เวลาผ่านไป
ฉันอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้รับรู้อะไรโลกภายนอกเลยมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะขังฉันเหมือนหมูหมากาไก่ไม่ให้ออกไปข้างนอก จะมีบ้างที่ฉันได้ออกไปข้างนอกโดยที่มีเขาเป็นคนพาไป "คุณนาย" "วันนี้มีอะไรกินบ้าง" "มีคั่วกลิ้ง มีแกงส้มไข่ปลา แต่ภาพยายามทำไม่ให้เผ็ดแล้วนะจ๊ะคุณนายน่าจะกินได้" "อื้ม..." "นั่งลงสิเธอไม่กินข้าวหรือไง" "ฉันต้องอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่?" "ทำไมถึงถามแบบนี้" "แล้วฉันจะไม่มีโอกาสมีชีวิตเป็นของตัวเองเลยหรอ ฉันต้องอยู่ที่นี่แล้วฟังคำสั่งจากคุณ คุณห้ามทำอะไรฉันก็ต้องไม่ทำ คุณสั่งให้ฉันทำอะไรฉันก็ต้องทำ เหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่โดนคุณล่ามโซ่เอาไว้อยู่" "แล้วเธอจะออกไปทำงานอะไร อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วคอยจัดการเรื่องบัญชีให้ฉัน แม่ของเธอบอกว่าเธอเก่งเรื่องคณิตศาสตร์" "....." ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขากับแม่ของฉันคุยกันบ่อยขนาดไหน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจสืบเรื่องราวของฉันจากแม่ของฉันมาโดยเฉพาะเลย "ฉันต้องออกไปทำงาน พักกลางวันอาจจะกลับมา เตรียมกับข้าวกลางวันไว้ด้วยล่ะ" "จะกลับมาทำไมปกติคุณก็ไม่ได้กลับนี่" "วันนี้ออกไปทำที่สวนใกล้ๆไม่อยากจะห่อข้าวไป กลับมากินที่บ้านสะดวกกว่า" "....." ฉันไม่ได้ตอบอะไรเขา เพราะปกติฉันก็ไม่ใช่คนทำอาหารอยู่แล้ว *************** "คุณนายอยู่แต่บ้านไม่เบื่อบ้างเหรอจ๊ะ" "เบื่อสิ ฉันอยากจะออกไปจากที่นี่ใจจะขาดละ" "ออกไป?" "ฉันอยากกลับบ้านของฉัน" "ทำไมล่ะจ๊ะ ภาทำอะไรให้คุณนายไม่พอใจหรือเปล่าจ๊ะ" "มันไม่ใช่เธอหรอกเธอไม่ต้องเป็นกังวลไปมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย" "อ้าว...ก็คุณนาย..บอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว" "ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ฉันก็มีเหตุผลของฉันมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอหรอกไม่ต้องไปคิดมาก" เหตุผลที่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ก็เพราะอีตาบ้านั่นต่างหากล่ะ ชอบมาหาเรื่องฉันวุ่นวายกับฉันอยู่เรื่อย คุณแม่บอกกับฉันว่าอยู่นานๆ ไปเดี๋ยวก็รักกันเอง สภาพแบบนี้จะไปรักกันลงอีท่าไหนฉันยังนึกไม่ออกเลยเจอหน้ากันทีไรก็มีแต่เรื่องแต่ราวแทบจะไม่ได้พูดดีๆ กันสักครั้ง "ภา ภา" "จ้า" เสียงตะโกนดังอยู่ทางหน้าบ้าน ฉันชะเง้อหน้าออกไปมองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เดินออกไปมอง คงจะเป็นญาติของผู้หญิงคนนั้นละมั้ง "นายหัวออกไปไหนหรอภา" "ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วจ้ะ แต่เดี๋ยวเที่ยงๆ ก็คงกลับมา" แม่บ้านพาผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา เราสองคนได้มองหน้ากันพอดีแต่ฉันก็ไม่ได้ทักทายอะไร เพราะฉันไม่ได้รู้จัก "นี่ใครหรอภาแม่บ้านคนใหม่หรอ?" "ไม่ใช่จ้ะไม่ใช่!" "อ้าว แล้วเป็นใครกันล่ะ?" "เมียนายหัวจ้ะ" "เมีย?" "จ้ะ" "....." ผู้หญิงคนนั้นมองฉันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธอเพราะไม่รู้จักกันและฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย "นายหัวแต่งงานแล้วหรอ ทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย" "จ้ะ นายหัวแต่งงานแล้ว" "อ๋อ..." "เดี๋ยวภาไปเอาน้ำมาให้นะคะ คุณเพ็ญไปนั่งรออยู่กับคุณนายก่อนนะคะ" "จ้ะ" ผู้หญิงคนนั้นเดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฉัน ก่อนที่เธอจะฉีกยิ้มให้กับฉันแต่ไม่ได้พูดอะไร "เธอยิ้มอะไร?" "นายหัวนี่ก็ตาถึงดีเหมือนกันนะ เลือกเมียได้ซะสวยเลย ว่าแต่เธอลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ" "ไม่ใช่เรื่องของเธอจะอยากรู้ไปทำไม" "อ้อ...หน้าตาดูดีแต่ทำไมคำพูดถึงได้สวนทางกับหน้าตาเลยล่ะ" "....." ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไรไปเพราะดูรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังพยายามหาเรื่องฉัน คิดว่าฉันจะหลงกลง่ายๆ เหรอ รู้จักคนอย่างเขมิกาน้อยไปซะแล้ว มีปากก็พูดไปเถอะเจอของจริงขึ้นมาจะพูดไม่ออก "อยากจะรู้จริงๆ ว่านายหัว ไปรักไปชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง เท่าที่ฉันรู้นายหัวชอบคนเรียบร้อยพูดน้อยนี่นา" "จะเลิกพล่ามได้ยังรำคาญ ถ้าจะมาเพื่อหาเรื่องคนอื่นก็กลับไป" "โอ๊ะโอ...เก่งซะด้วย" "....." "ฉันก็แค่ถามว่านายหัวชอบคนอย่างเธอได้ยังไง" "คิดว่าเขาจะเลือกเธองั้นหรอ ก่อนที่จะมองว่าคนอื่นไม่ดีมองตัวเองก่อน เธอกับฉันไม่เคยรู้จักกัน อย่ามาหาเรื่องฉัน" "น้ำได้แล้วจ้ะคุณเพ็ญ" "ขอบใจจ้ะภา" พรึบ! "คุณนายจะไปเดินเล่นหรอจ๊ะ" "จะไปข้างบน ถ้าเขามาก็หาข้าวให้เขาเลยไม่ต้องไปตามนะ ขอพักสักหน่อย รู้สึกอยากจะอ้วก" "จ้ะๆ คุณนาย" ฉันเดินกลับขึ้นมาข้างบนจนกระทั่งเย็น ฉันลงกลับไปที่ด้านล่างเพราะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะกลับไปแล้วล่ะ แต่ไม่ใช่ ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่แถมยังนั่งกระหนุงกระหนิงอยู่กับอีตาบ้านั่นอีกด้วย "ดีขึ้นแล้วหรอ เห็นภาบอกว่าเธอไม่ค่อยสบาย" "แค่อยากจะอ้วกใส่ใครบางคนเฉยๆ" "อะไร ใครไปทำอะไรให้" "อ้อ ก่อนหน้าที่นายหัวจะมา ฉันคุยกับเมียของนายหัวแล้วนะ เธอน่ารักดีและเป็นกันเองมาก" "แหวะ! ฉันจะไปช่วยภาในครัวนะ เชิญตามสบาย" คิดเหรอว่าฉันจะเป็นไม้กันหมาให้ได้ง่ายๆ ฝันไปเหอะ คนอย่างฉันไม่คิดจะเป็นไม้กันหมาให้ใครหรอก โดยเฉพาะหมาตัวนี้ ผ่านไปสักพัก "เพ็ญเขาจะกินข้าวกับเราด้วยนะ ภาช่วยจัดให้อีกที่ด้วยล่ะ" "ได้จ้ะนายหัว" "ฉันไม่กิน ภาจัดแค่สองที่พอ ฉันไม่หิว" "ดะ ได้จ้ะ" "เป็นอะไรไปอีก อยู่ดีๆ ก็อารมณ์เสียใส่" "ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันแค่ไม่ชอบกินข้าวกับใครหลายคน ชอบความเป็นส่วนตัว ฉันไม่ชอบปั้นหน้าเข้าสังคม" "....." "แต่ฉันว่าลองเข้าสังคมกว้างๆ บ้างก็ดีนะ เพราะการที่เราได้เข้าสังคมมันทำให้เรารู้จักอะไรๆ ดีขึ้น" "มันเรื่องของฉัน" "คุยดีๆ สิเขมิกา" "จิ๊!" "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะนายหัว เธอยังเด็ก ยังไม่รู้จักอะไรมากมายหรอก" "นี่คุณ ที่ฉันไม่กินข้าวเนี่ยเพราะฉันจะกินอย่างอื่นมากกว่า คุณรีบกินข้าวกับคนอื่นให้เสร็จเร็วๆ นะคะ ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำทาครีมหอมๆ รอคุณอยู่ข้างบน จุ๊บ" "อุ้ย คุณนายจุ๊บนายหัว น่ารักจัง" "รีบๆ นะคะ อยากกินข้าวกับคนอื่นนานเมียไม่อยากรอ" ฉันเขย่งเท้าขึ้นแล้วจูบปากเขาต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น ก่อนจะหันไปยิ้มเย้ยใส่ รู้จักคนอย่างเขมิกาน้อยไปนะป้า เด็กอย่างฉันไม่ได้ไม่รู้อะไร แต่มีวิธีจัดการต่างหากล่ะ"พูดให้มันดีๆ ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ""i am sorry ค่า พอดีว่าฉันอยู่เมืองนอกเมืองนามันหลายสิบปี แบบนี้ที่เมืองนอกใครๆ เขาก็ทำกันค่ะ" "เฮ้อ...แล้วคิดจะทำงานบ้านบ้างไหม?""ไม่อ่ะ ทำไมต้องทำด้วยล่ะ?" เธอตอบหน้าตาเฉย "ตอนนี้เธอแต่งงานเป็นเมียฉันแล้ว หน้าที่แม่บ้านดูแลเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านก็เป็นหน้าที่ของเธอไง" "ก็คนมันทำไม่เป็นอ่ะจะให้ทำยังไง" "ไม่เป็นก็หัดสิ เดี๋ยวฉันจะให้คนมาสอน" "จิ๊! น่าเบื่อ" "อยู่บ้านก็อยู่ดีๆ อย่าเดินไปที่ไหนมั่วซั่ว แถวนี้มันเป็นป่างูเงี้ยวเขี้ยวขอมันเยอะ" "ฉันว่าฉันไม่โดนงูกัดตายหรอก จะโดนใครบางคนกัดจนตายมากกว่า" "บอกแล้วไงว่าให้พูดดีๆ ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ""แล้วพูดไม่ดีตรงไหน? ลองตอบให้ฟังชัดๆ หน่อยสิคะคุณนายหัวไกร...?" "....." "ว่าแต่ แม่ของฉันขอคุยกับคุณ เรื่องอะไรหรอ จะให้ฉันกลับไปอยู่ที่กรุงเทพแล้วใช่ไหม?" "เปล่า...""เอ้า แล้วคุยอะไรกันอ่ะ""ท่านบอกว่าให้เราสองคนรีบมีลูกด้วยกัน""ห๊ะ!!!" *****************ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ "ทำหน้าให้มันดีๆ สิลูกวันนี้วันดีนะ""วันดีของคุณแม่แต่ไม่ใช่วันดีของหนูนะคะ""โถ่ลูกสาวแม่ ถ้าแม่ไม่ทำแบบนี้ลูกก
เช้าวันต่อมา เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายมากๆ คงเป็นเพราะเมื่อตอนกลางวันฉันใช้แรงเยอะมากไปหน่อย ไหนจะต้องปั้นหน้ายิ้มใส่คนที่มาร่วมงานอีก บรรยากาศที่นี่ก็ถือว่าใช้ได้เลยไม่ร้อนอบอ้าว แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนกลางวันจะร้อนหรือเปล่านะ "นี่คุณ ตอนเช้ามีอะไรกิน?""ก็ไปถามแม่บ้านเอาสิ""แล้วคุณจะออกไปไหน?""ฉันจะออกไปทำงาน เย็นๆ ถึงจะกลับมา อยากกินอะไรอยากได้อะไรก็บอกแม่บ้าน" ".....""อ้อ...อย่าแผลงฤทธิ์ล่ะ" "....." อีตาบ้าคนนี้กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉันเนี่ย สงสัยคุณแม่ต้องเล่าให้ฟังแน่ๆ เลยเรื่องที่ฉันแสบซ่าไม่ยอมใคร "นายหัวกินข้าวก่อนสิจ๊ะ กับข้าวเสร็จพอดี" "มีอะไรกินบ้างล่ะ?" "แกงไตปลากับคั่วกลิ้งจ้ะ" "อย่างอื่นไม่มีหรอ ฉันไม่เคยกินของพวกนี้" "ไม่มีแล้วจ้ะคุณนาย" "ห๊ะ ไม่มีอย่างอื่นเลยหรอ ฉันกินอาหารใต้ไม่เป็น" จะว่าฉันเรื่องมากก็ได้ แต่ฉันไม่ได้อยู่เมืองไทยนาน และฉันก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับอาหารไทยสักเท่าไร และก็พอจะรู้มาว่าอาหารใต้รสชาติค่อนข้างแรง ฉันไม่กินเผ็ดนี่สิ "จะเรื่องมากทำไม กับข้าวก็ไม่ได้ทำเอง ที่นี่มีอะไรเขาก็กินอันนั้นกันนั่นแหละ""ฉันไม่ได้เรื่องมากนะ ฉันกินเผ็ดไม่ได้ ทำไมต้
ตกดึกคืนหนึ่ง กึกๆ แก๊กๆ ครืดด~ ปึก! เสียงคล้ายกับใครบางคนกำลังรื้อคนข้าวของ ทำให้นายหัวไกรที่ยังไม่ได้นอนหลับค่อยๆ เดินลงมาพร้อมกับปืนพกสั้นในมือ เพราะคิดว่าเป็นโจรที่แอบเข้ามาลักขโมยของหรือเปล่า"ใครน่ะ?""ว๊าย!""เธอลงมาทำอะไรกลางค่ำกลางคืนแบบนี้?!" ชายหนุ่มตวาดออกไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้มันจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบแต่เขาก็ห้ามไม่ได้แล้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย" "ก็ถ้าฉันคิดว่าเธอเป็นขโมยฉันคงลั่นไกใส่เธอไปแล้ว" "อะไรเนี่ย จะขู่กันแบบนี้อย่างเดียวเลยหรือไง ฉันก็แค่ลงมาหาขวดน้ำจะเอาใส่น้ำขึ้นไปกิน ตอนดึกๆ จะได้ไม่ต้องลงมา" "แล้วทำไมถึงไม่เปิดไฟ?""ก็ฉันหาสวิตช์ไฟไม่เจอ มีแต่ไฟโทรศัพท์เนี่ยแหละ" ".....""นี่ ขวดน้ำอยู่ตรงไหนมาช่วยหาหน่อยสิ""นี่ไงขวดน้ำ" "เอ้า อยู่ตรงนี้ได้ไงหาตั้งนาน""เธอมันเซ่อซ่าเองหรือเปล่า?""จิ๊ คนปาก..""ถ้าเธอว่าฉันปากหมาอีกคำเดียว ฉันจูบเธอแน่!""กล้าไหมล่ะ เอาสี้ถ้ากล้า แม่จะยืนให้จูบแลกลิ้นเลย" "....."จังหวะที่ชายหนุ่มเงียบไป หญิงสาวก็ฉายแสงโทรศัพท์ไปที่ตรงหน้าของเขา และเธอก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใส่เสื้อและท่อนล่างก็มีเพียงผ้าขาวม้าลายสก๊อตสีแดงพ
ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรถไปตลาดด้วยกัน เขมิกาพยายามมองไปตามทางและจดจำว่าออกมาและเลี้ยวตรงไหนบ้าง แต่รอบข้างก็ยังเต็มไปด้วยป่าที่เป็นสวนเต็มไปหมด และมันก็เหมือนๆ กันจนเธอรู้สึกสับสนไปหมด “บอกแล้วว่ามันเป็นป่า เธอออกมาคนเดียวก็หลง”“ถ้าฉันได้ออกมาบ่อยๆ ฉันก็ไม่หลงหรอกน่า คุณก็ให้ฉันออกมาบ่อยๆ สิจะได้คุ้นชินกับเส้นทาง”“ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป”“รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตราย แต่ก็ยังมาสร้างบ้านอยู่กลางป่าแบบนี้" ".....""แล้วอีกนานไหมเนี่ยกว่าจะออกไปถึงข้างนอก" "ก็สักพักล่ะ" "ไปถึงแล้วช่วยจอดแถวๆ ตู้เอทีเอ็มให้ฉันด้วยนะ" "จะกดเงินเหรอ?" "ซื้อไก่ย่างมั้ง" "ถามดีๆ ก็ตอบให้มันดีๆ บ้าง" "แล้วมันใช่เรื่องที่ต้องถามไหมล่ะ ฉันให้คุณไปจอดที่นั่นก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าให้ไปทำไม" "ถ้าอยากได้เงินมาเอาที่ฉัน ไม่ต้องไปกดเอง""ทำไม?" "ค่าใช้จ่ายของเธอทุกอย่างฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง อยากได้อะไรซื้ออะไรให้มาบอก" "ไม่เอาด้วยหรอก เดี๋ยวถ้าฉันซื้ออะไรมากไปแพงไปคุณก็จะมาว่าฉันอีก ฉันใช้เงินของตัวเองดีกว่าสบายใจกว่าตั้งเยอะ" "ตามใจ"ไม่นานทั้งสองก็มาถึงยังตลาดในเมือง แต่ถึงอย่างนั้นอะไรต่อมิอะไรก็ไม่ได
เวลาผ่านไป ฉันอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้รับรู้อะไรโลกภายนอกเลยมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะขังฉันเหมือนหมูหมากาไก่ไม่ให้ออกไปข้างนอก จะมีบ้างที่ฉันได้ออกไปข้างนอกโดยที่มีเขาเป็นคนพาไป "คุณนาย""วันนี้มีอะไรกินบ้าง""มีคั่วกลิ้ง มีแกงส้มไข่ปลา แต่ภาพยายามทำไม่ให้เผ็ดแล้วนะจ๊ะคุณนายน่าจะกินได้" "อื้ม..." "นั่งลงสิเธอไม่กินข้าวหรือไง""ฉันต้องอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่?""ทำไมถึงถามแบบนี้" "แล้วฉันจะไม่มีโอกาสมีชีวิตเป็นของตัวเองเลยหรอ ฉันต้องอยู่ที่นี่แล้วฟังคำสั่งจากคุณ คุณห้ามทำอะไรฉันก็ต้องไม่ทำ คุณสั่งให้ฉันทำอะไรฉันก็ต้องทำ เหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่โดนคุณล่ามโซ่เอาไว้อยู่" "แล้วเธอจะออกไปทำงานอะไร อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วคอยจัดการเรื่องบัญชีให้ฉัน แม่ของเธอบอกว่าเธอเก่งเรื่องคณิตศาสตร์" "....." ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขากับแม่ของฉันคุยกันบ่อยขนาดไหน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจสืบเรื่องราวของฉันจากแม่ของฉันมาโดยเฉพาะเลย "ฉันต้องออกไปทำงาน พักกลางวันอาจจะกลับมา เตรียมกับข้าวกลางวันไว้ด้วยล่ะ""จะกลับมาทำไมปกติคุณก็ไม่ได้กลับนี่" "วันนี้ออกไปทำที่สวนใกล้ๆไม่อยากจะห่อข้าวไป กลับมากินที่
ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรถไปตลาดด้วยกัน เขมิกาพยายามมองไปตามทางและจดจำว่าออกมาและเลี้ยวตรงไหนบ้าง แต่รอบข้างก็ยังเต็มไปด้วยป่าที่เป็นสวนเต็มไปหมด และมันก็เหมือนๆ กันจนเธอรู้สึกสับสนไปหมด “บอกแล้วว่ามันเป็นป่า เธอออกมาคนเดียวก็หลง”“ถ้าฉันได้ออกมาบ่อยๆ ฉันก็ไม่หลงหรอกน่า คุณก็ให้ฉันออกมาบ่อยๆ สิจะได้คุ้นชินกับเส้นทาง”“ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป”“รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตราย แต่ก็ยังมาสร้างบ้านอยู่กลางป่าแบบนี้" ".....""แล้วอีกนานไหมเนี่ยกว่าจะออกไปถึงข้างนอก" "ก็สักพักล่ะ" "ไปถึงแล้วช่วยจอดแถวๆ ตู้เอทีเอ็มให้ฉันด้วยนะ" "จะกดเงินเหรอ?" "ซื้อไก่ย่างมั้ง" "ถามดีๆ ก็ตอบให้มันดีๆ บ้าง" "แล้วมันใช่เรื่องที่ต้องถามไหมล่ะ ฉันให้คุณไปจอดที่นั่นก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าให้ไปทำไม" "ถ้าอยากได้เงินมาเอาที่ฉัน ไม่ต้องไปกดเอง""ทำไม?" "ค่าใช้จ่ายของเธอทุกอย่างฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง อยากได้อะไรซื้ออะไรให้มาบอก" "ไม่เอาด้วยหรอก เดี๋ยวถ้าฉันซื้ออะไรมากไปแพงไปคุณก็จะมาว่าฉันอีก ฉันใช้เงินของตัวเองดีกว่าสบายใจกว่าตั้งเยอะ" "ตามใจ"ไม่นานทั้งสองก็มาถึงยังตลาดในเมือง แต่ถึงอย่างนั้นอะไรต่อมิอะไรก็ไม่ได
ตกดึกคืนหนึ่ง กึกๆ แก๊กๆ ครืดด~ ปึก! เสียงคล้ายกับใครบางคนกำลังรื้อคนข้าวของ ทำให้นายหัวไกรที่ยังไม่ได้นอนหลับค่อยๆ เดินลงมาพร้อมกับปืนพกสั้นในมือ เพราะคิดว่าเป็นโจรที่แอบเข้ามาลักขโมยของหรือเปล่า"ใครน่ะ?""ว๊าย!""เธอลงมาทำอะไรกลางค่ำกลางคืนแบบนี้?!" ชายหนุ่มตวาดออกไปด้วยอารมณ์โกรธ แม้มันจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบแต่เขาก็ห้ามไม่ได้แล้ว "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย" "ก็ถ้าฉันคิดว่าเธอเป็นขโมยฉันคงลั่นไกใส่เธอไปแล้ว" "อะไรเนี่ย จะขู่กันแบบนี้อย่างเดียวเลยหรือไง ฉันก็แค่ลงมาหาขวดน้ำจะเอาใส่น้ำขึ้นไปกิน ตอนดึกๆ จะได้ไม่ต้องลงมา" "แล้วทำไมถึงไม่เปิดไฟ?""ก็ฉันหาสวิตช์ไฟไม่เจอ มีแต่ไฟโทรศัพท์เนี่ยแหละ" ".....""นี่ ขวดน้ำอยู่ตรงไหนมาช่วยหาหน่อยสิ""นี่ไงขวดน้ำ" "เอ้า อยู่ตรงนี้ได้ไงหาตั้งนาน""เธอมันเซ่อซ่าเองหรือเปล่า?""จิ๊ คนปาก..""ถ้าเธอว่าฉันปากหมาอีกคำเดียว ฉันจูบเธอแน่!""กล้าไหมล่ะ เอาสี้ถ้ากล้า แม่จะยืนให้จูบแลกลิ้นเลย" "....."จังหวะที่ชายหนุ่มเงียบไป หญิงสาวก็ฉายแสงโทรศัพท์ไปที่ตรงหน้าของเขา และเธอก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใส่เสื้อและท่อนล่างก็มีเพียงผ้าขาวม้าลายสก๊อตสีแดงพ
เช้าวันต่อมา เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายมากๆ คงเป็นเพราะเมื่อตอนกลางวันฉันใช้แรงเยอะมากไปหน่อย ไหนจะต้องปั้นหน้ายิ้มใส่คนที่มาร่วมงานอีก บรรยากาศที่นี่ก็ถือว่าใช้ได้เลยไม่ร้อนอบอ้าว แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนกลางวันจะร้อนหรือเปล่านะ "นี่คุณ ตอนเช้ามีอะไรกิน?""ก็ไปถามแม่บ้านเอาสิ""แล้วคุณจะออกไปไหน?""ฉันจะออกไปทำงาน เย็นๆ ถึงจะกลับมา อยากกินอะไรอยากได้อะไรก็บอกแม่บ้าน" ".....""อ้อ...อย่าแผลงฤทธิ์ล่ะ" "....." อีตาบ้าคนนี้กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉันเนี่ย สงสัยคุณแม่ต้องเล่าให้ฟังแน่ๆ เลยเรื่องที่ฉันแสบซ่าไม่ยอมใคร "นายหัวกินข้าวก่อนสิจ๊ะ กับข้าวเสร็จพอดี" "มีอะไรกินบ้างล่ะ?" "แกงไตปลากับคั่วกลิ้งจ้ะ" "อย่างอื่นไม่มีหรอ ฉันไม่เคยกินของพวกนี้" "ไม่มีแล้วจ้ะคุณนาย" "ห๊ะ ไม่มีอย่างอื่นเลยหรอ ฉันกินอาหารใต้ไม่เป็น" จะว่าฉันเรื่องมากก็ได้ แต่ฉันไม่ได้อยู่เมืองไทยนาน และฉันก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับอาหารไทยสักเท่าไร และก็พอจะรู้มาว่าอาหารใต้รสชาติค่อนข้างแรง ฉันไม่กินเผ็ดนี่สิ "จะเรื่องมากทำไม กับข้าวก็ไม่ได้ทำเอง ที่นี่มีอะไรเขาก็กินอันนั้นกันนั่นแหละ""ฉันไม่ได้เรื่องมากนะ ฉันกินเผ็ดไม่ได้ ทำไมต้
"พูดให้มันดีๆ ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ""i am sorry ค่า พอดีว่าฉันอยู่เมืองนอกเมืองนามันหลายสิบปี แบบนี้ที่เมืองนอกใครๆ เขาก็ทำกันค่ะ" "เฮ้อ...แล้วคิดจะทำงานบ้านบ้างไหม?""ไม่อ่ะ ทำไมต้องทำด้วยล่ะ?" เธอตอบหน้าตาเฉย "ตอนนี้เธอแต่งงานเป็นเมียฉันแล้ว หน้าที่แม่บ้านดูแลเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านก็เป็นหน้าที่ของเธอไง" "ก็คนมันทำไม่เป็นอ่ะจะให้ทำยังไง" "ไม่เป็นก็หัดสิ เดี๋ยวฉันจะให้คนมาสอน" "จิ๊! น่าเบื่อ" "อยู่บ้านก็อยู่ดีๆ อย่าเดินไปที่ไหนมั่วซั่ว แถวนี้มันเป็นป่างูเงี้ยวเขี้ยวขอมันเยอะ" "ฉันว่าฉันไม่โดนงูกัดตายหรอก จะโดนใครบางคนกัดจนตายมากกว่า" "บอกแล้วไงว่าให้พูดดีๆ ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ""แล้วพูดไม่ดีตรงไหน? ลองตอบให้ฟังชัดๆ หน่อยสิคะคุณนายหัวไกร...?" "....." "ว่าแต่ แม่ของฉันขอคุยกับคุณ เรื่องอะไรหรอ จะให้ฉันกลับไปอยู่ที่กรุงเทพแล้วใช่ไหม?" "เปล่า...""เอ้า แล้วคุยอะไรกันอ่ะ""ท่านบอกว่าให้เราสองคนรีบมีลูกด้วยกัน""ห๊ะ!!!" *****************ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ "ทำหน้าให้มันดีๆ สิลูกวันนี้วันดีนะ""วันดีของคุณแม่แต่ไม่ใช่วันดีของหนูนะคะ""โถ่ลูกสาวแม่ ถ้าแม่ไม่ทำแบบนี้ลูกก