รถซุปเปอร์คาร์สีดำชนบาริเออร์สภาพพังยับเยินเกยนิ่งอยู่ริมถนน
คือภาพที่ก้องกวินทิ้งไว้เบื้องหลัง
ใช่! เขาเมายังไม่สร่างจึงหลับในขณะขับรถกลับบ้าน โชคดีที่ชนขอบกั้นริมถนนไม่ได้ชนคน แค่เสียรถคันโปรดไป ระบบความปลอดภัยของมันดีเยี่ยม เขาได้พิสูจน์แล้วเมื่อกี้
ชายหนุ่มโทรบอกลูกน้องของพ่อให้มาจัดการ ส่วนตัวเองพาสภาพพังยับทั้งกายใจเดินเอื่อยเฉื่อยไปเรื่อยๆ
บนถนนชานเมืองช่วงเช้ามืดเปล่าเปลี่ยวขมุกขมัวเหมือนหัวใจอันมืดดำเพราะบอบช้ำจากการใช้ชีวิตสุดโต่ง
ก้องกวินเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านจึงถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ทุกคนไม่ว่าพ่อแม่พี่ชายพี่สาวล้วนเอาอกเอาใจ อยากได้อะไรก็ย่อมได้ ก่อนนี้อยู่เมืองนอกจึงใช้ชีวิตเต็มที่ แล้วก็พลาดท่าเสียทีจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนในวันนี้
หนแรกถูกเพื่อนหักหลัง ต่อมาถูกตำรวจจับข้อหาพยายามฆ่า ทั้งที่แค่วิวาทแต่ลงมือหนักไปหน่อยเท่านั้น ติดคุกอยู่นาน ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้อิสระออกมา
พอมีแฟนจึงคิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง หล่อนสวยน่ารักดีกรีคุณหนูมีตระกูล ท่าทียังเรียบร้อยอ่อนหวานไร้พิษภัย เขาที่พร้อมปรับปรุงเพื่อเธอกลับพบเจอคำโกหกน่ารังเกียจ เริ่มแรกหล่อนบอกอยากเป็นดารา เขาสนับสนุนเต็มที่
พาไปเรียนแคสติ้งการแสดง พาไปทำศัลยกรรม แก้ไขจุดบกพร่องจนหล่อนได้เข้าสังกัดศิลปินแถวหน้าและเป็นนางเอกสมใจ
ต่อมาหล่อนบอกต้องไปอยู่บ้านพักที่สังกัดจัดให้ เขาก็ให้ไปอย่างใจป้ำ
ทว่าท้ายที่สุดเขาถึงรู้ความจริง
หล่อนแอบคบซ้อนกับผู้ชายหน้าหล่อคนหนึ่ง จึงทำทุกอย่าง หลอกเขาทุกทาง เพื่อให้ได้เป็นคู่จิ้นหน้าใหม่และอยู่สังกัดเดียวกันอยู่ที่เดียวกันจะได้คบหาแนบเนียนทุกวัน
หลังจากนั้นเขาก็ถูกคนของพ่อไปรับกลับเมืองไทยก่อนที่จะฆ่าคนระดับศิลปินหน้ากล้องจนกลายเป็นข่าวใหญ่
แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น เขาเอาแต่กินเที่ยวประชดชีวิตที่บัดซบไปวันๆ จนเสียรถหรูสุดรักไปหนึ่งคัน
ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยๆ ริมถนนเหมือนคนเลื่อนลอย เกิดมาแค่รวยแต่ไม่หล่อแถมยังหน้าโหดเหมือนโจรถ่อย จะไปสู้ใครได้
เสื้อผ้าของก้องกวินตอนนี้ยิ่งกว่าไปฟัดกับสุนัขมา ใบหน้าคมเข้มไร้การดูแลจึงมีหนวดรุงรังอย่างกับคนเถื่อน กลิ่นตัวยังเหม็นโชยไม่น่าเข้าใกล้
เมื่อคืนเขามีเรื่องชกต่อยกับใครไม่รู้ในผับแห่งหนึ่ง นอกจากกลิ่นเหล้าที่ตกค้าง กลิ่นกับแกล้มที่ติดตัวตอนล้มใส่ขณะต่อยตี ยังมีเลือดของพวกมันติดเสื้อสีดำของเขามาด้วย แม้มองไม่เห็นแต่เหม็นฉิบหาย
ไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไรไกลแค่ไหน พอเหนื่อยก็เลยนั่งลงริมทางอย่างคนหมดสภาพ
ดวงตาคู่คมแสบเคืองจนไม่อาจสู้แสง เขาจึงล้วงแว่นตาดำมาสวมขณะแหงนมองฟ้า ตะวันขึ้นจนสายโด่งจึงเห็นหนทางชัดเจน เขาถึงเพิ่งรู้ว่าหลงทาง
พอลุกขึ้นทำท่าจะเดินต่อก็ชนป้ายโฆษณาริมทาง เสียงดังโป๊ก ครั้นหันหลังเดินไปอีกทางก็ตกท่อซะงั้น
ชีวิตแม่ง!
ปีนี้ก้องกวินอายุยี่สิบห้าพอดี น่าจะเบญจเพสแน่ๆ
ชายหนุ่มคิดแบบนั้นขณะขาสองข้างจุ่มลงไปในท่อที่มีน้ำเกรอะเหม็นคลุ้ง
จู่ๆ หน้าผากก็รู้สึกเจ็บแปลบ ศีรษะที่เพิ่งชนป้ายยังไม่หายเจ็บแท้ๆ วัยรุ่นสองคนยังเขวี้ยงแก้วพลาสติกใส่ ในแก้วมีน้ำแข็งด้วยไง ตามด้วยถูกไม้เขี่ยเหมือนเขาเป็นก้อนขี้
“เฮ้ย! ไอ้คนตาบอด เรียกตั้งนานไม่ได้ยินรึไง? อ่ะ เอาไม้ด้วยป่าว แล้วแก้วนั่นเอาไว้ให้คนใส่เหรียญนะ ฮ่าๆ”
ก้องกวินยังไม่ทันเงยหน้ามองเพราะกำลังพยายามปีนขึ้นจากท่อที่ฝาหายไปไหนไม่รู้อย่างทุลักทุเล จังหวะนั้น เขาได้ยินเสียงเด็กสาวคนหนึ่งด่ากราดไม่ไว้หน้า
“ไอ้โบ้ ไอ้เปี๊ยก”
“โอ๊ย! เจ้ต้าขาโหด เจ็บนะ แค่อยากช่วยขอทานไง”
“ใครขอทาน ไอ้พวกนี้ มึงมีสิทธิ์อะไร ห๊า!”
“โอ๊ย! เจ้ เบาๆ”
“พวกมึงนี่ ไปเลยนะ”
“ไปแล้วๆ”
ก้องกวินเงยหน้ามองจึงเห็นหล่อนกำลังไล่เตะตะเพิดสองวัยรุ่นจนกระโปรงเปิดเห็นกางเกงขาสั้นด้านใน พอไล่เจ้าเด็กอันธพาลไป เธอก็เดินเข้ามาจับแขนของเขาแล้วช่วยพยุงจนขึ้นจากท่อได้
“พี่ชายเป็นไรมั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
เธอถามอย่างห่วงใย ปัดคราบดินคราบโคลนออกให้ ช่วยเหลือเขาอย่างไม่รังเกียจ ทั้งที่กลิ่นเหม็นของน้ำเกรอะนี้ทำเขาอ้วกแทบพุ่งทุกวินาที
หล่อนประคองเขาไปนั่งลงริมฟุตบาท “ไม่เป็นไรนะ พี่จะไปไหนเหรอ? ให้ฉันช่วยพาไปดีมั้ย” ก้มดูนาฬิกาข้อมือ พึมพำคนเดียว “ไปเรียนสายหน่อยก็ได้ เนอะ” หันมายักคิ้วยิ้มกว้างเต็มหน้าให้เขา “อย่าไปโกรธเจ้าพวกนั้นมันเลย ไม่ได้ไปโรงเรียนก็เลยว่างไง แค่เกะกะเกเรไปบ้างน่ะ”
ท่าทางที่น่าสมเพชของเขาคงจะชัดเจนว่าเพิ่งเจอเรื่องหนักหนาสาหัสมา หล่อนคงมองออกจึงชวนพูดชวนคุยด้วยน้ำเสียงสบายๆ จังหวะนุ่มนวลน่าฟัง“พี่ชายดูดีดูล่ำซำขนาดนี้จะเป็นขอทานได้ไง จริงป่ะ วันหน้ายังอาจได้เป็นเจ้าคนนายคนด้วยน๊า อย่าคิดมากเลย”สงสัยหล่อนเห็นเขาเครียดเกินไป จึงคล้ายต้องการเล่นมุขเพื่อปลอบประโลมใจประมาณนั้น“พี่เหมือนนักรบพเนจรที่ปลอมตัวเป็นยาจกเลยอ่ะ พ่ายศึกมาเหรอไง? ไม่เอาน่า ศึกนี้แพ้ศึกหน้าชนะแน่ๆ สมรภูมิไม่สิ้น ไม่มีใครชนะทุกครั้ง ยิ่งไม่มีใครแพ้ตลอดไป เชื่อดิ น้องสาวคนนี้ผ่านมาแล้วหลายศึกเลยน๊า”นับว่าได้ผล มุขนี้ของหล่อนทำเขาหลุดยิ้มนิดนึงเพราะเพิ่งมีคนบอกว่าเขาเหมือนนักรบ ขนาดเพื่อนยังมองว่าเขาเหมือนโจรป่าที่ปล้นฆ่าชิงทรัพย์ไม่สำเร็จก็เลยหมดสภาพอย่างที่เห็น“เฮ้...” เงียบไปซักพักเธอขมวดคิ้วนิ่วหน้ามอง “ตาบอดจริงเหรอ?” โบกมือไปมาตรงหน้า “ตาบอดจริงดิ”อาจเพราะเมาค้างและถูกกระทบกระเทือนเล็กน้อยทำให้ความรู้สึกช้านิดหน่อย ก้องกวินจึงไม่ได้ปฏิเสธอะไร ทั้งยังยอมเดินตามการจับมือของหล่อนไปอย่างเชื่อฟัง กระทั่งยอมให้หล่อนช่วยเหลือทุกอย่างไม่ว่ากินข้าวกินน
ริตาจ้องหน้าวีนาจนสองตาเบิกโต“อะไรนะ พี่วินคือผู้ชายแว่นดำที่ตกท่อวันนั้นเหรอ”วีนาบีบแก้มริตาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “อย่าบอกนะว่าจำกันไม่ได้น่ะ”ริตาส่ายหน้า “หลายปีแล้วมั้ง วันนั้นพี่วินสกปรกมอมแมมหนวดเครารุงรัง ต้าจำไม่ได้หรอก”วีนามุ่นคิ้วคิดคำนวณเรื่องราวของน้องชาย “ตั้งแต่วันนั้นจนเจอกันอีกครั้งก็ห้าปี กระทั่งวันนี้ได้เป็นแฟนกัน นับรวมก็ราวเจ็ดปี มันก็นานจริงๆนั่นแหละ”“อือ...ตอนนั้นต้าอยู่มอปลายอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปด ยังบ้าๆ บอๆ อยู่เลย อีกอย่างนะ ท่อนั้นอ่ะคนตกบ๊อยบ่อย ฝาหายตลอด ต้าเคยช่วยไว้หลายคนไง ไม่ใช่พี่วินคนเดียว”“อ้อ...”ริตาจ้องหน้าวีนาเขม็ง “อย่าบอกนะว่าพี่วินชอบต้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว แหม่ นิยายมากค่ะ ต้าไม่เชื่อหรอก”วีนาหัวเราะ “เปล่า ยังไม่ได้ชอบ แค่คิดอะไรได้เพราะต้าเฉยๆ”“อ้าว?”เห็นว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าเหวอ วีนาจึงยิ่งหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้นคนถูกพูดถึงก็เดินเข้ามา เขาก้มหน้าลงหอมแก้มริตาโดยไม่เกรงใจพี่สาวที่หัวเราะร่วนอยู่ข้างๆ“อื้อ...แก้มช้ำหมดแล้วค่ะ เวลางานด้วยนะคะบอส”“ไม่มีใครเข้าห้องทำงานพี่โดยพละการหรอกน่า”“นั่นแหละ ไม่เอา พอแล้ว รอกลับคอนโดก่อน”“ก็ได้”
ก้องกวินยกมือขึ้นสองข้างเป็นสัญลักษณ์ว่ายอมแพ้ เขาสู้ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ไหวแน่ แม่อีกคน รายนั้นเข้มงวดสุด แต่ไม่ใช่เพื่อเขา นางทำเพื่อริตา ว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กของฉันจะอับอายเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้สำคัญต่อผู้หญิงมาก นางกรอกหูเขาว่างั้นตอนที่ริตาเกิด พรพรรณยังไม่พร้อมมีลูกจริงๆหญิงสาวนึกย้อนไปตอนนั้น พ่อกับแม่แค่คบหากันยังไม่ได้แต่งงานแต่ดันท้องแล้วมีเธอออกมาซะก่อนริตาจึงถูกทิ้งให้อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด พอยายตาย เธอก็ถูกฝากเลี้ยงไว้กับบ้านนั้นทีบ้านนี้ทีในหมู่บ้านนั่นแหละ ส่วนพ่อกับแม่ก็มาอยู่กรุงเทพฯ พวกเขาทำงานจนมีบ้าน แต่ก็ไม่กลับมารับเธอไปอยู่ด้วยเสียทีโชคดีที่แม่ท้องณิชาแล้วคลอดออกมาอีกคน ริตาจึงถูกดึงตัวให้มาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงน้องพอโตขึ้นหน่อยริตาก็ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ซักผ้า ปัดกวาดเช็ดถู และคอยหุงหาอาหารให้ทุกคนนั่นแหละประโยชน์ของเธอที่ทำให้ได้มาอยู่ด้วยกัน ครอบครัวไม่เคยพร้อม แต่พ่อกับแม่ยังอุตส่าห์มีลูกถึงสองคน สิ่งที่ริตาเห็นจนชินตาคือพ่อกับแม่ทะเลาะกันและพ่อก็กินเหล้าเมาเนื่องจากเครียดทุกวันทั้งปัญหาการเงิน ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาที่บ้าน ล้วนสะสมเป็น
เรื่องไปดูงาน ซึ่งอาจใช้เวลานาน ไม่เหมือนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบเร่งรีบให้เสร็จตามกำหนดภายในเวลาไม่กี่วันพอถึงหูของณิชาผ่านคำบอกเล่าของพรพรรณเท่านั้นแหละ ริตาก็ต้องรับโทรศัพท์วันละไม่รู้กี่รอบ“รู้งี้ ต้าไม่บอกแม่ก่อนไปก็ดีหรอก” เธอบ่นทันทีที่รับสายจากมารดา‘เอาน่าต้า พาน้องไปด้วย’“ทำไมต้าต้องพายัยนิดไปด้วยล่ะ”‘น้องจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วก็ฝึกภาษาไง’“ไม่มีเรียนเหรอถึงจะไปเที่ยวเมืองนอกน่ะ”‘น้องบอกไปได้ ปิดเทอมพอดี เดี๋ยวกลับมาตามเก็บหน่วยกิตที่ขาดให้ครบอีกที’ “ปิดเทอมก็ควรหางานพิเศษทำสิ”‘น้องบอกอยากไปหาประสบการณ์เมืองนอก กลับมาจะได้หางานพิเศษทำง่ายๆ ยังจะต่อยอดในอนาคตหลังเรียนจบไงลูก นะต้า พาน้องไปด้วยเถอะ ทุกวันนี้ นิดทะเลาะกับตาทันทุกวัน แม่คิดว่าสองคนนี้ควรห่างกัน ต่างคนต่างอยู่บ้างสักพัก เผื่อกลับมาเจอกัน อะไรๆ อาจจะดีขึ้น นะลูก ทำเพื่อน้องอีกสักครั้งเถอะนะ แม่ขอร้อง เห็นแก่แม่นะต้า’“แม่ ถ้านิดมันอยู่กับผัวไม่ไหวก็หย่าไปซะก็สิ้นเรื่อง จะทนทำไม ลูกก็ไม่ได้มีด้วยกันแล้ว”‘ต้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะลูก จะหย่าได้ไง คนสองคนเขารักกัน ไม่งั้นก่อนนี้ตาทันจะ
“พวกเราไปดูงานกันแค่สองคนก็พอ ส่วนคนอื่นปล่อยเที่ยวให้หนำใจเถอะ”ก้องกวินบอกริตาแบบนั้นแล้วโอบไหล่เธอแยกตัวออกมาจากณิชาที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่กลางกลุ่มคนของแจ็คตอนแรกริตาก็ยังงุนงงกับเขา ทว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เพราะณิชาก็โทรมาหาเธอพร้อมเสียงร้องห่มร้องไห้‘พี่ต้า นิดอยากกลับบ้านแล้ว ไหนว่ากลุ่มบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยไง มาควบคุมความประพฤติชัดๆ แต่ละคนน่ากลัวอ่ะ ไม่เอาแล้วนะ ส่งนิดกลับบ้านเหอะ’ไม่รู้ไอ้แจ็คไปทำอีท่าไหน ไอ้นี่ร้ายที่สุดในกลุ่มด้วย คงได้ไฟเขียวจากก้องกวินแหละ ทั้งเจ้านายลูกน้องพอกัน!ริตากลอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถือ “กลับไม่ได้หรอก ไม่อยากเที่ยวก็ให้แจ็คพามาส่งที่บริษัทXXX พี่ดูงานอยู่ที่นี่ น่าจะใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงอยู่ ทนเอาล่ะกัน”พูดจบก็ตัดสายไปเลย ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดหรือตามใจอะไร ร้องตามมาเองต้องทำใจค่ะก่อนไปดูงานตามตั้งใจ ริตาต้องถูกก้องกวินจองตัว พาไปทักทายแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาก่อนหลายที่ที่นี่เพื่อนของก้องกวินเยอะมาก หลากหลายเชื้อชาติ ยังดีที่ริตาพูดภาษาอังกฤษคล่องมากจึงไม่ลำบากเท่าไรทุกคนดูตื่นเต้นที่ก้องกวินพาเธอมาแนะนำเหมือนเคย
ผิดกับณิชาที่ไม่ค่อยเก็บอาการเท่าไหร่ เธอยินดีเปิดรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและคำพูดสื่อนัยที่ชัดเจนว่าโสด กระทั่งตอนนี้มีผู้ชายได้ข้อมูลติดต่อเธอหลายคน“อย่าลืม DM มานะคะ ชาช่าจะรอค่ะ”ณิชาบอกผู้ชายคนหนึ่ง แถมเปลี่ยนชื่อใหม่ซะน่ารักเก๋ไก๋ไปเลย ในขณะที่ริตายังไม่รู้เรื่องของน้องสาว เธอยังคงสนใจแค่การดูงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนกับโจวด้วยท่าทีสุภาพแต่จริงจังตามวิสัยครั้นได้พักเบรก และโจวแยกไปคุยกับหัวหน้าแผนก ณิชาก็รีบเข้ามาสะกิดยิกๆ กระซิบใส่หูพี่สาวเสียงเบา “พี่ต้า นิดอยากได้เบอร์พี่โจวอ่ะ ขอให้หน่อยดิ”ริตาค้อนขวับ “แกมีผัวแล้วนะ”ณิชาถอนหายใจเบื่อ “ไม่อยากทำให้ก็บอกมาเหอะ นิดหาโอกาสเข้าไปขอเองก็ได้”“ยัยนิด!” ริตารู้สึกปวดหัว “ทำอะไรคิดให้ดี”“นิดคิดดีแล้ว คิดอยู่ทุกวันด้วย ถ้าหาผัวใหม่ได้ นิดจะหย่ากับพี่ทัน”ริตากระซิบเสียงดุ “แกควรหย่าก่อนค่อยหาผัวใหม่”แต่ณิชาไม่สนใจ “นิดจะหาผัวใหม่แสตนบายไว้ก่อน ทีพี่ทันยังมีเมียน้อยได้เลย ตอนนี้เผลอๆ กำลังคั่วสาวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ นิดจะทำบ้าง”พูดจบก็แยกตัวออกไปจากพี่สาวทันที เจอของดีแบบนี้จะช้าอยู่ไยณิชามาเที่ยวครั้งนี้ได้เปิดโลกเบิกเนตรจริงๆ
นอกจากได้ฝึกงานตามสายที่ชอบ ริตายังถูกก้องกวินส่งไปเรียนถึงเมืองนอกด้านการตลาดและการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกสองปีช่วงนั้นก้องกวินทั้งส่งเสริมสนับสนุนและมอบอิสระให้ริตาเต็มที่ เป็นแดดดี้สายเปย์แบบสุดๆทั้งเรียนทั้งทำงานและบริหารเวลาให้แฟนไปด้วย เรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็คุ้มค่ามากๆ และในที่สุด ริตาก็สามารถเปิดบริษัทกับพี่วีนาได้ซะทีวันที่ริตาตัดริบบิ้นกับพี่วีนามีดารามาร่วมงานเพียบ ทั้งดาราไทยและดาราต่างประเทศเลยด้วยโจวไปคนขนทัพศิลปินมาด้วยตัวเองเชียวล่ะ พวกเขามาเพื่อใส่เสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เธอออกแบบ ทั้งยังเดินแฟชั่นโชว์ให้ตั้งหลายชั่วโมงเรียกได้ว่าบริษัทของเธอมีงานเปิดตัวได้ยิ่งใหญ่อลังการมากเลยนะ น่าปลื้มใจสุดๆพรพรรณกับณิชาย่อมต้องมาร่วมงานด้วยอยู่แล้ว รวมถึงธนาและครอบครัว พวกเขายิ้มไม่หุบจนแก้มแทบปริ เนื่องจากได้มาในฐานะญาติเจ้าของบริษัทนั่นเองจริงแล้วเป็นเพราะริตาเลิกทำตัวร้ายกาจใส่แล้วไง เธออโหสิกรรมให้ทุกคนแล้วนะ ใจบุญมั้ยล่ะ ทุกวันนี้ก็เลยทำตัวได้ปกติมาก ไม่มีผีร้ายเข้าสิงเวลาเจอหน้าพวกเขา ธนาเองก็ทำตัวดีขึ้น ไม่พยายามเข้าหาเพื่อง้อขอคืนดีอะไ
ริตาไม่แค้นเคืองอะไรแล้ว เธอได้แต่ขอบคุณคนเก่าที่ทำให้เจอคนใหม่ที่ดีมากๆ ให้เกียรติ รักและดูแลเธอสุดๆ ไม่เคยทำให้เสียใจเลยสักครั้งเธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มาเจอคนใหม่ที่ดีกว่าเก่าหลายร้อยพันเท่า ดีเหลือเกินที่ธนากับณิชาทำให้เธอมีวันนี้แต่คนที่ริตาต้องขอบคุณยิ่งกว่าใครก็คือก้องกวิน พ่อเทพบุตรสุดที่รัก ดีเลิศประเสริฐศรีที่สุดในสามโลกธุรกิจของริตาดำเนินไปได้สวย ผลตอบรับนับดีตั้งแต่เปิดตัว เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคนที่ปากบอกว่าอยากให้เธอทำงานเก็บเงินไปสู่ขอ ที่แท้ก็เป็นนายทุนใหญ่ให้เธอนั่นเอง แต่เธอก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหารงานจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยนะ ไม่ยอมขาดทุนแน่นอน เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อขอผู้ชายแต่งงานริตาจึงเป็นผู้หญิงที่ต้องหอบเงินไปสู่ขอก้องกวินค่ะ“แมนป่ะล่ะ” เธอยักคิ้วหลิ่วตายิ้มให้ว่าที่เจ้าบ่าว วันนี้เขาพาเธอมาลองชุดเจ้าสาวตั้งแต่เช้าและอยู่โยงทั้งวัน กลัวไม่ได้แต่งว่างั้น“แมนมากครับคุณผู้หญิง” ก้องกวินว่าพลางหันไปสั่งให้คนยกกล่องเครื่องเพชรเข้ามาวางตรงหน้าทั้งหมดเป็นพี่วีนาแอบไปออกแบบให้เมื่อไรก็ไม่รู้ ปลื้มสุดๆ “ขอบคุณค่ะ” ริตายิ้มหวาน มีน้ำตาปริ่มๆ อย่
เธอไม่เคยปล่อยให้สามีจอมหื่นขาดแคลนเลยกระทั่งพ่อบ้านใจกล้าของเธอต้องเลี้ยงลูกถึงสี่คนชายสองหญิงสองไปเลยแน่ล่ะ เขาขอไว้เร่าๆ อยากให้พวกเรามีลูกเยอะๆ เขาจึงขยันทำการบ้านแทบทุกคืนจนเธอท้องแล้วท้องอีก“เลี้ยงไหวแน่นะพี่วิน”ริตาถามอย่างห่วงใย เธอมีหน้าที่แค่ท้องให้เขาไงก้องกวินไม่ตอบ เพียงยกยิ้มบางตรงมุมปาก อันเป็นสัญญาณว่า จัดไป...ทุกวัน ตอนริตากำลังทำงานที่บริษัทจึงมักจะเห็นผู้ชายตัวโตอุ้มเด็กอ่อนไว้ที่กล้ามแขนแน่นๆ ทั้งสองข้าง ข้างละคน ยังมีเด็กวัยน่ารักเดินดุกดิกติดตามอีกสองคน พวกเขาเดินทางมาหาเธอ มาถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านเป็นภาพพ่อบ้านใจกล้าที่เท่ห์สุดๆทั้งยังมีบอดี้การ์ดรูปร่างน่ากลัวคอยตามเป็นพรวน ช่วยถือถุงนมถุงผ้าอ้อมและตะกร้าขนมอีกด้วยนะน่าแปลกที่ยังคงมีความน่าเกรงขามอยู่มากลูกๆ ของเธอเหมือนเด็กมาเฟียในซีรีย์เลยแหละ น่ารักน่าชังสุดๆยกขบวนมากดดันถึงที่ขนาดนี้ ริตาก็ต้องรีบเคลียร์รีบเลิกงานสิคะจะรออะไรไม่มีใครสำคัญกับเธอเท่าสามีกับลูกๆ หรอกนอกจากเป็นสามีและพ่อที่ดี ทุกเทศกาลพิเศษของปีก้องกวินยังชอบมีเซอร์ไพรให้ริตาด้วยนะทั้งดอกไม้ทั้งดินเนอร์สุดหรู ทำเอาใจฟูไม่หยุด
ระหว่างคบหา ริตาขอบคุณก้องกวินตลอดเวลา ขอบคุณในความอดทนขั้นสุดของเขาเห็นทรงแบดดูโหดห่ามแบบนี้แต่มันก็แค่ภายนอก เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก...มากจริงๆถามว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้น ก็เพราะว่าหลังแต่ง ริตาเพิ่งรู้ว่าเทพบุตรในร่างจอมมารของเธอที่เพิ่งได้เป็นสามี เนื่องจากหลังแต่งงานกัน ก้องกวินก็แปลงร่างเป็นเสือร้ายหิวกระหายทันทีมีท่าใหม่ทุกคืนด้วยนะ เก็บกดมานานแหละหากถามว่าริตาไหวมั้ย ต้องบอกไหวค่ะ สู้สุดใจ“ถึงต้าจะมุ่งทำงาน แต่ได้ทุกท่านะบอกก่อน” เธอบอกเขาพร้อมรอยยิ้มหวาน ยั่วยวนเต็มขั้น“ชอบล่ะสิ” ก้องกวินถามยิ้มๆ ก้มมองภรรยาใต้ร่างด้วยดวงตาคู่คมที่ร้องแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ“ถามได้” ริตาปรือตาฉ่ำน้ำ โน้มหน้าเขาให้ลงมา บดจูบครู่หนึ่ง “ชอบไม่ชอบก็สั่งโซฟาตัวใหม่มาแล้วนะ ตามสโลแกนโฆษณา เพราะความรักดีๆ ไม่ได้อยู่แค่บนเตียง ต้าจะเป็นนางฟ้า พาพี่วินขึ้นสวรรค์ทุกวัน ดีมั้ยล่ะ”ชายหนุ่มจูบหญิงสาวหนักๆ ไปหลายที “ดี...เมียพี่สุดยอดมากครับ”“สุดยอดแล้วรักป่ะ”“รักที่สุด รักคนเดียว...”“อื้อ...”คำพูดผู้ชายใครเชื่อก็โง่แล้วค่ะ เพราะหลังจากนั้นแค่สามปีเศษ สามีที่ชื่อก้องกวินก็เปลี่ยนไ
ริตาไม่แค้นเคืองอะไรแล้ว เธอได้แต่ขอบคุณคนเก่าที่ทำให้เจอคนใหม่ที่ดีมากๆ ให้เกียรติ รักและดูแลเธอสุดๆ ไม่เคยทำให้เสียใจเลยสักครั้งเธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มาเจอคนใหม่ที่ดีกว่าเก่าหลายร้อยพันเท่า ดีเหลือเกินที่ธนากับณิชาทำให้เธอมีวันนี้แต่คนที่ริตาต้องขอบคุณยิ่งกว่าใครก็คือก้องกวิน พ่อเทพบุตรสุดที่รัก ดีเลิศประเสริฐศรีที่สุดในสามโลกธุรกิจของริตาดำเนินไปได้สวย ผลตอบรับนับดีตั้งแต่เปิดตัว เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคนที่ปากบอกว่าอยากให้เธอทำงานเก็บเงินไปสู่ขอ ที่แท้ก็เป็นนายทุนใหญ่ให้เธอนั่นเอง แต่เธอก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหารงานจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยนะ ไม่ยอมขาดทุนแน่นอน เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อขอผู้ชายแต่งงานริตาจึงเป็นผู้หญิงที่ต้องหอบเงินไปสู่ขอก้องกวินค่ะ“แมนป่ะล่ะ” เธอยักคิ้วหลิ่วตายิ้มให้ว่าที่เจ้าบ่าว วันนี้เขาพาเธอมาลองชุดเจ้าสาวตั้งแต่เช้าและอยู่โยงทั้งวัน กลัวไม่ได้แต่งว่างั้น“แมนมากครับคุณผู้หญิง” ก้องกวินว่าพลางหันไปสั่งให้คนยกกล่องเครื่องเพชรเข้ามาวางตรงหน้าทั้งหมดเป็นพี่วีนาแอบไปออกแบบให้เมื่อไรก็ไม่รู้ ปลื้มสุดๆ “ขอบคุณค่ะ” ริตายิ้มหวาน มีน้ำตาปริ่มๆ อย่
นอกจากได้ฝึกงานตามสายที่ชอบ ริตายังถูกก้องกวินส่งไปเรียนถึงเมืองนอกด้านการตลาดและการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกสองปีช่วงนั้นก้องกวินทั้งส่งเสริมสนับสนุนและมอบอิสระให้ริตาเต็มที่ เป็นแดดดี้สายเปย์แบบสุดๆทั้งเรียนทั้งทำงานและบริหารเวลาให้แฟนไปด้วย เรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็คุ้มค่ามากๆ และในที่สุด ริตาก็สามารถเปิดบริษัทกับพี่วีนาได้ซะทีวันที่ริตาตัดริบบิ้นกับพี่วีนามีดารามาร่วมงานเพียบ ทั้งดาราไทยและดาราต่างประเทศเลยด้วยโจวไปคนขนทัพศิลปินมาด้วยตัวเองเชียวล่ะ พวกเขามาเพื่อใส่เสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เธอออกแบบ ทั้งยังเดินแฟชั่นโชว์ให้ตั้งหลายชั่วโมงเรียกได้ว่าบริษัทของเธอมีงานเปิดตัวได้ยิ่งใหญ่อลังการมากเลยนะ น่าปลื้มใจสุดๆพรพรรณกับณิชาย่อมต้องมาร่วมงานด้วยอยู่แล้ว รวมถึงธนาและครอบครัว พวกเขายิ้มไม่หุบจนแก้มแทบปริ เนื่องจากได้มาในฐานะญาติเจ้าของบริษัทนั่นเองจริงแล้วเป็นเพราะริตาเลิกทำตัวร้ายกาจใส่แล้วไง เธออโหสิกรรมให้ทุกคนแล้วนะ ใจบุญมั้ยล่ะ ทุกวันนี้ก็เลยทำตัวได้ปกติมาก ไม่มีผีร้ายเข้าสิงเวลาเจอหน้าพวกเขา ธนาเองก็ทำตัวดีขึ้น ไม่พยายามเข้าหาเพื่อง้อขอคืนดีอะไ
ผิดกับณิชาที่ไม่ค่อยเก็บอาการเท่าไหร่ เธอยินดีเปิดรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและคำพูดสื่อนัยที่ชัดเจนว่าโสด กระทั่งตอนนี้มีผู้ชายได้ข้อมูลติดต่อเธอหลายคน“อย่าลืม DM มานะคะ ชาช่าจะรอค่ะ”ณิชาบอกผู้ชายคนหนึ่ง แถมเปลี่ยนชื่อใหม่ซะน่ารักเก๋ไก๋ไปเลย ในขณะที่ริตายังไม่รู้เรื่องของน้องสาว เธอยังคงสนใจแค่การดูงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนกับโจวด้วยท่าทีสุภาพแต่จริงจังตามวิสัยครั้นได้พักเบรก และโจวแยกไปคุยกับหัวหน้าแผนก ณิชาก็รีบเข้ามาสะกิดยิกๆ กระซิบใส่หูพี่สาวเสียงเบา “พี่ต้า นิดอยากได้เบอร์พี่โจวอ่ะ ขอให้หน่อยดิ”ริตาค้อนขวับ “แกมีผัวแล้วนะ”ณิชาถอนหายใจเบื่อ “ไม่อยากทำให้ก็บอกมาเหอะ นิดหาโอกาสเข้าไปขอเองก็ได้”“ยัยนิด!” ริตารู้สึกปวดหัว “ทำอะไรคิดให้ดี”“นิดคิดดีแล้ว คิดอยู่ทุกวันด้วย ถ้าหาผัวใหม่ได้ นิดจะหย่ากับพี่ทัน”ริตากระซิบเสียงดุ “แกควรหย่าก่อนค่อยหาผัวใหม่”แต่ณิชาไม่สนใจ “นิดจะหาผัวใหม่แสตนบายไว้ก่อน ทีพี่ทันยังมีเมียน้อยได้เลย ตอนนี้เผลอๆ กำลังคั่วสาวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ นิดจะทำบ้าง”พูดจบก็แยกตัวออกไปจากพี่สาวทันที เจอของดีแบบนี้จะช้าอยู่ไยณิชามาเที่ยวครั้งนี้ได้เปิดโลกเบิกเนตรจริงๆ
“พวกเราไปดูงานกันแค่สองคนก็พอ ส่วนคนอื่นปล่อยเที่ยวให้หนำใจเถอะ”ก้องกวินบอกริตาแบบนั้นแล้วโอบไหล่เธอแยกตัวออกมาจากณิชาที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่กลางกลุ่มคนของแจ็คตอนแรกริตาก็ยังงุนงงกับเขา ทว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เพราะณิชาก็โทรมาหาเธอพร้อมเสียงร้องห่มร้องไห้‘พี่ต้า นิดอยากกลับบ้านแล้ว ไหนว่ากลุ่มบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยไง มาควบคุมความประพฤติชัดๆ แต่ละคนน่ากลัวอ่ะ ไม่เอาแล้วนะ ส่งนิดกลับบ้านเหอะ’ไม่รู้ไอ้แจ็คไปทำอีท่าไหน ไอ้นี่ร้ายที่สุดในกลุ่มด้วย คงได้ไฟเขียวจากก้องกวินแหละ ทั้งเจ้านายลูกน้องพอกัน!ริตากลอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถือ “กลับไม่ได้หรอก ไม่อยากเที่ยวก็ให้แจ็คพามาส่งที่บริษัทXXX พี่ดูงานอยู่ที่นี่ น่าจะใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงอยู่ ทนเอาล่ะกัน”พูดจบก็ตัดสายไปเลย ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดหรือตามใจอะไร ร้องตามมาเองต้องทำใจค่ะก่อนไปดูงานตามตั้งใจ ริตาต้องถูกก้องกวินจองตัว พาไปทักทายแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาก่อนหลายที่ที่นี่เพื่อนของก้องกวินเยอะมาก หลากหลายเชื้อชาติ ยังดีที่ริตาพูดภาษาอังกฤษคล่องมากจึงไม่ลำบากเท่าไรทุกคนดูตื่นเต้นที่ก้องกวินพาเธอมาแนะนำเหมือนเคย
เรื่องไปดูงาน ซึ่งอาจใช้เวลานาน ไม่เหมือนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบเร่งรีบให้เสร็จตามกำหนดภายในเวลาไม่กี่วันพอถึงหูของณิชาผ่านคำบอกเล่าของพรพรรณเท่านั้นแหละ ริตาก็ต้องรับโทรศัพท์วันละไม่รู้กี่รอบ“รู้งี้ ต้าไม่บอกแม่ก่อนไปก็ดีหรอก” เธอบ่นทันทีที่รับสายจากมารดา‘เอาน่าต้า พาน้องไปด้วย’“ทำไมต้าต้องพายัยนิดไปด้วยล่ะ”‘น้องจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วก็ฝึกภาษาไง’“ไม่มีเรียนเหรอถึงจะไปเที่ยวเมืองนอกน่ะ”‘น้องบอกไปได้ ปิดเทอมพอดี เดี๋ยวกลับมาตามเก็บหน่วยกิตที่ขาดให้ครบอีกที’ “ปิดเทอมก็ควรหางานพิเศษทำสิ”‘น้องบอกอยากไปหาประสบการณ์เมืองนอก กลับมาจะได้หางานพิเศษทำง่ายๆ ยังจะต่อยอดในอนาคตหลังเรียนจบไงลูก นะต้า พาน้องไปด้วยเถอะ ทุกวันนี้ นิดทะเลาะกับตาทันทุกวัน แม่คิดว่าสองคนนี้ควรห่างกัน ต่างคนต่างอยู่บ้างสักพัก เผื่อกลับมาเจอกัน อะไรๆ อาจจะดีขึ้น นะลูก ทำเพื่อน้องอีกสักครั้งเถอะนะ แม่ขอร้อง เห็นแก่แม่นะต้า’“แม่ ถ้านิดมันอยู่กับผัวไม่ไหวก็หย่าไปซะก็สิ้นเรื่อง จะทนทำไม ลูกก็ไม่ได้มีด้วยกันแล้ว”‘ต้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะลูก จะหย่าได้ไง คนสองคนเขารักกัน ไม่งั้นก่อนนี้ตาทันจะ
ก้องกวินยกมือขึ้นสองข้างเป็นสัญลักษณ์ว่ายอมแพ้ เขาสู้ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ไหวแน่ แม่อีกคน รายนั้นเข้มงวดสุด แต่ไม่ใช่เพื่อเขา นางทำเพื่อริตา ว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กของฉันจะอับอายเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้สำคัญต่อผู้หญิงมาก นางกรอกหูเขาว่างั้นตอนที่ริตาเกิด พรพรรณยังไม่พร้อมมีลูกจริงๆหญิงสาวนึกย้อนไปตอนนั้น พ่อกับแม่แค่คบหากันยังไม่ได้แต่งงานแต่ดันท้องแล้วมีเธอออกมาซะก่อนริตาจึงถูกทิ้งให้อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด พอยายตาย เธอก็ถูกฝากเลี้ยงไว้กับบ้านนั้นทีบ้านนี้ทีในหมู่บ้านนั่นแหละ ส่วนพ่อกับแม่ก็มาอยู่กรุงเทพฯ พวกเขาทำงานจนมีบ้าน แต่ก็ไม่กลับมารับเธอไปอยู่ด้วยเสียทีโชคดีที่แม่ท้องณิชาแล้วคลอดออกมาอีกคน ริตาจึงถูกดึงตัวให้มาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงน้องพอโตขึ้นหน่อยริตาก็ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ซักผ้า ปัดกวาดเช็ดถู และคอยหุงหาอาหารให้ทุกคนนั่นแหละประโยชน์ของเธอที่ทำให้ได้มาอยู่ด้วยกัน ครอบครัวไม่เคยพร้อม แต่พ่อกับแม่ยังอุตส่าห์มีลูกถึงสองคน สิ่งที่ริตาเห็นจนชินตาคือพ่อกับแม่ทะเลาะกันและพ่อก็กินเหล้าเมาเนื่องจากเครียดทุกวันทั้งปัญหาการเงิน ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาที่บ้าน ล้วนสะสมเป็น
ริตาจ้องหน้าวีนาจนสองตาเบิกโต“อะไรนะ พี่วินคือผู้ชายแว่นดำที่ตกท่อวันนั้นเหรอ”วีนาบีบแก้มริตาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “อย่าบอกนะว่าจำกันไม่ได้น่ะ”ริตาส่ายหน้า “หลายปีแล้วมั้ง วันนั้นพี่วินสกปรกมอมแมมหนวดเครารุงรัง ต้าจำไม่ได้หรอก”วีนามุ่นคิ้วคิดคำนวณเรื่องราวของน้องชาย “ตั้งแต่วันนั้นจนเจอกันอีกครั้งก็ห้าปี กระทั่งวันนี้ได้เป็นแฟนกัน นับรวมก็ราวเจ็ดปี มันก็นานจริงๆนั่นแหละ”“อือ...ตอนนั้นต้าอยู่มอปลายอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปด ยังบ้าๆ บอๆ อยู่เลย อีกอย่างนะ ท่อนั้นอ่ะคนตกบ๊อยบ่อย ฝาหายตลอด ต้าเคยช่วยไว้หลายคนไง ไม่ใช่พี่วินคนเดียว”“อ้อ...”ริตาจ้องหน้าวีนาเขม็ง “อย่าบอกนะว่าพี่วินชอบต้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว แหม่ นิยายมากค่ะ ต้าไม่เชื่อหรอก”วีนาหัวเราะ “เปล่า ยังไม่ได้ชอบ แค่คิดอะไรได้เพราะต้าเฉยๆ”“อ้าว?”เห็นว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าเหวอ วีนาจึงยิ่งหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้นคนถูกพูดถึงก็เดินเข้ามา เขาก้มหน้าลงหอมแก้มริตาโดยไม่เกรงใจพี่สาวที่หัวเราะร่วนอยู่ข้างๆ“อื้อ...แก้มช้ำหมดแล้วค่ะ เวลางานด้วยนะคะบอส”“ไม่มีใครเข้าห้องทำงานพี่โดยพละการหรอกน่า”“นั่นแหละ ไม่เอา พอแล้ว รอกลับคอนโดก่อน”“ก็ได้”