“อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าตัวเองไม่เป็นอะไร บางทีเจ้าอาจจะมีอาการป่วยแอบแฝงอยู่ก็ได้ วันมะรืนพ่อข้าจะมาเยี่ยม จะให้ท่านพ่อข้าช่วยตรวจดูอาการให้… ”
ลี่หมิงเอ่ยถึงบิดา…
เขามีนามว่า ‘ลี่ถัง’ เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่วัยห้าสิบปีที่มีวิชาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณ และยังชำนาญในการนวดที่เรียกว่า ‘ทุยหนา’
คือการนวดแบบดั้งเดิมของจีนซึ่งเน้นการกด คลึง ดีด บีบไปตามเส้นลมปราณเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ลดอาการโลหิตคั่ง โลหิตหนืดที่เป็นต้นเหตุของความไม่สบายทั้งปวง
“ดีจัง ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านพ่อของท่านพี่มีความรู้เรื่องการนวด… ”
“ใช่แล้ว… ท่านพ่อของข้านอกจากจะมีความรู้เรื่องนวดก็ยังเชี่ยวชาญในเรื่องสมุนไพรรักษาโรค งั้นช่วงนี้เจ้าต้องพักผ่อนให้มากๆ งานอะไรที่ต้องออกแรงเยอะทิ้งไว้ให้เป็นหน้าที่ของข้าจัดการเอง… ”
ลี่หมิงกล่าวด้วยความรักและห่วงใยภรรยา…
ตั้งแต่อยู่กันมาปีกว่าเขาไม่เคยใช้ให้นางต้องทำงานหนัก หน้าที่ของซูเจียวคือการดูแลงานบ้านและทำอาหาร
ส่วนงานในไร่ในสวนนั้นลี่หมิงเป็นคนรับผิดชอบเองทุกอย่าง เรียกว่าแทบจะไม่ให้ซูเจียวออกมาโดนแดดโดนลมเลยก็ว่าได้
“เข้านอนเถอะ… น้ำค้างตกใส่หัวเดี๋ยวเจ้าจะป่วย”
ลี่หมิงช้อนร่างเอิบอิ่มของเมียรักอุ้มไว้ในอ้อมแขน พานางกลับเข้ามาในห้องนอน
ซูเจียวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที…
เมื่อรู้ว่าวันมะรืนพ่อสามีจะมาเยี่ยมบ้าน ในชีวิตของนางเคยเจอกับลี่ถังเพียงแค่ครั้งเดียวในวันแต่งงานปีก่อน
แต่ก็น่าแปลก…
แม้จะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใดนางจึงยังไม่ลืมใบหน้าคมคร้ามหล่อเข้มและรูปร่างสูงใหญ่กำยำไปด้วยกล้ามเนื้อของผู้ชายคนนี้
หรืออาจเป็นเพราะเขามีบุคลิกลักษณะอันน่าจดจำ มิเช่นนั้นภาพของพ่อสามีนามว่า ‘ลี่ถัง’ ก็คงจะไม่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของซูเจียวมาจนถึงตอนนี้
ในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ซูเจียวรอคอยมาถึง คือวันที่พ่อสามีนามว่าลี่ถังแวะมาเยี่ยมบ้าน
“ท่านพ่อ… ข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านมา”
ลี่หมิงประสานมือสองข้างขึ้นมา เอามือหนึ่งกุมอีกมือเพื่อแสดงการคารวะบิดาที่ไม่ได้เจอกันนาน…
“ข้าก็ดีใจที่เจอเจ้า… แล้วเจ้ากับซูเจียวฮูหยินของเจ้าสบายดีรึ”
ลี่ถังถามถึงสะใภ้…
หลังจากเคยเห็นเมื่อวันวิวาห์ที่มาร่วมงาน จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
“ข้าสบายดีท่านพ่อ… แต่ซูเจียวไม่ค่อยสบายนัก”
ลี่หมิงตอบไปตามความจริง…
ลี่ถังได้ยินก็หันไปหาสะใภ้แล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหนลองบอกอาการของเจ้า… ที่ว่าไม่สบาย”
ลี่ถังจ้องมองใบหน้างดงามของสะใภ้…
นางมีใบหน้ารูปไข่…
ดวงตาคมสวย คิ้วโก่ง คางได้รูป รับกับใบหน้า อีกทั้งริมฝีปากก็เอิมอิ่มเย้ายวน ผิวพรรณของนางนั้นขาวเนียนเปล่งปลั่งสะดุดตาเหลือเกิน โดยเฉพาะปทุมถันอวบใหญ่
เพียงแค่มองจากภายนอก…
ลี่ถังก็พอจะสรุปได้ว่านางไม่ได้ป่วยอะไรมาก จะมีก็เพียงแววตาที่ดูเก็บกดความรู้สึกเร้นลับบางอย่างเอาไว้
“ข้า… ข้าบอกไม่ถูกค่ะท่านพ่อ มันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ บางครั้งก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้… ”
ซูเจียวตอบไปตามตรง…
ยากนักที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ออกมาเป็นคำพูด
“ขอข้าตรวจชีพจร…”
ลี่ถังเอื้อมมือไปจับข้อมือสะใภ้ ตรวจด้วยวิธี ‘แมะ’ คือการใช้นิ้วมือทั้งสามคือนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง แตะลงบนตำแหน่งของชีพจร เป็นวิธีการตรวจโรคในศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณวิธีหนึ่ง
“อืมม… ชีพจรของเจ้าก็ปกตินี่นา เอาไว้ข้าจะตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง… ”
ลี่ถังกล่าวทิ้งเอาไว้…
จากนั้นซูเจียวก็ลงมือทำอาหารมากมายต้อนรับการมาเยือนของพ่อสามี
ครู่ต่อมา…
“ท่านพี่คะ… ท่านช่วยไปซื้อเต้าหู้ให้ข้าที”
ซูเจียวรู้มาจากปากของลี่หมิงว่าพ่อสามีของนางชอบกินเต้าหู้ยัดไส้นึ่งซีอิ๊ว แต่วันนี้ที่บ้านไม่มีเต้าหู้
“ได้… เดี๋ยวข้าไปซื้อให้”
ลี่หมิงอยากให้ผู้เป็นบิดาได้กินของอร่อย และอยากให้สะใภ้ได้แสดงเสน่ห์ปลายจวัก
จึงกุลีกุจอออกไปซื้อเต้าหู้ทั้งที่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จะมีก็ที่ร้านใหญ่ในตลาดที่ยังเปิดขายถึงค่ำ
“ข้าจะรีบไป งั้นเจ้าทำอย่างอื่นไปก่อนนะ… ”ลี่หมิงบอกแล้วรีบออกไปจากบ้าน“อันที่จริงไม่ต้องก็ได้… อะไรข้าก็กินได้”ลี่ถังรู้สึกเกรงใจจึงรีบแทรกขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะท่านพ่อ… ท่านพี่เคยพูดไว้นานแล้วว่าอยากให้ท่านพ่อได้ลิ้มรสฝีมือของข้า นานๆ ท่านพ่อจะมาเยี่ยมบ้านขออย่าได้เกรงใจ… ”ซูเจียวกล่าวแล้วเดินไปที่เตาฟืน…คว้าซีอิ๊วมาเทลงถ้วยคลุกเคล้ากับวัตถุดิบสำหรับทำไส้ยัดเต้าหู้ จากนั้นขยับมาที่ถาดคว่ำจานเอื้อมคว้าผ้ามาเช็ดถ้วยจานโดยหารู้ไม่ว่าลี่ถังกำลังแอบจ้องมองก้นกลมกลึงของนางด้วยแววตากลัดมัน“ขอให้ข้าช่วยตรวจดูอาการของเจ้าโดยละเอียดได้ไหม… ”ลี่ถังขยับเข้ามาจนใกล้“ได้ค่ะท่านพ่อ… ”ซูเจียวรู้สึกตื่นเต้น“ข้าขอตรวจด้วยการฝังเสียงหายใจ”“ค่ะ… ”ซูเจียวตอบ…ก่อนที่นางจะตกใจเมื่อพ่อสามีโน้มกายเข้ามาเอาใบหูแนบกับทรวงอกของนาง เพื่อฟังเสียงหายใจตามที่เขาบอก“อุ๊ย… ท่านพ่อ”ซูเจียวตกใจ…“เจ้าไม่ต้องตกใจมันคือวิธีการตรวจซึ่งทำได้หลายวิธี เช่นการมองด้วยตา การดม การฟังและถามซักถามอาการ รวมถึงการจับชีพจร… ”“ค่ะท่านพ่อ… แล้วรู้หรือยังว่าข้าเป็นอะไร”ซูเจียวออกอาการประหม่าเกร็ง“อาการของเจ้ามิใช่การเจ็
อวดลำคอระหงและหัวไหล่กลมกลึง ทรวงอกมหึมาผุดเด้งออกมาอวดความอะร้าอร่าม เต้านมของสะใภ้ใหญ่มากจนล้นออกมาที่สองข้างลำตัวลี่ถังทนมองไม่ไหว…รีบสอดมือเข้ามาระหว่างซอกแขนทั้งสองข้างของนาง ตะล่อมเต้าเนื้อหนุ่มนุ่ม บีบขยำอย่างกระหายจนเนื้อขาวๆ ปลิ้นออกมาจากซอกนิ้วมือหยาบใหญ่“อ๊า… ซี้ดดด… ขะ… ข้าเสียว… ”ซูเจียวสะอื้นคราง…บิดตัวไปมา ทำท่าเหมือนจะทนรับของใหญ่ไม่ไหว แต่นางกลับแอ่นสะโพกเสยสู้จนง่ามก้นชนกับท้องแน่นไปด้วยลอนกล้ามของลี่ถัง โก่งเอวฝังแท่งหยกแห่งความเป็นชายเติมเต็มเข้าใส่รูสวาทของนางอย่างเมามัน“อู้ววว… ร่อนสู้ขนาดนี้เห็นทีว่าข้าต้องจัดให้หนักๆ”ลี่ถังโถมกายเข้าใส่จนโต๊ะเขยื้อนไปชนกับผนังเสียงชามใบหนึ่งตกลงมาแตกกระจาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้จังหวะกระเด้าของพ่อสามีจอมหื่นสะดุดลงแต่อย่างใด “อู้ววว… ข้ามันเอ็นสุดๆ… ”ลี่ถังยังกระเด้าไม่หยุด และดูเหมือนว่ามันยิ่งทำให้ซูเจียวรู้สึกมีอารมณ์ไปกับเขาด้วยตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าการแอบลักลอบเอากันในสถานที่ซึ่งมีความท้าทายเพราะไม่ใช่ห้องนอนลับหูลับตาคน จะยิ่งทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์จนอธิบายไม่ถูก“ซี้ด… เร่งเถอะค่ะท่านพ่อ… อ๊า… อ๊า… อ๊า…
ดูดนมสองข้างสลับไปมาอย่างกระหาย พร้อมกับโยกเอวอัดลำเนื้อแทงเสยเข้าใส่รูสวาทของสะใภ้ ง่ามขาถ่างอ้าออกรับลำเนื้อยาวใหญ่แทงรัวเข้าใส่จนน้ำกามแตกทะลักออกมาในที่สุด“อ๊ะ… อ๊าคคค… ”ลี่ถังคำรามเสียงต่ำในลำคอ…หัวเอ็นสีม่วงถอกบานสะบัดควง ฟาดลำกระตุกสั่นปลดปล่อยน้ำกามสีขาวข้นออกมาจนล้นคารู“อ๊า… ซี้ดดดดดด… ”ซูเจียวหลับตาพริ้ม…โดนกระเด้าจนกลีบสวาทขมิบตอดไม่หยุด บีบรัดลำเนื้อมหึมาของลี่ถังที่ยังเสียบคาเต็มลำเต็มรู หลั่งจากกลั่นน้ำกามออกมาสุดแรงรีดเคล้น“พ่อเถอะท่านพ่อ… ”ซูเจียวพูดไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงของลี่หมิงดังอยู่ที่หน้าบ้าน“ข้ากลับมาแล้ว… ”“ว้าย… ”ซูเจียวรีบเอามือผลักอกของพ่อสามี…ลี่ถังก้มลงคว้ากางเกงขึ้นมาสวม ขณะซูเจียวกำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเพราะกลัวจะทิ้งหลักฐานเอาไว้ให้สามีของนางสงสัย“ข้ากลับมาแล้ว… ”ลี่หมิงเดินเข้ามาในครัว…เป็นจังหวะเดียวกับลี่ถังรีบก้าวยาวๆ ออกไปทางประตูหลังบ้าน“ได้แล้ว… เต้าหู้ที่เจ้าอยากได้”ลี่หมิงวางห่อเต้าหู้ลงบนโต๊ะ“ขอบใจท่านพี่… ”ซูเจียวทำทีเป็นจับเต้าหู้ ทั้งที่ใจยังเต้นรัว กลีบสวาทยังขมิบหนุบๆ ไม่หาย นางรู้สึกได้ว่ายังมีน้ำกามบางส่ว
พ่-อ-ส-า-มี อย่าได้ปรานีข้านวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นผู้เขียนกาสะลองทองคำ / เฉ่าฟ่านไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*บางช่วงบางตอนของเนื้อหา“ท่านพี่กลับไปก่อนเถอะ… ข้าอยากเล่นน้ำต่อสักพัก… ”อารมณ์ที่ยังค้าง ทำให้ซูเจียวยังรู้สึกงุ่นง่านไม่หาย“งั้นข้าจะรอ… ”“ไม่ต้อง… เดี๋ยวข้าตามกลับไป”ซูเจียวรีบกล่าว…ทำให้สามีของนางต้องกลับไปก่อนเพราะรู้สึกหนาวเหมือนจะเป็นไข้ อาจเป็นเพราะว่าเขาใช้ร่างกายทำงานอยู่ท่ามกลางแสงแดดร้อนมาทั้งวัน ครั้นเมื่อมาเจอกับน้ำเย็นร่างกายจึงปรับตัวไม่ทันซูเจียวมองส่งจนร่างของสามีลับไปจากสายตา…และตอนที่นางขยับ
ดูดนมสองข้างสลับไปมาอย่างกระหาย พร้อมกับโยกเอวอัดลำเนื้อแทงเสยเข้าใส่รูสวาทของสะใภ้ ง่ามขาถ่างอ้าออกรับลำเนื้อยาวใหญ่แทงรัวเข้าใส่จนน้ำกามแตกทะลักออกมาในที่สุด“อ๊ะ… อ๊าคคค… ”ลี่ถังคำรามเสียงต่ำในลำคอ…หัวเอ็นสีม่วงถอกบานสะบัดควง ฟาดลำกระตุกสั่นปลดปล่อยน้ำกามสีขาวข้นออกมาจนล้นคารู“อ๊า… ซี้ดดดดดด… ”ซูเจียวหลับตาพริ้ม…โดนกระเด้าจนกลีบสวาทขมิบตอดไม่หยุด บีบรัดลำเนื้อมหึมาของลี่ถังที่ยังเสียบคาเต็มลำเต็มรู หลั่งจากกลั่นน้ำกามออกมาสุดแรงรีดเคล้น“พ่อเถอะท่านพ่อ… ”ซูเจียวพูดไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงของลี่หมิงดังอยู่ที่หน้าบ้าน“ข้ากลับมาแล้ว… ”“ว้าย… ”ซูเจียวรีบเอามือผลักอกของพ่อสามี…ลี่ถังก้มลงคว้ากางเกงขึ้นมาสวม ขณะซูเจียวกำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเพราะกลัวจะทิ้งหลักฐานเอาไว้ให้สามีของนางสงสัย“ข้ากลับมาแล้ว… ”ลี่หมิงเดินเข้ามาในครัว…เป็นจังหวะเดียวกับลี่ถังรีบก้าวยาวๆ ออกไปทางประตูหลังบ้าน“ได้แล้ว… เต้าหู้ที่เจ้าอยากได้”ลี่หมิงวางห่อเต้าหู้ลงบนโต๊ะ“ขอบใจท่านพี่… ”ซูเจียวทำทีเป็นจับเต้าหู้ ทั้งที่ใจยังเต้นรัว กลีบสวาทยังขมิบหนุบๆ ไม่หาย นางรู้สึกได้ว่ายังมีน้ำกามบางส่ว
อวดลำคอระหงและหัวไหล่กลมกลึง ทรวงอกมหึมาผุดเด้งออกมาอวดความอะร้าอร่าม เต้านมของสะใภ้ใหญ่มากจนล้นออกมาที่สองข้างลำตัวลี่ถังทนมองไม่ไหว…รีบสอดมือเข้ามาระหว่างซอกแขนทั้งสองข้างของนาง ตะล่อมเต้าเนื้อหนุ่มนุ่ม บีบขยำอย่างกระหายจนเนื้อขาวๆ ปลิ้นออกมาจากซอกนิ้วมือหยาบใหญ่“อ๊า… ซี้ดดด… ขะ… ข้าเสียว… ”ซูเจียวสะอื้นคราง…บิดตัวไปมา ทำท่าเหมือนจะทนรับของใหญ่ไม่ไหว แต่นางกลับแอ่นสะโพกเสยสู้จนง่ามก้นชนกับท้องแน่นไปด้วยลอนกล้ามของลี่ถัง โก่งเอวฝังแท่งหยกแห่งความเป็นชายเติมเต็มเข้าใส่รูสวาทของนางอย่างเมามัน“อู้ววว… ร่อนสู้ขนาดนี้เห็นทีว่าข้าต้องจัดให้หนักๆ”ลี่ถังโถมกายเข้าใส่จนโต๊ะเขยื้อนไปชนกับผนังเสียงชามใบหนึ่งตกลงมาแตกกระจาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้จังหวะกระเด้าของพ่อสามีจอมหื่นสะดุดลงแต่อย่างใด “อู้ววว… ข้ามันเอ็นสุดๆ… ”ลี่ถังยังกระเด้าไม่หยุด และดูเหมือนว่ามันยิ่งทำให้ซูเจียวรู้สึกมีอารมณ์ไปกับเขาด้วยตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าการแอบลักลอบเอากันในสถานที่ซึ่งมีความท้าทายเพราะไม่ใช่ห้องนอนลับหูลับตาคน จะยิ่งทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์จนอธิบายไม่ถูก“ซี้ด… เร่งเถอะค่ะท่านพ่อ… อ๊า… อ๊า… อ๊า…
“ข้าจะรีบไป งั้นเจ้าทำอย่างอื่นไปก่อนนะ… ”ลี่หมิงบอกแล้วรีบออกไปจากบ้าน“อันที่จริงไม่ต้องก็ได้… อะไรข้าก็กินได้”ลี่ถังรู้สึกเกรงใจจึงรีบแทรกขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะท่านพ่อ… ท่านพี่เคยพูดไว้นานแล้วว่าอยากให้ท่านพ่อได้ลิ้มรสฝีมือของข้า นานๆ ท่านพ่อจะมาเยี่ยมบ้านขออย่าได้เกรงใจ… ”ซูเจียวกล่าวแล้วเดินไปที่เตาฟืน…คว้าซีอิ๊วมาเทลงถ้วยคลุกเคล้ากับวัตถุดิบสำหรับทำไส้ยัดเต้าหู้ จากนั้นขยับมาที่ถาดคว่ำจานเอื้อมคว้าผ้ามาเช็ดถ้วยจานโดยหารู้ไม่ว่าลี่ถังกำลังแอบจ้องมองก้นกลมกลึงของนางด้วยแววตากลัดมัน“ขอให้ข้าช่วยตรวจดูอาการของเจ้าโดยละเอียดได้ไหม… ”ลี่ถังขยับเข้ามาจนใกล้“ได้ค่ะท่านพ่อ… ”ซูเจียวรู้สึกตื่นเต้น“ข้าขอตรวจด้วยการฝังเสียงหายใจ”“ค่ะ… ”ซูเจียวตอบ…ก่อนที่นางจะตกใจเมื่อพ่อสามีโน้มกายเข้ามาเอาใบหูแนบกับทรวงอกของนาง เพื่อฟังเสียงหายใจตามที่เขาบอก“อุ๊ย… ท่านพ่อ”ซูเจียวตกใจ…“เจ้าไม่ต้องตกใจมันคือวิธีการตรวจซึ่งทำได้หลายวิธี เช่นการมองด้วยตา การดม การฟังและถามซักถามอาการ รวมถึงการจับชีพจร… ”“ค่ะท่านพ่อ… แล้วรู้หรือยังว่าข้าเป็นอะไร”ซูเจียวออกอาการประหม่าเกร็ง“อาการของเจ้ามิใช่การเจ็
“อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าตัวเองไม่เป็นอะไร บางทีเจ้าอาจจะมีอาการป่วยแอบแฝงอยู่ก็ได้ วันมะรืนพ่อข้าจะมาเยี่ยม จะให้ท่านพ่อข้าช่วยตรวจดูอาการให้… ”ลี่หมิงเอ่ยถึงบิดา…เขามีนามว่า ‘ลี่ถัง’ เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่วัยห้าสิบปีที่มีวิชาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณ และยังชำนาญในการนวดที่เรียกว่า ‘ทุยหนา’คือการนวดแบบดั้งเดิมของจีนซึ่งเน้นการกด คลึง ดีด บีบไปตามเส้นลมปราณเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ลดอาการโลหิตคั่ง โลหิตหนืดที่เป็นต้นเหตุของความไม่สบายทั้งปวง“ดีจัง ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านพ่อของท่านพี่มีความรู้เรื่องการนวด… ”“ใช่แล้ว… ท่านพ่อของข้านอกจากจะมีความรู้เรื่องนวดก็ยังเชี่ยวชาญในเรื่องสมุนไพรรักษาโรค งั้นช่วงนี้เจ้าต้องพักผ่อนให้มากๆ งานอะไรที่ต้องออกแรงเยอะทิ้งไว้ให้เป็นหน้าที่ของข้าจัดการเอง… ”ลี่หมิงกล่าวด้วยความรักและห่วงใยภรรยา…ตั้งแต่อยู่กันมาปีกว่าเขาไม่เคยใช้ให้นางต้องทำงานหนัก หน้าที่ของซูเจียวคือการดูแลงานบ้านและทำอาหารส่วนงานในไร่ในสวนนั้นลี่หมิงเป็นคนรับผิดชอบเองทุกอย่าง เรียกว่าแทบจะไม่ให้ซูเจียวออกมาโดนแดดโดนลมเลยก็ว่าได้“เข้านอนเถอะ… น้ำค้างตกใส่หัวเดี๋ยวเจ้าจะ
พ่-อ-ส-า-มี อย่าได้ปรานีข้านวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นผู้เขียนกาสะลองทองคำ / เฉ่าฟ่านไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*บางช่วงบางตอนของเนื้อหา“ท่านพี่กลับไปก่อนเถอะ… ข้าอยากเล่นน้ำต่อสักพัก… ”อารมณ์ที่ยังค้าง ทำให้ซูเจียวยังรู้สึกงุ่นง่านไม่หาย“งั้นข้าจะรอ… ”“ไม่ต้อง… เดี๋ยวข้าตามกลับไป”ซูเจียวรีบกล่าว…ทำให้สามีของนางต้องกลับไปก่อนเพราะรู้สึกหนาวเหมือนจะเป็นไข้ อาจเป็นเพราะว่าเขาใช้ร่างกายทำงานอยู่ท่ามกลางแสงแดดร้อนมาทั้งวัน ครั้นเมื่อมาเจอกับน้ำเย็นร่างกายจึงปรับตัวไม่ทันซูเจียวมองส่งจนร่างของสามีลับไปจากสายตา…และตอนที่นางขยับ