Home / โรแมนติก / พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน / พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 3

Share

พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 3

Author: ACHICHI
last update Last Updated: 2025-03-12 17:33:59

พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 3

วันต่อมา

“รีบไปไหน?”

เสียงของยิมเพื่อนสนิทเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันคว้ากระเป๋า GUCCI คอลเลกชันใหม่ล่าสุดมาสะพายเตรียมตัวจะกลับ สายตาจับผิดมองมาอย่างทะลุปรุโปร่ง ร่างแบบบางของมันขยับตัวลุกขึ้นจากโต๊ะเลกเชอร์ พร้อมสะบัดเรือนผมยาวสยายไปด้านหลังเรียกสายตาจากหนุ่ม ๆ ในคลาสได้มากโข ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาคล้องแขนฉันไว้

“ว่าไงจ๊ะ? ไปตกหลุมรักผู้ชายที่ไหนอีก?” เสียงประชดประชันถามเค้นมาอีกรอบตา นัยน์ตาสีอ่อนฉายแววขบขันอย่างรู้ทันนิสัยกัน

ฉันถึงกับหัวเราะออกมา ราวกับว่ามันอ่านใจฉันได้หมดทุกซอกทุกมุม ก็ใช่หรอก… ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเป็นแบบนี้ เวลาฉันชอบใครก็มักจะวิ่งเข้าใส่ทุกที และอาการเดิม ๆ ก็คือรีบกลับเพื่อจะไปหาผู้ชาย

คติพจน์ของเราก็คือผู้ชายมาก่อนเสมอ ยังไงเพื่อนก็ไม่ไปไหนอยู่แล้ว… ใช่! เราทั้งคู่มันคนแรดแบบนี้แหละ

“คนนี้ฉันรู้จักไหม?” มันยังไม่เลิกกระแซะถาม ฉันเลยส่ายหน้าตอบ

“ไม่หรอก”

“เจอที่ไหน? ที่มอ.หรือเปล่า? คณะฯ อะไร?”

“ใจเย็น… ไม่ได้เรียนที่นี่หรอก”

“แล้ว?”

“เจอตามข้างทาง” ฉันบอกไปตามจริง แต่ไม่คิดจะเล่ารายละเอียดอะไรให้ฟังมากนัก

“หืม? คุณนลินชอบผู้ชายตามข้างทาง? คือยังไงไหนเล่า?”

ฉันเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อโดนมองด้วยสายตากดดัน ใบหน้าสวย ๆ ของยิมยังคงรอฟังอยู่อย่างนั้น แต่จะพูดยังไงดี ถ้าฉันบอกว่าฉันไปชอบเด็กที่อู่ซ่อมรถคงโดนเพื่อนแหวใส่แน่ ๆ และก็ใช่อีก ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่เป็นคนรวย เพื่อนฉันเองก็ไม่แพ้กันหรอก ยัยนี่รวยกว่าฉันด้วยซ้ำไป… สังคมที่เราอยู่ค่อนข้างที่จะ… อืม… เรียกได้ว่าเลิศก็แล้วกัน

ถ้าบอกว่าตอนนี้ฉันชอบเด็กช่างนี่… มันคงตกใจน่าดู…

“ไว้จีบติดค่อยมาเล่า” ฉันเลี่ยงที่จะบอก ทำแค่เพียงยิ้มน้อย ๆ เท่านั้น

“แกนี่นะ… คนมาจีบตั้งเยอะตั้งแยะไม่ชอบ… ชอบต้องไปตามจีบคนอื่นอยู่เรื่อย” ยิมหัวเราะ พร้อมมองตำหนิ “แล้วยังไง? ถ้าแกจีบไม่ติดคือฉันจะไม่ได้เจอ?”

“คนนี้หล่อมาก!! ฉันอยากได้” ฉันทำหน้าจริงจัง

“จ้า เอามาให้ฉันสแกนก่อนคบก็แล้วกัน”

“อือฮึ”

ฉันตอบได้แค่นั้นแล้วก็ต้องทำเป็นมองไปทางอื่น ไม่ใช่ว่าไม่รู้นิสัยเพื่อนตัวเองเสียเมื่อไหร่ ยิมเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันสนิทมาตั้งแต่ไฮสกูลเราเรียนมาพร้อมกัน อยู่ด้วยกันตลอด ฉันชอบใครก็จะบอกมันเสมอ… นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันกลัว…

เพื่อนฉันมันค่อนข้างถือตัว เรียกได้ว่าไม่สุงสิงกับคนที่ไม่ใช่ระดับเดียวกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันต่างจากฉันที่สามารถคุยได้กับทุกคน หรือชอบผู้ชายได้ทุกแบบ ขอแค่หล่อเป็นพอ… เอาเป็นว่ามันคงจะไม่ชอบใจถ้ารู้ว่าฉันไปปิ๊งพี่สิงห์เข้าแน่ ๆ

เราเดินมาจนถึงลานจอดรถก่อนที่ร่างบางที่สวยไปทุกส่วนสัดของเพื่อนจะโบกมือให้ฉัน มันเดินไปขึ้นรถพอร์ช911 สีเหลืองสดของตัวเองโดยไม่ลืมตะโกนมาให้กำลังใจกัน

“ขอให้จีบติดล่ะคุณนลิน”

“ติดอยู่แล้วย่ะ”

ฉันโบกมือให้เพื่อนแล้วขึ้นรถตัวเองบ้าง  ที่เบาะด้านข้างคนขับมีถุงขนมแบรนด์เดิมที่เมื่อวานฉันไปต่อคิวซื้อมาอีกหลายถุงวางอยู่ แต่โชคดีที่วันนี้ฉันฉลาดพอจะใช้บริการแอปฯ สั่งอาหาร ไม่ต้องไปยืนรออยู่เอง เพราะเห็นเพื่อน ๆ ของพี่สิงห์กินกันอย่างอร่อยเมื่อวานนั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันสั่งมาเพิ่ม

แค่นึกถึงหน้าหล่อ ๆ ที่ต้องหงุดหงิดแน่ ๆ เมื่อเห็นหน้าฉันอีกรอบก็น่าสนุกแล้ว…

ไปค่ะ… ไปจีบผู้ชายดีกว่า…

สองชั่วโมงต่อมา

ใช่! อ่านไม่ผิดหรอกสองชั่วโมงจริง ๆ ที่ฉันต้องนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเพราะไอ้อู่บ้านั่นมันดันอยู่ในโซนที่รถติดสุด ๆ กว่าจะมาถึงก็ปาไปห้าโมงกว่าแล้ว โชคยังดีที่อู่เฮียเล้งยังคงมีลูกค้าอยู่ ทุกคนก็ดูยุ่ง ๆ ฉันเทียบรถจอดหน้าอู่พยายามสอดส่องสายตาหาพี่สิงห์

รอบนี้ฉันมั่นใจว่าเขาอยู่… เพราะจำไอ้รถมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ คันนั้นได้ มันจอดนิ่งสนิทอยู่ที่เดิม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ร่างสูงของคนเมื่อวานที่น่าจะเป็นรุ่นน้องของพี่สิงห์เป็นคนเดินเข้ามาเคาะกระจกรถฉัน เมื่อเลื่อนกระจกลงเขาก็ทำตาโตก่อนจะเผลออุทานออกมา พร้อมกันก็มองกลับเข้าไปด้านในที่ทุกคนกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นท่าทางลุกลี้ลุกลนพิกล

“พี่สิงห์อยู่ไหม?” ฉันถามพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“เอ่อ…”

คนตรงหน้าดูอึกอัก เหมือนไม่กล้าพูดอะไร ฉันเลยไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไป รีบดับเครื่องลงพร้อมหอบหิ้วถุงขนมหลายถุงลงจากรถอย่างทุลักทุเล ก่อนจะยื่นกุญแจไปให้ร่างสูงที่ยังยืนอยู่ที่เดิม

“ทำสี”

ไม่รอช้าหลังจากที่บอกเสร็จก็เดินก้าวเข้าไปในอู่อย่างมั่นอกมั่นใจ ช่างหลายคนพากันหันมามองเพราะสภาพพะรุงพะรังของฉัน ช่างส่วนใหญ่ของอู่เฮียเล้งเป็นเด็กช่างเรียนที่เดียวกับพี่สิงห์นั่นแหละ แทบทุกคนยังอยู่ในเสื้อช็อปของวิทยาลัย ฉันเลยกวักมือเรียกคนที่ยืนอยู่ใกล้สุด และดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรเข้ามาหา

“ทำอะไรดีครับ?” เขาเดินเข้ามาหาพร้อมเอ่ยถามอย่างสุภาพ

“สวัสดี ฉันชื่อนลินซื้อขนมมาฝาก”

ว่าแล้วก็ยื่นถุงทั้งหมดส่งไปให้ ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่เข้าในสถานการณ์แต่ก็ยื่นมือมารับถุงขนมไปอย่างงง ๆ และวินาทีนั้นเองฉันก็เห็นร่างร่างหนึ่งเลื่อนตัวออกมาจากใต้ท้องรถคันหนึ่งซึ่งขึ้นฮ้อยยกรถอยู่ ในปากกำลังคาบไฟฉายอันเล็กเอาไว้ มือข้างหนึ่งถือประแจ ใบหน้าเปื้อนน้ำมันเครื่องจนดำไปส่วนหนึ่งมองมาที่ฉันนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก็ถอนหายใจเสียงดังพร้อมหลับตาลงเหมือนข่มอารมณ์

ฉันยกยิ้มเหมือนคนโรคจิตที่เห็นเขาทำท่าอารมณ์เสียแบบนั้น พี่สิงห์ลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก่อนจะส่งประแจให้ช่างอีกคน ส่วนไฟฉายเอาใส่กระเป๋าเสื้อช็อปไว้ ขายาว ๆ ก้าวเข้ามาหากัน ราวกับรู้อยู่แล้วว่าฉันมาทำไม สายตานิ่งสนิทมองฉันสลับกับถุงขนมในมือผู้ชายคนข้าง ๆ ที่ยืนประกอบฉากอยู่

“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาแล้ว” เสียงรำคาญเอ่ยอย่างไม่ไยดี จนคนที่ถือถุงขนมรีบขยับตัวถอยห่างออกไป

“ก็ไหนบอกว่ามาได้…” ฉันเถียงทันควัน พร้อมเอี้ยวตัวไปมองด้านหลังชี้นิ้วบอกให้เขาดูถึงเหตุผลที่ว่าทำไมฉันยังมาปรากฏตัวที่นี่อีก “เอารถมาทำสี”

“…” คนตรงหน้ามองฉันนิ่ง ๆ ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น “งั้นก็กลับไปได้แล้วค่อยมารับพรุ่งนี้ อู่จะปิดแล้ว”

“โกหก… คนอื่นยังทำงานกันอยู่เลย” ฉันว่าพร้อมกวาดตามองไปรอบ ๆ

“…” พี่สิงห์ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มเมื่อเห็นว่าฉันน่าจะไล่ให้กลับไปได้ยาก เขาขยับตัวเดินผ่านไปยังรถคันที่ว่าซึ่งมีรุ่นน้องเขาที่รับกุญแจไปกำลังยืนดูอาการอยู่ด้านนอกนั่น

ร่างสูงเดินวนไปท้ายรถเพื่อส่องดูรอยที่จะทำสีอย่างไม่เต็มใจนัก ฉันเองก็เดินตามมาดูด้วยอีกคน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคุยอะไรกันแต่ก็คงเรื่องทำสีนั่นแหละ…

“รีบใช้หรือเปล่าครับ? พี่น่าจะต้องมาพรุ่งนี้นะครับวันนี้คงไม่ทัน” รุ่นน้องเขาว่างั้น

“ได้” ฉันพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ แต่ก็ยังยืนนิ่งไม่ขยับตัวไปไหนอยู่จุดเดิม

รุ่นน้องคนนั้นมองเราสองคนสลับกันไปมาเหมือนเดาสถานการณ์ได้ แล้วเดินกลับเข้าอู่ไปเงียบ ๆ ตรงนี้เลยเหลือแค่เราสองคนอีกครั้ง ร่างสูงของพี่สิงห์ถอยห่างออกจากหน้าอู่ไปเล็กน้อยก่อนจะดึงบุหรี่ออกมาจุดสูบ เสี้ยวหน้าหล่อหันมามองฉันนิ่ง ๆ

“ทำแบบนี้เพื่อ?”

“ทำอะไร?”

“ดูจากรอยก็รู้ว่าถอยรถชนมา…”

“ก็ใช่ไงคะ”

“เพราะ?”

“…”

“แค่เพราะฉันพูดเมื่อวาน?” เสียงเครียดหนักเอ่ยถาม นัยน์ตาสีอ่อนมีแววตำหนิอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของฉัน “ปัญญาอ่อนเปล่าวะเนี่ย?”

“…” พอโดนด่าแบบนั้นฉันก็ตีหน้าบึ้งขึ้นมาทันที

“รู้ว่ารวย… แต่ทำแบบนี้มันดูโง่”

“…” โห! ยังปากจัดเหมือนเดิม…

“ไม่รู้ตัวละสิว่าตัวเองโง่… ไม่งั้นคงไม่ทำหรอก” เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมอย่างหนักใจ

“ก็พี่สิงห์บอกว่าต้องรถพังก่อนถึงค่อยมา” ฉันแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ไปงั้น รู้ว่าฟังดูยิ่งปัญญาอ่อนหนักเข้าไปใหญ่ แต่ฉันก็งี้แหละ… เหตุผลไม่จำเป็น…

“…” คนตรงหน้าถอนหายใจเสียงดังเหมือนหมดคำจะพูด ทำท่าเหมือนจะเดินหนีไปดื้อ ๆ ฉันเลยรีบขยับตัวไปยืนกางแขนขวางทางเอาไว้

“เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้คุยเลย”

“ไร?” เสียงห้วนเอ่ยถาม เรียวคิ้วยังคงขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบ

“ชื่อนลินนะคะ” ฉันรีบแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พร้อมยื่นมือให้ แต่คนตรงหน้ากลับทำเพียงแค่มอง แล้วเอามือตัวเองล้วงกระเป๋าเสื้อซะงั้น

“รู้แล้ว”

“พี่สิงห์อายุเท่าไหร่? บางทีเราอาจจะอายุเท่ากันก็ได้”

“ยี่สิบสอง”

“หูย! งั้นก็เดาถูก ลินแค่สิบเก้าเอง!” ฉันทำหน้ากระดี๊กระด๊าอย่างตื่นเต้น แต่คนตรงหน้ากลับมองอาการฉันนิ่ง ๆ เหมือนเดิม

“ได้คุยแล้วพอใจยัง?”

“โหย! ทำไมเฉยชาจังเลยอะ” ฉันทำเป็นกอดอกมองอย่างงอน ๆ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยต้องใจอ่อนเวลาเห็นผู้หญิงทำหน้าน่ารักขนาดนี้ละวะ!

“แค่นี้นะ จะทำงาน”

แต่ไอ้พี่บ้านี่กลับเดินผ่านฉันไปหน้าตาเฉยเลย!

สองชั่วโมงผ่านไป

ฉันกำลังนั่งเลื่อนโทรศัพท์เล่นอยู่ที่โซฟาสำหรับลูกค้ามาจวนจะครบสองชั่วโมงแล้ว ช่างกลุ่มสุดท้ายหันมาโบกมือบ๊ายบายให้อย่างเป็นกันเองเพราะเราอายุไม่ห่างกันเท่าไหร่ และฉันก็ตีสนิทพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนชอบที่ฉันซื้อขนมมาฝาก และรู้เรื่องที่ฉันมาที่นี่เพราะอะไร… แต่อย่างหลังฉันไม่ได้เป็นคนพูดหรอก พวกเขาคงเดา ๆ กันได้เอง

ก็มาหาพี่สิงห์ไง…

ถึงแม้ว่าอู่จะปิดแล้ว ประตูเหล็กเลื่อนลงจนเหลือแค่ครึ่งเดียวแต่ฉันก็ยังคงนั่งอยู่ข้างในอย่างไม่คิดจะยอมกลับ คนที่เอาแต่ไล่ในตอนแรกก็ดูเหมือนจะขี้เกียจไล่แล้วด้วย พี่สิงห์ทำงานไปเรื่อยโดยไม่หันมามองฉันสักนิดตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ผ่านมานี้  ราวกับจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าอยากทำอะไรก็ทำประมาณนั้น

และใช่… ฉันอยากรอเขาไง…

“ไม่กลับเหรอ?” ฉันคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงบนตักเมื่อคนกลุ่มสุดท้ายเดินออกจากอู่ไปแล้ว

“…”

ร่างสูงที่กำลังยืนใช้ผ้าเช็ดเหงื่ออยู่ตรงมุมหนึ่งชำเลืองมองมาโดยไม่ตอบอะไร ขายาว ๆ เดินเก็บข้าวเก็บของที่คนอื่นลืมทิ้งวางไว้กระจัดกระจาย ฉันได้แต่นั่งยิ้มเก้อมองเขาอยู่อย่างนั้น แหม… พี่มันหยิ่งจริง ๆ

“ไม่หิวเหรอ? ไม่เห็นกินอะไรเลย คนอื่นเขายังกินขนมที่ลินเอามาฝาก” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าตัวที่กำลังลากถังน้ำออกมาเพื่อจะถูพื้น

“หลบไป เกะกะ”

“…” ฉันทำหน้าบึ้งใส่ แต่ก็ยอมหลบทางให้ ก่อนจะเปรยถามต่ออย่างไม่ยอมแพ้ “แล้ววันนี้พี่ไปส่งได้ไหม?”

“…” ได้ผลชะงัด คนตัวใหญ่ที่กำลังตั้งท่าจะถูพื้นถึงกับหันกลับมามองหน้า คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย “ใครบอกว่าจะไปส่ง?”

“ไม่มี… แต่จะให้ลินนั่งแท็กซี่กลับเองเหรอ? รถก็ทิ้งไว้ที่นี่ แถมยังรอมาตั้งสองชั่วโมง”

“ก็แล้วทำไมไม่กลับไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด?”

“ก็รอไง”

“รอทำไม? บอกว่าไม่อยากคุย” น้ำเสียงรำคาญบอกประโยคเดิมเป็นรอบที่ล้านได้แล้วมั้ง

“ทำไมใจร้าย!” ฉันกระทืบเท้าอย่างเอาแต่ใจ จนคนตรงหน้ากลอกตาใส่ อย่างเอือมระอา

“เลิกมาที่นี่ได้แล้ว วันนั้นช่วยเพราะสงสารแต่ไม่ได้อยากสานต่อ เข้าใจไหมวะ?”

“ก็ชอบอะ” ฉันปั้นยิ้มหวานส่งให้อย่างไม่รักนวลสงวนตัว พอตั้งท่าจะก้าวเท้าเข้าไปหาคนตรงหน้ากลับยกมือขึ้นมาห้ามไว้

“พอเลย… เป็นผู้หญิงแท้ ๆ ทำแบบนี้เพื่อ?” คนหล่อท่าทางจะหงุดหงิด สายตาลากลงมองเรียวขาเล็กของฉันแล้วชี้ไม้ชี้มือ “แล้วดู… ใส่กระโปรงสั้นแค่คืบมานั่งอ่อยในร้าน ผู้ชายอยู่กันเป็นโขยงไม่รู้จักกลัว?”

“กลัวไรอะ? ไม่เห็นมีใครสนใจ”

“…” คนตรงหน้าเลียริมฝีปากค้างไว้เหมือนหมดคำจะพูดอีกครั้ง นัยน์ตาสีอ่อนจ้องหน้าฉันนิ่ง “ต้องการอะไร?”

“ก็บอกแล้วไงว่าชอบ…”

“เอาอะไรมาชอบ… เจอหน้ากันแค่กี่ครั้งเอง?”

“ก็พี่หล่อ” ฉันบอกอย่างตรงไปตรงมาที่สุด พี่สิงห์ไม่ได้ทำท่าทีขัดเขินเลยแม้แต่น้อยเหมือนมั่นใจในความหล่อของตัวเองอยู่แล้ว

“แค่นี้?”

“อือ”

“กลับบ้านไป รำคาญ” ว่าแล้วก็โบกมือไล่ แล้วหันกลับไปถูพื้นต่อ ปล่อยให้ฉันยืนเบ้ปากมองบนอยู่คนเดียว

เอะอะก็ไล่ ๆ เดี๋ยวก็รำคาญบ้าง เดี๋ยวก็โง่บ้าง… เป็นผู้ชายประสาอะไรกัน…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 4

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลินตอนที่ 4จนแล้วจนรอดฉันก็ยังคงคอนเซ็ปต์ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกอยู่ดี…ตอนนี้พี่สิงห์ทำงานเสร็จแล้ว และกำลังยืนกินมาม่าคัพอยู่ตรงเคาน์เตอร์ชงกาแฟลูกค้า ร่างสูงยืนกินไปมองหน้าฉันไปเงียบ ๆ โดยไม่คิดจะชวนกันสักแอะ…หลังจากกินเสร็จก็เดินผ่านหน้าฉันไปคว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์ที่แขวนอยู่ตรงล็อกเกอร์ เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นเป็นรอบที่หนึ่งล้าน แล้วเสียงเรียบก็เอ่ยขึ้น“ออกมาได้แล้วจะปิดร้าน”ไม่ต้องบอกก็รู้หรอกน่า… ฉันมุดหัวออกทางประตูเหล็กที่ปิดลงมาแล้วครึ่งหนึ่ง ยืนนิ่งรอเขาล็อกประตู“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้” ว่าแล้วก็หันมาบอก พร้อมเลื่อนมือถือไปด้วย“อะไรอะ? นี่รอตั้งนานจะส่งขึ้นแท็กซี่?” ฉันร้องเสียงหลง พร้อมชี้นิ้วไปยังไอ้มอเตอร์ไซค์บุโรทั่งของเขา “จะนั่งไอ้นี่กลับ”“…” เจ้าตัวทิ้งแขนข้างที่ถือโทรศัพท์ลงข้างตัว สายตารำคาญมองมาอีกครั้งก่อนจะประชด “อยากนั่งไอ้แก่นี่นักรึไง?”“ใช่ อยากมาก” ฉันรีบบอกพร้อมขยับเข้าไปใกล้ไอ้แก่ที่ว่า พร้อมกับลูบ ๆ คลำ ๆ แสดงความต้องการ“…”เจ้าของไอ้แก่ยัดมือถือใส่เสื้อช็อป แล้วเดินมาถอยรถออกจากซองจอดเงียบ ๆ ราวกับเบื่อที่จะเถียงอะไรกับฉันแ

    Last Updated : 2025-03-12
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 5

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 5สิบห้านาทีต่อมารถจอดนิ่งสนิทลงตรงหน้าร้านเหล้าแบบนั่งดื่มมีดนตรีสดร้านหนึ่ง ฉันเองก็ขับผ่านร้านนี้บ่อย ๆ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสแวะมาเพราะยิมชอบเที่ยวผับมากกว่า พี่สิงห์หันมามองหน้ากันอีกครั้งบอกเสียงเครียด“กลับบ้านเลย เข้าใจ?”“อือฮึ” ฉันพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้ คนข้าง ๆ ยังคงทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจกัน“ห้ามไปก่อกวนเวลาทำงาน?” ว่าแล้วก็ย้ำมาอีกที“รู้แล้วน่า รีบไปสิเดี๋ยวก็สายหรอก” ฉันทำเป็นโบกมือไล่“เออ”ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถไปแล้ว แต่ยังคงยืนนิ่งโบกมือไล่กันอยู่อย่างนั้น ฉันพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วเริ่มเคลื่อนรถอีกครั้ง มองผ่านกระจกมองหลังยังเห็นว่าเจ้าตัวยืนอยู่ที่เดิมราวกับระแวงว่าฉันจะไม่ยอมกลับจริง ๆก็แหงสิ! เรื่องอะไรต้องกลับด้วย ไปวนรถมาอีกรอบก็ได้!ฉันทำเป็นขับรถตรงไปเรื่อย ๆ พอเห็นว่าเลยมาไกลพอสมควรก็หาที่กลับรถเพื่อจะกลับไปที่เดิมอีกครั้ง อยากรู้จะตายชักว่าทำงานเสริมอะไรอีก เรื่องอะไรต้องยอมกลับด้วยล่ะ…นี่ใคร นี่นลินนะ! ฉันเนี่ยเบอร์หนึ่งเรื่องดื้อเลยขอบอก!หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว ฉันก็เดินไปที่หน้าร้านเดิมที่พี่สิงห์เข้าไปเมื

    Last Updated : 2025-03-12
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 1

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 101.30 น.ไม่อยากจะเชื่อ…ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าฉันจะต้องมายืนรอเพื่อนมารับตรงซอยเปลี่ยวในเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ แบบนี้ โอเค… มันก็เป็นย่านที่คนพลุกพล่านนั่นแหละ แต่ทีนี้เพราะซอยอื่นรถมันเยอะฉันเลยโดนสั่งให้มายืนรอตรงซอยนี้แทนไม่มีใคร… ไม่มีรถผ่าน… มีก็แต่…ร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังมุดหัวออกมาจากประตูเลื่อนที่ปิดลงมาครึ่งหนึ่งของอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ มันดูเหมือนจะเลยเวลาทำการมานานแล้วทว่าแสงไฟจากในอู่เพิ่งจะดับลงเมื่อครู่นี้เอง เพราะความหวาดระแวงฉันเลยลอบสังเกตผู้ชายคนนั้นเงียบ ๆ ร่างสูงดูทะมัดทะแมง แข็งแรง และที่สำคัญ… ขนาดมองจากตรงนี้ยังเห็นได้ชัดว่าเขาโคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลยจริง ๆใบหน้าติดจะหงุดหงิดชำเลืองมามองฉันที่ยืนอยู่ชิดฟุตพาทฝั่งตรงข้ามเงียบ ๆ ฉันเลยพลอยได้จ้องเขาถนัดขึ้น นัยน์ตาสีอ่อนดูแปลกใจที่มีผู้หญิงที่แต่งตัวจัดเต็มมายืนแกร่วอยู่แถวนี้แต่แล้วจมูกโด่งก็พ่นลมหายใจหนักจนได้ยินเสียงดังฟังชัด เขายืดตัวขึ้นเต็มความสูง ทำให้มองเห็นว่าเจ้าตัวอยู่ในเสื้อช็อปสีกรม เหมือนจะเรียนวิทยาลัยช่างในละแวกนี้ เขาเสยผมสีน้ำตาลเข้มขึ้นก่อนมือสองข้างจะลดล

    Last Updated : 2025-03-12
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 2

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 2วันต่อมาวันนี้หลังจากเลิกเรียน ฉันก็ตั้งใจจะเอาของกินไปขอบคุณผู้ชายคนเมื่อวานที่อู่ซ่อมรถอู่เดิม แต่กลายเป็นว่าไม่เห็นหน้าหล่อ ๆ ของเขาเลย เห็นก็แต่ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังทำงานกันอยู่ บางคนใส่เสื้อช็อปแบบเดียวกับที่เขาใส่ แต่บางคนก็อยู่ในชุดทำงานของอู่ มีตัวอักษรเขียนกำกับบนหลังเสื้อว่า…‘อู่เฮียเล้ง’“ติดต่ออะไรครับ?”“…”อาจเป็นเพราะว่าทุกคนหันมาเห็นฉันยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ด้านหน้า อาเฮียที่อยู่ข้างในเลยส่งเสียงบอกให้ช่างของอู่หนึ่งในนั้นเดินออกมาหา เขาตัวสูงพอ ๆ กับคนเมื่อวาน หน้าตาหล่อเหมือนกัน ซ้ำยังใส่เสื้อช็อปของวิทยาลัยเดียวกัน… แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คนนี้แน่นอน เพราะคนที่ว่าหน้านิ่งกว่านี้เยอะ…“มาหาคนรู้จักค่ะ” ฉันยิ้มตอบพร้อมทั้งชูถุงขนมแบรนด์ดังที่กำลังเป็นกระแสขึ้นมาให้คนตรงหน้าดู“ใครครับ?” เขาไม่ได้มองถุงขนมราคาแพงแต่เลิกคิ้วถามอีกครั้งพร้อมหันไปมองเพื่อน ๆ ตัวเองอย่างข้องใจ “ไม่น่ามีใครที่นี่รู้จักกับคุณนะ”“มีสิ… คนที่หล่อ ๆ ตัวสูง ๆ หน้านิ่ง ๆ หน่อย” ฉันพยายามให้ข้อมูล ซึ่งมันก็ดูไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่“พ

    Last Updated : 2025-03-12

Latest chapter

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 5

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 5สิบห้านาทีต่อมารถจอดนิ่งสนิทลงตรงหน้าร้านเหล้าแบบนั่งดื่มมีดนตรีสดร้านหนึ่ง ฉันเองก็ขับผ่านร้านนี้บ่อย ๆ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสแวะมาเพราะยิมชอบเที่ยวผับมากกว่า พี่สิงห์หันมามองหน้ากันอีกครั้งบอกเสียงเครียด“กลับบ้านเลย เข้าใจ?”“อือฮึ” ฉันพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้ คนข้าง ๆ ยังคงทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจกัน“ห้ามไปก่อกวนเวลาทำงาน?” ว่าแล้วก็ย้ำมาอีกที“รู้แล้วน่า รีบไปสิเดี๋ยวก็สายหรอก” ฉันทำเป็นโบกมือไล่“เออ”ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถไปแล้ว แต่ยังคงยืนนิ่งโบกมือไล่กันอยู่อย่างนั้น ฉันพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วเริ่มเคลื่อนรถอีกครั้ง มองผ่านกระจกมองหลังยังเห็นว่าเจ้าตัวยืนอยู่ที่เดิมราวกับระแวงว่าฉันจะไม่ยอมกลับจริง ๆก็แหงสิ! เรื่องอะไรต้องกลับด้วย ไปวนรถมาอีกรอบก็ได้!ฉันทำเป็นขับรถตรงไปเรื่อย ๆ พอเห็นว่าเลยมาไกลพอสมควรก็หาที่กลับรถเพื่อจะกลับไปที่เดิมอีกครั้ง อยากรู้จะตายชักว่าทำงานเสริมอะไรอีก เรื่องอะไรต้องยอมกลับด้วยล่ะ…นี่ใคร นี่นลินนะ! ฉันเนี่ยเบอร์หนึ่งเรื่องดื้อเลยขอบอก!หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว ฉันก็เดินไปที่หน้าร้านเดิมที่พี่สิงห์เข้าไปเมื

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 4

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลินตอนที่ 4จนแล้วจนรอดฉันก็ยังคงคอนเซ็ปต์ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกอยู่ดี…ตอนนี้พี่สิงห์ทำงานเสร็จแล้ว และกำลังยืนกินมาม่าคัพอยู่ตรงเคาน์เตอร์ชงกาแฟลูกค้า ร่างสูงยืนกินไปมองหน้าฉันไปเงียบ ๆ โดยไม่คิดจะชวนกันสักแอะ…หลังจากกินเสร็จก็เดินผ่านหน้าฉันไปคว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์ที่แขวนอยู่ตรงล็อกเกอร์ เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นเป็นรอบที่หนึ่งล้าน แล้วเสียงเรียบก็เอ่ยขึ้น“ออกมาได้แล้วจะปิดร้าน”ไม่ต้องบอกก็รู้หรอกน่า… ฉันมุดหัวออกทางประตูเหล็กที่ปิดลงมาแล้วครึ่งหนึ่ง ยืนนิ่งรอเขาล็อกประตู“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ให้” ว่าแล้วก็หันมาบอก พร้อมเลื่อนมือถือไปด้วย“อะไรอะ? นี่รอตั้งนานจะส่งขึ้นแท็กซี่?” ฉันร้องเสียงหลง พร้อมชี้นิ้วไปยังไอ้มอเตอร์ไซค์บุโรทั่งของเขา “จะนั่งไอ้นี่กลับ”“…” เจ้าตัวทิ้งแขนข้างที่ถือโทรศัพท์ลงข้างตัว สายตารำคาญมองมาอีกครั้งก่อนจะประชด “อยากนั่งไอ้แก่นี่นักรึไง?”“ใช่ อยากมาก” ฉันรีบบอกพร้อมขยับเข้าไปใกล้ไอ้แก่ที่ว่า พร้อมกับลูบ ๆ คลำ ๆ แสดงความต้องการ“…”เจ้าของไอ้แก่ยัดมือถือใส่เสื้อช็อป แล้วเดินมาถอยรถออกจากซองจอดเงียบ ๆ ราวกับเบื่อที่จะเถียงอะไรกับฉันแ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 3

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 3วันต่อมา…“รีบไปไหน?”เสียงของยิมเพื่อนสนิทเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันคว้ากระเป๋า GUCCI คอลเลกชันใหม่ล่าสุดมาสะพายเตรียมตัวจะกลับ สายตาจับผิดมองมาอย่างทะลุปรุโปร่ง ร่างแบบบางของมันขยับตัวลุกขึ้นจากโต๊ะเลกเชอร์ พร้อมสะบัดเรือนผมยาวสยายไปด้านหลังเรียกสายตาจากหนุ่ม ๆ ในคลาสได้มากโข ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาคล้องแขนฉันไว้“ว่าไงจ๊ะ? ไปตกหลุมรักผู้ชายที่ไหนอีก?” เสียงประชดประชันถามเค้นมาอีกรอบตา นัยน์ตาสีอ่อนฉายแววขบขันอย่างรู้ทันนิสัยกันฉันถึงกับหัวเราะออกมา ราวกับว่ามันอ่านใจฉันได้หมดทุกซอกทุกมุม ก็ใช่หรอก… ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเป็นแบบนี้ เวลาฉันชอบใครก็มักจะวิ่งเข้าใส่ทุกที และอาการเดิม ๆ ก็คือรีบกลับเพื่อจะไปหาผู้ชายคติพจน์ของเราก็คือผู้ชายมาก่อนเสมอ ยังไงเพื่อนก็ไม่ไปไหนอยู่แล้ว… ใช่! เราทั้งคู่มันคนแรดแบบนี้แหละ“คนนี้ฉันรู้จักไหม?” มันยังไม่เลิกกระแซะถาม ฉันเลยส่ายหน้าตอบ“ไม่หรอก”“เจอที่ไหน? ที่มอ.หรือเปล่า? คณะฯ อะไร?”“ใจเย็น… ไม่ได้เรียนที่นี่หรอก”“แล้ว?”“เจอตามข้างทาง” ฉันบอกไปตามจริง แต่ไม่คิดจะเล่ารายละเอียดอะไรให้ฟังมากนัก“หืม? คุณน

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 2

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 2วันต่อมาวันนี้หลังจากเลิกเรียน ฉันก็ตั้งใจจะเอาของกินไปขอบคุณผู้ชายคนเมื่อวานที่อู่ซ่อมรถอู่เดิม แต่กลายเป็นว่าไม่เห็นหน้าหล่อ ๆ ของเขาเลย เห็นก็แต่ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังทำงานกันอยู่ บางคนใส่เสื้อช็อปแบบเดียวกับที่เขาใส่ แต่บางคนก็อยู่ในชุดทำงานของอู่ มีตัวอักษรเขียนกำกับบนหลังเสื้อว่า…‘อู่เฮียเล้ง’“ติดต่ออะไรครับ?”“…”อาจเป็นเพราะว่าทุกคนหันมาเห็นฉันยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ด้านหน้า อาเฮียที่อยู่ข้างในเลยส่งเสียงบอกให้ช่างของอู่หนึ่งในนั้นเดินออกมาหา เขาตัวสูงพอ ๆ กับคนเมื่อวาน หน้าตาหล่อเหมือนกัน ซ้ำยังใส่เสื้อช็อปของวิทยาลัยเดียวกัน… แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คนนี้แน่นอน เพราะคนที่ว่าหน้านิ่งกว่านี้เยอะ…“มาหาคนรู้จักค่ะ” ฉันยิ้มตอบพร้อมทั้งชูถุงขนมแบรนด์ดังที่กำลังเป็นกระแสขึ้นมาให้คนตรงหน้าดู“ใครครับ?” เขาไม่ได้มองถุงขนมราคาแพงแต่เลิกคิ้วถามอีกครั้งพร้อมหันไปมองเพื่อน ๆ ตัวเองอย่างข้องใจ “ไม่น่ามีใครที่นี่รู้จักกับคุณนะ”“มีสิ… คนที่หล่อ ๆ ตัวสูง ๆ หน้านิ่ง ๆ หน่อย” ฉันพยายามให้ข้อมูล ซึ่งมันก็ดูไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่“พ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 1

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 101.30 น.ไม่อยากจะเชื่อ…ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าฉันจะต้องมายืนรอเพื่อนมารับตรงซอยเปลี่ยวในเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ แบบนี้ โอเค… มันก็เป็นย่านที่คนพลุกพล่านนั่นแหละ แต่ทีนี้เพราะซอยอื่นรถมันเยอะฉันเลยโดนสั่งให้มายืนรอตรงซอยนี้แทนไม่มีใคร… ไม่มีรถผ่าน… มีก็แต่…ร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังมุดหัวออกมาจากประตูเลื่อนที่ปิดลงมาครึ่งหนึ่งของอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ มันดูเหมือนจะเลยเวลาทำการมานานแล้วทว่าแสงไฟจากในอู่เพิ่งจะดับลงเมื่อครู่นี้เอง เพราะความหวาดระแวงฉันเลยลอบสังเกตผู้ชายคนนั้นเงียบ ๆ ร่างสูงดูทะมัดทะแมง แข็งแรง และที่สำคัญ… ขนาดมองจากตรงนี้ยังเห็นได้ชัดว่าเขาโคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลยจริง ๆใบหน้าติดจะหงุดหงิดชำเลืองมามองฉันที่ยืนอยู่ชิดฟุตพาทฝั่งตรงข้ามเงียบ ๆ ฉันเลยพลอยได้จ้องเขาถนัดขึ้น นัยน์ตาสีอ่อนดูแปลกใจที่มีผู้หญิงที่แต่งตัวจัดเต็มมายืนแกร่วอยู่แถวนี้แต่แล้วจมูกโด่งก็พ่นลมหายใจหนักจนได้ยินเสียงดังฟังชัด เขายืดตัวขึ้นเต็มความสูง ทำให้มองเห็นว่าเจ้าตัวอยู่ในเสื้อช็อปสีกรม เหมือนจะเรียนวิทยาลัยช่างในละแวกนี้ เขาเสยผมสีน้ำตาลเข้มขึ้นก่อนมือสองข้างจะลดล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status