"เค้าหันไปได้ยัง? เค้าไม่อยากคลุมโปงแล้วนะตัวมันร้อน""........" อ้าว..ทำไมเงียบ? คุณอิฐเขาไปไหนรึป่าว?"ตัว..ตัวทิ้งเค้ารึยัง?" "ยัง.. หันมาสิ" พอคุณมาเฟียอนุญาต ฉันก็รีบเปิดผ้าห่มหันขวับไปหาเขาทันที จนตอนนี้เห็นเขานั่งที่ปลายเตียงหันหลังให้และที่ปากยังคาบบุหรี่ไว้เตรียมจุดเดี๋ยวนะ!..นี่เขาสูบบุหรี่ด้วยเหรอ?! ทำไมตอนจูบ ตอนอยู่ใกล้ๆ ฉันไม่ได้กลิ่นเลย "ตัวสูบบุหรี่ด้วยเหรอ?" ฉันลุกขึ้นถาม พร้อมกับจับไหล่กว้างให้หันมาสบตา แต่เมื่อเขาหันมาแค่แวบเดียวเขาก็ก้มหน้า เพราะฉัน..เล่นชี้ไปที่แก้มแดงๆของเขาตกใจ แต่ไม่ทันได้ถาม..คนขี้อายก็รีบจุดไฟแช็กต่อเข้าบุหรี่ ทันทีและชิงตอบฉันว่า"นานๆทีเวลาเครียด-_-""เครียด? ตัวเครียดเรื่องอะไร เครียดหรือเขิน?" พอฉันถามเท่านั้นแหละ คุณมาเฟียก็รีบลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ระเบียงทันที ก่อนที่เขาจะยกบุหรี่ที่คีบในมือ..สูบเข้าเต็มปอด เขาพ่นควันขาวๆครั้งแล้วครั้วเล่า ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งกอดอกมอง จนเขาสูบมันเสร็จ...และเดินกลับเข้ามาในห้อง ฉันจึงถามอีกครั้ง"หายเขินแล้วใช่มั้ย?" "อย่าถามได้มั้ยวะ?-////-" "ทำไมล่ะ? รู้ไหม..เค้าไม่ชอบที่ตัวสูบบุหรี่เลย ตั
"ตัว ไม่พูดแบบนั้นได้มั้ยพูดดีๆ..เพื่อนเค้ากลัวแล้วนะ""แล้วไง? ฉันจะพูดตรงๆจะได้จบๆ..แล้วเธอว่าไงล่ะพู่กัน? อยากให้ฉันฆ่าพ่อเธอมั้ย?" ตายๆยังจะไปขู่ฆ่าพ่อกับน้องตัวเองอีก"ไม่..ฮึกๆ พ่อไม่ได้ทำ!""เหรอ? งั้นลองกลับไปถามพ่อเธอดู ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อเธอจะยอมรับมั้ย? เธอมองทุกอย่างสวยงามได้ไงวะ..ทั้งๆที่มีลูกน้องเดินเหน็บปืนเดินในบ้านแบบนั้น!!""ตัว! พอได้แล้ว! เราจะจบเรื่องทั้งหมดดีๆได้ไง ถ้าตัวอารมณ์ร้อนแบบนี้!""ก็แม่ง..โคตรน่ารำคาญเลยว่ะ" คุณอิฐพูดจบ ก็เตรียมยกเท้าถีบเก้าอี้ แต่เมื่อหันมาเห็นฉันจ้องตาเขม็งกดตาต่ำ..เขาก็ลดเท้าลงทันที ก่อนที่จะหันไปหัวเสียทางอื่น"ฮือๆพิงค์ ฉันไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง! ฉันรับไม่ได้!""แกใจเย็นๆนะ ค่อยๆคิดค่อยๆตัดสินใจ ยังไงก็พ่อ อย่างที่ฉันบอกทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจา แกต้องช่วยเรานะพู่กัน เรื่องจะได้จบ แกรู้ใช่มั้ย..พ่อแกเป็นคนยังไง? ต้องเข้าหายังไง?"พู่กันพยักหน้า เบะปากสะอื้นออกมาจนน้ำตาไหลอาบแก้ม ฉันจะใจอ่อนแล้วฉันพูดเลย ยิ่งเธอมองฉันเหมือนเด็กที่กลัวปีศาจอย่างคุณอิฐ ฉันยิ่งรู้สึกสงสาร"รู้..รู้สิ แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันได้ผลมั้
สักพักฉันก็ได้ยินเสียงรองเท้าตึกๆๆวิ่งกรูมาที่รถ แต่พอลูกน้องฝั่งเรามาชิดตัวพู่กันและจับประตู อยู่ๆเสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัด!ปัง!'อย่าแตะต้องลูกสาวกู!''จะอะไรนักหนาวะ ถ้ากูฆ่ากูฆ่านานแล้ว!!' นี่คือเสียงคุณอิฐ ที่เขาตะโกนตอบพ่อตัวเอง และเมื่อฉันเงยขึ้นมองไปที่กระจกหน้ารถก็เห็น..เขากำลังยืนชี้ปืนมาที่พู่กันที่ตอนนี้ยังยืนเหม่อลอยยกมือขึ้นสองข้าง เหมือนคนสติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว'มึงมันลูกชายไอ้อัฐนี่หว่า?! มีปัญหาอะไรกับกูถึงได้จับลูกสาวกูไปแบบนั้น!'เป็นบทสนทนาที่ดุเดือดเลือดพล่าน ขอลืมความเป็นพ่อลูกไปก่อนละกัน..จะได้ไม่บาป เพราะคุณอิฐก็มึงๆกูๆหยาบคายกับลุงรัฐเหลือเกิน 'ทำไมวะ ลูกสาวมึงแตะต้องไม่ได้เลยรึไง!''มึงอย่ามาเล่นลิ้นกับกู! พ่อมึงไม่สั่งไม่สอนรึไง?..ว่าอย่าเสือกมายุ่มย่ามแถวนี้!''ทำไมวะ? กลัวเหรอ? ทีตามฆ่าคนของพ่อกูเป็นหมาลอบกัด ให้กูบอกมั้ย..ว่าหมาตัวไหนมายุ่มย่ามกับกูก่อน'ฉันอยากพุ่งไปห้ามเขาจริงๆ ดูเขาพูดสิ..นั่นพ่อนะ ใจเย็นๆได้ไหมไม่เห็นต้องหยาบคายเลย แต่เมื่อฉันทำอะไรไม่ได้ และโดนขนาบข้างด้วยบอดิการ์ดสาว..ฉันจึงตัดสินใจหันไปเรียกพู่กัน ที่เปิดประตูรถค้า
เมื่อเห็นคุณอิฐเงียบหน้าถอดสี มือสองข้างของฉันที่โอบแก้มก็รีบตบเบาๆทันที เพืื่อเรียกสติเขากลับมา"ตัวๆ ตัวจะตายไม่ได้นะ..เค้ายังไม่ท้องเลย ฮืออ..ตัวอย่าตายนะ ตัวตอบเค้าสิ ห้ามตาย!!!"ตอนนี้ฉันไม่เห็นอะไรเลย น้ำตามันไหลเอ่อจนทุกอย่างพร่ามัวไปหมด หรือแม้กระทั้งเสียงผู้คน..ที่หูมันอื้ออึนเหมือนฉันกำลังจมน้ำลึกไม่อยากจะเชื่อ..ว่าปืนที่ลั่นไกลแค่นัดเดียว มันจะทำให้ฉันเสียศูนย์ได้ขนาดนี้"ไม่ใช่ฉัน...พิงค์ ไม่ใช่ฉัน" อะไรนะ?! ไม่ใช่..แล้วเป็นใคร?!"พู่กัน!!" พอได้ยินเสียงเรียกของลุงรัฐเท่านั้น ฉันก็เบิกตากว้าง ผลักคุณอิฐให้หลบทางทันทีก่อนที่จะแทบล้มทั้งยืน!! เมื่อเห็นพู่กันนั่งฟุบไปกับพื้น..คุกเข่าจมกองเลือด"พู่กัน!! ไม่นะๆ!! แก..ฮึกๆ แกทำใจดีๆไว้นะ " ฉันไม่รอช้า ทรุดลงคุกเข่าที่พื้นปูนซีเมนต์ที่ร้อนระอุทันทีตอนนี้ฉันไม่กลัวตัวเองจะเจ็บ หรือร้อนอะไรทั้งนั้น รีบก้มไปประคองพู่กันขึ้นมาแนบอกทั้งน้ำตาจนเห็นเธอค่อยๆขยับปากช้าๆ และพูดออกมาเสียงแหบแห้งว่า.."ฮึกๆ ฉัน..สะใจ สะใจจริงๆ""พู่กันแกพูดอะไร?! ทำใจดีๆไว้นะ ตัวๆโทรเรียกรถโรงบาลด่วนเลย" ฉันหันไปบอกคุณอิฐที่มือไม้สั่นกดโทรศัพท์เดินวนไ
ผมไม่ได้รู้สึกดีที่พูดแบบนั้น ยังมีความรู้สึกน้อยใจในใจผม เพราะผมเป็นเด็กที่พ่อไม่อยากให้เกิด..จนต้องตามฆ่า แตกต่างจากน้องสาวต่างมารดาที่พ่อรักนักหนาถึงขั้นจะเป็นจะตายผมบอกตรงๆผมไม่ได้อิจฉา ไม่ได้อยากให้ท่านปันความรักให้ แต่มันแค่แอบน้อยใจในใจลึกๆที่ผมเอง..แม่งอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน"อิฐ..มึงเป็นลูกชายกูจริงๆใช่มั้ย" พ่อรัฐถามผม ขณะที่ผมมองเหม่อเข้าไปในห้องฉุกเฉินนั่นมันจริงไม่จริง..ตอนนี้ผมไม่อยากสนแล้วล่ะ เพราะถึงจะรู้ว่าใครเป็นพ่อแท้ๆมันก็ไม่ต่างกัน ชีวิตผมไม่ได้ดีขึ้น..ยังไงๆผมกูลูกมาเฟียเหมือนเดิม และหน้าที่ผมก็คือธุรกิจสีเทาเหมือนเดิมด้วย"แล้วแต่จะคิด ถึงพูดความจริง...ก็ไม่คิดจะเชื่ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ตอนแม่อยู่ทำไมไม่ฟังแม่ล่ะ"พ่อรัฐเงยหน้าขึ้นมองผม แต่ผมไม่ได้สนใจท่าน ยังยืนอยู่แบบนั้นและก็มองไปที่ประตูกระจกสีขุ่นเหมือนเดิม"ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจ..ตั้งใจแค่จะยิงล้อรถ แต่คนขับของไอ้อัฐมันขับส่ายไปส่ายมาหลบ..จนลูกกระสุนโดนรศรินทร์เข้า และจากนั้นไม่นานรถก็เสียหลักคว่ำ แต่พอไปดูในรถมันกลับมีเสื้อผ้าและพวกของใช้ไออัฐเต็มไปหมด""ก็แค่เสื้อผ้า.." ผมพูดขึ้นมาเบาๆ จนพ่อรัฐรีบอธิบายต
ฉันอาบน้ำไปคิดเรื่องคุณรศรินทร์ไป เพราะไม่คิดเลย..ว่าที่ฉันคาดการณ์มันจะผิดมหันต์ จนพู่กันถูกยิงอาการโคม่าแบบนี้ แสดงว่าที่ท่านทำเป็นห้ามและทำเป็นหวังดี..จริงๆแล้วคุณรศรินทร์แค่ต้องการแก้แค้น และให้ลุงรัฐเป็นคนลงมือแทนสินะแต่โชคดีของเพื่อนฉัน..ที่คุณรศรินทร์ไม่ถึงขั้นเอาชีวิตไป ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดไปจนตายเหมือนกันแต่หลังที่พู่กันโดนยิง เธอก็นอนเป็นผักอยู่ห้องไอซียูเกือบอาทิตย์..ถึงจะได้ออกมาอยู่ห้องพักฟื้นปกติและทุกคนเข้าเยี่ยมได้ ซึ่งฉันไปเยี่ยมเธอทุกวัน..ไปกับคุณอิฐบ้าง ไปกับอาจารย์ที่คณะบ้าง แต่แปลก..ที่พู่กันฟื้นมาเธอไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ว่าตัวเองลงจากรถไปยืนเหม่อ และไม่รู้ว่าตัวเองถูกยิงยังไง.. หลายวันที่ฉันได้ยินเธอถามด้วยความสงสัย แต่ก็บ่ายเบี่ยงไม่กล้าพูดว่าใครเป็นคนยิง ฉันได้แต่บอกให้เพื่อนสนิทพักผ่อนให้เต็มที่ จะได้หายเร็วๆและไปสอบจบ จนวันนี้เธอถามฉันอีกว่า.."แก..ใครเป็นคนยิงฉัน? บอกฉันมาเถอะ" "อุบัติเหตุแกไม่มีอะไร แกนอนพักนะ..จะได้หายเร็วๆ" ฉันบอกและดึงผ้าห่มห่มให้เพื่อนสนิทตัวเอง แต่พู่กันก็ยังจับมือฉันไว้อีกและยังถามอีกว่า.."แล้ว..ตอนพ่อฉันเจอคุณอิฐท่านว่ายังไ
ทุกคนในร้านกาแฟหันมองฉันเป็นตาเดียว รวมถึงคุณหมอทั้งหลายที่ฉันเหล่ไว้เมื่อกี้ด้วย..จนฉันค่อยๆหันไปยกมือขอโทษเทพบุตรพวกนั้น ..และกลับมาสนใจคนตรงหน้าที่ไม่ยอมสบตาก่อนที่จะถามเขาว่า.."เอ่อตัว...ตัวพูดว่าไงนะ?O//O""ทำไมเธอต้องให้ฉันพูดหลายรอบ? หูมี..ก็ตั้งใจฟังบ้างสิ-//-"โอเค..นี่คือคำตอบของว่าที่เจ้าบ่าว ที่เพิ่งชวนฉันไปดูชุดแต่งงานเมื่อกี้หวานได้อีกค่ะ.."ก็ตัวจะแต่งงานกับเค้า ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันเนี่ยนะ-//-" น้ำเสียงที่ถาม..ฉันบังคับให้ปกติได้ แต่หน้าเนี่ย..ทำไม่ได้จริงๆ มันร้อนผ่าวไปถึงท้ายทอยแล้ว..ให้ตาย!"ก็เป็นซะสิ เธอจะถามเยอะทำไม? "โอ้โห..นี่ฉันไม่มีสิทธิถามเหรอ? คุณอิฐเขาเป็นผู้ชายแข็งกระด้างมาก นี่ขนาดควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้านะ..เขายังไม่มีความอ่อนโยนอ่อนหวานเลยสักกะนิด "เป็น? จะเป็นได้ยังไง..ตัวไม่ได้จีบเค้าอ่ะ!""ทำไมเธอต้องกดดันฉันด้วยวะ ก็พยายามอยู่นี่ไง!" ฉันยกมือทาบอกตกใจ เมื่อคนตรงหน้าหันมาพูดเสียงดังใส่..แถมหน้าแดงแปร๊ด นี่คุณอิฐเขาเขิน? แต่โมโหกลบเกลื่อนเหรอ? หรือว่าโมโหฉันจริงๆ..จนหน้าดำหน้าแดง?ว่าแต่ที่พูด..เขาพยายามอะไรล่ะ ฉันเคยถามว่าจีบมั้ย..เขาก็ป
คนจะได้เป็นเจ้าบ่าว..มันใจเต้นแรงขนาดนี้เลยเหรอวะนี่ขนาดเจ้าสาวยื่นข้อเสนอให้ผมจีบติดก่อน ผมยังตื่นเต้น..ราวกับตัวเองได้เป็นผัวเธอแล้วอย่างเป็นทางการใจเย็นๆไอ้อิฐแค่ดูแค่ลองชุดเอง..อย่างอื่นก็ได้หมดแล้ว มึงจะตื่นเต้นทำไม!"เรียบร้อยแล้วค่ะ สวยมากๆค่ะ..ใส่พอดีเลยค่ะคุณอิฐ^^" ผู้จัดการร้านเดินมาบอกผมอย่างนอบน้อม ก่อนที่จะผายมือให้ผมมองไปที่ม่านที่ค่อยๆเปิดออกสองข้างขวามือจนผมเห็นยัยสีชมพูยืนอยู่..และเธอก็ส่งยิ้มหวานหมุนตัวโชว์ผม เหมือนวันที่ไปทะเลด้วยกัน"ไงตัว! เค้าสวยมั้ย^[]^"สวย..สวยมากเลยว่ะ ยัยเด็กกะโหลกกะลาตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงไปแล้ว ผิวขาวๆที่ผมเคยสัมผัสลูบไล้..มันขาวนวลเข้ากับลายปักนั้นมาก และผมของเธอที่ถูกเกล้าขึ้นรวบๆนั้น มันโชว์เนินอกเนียนสวย..กับคองามระหงส์ของเธอชัดเจนเวรเอ้ย..ไม่คิดว่าตัวเองจะได้บรรยายใครแบบนี้แต่ก็นะ ผมห้ามความคิดไม่ได้จริงๆ..เธอสวยจนผมอยากบรรยายแบบนั้นเอง และผมก็ห้ามสายตาที่มองเธอเป็นประกายนี้...ไม่ได้ด้วย จะสวยทำไมนักหนาวะ!"ถ้าไม่สวย คุณอิฐไม่ตะลึงหรอกค่ะ^^ " เมื่อได้ยินพนักงานพูดถึงผม..ผมก็หลุดออกจากภวังค์ทันที ก่อนที่จะก้มหน้าตั้งสติ..ร
"เฮ้ย! พวกมึงโทรหาช่างกระจกสิวะ!"เฮ้อออออ!..เป็นแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยครั้งที่บ้านเรากระจกพัง คุณอิฐเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆของเขา คือใช้ลูกน้องเรียกช่าง! เขาไม่เคยห้ามลีอองเรื่องเล่นปืนเลยสักครั้ง จนนานเข้าๆลูกชายตัวแสบสอยแจกันบ้างล่ะ สอยถ้วยน้ำชาพ่ออัฐแตกบ้างล่ะแต่ก็เป็นเช่นเดิม..คือคุณอิฐไม่ดุลีอองเลย ต่อให้ของที่พังมันจะมูลค่ามหาศาลและแตกไปต่อหน้าต่อตาเขาก็ตาม เขาก็จะเพิกเฉย! ซึ่งแตกต่างจากลิลินมากเลย..รายนั้นถูกดุแทบทุกเรื่องปกติพ่อต้องสปอยลูกสาวไม่ก็ตามใจมากๆใช่มั้ย แต่บ้านนี้ไม่!!...คุณอิฐเขาไม่เคยใจดีกับลิลินเลย มันต่างจากลีอองลิบลับโดยเฉพาะเรื่องติณห์ที่ฉันหว่านล้อมทุกวัน ลูกสาวเราแปดขวบและติณห์ก็โตมาหล่อนิสัยดีมาก! คุณอิฐเขาก็ยังไม่ยอมให้ลูกไปสนิทกับติณห์ แถมยังดุทุกครั้งที่ลิลินพูดถึงนี่ขนาดเป็นลูกชายเพื่อนสนิทซีอีโอสายการบินเวลฟายนะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นตาสีตาสาล่ะ?...หึ! ฉันว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตลูกสาวเขาหรอกจนหลังจากที่ถูกห้าม ลิลินก็ตึงตังกลับขึ้นไปบนบ้าน และเดินลงมาพร้อมกระเป๋าเป้หนึงใบ...ไปหยุดที่พี่ชะเอม"ป้าเอมคะ ไปส่งลินที่บ้านพี่ติณห
ทั้งโรงพยาบาลเวลานี้ตีสองย่างตีสาม คงจะมีแค่ฉันคนเดียวสินะทีี่แหกปากโวยวาย และใช่ลูกน้องคุณอิฐก็เดินนำแหวกทางให้ เพื่อจะได้เคลียร์ทางส่งฉันให้ถึงห้องคลอดเร็วที่สุดจะว่าเวอร์วังก็ว่าไปเถอะฉันไม่เถียง เพราะเสียงรองเท้าตึกๆที่วิ่งตามเป็นขบวนตอนนี้มันมีความหมายกับฉันเหลือเกิน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคลอดทายาทของตระกูลมาเฟียหรือหัวหน้าใหญ่ของพวกเขายังไงอย่างงั้น!เพราะทุกคนเดินไปมองทางไปเคร่งเครียดมาก และหนำซ้ำไม่พอ..ยังกางแขนกั้นคนอื่นไม่ให้มองมาที่ฉันอีกมันเป็นธรรมเนียมต้อนรับผู้สืบทอดตำแหน่งเหรอ?! ทำไมแห่กันมาทั้งบ้านและเวอร์กันขนาดนี้! ฉันรู้สึกว่าตัวเองสำคัญก็จริง แต่ใจฉันก็กลัวว่าตัวเองจะรบกวนคนไข้คนอื่นด้วย"คุณพิงค์ถึงห้องคลอดแล้วครับนาย!"เมื่อถึงประตูห้องคลอด..ลูกน้องฝั่งซ้ายก็โทรรายงานคุณอิฐทันที ที่ตอนนี้เขาไปเคลียร์งานที่บ่อนตั้งแต่เย็นและยังไม่กลับซึ่งฉันที่ปวดท้องยิ่งได้ยินและยิ่งโมโหมาก เขารู้ทั้งรู้ว่าฉันใกล้คลอดนะ! แต่ทำไมไม่มาดูแลฉันด้วยตัวเอง จะส่งลูกน้องมาเป็นขบวนแบบนี้ทำไม! เขาเป็นพ่อลูกสองแล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?!แต่ดีนะที่พี่หลินพี่ชะเอมช่วยดูลิลินให้ ไม่อย่า
รู้ไหมว่าการหลอกสามีมันยากกว่าลอกข้อสอบไฟนอลอีก ฉันกลัวคุณอิฐเขาเตะตัดขาเรื่องติณห์มาก ยิ่งได้ยินเขาห้ามลิลินเรื่องบอกรักแบบนั้นฉันยิ่งกลัวอะไรก็ไม่รู้ก็แค่เด็กบอกรักกัน ทำไมเขาต้องห้ามลูกจริงจังเบอร์นั้นด้วย!!!"ลิลิน หลังจากนี้หนูไม่ต้องคุยเรื่องพี่ติณห์กับปาป๊านะลูก เพราะปาป๊าอาจจะห้ามหนูไม่ให้เจอพี่ติณห์อีก ""ค่ะ ได้เยยๆ" ลิลินรับคำทันทีซึ่งมันดีมาก และแบบนี้ล่ะเข้าแผนการ เชื่อแม่แล้วจะได้ดีทุกคน!หลังจากวันนั้นที่ฉันกำชับลูก ฉันก็คอยหลบหลีกคุณอิฐพาลิลินไปเที่ยวเล่นบ้านพี่เต้บ่อยๆ แถมอ้างกับหมอน้ำแข็งว่าลิลินแค่อยากมาหาอันติงเท่านั้น ไม่ก็เราขับรถผ่านๆเลยแวะมาทักทายซึ่งหมอน้ำแข็งก็ไม่ว่าอะไร จนระหว่างที่ทิ้งลูกให้เล่นกับตุ๊กตาในกรงใหญ่ๆ เราสองคนก็มีเวลาคุยกันมากขึ้น "ลิลินไหวพริบดีนะคะ คิดไว้รึยังว่าจะให้เธอเรียนอะไร?"เอ่อ...ลูกเพิ่งสองขวบกว่าๆฉันต้องคิดเรื่องเรียนให้ลูกแล้วจริงดิไม่ทันตั้งตัวเลยนะเนี่ย เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ฉันเพิ่งเรียนจบเอง-_-"ยังเลยค่ะ คงต้องรอดูไปก่อน^^""อืม งั้นตอนนี้ก็สังเกตลิลินเลยนะคะ สังเกตว่าชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นค่อยหาอุปกรณ์ข
"รูดกันเป็นว่าเล่นเลยเว้ย-_-""อะไรวะ? " ผมขมวดคิ้วถามไอ้เต้ เมื่อมันหยิบโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจากเสื้อสูทตัวเองออกมา ก่อนที่มันจะส่ายหน้า แล้วเปิดข้อความเลื่อนผ่านๆให้ผมกับไอ้พีมดู"เมียกูถึงห้างไม่ถึงสิบนาทีรูดไปแล้วหกแสน" "อย่างมึง ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกกูรู้^^" จริงของไอ้พีม อย่างไอ้เต้หกสิบล้านยังจ่ายได้สบายๆแค่หกแสนมันจะบ่นอะไรนักหนาวะ"มึงให้เมียไปแล้ว อย่าบ่นสิวะ" ผมบอก..ก่อนจะจิบไวน์ขวดละล้านของมันพอหอมปากหอมคอ"ถ้าเมียรูดซื้อของตัวเองกูไม่บ่นเลย แต่นี่ของติณห์ทั้งนั้น! มันเกินเด็กไปว่ะ ""เดี๋ยวโตขึ้นก็บริหารสายการบินต่อ มึงก็ไปพักผ่อนไงวะ แล้วนี่อันติงไปไหนล่ะ?ทำไมไม่ไปช็อปกับแม่^^"ไอ้พีมถาม เพราะปกติไอ้เต้จะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวคนเล็กในห้องทำงานนี้"แม่กูพาไปสวนสัตว์ ตอนแรกก็วางแผนจะพาไปทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ลูกชายกูไม่ยอม..บอกว่าเหม็นและสกปรก กูเลี้ยงลูกผิดรึป่าววะเนี่ย!-_- "ผมกับไอ้พีมมองหน้ากันทันที เมื่อไอ้เต้มันบ่นและถอนหายใจอย่างหัวเสีย เพราะนานทีผมจะเห็นมันโหมดนี้ จนไอ้พีมมันพูดขึ้นมาว่า"ลูกมึงเกิดมาเป็นคุณชาย และเป็นหลานชายคนแรกของสองตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับ มึงจะก
เอายังไงดี เพราะเสียงคุณสามีระดับไม่คงที่เลย เขาคงเต้นอยู่แน่ๆ หรือไม่ก็...อุ้มลิลินเต้นด้วย!!เพราะเมื่อกี้ฉันได้ยินกับหูตัวเอง รู้สึกว่าเขาจะถามลูกเรื่องเต้นมั้ยอะไรสักอย่าง?! มันต้องใช่แน่ๆเลย'อาบน้ำๆ อาบน้ำๆ กันเถอะ~อาบน้ำแล้วสบายตัว~ 'แหม..อินโทรก็มา ถ้าแรปด้วยนี่ฮาเลยนะ แต่น่ารักดี.. ฉันชอบคุณอิฐโหมดนี้จังและฉันไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเลยด้วยซ้ำ อยากให้เขาเล่นกับลูกบ่อยๆร้องเพลงให้ฟังเรื่อยๆแบบนี้ ถึงเขาต้องแอบทำในที่ลับตาคนก็เถอะและลิลินต้องเข้าใจนะลูก ปาป๊าของลูกเป็นมาเฟีย! เขาต้องคีพลุค! ส่วนหนูก็ยอมๆหรือไม่ก็ทนปาป๊าเขาร้องเพลงไปก่อน โตแล้วค่อยไปฟังพี่ติณห์ร้องแทนคำก็ติณห์สองคำก็ติณห์ ไอ้แผนจับติณห์ใส่กระด้งมันไม่เคยหลุดออกจากหัวฉันเลย ที่ผ่านมาฉันเลี้ยงลูกทะนุถนอมสุดๆ ทั้งทาครีมถนอมผิวทั้งทำสปาเด็ก เพราะมีเรื่องนึงอยู่ในหัวตลอดเวลาใช่ค่ะ..ลิลินต้องสวย ต้องเก่ง ต้องเป็นที่หมายตาของติณห์ และโตไปเธอต้องเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคจนติณห์ต้องตามจีบ หรือไม่พี่เต้กับหมอน้ำแข็งต้องเห็นดีเห็นงามจับหมั้นหมายกันไว้แต่เนิ่นๆโอ้ยถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตลูกสาวฉันคงจะดีมาก แต่ทั้งหมดที่ฉันคิดแล
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ฉันคุยกับวิสัญญีแพทย์ไม่กี่คำก็เผลอหลับไปก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ที่แสนสดใส และเห็นเพื่อนสนิทพ่อๆพี่ๆบอดิการ์ดของฉันยืนเต็มห้องไปหมด"น่ารักที่สุดเลยลิลินของอา""ไหนขอปู่อุ้มหน่อย""ดีๆนะพ่อ พ่อมือหนัก" เมื่อตื่นและปรับสายตาเข้ากับแสงจ้าๆในห้อง ฉันก็เห็นพ่อสามีกำลังอุ้มหลานอยู่จนฉันต้องหันไปมองหน้าสามีทันทีเพราะตอนนี้เขานั่งข้างๆเตียงและกำลังทำหน้าแปลกๆ เหมือนคน..กำลังจะร้องไห้"มึงมองๆหลาน แล้วหน้าเหมือนใครไอัรัฐ" พ่ออัฐถามยิ้มๆ ก่อนที่จะหันมามองที่คุณอิฐแวบนึง จนฉันต้องรีบทำตาปรือ เพื่อแอบดูปฏิกิริยาของเขาฉันอยากให้คุณอิฐเขาเลิกอคติกับพ่อเขาได้แล้ว พ่อลูกกัน..ยังไงๆก็ตัดกันไม่ขาด ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูมาก็ตามแต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังอยู่"เหมือนกู""เหมือนกูต่างหาก" พ่ออัฐเถียงและเดินเข้าไปมองหน้าลิลินข้างๆลุงรัฐจนพู่กันพูดขึ้นมาว่า.."เหมือนพู่กันค่ะ น่ารักจิ้มลิ้มเหมือนพู่กันที่สุด^^""ถ้าน่ารักจิ้มลิ้มคงเหมือนพิงค์ ไม่เหมือนเธอหรอก""เอ๊ะ พี่อิฐ!>[]เถียงกันจนได้ ขนาดลิลินหลับอยู่ก็ไม่สนใจ แต่เมื่อพ่ออัฐท่านหันมาเห็นฉันลืมตาขึ้นเท่านั้นแหละ ท่านก
"แกจะวางได้ยัง ฉันเมื่อยขาหมดแล้วนะ" ฉันบ่นกับพู่กันอุบอิบ ขณะที่ตัวเองเก็บเสื้อผ้าเด็กสีชมพูไว้ในชั้นเหมือนเดิม ค่ะ..เรามีลูกสาว อะไรๆก็ต้องสีชมพูน่ารักมุ้งมิ้ง และเวลาเลือกก็รู้สึกเพลินจริงๆเหมือนเรามีตุ๊กตาตัวจิ๋วให้จับแต่งตัว~~"โอเคๆวางก็ได้ แค่นี้ก่อนนะคะคุณพี่พีม มนุษย์แม่แถวนี้โวยวายแล้ว"และแล้วฉันก็สบายหู เมื่อพู่กันกดวางสายแล้วหันมาเลือกเซ็ทผ้าอ้อมชุดเด็กกับฉัน แต่ไม่ว่าฉันจะหยิบจับอะไร เจ้าลิลินตัวน้อยก็ดิ้นมาก..ราวกับเธอกำลังเลือกช็อปปิ้งไปพร้อมๆกับฉันเลยซึ่งฉันไม่ได้มโนนะ..ฉันสังเกตมาสักพักแล้ว เมื่อไหร่ที่ฉันหยิบชุดเรียบๆลูกจะเงียบกริบไม่ถีบ แต่เมื่อฉันหยิบชุดเวอร์วังมีลูกเล่นมีเพชรวิ้งๆของเด็กโต เจ้าลูกสาวช่างเลือก..ก็จัดเต็มถีบท้องฉันรัวๆราวกับอยากได้!ซึ่งฉันก็ซื้อมันแทบจะทุกตัวที่จับนั่นแหละ ไม่สนหรอกว่าลูกจะมีปฏิกิริยายังไง เพราะแรกเกิดลิลินเธอก็ต้องใส่ชุดถนอมผิวผ้าบางๆเรียบๆอยู่แล้ว เอาไว้โตค่อยว่ากันอีกที จะแคทวอคเดินพรมแดงก็เต็มที่..แม่ไม่ห้าม"โอ้ยเยอะมากเลย! ลูกคนรวยก็แบบนี้แหละเนอะ!^[]^""เฮ้อ..นี่ส่วนน้อยนะ มีให้ส่งไปที่บ้านด้วย""แล้วเรื่องรถเข็น เตียงเด
'ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ'"ได้ยินมั้ยพวกมึง?!""ได้ยินครับ!!!"ลูกน้องทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องโถง ตอบกลับมาเสียงดังจนเสียงก้องไปทั้งบ้าน ขณะที่ฉันนอนที่โซฟาด้วยอารมณ์เซ็งสุดพลัง เพราะสามีพยายามจับเสียงหัวใจลูกไม่หยุด อืม..ฉันเบื่อความเวอร์วังอลังการที่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ ถ้ามีอะไรอัพเดทหรือลูกขยับนิดนึง คุณาอิฐเขาก็เอามาบอกทุกคน..และเล่าวนซ้ำๆอยู่นั่นแหละ!เช่น..."วันนี้ลูกกูดิ้นด้วยว่ะ แม่งโคตรเก่ง" "ยินดีด้วยครับนาย^^""แล้วมึงเมื่อไหร่จะมีล่ะไอ้ชาย มึงรู้มั้ย..ว่าความรู้สึกเวลาพาเมียไปอัลตราซาวด์มันดีมาก ยิ่งจังหวะที่ได้ยินเสียงหัวใจและลูกขยับนะ แม่งโคตรดี"แหม..โม้เก่ง กว่าจะติดก็เป็นปีนะ "นายวางแผนจะมีกี่คนครับ เผื่อคนที่สองสามสี่จะได้เป็นเพื่อนกัน^^""ห้าหกคนว่ะ ให้รับผิดชอบบ่อน ผับ เก็บดอก และธุรกิจของแม่เขา น่าจะลงตัวพอดี"พูดจบคุณปาป๊าก็รินวิสกี้ใส่แก้วแล้วยกดื่มพรวดต่อหน้าต่อตาฉัน แต่เอาเถอะกินเลยเอาให้เต็มที่..เพราะเรื่องเหล้าฉันไม่ห้ามอยู่แล้วแต่เรื่องบุหรี่ฉันขอเพราะฉันไม่ชอบกลิ่น และมันก็ไม่ดีกับลูกในท้องมากๆฉันจึงปล่อยให้คุณอิฐเขาดื่มและโม้ไปแบบนั้น ก่อนจะหยิบนิตยสารจิวเวอรี
ตั้งแต่เกิดมา..การอ้วกครั้งนี้เป็นครั้งที่ฉันอยากตายมากที่สุด ฉันทรมานมากๆยิ่งเจอน้ำค้างช่วงเวลาตีสามกับการพักผ่อนน้อยนิดที่สะสม จากที่แค่พะอืดพะอมฉัน...ฉันเริ่มหน้ามืดแล้ว!!"ตัว..เค้าไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม ตัว...""หยุดอ้วกแล้วไปขึ้นรถ พิงค์! เฮ้ยๆ !"ใช่ หูสองข้างอื้อและตาก็เริ่มปิด วูบเดียวจริงๆที่ฉันหันกลับไปมองสามี..ฉันก็หมดแรงฟุบลงไปในพุ่มไม้จากนั้นภาพความฝันก็เลือนลางเข้ามาในหัวฉัน..จนเห็นมีดดาบซามูไร กับลายสลักตัวอักษรคันจิที่ปลายดาบ...ที่มันตามหลอกหลอนมาตลอดใช่ ฉันกำลังยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบเหมือนเคยๆ และในฝันก็ไม่รู้เลยว่ามันยุคไหน?ใครเป็นใคร? แต่ครั้งนี้...ไม่เหมือนครั้งก่อน...ฉันไม่ได้ถูกแทง...และฉันก็เห็นคนถือดาบนั้นชัดเจนมากเพราะตอนนี้ชายร่างใหญ่เดินถือดาบเล่มนั้นก้าวดุ่มๆมาหาฉัน เขาขมวดคิ้วไล่สายตาที่ดุดัน..มองร่างเล็กของฉันที่ยืนน้ำตานองหน้า ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ ฉันกลัวว่าตัวเองจะถูกแทงเหมือนครั้งก่อน.. แต่เมื่อเห็นเขาหยุดลดปลายดาบลง..ฉันก็กู่เข้าไปร้องขอ ด้วยการยกมือไหว้มือสั่นๆน้ำตาคลอเต็มสองตา'ชะช่วยด้วย..ช่วยด้วย ฉันยังไม่อยากตาย อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ''ตายเห