“อะไรของพวกเอ็งวะ อยู่ที่นี่อย่างน้อยๆ พวกเอ็งก็มีที่ซุกหัวนอนนะเว้ย ข้ากับคุณหนูไปยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่อย่างไร อดทนเอาหน่อยเถอะวะ อย่าออกไปลำบากกันเลย งานก็ใช่จะหาได้ง่ายๆ ที่ข้าออกไปก็เพราะข้าเองก็พอมีเงินเก่าเงินเก็บ และที่ผืนเล็กๆ พอได้ทำกิน นี่ข้าก็กะว่าจะสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับคุณหนูก่อน”
“โธ่ป้า อดทงอดทนอะไรกันพวกฉันก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินเดือนที่จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง แถมไม่ตรงเวลาอีกต่างหากแบบนี้นะ อย่างน้อยฉันไปเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ได้”
“นั่นสิ ฉันก็จะไปเป็นยาม”
“ทุกคนอย่าลำบากเพราะน้องมดเลยนะคะ แค่นี้น้องมดก็ซาบซึ้งแล้วล่ะค่ะ”
ในที่สุดรติมาก็เอ่ยออกมาอย่างตื้นตัน น้ำตาใสๆ เอ่อล้นขอบตาด้วยความซาบซึ้งใจต่อความรักภักดีที่พวกเขามีให้เธอ
“แต่พวกเราเต็มใจจะไปกับคุณหนูนะคะ” พวกพี่ๆ ยังคงยืนกรานเช่นเดิมรติมาจึงหันไปมองแม่จิตเหมือนขอความคิดเห็น...
“อะไรนะคะคุณแม่ ฝ่ายนั้นเขาจะให้เรารับผิดชอบด้วยการให้รตาไปเป็นขี้ข้าดูแลคนป่วยตาบอดเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก จะหล่อแค่ไหนแต่พิการ รตาก็ไม่สนหรอกนะ”
“แต่มันเป็นทางเดียวที่เราจะไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลนะลูก แค่ที่เขาปิดข่าว และให้ทนายมาเดินเรื่องคดีความเงียบๆ แบบนี้ก็ดีแล้ว เราเองก็ไม่ได้เสียเงินเสียทองให้เขาสักบาท แค่แลกกับการไปดูแลเขา”
มารดาพยายามเกลี้ยกล่อมบุตรสาวคนสวยในชุดรัดรึงเน้นสัดส่วนสีเพลิงนั้นอย่างคาดหวังว่า พริมรตาผู้เป็นบุตรสาวจะยินยอม ด้วยใจหนึ่งนั้นนางกลัวการเสียเงินเสียทองให้คู่กรณี ที่พริมรตาเมาแล้วขับรถไปชนกับรถชาคริต ประติมาไพบูลย์ ทายาทตระกูลดังผู้ร่ำรวยมีกิจการมากมาย
แม้ชาคริตจะเป็นชายรูปงามเนื้อหอมเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในแวดวงไฮโซ หากเขาไม่ตาบอดนางเองก็คาดหวังจะเกี่ยวดองด้วยอยู่หรอก แต่มีลูกเขยตาบอดซ้ำยังอารมณ์ร้ายกาจอย่างนั้น นางก็ไม่อยากจะให้บุตรสาวที่รักไปรองรับอารมณ์แน่ๆ ที่นางรู้ว่าเขาร้ายกาจนั่นก็เพราะ ข่าววงในที่บรรดาคุณหญิงคุณนายต่างพากันพูดถึงชายหนุ่มกันอย่างสนุกปาก ซ้ำยังมีข่าวว่าคู่หมั้นที่รักกันมานานกว่าสี่ปีนั้นทิ้งชายหนุ่มไปอย่างไม่แยแสอีกด้วย แต่ข้อเสนออีกข้อของชาคริตต่างหากที่นางสนใจ เงินจำนวนสิบล้านและการไถ่ถอนบ้านอรุณวลัยจากธนาคารที่นางเอาไปจำนอง เพียงแค่ให้รติมาไปดูแลเขาเท่านั้น
“คุณแม่ก็พยายามหาทางสิคะ หากทำไม่ได้ก็ปล่อยให้รตาติดคุกซะดีกว่าให้ไปเป็นขี้ข้าใคร”
“โถๆ ลูกแม่อย่างเพิ่งอารมณ์เสียสิคะลูกขา เดี๋ยวแม่จะพยายามคิดหาทางให้นะคะ”
คุณพริ้งหลบตาบุตรสาวเมื่อคิดหาทางให้ลูกสาวตกลง นางพยายามเอาใจบุตรสาวคนสวยอย่างเต็มที่ บุตรสาวที่นางแสนภาคภูมิใจว่าสวยสดงดงาม บุตรสาวที่นางเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม
“วันนี้รตาขอเงินสักห้าหมื่นนะคะคุณแม่ ตอนเย็นรตาจะไปพัทยากับเพื่อนๆ คนมีปาร์ตี้ที่บ้านพักของ วินนี่ แม่คงรู้จักนะคะเพื่อนของรตาคนที่รตาเคยเล่าให้ฟังว่า เป็นลูกสาวคุณหญิงวิไลวัลย์ ภริยาอดีตท่านรองนายกฯ น่ะค่ะ”
“เอ่อ ห้าหมื่นเลยเหรอลูก”
“แค่ห้าหมื่นนะคะคุณแม่ไม่ใช่ห้าแสน คนอื่นๆ เขาพกเงินไปทีละเป็นแสนๆ มีรตานี่ล่ะพกเงินหมื่น รตาอายนะคะจะไปงานวันเกิดลูกสาวอดีตนายกฯ ทั้งทีของขวัญวันเกิดแสนจะถูกราคาแค่ไม่กี่หมื่น”
พริมรตาเอ่ยประชดมารดา แต่ในใจก็คาดหวังว่ามารดาจะต้องให้เงินเธอมากกว่าที่ขออยู่แล้ว
“เอ่อลูกรักจ๊ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนหนูก็เอาไปแล้วห้าหมื่นนะจ๊ะ”
“แต่นั่นมันคนละงานนะคะคุณแม่ งานนี้ลูกหลานไฮโซเขามากันทั่วประเทศ หากรตาไปร่วมงานก็ต้องได้พบแต่คนรวยๆ ยิ่งเพื่อนสมัยที่เรียนอยู่เมืองนอกอีกล่ะคะ พวกนั้นน่ะผู้ดีเก่ากันทั้งนั้น ยิ่งเพื่อนๆ ที่อยู่ฝรั่งเศสน่ะมีแต่คนรวยๆ หากรตาเข้ากลุ่มกับพวกเขาไม่ได้ นั่นก็เพราะคุณแม่นะคะ”
“จ้ะๆ ลูก เอ่อแล้วนี่แต่งตัวจะไปไหนคะลูก”
“รตาว่าจะไปสปาก่อนน่ะค่ะ ขอเงินหน่อยสิคะ งั้นเอาแค่สองหมื่นก่อนก็ได้ค่ะ รตากะว่าจะใช้แค่นี้เพราะช่วงนี้ รตาเซ็งๆ ยังไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษ”
เธอกล่าวเหมือนว่าการใช้เงินวันละหมื่นสองหมื่นนั้นเป็นเรื่องปรกติ และมันก็เล็กน้อยหากเทียบกับที่ผ่านๆ มาซึ่งเธอใช้เงินราวกับน้ำ ในความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นคือ มารดาของเธอนั้นร่ำรวยมหาศาลและเธอก็ได้ในสิ่งที่ปรารถนาเสมอ ทุกๆ อย่างไม่เคยที่พริมรตาจะไม่ได้...
“โธ่เอ้ย.. จะทำอย่างไรดีนะ เงินตั้งสิบล้านแถมยังได้บ้านคืนจากธนาคารด้วย..”
หลังจากที่ให้เงินลูกสาวไปแล้วคุณพริ้งนั่งคิดอย่างหนักอกหนักใจ เงินก็อยากได้ บ้านก็อยากได้ แต่ต้องให้ลูกสาวไปเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนตาบอด...นางจะทำอย่างไรดีที่จะได้ทั้งบ้านและเงินโดยที่ไม่ต้องให้พริมรตาไปลำบาก...
ร่างบอบบางกอดกระเป๋าเดินทางกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสำคัญชิ้นเดียวที่มีติดตัวไว้แน่น ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ กายอย่างหวั่นวิตก มือบางเย็นเฉียบในใจก็หวิวๆ ราวจะเป็นลม
“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณหนู แม่จิตจะอยู่เคียงข้างคุณหนูเสมอ”
“คุณหนูน้องมดเข้าไปพบคุณท่านได้แล้วครับ ส่วนแม่จิต รออยู่ตรงนี้”
คุณประเสริฐกล่าวอย่างเอ็นดู เขามองใบหน้านวลใสนั้นอย่างเวทนา เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องของเธอจากแม่จิตและพอรู้กิตติศัพท์ของคุณพริ้งมาบ้าง และยังวิตกแทนรติมาที่จะต้องมาพบเจอกับชาคริต ผู้ซึ่งบัดนี้อารมณ์ไม่ค่อยปรกตินัก
“ขอบคุณค่ะคุณลุงทนาย”
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเบาๆ พลางวางกระเป๋าใบโตที่เธอใช้ยึดเป็นเกราะสร้างความมั่นใจมาตลอดเวลาที่เดินทางจากบ้านของตนมายังบ้านหลังใหญ่โตงดงามหลังนี้ บ้านประติมาไพบูลย์
ตอนที่ 4.มือบางสั่นน้อยๆ ขณะผลักประตูไม้สักสลักลายสวยหรู หากแต่หลังประตูบานนี้กลับไม่มีสิ่งงดงามใดๆ ให้เธอได้ยลแม้แต่นิดเดียว มีเพียงภาพเงาของชายรูปร่างสูงใหญ่ซึ่งนั่งหันหลังให้เธอ รติมามองเงาของชายคนนั้น พลางกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผากขึ้นมาทัน รัศมีรังสีความร้ายกาจปกคลุมไปทั่วทั้งห้องกว้าง ที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นทว่าเรียบหรูศีรษะทุยได้รูปนั้นตั้งตรง ไหล่กว้างตั้งขนานกับพื้นเป็นราวไม้บรรทัด และเขาไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจผู้เข้ามาใหม่เลยสักนิด และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่รติมารู้สึกว่ายืนนานจนรู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งเรียวขา หญิงสาวแอบถอนใจเบาๆ พยายามรวบรวมกำลังเพื่อจะเอื้อนเอ่ยให้เขารู้ว่าเธอได้เข้ามาในห้องนี้นานแล้วเขาอาจจะไม่รู้ว่าเธอเข้ามาเพราะเขาตาบอด แต่ เอ๊ะ เขาก็ไม่ได้หูหนวกนี่นา สองเสียงเล็กๆ แย้งกันในหัว“เอ่อ คุณ ชาคริตคะ คือ ดิฉัน...” รติมาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะไม่ให้สั่นและบังคับให้มันเรียบที่สุด ทำไมเธอถึงรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออกราวกับว่าในห้องนี้มันไม่มีออกซิเจนให้หายใจ หญิงสาวคิด..“ฉัน คือฉัน...”“หุบปาก หากฉันไม่ได้ถามหรือพูดอะไรกับเธอ ห้ามพ
ตอนที่. 5รติมาก้มหลบตาผู้เป็นป้าแอบคิดในใจว่าแววตาคุณพริ้งช่างเหมือนแววตาของนางมารร้ายไม่มีผิด แต่เมื่อนึกถึงว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเธอและพ่อแม่ของเธอก็รักมันมากเพียงไหน ซ้ำยังมีอีกสี่ชีวิตที่เธอจะต้องใส่ใจ และหากมีโอกาสเธอก็อยากจะดูแลพวกเขาแม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่อย่างน้อยๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้คนเหล่านี้ก็ดูแลเธอมาอย่างดี เธอก็คงจะทอดทิ้งพวกเขาไม่ได้ และหากมีหนทางใดที่จะทำให้คนเหล่านั้นได้กินดีอยู่ดีเธอก็ไม่รีรอที่จะทำมัน“หากเขาไม่รับแกแทนน้องรตา ก็อย่ากลับมาที่นี่อีก ไสหัวไปให้พ้นเลยนะ จำเอาไว้”.เสียงคุณพริ้งเสมือนดังอยู่ริมหูบาง มันดังก้อง ชัดเจนจนเธอรู้สึกว่าขนในร่างกายลุกชันเพราะความหวั่นหวาด เธอจะต้องพยายามทำให้เขายอมรับเธอแทนพริมรตาให้ได้ รติมาสูดหายใจลึกๆ เรียกความมั่นใจ“คุณชาคริตคะ...ได้โปรดเถอะนะคะ น้องมดจะทำหน้าที่แทนพี่รตาทุกอย่าง ได้โปรดรับน้องมดไว้แทนนะคะ”รติมาแข็งใจเดินมาทรุดนั่งคุกเข่าต่อหน้าคนซึ่งนั่งเฉยราวรูปปั้น และหากเขาเป็นรูปปั้นจริงๆ ก็นับว่าเป็นรูปปั้นที่หล่อเหลาเอาการอยู่แม้จะติดเย็นชาไปบ้างก็ตามทีบ้าจังน้องมดคิดอะไรเนี่ย...เธอเอ็ดตัวเ
ตอนที่6คุณประเสริฐนั่งมองร่างแบบบางที่หลับพริ้มอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเรียวรูปไข่นั้นสวยนวลเนียนไร้ที่ติ คิ้วเรียวราววาดด้วยพู่กันของจิตกรเอก ดวงตากลมโตที่เขาเคยได้เห็นนั้นดำสนิทเงาระยับประดับด้วยแพขนตางามงอนอ่อนช้อย หากแต่ดวงตางดงามนั้นแฝงไว้ด้วยความหม่นเศร้าไม่สมวัยสาวสดใสนั้นหลับพริ้ม จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันได้รูปงดงาม รับกับริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อแม้จะดูแห้งผาก เธอน่าสงสารและไร้ที่พึ่งพิงในยามนี้ ซ้ำยังต้องมารับเคราะห์แทนคนไร้สำนึกอย่างสองแม่ลูกนั่นอีก นั่นคือสิ่งที่คุณประเสริฐรับรู้และไม่คิดว่าทายาทของอรุณวลัยจะต้องทนอยู่เป็นผู้อาศัยในชายคาบ้านของตนเองมานานว่าสิบปี ซ้ำยังทนให้ผู้หญิงจิตใจหยาบกระด้างอย่างคุณพริ้งโขลกสับราวทาส รวมถึงเรื่องที่เธอเกือบถูกอานนท์ข่มเหงด้วย หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจอย่างนึกเวทนา แล้วพลันนึกถึงเรื่องที่เขาคุยกับนายหนุ่มเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา“ผมไม่เห็นว่าผมจะต้องสงสารเห็นใจคนพวกนั้น” “คุณคริสครับ อย่าหาว่าผมก้าวก่ายเลยนะครับ แต่คุณหนูน้องมดเธอน่าสงสารจริงๆ” คุณประเสริฐพยายามอย่างที่สุดที่จะเปลี่ยนใจชายหนุ่มให้ยอมรับรติมาแทนพริมรตาซึ่งหายหน้าหนีความรับผิดชอ
ตอนที่ 7“เธอตัดสินใจได้ดีมาก รติมา..” น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาและเหยียดหยามนัก หากแต่รติมาก็ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา“แต่ฉันต้องการความมั่นใจว่าเธอพร้อมจะทำตามข้อตกลงจริงๆ เธอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับฉัน คอยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด สัญญาทั้งหมดระหว่างเรา ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาหรือหย่าขาดจากเธอไม่ว่าฉันจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม”“คือ แล้วดิฉันเอ่อ...” รติมาอยากจะถามเขาว่า แล้วเธอและเขาจะต้องอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาจริงๆ หรือไม่“เธอจะถามฉันว่า ฉันจะใช้สิทธิ์ของสามีด้วยรึเปล่าใช่ไหม หึหึ”“...” รติมานิ่งอึ้งเมื่อเขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอใบหน้านวลร้อนผ่าวด้วยความอับอาย“ตามสัญญาฉันก็ระบุนี่ว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”“แต่ว่า มัน...มันมากเกินไปน้องมดเสียเปรียบ...” หญิงสาวแย้งอย่างลืมตัวชาคริตยกยิ้มในใจ รติมาไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิด เธอคิดเป็นและรู้ว่าตนเองต้องเจอกับอะไร แต่เธอก็ยังจะยอมรับข้อเสนอของเขาแม้จะแย้งเขาอย่างเสียไม่ได้ก็ตาม เขาไม่เข้าใจเลยว่าหญิงสาวที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีหน้าแบบไหนนั้น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ยอมสองแม่ลูกนั่นขนาดนี้ ซ้ำยังจะยอมทำสัญญากับเขาท
ตอนที่ 8ถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากสีสดของเขานั้นช่างเชือดเฉือนและดูแคลนนัก หากแต่รติมาก็ไม่สามารถแย้งหรือพูดอะไรได้เขามีอดีตที่ฝังใจเมื่อไม่นานมานี้ ท่องไว้รติมา อย่าไปโกรธเขา เขาน่าสงสาร เธอพยายามบอกตัวเองในใจ“แล้วก็เลิกแทนตัวเองว่าดิฉัน เพราะฉันไม่ชอบ ให้เรียกตัวเองว่าน้องมดเหมือนเดิม ค่อยดูเป็นคนที่จะมารองมือรองเท้าฉันหน่อย เข้าใจมั้ย”“ค่ะ คุณชาคริต”“ดี...เอาล่ะ เริ่มทำหน้าที่ของเธอได้... เมียจ๋า ฉันอยากอาบน้ำ” เขาพูดออกมาเรียบๆ แต่เธอรู้ว่าเขาประชด หญิงสาวแอบถอนใจ งานหนักเธอไม่เคยคิดเกี่ยง แต่ งานแรก นี้มันอาจจะไม่ใช่งานหนักกาย แต่มันช่างแสนหนักใจเหลือเกิน...แต่เธอก็จะต้องทำไม่ใช่หรือ หญิงสาวถอนหายใจเมื่อนึกถึงการตัดสินใจของตนเองเธอเลือกแล้วรติมา... เธอเลือกแล้ว...“คุณชาคริตคะ ช่วยขยับมาทางซ้ายหน่อยสิคะ”รติมาบอกคนตัวโตแสนดื้อรั้นที่เธอต้องช่วยเขาอาบน้ำ ซึ่งเป็นงานแรกที่เธอต้องทำ ทันที ที่เริ่มงาน“เธอจะให้ฉันขยับจนหัวทิ่มตกอ่างเลยไหม”“ไม่ใช่ค่ะ แค่ๆ เอ่อ แค่คุณชาคริตขยับมานั่งตรงขอบอ่างตรงนี้ก็พอค่ะ น้องมดจะได้ถอดกางเกงให้คุณสะดวก หากคุณยืนน้องมดกลัวคุณจะล้มเพราะคุณตัวโตก
ตอนที่ 9“เธอกำลังทำอะไร รติมา”เสียงห้าวๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันกลับมามองด้วย กลัวว่าตนจะเจอร่างเปลือยเปล่าของเขาเพราะเธอเป็นคนที่เอาผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำเพียงผืนเดียว และเขาก็คงยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เป็นแน่ เขาเดินมาหยุดข้างหลังเธอและใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นสบู่หอมจากกายเขาและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอระหง“ว่าไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ”“คือ.. คือน้องมดกำลังหาเสื้อผ้าให้คุณชาคริตใส่นอนอยู่ค่ะ”เธอตอบเบาๆ รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่าเธอและเขาใกล้ชิดกันเพียงใด เมื่อร่างเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำของเขาสัมผัสกับต้นแขนเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวสวย และคำตอบที่ได้นั้นก็ยิ่งทำให้เอออยากจะเป็นลม“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้านอน เธอต้องรู้ไว้ซะ”“อะ อะไรนะคะ”“ฉันคิดว่าฉันตอบชัดเจนแล้วนะ เอาล่ะช่วยทาแป้งฝุ่นให้ฉันทีอย่าช้า และอย่ามาทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะดีของฉันมันเสียอีกครั้งเพราะเธอ”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าก็ไม่แตกต่างกันหญิงสาวค่อยๆ หันมาก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนโตพันรอบเอวสอบอยู่ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไรต่อมิอะไรของเขา รติมาเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่
ตอนที่10 .“นี่เธอคือคนรับใช้คุณคริส คนใหม่เหรอ” กุ๊บกิ๊บถามสมาชิกใหม่ด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน“ค่ะ ชื่อน้องมดนะคะ”“ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร แต่ก็ดีรู้จักกันไว้ไม่เสียหลาย แล้วเป็นลูกใคร จบอะไรมา อยู่ที่ไหนมาก่อน มีแฟนรึยัง แล้วเธอคิดว่าจะอยู่รับใช้คุณคริสได้กี่วัน”“นี่นังกุ๊บกิ๊บแกจะมาถามน้องมดทำไมวะ แกมีหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียนบุคคลตั้งแต่เมื่อไหร่”เสียงคนขับรถที่ชื่อว่า เดชา พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจแต่ยิ้มให้รติมาเสียกว้างโชว์ฟันขาวสะอาดที่ตัดกับสีผิว ฟังจากสำเนียงแล้วเดชาน่าจะมาจากที่ราบสูงแน่ๆ“แล้วมันเรื่องอะไรของมึงวะได้เด่ มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่าแส่”“ก็ไม่ได้อยากแส่หรอกโว้ยนังนกสองหัว แค่หมั่นไส้อีพวกสอดรู้สอดเห็นชอบเอาเรื่องของนายไปขายไปหากินกับพวกจิตใจสกปรก”เดชาพูดเยาะๆ ในขณะที่รติมาได้แต่ยืนมองทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่รู้ว่าเรื่องที่ทั้งคู่พูดนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนและมันมีความเป็นมาอย่างไร“เรื่องของกู และกูก็ทำเพื่ออนาคตอีกหน่อยคุณน้องญาก็จะกลับมาแล้ว พวกมึงระวังให้ดีเถอะ แล้วคุณไอรดาก็อาจจะได้เป็นเจ้านายของพวกแกๆๆ และแก ทุกๆ คน พวกแกน่าจะสำนึกเอาไว้”กุ๊บกิ๊บพู
ตอนที่11ห้องๆ นี้เชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่ม ถัดไปนั้นจะเป็นห้องของน้องสาวของชาคริตที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้ว่าเธอชื่อ ชาครียา อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงโดยเครื่องดนตรีไทยพลิ้วไหวไพเราะจนรติมาแทบจะเคลิบเคลิ้มหลับไป ถ้าเสียงดังทรงอำนาจของชาคริตไม่ดังขึ้นเสียก่อน“ฉันจะนอนแล้ว..” เขาพูดเรียบๆ แต่คนฟังนี่สิหัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุออกมานอกอก แต่ก็พยายามใจแข็งจับมือหนานั้นให้เดินกลับไปยังห้องนอนและเขาก็เดินตามเธอไปโดยดี“ความจริงแล้วฉันเดินกลับห้องเองได้”“น้องมดรู้ค่ะ แต่ว่าให้น้องมดพาไปดีกว่านะคะ”เธอกล่าวเบาๆ เมื่อพาเขาเดินมาล้างมือและทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หญิงสาวบีบยาสีผันใส่หลอดให้เขาและยื่นแก้วน้ำให้เขาบ้วนปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดปากให้เขาอย่างอ่อนโยน จึงพาเขามานอนแล้วก็ห่มผ้าให้เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการดูแลประติมากรหนุ่ม“ฉันไม่ชอบห่มผ้านอน มันอัดอัด” เขาพูดเสียงห้วนๆ เหมือนเด็กเด็กเกเร แล้วรั้งผ้าห่มออกจากตัวและทำท่าว่าจะถอดกางเกงที่ตนสวมใส่อยู่“เดี๋ยวๆ ค่ะ คุณชาคริตจะทำอะไรคะ”“อ้าว ก็ฉันบอกแล้ว
ตอนที่ 30.“หึหึ ช่างกล้านักรติมา”ชาคริตพูดเบาๆ กับตนเอง ภาพลิ้นสีชมพูเล็กๆ ที่ไล้เรียวปากอิ่มยามขัดเขินของเธอนั้นตรึงใจเขานัก...มดตัวเล็กๆ ตัวนี้ จะต้องเป็นของเขา ... ชาคริตหมายมั่นในใจแล้วบ่ายวันนั้นรติมาก็ได้มาเที่ยวน้ำตกอย่างที่ใฝ่ฝันไว้จริงๆ หากแต่ก็มีชาคริตมาด้วย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ขัดข้องเมื่อความอยากเที่ยวน้ำตกมีมากกว่าและเธอคิดว่าสามารถดูแลเขาได้ โดยป้าสมใจแม่บ้านคนขยัน ให้ลูกชายซึ่งกำลังอยู่วัยเรียนชั้น ม.ปลายเป็นคนนำทางไปน้ำตก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักนัก และให้สามีของนางเป็นคนขับรถไปด้วยอีกคน“ว้าว น้ำตกสวยที่สุดเลยค่ะป้าสม มิ่งดูสิ พี่มดไม่เคยเห็นน้ำตกที่ไหนสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”รติมาผละจากชาคริตอย่างลืมตัวเมื่อเห็นน้ำตกสายเล็กๆ ที่ทอดตัวลงมาจากหน้าผาเตี้ยๆ แต่ลดหลั่นกันมาเป็นชั้นงดงาม อีกทั้งความร่มรื่นและความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าบริเวณนี้ ก็ช่วยให้คนที่เดินทางมาถึงน้ำตกสดชื่นลืมความเหนื่อยล้าไปสิ้นรติมาชี้ชวนให้
ตอนที่29.“พี่คริสคะ ตื่นสิคะ พี่คริสๆ ฟื้นสิคะพี่คริสเป็นอะไรคะ”หญิงสาวพยายามปลุกเขาให้ฟื้นขึ้นมาหากแต่เขาก็ยังนอนนิ่งสนิทจนเธอใจเสีย หญิงสาวเงยหน้ามองฟ้ามืดมิดผ่านม่านสายฝนกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา แล้วกัดฟันพยุงร่างหนาขึ้นมาแล้วค่อยๆ พาเขาเดินเข้าบ้านพักด้วยความยากลำบาก วันนี้ทั้งป้าสมใจกับลุงมิ่งต่างก็ขอลาไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด วันนี้เธอจึงอยู่กับเขาเพียงสองคน“พี่คริสคะ พี่คริส” รติมาพยายามปฐมพยาบาลให้เขาฟื้นหลังจากที่เธอพาเขาเข้าบ้านได้สำเร็จแล้ว จัดแจงทำความสะอาดร่างหนาอย่างรวดเร็วและตรวจดูว่าร่างกายเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าได้รับบาดเจ็บหรือโดนสัตว์หรือแมลงกัดต่อยหรือไม่ ก่อนจะโทรศัพท์เรียกแพทย์ประจำตัวของเขา เมื่อยังเห็นว่าเขายังนอนนิ่งรติมาก็เริ่มใจเสียเมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ แล้วหมอก็ยังไม่มาสักที อีกทั้งพายุฝนก็โหมกระหน่ำอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแล้วเวลาที่เธอรอคอยก็มาถึงเมื่อเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้านพัก สักครู่ร่างของแพทย์ประจำตัวของชาคริตซึ่งเธอเองก็รู้จักดีกางร่มเดินลงมาจา
ตอนที่28.ความร้อนผ่าวมวนหมุนอยู่ใจกลางร่าง ทำให้หญิงสาวหลับตาลงอย่างซ่านเสียว ความชื้นฉ่ำอยู่บริเวณใจกลางร่างสาวทำให้หญิงสาวมึนเมาและสับสนในอารมณ์ ทั้งตื่นเต้นอยากลิ้มลองความรู้สึกแปลกใหม่ซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นมาเป็นริ้วๆ แต่ความขลาดกลัวตื่นตระหนกต่อความรู้สึกดังกล่าวก็ทำให้เธอฝืนร่างออกจากการกอดเกี่ยวของเขาแต่การกระทำของเธอกลับเป็นการยั่วยุให้อารมณ์หนุ่มตื่นเร้ามากขึ้นชาคริตเคล้นคลึงอกอบอย่างเมามัน แล้วค่อยๆ เลื่อนใบหน้าหล่อเหลาลงมาตามลาดโค้งเอวบาง เขาจูบไซร้เรือนกายสาวอย่างหลงใหล ลิ้นหนาหยอกเอินแอ่งสะดือสาวอย่างยั่วเย้าจนหญิงสาวรูสึกเสียวซ่านไปทั้งกายและเมื่อเขาทำท่าว่าจะเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปเธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นหวาด“หยะ อย่าค่ะคุณคริส อา...พี่คริสอย่า...” เธอร้องเสียงหลงทั้งสับสนและหวั่นไหว เมื่อมือหนาแยกเรียวขาที่อ่อนแรงของเธอออกจากกันกว้างและทำท่าจะโน้มใบหน้าลงมาใจกลางร่างสาวและเรียกเขาอย่างหลงลืมตน“น้องมดจ๋า...หอมหวานที่สุดเลย” ชาคริตหลงเพริดไปกับความหวานละมุนและกลิ่นสาบสาว แ
ตอนที่ 27ปลายประโยคสุดท้ายเธอพูดเสียงแผ่วจนชายหนุ่มนึกขัน เขาคิดว่าตอนนี้เธออาจกำลังหน้าแดงก่ำอยู่เป็นแน่ความรู้สึกขัดเคืองก่อนหน้านี้ที่เธอมาช้าก็พลอยเลือนๆ ไปยิ่งเธอเริ่มรู้จักพูดคุยกับเขามากขึ้น ตอบโต้เขาบ้างนอกจากจะพูดแต่เพียงคำว่า ค่ะๆ ลนลานทำงานเหมือนหวาดกลัวเขาเช่นช่วงแรกๆ ที่เธอมา เพราะมันทำให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดเมื่อใครๆ ต่างก็ต้องทำตามใจเขาด้วยความหวาดกลัวลนลาน และทำแค่พอผ่านๆ แต่สำหรับรติมาเขารับรู้ได้ว่าเธอมีความตั้งใจในการดูแลเขาและเธอก็ดูแลเขาอย่างดีทุกๆ วัน ทุกอย่างที่เธอทำนั้นบ่งบอกถึงความตั้งใจ แม้เขามองไม่เห็นก็สามารถรู้ได้และที่เขารู้อีกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอคือ รติมาเป็นผู้หญิงที่มีความอดทนสูงมาก แม้ช่วงแรกๆ ที่เขาทำร้ายกาจกับเธอ โยนข้าวของที่เธอทำให้ทิ้ง ขว้างปาจนแตกกระจาย รติมาก็ไม่ปริปากบ่น แต่จัดการเก็บข้าวของต่างๆ ด้วยความความสงบเรียบร้อยเวลาที่เขาเดินบนพื้นจะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรมาทำให้รู้สึกรำคาญ หรือต้องคอยระวังว่าจะเหยียบอะไรให้เกิดอันตราย แม้แต่ตอนที่เขาปาแก้วน้ำผลไม้ทิ้งจนแก้วแตกกระจาย แต่แค่ประเดี๋
ตอนที่ 26.“พี่ว่าน้องญาน่าจะกลับกรุงเทพฯ ได้แล้วนะ มาอยู่นี่หลายวันแล้วพี่คริสไม่มีสมาธิทำงาน..”ชาคริตพูดขึ้นในเช้าวันหนึ่งเมื่อทั้งวีรุจ ชาครียาและไอรดายังไม่มีทีท่าว่าจะกลับกันเสียที แล้วยิ่งอยู่คนเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดโดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะวีรุจ“แต่น้องญายังไม่อยากกลับนี่คะ ยังเที่ยวไม่หนำใจยังไม่ได้ไปเที่ยวน้ำตกด้วย พี่รุจน่ะก็ใจร้ายไม่พาน้องญาไป”“แต่พี่ว่าน้องญาจะไม่ได้แค่เที่ยวอย่างเดียวนะ น้องญายังทำให้คนของพี่วุ่นวายไปกับเรื่องไร้สาระของน้องญาด้วย”ชายหนุ่มเอ็ดน้องสาว เขารู้ดีว่าตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ชาครียาอยู่ที่นี่นั้น สาวน้อยคนสวยนั้นกลั่นแกล้งรติมาต่างๆ นานา ทั้งใช้ให้เธอทำความสะอาดห้องนอนให้ทุกเช้า ทั้งทำอาหารต่างๆ มากมาย ทั้งที่เธอเองก็ไม่ชอบจะรับประทานพอไม่ถูกปากก็ไล่ให้รติมาไปทำมาให้ใหม่ แล้วสุดท้ายก็ไม่กินซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็ล้วนแล้วแต่หาส่วนผสมมาปรุงยุ่งยากและใช้เวลาในการทำ พอไม่ได้ดังใจ แม่คุณก็พากันโวยวายแล้วยังให้รติมาซักผ้าที่เธอกับเพื่อนใส่แล้วเปลี
ตอนที่25.“ไม่เรียก ใครจะทำไม พี่รุจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้น้องญาเรียกมันว่าพี่”สาวน้อยระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างไม่พอใจกับน้ำเสียงติเตียนของชายหนุ่ม“พี่ไม่คุยกับน้องญาแล้ว ไปช่วยน้องมดทำอาหารเช้าดีกว่าเบื่อเด็กเกเร..”วีรุจถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับนิสัยเอาแต่ใจของชาครียา แล้วผละจากสาวน้อยคนสวยทันที แต่นั่นยิ่งทำให้ชาครียาเพิ่มดีกรีความเกลียดชังรติมามากขึ้น สาวน้อยกรีดร้องตามหลังชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตั้งแต่แตกเนื้อสาวอย่างขัดใจและเจ็บใจที่เห็นคนอื่นดีกว่าเธอ“พี่รุจ! คอยดูนะพี่รุจจะเสียใจที่ทำกับน้องญาแบบนี้”ในขณะที่ชาครียาหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่นั้น ไอรดาเพื่อนรักก็กำลังเดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบาเข้าไปในห้องนอนของชาคริต สาวน้อยวัยใสกวาดตามองรอบๆ ห้องนอนกว้างโทนสีอบอุ่นอย่างชื่นชม และต้องเปลี่ยนมาเป็นแข็งกระด้างเมื่อนึกได้ว่านอกจากชาคริตแล้ว ยังมีหญิงสาวอีกคนที่นอนร่วมห้องกับเขา เท่านั้นเองความริษยาร้อนรนก็วิ่งเข้าแผดเผาใจไอรดานั้นแอบรักชาคริตมานานแล้วตั้งแต่เห็
ตอนที่24“ไม่ออกไปดูแลคุณๆ เขาล่ะน้องมด” ป้าสมใจ แม่บ้านวัยสี่สิบพูดกับหญิงสาวอย่างอาทร และนางเองก็รู้สึกชอบพออัธยาศัยของรติมาอยู่ไม่น้อยและแอบหวังลึกๆ ว่ารติมาจะทำให้ชาคริตกลับมาเป็นเจ้านายที่น่ารักใจดีมีเหตุผลเหมือนเดิม“ไม่ดีกว่าค่ะ ดูๆ พวกคุณๆ ก็สนุกสนานกันดีน้องมดออกไปจะเสียบรรยากาศเปล่าๆ”“อืม นั่นสินะ น้องมดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะไปเดี๋ยวป้าดูแลความเรียบร้อยตรงนี้ให้ก่อน”“ขอบคุณค่ะป้าสมใจ งั้นเดี๋ยวน้องมดขอเวลาห้านาทีนะคะรับรองไม่ขาดไม่เกิน”“โถแม่คุณห้านาทีอาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำกัน”ป้าสมใจเอ่ยตามแผ่นหลังบางยิ้มๆ อย่างเอ็นดูแต่รติมาก็ทำให้นางทึ่งเมื่อรติมาออกมาหน้าใสผ่องด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ในเวลาห้านาทีจริงๆ แล้วเธอก็มานั่งรับประทานอาหารในห้องครัวกับป้าสมใจเงียบๆ หากแต่ไม่นานเสียงทรงอำนาจก็ดังขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด“รติมา รติมา อยู่ไหนมานี่สิ”เสียงห้าวๆ ของชาคริตเรียกเธอลั่นบ้าน รติมาจำต้อ
ตอนที่23เขาพูดจบก็ละมือจากผิวกายเนียนนุ่มไปทันที พร้อมกับเดินช้าๆ กลับยังแท่นปั้นด้วยไม้เท้าขาวซึ่งเขาสามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวมองตามร่างสูงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ความร้อนผ่าวจากมือหนายังตราตรึงอยู่บนผิวนวล เธอยังคงรู้สึกว่าลมหายใจหอมสะอาดของเขามันวนเวียนอยู่รอบๆ กาย และเธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้เขาอารมณ์เสียนี่เธอเป็นอะไรไปนะ ทำไมต้องแคร์เขามากขนาดนั้นด้วย...รติมาคิดขณะเดินหงอยๆ ออกไปเมื่อหญิงสาวออกไปแล้วชายหนุ่มก็กำมือแน่นแล้วชกลงบนพื้นหนักๆ ด้วยความโมโห... โมโหตนเอง“บ้าเอ๊ย ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว..”ชาคริตพยายามระงับความรู้สึกที่เดือดพล่านอย่างไม่น่าเชื่อของตนให้สงบดังเดิมได้ยากลำบาก เพียงแค่ได้สัมผัสนวลเนื้อเนียนนุ่มหอมละมุนด้วยสาบสาว กลิ่นเนื้อสาวแท้ๆ ยังติดตรึงอยู่ที่ปลายจมูก ผิวเนียนนุ่มนั้นยังทำให้เขารู้สึกถึงมันอยู่ที่ปลายนิ้ว รติมาก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกร้อนรุ่มด้วยความปรารถนาถึงเพียงนี้เชียวหรือ กรามแกร่งขบกันแน่นด้วยความไม่พอใจร่างกายปวดร้าวอย
ตอนที่ 22ชาคริตใช้เวลาระหว่างรอหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยการนวดดินไปพลางๆ ในใจของชายหนุ่มก็นั้นนึกครึ้มอกครึ้มใจและรื่นรมย์อย่างบอกไม่ถูก ร่างนวลเนียนละมุนมือที่เขาได้สัมผัสในวันนั้นก็หลอกหลอน ให้เขาใคร่คะนึงถึงอยู่มิสร่างราวหนุ่มน้อยเพิ่งได้แตะต้องร่างสาวจนน่าโมโห แต่เขาก็ไม่อาจจะทานทนเสน่ห์แสนเย้ายวนของเธอได้ ขนาดว่าเขามองไม่เห็นเธอแต่เขากับหลงใหลและต้องการเธอได้ถึงเพียงนี้ รติมาไม่ใช่น้องมดหรือมดตัวเล็กๆ เสียแล้ว หากแต่เธอเป็น แม่มด ต่างหาก เธอเป็นแม่มดที่ร่ายมนต์เสน่หาใส่เขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวและไม่อาจจะทัดทานได้ ซึ่งเขาก็จะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการด้วย เขาต้องการเธอ นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกแต่งานสำคัญต้องมาก่อนอย่างไรเสียรติมาก็ต้องเป็นของเขา...แน่นอนในขณะเดียวกันนั้นคนตัวบางก็เดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องน้ำแสนสวย ในห้องห้องปั้นซึ่งออกแบบให้เป็นห้องน้ำกึ่งสวนเปิดโปร่ง สามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์อันงดงามด้านนอกได้โดยไม่ต้องกลัวว่าคนข้างนอกจะมองเห็นผู้ที่อยู่ข้างใน“สู้ๆ น้องมด เธอต