Share

ตอนที่3

ตอนที่3

“อะไรของพวกเอ็งวะ อยู่ที่นี่อย่างน้อยๆ พวกเอ็งก็มีที่ซุกหัวนอนนะเว้ย ข้ากับคุณหนูไปยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่อย่างไร อดทนเอาหน่อยเถอะวะ อย่าออกไปลำบากกันเลย งานก็ใช่จะหาได้ง่ายๆ ที่ข้าออกไปก็เพราะข้าเองก็พอมีเงินเก่าเงินเก็บ และที่ผืนเล็กๆ พอได้ทำกิน นี่ข้าก็กะว่าจะสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับคุณหนูก่อน”

“โธ่ป้า อดทงอดทนอะไรกันพวกฉันก็ใช่ว่าอยากจะได้เงินเดือนที่จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง แถมไม่ตรงเวลาอีกต่างหากแบบนี้นะ อย่างน้อยฉันไปเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ได้”

“นั่นสิ ฉันก็จะไปเป็นยาม”

“ทุกคนอย่าลำบากเพราะน้องมดเลยนะคะ แค่นี้น้องมดก็ซาบซึ้งแล้วล่ะค่ะ”

ในที่สุดรติมาก็เอ่ยออกมาอย่างตื้นตัน น้ำตาใสๆ เอ่อล้นขอบตาด้วยความซาบซึ้งใจต่อความรักภักดีที่พวกเขามีให้เธอ

“แต่พวกเราเต็มใจจะไปกับคุณหนูนะคะ” พวกพี่ๆ ยังคงยืนกรานเช่นเดิมรติมาจึงหันไปมองแม่จิตเหมือนขอความคิดเห็น...

“อะไรนะคะคุณแม่ ฝ่ายนั้นเขาจะให้เรารับผิดชอบด้วยการให้รตาไปเป็นขี้ข้าดูแลคนป่วยตาบอดเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก จะหล่อแค่ไหนแต่พิการ รตาก็ไม่สนหรอกนะ”

“แต่มันเป็นทางเดียวที่เราจะไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลนะลูก แค่ที่เขาปิดข่าว และให้ทนายมาเดินเรื่องคดีความเงียบๆ แบบนี้ก็ดีแล้ว เราเองก็ไม่ได้เสียเงินเสียทองให้เขาสักบาท แค่แลกกับการไปดูแลเขา”

มารดาพยายามเกลี้ยกล่อมบุตรสาวคนสวยในชุดรัดรึงเน้นสัดส่วนสีเพลิงนั้นอย่างคาดหวังว่า พริมรตาผู้เป็นบุตรสาวจะยินยอม ด้วยใจหนึ่งนั้นนางกลัวการเสียเงินเสียทองให้คู่กรณี ที่พริมรตาเมาแล้วขับรถไปชนกับรถชาคริต ประติมาไพบูลย์ ทายาทตระกูลดังผู้ร่ำรวยมีกิจการมากมาย

แม้ชาคริตจะเป็นชายรูปงามเนื้อหอมเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในแวดวงไฮโซ หากเขาไม่ตาบอดนางเองก็คาดหวังจะเกี่ยวดองด้วยอยู่หรอก แต่มีลูกเขยตาบอดซ้ำยังอารมณ์ร้ายกาจอย่างนั้น นางก็ไม่อยากจะให้บุตรสาวที่รักไปรองรับอารมณ์แน่ๆ ที่นางรู้ว่าเขาร้ายกาจนั่นก็เพราะ ข่าววงในที่บรรดาคุณหญิงคุณนายต่างพากันพูดถึงชายหนุ่มกันอย่างสนุกปาก ซ้ำยังมีข่าวว่าคู่หมั้นที่รักกันมานานกว่าสี่ปีนั้นทิ้งชายหนุ่มไปอย่างไม่แยแสอีกด้วย แต่ข้อเสนออีกข้อของชาคริตต่างหากที่นางสนใจ เงินจำนวนสิบล้านและการไถ่ถอนบ้านอรุณวลัยจากธนาคารที่นางเอาไปจำนอง เพียงแค่ให้รติมาไปดูแลเขาเท่านั้น

         “คุณแม่ก็พยายามหาทางสิคะ หากทำไม่ได้ก็ปล่อยให้รตาติดคุกซะดีกว่าให้ไปเป็นขี้ข้าใคร”

“โถๆ ลูกแม่อย่างเพิ่งอารมณ์เสียสิคะลูกขา เดี๋ยวแม่จะพยายามคิดหาทางให้นะคะ”

คุณพริ้งหลบตาบุตรสาวเมื่อคิดหาทางให้ลูกสาวตกลง นางพยายามเอาใจบุตรสาวคนสวยอย่างเต็มที่ บุตรสาวที่นางแสนภาคภูมิใจว่าสวยสดงดงาม บุตรสาวที่นางเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม

“วันนี้รตาขอเงินสักห้าหมื่นนะคะคุณแม่ ตอนเย็นรตาจะไปพัทยากับเพื่อนๆ คนมีปาร์ตี้ที่บ้านพักของ วินนี่ แม่คงรู้จักนะคะเพื่อนของรตาคนที่รตาเคยเล่าให้ฟังว่า เป็นลูกสาวคุณหญิงวิไลวัลย์ ภริยาอดีตท่านรองนายกฯ น่ะค่ะ”

“เอ่อ ห้าหมื่นเลยเหรอลูก”

“แค่ห้าหมื่นนะคะคุณแม่ไม่ใช่ห้าแสน คนอื่นๆ เขาพกเงินไปทีละเป็นแสนๆ มีรตานี่ล่ะพกเงินหมื่น รตาอายนะคะจะไปงานวันเกิดลูกสาวอดีตนายกฯ ทั้งทีของขวัญวันเกิดแสนจะถูกราคาแค่ไม่กี่หมื่น”

พริมรตาเอ่ยประชดมารดา แต่ในใจก็คาดหวังว่ามารดาจะต้องให้เงินเธอมากกว่าที่ขออยู่แล้ว

“เอ่อลูกรักจ๊ะ เมื่ออาทิตย์ก่อนหนูก็เอาไปแล้วห้าหมื่นนะจ๊ะ”

“แต่นั่นมันคนละงานนะคะคุณแม่ งานนี้ลูกหลานไฮโซเขามากันทั่วประเทศ หากรตาไปร่วมงานก็ต้องได้พบแต่คนรวยๆ ยิ่งเพื่อนสมัยที่เรียนอยู่เมืองนอกอีกล่ะคะ พวกนั้นน่ะผู้ดีเก่ากันทั้งนั้น ยิ่งเพื่อนๆ ที่อยู่ฝรั่งเศสน่ะมีแต่คนรวยๆ หากรตาเข้ากลุ่มกับพวกเขาไม่ได้ นั่นก็เพราะคุณแม่นะคะ”

“จ้ะๆ ลูก เอ่อแล้วนี่แต่งตัวจะไปไหนคะลูก”

“รตาว่าจะไปสปาก่อนน่ะค่ะ ขอเงินหน่อยสิคะ งั้นเอาแค่สองหมื่นก่อนก็ได้ค่ะ รตากะว่าจะใช้แค่นี้เพราะช่วงนี้ รตาเซ็งๆ ยังไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษ”

เธอกล่าวเหมือนว่าการใช้เงินวันละหมื่นสองหมื่นนั้นเป็นเรื่องปรกติ และมันก็เล็กน้อยหากเทียบกับที่ผ่านๆ มาซึ่งเธอใช้เงินราวกับน้ำ ในความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นคือ มารดาของเธอนั้นร่ำรวยมหาศาลและเธอก็ได้ในสิ่งที่ปรารถนาเสมอ ทุกๆ อย่างไม่เคยที่พริมรตาจะไม่ได้...

“โธ่เอ้ย.. จะทำอย่างไรดีนะ เงินตั้งสิบล้านแถมยังได้บ้านคืนจากธนาคารด้วย..”

หลังจากที่ให้เงินลูกสาวไปแล้วคุณพริ้งนั่งคิดอย่างหนักอกหนักใจ เงินก็อยากได้ บ้านก็อยากได้ แต่ต้องให้ลูกสาวไปเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนตาบอด...นางจะทำอย่างไรดีที่จะได้ทั้งบ้านและเงินโดยที่ไม่ต้องให้พริมรตาไปลำบาก...

ร่างบอบบางกอดกระเป๋าเดินทางกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสำคัญชิ้นเดียวที่มีติดตัวไว้แน่น ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ กายอย่างหวั่นวิตก มือบางเย็นเฉียบในใจก็หวิวๆ ราวจะเป็นลม

“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณหนู แม่จิตจะอยู่เคียงข้างคุณหนูเสมอ”

         “คุณหนูน้องมดเข้าไปพบคุณท่านได้แล้วครับ ส่วนแม่จิต รออยู่ตรงนี้”

         คุณประเสริฐกล่าวอย่างเอ็นดู เขามองใบหน้านวลใสนั้นอย่างเวทนา เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องของเธอจากแม่จิตและพอรู้กิตติศัพท์ของคุณพริ้งมาบ้าง และยังวิตกแทนรติมาที่จะต้องมาพบเจอกับชาคริต ผู้ซึ่งบัดนี้อารมณ์ไม่ค่อยปรกตินัก

         “ขอบคุณค่ะคุณลุงทนาย”

         หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเบาๆ พลางวางกระเป๋าใบโตที่เธอใช้ยึดเป็นเกราะสร้างความมั่นใจมาตลอดเวลาที่เดินทางจากบ้านของตนมายังบ้านหลังใหญ่โตงดงามหลังนี้ บ้านประติมาไพบูลย์

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status