ตอนที่ 5 เริ่มเกม
หลังจากที่ฉันพูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาวพร้อมเดินออกไปจากร้านท่ามกลางสายตาของนักท่องราตรีและนักล่าทั้งหลายที่จ้องจะตะครุบฉันตั้งแต่ต้น เสียงซุบซิบมีตลอดระยะทางจากโต๊ะจนถึงหน้าร้าน แต่ดูเขาจะไม่สะทกสะท้านกับคำซุบซิบนั้นเลย ส่วนฉันเองก็หูอื้อ หน้าชาจนไม่รับรู้อะไรแล้ว
เขาอุ้มฉันอยู่อย่างนั้น จนลูกน้องเขาเอารถมาจอดตรงหน้าร้าน แล้วเปิดประตูให้ จากนั้นเขาค่อยๆ วางฉันลงตรงข้างคนขับ และรัดเข็มขัดนิรภัยให้ฉันอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปนั่งยังที่นั่งคนขับ ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ชวนเขา....
หลังจากขึ้นรถสปอร์ตสุดหรู เขาก็ได้ขับพาฉันมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เขาบอก ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าที่ไหน ขับไปได้ไม่นานนัก เขาก็จอดรถ ฉันถึงได้พบว่าที่ที่เขาพามาคือคอนโดหรูใจกลางเมือง ที่ไม่ไกลจากผับเท่าไหร่นัก ถึงแม้จะเมาแต่ฉันจำได้ดีว่าที่นี่ต้องระดับ อภิมหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะซื้อได้เพราะราคาห้องแต่ละห้องหลักร้อยล้านขึ้นทั้งนั้น ฉันว่าคอนโดที่ฉันอยู่ก็หรูแล้วนะ แต่เทียบไม่ได้กับที่นี่ ก็ดีรวยขนาดนี้ เมื่อเสร็จสิ้นกับสิ่งที่ฉันชวนเขาทำเขาก็คงไม่มายุ่งกับฉันอีก เพราะสิ่งที่เขากับฉันกำลังจะทำนั้นมันควรจบลงแค่เพียงในคืนนี้...
เขาจอดรถหน้าคอนโดพร้อมบอกให้ลูกน้องนำรถไปเก็บก่อนจะพาฉัน เข้าสู่ลิฟต์ส่วนตัวแบบ VIP ลิฟต์ตัวนี้ไม่มีเลขบอกชั้น เพราะมันเป็นลิฟต์ที่พาไปชั้นเดียวเท่านั้นคือชั้นสูงสุดของคอนโดหรูแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ Penthouse ราคาหลายพันล้านตั้งอยู่
เขาโอบกอดเอวเพื่อประคองฉันที่มีอาการมึนจากฤทธิ์เครื่องดื่มสูตรพิเศษ ฉันซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งของเขา กลิ่นกายเขาที่คละเคล้ากับกลิ่นน้ำหอมมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ไม่นานนักเราก็ขึ้นมาถึงจุดหมายที่ชั้นบนสุด
เมื่อลิฟต์เปิดออกก็เผยให้เห็นทางเดินขนาดใหญ่ มีชายใส่สูทชุดดำ ยืนอยู่เป็นระยะ เขาอุ้มฉันในท่าเจ้าสาวอีกครั้งแล้วเดินไปตามทาง ชายใส่สูทชุดดำได้แต่ก้มหัวทำความเคารพเมื่อเขาเดินผ่าน จนมาถึงหน้าประตูห้อง เขาปล่อยฉันลงเพื่อที่จะสแกนนิ้วมือเข้าไปใน Penthouse สุดหรูหนึ่งเดียวของทั้งชั้นและคอนโดนี้
พรึ่บ! ไฟเปิดขึ้นอัตโนมัติเผยให้เห็นข้างในที่กว้างขวาง Penthouse สุดหรูที่ตกแต่งได้งดงามไร้ที่ติ กระจกรอบด้านที่ทำให้เห็นวิวยามค่ำคืนที่เหมือนเป็นภาพวาดของศิลปินชั้นสูง
ในขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับวิวหลักพันล้าน เขาก็จู่โจมฉันทันทีโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว เขาดันหลังฉันให้ติดกำแพง สองมือหนาของเขาประคองศีรษะฉันอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาโน้มตัวลงจูบปากฉันอย่างดูดดื่มแม้ฉันจะเคยจูบกับไอ้เคนแต่รสชาติจูบจากคุณเซฟมันแปลกใหม่มากสำหรับฉัน ทั้งลิ้นร้อน ทั้งไออุ่นจากลมหายใจที่เจือกลิ่นเหล้านิดๆ ของเขามันช่างมีเสน่ห์จนทำให้ร่างของฉันสั่นไหวเหมือนมีไฟสถิตวิ่งไปทั่วร่าง
เขาจูบเร่าร้อนสลับกับนุ่มนวลบดคลึงริมฝีปากฉันอย่างหิวกระหาย ลิ้นของเขาที่ลุกล้ำเข้ามาในปากตวัดเกี่ยวลิ้นของฉันอย่างดูดดื่ม จนฉันแทบขาดอากาศหายใจ ได้แต่ส่งเสียงทักท้วงในลำคอเพื่อให้คนร่างใหญ่ปราณีฉันบ้าง
เขารับรู้ว่าฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจเขาถอนริมฝีปากออกอย่างแผ่วเบาพร้อมจ้องหน้าฉันอย่างมีความหมายฉันหลบสายตาด้วยท่าทีเงอะงะในหัวตีกันเป็นพัลวันความคิดหนึ่งอยากจะแอ่นร่างสู้กับไฟสวาทที่ตอนนี้มันรุกโชนอยู่ในร่าง แต่อีกความคิดหนึ่งก็คิดว่าฉันทำถูกแล้วใช่ไหม
เหมือนเขาจะมองเห็นความลังเลในสายตาฉันออก และกลัวว่าฉันหยุดเกมนี้ เขารีบอุ้มฉันในท่าเจ้าสาวขึ้นไปสู่ ห้องนอนชั้นบน ของ Penthouse เขาวางฉันลงบนเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่ พร้อมกับก้มลงจูบอย่างเร่าร้อนเขาสอดลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของฉันอีกครั้ง มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่ว ทุกที่ที่เขาสัมผัสมันเหมือนมีกระแสไฟวิ่ง ความสยิวก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท้องน้อยของฉันเริ่มมีความรู้สึกวูบหวิวแปลกๆ รู้ตัวอีกทีฉันก็เหลือแค่ บราซิลิโคนจิ๋วที่ใช้ปิดยอดปทุมถันกับแพตตี้ตัวน้อย ที่ปกปิดของสำคัญของฉันอยู่
ตอนที่ 6 (NC) ครั้งแรกเขายันกายขึ้นมามองร่างที่เกือบเปลือยเปล่าของฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าว่า" คุณสวยเหลือเกินเอลิซสวยไปทั้งตัวเลย"คำพูดของเขาทำให้ฉันสะท้านไปทั้งร่าง สายตาที่เขามองมามันโลมเลียประหนึ่งไฟที่กำลังแผดเผาร่างของฉันจนแทบจะมอดไหม้ ความรู้สึกแปลกที่ฉันไม่เคยได้รับมันปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ฉันทำได้เพียงเอามือปิดหน้าอกที่อวบอิ่มใหญ่เกินตัว บิดขาปกปิดจุดสงวน ด้วยความรู้สึกเขินอาย แต่การกระทำของฉัน มันกลับกลายดูน่าเย้ายวนในสายตาเขา เขารีบถอดชุดของเขาออกโดยที่สายตาของเขาไม่ได้ละออกไปจากร่างของฉันเลย เขายังคงมองด้วยสายตาที่อยากจะกลืนกินฉันไปทั้งตัว แม้ในขณะนี้ที่สติฉันยังเลือนลางฉันยังแทบจะทนต่อสายตาของเขาไม่ไหว แค่เขามองฉันยังหายใจแทบไม่ออก ถ้าเขา.....ฉันจะรอดไหมนี่เขาถอดเสื้อผ้าออกจนร่างของเขาเปลือยเปล่า ร่างที่สมส่วนดูดีของเขา ทำให้ฉันเผลอมองอย่างลืมตัว กล้ามหน้าอกที่ชัดเจน กล้ามแขนแต่ละมัด หน้าท้องที่เป็นลอน บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าของร่างดูแลตัวเองดีแค่ไหน และเมื่อมองถัดจากเอวลงมาก็เผยให้เห็นแก่นกายขนาดใหญ่ ที่โชว์ผงาดจนฉันแทบสร่างเมา เม็ดเหงื่อเริ่มผุดออกมาเพราะคว
ตอนที่ 7 ทวงสัญญา....ช่วงสายของวันต่อมา....ฉันเปิดเปลือกตาขึ้นมา ด้วยความมึนงง นี่ฉันอยู่ที่ไหนกัน ดวงตาของฉันกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสให้ชัดขึ้น พอได้มองไปรอบๆ ก็ได้แต่เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าที่นี่มันที่ไหน ฉันมานอนที่นี่ได้ยังไง ใครพาฉันมา ทำไมฉันถึงปวดทั้งหัว ปวดทั้งตัว และปวดตรงจุดกึ่งกลางสาวของฉันขนาดนี้ขณะที่สมองเริ่มประมวลผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน สิ่งที่ย้ำว่ามันคือเรื่องจริงคือ ความเจ็บปวดร้าวระบมที่ จุดกึ่งกลางสาวของฉัน ไหนจะอาการปวดเมื่อยตามตัว ที่แม้ขยับเล็กน้อย ก็ทำให้โอดครวญได้แล้ว ฉันพยายามคิดทบทวน ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ค่อยๆ ฉายเข้ามาในหัวแม้จะไม่ปะติดปะต่อแต่ก็พอทำให้ฉันนึกออกว่าฉันมากับใคร ยังดีที่ยังพอจำหน้า (ที่แสนหล่อเหลาคมเข้มดั่งเทพบุตร) รูปร่างของเขา (ที่แสนเพอร์เฟคน่ากิน) และตรงนั้น (ที่แสนจะ.....) หึยย!! คิดบ้าอะไรอยู่เนี้ย (แล้วทั้งหน้าทั้งหูก็ร้อนขึ้นมาทันที)แต่ที่ฉันยังไม่เข้าใจคือ ทำไมฉันถึงยอมมากับเขา และทำไมฉันถึงใจง่ายขนาดมอบความบริสุทธิ์ของสำคัญที่ฉันสุดจะหวงแหนให้เขาได้ คงเป็นเพราะความเมา ความเสียใจ บวกความบ้าในตัวฉันแน่ๆ แต่ช่างมันเถอะอะไ
ตอนที่ 8 แต่งงานกับผมฉันมองเขาอย่างลุ้นรอคำตอบ โดยหวังในใจลึกๆ ว่าจะไม่สัญญาอะไรเพี้ยนๆ หรือแย่ๆ ออกไปเพื่อทำร้ายตัวเองอีก แค่ที่เสียไปก็มากเกินพอแล้ว ดวงตาฉันสั่นระริก มีความหวาดหวั่นอยู่ในนั้น หวาดกลัวกับคำตอบที่กำลังจะออกมาจากปากหนาทรงเสน่ห์นั่น.." คุณเอลิซจะ... แต่งงานกับผม" สิ้นประโยคที่เขาเอ่ยมา เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางหัวของฉัน ฉันแทบสิ้นสติ ตัวฉันแข็ง เหมือนวิญญาณได้ออกจากร่างเป็นการถาวรแล้ว นี่ฉันต้องบ้าเต็มขั้นแน่นอนนอกจากทำเรื่องบ้าๆ แล้วยังไปสัญญาอะไรอุตริอีก" ดะ..ดะ.เดี๋ยวนะคะ เอลิซนี่นะ สัญญาแบบนั้นกับคุณ" ฉันรีบถาม เพราะแทบไม่อยากจะเชื่อกับความบ้าของตัวเอง จนต้องเอ่ยถามเขาไปอีกรอบเพื่อความมั่นใจ"ครับ" ^-^" แล้วคุณก็ยอมรับข้อตกลงของ เอลิซหรอคะ ถ้าเอลิซท้องจริงๆ คุณจะแต่งงานกับเอลิซหรอคะ" -*-"ครับ" ^-^" เดี๋ยวนะคะมันเป็นแค่เกมคุณไม่ต้องมาจริงจังอะไรก็ได้ค่ะ" -*-" ผมเป็นคนรักษาคำพูดและผม ไม่ชอบคนผิดคำพูด" -*-ฉันเริ่มเหลืออดกับความจริงจังเกินเบอร์ของเขาแล้ว มันก็แค่เกมที่เผลอเล่นไปตอนเมา ทำไมต้องมาจริงจังอะไรขนาดนั้น ขนาดฉันเป็นผู้หญิงฉันยังไม่เรียกร้องเลย ถ้า
ตอนที่ 9 เพราะว่าผมชอบ" ไม่!!!" ^-^สิ้นเสียงที่เขาตอบกลับมา มันทำให้สติที่ฉันมีเริ่มขาด ฉันเอามือปาดน้ำตาบนหน้า แล้วจ้องเขาเขม็ง ความโมโหจนหน้ามืด ทำให้ฉันจะพูดในสิ่งที่จะทำให้ฉันรอด นั่นคือการพึ่งพากฎหมาย!!" ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องงั้นฉันจะแจ้งความจะแจ้งให้หมดเลยทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ฉันจะแจ้งความจริงๆ นะ" ฉันขู่"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสบายๆขำบ้าอะไรว่ะ ฉันจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง" กฎหมายหรอ ทั้งกฎหมายทั้งคน ผมซื้อมันไว้หมดแล้ว ขอแค่ผมสั่งกฎหมายก็สามารถเปลี่ยนได้ และอีกอย่าง ข่มขืนหรอ ผมว่า ที่ร่างกายคุณมันตอบสนองต่อการกระทำของผม ผมไม่เรียกว่าข่มขืนนะ"(*O*) ช็อกสิคะ" บ้า...เรื่องบ้าบออะไร คุณไม่ต้องมาโกหกฉันนะ คุณเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนหรอถึงจะมาอยู่เหนือกฎหมายได้ อยากจะหัวเราะ ไม่มีอะไรจะมาขู่แล้วหรือไง ตลกสิ้นดี" ฉันกัดปากเถียงออกไป และถึงปากจะเถียงไปแบบนั้นแต่ใจก็แอบหวั่นๆ หวังว่าเขาคงไม่ใช่....คนที่ฉันคิดนะ......" ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าผมเป็นใคร"ฉันเม้มปากรอคำตอบมือทั้งสองข้างกำผ้าห่อตัวไว้แน่น ดวงตากลมโตเริ่มสั่น น้ำตาที่แห้งเห
ตอนที่ 10 หมายถึงทั้งตัวเขากระซิบเสียงทุ้มที่ข้างหู ลมหายใจรดลงมาจนทำให้ขนลุกความรู้สึกแปลกๆ เริ่มก่อตัวอีกครั้ง แต่ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตอบอะไรออกไป ฉันควรที่จะต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดออกไป ฉันถอนหายใจแล้วตอบเขากลับไป“เฮ้อออออ คุณเซฟเจ้าค่ะ ได้โปรดลุกออกไปจากตัวดิฉัน เอ๊ย เอลิซ ด้วยค่ะ” ฉันเอ่ยอย่างคนไม่สบอารมณ์“คุณกำลังทำให้ผมไม่พอใจ แล้วถ้าผมไม่พอใจ ผมก็จะ...” ขณะที่เขาพูด มือของเขาก็ลูบไล้ที่ต้นขาของฉัน จนฉันสะดุ้ง“ขะ..ขอโทษค่ะ คุณเซฟขาาาา ลุกเถอะนะคะ เอลิซ อยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ฉันส่งสายตาที่คิดว่าหวานหยาดเยิ้มที่สุดให้เขาแต่หารู้ไม่!!!“ยิ่งคุณทำแบบนี้ผมยิ่งไม่อยากลุกเลย...เรามาเล่นเกมสนุกๆ เหมือนเมื่อคืนกันดีกว่าไหม” เขาพูด พร้อมก้มลงจูบที่ซอกคอของฉันฉันตกใจกับสิ่งที่เขาทำ ฉันพยายามดิ้นหนีแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้ร่างของเราทั้งสองเสียดสีบดขยี้เพิ่มความสยิวกันเสียมากกว่า“เอ๊ะ คุณนี่ยังไงกัน ฉันพูดดีก็แล้ว อะไรก็แล้ว จะมาเจ้าเล่ห์อะไรใส่ฉันอีก หึ” ฉันโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกสุดจะทน“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆๆ ผมขอโทษ ผมลุกแล้
ตอนที่ 11 (NC) ด้วยตัวเองหน้าฉันร้อนผ่าวด้วยความอาย เลือดฝาดแดงกระจายจากแก้มไปถึงใบหูตัวฉันดีดขึ้นอัตโนมัติ ฉันไม่ยอมทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นอีกแน่ แต่เหมือนว่าคุณเซฟเขาจะไวกว่าฉันมาก ไม่ทันที่ฉันจะลุกขึ้น เขาก็ใช้สองมือจับที่เอวคอดของฉันแล้วยกตัวฉันลอยขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตัวเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ว๊ายยย ปล่อยยยย ปล่อยฉันนะ” ฉันทั้งดิ้น ทั้งโวยวายแต่ยิ่งดิ้น มันยิ่งเหมือนปลุกเร้าท่อนเอ็นยักษ์ให้ตื่นจากการหลับใหลให้เร็วขึ้น เพราะฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่กำลังผงาดขึ้นมาเสียดสีช่องทางรักของฉันอยู่“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวจะไม่ได้คุยนะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่า มุมปากกระตุกอย่างคนเจ้าเล่ห์“คะ..คุณเซฟก็ปล่อยเอลิซลงสิคะ” ฉันพูดตะกุกตะกักอ้อนวอน“ก็คุยมาสิ” ^-^ เขายังคงนิ่งเฉย และทั้งสองมือก็ยังคงตรึงอยู่ที่เอวของฉันฉันหยุดดิ้นแล้ว แต่ท่อนเอ็นของเขากลับยังไม่หยุดขยับ มันยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก เสียดสีหยอกล้อกับร่องสวาทของฉันผ่านแพนตี้บางตัวจิ๋ว“กะ...ก็...คะ...คุณเซฟฟฟฟ...อือออ” ฉันเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ผลจากการเสียดสีที่ชวนสยิวตรงจุดกึ่งกลางของเราทั้งสอง มันกำลังทำให้ฉันสติกระเจิดกระเจิง“ก็....อะไร...
ตอนที่ 12 ไม่มีความรัก“ห๊ะ....ว่าไงนะ!!!” ฉันตะโกนด้วยความตกใจถึงจะเกลียดพวกมันอยู่มาก แต่ฉันก็อดตกใจไม่ได้“หมอบอกว่าอาการ 50:50 ถ้ารอดก็อาจจะพิการ” ชมพู่เอ่ยบอกน้ำเสียงมีความกังวลแม้จะตกใจ แต่ฉันก็สะใจที่มันโดนแบบนี้ สงสัยไปทำชั่วไว้เยอะ“ส่วนฉัน..ฉันก็โดนตบจนสลบ เพิ่งจะฟื้น เลยโทรหาแกนี่แหละ” ชมพูบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองประสบ(ยังมีหน้ามาคิดถึงฉันนะ หน้าด้านยางมะตอยเรียกพี่จริงๆ)“เหอะ...ก็สมควรแล้วนี่ กับสิ่งที่แกได้รับ คงทำชั่วไว้กับหลายคน จนไม่รู้ว่าใครเขามาเอาคืน” หลังจากที่ทนฟังมาได้สักพัก ฉันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องพูดดีกับมันต่อ และไม่มีซึ่งความเห็นใจต่อคนพวกนี้ด้วย“กะ แก ฉะ ฉัน ขอโทษ แต่ตอนนี้แกช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่มีเงินออกจากโรงพยาบาล” ในที่สุดความต้องการที่แท้จริงของชมพู่ก็เปิดเผยออกมา(หึ..สุดยอดความหน้าด้านหน้าทนจริงๆ)“นี่ชมพู่ แกแม่งสุดยอดของความหน้าด้านจริงๆ แกทำเลวกับฉันขนาดไหน แกลืมไปแล้วหรอ ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้พวกแกสองคนตายต่อหน้าฉันจริงๆ แม้กระทั่งค่าโทรที่จะเรียกมูลนิธิมาเก็บศพ ฉันยังไม่คิดจะโทรเลย แล้วนับประสาอะไรกับการที่ฉันจะช่วยแกออกจากโรงพยาบาลอ่
ตอนที่ 13 เกือบโดน...ฉันเลือกใส่แค่ชุดชั้นในไม่ได้เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตของเขากับเสื้อผ้าใหม่ เพราะคิดว่าวันนี้ฉันคงไม่ได้ออกไปไหน ก็ขอใส่ที่มันสบายๆ หน่อยแล้วกัน เพราะชุดที่มาส่งมีแต่แนวออกงาน ไม่มีตัวไหนที่ดูแล้วใส่สบายเลย ฉันเลือกชุดชั้นในสีดำ เพราะตัวนี้ดูเรียบร้อยสุดแล้ว ถึงจะเป็นตาข่ายที่โชว์เนื้อสาวอวบอูมทั้งบนทั้งล่างให้เด่น แต่ยังมีส่วนที่หนาพอที่จะปกปิดได้บ้าง เสร็จแล้วฉันก็เดินลงมา พนักงาน และ ป้าเสริมกลับไปกันหมดแล้ว เหลือแค่ลูกน้องคนสนิทของคุณเซฟเท่านั้นฉันลูบท้องปรอย ๆ เพราะเริ่มหิวแล้ว เลยเอ่ยกับเขาว่า ~~“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิว” ฉันบอกเขา แต่เขายังคงสนใจแล็ปท็อปในมือเขาอยู่“คุณเซฟค่ะ เอลิซหิวแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปหยุดที่หน้าเขา แล้วก้มหน้าเอียงคอเพื่อมองหน้าเขา แล้วเอ่ยย้ำอีกครั้งเนื่องจากเสื้อผ้าของเขาไซซ์มันใหญ่เกินไปสำหรับฉัน จึงทำให้คอเสื้อมันร่นลงมาจนแทบจะปิดหน้าอกไม่มิด พอฉันก้มมันก็ทำให้คอเสื้อเปิดกว้าง จนมองเข้าไปเห็นทั้งเรือนร่างของฉันจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็ประจวบกับระดับสายตาของเขาพอดี ทำให้เขามองเข้ามาในเสื้อเชิ้ตที่เผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนเนินอวบอิ่ม ยั
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(3)ผมตัดสินใจเดินลงมาหาเธอ ก่อนที่จะสูดหายใจลึก ๆ แล้วเอ่ยทักทายเธอออกไป..."คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" ผมเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตอบ"ค่ะ ว่าไงคะ" เธอหันมาหาพร้อมตอบรับ ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เหมือนเธอจะตะลึงในความหล่อของผมอยู่เหมือนกัน"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" โอ๊ยคนอะไรยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ขนาดใส่เสื้อผ้ายังน่ารักขนาดนี้ ถ้าหาก...(ไอ้เสือ...!! ใจเย็นดิว่ะ...หึหึ)"อะ...อะไรนะคะ" เหมือนเธอจะเริ่มเมาแล้ว แต่นั่นก็กลับยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นไปอีก"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" ผมถามโดยที่สายตามจับจ้องไปทั่วร่างของเธอ"ดะ..ได้ค่ะ" เธอตอบตะกุกตะกัก และนั่นมันก็ทำให้ผมดีใจมากที่เธอไม่ปฏิเสธผมเหมือนคนอื่น(นี่มันคือพรหมลิขิตใช่ไหม...ฟ้าเป็นใจใช่หรือเปล่า ~~)"คุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถามเธอออกไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก"คุณครับ ชื่ออะไรครับ" ผมสะกิดเธออีกครั้ง เพราะดูเธอจะเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังที่ผมถาม"ห๊ะ...ว่ายังไงนะคะ"สายตาเย้ายวนเหลือเกิน ทนไว้ไอ้เซฟทนไว้" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ" ผมแกล้งถาม
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(2)อีกทั้งวันนี้เธอกำลังฉลองวันครบรอบของเธอกับแฟนของเธออยู่ด้วย...หึ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยามที่เธอเตรียมขอขวัญไปเซอร์ไพรส์ให้มันนั้น ยามที่มันได้รับหน้ามันจะบานเป็นกระด้งขนาดไหน ทั้งที่พวกมันไม่สมควรจะได้รับความปรารถนาดีจากเธอเลยด้วยซ้ำ...!! ผมนึกย้อนไปถึงการกระทำของตัวเองที่ใช้ให้ลูกน้องไปคอยตามดูเธอ รวมทั้งไอ้แฟนสารเลวของเธอ แล้วก็...หึ..นังเพื่อนสุดเลวของเธอด้วย ผมมักจะได้รับรายงานถึงสิ่งที่เธอมักจะทำให้พวกมันอยู่เสมอ สิ่งที่ดี ๆ และความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมอบให้พวกมัน ทั้ง ๆ ที่พวกมันต่างทรยศหักหลังเธอ พวกมันไม่สมควรจะได้รับความรักและความใจดีแบบนั้นเลย... “แม่งเอ๊ย...!!” ผมที่สบถลั่นออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำไมผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นถึงได้ครอบครองหัวใจของเธอได้ว่ะ ทำไมกันวะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้วะ...ทำไมไม่เป็นผมวะที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ และทำไมจังหวะชีวิตของเราถึงต้องไม่ตรงกันด้วยวะ.... ผมที่นั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะปาแก้วเหล้าออกไปจนแตกกระจาย ประจวบกับที่ไอ้กิตที่เพิ่งเข้ามาก็ได้เห็นการก
ตอนพิเศษ : ความลับของเซบาสเธีย..(1)ครืนนน ~~ เปรี้ยงงง..!! ซ่าาาา ~~เสียงฝนตกฟ้าที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา คล้ายกับว่าหยาดน้ำที่หลั่งรินลงมาจากฟากฟ้าสาดซัดลงมาเพื่อต้องการจะชำระล้างชีวิตของใครบางคนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...ผมที่นั่งเหม่อลอยมองผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา บรรยากาศที่ดูจะครื้นเครงสนุกสนานเฮฮา แต่ทว่า...กลับไร้ค่าสำหรับผมเหลือเกิน ผมที่แกว่งไกวแก้วบรั่นดีในมือเพื่อให้น้ำสีอำพันในนั้นโคลงเคลงไปมา ก่อนจะสาดซัดมันให้ลงไปในลำคอ แต่ทว่า...ความร้อนที่เกิดจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพัน กลับสู้ความร้อนรนในใจของผมในตอนนี้ไม่ได้เลยเพราะเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ผมเฝ้าตามหาและปรารถนามาตลอด รักแรกและรักเดียวของผม เธอที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับคนอื่น...ใช่...วันนี้เป็นวันครบรอบของการเป็นแฟนระหว่างเธอกับ...ไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเธอ... ~~ผมที่รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ภาพที่ผมได้เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น มันทำให้ผมปวดหนึบไปทั้งก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้าย ภาพที่เหมือนจะตอกย้ำว่าผมจะไม่มีวันได้ครอบครองหัวใจของเธออีกเลย...ย้อนไปก่อนหน้านั้นหลายปี ~~ผ
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(4)งานดำเนินไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่ร้อนรุ่ม ฉันที่เฝ้ารอเพื่อให้ถึงเวลาที่จะได้เป่าเค้กเร็ว ๆ เพราะฉันรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาได้ถูกคุณป้าเธียร่าแม่ของเขาบังคับให้ถือเค้กวันเกิดมาเพื่อเซอร์ไพรส์ฉัน (แม้ว่าจะมีเค้กเก้าชั้นอยู่ที่กลางงานแล้วก็ตาม) ฉันที่เหลือบตามองไปดูเขา ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความอึดอัดที่ถูกบังคับและแม้ว่าจะยังไม่บูดบึ้ง แต่ทว่ากลับเย็นชาจนฉันเองยังแอบหวั่นอยู่ในใจแต่ถึงกระนั้น...แม้ว่าฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งนี้ให้กับฉันมากแค่ไหน แต่ทว่า...ส่วนลึกของหัวใจ ฉันกลับรู้สึกดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากฉันได้แสดงให้ทุกคนในงานได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนของฉัน ฉันยังได้เห็นสายตาแห่งความริษยาที่ถูกส่งออกมาจากบรรดาผู้หญิงเกือบร้อยคนที่อยู่ในงานอีกด้วยจนกระทั่ง...เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เค้กที่ถูกเขาคนนั้นเดินถือเดินเข้ามา พร้อมกับได้มายืนหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของฉัน มันทำให้วินาทีนั้นหัวใจของฉันพองโตและเต้นระรัวทันที♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday to you, ♪ ♫ ♬ ~~♪ ♫ ♬ ~~ Happy birthday Happy birt
ตอนพิเศษ : ความลับของเรน่า...(3)นับตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองตระกูลก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด โดยทุกครั้งที่เขามาก็เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานด้วยกันกับพ่อของเขา และการที่เขาต้องมาดูงาน บวกกับฉันเองที่ต้องเรียนรู้งานกับพ่อตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ฉันกับเขาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น สนทนากันด้วยภาษางานมากขึ้น และเมื่อพ่วงกับความพยายามของฉันที่มักจะตีมึนคอยเจื้อยแจ้วเจรจาชวนเขาคุยอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอดเวลาด้วยแล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นนั่นก็เพราะจากในช่วงแรกที่เขามักจะเดินหนีไปเสียทุกทีเวลาที่ฉันชวนคุย จนพักหลัง ๆ เขาเองก็เริ่มที่จะอยู่นิ่งแล้วฟังฉันคุยบ้างความสัมพันธ์ของเราสองคนดูจะพัฒนาขึ้น แม้ว่ามันจะดำเนินไปเหมือนหอยทากเป็นตะคริว แต่สำหรับฉันมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้งานไปพร้อม ๆ กันกับเขา ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของฉันยังอยากเรียกเขาว่าพี่เซฟ มากกว่าคุณเซบาสเธียก็ตาม...วันเวลาล่วงเลยไปพร้อมกับความใจแข็งที่เริ่มน้อยลงของเขา...จนกระทั่งวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ทำให้ฉันเห็นว่าสุดท้ายแล้วการกระทำด้วยความพยายามพากเพียรของฉันก็ได้ตอบสนองฉันแล้วเมื่อความสัมพ