ฉันจุกจนพูดไม่ออก
ได้แต่มองหน้าแม่แท้ๆของตัวเองน้ำตาคลอ...
"แม่...ทำไมแม่พูดแบบนี้ อีกสามเดือนหนูก็เรียนจบแล้ว และหนี้พวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรานะ หนูพอมีเงินเก็บหนูจะลงทุนให้แม่เอง ถ้า.."
"การเริ่มต้นตั้งตัวตอนอายุปูนนี้ มันไม่ง่ายหรอกค่ะ นมเกิดมาเป็นคนใช้ ยังไงๆก็ต้องเป็นคนใช้ ที่ผ่านมาบ้านหลังนี้มีแต่ให้ ให้ที่ซุกหัวนอน ให้ชีวิตใหม่กับนม แถมยังช่วยสามีนมจนวาระสุดท้าย"
สามีเหรอ? ทำไมแม่พูดเหมือนพ่อไม่ใช่พ่อฉันเลย !
สามีที่ว่า...ก็พ่อฉัน ถึงท่านจะเป็นแค่คนขับรถ เป็นคนไม่มียศไม่มีศักดิ์ แต่ฉันก็ไม่เคยลืมว่าท่านคือพ่อ!
"แม่..ทำไมแม่พูดแบบนี้?" ฉันถามเสียงสั่นเครือ เพราะทุกอย่างมันชี้ชัดขึ้นเรื่อยๆ..ว่าฉันกำลังจะแพ้
"นมขอร้องนะคะ ถ้ารักนมอย่าเรียกนมว่าแม่อีก คุณหนูตอบแทนบุญคุณคุณหญิงเถอะค่ะ ท่านมีบุญคุณกับเราจริงๆ"
"ถ้าไม่ได้เบ่งหนูออกมา..หนูไม่นับเป็นบุญคุณ จนยอมให้ขายหนูกินหรอก!"
"คะ..คุณหนู! มันอาจะดีกว่านะคะ!"ได้ยินฉันพูดแบบนั้น อยู่ๆแม่ก็โผงขึ้นมาเสียงดังเหมือนคนลืมตัว
"ดีกว่าอะไร? นี่หนูไม่ได้ว่าแม่นะที่ยกหนูเป็นลูกบุญธรรมคนอื่นเพื่อเอาเงินไปรักษาพ่อ เพราะนั่นมันเหตุสุดวิสัยแม่จำเป็น! แต่คุณหญิงผกาไปเข้าคาสิโนจนเป็นหนี้จำนองบ้าน แม่จะให้หนูทำยังไง? ทั้งชีวิตหนูนะ...หนูต้องไปแต่งงานกับคนแก่ๆใช้หนี้ให้คนอื่นเหรอ?!"
ทุกอย่างอ่อนลงภายในพริบตา แม้กระทั่งสีหน้าและแววตาแม่ เพราะตอนนี้ท่านกำลังมองฉันแปลกๆ เหมือนคนอัดอั้นตันใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกยังไงอย่างงั้น
"แล้ววันนึงคุณหนูจะรู้ค่ะ ว่าที่คุณหนูได้มายืนอยู่ตรงนี้เพราะใคร และทำไมนมถึงอยากให้คุณหนูจำบุญคุณคุณหญิงไว้ คุณอัฐไม่ได้เลวร้าย..นมเชื่อว่าคุณอัฐจะรักคุณหนูเหมือนลูกคนนึง"
ยังไงๆ..ก็จะให้ฉันแต่งงานกับลุงอัฐให้ได้สินะ!!
"ลูก?!! นั่นมาเฟียนะแม่ แค่นึกถึงสัจธรรมก็ไม่มีแล้ว! เขาเสียเงินได้หนูมา เขาไม่ปล่อยให้หนูไปลอยหน้าลอยตาในบ้านเขาเฉยๆหรอก!"
แม่ไม่ตอบเงียบไปครู่นึง ก่อนจะเหลือบมองซ้ายทีขวาทีพลางกลืนน้ำลายดังอึก...และค่อยๆขยับมากระซิบฉัน
"เชื่อนมนะคะ ถ้าคุณหนูอยากเป็นอิสระและไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย คุณหนูต้องย้ายไปบ้านคุณอัฐ"
อะไรนะ...
แม่พูดอะไร?
แม่พูดกลับไปกลับมา จนฉันรีบหันมองหน้าแม่อีกครั้งเพื่อทวนถาม แต่พอสบตาท่านเท่านั้น...ทุกอย่างกลับไวมาก อยู่ๆแม่ก็ขยิบตาถี่ๆส่งมาให้ฉันและเหล่ขึ้นไปข้างบน
"ชู่ว~คุณหญิงผกาแอบฟังอยู่ค่ะ" เสียงกระซิบนั้นแหบแห้ง และเบาจนฉันแทบไม่ได้ยิน
แต่ก็ทำฉันนิ่งไปชั่วขณะ
"ทำตัวมีปัญหาเหรอพิงค์ ขึ้นมาหาแม่เดี๋ยวนี้!!!" ฉันสะดุ้งตกใจกับเสียงตะโกนที่ดังลงมาทันที ซึ่งฉันรู้ดีว่าต่อไปนี้ฉันจะเจอกับอะไร
และมันก็ใช่จริงๆ...
เพียะ~!
"คิดจะทำอะไร อย่าเนรคุณฉันนะ!!"
นี่ล่ะคุณหญิงผกาภริยาเอกอัครราชทูต ที่หลังๆมาเนี่ยกลัวแต่ฉันเนรคุณ กลัวฉันหาย บงการตั้งแต่กับข้าวการกิน ยันเสื้อผ้าที่ใส่ เพราะฉันต้องหุ่นเพรียวแต่งตัวสวยๆจับผู้ชายให้ท่าน!
"คุณหญิงแม่..." ฉันจับแก้มที่แดงฉานถามเสียงสั่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดนตบ และโดนตวาดเสียงดัง แต่เป็นครั้งแรกที่คุณหญิงแม่ตบฉันต่อหน้าแม่แท้ๆ
"คุณหญิงคะ ค่อยๆพูดนะคะ พรขอ" แม่ฉันวอนขอเสียงเบาและนอบน้อม แต่นั่นกลับทำคุณหญิงแม่ชี้นิ้วไปที่ประตูทันที
"พรออกไป! ฉันจะคุยกับลูกฉันสองคน"
"คือ..."
"ออกไป!!"
"ค่ะ คุณหญิง" คนถูกไล่มองฉันแวบนึง ก่อนจะก้มหน้าเดินคอตกออกไป และเมื่อประตูห้องปิดเหลือแค่ฉันกับคุณหญิงแม่ไว้ ท่านก็เดินมากระชากแขนฉันสุดแรง จนฉันเซถลาไปหาท่าน
"พูดกับลูกชายคุณอัฐแบบนั้นได้ยังไง!! นังลูกเนรคุณ!"
"พิงค์ไม่อยากแต่งค่ะคุณหญิงแม่ มันไม่ใช่หนี้พิงค์!"
ฉันยืนกรานเสียงดัง ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
"ต้องแต่ง! เพราะนังพรมันยังทำงานใช้หนี้ที่หยิบยืมไปไม่หมด!"
หนี้?!
"หนี้อะไรคะ? หยิบยืมอะไร? มันจบตั้งแต่พิงค์เป็นลูกบุญธรรมแล้วไม่ใช่เหรอ?!"
ฉันถามตกใจ และพยายามแกะมือที่จับแขนตัวเองออก ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ทุกวันนี้แม่ทำงานให้คุณหญิงผกาฟรีๆเหรอ?!!
มันจะเอาเปรียบกันเกินไปรึป่าว หนี้รักษาพ่อไม่กี่ล้านเอง
"โอ้ยตาย..ไม่หมดหรอก ไหนจะดอกเบี้ย ไหนจะค่าเลี้ยงดูเธอ..ฉันคิดหมด!!"
พูดจบคุณหญิงแม่ก็กดตาต่ำมองฉันหัวจรดเท้า ก่อนจะเบะปากมองไล่กลับมาที่ประเป๋า และนาฬิกาที่ข้อมือที่ฉันใส่อยู่
"เหอะ...เป็นลูกบุญธรรมที่ฉันเวทนาชุบเลี้ยงแล้วยังคิดชั่วๆกับฉันอีกนะ งั้นที่ฉันซื้อให้ทุกอย่าง..ฉันก็จะคิดเป็นราคาให้หมด เสียดายนะพิงค์..ที่ฉันหวังดีอยากอัพเกรดลูกคนใช้อย่างเธอให้เป็นลูกคุณหนูมีระดับ แต่เธอทำตัวเอง มันเลยไม่ฟรี!^^"
"อัพเกรด? ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์และขายหนูกินในอนาคตเหรอ?!! พอสักทีเถอะค่ะ..สรุปหนี้ที่แม่ยืมไปรักษาพ่อเหลือเท่าไหร่? แจกแจงมาสิคะ..เผื่อหนูมีปัญญาใช้คืน!"
และคุณแม่ก็เอามือปิดปากขำ..เหลือบมองฉันเหยียดๆ
"อิอิ เธอจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้ เงินที่ฉันส่งเสียให้ค่าขนมเธอน่ะเหรอ? มันก็เงินที่ฉันยืมคุณอัฐมาหมุนทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นใช้หนี้ด้วยกัน แต่งงานกับคุณอัฐซะ!"
"ไม่แต่งค่ะ!"
ฉันยืนยันชัดและหนักแน่น กำมือสองข้างกรอดฟันกรอดใส่คุณหญิงแม่อย่างไม่เกรงกลัว
พูดและทำกับฉันขนาดนี้ อย่าให้นึกถึงบุญคุณเลย มันไม่มีหรอก!! ท่านจ้องจะเอาเปรียบแม่ฉันและใช้ฉันหากินตลอดเวลา!
"ไม่แต่งฉันจะแจ้งความ เอาให้แม่เธอเข้าคุกเข้าตะรางไปเลย สัญญาหนี้ที่หยิบยืมฉันมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรนะ และฉันก็หักตามเงินเดือนแม่เธอทุกเดือนตามกฎที่ฉันเขียน แต่เรื่องที่ยกเธอแลกหนี้น่ะมันแค่ลมปาก..ไม่มีหลักฐาน ฮ่าๆ ฉลาดน้อยไร้การศึกษาอย่างแม่เธอน่ะ..ไม่ทันฉันหรอกจ้ะ ^^"
ฉลาดน้อยไร้การศึกษา?
นังคุณหญิงมั่นหน้า! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!
ฉันยอมรับว่าตัวเองโมโหมาก แต่ฉันต้องมีสติและต้องคิดดีๆ คุณหญิงแม่ร้ายยิ่งกว่างูพิษ ถ้าฉันบุ่มบ่ามทำอะไรอีก ท่านไม่พอแค่นี้แน่!!
หลังเย็นวันนั้นฉันก็ไม่พูดไม่จากับคุณหญิงแม่อีกเลย แม้แต่หน้าก็ไม่อยากเห็น จนฉันหมกตัวในห้องข้าวปลาไม่กิน ไม่ได้ทำเพื่อประชดชีวิตนะ แต่ฉันสะอิดสะเอียนทุกอย่างในบ้านหลังนี้
ก้อก ก้อก ก้อก~
"คุณหนูคะ คุณหญิงให้นมมาตามไปกินข้าว"
"........"
"วันนี้คุณอัฐมาทานข้าวด้วยค่ะ"
"........."
"คุณหนู" ฉันไม่สนใจเสียงแม่เรียกหน้าห้อง นอนกอดมู่ทู่บนเตียงเหมือนคนไร้วิญญาณ สองวันแล้วที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องฉัน
จนสักพักฉันได้ยินเสียงแม่เปิดประตูเข้ามา และหยุดยืนถอนหายใจ
"เฮ้ออ คุณหนู...ไม่เป็นแบบนี้ได้ไหมคะ ต้องกินข้าวนะ"
"ไม่หิวค่ะ"
"ไม่หิวก็ต้องกินค่ะ"
พูดจบแม่ก็ค่อยๆคุกเข่านั่งข้างๆ ก่อนจะสะกิดไหล่ฉันให้หันมองตาม และแอบหยิบขนมปังจากผ้ากันเปื้อนส่งให้รีบๆ
"กินหน่อยนะคะอย่าประชดคุณหญิงเลย"
"ทำไมแม่ต้องเข้าข้าง และชอบพูดเรื่องบุญคุณ หนูเริ่มรำคาญแล้วนะ.."
แม่ไม่สนใจยังดันขนมปังที่ห่อกระดาษนั่นให้ฉันอีก
"กินหน่อยนะคะ" ฉันมองขนมปังกับกระดาษแผ่นนั้นอีกครั้ง. แต่เมื่อเห็นรอยปากกาจางๆที่ซึมตามหลังกระดาษ ฉันก็รีบคว้าหมับ! ซุกมันไว้ใต้ผ้าห่มทันที
ก่อนที่จะกระซิบถามแม่เบาๆว่า..
"อะไรคะ..?"
"อ่านเสร็จแล้ว..คุณหนูเผาทิ้งเลยนะคะ"
บอกฉันแค่นั้น..แม่ก็หยัดตัวลุกขึ้น และหันหลังเดินเปิดประตูออกไป แต่ฉันแอบเห็นนะว่าแม่รีบกดล็อคประตูไว้
และพยักหน้าให้ฉันก่อนดันมันปิดแกร๊ก!
เท่านั้นแหละฉันก็รีบลุกขึ้นจากเตียง คลี่กระดาษโยนขนมปังไว้บนโต๊ะทันที ก่อนที่จะก้มอ่านข้อความที่แม่เขียนไว้
อ่านลายมือของคนไม่รู้หนังสือ ที่เขียนวกไปวนมาซ้ำๆ จนได้ความว่า
'เชื่อแม่นะลูก ถ้าอยากออกไปจากบ้านหลังนี้ ลูกรับปากแต่งงานไปก่อน มันเป็นวิธีเดียวที่เราจะปลอดภัย แม่เชื่อว่าคุณอัฐเขาจะช่วยปกป้องพิงค์จากคุณหญิงผกาได้ และมันดีกว่าที่เราจะหนีไปกันเองโดยที่ไม่มีที่ไปแบบนี้ เรื่องล่วงเกินพิงค์อย่าคิดมาก..แม่เชื่อว่าท่านจะรักพิงค์เหมือนลูกสาวคนนึง คุณอัฐท่านอยากมีลูกสาวมานานแล้ว แต่ท่านโดนยิงจนมีลูกอีกไม่ได้ '
กระดาษสีขาวในมือเริ่มมัวขึ้น..มันขึ้น ก่อนที่อยู่ๆน้ำตาฉันจะหยดเผาะลงกระดาษ และไหลรวมกับตัวหนังสือที่แม่เขียนจากนั้นรอยปากกาสีน้ำเงินก็เริ่มเลือนลางไปทีละนิด เลือนไปพร้อมกับความคิดที่ตบตีกันในหัวฉันต้องแต่งงานจริงๆเหรอ? แล้วที่ฉันรับปากกับคุณอิฐไว้ล่ะ มันจะเป็นยังไงต่อ? หรือลุงอัฐท่านตกลงกับลูกชายไว้แล้ว ไม่งั้นท่านไม่ด่วนมาถึงนี่?หรือๆ จริงๆแล้ว...ลุงอัฐแค่จะมายกเลิก และมาโวยคุณหญิงแม่?!!O_Oพอนึกได้ฉันก็รีบพับกระดาษซ่อนไว้ใต้หมอนทันที ก่อนที่จะปาดน้ำตาอุ้มมู่ทู่เปิดประตูช้าๆ และย่องออกมานั่งแหมะที่บันได และเมื่อก้มมองไปที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน ที่มีโซฟารับแขกเวอร์วังอลังการ ฉันก็เห็นคุณหญิงแม่นั่งคุยกับลุงอัฐแค่สองคนท่านดูสงบเสงี่ยมเจียมตัว ถึงขนาดนั่งก้มหน้าก้มตา และบีบมือที่วางบนตักเป็นระยะๆ"คุณหญิงผกา ผมต้องการให้หนูพิงค์ย้ายไปอยู่บ้านผมเร็วที่สุด""คะ?คุณอัฐไม่รอให้หนูพิงค์เรียนจบก่อนเหรอคะ?" คุณหญิงแม่เงยขึ้นถามตกใจ แต่ท่านก็ไม่ได้ยืนกรานปฏิเสธ"ผมรอไม่ไหว" "..........""ตอนนี้หนูพิงค์อยู่ไหน ผมต้องการคุยด้วย" เท่านั้นแหละคุณหญิงแม่ก็ก้มหน้าหลบตาลุงอัฐทันที ก่อนที่จะบีบม
"งั้นเก็บของเลย"ลุงอัฐพูดไม่ทันขาดคำ ลูกน้องหัวดำชุดดำก็ผายมือไปที่บันไดเร่งฉันทันที ก่อนที่คุณหญิงแม่จะยิ้มกริ่มและผายมือเชิญฉันด้วย ทุกคนดูรีบร้อนและรนมาก แค่ห้านาทีเองที่ลุงอัฐสั่ง แม่บ้านแม่ฉันก็ไปจุกอยู่ที่เดียวกันอลม่านของฉันถูกเก็บๆแพคๆเสื้อหมา ขนมหมาก็แพคใส่ไปด้วย จนฉันคนย้ายเองได้แต่ยืนงงกระพริบตาปริบๆ อุ้มมู่ทู่ที่กระดิกหางดิ้น ..จ้องจะลงไปฟัดกับคนเก็บขนมหมาของโปรดใส่กระเป๋า'หงิงงงง หงิงงงงง'"ไม่มีใครเอาไปไหนมู่ทู่ เดี๋ยวก็ได้กินเหมือนเดิม" "คุณหนูคะ ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ^^" ฉันหยุดลูบหัวหมาและมองแม่ทันที ดูสิแม่ดูมีความสุขมากที่ฉันกำลังจะไปจากบ้านหลังนี้เพราะท่านนั่งพับผ้าให้ฉันและยิ้มไปด้วย ไม่เหมือนคนเป็นแม่ที่กำลังถูกแยกลูกสาวออกจากอกเลย"ค่ะ แม่ก็ดูแลตัวเองดีๆ" แล้วแม่ก็ยิ้มอีก ยิ้มและหันไปมองหนุ่มๆชุดดำที่มาช่วยยกของออกไป"อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่นนะคะคุณหนู^^"แหม..สุภาษิตสอนใจแม่เนี่ย ทำชายชุดดำที่เข้ามาช่วยอมยิ้มกันทุกคน ซึ่งฉันไม่เข้าใจมากๆถึงมากที่สุด พวกเขาจะยิ้มกันทำไมนักหนา มันก็แค่สุภาษิตนี่น่า..ใครๆก็พูดกันทั้งนั้นหลังจากเก
"ขอโทษค่ะคุณอิฐที่รบกวน ไปกันเถอะค่ะคุณพิงค์" แล้วบอดิการ์ดคนงามก็รีบก้มลงพยุงฉันทันที ก่อนที่จะรีบจัดการมู่ทู่ที่พยายามแทรกตัวเข้าไปในห้องเขาแต่เวรกรรม! เจ้าของห้องดันใช้ปลายเท้าเขี่ยมู่ทู่เข้าไปในห้องก่อนที่มือพี่หลินจะคว้าได้!!!"หลินชะเอม จะไปทำอะไรก็ทำ! ปล่อยยัยนี่ไว้กับฉัน!""คะ?O_o""ห๊ะ!?=[]=""ฉันสั่งไม่ได้ยินรึไง!!!" พี่หลินพี่ชะเอมปล่อยแขนฉันและลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะลังเลมองลงไปข้างล่างสลับกับฉัน ที่กำลังก้มๆเงยๆมองผ่านหว่างขาและไรขนเปียกๆของเขาเข้าไปในห้องหาหมาตัวเอง"มู่ทู่ ออกมาลูก มู่ทู่~~""คุณพิงค์คะ..คือ" ฉันหันไปมองพี่หลินกับพี่ชะเอมทันทีเมื่อเธอทั้งสองเรียกเสียงสั่น แต่เมื่อเธออ้ำอึ้ง..ฉันฉันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ฉันรีบกวักมือชี้ไปในห้องคุณอิฐทันที หวังจะใช้พวกเธออุ้มหมาฉันออกมา "พี่หลินพี่ชะเอม รบกวนไปเอามู่ทู่ออกมาให้หน่อยค่ะ" เท่านั้นแหละบอดิการ์ดคนสวยก็มองหน้าเจ้าของห้องตกใจ แต่พอเจอสายตานิ่งๆที่เขามองใส่ พวกเธอก็ชะงักและก้มหน้าก้มตาลง"มะ..ไม่ได้ค่ะ ปล่อยไปก่อนนะคะ"ปล่อย?! จะบ้ารึไง! สองวันก่อนผู้ชายคนนี้ขู่ฆ่าแม่กับหมาฉันนะ! มู่ทู่นี่ก็ไม่หลาบจำซะเลย ว
"น้ำเปล่าคุณอิฐ ไม่มีเหรอ?!""อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน!!" ฉันเงียบเม้มปากสนิท จนได้ยินแต่เสียงไวน์ที่ติดตามผมตามหน้ามันหยดลงน้ำติ๋ง~ ติ๋ง".........""เธอมันผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอก คิดเหรอว่าได้มาเหยียบบ้านฉันและมีพ่อฉันคุ้มกะลาหัว เธอจะปลอดภัย?! คนอย่างฉันจะกำจัดเธอวิธีไหนก็ได้!!"ฉันเงียบทำตาละห้อย รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวและกลัวกับน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของเขาสายตาวันแรกที่เจอกันฉันว่ามันน่ากลัวแล้วนะ แต่วันนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าอีก เหมืิอนในหนังโรคจิตฆาตกรต่อเนื่องที่ฉันเคยดูเลย ถ้าถือมีดกับเลื่อยนี่เป๊ะมาก!"ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ คุณคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับคนแก่รุ่นพ่อรึไงคะ""แต่สุดท้ายก็แต่ง เหอะ!!ฉันไม่สนหรอกว่าเหตุผลเธอมันจะน้ำเน่าสกปรกแค่ไหน แต่ฉันจะไม่ยอมเห็นหน้าเธอในบ้านหลังนี้อีก!"การเจรจากับคุณอิฐมันยากกว่าที่คิดจริงๆว่าแต่พี่หลินกับพี่ชะเอมไปไหน ไปตามลุงอัฐใช่ไหม! โปรดเรียกลุงอัฐมาช่วยฉันด่วน!!"แล้วจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน จะเช่าบ้านหลังใหม่ให้ฉันอยู่เหรอ?""อย่าสำคัญตัว ผู้หญิงอย่างเธอควรไปนอนข้างถนน!!-_-"แรงอีกแล้ว!! คนบ้า คนผีทะเล ผีขนุน ไอ้บ้านเวอร์วังอลังการเนี
แล้วคุณอิฐ..ก็ไม่ได้ลงมาร่วมโต๊ะจริงๆ ไม่พอนะหลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีก เวลาเราสลับกันมากฉันไม่รู้ว่าคุณอิฐเขาอยู่บ้านรึป่าวด้วยซ้ำ เพราะเอาหูไปแนบฟังที่ผนัง ห้องเขาก็เงียบกริบไม่มีเสียงอะไรดังก๊อกๆแก๊กๆเลยหรือว่า...เขาจะโกรธพ่อจนหนีออกจากบ้านไปแล้วมหาวิทยาลัย xxx"อะไรนะ ฉันไปเที่ยวเวียดนามไม่กี่วัน แกเข้าไปอยู่บ้านมาเฟียนั่นแล้วเหรอ!!?!!O_o" พู่กันพูดจบก็อ้าปากค้าง มองฉันที่กำลังเอามือท้างคางทำหน้าซังกะตาย"หมดหนทางอ่ะแก แม่ฉันไม่ยอมหนีตามแผน แถมยังให้ฉันแต่งงาน บอกว่าอะไรๆจะได้ง่ายขึ้น""อะไรที่ง่าย ที่ง่ายคืออะไร? ทำไมแกไม่โทรบอกฉันเลย หายเงียบไปตั้งหลายวันอยู่ๆมาบอกแบบนี้ ฉันตกใจนะ"ฉันลอบถอนหายใจเสียงดัง และเงยขึ้นมองหน้าพู่กันจริงจัง"ก็หนีง่าย..มีลุงอัฐปกป้องฉันไง เรื่องบอกโทษทีนะแก พอดีฉันเครียดมาก..ถ้าบอกเดี๋ยวแกเที่ยวไม่สนุก" "เฮ้ออออ..."ฉันพูดจบพู่กันก็ถอนหายใจยาวๆ และเบือนหน้าหนี จนฉันรีบขยับไปใกล้ๆทันทีแล้วกุมมือเธอไว้"แกๆไม่ต้องเป็นห่วง ฉันมีบอดิการ์ดด้วยนะ วันนี้พี่ๆเขาก็มาส่งฉัน ไว้เลิกคลาสฉันจะแนะนำให้รู้จัก^^""ก็ดีที่มีบอดิการ์ด แต่เรื่องอื่นโอเคใช่มั
"พูดบ้าอะไร! อย่าให้มันมากนักนะ!!"ฉันไม่สนใจคุณอิฐ หันไปยักคิ้วให้ฟักแฟงที่อึ้งรับประทานแทน "ไง อึ้งเหรอ? อึ้งไปเลย อยากมาอวด..แต่สิ่งที่อวด...มันเป็นของฉัน^^""ของเธอ?! นี่คุณอิฐกับพิงค์สนิทกันขนาดไหนคะ? ทำไมพิงค์พูดแบบนี้"คุณอิฐยังเงียบ..และกัดฟันจ้องฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ซึ่งฉันมองแค่หางตาก็รู้ว่าเขากำลังเดือดปุดๆจนเส้นตามขมับปูดขึ้นมาสองข้างแต่..ทำอะไรฉันไม่ได้ เพราะสาวที่เขาควงมาอยู่ตรงนี้ เพื่อนฉันอยู่ตรงนี้ นักศึกษาที่รอเรียนก็อยู่ตรงนี้! ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา..ที่เป็นคนกลาง"สนิทแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า..อยู่บ้านเดียวกัน^^" ฉันตอบไปตามตรง จนฟักแฟงอ้าปากค้าง"=[]=อะไรนะ?! เป็นไปได้ไง!ลูกคนใช้ไม่มีเกียรติแบบเธอเนี่ยนะ..จะไปอยู่บ้านคุณอิฐ! ไปขายตัวเหรอ? หรือแม่ไปเป็นคนใช้ที่นั่น!"แน่นอนคำพูดฟักแฟงทำพู่กันตบโต๊ะลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะรีบหันมาจับมือฉันที่กำหมัดแน่น"เฮ้ย!ฟักแฟง พูดจาเกินไปป่ะ แค่พิงค์อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ชายที่เธอควงมา ทำไมต้องด่าถึงแม่!""ทำไมล่ะ! ก็มันจริง ก่อนหน้านี้เธอก็โดนยัยพิงค์หลอกเหมือนฉัน ว่าเป็นลูกเอกอัครราชทูต! ทำไมยังโง่คบกับมันอีก ไ
หยาบคาย หยาบคายที่สุด!"เล็กแต่คุณภาพนะ!" ฉันเงยขึ้นเถียง จนคุณอิฐเขาถอนหายใจเฮือกแล้วเก็บปืนลง ก่อนเขาจะเปลี่ยนมือมายกถุงกระดาษชาแนลขึ้นและ...บังให้ฉันo_O"ใส่สิวะ!""อ้าวไม่ดูก่อนเหรอ? ใหญ่นะ-//-" ฉันแกล้งแซว เมื่อเห็นพ่อหนุ่มผู้เกรี้ยวกราดเขาเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง และขณะที่เขาเมินไม่สนใจนั้น ฉันก็รีบติดกระดุมเสื้อทันที ก่อนที่จะดึงถุงชาแนลในมือเขากลับมา"เอามานี่ มันแพงมากเลยนะ..ทำไมต้องซื้อให้ฟักแฟงด้วย!""เธอยุ่งอะไร?! ที่พูดที่มหาลัยเธอเอาความมั่นใจมาจากไหนวะ?!""ก็ฉันจะยุ่ง เพราะคุณทำให้ฉันอารมณ์เสีย ฉันไม่ชอบฟักแฟง หล่อนนิสัยไม่ดีอ่ะ ถ้าจะหาลูกสะใภ้ให้ฉัน ขอคนดีๆกว่านี้ได้ป่ะ !>[][]โถ่เว้ย! เลิกพูดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงฉันสักทียัยบ้า!" ฉันสะดุ้งตกใจก่อนจะรูดซิบปาก
"แก ฉันว่ายังๆก็ไม่มีทางติด เขาไม่มีทางเห็นใจฉันแน่นอน วันนี้กลับมาถึงบ้านก็โยนฉันลงสระ! และด่าฉันต่างๆนาๆ"(ถ้าจีบไม่ติดจริงๆ อย่างน้อยๆ..แกก็ทำให้เขารู้สึกกับแกดีขึ้นก็พอ)วางสายไปคำพูดสุดท้ายของพู่กันก็ดังก้องในหัวฉันไม่หยุด มันยากไม่ต่างกันและมันก็คงจะยากกว่านี้มาก เพราะตอนนี้ฉันได้ยินเสียงคุณอิฐ..เขากำลังเถียงกับพ่อตัวเอง!!"เหอะ พ่อบ้าไปแล้วเหรอวะ?! เอาผู้หญิงหิวเงินมานั่งรอนอนรอพ่อตาย และได้สมบัติง่ายๆ พ่อเอาอะไรคิด!!""พูดอะไร รักษาน้ำใจหนูพิงค์ด้วยนะตาอิฐ!! แกทำกับน้องเกินไป ถ้าน้องว่ายน้ำไม่เป็น และหัวกระแทกพื้นขึ้นมาล่ะ!""รักษาทำไม!..ผู้หญิงไร้ยางอาย! พ่ออย่าเผลอนะ ผมจะเอาปืนกรอกปากยัยนั่น..และฝังศพลึกๆไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน จำไว้นะไม่มีใครแทนแม่ผมได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะยัยเด็กเมื่อวานซืนที่พ่อพาเข้ามา!!""อิฐ!" ลุงอัฐตะคอกเสียงดังลั่น จนลูกน้องที่ขนาบข้างก้มหน้าลงพร้อมกัน"ผมขอพูดต่อหน้าพ่อเลยนะ ว่าผู้หญิงคนนั้นของพ่อ จะไม่มีวันสงบสุข ถ้ายังคิดมาแทนแม่ผมอยู่!" เมื่อได้ยินคำขู่..ฉันก็เดินไปช้าๆไปเกาะเสาต้นใหญ่มองคุณอิฐ ที่ตอนนี้เขากำลังยืนกรานเถียงกับพ่อตัวเองที่โซฟา เขาคง
"เฮ้ย! พวกมึงโทรหาช่างกระจกสิวะ!"เฮ้อออออ!..เป็นแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยครั้งที่บ้านเรากระจกพัง คุณอิฐเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆของเขา คือใช้ลูกน้องเรียกช่าง! เขาไม่เคยห้ามลีอองเรื่องเล่นปืนเลยสักครั้ง จนนานเข้าๆลูกชายตัวแสบสอยแจกันบ้างล่ะ สอยถ้วยน้ำชาพ่ออัฐแตกบ้างล่ะแต่ก็เป็นเช่นเดิม..คือคุณอิฐไม่ดุลีอองเลย ต่อให้ของที่พังมันจะมูลค่ามหาศาลและแตกไปต่อหน้าต่อตาเขาก็ตาม เขาก็จะเพิกเฉย! ซึ่งแตกต่างจากลิลินมากเลย..รายนั้นถูกดุแทบทุกเรื่องปกติพ่อต้องสปอยลูกสาวไม่ก็ตามใจมากๆใช่มั้ย แต่บ้านนี้ไม่!!...คุณอิฐเขาไม่เคยใจดีกับลิลินเลย มันต่างจากลีอองลิบลับโดยเฉพาะเรื่องติณห์ที่ฉันหว่านล้อมทุกวัน ลูกสาวเราแปดขวบและติณห์ก็โตมาหล่อนิสัยดีมาก! คุณอิฐเขาก็ยังไม่ยอมให้ลูกไปสนิทกับติณห์ แถมยังดุทุกครั้งที่ลิลินพูดถึงนี่ขนาดเป็นลูกชายเพื่อนสนิทซีอีโอสายการบินเวลฟายนะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นตาสีตาสาล่ะ?...หึ! ฉันว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตลูกสาวเขาหรอกจนหลังจากที่ถูกห้าม ลิลินก็ตึงตังกลับขึ้นไปบนบ้าน และเดินลงมาพร้อมกระเป๋าเป้หนึงใบ...ไปหยุดที่พี่ชะเอม"ป้าเอมคะ ไปส่งลินที่บ้านพี่ติณห
ทั้งโรงพยาบาลเวลานี้ตีสองย่างตีสาม คงจะมีแค่ฉันคนเดียวสินะทีี่แหกปากโวยวาย และใช่ลูกน้องคุณอิฐก็เดินนำแหวกทางให้ เพื่อจะได้เคลียร์ทางส่งฉันให้ถึงห้องคลอดเร็วที่สุดจะว่าเวอร์วังก็ว่าไปเถอะฉันไม่เถียง เพราะเสียงรองเท้าตึกๆที่วิ่งตามเป็นขบวนตอนนี้มันมีความหมายกับฉันเหลือเกิน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคลอดทายาทของตระกูลมาเฟียหรือหัวหน้าใหญ่ของพวกเขายังไงอย่างงั้น!เพราะทุกคนเดินไปมองทางไปเคร่งเครียดมาก และหนำซ้ำไม่พอ..ยังกางแขนกั้นคนอื่นไม่ให้มองมาที่ฉันอีกมันเป็นธรรมเนียมต้อนรับผู้สืบทอดตำแหน่งเหรอ?! ทำไมแห่กันมาทั้งบ้านและเวอร์กันขนาดนี้! ฉันรู้สึกว่าตัวเองสำคัญก็จริง แต่ใจฉันก็กลัวว่าตัวเองจะรบกวนคนไข้คนอื่นด้วย"คุณพิงค์ถึงห้องคลอดแล้วครับนาย!"เมื่อถึงประตูห้องคลอด..ลูกน้องฝั่งซ้ายก็โทรรายงานคุณอิฐทันที ที่ตอนนี้เขาไปเคลียร์งานที่บ่อนตั้งแต่เย็นและยังไม่กลับซึ่งฉันที่ปวดท้องยิ่งได้ยินและยิ่งโมโหมาก เขารู้ทั้งรู้ว่าฉันใกล้คลอดนะ! แต่ทำไมไม่มาดูแลฉันด้วยตัวเอง จะส่งลูกน้องมาเป็นขบวนแบบนี้ทำไม! เขาเป็นพ่อลูกสองแล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?!แต่ดีนะที่พี่หลินพี่ชะเอมช่วยดูลิลินให้ ไม่อย่า
รู้ไหมว่าการหลอกสามีมันยากกว่าลอกข้อสอบไฟนอลอีก ฉันกลัวคุณอิฐเขาเตะตัดขาเรื่องติณห์มาก ยิ่งได้ยินเขาห้ามลิลินเรื่องบอกรักแบบนั้นฉันยิ่งกลัวอะไรก็ไม่รู้ก็แค่เด็กบอกรักกัน ทำไมเขาต้องห้ามลูกจริงจังเบอร์นั้นด้วย!!!"ลิลิน หลังจากนี้หนูไม่ต้องคุยเรื่องพี่ติณห์กับปาป๊านะลูก เพราะปาป๊าอาจจะห้ามหนูไม่ให้เจอพี่ติณห์อีก ""ค่ะ ได้เยยๆ" ลิลินรับคำทันทีซึ่งมันดีมาก และแบบนี้ล่ะเข้าแผนการ เชื่อแม่แล้วจะได้ดีทุกคน!หลังจากวันนั้นที่ฉันกำชับลูก ฉันก็คอยหลบหลีกคุณอิฐพาลิลินไปเที่ยวเล่นบ้านพี่เต้บ่อยๆ แถมอ้างกับหมอน้ำแข็งว่าลิลินแค่อยากมาหาอันติงเท่านั้น ไม่ก็เราขับรถผ่านๆเลยแวะมาทักทายซึ่งหมอน้ำแข็งก็ไม่ว่าอะไร จนระหว่างที่ทิ้งลูกให้เล่นกับตุ๊กตาในกรงใหญ่ๆ เราสองคนก็มีเวลาคุยกันมากขึ้น "ลิลินไหวพริบดีนะคะ คิดไว้รึยังว่าจะให้เธอเรียนอะไร?"เอ่อ...ลูกเพิ่งสองขวบกว่าๆฉันต้องคิดเรื่องเรียนให้ลูกแล้วจริงดิไม่ทันตั้งตัวเลยนะเนี่ย เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ฉันเพิ่งเรียนจบเอง-_-"ยังเลยค่ะ คงต้องรอดูไปก่อน^^""อืม งั้นตอนนี้ก็สังเกตลิลินเลยนะคะ สังเกตว่าชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นค่อยหาอุปกรณ์ข
"รูดกันเป็นว่าเล่นเลยเว้ย-_-""อะไรวะ? " ผมขมวดคิ้วถามไอ้เต้ เมื่อมันหยิบโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจากเสื้อสูทตัวเองออกมา ก่อนที่มันจะส่ายหน้า แล้วเปิดข้อความเลื่อนผ่านๆให้ผมกับไอ้พีมดู"เมียกูถึงห้างไม่ถึงสิบนาทีรูดไปแล้วหกแสน" "อย่างมึง ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกกูรู้^^" จริงของไอ้พีม อย่างไอ้เต้หกสิบล้านยังจ่ายได้สบายๆแค่หกแสนมันจะบ่นอะไรนักหนาวะ"มึงให้เมียไปแล้ว อย่าบ่นสิวะ" ผมบอก..ก่อนจะจิบไวน์ขวดละล้านของมันพอหอมปากหอมคอ"ถ้าเมียรูดซื้อของตัวเองกูไม่บ่นเลย แต่นี่ของติณห์ทั้งนั้น! มันเกินเด็กไปว่ะ ""เดี๋ยวโตขึ้นก็บริหารสายการบินต่อ มึงก็ไปพักผ่อนไงวะ แล้วนี่อันติงไปไหนล่ะ?ทำไมไม่ไปช็อปกับแม่^^"ไอ้พีมถาม เพราะปกติไอ้เต้จะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวคนเล็กในห้องทำงานนี้"แม่กูพาไปสวนสัตว์ ตอนแรกก็วางแผนจะพาไปทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ลูกชายกูไม่ยอม..บอกว่าเหม็นและสกปรก กูเลี้ยงลูกผิดรึป่าววะเนี่ย!-_- "ผมกับไอ้พีมมองหน้ากันทันที เมื่อไอ้เต้มันบ่นและถอนหายใจอย่างหัวเสีย เพราะนานทีผมจะเห็นมันโหมดนี้ จนไอ้พีมมันพูดขึ้นมาว่า"ลูกมึงเกิดมาเป็นคุณชาย และเป็นหลานชายคนแรกของสองตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับ มึงจะก
เอายังไงดี เพราะเสียงคุณสามีระดับไม่คงที่เลย เขาคงเต้นอยู่แน่ๆ หรือไม่ก็...อุ้มลิลินเต้นด้วย!!เพราะเมื่อกี้ฉันได้ยินกับหูตัวเอง รู้สึกว่าเขาจะถามลูกเรื่องเต้นมั้ยอะไรสักอย่าง?! มันต้องใช่แน่ๆเลย'อาบน้ำๆ อาบน้ำๆ กันเถอะ~อาบน้ำแล้วสบายตัว~ 'แหม..อินโทรก็มา ถ้าแรปด้วยนี่ฮาเลยนะ แต่น่ารักดี.. ฉันชอบคุณอิฐโหมดนี้จังและฉันไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเลยด้วยซ้ำ อยากให้เขาเล่นกับลูกบ่อยๆร้องเพลงให้ฟังเรื่อยๆแบบนี้ ถึงเขาต้องแอบทำในที่ลับตาคนก็เถอะและลิลินต้องเข้าใจนะลูก ปาป๊าของลูกเป็นมาเฟีย! เขาต้องคีพลุค! ส่วนหนูก็ยอมๆหรือไม่ก็ทนปาป๊าเขาร้องเพลงไปก่อน โตแล้วค่อยไปฟังพี่ติณห์ร้องแทนคำก็ติณห์สองคำก็ติณห์ ไอ้แผนจับติณห์ใส่กระด้งมันไม่เคยหลุดออกจากหัวฉันเลย ที่ผ่านมาฉันเลี้ยงลูกทะนุถนอมสุดๆ ทั้งทาครีมถนอมผิวทั้งทำสปาเด็ก เพราะมีเรื่องนึงอยู่ในหัวตลอดเวลาใช่ค่ะ..ลิลินต้องสวย ต้องเก่ง ต้องเป็นที่หมายตาของติณห์ และโตไปเธอต้องเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคจนติณห์ต้องตามจีบ หรือไม่พี่เต้กับหมอน้ำแข็งต้องเห็นดีเห็นงามจับหมั้นหมายกันไว้แต่เนิ่นๆโอ้ยถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตลูกสาวฉันคงจะดีมาก แต่ทั้งหมดที่ฉันคิดแล
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ฉันคุยกับวิสัญญีแพทย์ไม่กี่คำก็เผลอหลับไปก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ที่แสนสดใส และเห็นเพื่อนสนิทพ่อๆพี่ๆบอดิการ์ดของฉันยืนเต็มห้องไปหมด"น่ารักที่สุดเลยลิลินของอา""ไหนขอปู่อุ้มหน่อย""ดีๆนะพ่อ พ่อมือหนัก" เมื่อตื่นและปรับสายตาเข้ากับแสงจ้าๆในห้อง ฉันก็เห็นพ่อสามีกำลังอุ้มหลานอยู่จนฉันต้องหันไปมองหน้าสามีทันทีเพราะตอนนี้เขานั่งข้างๆเตียงและกำลังทำหน้าแปลกๆ เหมือนคน..กำลังจะร้องไห้"มึงมองๆหลาน แล้วหน้าเหมือนใครไอัรัฐ" พ่ออัฐถามยิ้มๆ ก่อนที่จะหันมามองที่คุณอิฐแวบนึง จนฉันต้องรีบทำตาปรือ เพื่อแอบดูปฏิกิริยาของเขาฉันอยากให้คุณอิฐเขาเลิกอคติกับพ่อเขาได้แล้ว พ่อลูกกัน..ยังไงๆก็ตัดกันไม่ขาด ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูมาก็ตามแต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังอยู่"เหมือนกู""เหมือนกูต่างหาก" พ่ออัฐเถียงและเดินเข้าไปมองหน้าลิลินข้างๆลุงรัฐจนพู่กันพูดขึ้นมาว่า.."เหมือนพู่กันค่ะ น่ารักจิ้มลิ้มเหมือนพู่กันที่สุด^^""ถ้าน่ารักจิ้มลิ้มคงเหมือนพิงค์ ไม่เหมือนเธอหรอก""เอ๊ะ พี่อิฐ!>[]เถียงกันจนได้ ขนาดลิลินหลับอยู่ก็ไม่สนใจ แต่เมื่อพ่ออัฐท่านหันมาเห็นฉันลืมตาขึ้นเท่านั้นแหละ ท่านก
"แกจะวางได้ยัง ฉันเมื่อยขาหมดแล้วนะ" ฉันบ่นกับพู่กันอุบอิบ ขณะที่ตัวเองเก็บเสื้อผ้าเด็กสีชมพูไว้ในชั้นเหมือนเดิม ค่ะ..เรามีลูกสาว อะไรๆก็ต้องสีชมพูน่ารักมุ้งมิ้ง และเวลาเลือกก็รู้สึกเพลินจริงๆเหมือนเรามีตุ๊กตาตัวจิ๋วให้จับแต่งตัว~~"โอเคๆวางก็ได้ แค่นี้ก่อนนะคะคุณพี่พีม มนุษย์แม่แถวนี้โวยวายแล้ว"และแล้วฉันก็สบายหู เมื่อพู่กันกดวางสายแล้วหันมาเลือกเซ็ทผ้าอ้อมชุดเด็กกับฉัน แต่ไม่ว่าฉันจะหยิบจับอะไร เจ้าลิลินตัวน้อยก็ดิ้นมาก..ราวกับเธอกำลังเลือกช็อปปิ้งไปพร้อมๆกับฉันเลยซึ่งฉันไม่ได้มโนนะ..ฉันสังเกตมาสักพักแล้ว เมื่อไหร่ที่ฉันหยิบชุดเรียบๆลูกจะเงียบกริบไม่ถีบ แต่เมื่อฉันหยิบชุดเวอร์วังมีลูกเล่นมีเพชรวิ้งๆของเด็กโต เจ้าลูกสาวช่างเลือก..ก็จัดเต็มถีบท้องฉันรัวๆราวกับอยากได้!ซึ่งฉันก็ซื้อมันแทบจะทุกตัวที่จับนั่นแหละ ไม่สนหรอกว่าลูกจะมีปฏิกิริยายังไง เพราะแรกเกิดลิลินเธอก็ต้องใส่ชุดถนอมผิวผ้าบางๆเรียบๆอยู่แล้ว เอาไว้โตค่อยว่ากันอีกที จะแคทวอคเดินพรมแดงก็เต็มที่..แม่ไม่ห้าม"โอ้ยเยอะมากเลย! ลูกคนรวยก็แบบนี้แหละเนอะ!^[]^""เฮ้อ..นี่ส่วนน้อยนะ มีให้ส่งไปที่บ้านด้วย""แล้วเรื่องรถเข็น เตียงเด
'ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ'"ได้ยินมั้ยพวกมึง?!""ได้ยินครับ!!!"ลูกน้องทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องโถง ตอบกลับมาเสียงดังจนเสียงก้องไปทั้งบ้าน ขณะที่ฉันนอนที่โซฟาด้วยอารมณ์เซ็งสุดพลัง เพราะสามีพยายามจับเสียงหัวใจลูกไม่หยุด อืม..ฉันเบื่อความเวอร์วังอลังการที่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ ถ้ามีอะไรอัพเดทหรือลูกขยับนิดนึง คุณาอิฐเขาก็เอามาบอกทุกคน..และเล่าวนซ้ำๆอยู่นั่นแหละ!เช่น..."วันนี้ลูกกูดิ้นด้วยว่ะ แม่งโคตรเก่ง" "ยินดีด้วยครับนาย^^""แล้วมึงเมื่อไหร่จะมีล่ะไอ้ชาย มึงรู้มั้ย..ว่าความรู้สึกเวลาพาเมียไปอัลตราซาวด์มันดีมาก ยิ่งจังหวะที่ได้ยินเสียงหัวใจและลูกขยับนะ แม่งโคตรดี"แหม..โม้เก่ง กว่าจะติดก็เป็นปีนะ "นายวางแผนจะมีกี่คนครับ เผื่อคนที่สองสามสี่จะได้เป็นเพื่อนกัน^^""ห้าหกคนว่ะ ให้รับผิดชอบบ่อน ผับ เก็บดอก และธุรกิจของแม่เขา น่าจะลงตัวพอดี"พูดจบคุณปาป๊าก็รินวิสกี้ใส่แก้วแล้วยกดื่มพรวดต่อหน้าต่อตาฉัน แต่เอาเถอะกินเลยเอาให้เต็มที่..เพราะเรื่องเหล้าฉันไม่ห้ามอยู่แล้วแต่เรื่องบุหรี่ฉันขอเพราะฉันไม่ชอบกลิ่น และมันก็ไม่ดีกับลูกในท้องมากๆฉันจึงปล่อยให้คุณอิฐเขาดื่มและโม้ไปแบบนั้น ก่อนจะหยิบนิตยสารจิวเวอรี
ตั้งแต่เกิดมา..การอ้วกครั้งนี้เป็นครั้งที่ฉันอยากตายมากที่สุด ฉันทรมานมากๆยิ่งเจอน้ำค้างช่วงเวลาตีสามกับการพักผ่อนน้อยนิดที่สะสม จากที่แค่พะอืดพะอมฉัน...ฉันเริ่มหน้ามืดแล้ว!!"ตัว..เค้าไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม ตัว...""หยุดอ้วกแล้วไปขึ้นรถ พิงค์! เฮ้ยๆ !"ใช่ หูสองข้างอื้อและตาก็เริ่มปิด วูบเดียวจริงๆที่ฉันหันกลับไปมองสามี..ฉันก็หมดแรงฟุบลงไปในพุ่มไม้จากนั้นภาพความฝันก็เลือนลางเข้ามาในหัวฉัน..จนเห็นมีดดาบซามูไร กับลายสลักตัวอักษรคันจิที่ปลายดาบ...ที่มันตามหลอกหลอนมาตลอดใช่ ฉันกำลังยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบเหมือนเคยๆ และในฝันก็ไม่รู้เลยว่ามันยุคไหน?ใครเป็นใคร? แต่ครั้งนี้...ไม่เหมือนครั้งก่อน...ฉันไม่ได้ถูกแทง...และฉันก็เห็นคนถือดาบนั้นชัดเจนมากเพราะตอนนี้ชายร่างใหญ่เดินถือดาบเล่มนั้นก้าวดุ่มๆมาหาฉัน เขาขมวดคิ้วไล่สายตาที่ดุดัน..มองร่างเล็กของฉันที่ยืนน้ำตานองหน้า ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ ฉันกลัวว่าตัวเองจะถูกแทงเหมือนครั้งก่อน.. แต่เมื่อเห็นเขาหยุดลดปลายดาบลง..ฉันก็กู่เข้าไปร้องขอ ด้วยการยกมือไหว้มือสั่นๆน้ำตาคลอเต็มสองตา'ชะช่วยด้วย..ช่วยด้วย ฉันยังไม่อยากตาย อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ''ตายเห