ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตั้งรับการกระทำคาดคั้นของคนใจร้ายตรงหน้าคนนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเขาได้ตัดสินไปแล้วว่าเธอคือคนผิด โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้แก้ต่างหรืออธิบายอะไรออกไปเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เขาจะตีหน้ากันอย่างที่พูดออกมาทั้งหมด
“มัทไม่ทราบจริง ๆ ค่ะคุณวิน มัทไม่รู้เรื่องพินัยกรรมของคุณท่านจริง ๆ นะคะคุณผู้หญิง” ต่อให้กวินภพคาดคั้นแค่ไหนหญิงสาวก็ยังจะขอยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องพินัยกรรมของเจ้าสัวไกรวิทย์มาก่อน ไม่รู้เลยสักนิดว่าผู้มีพระคุณของตัวเองจะเขียนพินัยกรรมแบบนั้นขึ้นมา เพราะว่าท่านไม่เคยบอกหรือพูดอะไรเกี่ยวกับมันให้เธอได้รับรู้เลยแม้แต่คำเดียว
“เธอจะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นคนเดียวที่อยู่กับปู่ของฉันจนวันสุดท้ายของท่าน นี่คงจะไปเป่าหูท่านก่อนตายสิใช่ไหม ท่านถึงได้สั่งให้ฉันแต่งงานด้วยแบบนี้ หน้าด้าน! ไร้ยางอาย!” คำด่าทอที่รุนแรงไม่ต่างอะไรกับการถูกน้ำกรดร้อน ๆ สาดใส่หน้ากันนั้น ทำให้คนฟังปวดหนึบที่อกข้างซ้ายขึ้นมาอย่างหักห้ามไม่อยู่
มัทนาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดกับคำสบประมาทที่เขามอบให้กัน ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ตกใจกับเรื่องตรงหน้าจนแทบจะตั้งรับไม่ทันแท้ ๆ แต่เขาก็ยังไม่วายด่าทอกันไม่หยุดหย่อน ราวกับจะไม่มีทางมองเธอในด้านดีได้เลย หญิงสาวยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าอะไรมันทำให้เขาเกลียดเธอได้มากถึงเพียงนี้
“จะให้มัทตอบอีกสักกี่ครั้งมัทก็ไม่รู้เรื่องจริง ๆ ค่ะ มัทมีหน้าที่แค่คอยดูแลรับใช้คุณท่านตามที่ท่านสั่งเท่านั้น ส่วนเรื่องพินัยกรรมของท่าน ต่อให้คุณวินไม่เชื่อมัทก็ขอยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้เรื่องจริง ๆ” หญิงสาวยังคงยืนกรานหนักแน่นไปตามความจริง และดูเหมือนว่าต่อให้เธอจะอธิบายไปจนตายคนตรงหน้าก็ไม่ยอมปักใจเชื่อกันอยู่ดี
กวินภพไม่คิดที่จะมองเธอในแง่ดีเลยสักครั้ง เพราะเวลาเจอหน้ากันแต่ละทีเขาก็เอาแต่กล่าวหาว่าเธอทำดีเพื่อหวังเพียงแค่จะตบตาทุก ๆ คน เพื่อหวังทรัพย์สมบัติของตระกูลของตัวเอง
ซึ่งความจริงแล้วไม่มีเลยสักครั้งที่ความคิดเหล่านั้นจะฉายเข้ามาในหัวของมัทนา หญิงสาวรู้สถานะและที่ไปที่มาของตนเองดี และยังรู้สึกซาบซึ้งต่อบุญคุณของทุก ๆ คนในบ้านหลังนี้ที่ต้อนรับและมอบน้ำใจให้เธอเสมอมา
“ฉันไม่เชื่อ!”
“แต่แม่เชื่อ แม่อยู่กับมัทนามานานกว่าเรานะตาวิน และแม่ก็เชื่อว่ามัทนาไม่ได้โกหก ลูกเองก็รู้ว่าคุณปู่เคยเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วถ้าไม่ได้พ่อกับแม่ของมัทนาช่วยท่านเอาไว้ บางทีที่ท่านทำแบบนี้ก็คงเพราะอยากให้มัทนามีหลักประกันในชีวิตก็ได้นะลูก ลูกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าคุณปู่เรายึดถือเรื่องบุญคุณต้องทดแทนแค่ไหน” คุณหญิงลัดดาวัลย์เอ่ยขึ้นยาวเหยียดไปตามที่รู้สึก แม้ว่าจะยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อได้คือสายตาใสซื่อของหญิงสาวตรงหน้าที่มันไม่ได้ฉายแววความโกหกให้ได้เห็นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“คุณแม่! นี่คุณแม่เข้าข้างเธอเหรอครับ อ้อ ใช่สินะ ผมลืมไปว่านอกจากคุณปู่แล้ว เธอยังเป็นคนโปรดของคุณแม่ด้วยอีกคน เธอนี่ก็เก่งใช่เล่นนะมัทนา เพราะนอกจากเธอจะปั่นหัวคุณปู่ของฉันได้แล้วยังทำให้แม่ของฉันรักเสียยิ่งกว่าลูกในไส้ได้อีกด้วย ช่างเป็นความสามารถที่น่าปรบมือให้จริง ๆ” กวินภพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งสะบัดต้นแขนเรียวออกห่างอย่างแรงจนหญิงสาวกระเด็นไปไกลตัวจนเกือบจะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เขาจ้องมองด้วยสายตาดุดัน ไม่นานก็หันหลังและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“ตาวิน! แล้วนั่นแกจะออกไปไหนอีก กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ!” คุณหญิงลัดดาวัลย์ตะโกนไล่ตามหลัง แต่ก็ช้ากว่าฝีเท้าของลูกชายตัวดีที่ยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หันกลับมามองผู้เป็นแม่เป็นครั้งที่สองอีกเลย
“คุณหญิงคะ มัทไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะคะ คุณหญิงเชื่อมัทนะคะ มัทไม่เคยต้องการสมบัติของคุณท่าน ไม่เคยต้องการแต่งงานกับคุณวิน แค่บุญคุณที่คุณท่านเลี้ยงดูส่งเสียให้มัทมีโอกาสได้เรียนจนจบมัทก็ไม่รู้จะตอบแทนท่านได้ยังไงแล้ว มัทไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ นะคะ” มัทนาเอ่ยบอกนายหญิงที่มีเมตตาต่อเธอมากทั้งน้ำตา หญิงสาวจำต้องรีบจ้องมองใบหน้าของผู้สูงวัยโดยไม่คิดหลบสายตาเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วย
“ฉันเชื่อที่เธอพูดมาทั้งหมดนะมัท แต่ข้อความในพินัยกรรมมันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้เหมือนกัน ในเมื่อคุณพ่อต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามพินัยกรรมที่ท่านเขียนอย่างไม่มีเงื่อนไข ฉันหวังว่าเธอคงเข้าใจนะ ส่วนเรื่องตาวินเดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องห่วง” หญิงสาวพยักหน้ารับความจริงที่เข้าใจดีทั้งน้ำตา แม้ว่าใจอยากจะขัดแค่ไหน แต่ด้วยสถานะอันต่ำต้อยของตัวเองในตอนนี้มันยากเหลือเกินที่เธอจะกล้าปริปากเอ่ยอะไรออกไป
สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งให้มากขึ้น และพยายามทำทุก ๆ อย่างเพื่อที่จะได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้อุณหภูมิห้องสวีทสุดหรูชั้นบนสุดที่เย็นเฉียบกำลังปรากฏร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังแลกรัดกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงอยู่บนเตียงคิงไซส์กันอย่างไม่มีใครยอมใครเหงื่อหยดแล้วหยดเล่าร่วงไหลอาบแก้มสากยามเมื่อสะโพกหนาขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะตามแรงปรารถนาที่มีต่อนางแมวยั่วสวาทใต้ร่าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบสนองด้วยการแอ่นกายยืนหยัดต้อนรับสัมผัสอันเร่าร้อนอย่างเต็มใจกลับไปพร้อม ๆ กับเสียงร้องครวญครางของทั้งคู่ที่ดังไม่หยุดหย่อนมาตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านพ้นมาไม่นานกวินภพผละตัวออกห่างจาก ลิลิน สุทธิดำรงราช คู่ขาสาวสวยดีกรีนางแบบระดับแถวหน้าของวงการที่เขาโทร.เรียกให้เจ้าหล่อนมาหาที่คอนโดฯ ทันทีที่ภารกิจบนเตียงอันเร่าร้อนที่กินเวลายาวนานถึงสองชั่วโมงเต็มระหว่างเขาและเธอสิ้นสุดลงชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงถอดถุงยางอนามัยยี่ห้อดังกลิ่นโปรด ที่เขาไม่เคยที่จะไม่ใช้มันทุกครั้งออกจากกายก่อนจะโยนมันทิ้งที่ขยะข้างเตียงอย่างไม่สนใจใยดีพร้อม ๆ กับเซ็นเ
“ป้าแจ่ม มัทนอนไม่หลับจ้ะ เลยออกมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ต่อให้ไม่มีเรื่องให้ต้องคิด ไม่ว่ายังไงเธอก็คงไม่สามารถข่มตาให้หลับลงไปได้ง่าย ๆ อยู่ดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันจะมีผลต่อชีวิตทั้งชีวิตของเธอไปอีกนานเท่านานเลยก็ว่าได้ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยที่จู่ ๆ เธอจะต้องไปแต่งงานกับผู้ชายที่เกลียดเธอเสียยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนเอาอย่างนั้น ไม่ใช่เลยสักนิด! “กำลังคิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่ล่ะสิ อย่าไปคิดมากให้มันปวดหัวไปเลยมัทเอ๊ย! อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เรื่องบางเรื่องเราก็ห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้นมาได้หรอก”หัวหน้าแม่บ้านผู้สูงวัยเอ่ยบอกก่อนจะลูบหัวหญิงสาวที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ รักเสมือนกับลูกคนหนึ่ง หวงแหนเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดด้วยท่าทางอ่อนโยน ไม่แปลกเลยที่นางจะออกโรงปกป้องและให้กำลังใจในยามที่มัทนาไม่เหลือใครเป็นที่พึ่งเฉกเช่นตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนมักจะมีท่านเจ้าสัวไกรวิทย์คอยดูแลและปกป้องหญิงสาว แต่ตอนนี้เมื่อท่านไม่อยู่แล้วหน้าที่ที่ว่าเธอเองก็คงต้องสานต่อเพื่อให้ท่านได้จากไปอย่างสงบโดยไม่ต้องติดห่วงมัทนาอีกต่อไป “มัทไม่เข้าใจเลยจ
“ผมไม่แต่ง!” เสียงกึกก้องของ กวินภพ มลทนาพร ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมลทนาพรตระกูลเก่าแก่ที่ใครต่างก็รู้จักกันดีในฐานะตระกูลของเจ้าหลวงผู้ดีเก่าที่ถูกสืบทอดมายังรุ่นต่อรุ่น ดังขึ้นกลางห้องโถงใหญ่ภายในบ้าน ทันทีที่ได้รับทราบถึงพินัยกรรมของเจ้าสัวไกรวิทย์ มลทนาพร ผู้เป็นปู่ที่เพิ่งจะล่วงลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนจากทนายประจำตระกูลที่เริ่มต้นอ่านพินัยกรรมมานานร่วมหนึ่งชั่วโมงด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าข้อความในพินัยกรรมนั้นต่างสร้างความตกใจให้กับเหล่าบรรดาญาติที่เดินทางมาร่วมฟังการเปิดพินัยกรรมในวันนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกวินภพ ผู้เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของผู้ลาลับ ที่เพิ่งกลับจากอังกฤษเมื่อไม่กี่วันก่อน ชายหนุ่มยอมรับได้ทุกอย่างที่ถูกเขียนเอาไว้ในพินัยกรรม ที่ใคร ๆ ต่างก็พากันให้ความสนใจกับมัน เว้นก็แต่คำสั่งเสียสุดท้ายของผู้เป็นปู่ ที่บังคับให้เขาแต่งงานกับสาวใช้ภายในบ้าน ผู้หญิงที่เขาเกลียดเสียยิ่งกว่าอะไรคนนั้น! เพียงเพราะอยากจะตอบแทนที่พ่อกับแม่ของหล่อนเคยเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงช่วยชีวิตของท่านเอาไว้ ก่อนที่คนพวกนั้นจะถูกศัตรูของท่านสั่งคนไป
“เธอทำบ้าอะไรกับปู่ฉันห๊ะยัยกาฝาก!” เสียงเข้มตวาดถามทันทีที่พบหญิงสาวที่เขากำลังตามหาอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ ที่เธอมักจะชอบพาปู่ของเขาออกมานั่งเล่นอยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่จำความได้ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ถามเปล่า แต่เขายังกระชากต้นแขนแม่ตัวดีให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรง ให้สาสมกับความโกรธทั้งหมดที่เขากำลังมีต่อเธอ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณวิน! มัทเจ็บค่ะ” มัทนา ดวงใจ สาวใช้ที่ทำหน้าที่ดูแลเจ้าสัวไกรวิทย์เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อจู่ ๆ หลานชายเพียงคนเดียวของผู้ที่มีพระคุณของเธอก็เดินตรงเข้ามาตวาดใส่หน้ากัน ทั้ง ๆ ที่น้อยครั้งมากที่เขาจะเข้ามาพูดคุยกับสาวใช้ต่ำต้อยในบ้านอย่างเธอ เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นตอนที่เธอมีอายุได้เพียงแค่เจ็ดขวบ จากเด็กสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่เติบโตมาจากพ่อกับแม่ที่ทำงานเป็นชาวประมงธรรมดาหาเช้ากินค่ำ แต่แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งพ่อและแม่ของเธอบังเอิญเข้าไปช่วยเหลือเจ้าสัวไกรวิทย์ที่ถูกลอบยิงจนได้รับบาดเจ็บเข้า ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้พวกมันย้อนกลับมาจัดการกับพวกท่านทีหลัง เหลือไว้เพียงแต่เด็กสาววัยเจ็ดขวบที่หลบซ่อนอยู่ในโอ่งใบเล็ก ก่อนจะถูกชายชราที่เ
“ป้าแจ่ม มัทนอนไม่หลับจ้ะ เลยออกมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ต่อให้ไม่มีเรื่องให้ต้องคิด ไม่ว่ายังไงเธอก็คงไม่สามารถข่มตาให้หลับลงไปได้ง่าย ๆ อยู่ดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันจะมีผลต่อชีวิตทั้งชีวิตของเธอไปอีกนานเท่านานเลยก็ว่าได้ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยที่จู่ ๆ เธอจะต้องไปแต่งงานกับผู้ชายที่เกลียดเธอเสียยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนเอาอย่างนั้น ไม่ใช่เลยสักนิด! “กำลังคิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่ล่ะสิ อย่าไปคิดมากให้มันปวดหัวไปเลยมัทเอ๊ย! อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เรื่องบางเรื่องเราก็ห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้นมาได้หรอก”หัวหน้าแม่บ้านผู้สูงวัยเอ่ยบอกก่อนจะลูบหัวหญิงสาวที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ รักเสมือนกับลูกคนหนึ่ง หวงแหนเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดด้วยท่าทางอ่อนโยน ไม่แปลกเลยที่นางจะออกโรงปกป้องและให้กำลังใจในยามที่มัทนาไม่เหลือใครเป็นที่พึ่งเฉกเช่นตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนมักจะมีท่านเจ้าสัวไกรวิทย์คอยดูแลและปกป้องหญิงสาว แต่ตอนนี้เมื่อท่านไม่อยู่แล้วหน้าที่ที่ว่าเธอเองก็คงต้องสานต่อเพื่อให้ท่านได้จากไปอย่างสงบโดยไม่ต้องติดห่วงมัทนาอีกต่อไป “มัทไม่เข้าใจเลยจ
สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งให้มากขึ้น และพยายามทำทุก ๆ อย่างเพื่อที่จะได้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้อุณหภูมิห้องสวีทสุดหรูชั้นบนสุดที่เย็นเฉียบกำลังปรากฏร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังแลกรัดกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงอยู่บนเตียงคิงไซส์กันอย่างไม่มีใครยอมใครเหงื่อหยดแล้วหยดเล่าร่วงไหลอาบแก้มสากยามเมื่อสะโพกหนาขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะตามแรงปรารถนาที่มีต่อนางแมวยั่วสวาทใต้ร่าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบสนองด้วยการแอ่นกายยืนหยัดต้อนรับสัมผัสอันเร่าร้อนอย่างเต็มใจกลับไปพร้อม ๆ กับเสียงร้องครวญครางของทั้งคู่ที่ดังไม่หยุดหย่อนมาตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านพ้นมาไม่นานกวินภพผละตัวออกห่างจาก ลิลิน สุทธิดำรงราช คู่ขาสาวสวยดีกรีนางแบบระดับแถวหน้าของวงการที่เขาโทร.เรียกให้เจ้าหล่อนมาหาที่คอนโดฯ ทันทีที่ภารกิจบนเตียงอันเร่าร้อนที่กินเวลายาวนานถึงสองชั่วโมงเต็มระหว่างเขาและเธอสิ้นสุดลงชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงถอดถุงยางอนามัยยี่ห้อดังกลิ่นโปรด ที่เขาไม่เคยที่จะไม่ใช้มันทุกครั้งออกจากกายก่อนจะโยนมันทิ้งที่ขยะข้างเตียงอย่างไม่สนใจใยดีพร้อม ๆ กับเซ็นเ
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตั้งรับการกระทำคาดคั้นของคนใจร้ายตรงหน้าคนนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเขาได้ตัดสินไปแล้วว่าเธอคือคนผิด โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้แก้ต่างหรืออธิบายอะไรออกไปเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เขาจะตีหน้ากันอย่างที่พูดออกมาทั้งหมด“มัทไม่ทราบจริง ๆ ค่ะคุณวิน มัทไม่รู้เรื่องพินัยกรรมของคุณท่านจริง ๆ นะคะคุณผู้หญิง” ต่อให้กวินภพคาดคั้นแค่ไหนหญิงสาวก็ยังจะขอยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องพินัยกรรมของเจ้าสัวไกรวิทย์มาก่อน ไม่รู้เลยสักนิดว่าผู้มีพระคุณของตัวเองจะเขียนพินัยกรรมแบบนั้นขึ้นมา เพราะว่าท่านไม่เคยบอกหรือพูดอะไรเกี่ยวกับมันให้เธอได้รับรู้เลยแม้แต่คำเดียว“เธอจะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นคนเดียวที่อยู่กับปู่ของฉันจนวันสุดท้ายของท่าน นี่คงจะไปเป่าหูท่านก่อนตายสิใช่ไหม ท่านถึงได้สั่งให้ฉันแต่งงานด้วยแบบนี้ หน้าด้าน! ไร้ยางอาย!” คำด่าทอที่รุนแรงไม่ต่างอะไรกับการถูกน้ำกรดร้อน ๆ สาดใส่หน้ากันนั้น ทำให้คนฟังปวดหนึบที่อกข้างซ้ายขึ้นมาอย่างหักห้ามไม่อยู่มัทนาจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดกับคำสบประมาทที่เขามอบให้กัน ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ตกใจกับเรื่องตรง
“เธอทำบ้าอะไรกับปู่ฉันห๊ะยัยกาฝาก!” เสียงเข้มตวาดถามทันทีที่พบหญิงสาวที่เขากำลังตามหาอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ ที่เธอมักจะชอบพาปู่ของเขาออกมานั่งเล่นอยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่จำความได้ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ถามเปล่า แต่เขายังกระชากต้นแขนแม่ตัวดีให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรง ให้สาสมกับความโกรธทั้งหมดที่เขากำลังมีต่อเธอ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณวิน! มัทเจ็บค่ะ” มัทนา ดวงใจ สาวใช้ที่ทำหน้าที่ดูแลเจ้าสัวไกรวิทย์เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อจู่ ๆ หลานชายเพียงคนเดียวของผู้ที่มีพระคุณของเธอก็เดินตรงเข้ามาตวาดใส่หน้ากัน ทั้ง ๆ ที่น้อยครั้งมากที่เขาจะเข้ามาพูดคุยกับสาวใช้ต่ำต้อยในบ้านอย่างเธอ เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นตอนที่เธอมีอายุได้เพียงแค่เจ็ดขวบ จากเด็กสาวธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่เติบโตมาจากพ่อกับแม่ที่ทำงานเป็นชาวประมงธรรมดาหาเช้ากินค่ำ แต่แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งพ่อและแม่ของเธอบังเอิญเข้าไปช่วยเหลือเจ้าสัวไกรวิทย์ที่ถูกลอบยิงจนได้รับบาดเจ็บเข้า ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้พวกมันย้อนกลับมาจัดการกับพวกท่านทีหลัง เหลือไว้เพียงแต่เด็กสาววัยเจ็ดขวบที่หลบซ่อนอยู่ในโอ่งใบเล็ก ก่อนจะถูกชายชราที่เ
“ผมไม่แต่ง!” เสียงกึกก้องของ กวินภพ มลทนาพร ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมลทนาพรตระกูลเก่าแก่ที่ใครต่างก็รู้จักกันดีในฐานะตระกูลของเจ้าหลวงผู้ดีเก่าที่ถูกสืบทอดมายังรุ่นต่อรุ่น ดังขึ้นกลางห้องโถงใหญ่ภายในบ้าน ทันทีที่ได้รับทราบถึงพินัยกรรมของเจ้าสัวไกรวิทย์ มลทนาพร ผู้เป็นปู่ที่เพิ่งจะล่วงลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนจากทนายประจำตระกูลที่เริ่มต้นอ่านพินัยกรรมมานานร่วมหนึ่งชั่วโมงด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าข้อความในพินัยกรรมนั้นต่างสร้างความตกใจให้กับเหล่าบรรดาญาติที่เดินทางมาร่วมฟังการเปิดพินัยกรรมในวันนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกวินภพ ผู้เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของผู้ลาลับ ที่เพิ่งกลับจากอังกฤษเมื่อไม่กี่วันก่อน ชายหนุ่มยอมรับได้ทุกอย่างที่ถูกเขียนเอาไว้ในพินัยกรรม ที่ใคร ๆ ต่างก็พากันให้ความสนใจกับมัน เว้นก็แต่คำสั่งเสียสุดท้ายของผู้เป็นปู่ ที่บังคับให้เขาแต่งงานกับสาวใช้ภายในบ้าน ผู้หญิงที่เขาเกลียดเสียยิ่งกว่าอะไรคนนั้น! เพียงเพราะอยากจะตอบแทนที่พ่อกับแม่ของหล่อนเคยเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงช่วยชีวิตของท่านเอาไว้ ก่อนที่คนพวกนั้นจะถูกศัตรูของท่านสั่งคนไป