายแบบเปล่งประกาย นางหยุดพูดตั้งแต่ถามประโยคที่ว่า ลูกชายไม่รู้จักชื่อผู้หญิงคนนั้นเหรอและเหมือนกับลูกชายจะรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ เขาพลาดเองที่ไม่รู้จักชื่อเธอ แต่แม่เขานี่ก็ยิ่งกว่า 5g สะอีก รู้ดีทุกเรื่องจริงๆชายหนุ่มขึ้นมาถึงข้างบน มือหนาล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมารูดค้นหาชื่อของเลขา เพื่อที่จะโทรไปถามว่าน้องสาวของเธอชื่ออะไร แต่เขาต้องได้รีบหยุดตัวเองไว้ก่อนวันต่อมาที่บริษัท.."ผมจะไปดูงานที่ต่างจังหวัด""ค่ะ" รรินธรยืนฟังเจ้านายสั่งงาน"ผมจำเป็นต้องได้ให้เลขาไปด้วย ดูจากคุณรินแล้วคงจะไปไม่ได้""คะ?..เออ..ค่ะ" ไม่ว่าท่านประธานจะไปดูงานที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็ไม่เคยต้องเอาเลขาติดไปด้วย เพราะมีผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายอยู่แล้ว"เพราะฉะนั้นคงเป็นหน้าที่เลขาใหม่แล้วล่ะ คุณบอกคนที่จะมาทำตำแหน่งเลขาแทนคุณให้เตรียมตัวด้วยนะเราจะเดินทางไปสามวัน""บอสหมายถึงน้องสาวของรินเหรอคะ""ก็คุณเอาน้องสาวมาทำงานในตำแหน่งนี้แทนคุณไม่ใช่เหรอ""แต่รันทำอะไรยังไม่ค่อยเป็นนะคะ""รันเหรอ" ในที่สุดก็รู้ชื่อเล่นของเธอแล้ว "ช่วยเอาสำเนาบัตรประชาชนของน้องสาวคุณ มาให้ผมด้วยนะ เด
วันต่อมา..คฑาจำเป็นต้องได้ล้มเลิกแผนการ ที่จะพาเธอไปด้วย เพราะถ้าเธอไป เขาก็ต้องได้พาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้ไปด้วย แถมต้องได้ให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทำงานในบริษัท ความวุ่นวายคงได้บังเกิดแน่ชายหนุ่มก็เลยไปดูงานกับผู้ช่วยแค่สองคน จริงๆ แล้วงานไม่จำเป็นต้องมาดูถึงสามวัน เขาแค่อยากจะสานสัมพันธ์กับเธอ แต่พอเธอไม่มาด้วย พอเสร็จงานเขาก็เลยต้องบินกลับ ภายในวันนั้นเลยแต่กลับมาถึงก็ไม่ได้บอกใคร ชายหนุ่มมาพักอยู่ที่คอนโดหรู ใจกลางเมืองที่ซื้อทิ้งไว้ แต่ก่อนตอนที่ยังมีพ่ออยู่ เขามาพักอยู่ที่นี่ประจำ พอเสียพ่อไปแล้ว ก็เลยต้องได้กลับไปค้างที่บ้านเป็นเพื่อนแม่อีกหนึ่งวันผ่านไป.. เขาถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว ตั้งแต่กลับมาเมื่อวานนี้คฑาก็ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในคอนโด และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคนที่เคยอยู่ร่วมคอนโดเดียวกัน ถึงเธอคนนั้นจะจากเขาไป เพราะเงินก้อนใหญ่ที่แม่เสนอให้ เขาก็ยังอดคิดถึงเธอไม่ได้คฑาต้องได้รีบสลัดภาพเก่าๆ ให้ออกไป เพราะถึงยังไงเธอก็เลือกเงิน ไม่ได้เลือกความรัก นี่แหละที่เขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย เพราะคิดว่าผู้หญิงทุกคนหวังแค่เงินคฑาพักผ่อนอยู่ได้เพียงไม่นาน ก็ต้องได้เข้าบริษัท เพ
หลายวันผ่านไป.. จากวันนั้นคฑาก็ยังหาวิธีโน้มน้าวจิตใจของเธอ แต่ก็ไม่ได้ผล จะใช้งานผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะเขาได้โยนบทบาทนี้ให้กับเธอไปแล้วหึ..ธุรกิจมูลค่าหมื่นล้าน เขายังสานต่อจากพ่อมาได้ แต่กับผู้หญิงคนนี้ทำไมมันยากนักวะสายตาของทุกคนในห้องประชุมต่างก็เพ่งเล็งมาที่เดียวกัน..นั่นคือท่านประธาน"บอสครับ" นิรันดร์ผู้ช่วยได้สะกิดผู้เป็นนายเบาๆ"หือ? เอกสารพร้อมแล้วเหรอ""พร้อมแล้วครับ""พร้อมแล้วจะรออะไรอยู่ ก็เปิดดูกันสิครับ" เขาแค่พูดกลบเกลื่อนไปความแปลกของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อ นิสัยของเธอก็ยังแปลกไม่ยอมใคร คนแบบนี้แหละที่เขากำลังต้องการมุมปากชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นเมื่อเปิดเอกสาร ..ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายที่เข้าร่วมประชุมต่างก็มองเอกสารกันให้วุ่น เพราะไม่รู้ว่าตรงไหนที่ทำให้ ท่านประธานอารมณ์ดีได้ถึงขนาดนี้หลังการประชุม.."คุณระ..ระ..""คะ?" เธอรู้ได้ในทันทีว่าเขาคงต้องการอยากจะเรียกชื่อเธอ แต่คงยังจำไม่ได้"เข้าไปหาผมในห้องหน่อย" ชายหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุม ก็รีบตรงเข้าไปในห้องทำงาน "ระรอนรัน..ไม่สิ..ระรันรอน.." ก่อนที่เธอจะเข้ามาเขาพยายามทำความเข้าใจกับชื่อของเธอ"คะ?
>>{"คุณคือญาติของคุณรรินธร ใช่ไหมคะ"} {"ใช่ค่ะ??"} ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ตอนนี้น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่น เพราะรู้สึกใจไม่ดีตั้งแต่พี่สาวออกไปแล้ว แถมยังมีคนโทรมาถามว่าเป็นญาติของพี่สาวไหม"ตอนนี้คุณรรินธร ประสบอุบัติเหตุ ทางเราต้องได้ผ่าคลอดให้เธอเป็นเคสเร่งด่วน คุณช่วยมาที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ"กึก!! โทรศัพท์ในมือร่วงลงพื้นแบบไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอชาไปหมดจนทำอะไรไม่ถูกแกร็ก! ประตูห้องถูกเปิดออกมาพร้อมกับเจ้าของเรือนร่างสูงโปร่ง สายตาของเขามองกวาดไปทั่วหน้าห้อง แต่ก็ไม่เจอใครอยู่เลย"อะไรกัน" ชายหนุ่มไม่พอใจ..ถึงแม้ว่าเลขาคนพี่มีธุระกลับก่อน แต่คนน้องสมควรที่จะกลับทีหลังเขาไม่ใช่เหรอ คฑาก็เลยต้องได้กลับเข้าไปปิดไฟ ปิดประตูเองเช้าวันต่อมา.."นี่อะไรกัน" เมื่อวานนี้ออกไปก่อนก็ยังพออนุโลมได้ แต่มาวันนี้ ทั้งคนพี่และคนน้องก็ยังไม่เข้าบริษัทนิรันดร์ผู้ช่วยก็เลยต้องเป็นคนตามเอกสารให้กับท่านประธานเอง"เอกสารที่บอสต้องการครับ""ติดต่อได้หรือยัง" คฑาสั่งให้ผู้ช่วยติดต่อเลขาไป"ยังไม่ได้เลยครับ" นิรันดร์โทรหาทั้งพี่และน้องไม่มีใครเปิดเครื่องเลยสักคน "กำหนดคลอดก็ยังเหลืออีกตั้งสองสัปดาห์นี่ครับ""อ
"คุณแม่?""นี่มันอะไรกัน!" อัญชัญมองมือที่เกาะแขนลูกชายแบบไม่พอใจเอามากๆหญิงสาวเห็นสายตานั้นแล้วกำลังจะชักมือออก แต่ถูกเขาเหนี่ยวรั้งไว้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะปฏิเสธ ..แต่ครั้งนี้จากที่ทำแค่เกาะ มือเรียวเลื่อนขึ้นเป็นคล้องแขนเขาไว้ เหมือนคู่รักทั่วไปที่ทำกัน"ผมกำลังจะออกไปทานข้าวข้างนอกครับ คุณแม่มีธุระอะไร" ชายหนุ่มมองดูผู้หญิงที่มากับแม่แบบไม่พอใจ"แม่กำลังจะมาชวนลูกไปทานข้าวนั่นแหละ พอดีเลยออกไปทานพร้อมกัน""ผมจะไปทานกับ.." สายตาของเขามองกลับมาดูคนที่กอดแขนเขาอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่เล่นละครด้วย"ฉันหิวแล้วค่ะเรารีบไปกันเถอะ" รรรรรรรู้ดีว่าเวลานี้เธอต้องทำยังไง"คุณแม่คะ เอมมี่ว่าเรากลับกันดีกว่า" หญิงสาวที่มากับอัญชัญเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สื่อออกมาให้เห็นว่าเสียใจมาก กับภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้"หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ตัวจริงจะกลัวอะไรล่ะ""แม่จะพูดอะไรก็สงสารเมียผมบ้างสิ""เมีย?" เห็นควงแขนกันก็ว่าตกใจมากแล้ว แต่ได้ยินคำว่าเมียออกจากปากท่านประธาน นิรันดร์ถึงกับทำอะไรไม่ถูก"แกจะเอาใครเป็นเมียกี่ร้อยกี่พันคนแม่ไม่ว่า แต่คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่มีแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น!""คงไม่ไ
แล้วคฑาจะรออะไร เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับเขามันแค่เศษฝุ่น ชายหนุ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับเธอในทันที เพราะนั่นมันหมายถึงการผูกมัดเธอเพื่อที่จะเก็บไว้ใช้งานพอได้เงินรรรรรรก็ขอไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจะกลับมาหาเขา ซึ่งคฑาก็ยอม ในที่สุดผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่หยิ่งผยองแบบเธอก็ยังต้องการเงินของเขาอยู่ดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..นี่แหละเหตุผลที่เธอต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านบาท เพราะพี่สาวของเธอถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่วที่รรรรรรเลือกโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะเธอเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กจะถูกผ่าคลอดออกมา แต่ก็ต้องได้อยู่ห้องอบสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะได้รับความกระทบกระเทือนตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ"พี่สาวของฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัด"ใช่แล้วครับ แต่ต้องรอให้เธอฟื้นตัวให้ได้ก่อน คงใช้เวลาอีกสักระยะ""ฝากคุณหมอดูแลพี่สาวและก็หลานของฉันด้วยนะคะ" ตอนนี้ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าพี่สาวปลอดภัยแล้ว แต่ด่านต่อไปที่เธอจะเจอมันคงหนักหนาเอาการ เพราะเธอเห็นฤทธิ์เดชของแม่และพี่สาวของเขาแล้ว
"ขอนั่งด้วยคนสิคะ" หญิงสาวเดินมาถึง ก็เอ่ยพูดขึ้นกับเขาที่ถูกผู้หญิงนั่งรายล้อมอยู่ ข้างซ้ายพี่สาว ข้างขวาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้"นั่งเลยครับ" คฑารีบลุกขึ้นให้เธอนั่งเก้าอี้ตัวนั้นแบบสุภาพบุรุษ แต่ไม่ใช่หรอกอยากจะสลัดใครบางคนแถวนี้ออกต่างหาก"นี่เธอ!" กัลยาตะคอกเสียงไม่พอใจใส่รรรรรร"อาหารที่นี่ท่าจะอร่อยนะคะคุณพี่""ใครพี่เธอ""คุณพี่เป็นพี่สาวของสามี ก็เท่ากับเป็นพี่ของฉันนั่นแหละค่ะ" รรรรรรยังแสร้งพูดต่อเหมือนไม่คิดอะไรกับคำพูดของพี่สาวเขากัลยารีบมองหาสามีของตัวเอง เพื่อที่จะให้มาจัดการผู้หญิงปากเก่งคนนี้ แต่พอมองไปเห็นสามีกำลังชนแก้วอยู่กับสาวที่ไหนไม่รู้ ก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหา คนที่เป็นสามีในทันที"คฑาทำไมลูกทำแบบนี้ ช่วยไว้หน้าแม่หน่อยได้ไหม!" อัญชัญเดินมาถึงก็นั่งข้างๆ ลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขานั่งแทนที่พี่สาว"เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามว่าอาหารที่นี่คงอร่อย ผมแนะนำจานนี้เลยครับ เป็นราชินีอาหารของโรงแรมพี่สาวผมเลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตักอาหารจานที่พูดถึงวางลงใส่จานให้เธอ โดยที่ไม่สนใจคำพูดของแม่"ต้องลองชิมดูก่อนค่ะ ว่าจะอร่อยเท่าคุณไหม" ว่าแล้วหญิงสาวก็ตักอาหารขึ้นมาชิมดู "ก็อร่อย
"เรื่องเงินพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย พี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดูแลพี่ในยามที่ไม่สบายได้ไหม" หญิงสาวอยากจะพูดให้พี่คลายกังวล"แต่พี่ดีขึ้นมากแล้ว""ถึงดีขึ้นมากแต่ก็ยังไม่หายขาดนี่ ถ้าย้ายโรงพยาบาลเผื่อมันทรุดลงล่ะ ฉันจะอยู่กับใคร พี่คิดข้อนี้บ้างไหม" รรรรรรเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าพี่ไม่ยอม จนพี่สาวต้องยอมฟัง แล้วค่อยๆ นอนลงที่เดิม"ถ้าพี่รักฉัน พี่ต้องดูแลตัวเองให้ดี ทำตัวให้แข็งแรงเร็วๆ เข้าใจไหม" มือเรียวเอื้อมไปจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้กับพี่สาว ถึงแม้อยากจะร้องไห้มากแค่ไหน ทั้งพี่และน้องก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น ว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่[บริษัท]หญิงสาวก้าวลงจากแท็กซี่ ใบหน้างามเงยขึ้นไปมองชั้นบนสุด ซึ่งมันเป็นชั้นที่เธอทำงานอยู่ แล้วลอบถอนหายใจออกมา เพราะเธอต้องหาคำพูดเพื่อที่จะพูดกับเขาเรื่องเงินเวลาผ่านไปจนถึง 09 : 40 นาที ก๊อก ก๊อก ยังไงวันนี้เธอต้องคุยเรื่องเงินให้ได้ จะคุยตอนไหนก็คงเหมือนกัน หญิงสาวเลือกเวลาที่ดูเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะถ้าใกล้เที่ยงเดี๋ยวเขาก็ออกไปทานข้าวกับลูกค้าอีก"เชิญ""บอสคะ..เออ.." อุตส่าห์ตั้งหลักมาแต่ไกล แต่พอเห็นสายตาที่เขามองมา กลั
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง