‘อึก! ระ…แรงเกินไป’
‘เธอได้เงิน ฉันได้เล่นสนุกกับร่างกายของเธอ ไม่มีใครเสียเปรียบหรือว่าได้เปรียบ’ เธอไม่เคยลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น สัมผัส คำพูดที่ชวนหลอกล่อให้เกิดอารมณ์ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีใช่ย่อยแถมยังมีเสน่ห์เหลือล้น ภายนอกดูเหมือนผู้ชายอบอุ่นหากแต่ในความเป็นจริง…ดูอันตรายไม่ใช่น้อย คืนนั้นแค่ไปดื่มเป็นเพื่อนที่ห้องกับเขาสองต่อสอง ก่อนจะดีลทุกอย่างผู้ชายคนนั้นรับได้ทุกข้อเสนอ สุดท้ายดันมาขอมีเซ็กซ์ด้วย ตอนนั้นปฏิเสธเสียงแข็งแล้วยังเกือบทำเรื่องไม่คาดฝันกับเขาแล้วด้วย ‘อยากได้เท่าไร’ ใช่… เพราะประโยคนั้นประโยคเดียวเลย บวกกับนาทีนั้นกำลังหาเงินเพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ เลยยอมมีเซ็กซ์กับเขาเพื่อแลกกับ ‘เงิน’ เพราะเขารวยและยินดีที่จะจ่าย เธอเลยยอมให้ในสิ่งที่เขาต้องการอย่างเต็มใจ “สรุปแล้วคืนนั้นแกกับเขาคุณคนรวยคนนั้นยังไง?” “แค่ดื่มกัน” เธอตอบกลับ เอแคลร์ เพื่อนสนิทในที่ทำงานที่เป็นสาวประเภทสอง เป็นสาวประเภทสองที่เหมือนผู้หญิงมาก สวยจนคนแยกคิดว่าเป็นผู้หญิง “หราาา” เคแคลร์เบะปาก “มองจากดาวอังคารก็รู้แล้วว่ามันจบยังไง” “แกอย่าบอกใครได้ไหม” เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ เรื่องคืนนั้นมันจบลงไปแล้ว และอยากให้มันจบลงแค่นั้นพอ ไม่อยากให้มีใครเอามาพูดถึงเพื่อตอกย้ำในสิ่งที่เธอทำลงไป เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่เอาร่างกายเข้าแลกเงินอย่างเด็ดขาด แต่ดันพลาดท่ากลืนน้ำลายตัวเอง “ฉันไม่บอกใครหรอก แต่ถามได้ไหม ทำไมจู่ๆแกถึงยอมนอนกับเขา” “ฉันต้องการเงิน” “เห็นแกทำงานหนักมาทั้งเดือนยังไม่ได้พัก พักผ่อนบ้างนะอันดา เป็นห่วง” “ขอบใจนะเอแคลร์ แต่ฉันยังไหว” เธอพูดแล้วเผยยิ้มให้เอแคลร์สบายใจ “แกน่ะชอบยิ้มเหมือนยังไหว ทั้งที่ในความเป็นจริงแกกำลังไม่ไหว” “ตอนนี้ฉันยังไหวจริงๆ” “ไหวก็ไหว แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยหรือไม่ไหวแล้วก็หยุดพักด้วยละ” อันดาพยักหน้าให้เอแคลร์ด้วยรอยยิ้ม ครืด ครืด เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนขาสั้นหลังจากมันส่งเสียงแผดร้องดังและสั่นขึ้นมา มองเบอร์ของปลายสายแล้วกดรับอย่างไม่ลังเล “คะพี่แซมมี่” (คืนนี้ว่างไหมคนสวย) “ว่างค่ะพี่แซมมี่” (ดีเลย… คืองี้นะ อันดาจำลูกค้าvipคนนั้นได้ไหม ที่อันดารับงานไปดื่มกับเขาที่ห้องสองคน) “…ค่ะ จำได้” เธอเงียบไปสักพักกว่าจะขยับริมฝีปากตอบพี่แซมมี่ (เขาอยากให้อันดาไปดื่มด้วยคืนนี้ อันดาโอเคไหมจ๊ะ) เธอเงียบ ครั้งนี้เงียบนานมากด้วย เคยคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงแค่คืนนั้นและคงไม่เจอเขาอีก ผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์เต็ม ไม่คิดว่าโลกจะหมุนให้เธอและเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง (อันดา ยู้ฮู้~ ยังอยู่ไหม) “ยะ…อยู่ค่ะพี่แซมมี่” (จะรับไหม?) “เอ่อ… ไม่ดีกว่าค่ะ” (จริงจัง? พี่ให้โอกาสเราคิดอีกรอบ) “ไม่ค่ะ” เธอยืนยันคำตอบเดิม (เขาบอกว่ายินดีจ่ายค่าตัวให้อันดามากกว่าวันนั้นเลยนะ ถ้าอันดาตกลงไปดื่มกับเขา) อาจจะไม่จบลงแค่การดื่มน่ะสิ… ถามว่าอยากได้เงินไหม? ใครบ้างไม่อยากได้เงิน เธอฝืนตัวเองไม่ตกลงรับงานนี้ กลัวมันไม่จบแค่การดื่มเหมือนคืนนั้น อีกอย่างไม่อยากไปเจอเขา อยากลืมเรื่องคืนนั้น อยากเอามันออกจากหัว ไม่อยากจดจำ “พี่แซมมี่หาคนอื่นไปแทนอันดานะคะ” (ก็ได้ๆ พี่ไม่บังคับ เดี๋ยวพี่หาคนไปแทนอันดาเอง) “ขอบคุณพี่แซมมี่ที่เข้าใจอันดานะคะ” (ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง งั้นแค่นี้นะ) “ค่ะ” เธอวางสายจากพี่แซมมี่ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเหมือนเดิม “มองอะไรหืมเอแคลร์” “ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะรีบโกย” “ฉันก็อยากโกยนะ แต่ไม่อยากเจอเขาอีก” “เป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยคุณรามิลหลุดมือไปง่ายๆ ถ้าเขาถูกใจใคร ผู้หญิงคนนั้นโคตรโชคดีเลยละ แกพลาดแล้วอันดา” รามิลเป็นผู้ชายที่ใครหลายคนหมายปอง หากเขาได้สนใจใครแล้วแปลว่าคนนั้นโชคดีมาก น่าเสียดายที่อันดาดันปล่อยโอกาสทองหลุดมือ เธอฟังเอแคลร์พูดเงียบๆ คงพลาดแล้วจริงๆนั่นแหละ อยากคว้าโอกาสนี้ไว้อยู่เหมือนกัน แต่เธอบอกกับตัวเองแล้วว่าจะไม่เจอเขาอีก ให้มันจบที่คืนนั้น…(ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณรามิล พอดีน้องอันดาไม่ตกลงรับงานค่ะ)“ไม่เป็นไรครับ”(เดี๋ยวแซมมี่ส่งเด็กเกรดเอคนใหม่ไปแทนนะคะ รับรองเลยว่าไม่ทำให้คุณรามิลผิดหวังแน่นอนค่ะ)“ผมสนใจคนนี้”(เอ่อ…น่าจะยากนะคะ เพราะไม่ใช่เด็กในสังกัดแซมมี่ น้องเขารับงานนี้เป็นงานเสริมน่ะค่ะ)“ถ้าดีลมาได้ ผมจ่ายให้สองเท่า”แซมมี่ชะงัก เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเงินจากรามิลยิ่งคิดแล้วคิดอีก คิดดีๆอีกสักรอบ ใครๆก็รู้ว่ารามิลรวยมาก ครอบครัวเป็นถึงมหาเศรษฐีแถมยังเป็นเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง มีแต่ระดับดารา ไฮโซ และคนมีเงินเข้าไปใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจมากมายนับไม่ถ้วน หากวันนี้ปฏิเสธลูกค้าระดับวีไอพีแบบรามิล รอบหน้าทางนั้นคงไม่มาใช้บริการอีกแน่นอน จะปล่อยลูกค้ากระเป๋าหนักแบบนี้ไปจริงหรือ“ไม่ต้องคืนนี้ก็ได้ ผมให้เวลาเจ้แซมมี่ดีลผู้หญิงคนนั้นมาให้ภายในวันเสาร์นี้ ถ้าดีลมาให้อีกครั้งได้…มากกว่าสองเท่าผมก็จ่ายให้เจ้ได้”(ดะ…ได้ค่ะคุณรามิล แซมมี่จะพยายามนะคะ)“หวังว่าผมจะได้รับข่าวดี” (รอฟังข่าวดีได้เลยค่ะ)“ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นชื่ออันดาเหรอ”(ค่ะ น้องเขาชื่ออันดา)“โอเค แค่นี้แหละ” เขากดวางสายจากแซมมี่
ก๊อก ก๊อก“พี่อันดาทำไรอยู่ ป้าให้ขึ้นมาตามลงไปกินข้าว”“โอเคๆ เดี๋ยวตามลงไป” เธอตะโกนบอกอัยย์ จากนั้นหันไปเก็บกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกราคาแพงที่สุด ที่เคยได้มาลงกล่อง ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วลงไปทานอาหารเย็นกับครอบครัวเธอกวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะ กลิ่นหอมที่ลอยมาเตะจมูกชวนน้ำลายสอกันเลยทีเดียว หย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้มองอาหารดีๆตรงหน้าตาประกาย“ป้าจะบอกได้รึยังว่ารวยมาจากไหน”“ป้าถูกล็อตเตอร์รางวัลที่หนึ่ง”“จะ…จริงเหรอป้า!”“ใช่ แต่พวกแกสองคนอย่าไปบอกใครนะ”“ถึงว่ารวยมาจากไหน ป้าเล่นหวยด้วยเหรอ”“มีบ้าง ฝันเรื่องเดิมๆติดต่อกันหลายวัน ป้าเลยลองเสี่ยงดวงซื้อ ใครจะคิดว่าตัวเองโชคดีถูกรางวัลที่หนึ่ง”“ป้าโชคดีมากอะ”“กินเยอะๆ ต่อไปอยากกินอะไรบอกป้าได้เลย ตอนนี้ป้ามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูพวกแกสองคนแล้ว”อันดาและอัยย์หันไปยิ้มด้วยกัน ก่อนจะตักอาหารดีๆตรงหน้ามาวางไว้จานข้าวของตัวเองแล้วตักเข้าปาก “อร่อยไหม?”“อร่อยที่สุดเลยครับป้า”กุลมองหลานทั้งสองที่กำลังมีความสุขกับการกินด้วยรอยยิ้ม “ป้ากุล”“หืม?”“เรื่องการรักษาของแม่ถึงไหนแล้วอะป้า”“หมอนัดป้าเข้าไปพรุ่งนี้ คงคุยเรื่องผ่าตัดนี่แหละ”“งั้นอัน
พนักงานในร้านดูตื่นเต้นกับการมาของผู้ชายคนนั้นยกเว้นเธอ ถ้าฟังไม่ผิด เจ้านายของเธอเรียกแทนผู้ชายคนนั้นว่า ‘คุณหมอรามิล’ เขาเป็นหมอเหรอ?คนแบบนั้นน่ะนะ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นหมอ ดูเหมือนพวกโรคจิตหื่นกามมากกว่า มีช่วงนึงสบตากัน และเป็นเธอเองที่หลบสายตา ระหว่างทำงานอยู่เสียงพนักงานด้วยกันที่พูดเรื่องผู้ชายคนนั้นดังเข้ามาในโสตประสาทไม่ได้ตั้งใจฟังแต่บางทีเรื่องชาวบ้านก็ไม่เข้าใครออกใคร อยากรู้บ้างเป็นธรรมดา“นั่นคุณหมอรามิล ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลใกล้ๆร้านกาแฟของเรานิ ตัวจริงหล่อมาก ออร่าสุดๆ”“เนอะๆ ยังกับพระเอกซีรีส์เกาหลีแน่ะ ทั้งหล่อ เก่ง แถมยังรวยอีก คนอะไรจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้”“ไม่ใช่แค่หล่อและรวยอย่างเดียวนะ แต่เป็นคุณหมอที่เก่งมากกก ตัวท็อปของวอร์ดเลยมั้งน่ะ”“หมออยู่วอร์ดอะไร?”“จะไปรู้ด้วยเหรอฉันไม่ได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับหมอสักหน่อย รู้มาแค่นี้ เป็นหมอศัลยกรรมมั้ง”“รู้ไหมว่าเป็นหมอศัลยกรรมอะไร”“ไม่รู้ รู้แค่เป็นหมอศัลย์เนี่ยแหละ ป่ะๆทำงานต่อ เดี๋ยวเจ้โบนัสก็ว่าเอาหรอก”“อันดาจ้ะ”“คะ?” เธอขานรับเจ้านาย“หยิบร่มแล้วเดินไปส่งคุณหมอรามิลที่รถหน่อยสิ”เจ้โบนัสก็ขยันเปิดทาง
ไนต์คิงส์“พวกมึงสองคนกะไม่ให้กูพักตับเลยรึไง วันก่อนก็ไอ้รามิลชวน วันนี้ก็มึงเคียนติ” คิระพูดอย่างเอือมระอา อาทิตย์นึงมีเจ็ดวัน โดนรามิลลากมาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนด้วยแล้วเกือบทั้งอาทิตย์ เริ่มต้นอาทิตย์ใหม่ก็ถูกเคียนติเจิมซะแล้วเมื่อก่อนแค่รามิลคนเดียว คราวนี้มีเคียนติมาเพิ่มเท่ากับความบรรลัย อย่าหวังว่าจะได้พักเพราะสองคนนี้…นั่งดื่มตัวยงทางเดียวที่จะหยุดพวกมันได้คือต้องมีเมีย คงยากเพราะสองคนนี้เป็นเสือผู้หญิง ไม่คิดจะหยุดที่ใครแบบจริงๆจังๆ นึกภาพไม่ออกเลยว่าผู้หญิงแบบไหนจะสยบเสือสองตัวนี้ได้อยู่หมัด“เอาน่านานๆที”“รีบกลับอังกฤษไปเร็วๆ”“กูเพิ่งมาถึงไล่กูกลับซะแล้ว”“วันนี้กูไม่ดื่มเยอะนะ” “ครับผมคุณคิระ” เคียนติพูด“ธรรมดาของคนมีเมียมีลูกให้กลับไปหา” รามิลพูดขึ้นมาเสียงเรียบ พลางยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่มหนึ่งอึก“กูไม่ได้โสดแบบพวกมึงสองคน”“ชีวิตโสดอย่างพวกกูมีความสุขจะตาย”“รีบมีเมียได้แล้ว จะสามสิบแล้ว”“ไม่รีบ”“กูรีบ จะได้เลิกชวนกูมาแดกเหล้า”“รอไปก่อน กูยังไม่พร้อมมีใคร”“แต่มีเด็กไปเรื่อย” เคียนติพูดกระแนะกระแหนรามิล“มึงไม่มีเลย?”“ส่วนใหญ่เป็นสาวผมทองอยู่นู้น แต่อยู่
ติ้ง…xxx-x-x0000-x จำนวน 100,000 บาท…กึกกเธอมองการแจ้งเตือนเงินเข้าผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่เด้งขึ้นมาเมื่อครู่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะหันไปมองรามิล ไม่บอกก็รู้ว่าเงินจำนวนนี้มาจากใครไม่คาดคิดว่าเขาจะโอนเงินจำนวนนี้มาจริงๆ ที่พูดไปเพียงแค่อยากทำให้เขารำคาญและเบื่อหน่ายกับความหน้าเงินของเธอ ทว่าเขากลับโอนมาจริงๆเสียนี่เงินใครจะไม่อยากได้บ้าง แต่กรณีนี้คงโอนกลับคืน ถ้ารับมาเท่ากับคืนนี้เธอต้องไปกับเขา“เอาเลขบัญชีคุณมา ฉันจะโอนคืน”“ไม่ต้องคืน แต่ไปกับฉัน”“ฉันไม่รับงานแล้ว”“แค่ไปดื่ม”“เหอะ! แค่ไปดื่มถึงกับต้องโอนมาแสนนึงเลยเหรอคะ”“เธอเป็นคนเสนอมาเอง”“ฉันประชด”“ไปดื่มกับฉัน”“ฉันยังไม่เลิกงาน”“ฉันรอเธอได้”เธอถอนหายใจเบาๆ นอกจากช่างตื้อแล้วยังเอาแต่ใจตัวเองอีกด้วย ถ้าแค่ดื่มเธอสามารถไปนั่งดื่มกับเขาได้ กลัวมันจะไม่จบแค่นั้นน่ะสิ กลัวจบลงที่เตียงเหมือนคืนนั้น…“ตกลง แต่ฉันไม่รับเงินของคุณ”“ทำไม” ทำตัวเหมือนร้อนเงิน แต่พอมีคนยื่นเงินมาให้กลับปฏิเสธ เขาเดาผู้หญิงคนนี้ไม่ออกเลยจริงๆ“เพราะฉันเองก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน ฉันเลิกงานสี่ทุ่ม เราจะเจอกันที่ไหน”“เธอทำงานที่ไหน เดี๋ยวไปรับ
ติ้ง…ประตูลิฟต์ส่วนตัวที่พามาถึงเพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดของรามิลเปิดตัวออก คุณหมอหนุ่มใส่รหัสประตูแล้วเปิดออก ผายมือให้สุภาพสตรีเข้าไปก่อน ท่าทางดูเหมือนสุภาพบุรุษหากแต่สายตาที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความร้ายกาจอันดาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วก้าวผ่านหน้ารามิลเข้าไปในเพนท์เฮาส์ปัง…เสียงปิดประตูเป็นสัญญาณบอกว่าลูกกวางน้อยติดกับดักเสือร้ายตัวนี้เข้าให้แล้ว รอยยิ้มมุมปากของรามิลปรากฏขึ้นขณะมองแผ่นหลังบาง“นั่งรอตรงนั้นก่อน”“ค่ะ” เธอเดินไปนั่งลงโซฟาตามที่เขาบอก สายตากวาดมองไปรอบๆเพนท์เฮาส์หรูระหว่างรอรามิลกลับมา การตกแต่งและโทนสีขาวดำบ่งบอกถึงตัวตนเจ้าของ ภายใต้เสื้อกาวน์ที่ขาวสะอาด นี่คงเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณหมอรามิลสินะ ภายนอกดูอบอุ่นหากแต่ในความเป็นจริง…มันไม่ใช่กลิ่นอายของความมีอำนาจเจือด้วยความอันตรายทำให้เธอนึกหวาดกลัว ทว่าก็พยายามข่มความรู้สึกพวกนั้นเอาไว้ไม่แสดงออกมากลัวแค่ไหนก็ต้องทำใจดีสู้เสือ“คุณอยู่คนเดียวเหรอ”“ใช่”“ทำไมถึงเลือกอยู่เพนท์เฮาส์” ราคาเพนท์เฮาส์ที่เขาอาศัยอยู่แพงพอๆกับราคาบ้านหลังนึงหรืออาจจะแพงกว่าหลายเท่าเลยก็ว่าได้“ดูรวยดี”คำตอบของรามิลทำให้เธอนึกหมั่นไ
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองรามิล ริมฝีปากสีระเรื่อฉีกยิ้มให้เจ้าของคำพูดเมื่อครู่ ก่อนจะใช้มืออีกข้างเลื่อนขึ้นมาสัมผัสใบหน้าคมคายมีเสน่ห์ “คุณหล่อนะ แต่น่าเสียดายที่…”รามิลเลื่อนขึ้นมาจับมือเล็กซึ่งกำลังสัมผัสใบหน้าของตัวเอง สายตามองอันดาที่อยู่ใกล้จนแทบจูบกันได้อีกครั้ง“น่าเสียดายที่อะไร”“ดูเลวเกินไปหน่อย”“ผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายเลวๆหรอกเหรอ” ส่วนใหญ่เห็นผู้หญิงทิ้งผู้ชายดีๆไปหาผู้ชายเลวๆ เพราะผู้ชายเลวน่าตื่นเต้นและเร้าใจมากกว่าผู้ชายที่แสนดี“เลวเกินไปก็ไม่ดี”“ไม่ชอบผู้ชายเลว?”อันดาส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เคยได้ยินไหมว่า ไม่ชอบอะไรจะได้สิ่งนั้น”“ไม่ใช่คุณแน่ๆ” อันดาผลักรามิลออกแล้วลุกขึ้นยืน เพียงแค่เริ่มทรงตัวยืนโลกทั้งใบก็หมุนคล้ายกับจะพาล้มให้ได้ เท้าเล็กก้าวเดินออกไปโดยมีสายตาคมเข้มคอยมองตาม“จะไปไหน”“กลับบ้าน”รามิลนั่งมองพลางยกยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าไปมา เดินยังไม่ตรงยังดึงดันจะกลับบ้านให้ได้ คนอะไรอวดเก่งสิ้นดี…เขาวางแก้วเครื่องดื่มลงแล้วเดินไปจับหมับเข้าที่แขนอันดา ดึงเธอให้หันกลับมาหา เมาขนาดนี้ปล่อยกลับคนเดียวไม่ได้หรอก สภาพนี้ไม่ได้นอนข้างถนนก็คงโดนใครสักคนฉุดไปอย่างแน่น
“อื้ออ” อันดานอนส่งเสียงในลำคอเบาๆ เปลือกตาที่แนบสนิทเริ่มปรือขึ้นอย่างยากลำบาก ความรู้สึกแรกหลังตื่นนอนก็คือ อาการหนักอึ้งตรงศีรษะคนที่เพิ่งตื่นนอนแทบไม่อยากขยับร่างกายไปไหน แค่นอนอยู่เฉยๆยังรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุน คนตัวเล็กอยู่ในอาการ ‘แฮงก์เหล้า’ นอนแช่บนเตียงคนอื่นนานสองนานกว่าจะเริ่มรู้ตัวว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองเธอดึงตัวเองขึ้นมานั่ง กวาดสายตามองไปรอบๆห้องนอนหรูหรา หัวใจดวงน้อยพลันกระตุกวูบเมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…” เมื่อคืนเธอนอนอยู่เพนท์เฮาส์ของรามิล! ก้มมองชุดที่ตัวเองสวมใส่พบว่าไม่ใช่เสื้อผ้าเมื่อวาน นั่นยิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากขั้ว ไม่รู้เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง จำได้ล่าสุดคือนั่งดื่มกับรามิล หลังจากนั้น…ไม่รับรู้อะไรอีกเลย“บ้าจริง! นี่ฉันพลาดท่าให้กับเขาหรือเนี่ย” ไม่น่าตอบตกลงมาดื่มกับรามิลเลย เครื่องดื่มที่เขานำมาแรงพอสมควร ถึงทำให้เธอเมาจนไม่ได้สติแล้วจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ รู้อีกทีก็ตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนของเขาแล้วเหวี่ยงขาทั้งสองเตรียมลงจากเตียง เป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกโดยรามิล“ตื่นแล้วเหรอ”“เมื
หลายวันต่อมา ปึก! ปึก! ปึก! “อะ อ๊ะ~”รามิลเริ่มเคลื่อนไหวส่วนล่างไปมาอย่างด้วยจังหวะเนิบนาบ สายตาคมเข้มมองเรือนร่างขาวผุดผ่องของคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล หน้าท้องแบนราบตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อยเพราะมีอีกหนึ่งชีวิตกำลังลืมตาออกมาดูโลก“อึก! อ๊ะ อ๊ะ~” เธอเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย ในระหว่างที่รามิลกระแทกท่อนเอ็นแข็งขึงเข้ามาเขาโน้มตัวลงไปจูบอันดาอย่างอ่อนโยน เธอยกแขนมาคล้องคอเอาไว้หลวมๆ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคงตอกอัดใส่โพรงถ้ำอย่างหนักหน่วง ภายในตอดรัดแท่งเอ็นจนรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่างกาย กลิ่นตัวอันดาหอมเย้ายวนจนเขาอดที่จะสูดดมเข้ามาในปอดไม่ได้“อืมม ตอดดีจังเลยนะ” เขาทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน สีหน้าทรมานของอันดาตอนนี้ยังกระตุ้นอารมณ์กระสันในกายให้เพิ่มมากขึ้นได้ไม่ยาก“อ๊ะ…อ๊า~” แท่งเอ็นของเขามันเคลื่อนเข้ามาลึกมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าส่วนหัวมันแทบจะชนผนังด้านในอยู่แล้ว “อ่า…”“อึก! มัน…มันแรงเกินไป เบาๆ หน่อยได้ไหม…” กระแสเสียวซ่านวิ่งปราดไปทั่วร่างกายจนนอนบิดเร่าร่างกายไปมาด้วยความทรมาน แรงกระแทกหนักหน่วงจากเขาทำให้เธอแทบหยุดหายใจเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอน คนตัวเล็กค
ก๊อก ก๊อก“ใคร” “ผมเองครับ แม็ค”“เข้ามา”‘แม็ค’ คนของราเชนทร์เปิดประตูเข้ามา หลังจากได้รับอนุญาตจากเจ้านาย เดินมาหยุดอยู่หน้าเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งยกขาไขว่ห้างสูบบุหรี่ รามิลอัดบุหรี่เข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นควันสีขาวเจือเทาออกมาอย่างใจเย็นการมาของแม็คทำให้เขารู้สึกดีใจ เพราะแม็คคือลูกน้องคนสนิทของพ่อ เขาขอให้พ่อช่วยตามหาคนที่ขับรถชนป้าของอันดา คนของพ่อทำงานเร็วมาก ใช้เวลาแค่สามวันก็สามารถรู้ตัวคนทำแล้ว“รู้ตัวคนทำแล้วครับคุณรามิล”“มันเป็นใคร”“จริงๆคนที่ขับรถชนถูกสั่งมาอีกทีครับ ผมสืบสาวจนรู้ว่าคนสั่งการคือคุณควีน”“ควีน?” เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับย้ำชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่อีกครั้ง “ครับ คุณควีนคือคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” เขาอึ้งและช็อกในเวลาเดียวกัน หลังจากรู้ว่าควีนคือคนอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของกุล คาดไม่ถึงว่าจะเป็นควีน จิตใจทำด้วยอะไรถึงโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จ้างคนให้ขับรถชนกุล ป้าแท้ๆของอันดาแบบนี้เรียกตั้งใจฆ่าให้ตายแล้ว“ผมรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาให้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณรามิลและคุณอันดา ว่าจะทำยังไงต่อไปครับ”ครอบครัวควีนมีอิทธิพลและมีหน้ามีตาทางสังคมพอสมควร พ่อของควีนค
หลายวันต่อมาพายุที่โหมกระหน่ำมานานกลายเป็นความสงบสุขในเวลาต่อมา รามิลให้สัญญาว่าจะดูแลอันดาและลูกน้อยเป็นอย่างดีใช่แล้ว…ตอนนี้ทั้งคู่กำลังได้รับบทบาทใหม่แสนท้าทาย นั่นคือการเป็นคุณพ่อและคุณแม่ป้ายแดง รามิลดีใจจนร้องไห้หลังจากรู้ว่ากำลังเลื่อนขั้นเป็น ‘คุณพ่อ’ในตอนแรกอันดานึกภาพไม่ออกถ้าเกิดตัวเองมีลูกขึ้นมาจริงๆ ทว่าหลังจากผลออกมาว่ากำลังตั้งครรภ์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ อึ้ง ต่อมาตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเคยกังวลอะไรหลายอย่าง หลังจากกลับมาเชื่อใจรามิลอีกครั้งไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไป รามิลเป็นคนเข้าไปสารภาพกับแม่อันดาเรื่องนี้ด้วยตัวเองอ้อมเข้าใจและไม่ถือโทษโกรธ ตรงกันข้ามดีใจด้วยซ้ำที่จะได้อุ้มหลานคนแรก ส่วนครอบครัวรามิลไม่มีปัญหาอะไร ดีใจและเตรียมของรับขวัญหลานไว้รอแล้วหลานคนแรกของตระกูลภูริธนากุล ว่าที่คุณปู่และคุณย่าเล่นใหญ่รัชดาลัยแน่นอนครืด ครืดเธอคว้าโทรศัพท์มาแล้วกดรับสายแม่ที่โทรมาหา“คะแม่”(อัน ป้ากุลโดนรถชน อาการสาหัสมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล)“อะ…อะไรนะ ป้ากุลโดนรถชน?” ใจเธอหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงจะโกรธกับสิ่งที่ป้ากุลทำไว้ในอดีต แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับป้
“คุณกำลังทำอะไร”“ทำงาน”“ทำงานแล้วทำไมถึงมีไวน์ด้วย”“เพิ่งสั่งมาเมื่อกี้”“คุณไปดื่มไกลๆได้ไหม” เธอบอกเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ รู้สึกหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ ไม่ว่ารามิลทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจเลยสักอย่าง แถมช่วงนี้ยังรู้สึกคลื่นไส้บ่อยๆ กินเยอะผิดปกติ แถมยังอ่อนเพลียง่าย บางครั้งเธอก็เผลอนึกย้อนกลับไปในคำพูดของรามิลตอนนั้น‘แพ้ท้องเหรอ’ถึงรามิลเคยบอกว่าอยากมีลูกกับเธอ ทว่ามันก็แอบกังวลไม่ได้อยู่ดีถ้าเกิดว่าท้องขึ้นมาจริงๆ “ทำไม”“ฉันไม่ชอบ”คุณหมอหนุ่มมองไวน์ราคาแพง ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไม่ชอบที่ฉันดื่มไวน์?”“ไม่ชอบทั้งที่คุณดื่มไวน์และกลิ่นของมัน”“กลิ่นก็ไม่ได้แย่นะ ออกจะหอม”“ก็ฉันไม่ชอบ มันเหม็น ถ้าคุณอยากดื่มก็ไปดื่มที่อื่น”เขามองอันดาสลับกับไวน์ที่วางอยู่ตรงหน้า แบบนี้เริ่มไม่ใช่ละ อาการของอันดานับวันยิ่งเหมือนคนแพ้ท้อง เขาเป็นหมอทำไมจะดูไม่ออก ถึงไม่ได้จับตรวจโดยตรง แต่อาการของอันดามันฟ้องทุกอย่าง“พรุ่งนี้กลับกรุงเทพกัน”“ฉันยังไม่อยากกลับ”เขาดึงตัวเองขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาอันดา“เธอรู้ไหมว่าอาการของเธอนับวันยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เช้าวันต่อมา“อื้อ~” หญิงสาวนอนส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวเข้าหาไออุ่นจากคนข้างกาย ใบหน้าสวยหวานซุกลงแผงอกอุ่นคุ้ยเคย ก่อนจะเริ่มลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก และเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นนี้รามิลนอนกอดเธอทั้งคืน…เมื่อคืนหลังไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมานอนเล่นโทรศัพท์อยู่โซฟา รู้สึกง่วงเลยงีบไปสักพัก ทว่าไม่คิดว่าตัวเองจะหลับจริง ตื่นขึ้นมาอีกทีช่วงเที่ยงคืนเพราะหิวน้ำ ตอนนั้นรามิลกำลังนั่งทำงานอยู่มุมหนึ่งของห้อง กลับมานอนต่อก็หลับไปเลยทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเหนื่อยมาจากไหน เธอหลับตาแล้วนอนต่อในอ้อมกอดของรามิล ชอบเวลาได้นอนในอ้อมกอดอุ่นๆนี้•••คุณหมอหนุ่มตื่นจากการนอนหลับในช่วงเก้าโมงเช้า อ้อมกอดที่ว่างเปล่าทำให้รามิลลืมตาพรึ่บทันที ดีดตัวเองขึ้นมานั่งแล้วมองหาอันดา เธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนี้แล้ว…เขาดึงผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง“ไปไหนอีกวะ!” เขาพูดคนเดียวอย่างกระวนกระวาย กำลังก้าวขาเดินออกไปก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงดังอ้วกอ้ากออกมาจากห้องน้ำเขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เห็นอันดากำลังลุกขึ้นจากชักโครก ก่อนจะกดชักโครกแล้วหันมามองเขา เธอเดิน
เธอยืนกอดอกมองออกไปนอกทะเลตรงหน้าด้วยความคิดมากมาย ปล่อยสายลมเย็นพัดผ่าน พากลิ่นอายของน้ำทะเลลอยมาเตะจมูก เสียงเกลียวคลื่นดังระงมไปทั่วชายหาด มองคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาชายฝั่งแล้วไหลย้อนกลับ เฉกเช่นเดียวกับความรู้สึกของเธอตอนนี้ ครั้นจะเดินออกไปก็ไม่กล้าพอ ทำได้แค่วนเวียนอยู่แบบนี้เพราะไม่สามารถไปไหนไม่ได้เธอมาที่นี่เพราะตั้งใจหนีหน้ารามิล อยากอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนตัวเองอีกครั้งมาได้แค่ตัว ส่วนหัวใจยังอยู่กับเขา…เธอหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าไปข้างในวิลล่าของครอบครัวคิระ หากแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาพลันเห็นใครบางคนที่ยืนมองมาทางนี้รามิล…เขามาได้ยังไง?“เจอตัวแล้ว”เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่เห็นรามิล สองเท้าถอยกรูดออกห่างเมื่อเขาเดินเข้ามาหา ก่อนจะรีบก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ว่า…หมับรามิลคว้าแขนเธอแล้วดึงเข้าไปหา ร่างกายแนบชิดกันจนได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเขา“หนีมาทำไม”“ฉันอยากอยู่คนเดียว”“ให้จีบแล้วหนีมาดื้อๆแบบนี้ แถวบ้านเรียกขี้โกง”“ขี้โกงตรงไหน ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว”“แต่ฉันอยากอยู่กับเธอ” เขาพูดพร้อมกับกระชับกอดอันดาให้แน่นขึ้น“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“เมียหายทั้งคนก็ต
“ยัยอันบอกว่าพี่หมอรามิลจะจีบ”“มันบอกพี่เหมือนกันว่าจะจีบอันดา”คิระมองภรรยาสาวที่ทำสีหน้าเป็นกังวล “เป็นห่วงอันดาเหรอ”“ใช่ค่ะ กลัวเพื่อนพี่คิระหลอกยัยอันอีก ไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเองต้องมานั่งร้องไห้เสียใจเหมือนที่ผ่านมา”“รามิลไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน การที่มันบอกว่าจะจีบอันดา พี่ว่ามันพูดจริง” เป็นเพื่อนกับรามิลมานาน รู้ไส้รู้พุงกันหมดทุกอย่างแล้ว คนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิลไม่มีทางพูดลอยๆ เพราะมันไม่ทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง ถ้าบอกว่าจีบก็คือจีบ“ถ้าเพื่อนพี่คิระรักยัยอันดาจริงๆก็ดีไป กลัวแต่จะหลอกนี่สิ” ทำเพื่อนสนิทตัวเองเจ็บครั้งเดียว ไม่กล้าเชื่อคนแบบรามิลอีกเลย รักอันดาจริงก็ดี ไม่อยากให้หลอกเพื่อนสนิทตัวเองเหมือนอย่างที่ผ่านมาคิระยิ้ม“รอดู พี่ว่าครั้งนี้มันเอาจริง”“ขอให้เป็นอย่างที่พี่คิระพูด เทียร์ไปหาลูกก่อนนะ”มาเฟียหนุ่มพยักหน้าให้ภรรยาสาว นึกภาพไม่ออกเลยว่าคนที่ไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนแบบรามิล จะจีบอันดายังไงให้ติดอีกครัง•••“อันดาเพิ่งลาออกไปเมื่อวานเองค่ะคุณหมอ”“ลาออก?”“ใช่ค่ะ” “ขอบคุณครับ”“ทะเลาะกันเหรอคะ?”“นิดหน่อยครับ” “สู้ๆนะคะ โบนัสเป็นกำลังใจให้” โบนัส
“สิ่งที่คุณทำกับฉัน มันทำให้ฉันไม่อยากเชื่อคำพูดของคุณอีก คาร์เทียร์เตือนฉันเรื่องคุณหลายครั้ง แต่ฉันยังพยายามที่จะรักคุณ ถ้าวันนั้นฉันทำตามที่คาร์เทียร์บอก วันนี้ฉันก็คงไม่ต้องเสียใจ” “ฉันผิดไปแล้ว…” “ฉันไม่อยากเชื่อคุณ ไม่อยากกลับไปรักคุณอีก อยากหนีคุณไปไกลๆ แต่ทำไมฉัน…ฉันถึงทำไม่ได้”รามิลดึงตัวขึ้นจากตักอันดา ดวงตาแดงก่ำมองใบหน้าสวยหวานซึ่งเต็มไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับหัวใจแกร่งที่สั่นไหวเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ เขาไม่ชอบเวลาอันดาร้องไห้ แต่มันก็มาจากตัวเองทั้งหมด ที่อันดาร้องไห้ก็เพราะเขาผิดเองที่เข้าไปหลอกให้อันดารัก ถ้าได้โอกาสอีกครั้งจะทะนุถนอมความรู้สึกเธอไว้เป็นอย่างดี“ทำไมถึงทำไม่ได้”“ฮึก…” เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแทนการมองหน้าเขา เหตุผลเพราะอะไรนะเหรอ? เพราะเธอยังรักและขาดเขาไม่ได้“เพราะเธอยังรักฉันอยู่ใช่ไหม”“ใช่ มันน่าตลกใช่ไหมที่ฉันยังรักผู้ชายที่หลอกให้ฉันรักอย่างคุณอยู่ ฉันควรถอยออกมาไม่ใช่…ไม่ใช่ยังรักคุณอยู่”แค่รู้ว่าอันดายังรักเขาอยู่ ก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาแล้ว…“คุณออกไปจากชีวิตฉันได้ไหม คุณเป็นคนเดินออกไปเองได้ไหม” เพราะเธอไม่สามารถเดินออกมาจากชีวิตของรามิล
“เหอะ! รักเหรอ? พูดออกมาได้ยังไงว่ารัก ไม่อายบ้างเหรอคะ เมื่อนึกย้อนกลับไปมองการกระทำของตัวเองในอดีต”“ฉันรู้ว่าทำไม่ดีกับเธอไว้เยอะ แต่ครั้งนี้จริงจัง ไม่ได้เข้ามาหลอกเธอด้วย ฉันรักเธอจริงๆนะอันดา”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น“เธอยังไม่ต้องเชื่อฉันตอนนี้ก็ได้ แต่จะทำให้เห็นว่าฉันรักเธอจริงๆ”เธอคิดว่าวันนั้นที่รามิลมาหาถึงหน้าบ้านจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ทว่ามันกลับไม่ใช่ เริ่มสับสนกับสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ว่าจริงหรือหลอก ไม่กล้าเชื่อเพราะที่ผ่านมาเขาโกหกเธอมาโดยตลอดถึงจะบอกกับตัวเองว่าไม่เชื่อ แต่หัวใจกลับอ่อนไหวทุกครั้งที่เห็นหน้าเขารามิลจับเรียวคางของอันดาให้หันกลับมาหา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้คนใต้ร่าง อันดาพยายามเบือนใบหน้าหนีแต่กลับทำไม่สำเร็จ ริมฝีปากทั้งคู่บรรจบกัน แรงบดคลึงจากคนตัวโตทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหว ริมฝีปากหยักได้รูปขบเม้มปากล่าง เริ่มสอดแทรกลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากนุ่มเพื่อหยอกล้อกับลิ้นเล็ก มือเรียวที่พยายามดันไหล่แกร่งออกอ่อนแรงลง เช่นเดียวกับร่างกายที่เริ่มอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งโดนไฟลนจูบแสนดูดดื่มถูกถอนออกอย่างอ้อยอิ่งในเวลาต่อมา“ฉันเกลียดคุณ”“ปากบอกว่าเกลียด