แชร์

บทที่ 31

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
ทันทีที่ซังหนี่ขึ้นรถแท็กซี่ โทรศัพท์จากคุณนายซังก็ดังขึ้น “รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ”

ไม่รอให้ซังหนี่ตอบ คุณนายซังก็วางสายไปแล้ว

ซังหนี่ก็ไม่ได้ลังเล เธอเอง...ก็กำลังจะกลับอยู่แล้ว

เห็นได้ชัดว่าคุณนายซังโกรธจนถึงขีดสุด

เพราะในขณะที่ซังหนี่ก้าวเข้ามาในประตูบ้าน คุณนายซังถึงกับไม่เว้นช่องว่างให้ซังหนี่ได้เดินเข้ามาด้วยซ้ำ ตรงเข้ามายกมือขึ้นตบหน้าซังหนี่ทันที!

เธอออกแรงอย่างหนักหน่วง เส้นผมข้างใบหูของซังหนี่ปรกหน้าลงมาทันที ส่วนหูก็อื้ออึงไปหมด

“แกรู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป?!”

ทว่าคุณนายซังก็ยังไม่หายโกรธ กำลังจะยกมือขึ้นตบเธออีกครั้ง น้ำเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้น “หยุดนะ”

คิ้วของคุณนายซังยังคงขมวดเข้าหากัน แต่สุดท้ายก็ลดมือลง

เมื่อซังหนี่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นคนที่เดินลงมาจากชั้นบนพอดี

ชายคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตเรียบร้อย ทับด้วยเสื้อกั๊กสีเทา ผมสีดำแซมขาว ทว่าท่าทางยังคงสง่าผ่าเผย ใบหน้าก็ดูไม่ออกแม้แต่น้อยเลยว่าแก่ชรา

ในขณะที่ซังหนี่มองเขา นายท่านซังก็ดึงตัวคุณนายซังเข้าไปหา “ลูกโตขนาดนี้แล้ว ใช้กำลังไปจะมีประโยชน์อะไร?”

“คุณคิดว่าฉันอยากลงไม้ลงมือเหรอ? คุณดูสิว่าเธอทำอะไรลงไป?!”

คุณนายซัง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 32

    เพราะอะไร?ซังหนี่ในวัยเด็ก ตอนที่เพิ่งกลับมาที่บ้านนี้ เธออยากรู้คำตอบของคำถามนี้มากเพราะในตอนนั้น สิ่งที่ซังฉิงทำเพื่อเอาใจพวกเขา เธอก็พยายามทำเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่ชอบเธออยู่ดีจนกระทั่งวันหนึ่ง เธอชงชาให้แม่ของเธอด้วยตนเอง คุณนายซังกล่าวขอบคุณเธอแบบขอไปที แต่พอหันหลังกลับก็เทชาถ้วยนั้นทิ้งลงในกระถางดอกไม้และในคืนวันนั้น ซังหนี่ก็ได้ยินบทสนทนาของพ่อแม่โดยบังเอิญเป็นคุณนายซังที่กำลังถามว่า จำเป็นต้องพาซังหนี่ไปตรวจเอชไอวีหรือไม่ในตอนนั้น ซังหนี่ไม่รู้ว่าเอชไอวีคืออะไรพอเธอโตขึ้นอีกหน่อยถึงได้รู้ว่า นั่นคือ...โรคเอดส์เพราะเธอเคยเกือบถูกพ่อบุญธรรมข่มขืนเรื่องนี้ในสายตาของพวกเขาคือความอัปยศ เป็นตราบาปที่ไม่อาจลบเลือนได้แม้ว่าในตอนนั้นจะไม่ได้เกิดอะไรขึ้น แต่ในสายตาของพวกเขา เธอก็...แปดเปื้อนไปแล้วและไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกสาวของพวกเขาอีกต่อไปเมื่อนึกถึงตรงนี้ ซังหนี่ก็หลับตาลงแน่นเมื่อลืมตาขึ้น ภายในดวงตาของเธอก็สงบนิ่ง “ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ มันก็ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้ฉัน...ไม่ต้องการความรักจากพวกคุณแล้ว”“แกหมายความว่ายังไง?”“ก่อนหน้านี้พวกคุณเสียใจที่พาฉันก

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 33

    ในขณะที่ป้าคังกำลังจะเข้าไปขวางเธอ เสียงเครื่องยนต์ของรถก็ดังขึ้นจากข้างนอกป้าคังรีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที“คุณชาย รีบไปดูหน่อยค่ะ ไม่รู้ว่าคุณนายน้อยกำลังจะก่อเรื่องอะไรอีกแล้ว เก็บข้าวของเหมือนจะหนีออกจากบ้านเลยค่ะ!”สำหรับคำพูดของเธอ ฟู่เซียวหานดูเหมือนจะไม่แปลกใจมากนัก เพียงแต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นซังหนี่ก็ถือกระเป๋าลงมาพอดีฟู่เซียวหานมองไปที่กระเป๋าเดินทางของเธอก่อน จากนั้น สายตาก็ค่อย ๆ เลื่อนไปอยู่ที่แก้มของเธอบนใบหน้านั้นมีรอยฝ่ามืออยู่อย่างชัดเจนซังหนี่ไม่ได้หลบสายตาของเขา เพียงแค่ถามตรง ๆ “เราจะไปจดทะเบียนหย่ากันเมื่อไร?”“ผมแจ้งให้ทนายมาแล้ว” ฟู่เซียวหานพูดจบก็ละสายตาจากเธอ แล้วเดินตรงไปข้างหน้าแต่ซังหนี่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ต้องการอะไร”ฟู่เซียวหานกำลังจะก้าวขึ้นบันไดอยู่แล้ว พอได้ยินประโยคนี้ ก็หยุดชะงักอยู่กับที่แต่ไม่นานเขาก็หันกลับมาพูดว่า “ถึงแม้จะออกไปตัวเปล่า ก็ยังต้องเซ็นสัญญาอยู่ดี”ซังหนี่เข้าใจความหมายของเขา จึงไม่ได้โต้แย้งอะไรอีกป้าคังที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เพิ่งจะตั้งสติได้ “คุณชาย คุณกำลังจะ...หย่าเหรอคะ?!”ไม่มีใครตอบคำถามข

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 34

    ซังหนี่ยังคงจำภาพเหตุการณ์ในวันแต่งงานของเธอกับฟู่เซียวหานได้ถึงแม้จะไม่ได้รับความรักจากตระกูลซัง แต่เธอก็เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซัง ดังนั้นงานแต่งงานในตอนนั้น จึงยิ่งใหญ่อลังการมากเตรียมการแต่งงานล่วงหน้าครึ่งปี จองชุดแต่งงาน ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง แล้วจึงเลือกวันจดทะเบียนสมรส จัดงานแต่งงานช่วงเวลานั้น ซังหนี่หยุดกิจกรรมอื่น ๆ ทุกอย่างในชีวิตของเธอ และกำหนดการทั้งหมดวนเวียนอยู่กับเรื่องการแต่งงานแต่ในตอนนี้ การหย่าร้างกลับต้องการเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ และขั้นตอนการดำเนินการไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทนายความของฟู่เซียวหานจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนถึงกับไม่ต้องรอระยะเวลาสงบสติอารมณ์เลยด้วยซ้ำ ไม่นานนัก ใบทะเบียนหย่าสองใบก็ถูกวางไว้ตรงหน้าพวกเขาฟู่เซียวหานดูเหมือนจะยุ่งมากตั้งแต่เมื่อครู่นี้โทรศัพท์ก็ดังไม่หยุด พอได้ใบทะเบียนหย่ามา เขาก็หยิบขึ้นมาแล้วเดินออกไป มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์คุยไปด้วยจริง ๆ แล้วซังหนี่ยังอยากจะบอกลาเขาสักหน่อยแต่เมื่อเธอก้าวออกจากสำนักงานเขตกลับพบว่า เขาจากไปแล้วแม้แต่คำบอกลาสักคำก็ไม่ได้เหลือไว้ให้ซังหนี่ซังหนี่ยืนอยู่กับ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 35

    “ดีบ้าบออะไรล่ะ” ซ่งเสี่ยวกลอกตา “นี่เธอวาดการ์ตูนรักใส ๆ นะ! แนวหวาน ๆ อบอุ่นหัวใจ! ถ้าเธอลงแบบนี้ เว็บไซต์ของเราคงโดนด่าเละแน่!”“ฉันไม่สน ถ้าเธออารมณ์ไม่ดีก็ไปพักผ่อนซะ ฉันจะให้เธอหยุดพักครึ่งเดือน พอเธอปรับอารมณ์ตัวเองได้แล้วค่อยกลับมาวาดใหม่”เมื่อเห็นท่าทางของซ่งเสี่ยว ซังหนี่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรอีกซ่งเสี่ยวมองเธออยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า “แล้วทำไมเธอถึงหย่ากับสามีล่ะ?”“ก่อนหน้านี้ ชีวิตเธอก็ดีไม่ใช่เหรอ? มีคนคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน มีบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัด สามีก็ไม่มายุ่งกับเธอ นี่มันชีวิตในฝันชัดๆ !”ซังหนี่ไม่ได้ตอบคำถามเธอ เพียงแต่เอาหนังสือของตนเองไปวางบนชั้นหนังสือ แล้วหันไปมองเธอ “เธอยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? ฉันเลี้ยงข้าวเธอเอง”...คลับจื่อจิงที่นี่คือสถานที่ผลาญเงินชื่อดังของเมืองถง รับรองเฉพาะบุคคลมีชื่อเสียงในแวดวงเท่านั้น ทุกคนต้องมีบัตรสมาชิกถึงจะเข้าได้ปกติแล้วซังฉิงจะไม่มาสถานที่แบบนี้ เพราะถึงยังไงก็ไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์ของเธอสักเท่าไรแต่คืนนี้เธอกลับปรากฏตัวขึ้นที่นี่เพราะ...ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางโซฟาในตอนนี้ในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญในแวดวง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 36

    ไม่มีใครตอบคำถามของซังฉิงส่วนคนที่พูดถึงฉินม่อเมื่อครู่นี้ ก็เปลี่ยนเรื่องคุยทันที “ใครจะไปรู้ล่ะ? แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่สำคัญหรอก สุดท้ายก็แค่คนชั้นต่ำเท่านั้นเอง”“เอ่อ พี่เซียวหาน ผมขอชนแก้วกับพี่หน่อยครับ”ที่ผู้ชายคนนั้นพูดแบบนี้ จริง ๆ แล้วคือการขอโทษสำหรับคำพูดที่พลั้งปากไปเมื่อครู่เพราะถึงแม้ฟู่เซียวหานจะไม่ได้ชอบซังหนี่ แต่ถ้าสาเหตุการหย่าร้างของพวกเขามีฉินม่อเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องมันก็จะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงโชคดีที่ฟู่เซียวหานไม่ได้ถือสาอะไรเขา ในตอนนี้ก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับเขาดื่มไวน์หมดแก้วแล้ว คนข้าง ๆ ยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ฟู่เซียวหานกลับลุกขึ้นยืนกะทันหัน “ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะ พวกนายเล่นกันให้สนุก ค่าใช้จ่ายลงบัญชีฉันไว้”“หา? นี่...”ไม่รอให้คนอื่นได้ตอบสนอง ฟู่เซียวหานก็เดินออกไปแล้วซังฉิงรีบวิ่งตามไปทันที “พี่เซียวหานคะ!”“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”ฟู่เซียวหานหันกลับมา น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความเย็นชาซังฉิงกัดริมฝีปาก “ฉัน...ฉันนั่งแท็กซี่มา พี่ไปส่งฉันที่บ้านก่อนได้ไหมคะ?”“อืม”ฟู่เซียวหานตอบตกลงอย่างง่ายดายท่าทีของเขาก็ไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 37

    ทว่าสายตาของเขากลับไม่ได้หยุดอยู่ที่เธอเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจเลยว่าเธอมาอยู่ที่นี่ทำไม การที่เขายืนอยู่ตรงนั้นก็แค่เพราะ...กำลังรอซังฉิงเท่านั้นหลังจากมองเพียงแวบเดียว ซังหนี่ก็ละสายตา แล้วเอ่ยถามซังฉิง “มีอะไรหรือเปล่า?”ซังฉิงกำลังอ้อนวอน “พี่คะ พี่กลับบ้านกับฉันเถอะนะ อย่าทะเลาะกับแด๊ดดี้หม่ามี๊อีกเลยได้ไหม?”“ขอโทษนะ ฉันไม่อยากกลับไป”ซังหนี่พูดอย่างตรงไปตรงมาซังฉิงก็ไม่ย่อท้อ หันไปมองอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ “คุณเป็นเพื่อนของพี่สาวฉันใช่ไหมคะ? รบกวนช่วยพูดกับพี่สาวฉันหน่อย ให้เธอกลับไป...”“พี่สาวเธอโตขนาดนี้แล้ว เธอจะตัดสินใจอะไรก็ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาเดือดร้อนแทนหรอกมั้ง?”ซ่งเสี่ยวพูดพร้อมกับยิ้มซังฉิงถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แต่ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “แต่แด๊ดดี้หม่ามี๊เสียใจมากเลยนะคะ! พี่ พี่ทนเห็นพวกท่านกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเรื่องของพี่แบบนี้ได้ลงคอเหรอ? ทำไมพี่ถึงใจร้ายขนาดนี้?!”พูดจบ น้ำตาของซังฉิงก็ไหลรินออกมาทันทีท่าทางแบบนั้นทำให้ซ่งเสี่ยวถึงกับมองด้วยความตกตะลึง“น้องสาว ฝีมือการแสดงของเธอเยี่ยมมากเลยนะ? สนใจไปโลดแล่นในวงการบันเทิงหน่อยไหม?”ประโยคที

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 38

    ซังหนี่กลับถึงบ้านของตนเองอย่างรวดเร็วเธอเพิ่งจะเตรียมตัวล้างเครื่องสำอาง บรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์ก็โทรมาหาเธอด้วยตัวเอง บอกว่าผลงานของเธอไม่ตรงตามกฎระเบียบของเว็บไซต์ จึงตัดสินใจยุติความร่วมมือกับซังหนี่เพียงฝ่ายเดียวซังหนี่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “ไม่ตรงตามข้อกำหนดตรงไหนคะ?”“ฝ่ายกฎหมายของบริษัทเราได้รับแจ้งว่า ตัวละครพระเอกที่เธอวาด...ละเมิดสิทธิในภาพลักษณ์ของบุคคลอื่น”พอเธอพูดแบบนี้ ซังหนี่ก็เข้าใจได้ทันที...ฟู่เซียวหานถึงแม้ปกติเขาจะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เธอทำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเลยคำพูดที่ซ่งเสี่ยวพูดกับเธอเมื่อคืน...เขาก็ต้องได้ยินด้วยแน่ ๆ ตอนนี้แค่โทรศัพท์สายเดียว ก็ทำให้ซังหนี่ต้องเสียงาน!“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”ซังหนี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางสายไปตอนแรกเธอตั้งใจจะโทรไปถามฟู่เซียวหานโดยตรงแต่ก่อนที่โทรศัพท์จะถูกกดโทรออก เธอก็วางโทรศัพท์ลงอย่างช้า ๆ ไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกผิด แต่เพราะซังหนี่รู้ว่า ในเมืองนี้ ถ้าเธอแข็งข้อกับเขา เธอจะไม่ได้อะไรดี ๆ เลยยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ ตัวละครในการ์ตูนตัวหนึ่ง ละเมิดสิทธิในภาพลักษณ์ของเขา?เรื่องไร้สาระแบบนี้ เขา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 39

    “ไม่ลำบาก ไม่ลำบากเลยค่ะ ช่วงนี้คุณกำลังยุ่งอะไรอยู่เหรอคะ? ฉันไม่ได้เจอคุณมาหลายเดือนเลย?”“ไม่ได้ยุ่งอะไรหรอกค่ะ ต่อไปฉันจะมาบ่อย ๆ ค่ะ”ซังหนี่ส่งยิ้มให้เธอผู้ช่วยพยาบาลชวนเธอคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปอย่างเป็นธรรมชาติ จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยง ซังหนี่จึงลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับเพื่อความสะดวกในการเดินทางมาโรงพยาบาล ซังหนี่จึงหาบ้านเช่าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้โดยเฉพาะเนื่องจากระยะทางไม่ไกล เธอจึงไม่ได้เรียกรถ แต่กางร่มเดินกลับไปแต่เธอไม่คิดเลยว่า คุณนายซังจะมารออยู่ที่หน้าบ้านของเธอเห็นได้ชัดว่าคุณนายซังรู้สึกรังเกียจสภาพแวดล้อมตรงหน้ามาก ขมวดคิ้วแน่น มือถือผ้าเช็ดหน้า ปิดจมูกและปากไว้แน่นทันทีที่เห็นซังหนี่ เธอก็พูดขึ้นมาตรง ๆ “ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ซังหนี่จะบอกไปแล้วว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก แต่ในตอนนี้เมื่อได้เจอหน้า เธอก็ยังคงเอ่ยถาม “คุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ถ้าเธอไม่ปฏิเสธที่จะกลับบ้าน ฉันจะมาที่นี่ทำไม?”คุณนายซังพูดพลางมองประตูที่ขึ้นสนิมข้าง ๆ “เพราะงั้นหลังจากที่เธอหย่าแล้วก็ย้ายมาอยู่ที่แบบนี้สินะ? ซังหนี่ ฉันว่าเธอคงบ้าไปแล้วจริง ๆ !”“

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status