น้ำตาลเริ่มเป็นกังวลว่าหล่อนควรจะทำยังไงกับอนาคตในภายภาคหน้าถ้าขืนปล่อยให้ความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างหล่อนกับพี่เขยดำเนินต่อไปเช่นนี้... ฐานะของหล่อนก็คงไม่ต่างอะไรกับการเป็น ‘นางบำเรอ’ ของมาร์เซโล่น้ำตาลรู้ดีว่าความรักความหลงจะทำให้หล่อนตกอยู่ในสภาพ ‘เมียน้อย’ ของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุดวันต่อมาใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง มาร์เซโล่ก็พาน้องเมียมาถึงเชียงรายในตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยภูมิประเทศของจังหวัดเชียงรายนั้นโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและผืนป่าเขียวขจี ไม่ว่าจะทอดสายตาแลไปทางไหน ก็พบแต่ความรื่นรมย์ ทำให้น้ำตาลหลงใหลมนต์เสน่ห์ของเชียงรายในทันทีที่มาเห็น โดยเฉพาะในไร่กาแฟของมาร์เซโล่“ตาลไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่มาร์คมาซื้อไร่กาแฟเอาไว้ที่นี่”หญิงสาวกล่าว มาร์เซโล่หันมามองหน้าหล่อนแล้วส่งยิ้มหวานก็แน่ล่ะสิ... มาร์เซโล่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครมาก่อน แม้แต่ป้านวลซึ่งเป็นคนเก่าแก่ที่ทำงานอยู่ในบ้านของเขามาหลายปีก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้ แต่ป้านวลก็เคยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมมาร์เซโล่มักจะหายหน้าไปจากบ้านบ่อยๆ บางครั้งก็นานเป็นสัปดาห์ ที่แท้ก็มาพักผ่อนอยู่ที่ไร่กาแฟในจังหวัดเชียงรายนี่เอง“ตาลคงแปลกใจเรื่
“จ้ะ... ”มาร์เซโล่ตอบเสียงหวาน เอื้อมมือคว้าเบียร์ขึ้นซดเสียงดังซ่วด ตวัดลิ้นเลียคราบเบียร์ที่แกะอยู่ตามแผงหนวดดกหนาเหนือริมฝีปาก ทั้งที่สายตายังจับจ้องเรือนร่างรัดรึงของน้องเมียด้วยหัวใจเต้นแรง มองดูหล่อนเดินลับเข้าไปในห้องน้ำซึ่งเชื่อมต่อไปทางระเบียงหลังห้องเมื่อถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้อง เพียงแค่มาร์เซโล่ถอดกางเกงออก เนื้อตัวก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนในทันทีเพราะว่าเสื้อนั้นถูกถอดพาดเอาไว้ที่พนักโซฟาตั้งแต่ตอนที่เข้ามาในห้อง‘เสร็จ... ’มาร์เซโล่คว้าเบียร์ขึ้นมากระดกดื่ม ตวัดลิ้นเลียคราบเบียร์เหนือริมฝีปากเหมือนบริหารลิ้นไปในตัวเพราะรู้ว่าจะได้ใช้งานก่อนที่พี่เขยหื่นสายเบิร์นจะคว้าผ้าขนหนูขึ้นมานุ่ง อำพรางท่อนเนื้อยาวใหญ่เหวี่ยงไหวไปตามจังหวะก้าวตามน้องเมียไปติดๆ“ตาลจ๋า... เปิดประตูให้พี่หน่อย”มาร์เซโล่กระซิบผ่านประตู ยกเบียร์กระป๋องขึ้นซดเสียงดังซ่วด“ตาล... ไม่ได้ยินหรือไง”มาร์เซโล่ความอดทนต่ำ คราวนี้ทั้งเรียกทั้งเคาะปปึงปังจนประตูแทบพัง เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบสนองจากหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำ “คะ... พี่มาร์คมีอะไรคะ”น้ำตาลเปิดประตูออกมา ครั้นแล้วก็ต้องตกใจ... เมื่อพบว่าคนที่
“ไหวจ้ะ... ปล่อยตัวตามสบาย... วันนี้พี่จะทำให้ทุกอย่าง... ทุกซอกทุกมุม จะดูดจะเลียให้ทั่วตัว”เสียงหื่นประเล้าประโลม เขาตั้งใจจะกวาดเลียให้ทั่วทุกซอกหลืบในกายสาว คำพูดที่ได้ยินทำให้หัวใจของน้ำตาลเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ยอมให้มาร์เซโล่ดูดนมต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ทำเอาเนื้อตัวอ่อนเปลี้ยบิดส่ายเหมือนหญิงร่านราคะ ทรวงอกอวบขยับขึ้นรับริมฝีปากของพี่เขยด้วยความลืมตัว “อูยยย... ”น้ำตาลเสียวจนทำท่าว่าจะทนไม่ไหว หล่อนส่งสัญญาณให้พี่เขยรู้ด้วยเสียงร้องครวญครางสลับเสียงหายใจติดๆ ขัดๆ การที่ต้องหลุบตาลงมองหัวนมของตัวเองผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในอุ้งปากหิวกระหายของผู้ชาย... ใครที่เคยโดนแบบนี้มาแล้วก็คงรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน“ไม่ไหวแล้วค่ะ”หญิงสาวส่ายหน้าบอกเขา“แค่ดูดนมก็ทนไม่ไหวซะแล้ว... งั้นพี่ขอดูดอย่างอื่น ขอเลียอย่างอื่นนะจ๊ะ... มาตรงนี้ดีกว่า”คนชอบเลียรวบร่างบอบบางขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน พามาวางลงนั่งบนโต๊ะเตี้ยๆ สูงแค่ระดับเข่า ตั้งอยู่ชิดผนังห้องน้ำสำหรับวางผ้าเช็ดตัวและสบู่กับครีมอาบน้ำ มาร์เซโล่รีบใช้ท่อนแขนกวาดผ้าขนหนูและขวดครีมทาผิวที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นลงไปกองรวมกันอยู่บนพื้น ราวกับว่า
สองมือของน้ำตาลเกาะตะกายผนังเอาไว้แน่น เต้านมกระเพื่อมไวเร่งเร้าให้มือข้างหนึ่งของมาร์เซโล่ล้วงเข้ามาบีบขยำเมามัน ขณะมืออีกข้างรั้งเอวน้องเมียเข้ามารับแรงกระแทกหน่วงหนักจนน้ำหล่อลื่นทะลักสวนท่อนเอ็นออกมา“อ๊อย... เสียวเหลือเกิน... เร่งเถอะค่ะตาลจะขาดใจอยู่แล้ว.. มะ... ไม่ไหวแล้ว ของพี่มาร์คทั้งยาวทั้งใหญ่... อูย... ตาลตายแน่ๆ”น้ำตาลรู้สึกถึงความปริแปลบ คนชอบแกล้งยังคงล้อเล่นกับความรู้สึกของหล่อนอย่างไม่ปราณีมาร์เซโล่ยังไม่ยอมส่งน้องเมียไปสู่สวรรค์ง่ายๆ เสียงเร่งเร้าของหล่อนทำให้เขารีบถอนดุ้นเนื้อออกมาจากโพรงสวาท จากนั้นก็จัดท่าทางให้หล่อนนั่งเอนหลังพิงผนัง เข่าสองข้างถูกดันเข้ามาชิดทรวงอก กดให้แบะอ้า ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยาวใหญ่เข้าใส่ร่องเนื้อฟิตแน่นอีกครั้งเสียงดังบลั่ก “อ๊าห์... อูย... พี่มาร์คใจร้าย”น้ำตาลเจ็บจนหน้าบูดหน้าเบี้ยว กำปั้นน้อยๆ รัวตี แผงอกและต้นแขนกำยำของพี่เขยจอมซาดิสม์เป็นเชิงต่อว่าให้รู้ ว่าเขาช่างดิบเถื่อน ไม่นุ่มนวลกับหล่อนเลยสักนิด ครั้งนี้มาร์เซโล่ช่างทำรุนแรงเหลือเกินทว่าความเจ็บแปลบเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวอึดใจสั้นๆ จากนั้นความเซียวซ่านก็แล่นวาบเข้ามา
เขากดแผ่นหลังหล่อนให้คว่ำหน้าทาบลำตัวกับช่องหน้าต่าง ขาสองข้างถูกมือของเขาตบให้แยกออกจากกัน“อุ๊ย... ”เมื่อรู้ตัวว่าโดนแน่ๆ มือน้อยๆ ของน้ำตาลจำต้องยึดเกาะขอบหน้าต่างเอาไว้แน่น บั้นท้ายถูกรั้งให้แอ่นขึ้นรับท่อนเนื้อยาวใหญ่ที่เสียบกระแทกเข้ามาล้ำลึกรุนแรงเสียงดังบลั่ก“อู้ววว... ”น้ำตาลสะดุ้งเฮือก ความยาวใหญ่ของมาร์เซโล่ทำให้ใบหน้าของหล่อนบิดเบ้ไปชั่วขณะ แต่ก็เชิดใบหน้ารับกระแสลมเย็นที่สาดเข้ามาปะทะใบหน้าพร้อมกับความซ่านเสียวจากแรงเสียดสีของท่อนเอ็นที่บดขยี้เข้ามาคาคับอยู่ในรูเนื้อฟิตแน่น “มันส์เหลือเกินตาลจ๋า ทั้งรัดทั้งแน่นสุดๆ อูยยย... เร่าร้อนเหลือเกินตาลจ๋า”คำชมของพี่เขยทำให้บั้นท้ายของน้ำตาลส่ายสั่นรับแรงกระแทกกระทั้นจากท่อนเอ็นอวบใหญ่ของมาร์เซโล่ที่เสียบใส่เข้ามาจนมิดสุดโคนของพวงสวรรค์“อ่าห์... ”มาร์เซโล่พรูลมหายใจออกมา“อ๊อย... ”น้ำตาลเสียวจนต้องพริ้มตา เพราะสองมือของพี่เขยลูบล้วงเข้าใต้ลำตัวของหล่อน ตะล่อมบีบสองเต้าเต่งตึงอย่างเมามัน ขณะกึ่งกลางกายยังกระแทกกระทั้นดุ้นเนื้อเข้าใส่ร่องสวาทไม่หยุด“อู้ว... ตาลวูบวาบไปหมดแล้วค่ะ เร่งเถอะพี่มาร์ค กระแทกให้ตาลนะคะ...
ในทันทีก็ว่าได้ เพราะอยากให้น้ำตาลทำงานกับเขาใจจะขาดนาวินไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าน้ำตาลจะมาทำงานกับเขา เพราะมาร์เซโล่ผู้เป็นพี่เขยก็มีบริษัทใหญ่โต เลยเข้าใจว่าน้ำตาลคงจะทำงานกับพี่เขยหลังจากเรียนจบ แต่น่าแปลกที่ทุกอย่างกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้น้ำตาลเป็นคนน่ารักและมีน้ำใจ ทั้งที่หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็กลายเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานทุกคนทว่าคนที่แสดงความรักและให้ความสำคัญกับน้ำตาลอย่างออกนอกหน้าจนพนักงานในบริษัทเริ่มอิจฉาและจับตาดูความสัมพันธ์... ก็คือนาวินผู้เป็นเจ้าของบริษัทนั่นเอง“พักบ้างก็ได้นะครับ... ”ตอนใกล้เที่ยง นาวินเปิดประตูออกมาจากห้องทำงาน เดินเข้ามาใกล้โต๊ทำงานของน้ำตาล ถามเสียงหวานแล้วยืนกอดอกมองเลขาสาวแสนสวยกำลังจัดเอกสารเข้าแฟ้มอย่างตั้งอกตั้งใจ“ยังไม่เที่ยงเลยค่ะ”น้ำตาลเหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนัง“นี่ผมใช้งานคุณหนักเกินไปหรือเปล่า”นาวินอยากชวนคุยมากกว่าอยากได้คำตอบในสิ่งที่ถาม“ไม่หรอกค่ะ... ถ้างานน้อยกว่านี้เดี๋ยวคุณวินจะหาว่าตาลทำงานไม่คุ้มเงินเดือน”น้ำตาลแหงนหน้ามองนาวินแวบหนึ่ง ดวงตาแสนหวานของหล่อนราวกับมีอำนาจสะกดใจชาย“แค่ตาลยอ
พนักงานไปเที่ยวทะเลเพื่อเป็นการให้รางวัลกับพนักงานของบริษัทที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทของเขามีกำไรตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ “เดือนหน้าผมตัดสินใจแล้วว่าจะพาพวกเราทุกคนไปเที่ยวทะเล” นาวินบอกในทันทีที่เดินออกมาจากห้องทำงาน เรื่องที่ได้ยินทำให้พนักงานต่างก็ยิ้มหน้าบาน พากันดีใจไปตามกันที่เห็นเจ้านายอารมณ์ดีขึ้นทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้มีหวังว่าต้องได้โบนัสก้อนโตตอนสิ้นปีอย่างแน่นอน “บอสกำลังมีความรัก” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากนาวินพาเลขาสาวแสนสวยเดินลับออกไปจากห้องทำงาน “น้ำตาลโชคดีจัง” ด้วยสีหน้าและแววตาอิจฉา พนักงานหญิงอีกคนกล่าวออกมาดังๆ เพราะว่าหล่อนพยายามทอดสะพานให้หลายครั้งหลายครา แต่นาวินก็ไม่เคยก้าวข้ามมาสักที ไม่เหมือนน้ำตาลที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน แต่สามารถทำให้บอสหลงใหลหัวปักหัวปำ อีกเดือนต่อมาที่บ้านหลังใหญ่ของมาร์เซโล่ ขณะที่น้ำตาลกำลังเดินลงมาจากห้องนอนซึ่งอยู่บนชั้นสองของบ้านเพื่อจะลงมาทานอาหารเช้าตามปกติ“มาร์คคะ จันทร์อยากให้น้องเมียคุณไปอยู่ที่อื่น เมื่อไรจะให้น้ำตาลย้ายอ
“น้ำตาลไม่สบาย... กูจะพาไปหาหมอว่ะ” นาวินบอกกับเจ้าของบ้าน น้ำตาลเดินออกมาที่เทอเรซหน้าบ้านพอดี ใบหน้าของหล่อนดูซีดเซียวจนเห็นได้ชัด “กูไม่เห็นรู้เลย” มาร์เซโล่ทำหน้าไม่พอใจ แทนที่น้ำตาลจะบอกเขาซึ่งอยู่ใกล้กว่า แต่หล่อนก็เลือกที่จะโทรไปบอกนาวิน คำพูดของพี่เขยที่ว่า ‘กูไม่เห็นรู้เลย’ ลอยมากระทบหูของน้ำตาลพอดี หล่อนได้ยินชัดเจนน้ำตาลนึกตอบอย่างขมขื่นอยู่ในใจว่าที่มาร์เซโล่ไม่รู้ก็เพราะเขาไม่เคยสนใจ... ไม่เคยใส่ใจใยดี น้องเมียที่ชื่อน้ำตาลคนนี้มีค่าก็ตอนที่เขาต้องการระบายความใคร่เท่านั้น “สำออยหรือเปล่าวะ” มาร์เซโล่พูดกับนาวินก็จริง แต่ก็จงใจจะให้หญิงสาวได้ยิน “ไอ้บ้า... หน้าซีดขนาดนั้นใครจะแกล้งวะ” มาวินตอบเบาๆ “ไปกันเถอะค่ะ” น้ำตาลรีบบอก หล่อนไม่อยากเห็นหน้าพี่เขยใจร้าย ความรู้สึกน้อยใจที่มีต่อมาร์เซโล่ทำให้หล่อนอยากหนีออกมาให้ไกลเขาโดยเร็วที่สุด “ไปหาหมอแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า ถ้าป่วยหนักขึ้นมาอาทิตย์หน้ามีหวังว่าตาลอดเที่ยวทะเลแน่ๆ” นาวินตั้งใจจะเปรยให้มาร์เซโ