มือบางสั่นน้อยๆ ขณะผลักประตูไม้สักสลักลายสวยหรู หากแต่หลังประตูบานนี้กลับไม่มีสิ่งงดงามใดๆ ให้เธอได้ยลแม้แต่นิดเดียว มีเพียงภาพเงาของชายรูปร่างสูงใหญ่ซึ่งนั่งหันหลังให้เธอ รติมามองเงาของชายคนนั้น พลางกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผากขึ้นมาทัน รัศมีรังสีความร้ายกาจปกคลุมไปทั่วทั้งห้องกว้าง ที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นทว่าเรียบหรู
ศีรษะทุยได้รูปนั้นตั้งตรง ไหล่กว้างตั้งขนานกับพื้นเป็นราวไม้บรรทัด และเขาไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจผู้เข้ามาใหม่เลยสักนิด และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่รติมารู้สึกว่ายืนนานจนรู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งเรียวขา หญิงสาวแอบถอนใจเบาๆ พยายามรวบรวมกำลังเพื่อจะเอื้อนเอ่ยให้เขารู้ว่าเธอได้เข้ามาในห้องนี้นานแล้ว
เขาอาจจะไม่รู้ว่าเธอเข้ามาเพราะเขาตาบอด แต่ เอ๊ะ เขาก็ไม่ได้หูหนวกนี่นา สองเสียงเล็กๆ แย้งกันในหัว
“เอ่อ คุณ ชาคริตคะ คือ ดิฉัน...” รติมาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะไม่ให้สั่นและบังคับให้มันเรียบที่สุด ทำไมเธอถึงรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออกราวกับว่าในห้องนี้มันไม่มีออกซิเจนให้หายใจ หญิงสาวคิด..
“ฉัน คือฉัน...”
“หุบปาก หากฉันไม่ได้ถามหรือพูดอะไรกับเธอ ห้ามพูดแม้แต่คำเดียว!” เสียงห้วนๆ นั้นตวาดลั่น พร้อมกับที่เขาค่อยๆ หันมาช้าๆ
ใบหน้าเรียวคมคายได้รูปนั้นดูเย็นชา ริมฝีปากหยักสวยเม้มสนิท ดวงตาถูกปกปิดด้วยแว่นสีดำอันโต ทำให้รติมาไม่สามารถมองเห็นดวงตาของเขาได้ และไม่อาจจะรู้ได้ว่าคนตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่อารมณ์ที่ดีแน่นอน
“เธอไม่ใช่พริมรตา” เสียงนั้นเยือกเย็นนัก จนรติมารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับอสูรร้าย
“เอ่อ คือ ฉัน...”
“พวกเธอมันน่ารังเกียจ ไร้สัจจะ และละโมบ คงนึกว่าฉันตาบอดแล้วจะโง่เหรอ” ชายหนุ่มตวาดลั่น ใบหน้าแดงก่ำด้วยโทสะจนรติมาตัวสั่นด้วยความกลัวเกรง
“ตะ แต่ น้องมดก็มาแทนแล้วไงคะ คือพี่รตา เอ่อ คือ...” หญิงสาวพูดไม่ออกได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่กลางห้อง ยิ่งยามนี้ร่างสูงใหญ่นั้นค่อยๆ เคลื่อนกายมาที่เธอช้าๆ เสมือนพญาราชสีห์ที่กำลังจะขย้ำเหยื่อเธอยิ่งหวั่นวิตก นี่เขาตาบอดจริงๆ ใช่ไหม...
“ฉันไม่ต้องการตัวแทน ฉันต้องการให้พริมรตามาดูแลรับใช้ฉัน ส่วนเธอก็ไสหัวไป...”
“ไม่ได้หรอกค่ะ น้องมดรู้ว่าคุณต้องการพี่รตา แต่ตอนนี้พี่รตาหนีไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าเธอหนีไปไหน คุณป้าพริ้งเลยให้น้องมดมาแทน”
“ฉันไม่ต้องการใคร ฉันต้องการผู้หญิงสารเลวคนนั้น”
ชาคริตตวาดลั่น เมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวร่างบอบบางซึ่งยืนตัวสั่น แผ่นหลังบางชิดผนังห้องสีทึมเทาด้วยความกลัว
“สงสัยใช่ไหม ว่าทำไมฉันรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ ฉันตาบอดก็จริง แต่อวัยวะอย่างอื่นยังใช้งานได้ดี โดยเฉพาะ...”
ร่างสูงใหญ่ของคนตาบอดจงใจรั้งร่างบางเข้ามาประชิดจนร่างของเขาและเธอสนิทชิดเชื้อจนน่าหวาดเสียว แล้วยิ่งความร้อนผ่าวจากแก่นกายชายที่เสียดสีอยู่ที่หน้าท้องเนียนด้วยแล้ว รติมายิ่งอยากจะร้องไห้ด้วยความกลัวและอดสู
“รู้แล้วใช่ไหม ว่าทำไมฉันต้องการผู้หญิงคนนั้น เธอสมควรชดใช้สิ่งที่ทำไว้กับฉัน หากเธอคิดว่าเธอทำหน้าที่รับใช้ฉันทุกอย่างแทนพริมรตาได้ ฉันก็ไม่ขัด แต่ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนความตั้งใจแน่นอน...”
“นะ น้องมด...”
“เธอชื่อน้องมดใช่ไหม” เขาเอ่ยชิดแก้มนวลที่เห่อร้อน และเหมือนผิวแก้มใสจะถูกแผดเผาจากลมหายใจที่ผ่าวร้อนของชาคริตซึ่งจงใจแสดงกริยาเช่นนี้กับเธอ
“คะ ค่ะ...”
“และตัวเธอก็เล็กเหมือนมดด้วย เอวเล็ก สะโพกผาย หน้าอกใหญ่เกินตัว”
“คุณ...” รติมาหน้าแดงด้วยความอับอายที่สุดในชีวิต หากแต่เธอก็พูดได้เพียงเท่านั้นเพราะตอนนี้เธอรู้สึกตีบตันไปหมด รู้สึกลำคอแห้งผากราวอยู่กลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ
“หึ ฉันบอกแล้วว่าฉันตาบอดก็จริง แต่อย่างอื่นยังใช้ได้ เอาล่ะ เธอออกไปได้แล้ว ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอจะจัดการอย่างไร แต่ฉันต้องการให้พริมรตามารับใช้ฉัน ไม่อย่างนั้น พวกเธอทั้งหมดต้องกระเด็นออกจากบ้านหลังนั้นและต้องไปนอนในคุก รวมทั้งเธอด้วย เพราะเธอร่วมมือกันกับคนพวกนั้นหลอกลวงฉัน จงใจผิดสัญญา”
เขากล่าวอย่างเลือดเย็นเมื่อผละออกจากร่างบางนุ่มละมุนแม้เขาจะสัมผัสเธอผ่านเนื้อผ้าหยาบกระด้างก็ตามที แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายเล็กจ้อยกว่าเขามากมายนั้นก็ติดจมูกอยู่มิคลายจนน่าโมโห
ชาคริตหันหลังให้ร่างที่สั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นนั้น แล้วกลับไปนั่งที่เดิมเหมือนคนปรกติทุกประการ จนรติมารู้สึกหวาดกลัว นี่ขนาดว่าเขามองไม่เห็นรังสีอำมหิตจากดวงตาหลังแว่นสีดำนั้น ก็ส่งรังสีครอบคลุมไปทั้งห้องจนเธอหายใจแทบไม่ออก หากเขามองเห็นจริงๆ และจับจ้องเธอด้วยแววตาอำมหิตอย่างที่เธอจินตนาการไว้ เธอคงมอดไหม้เป็นเถ้าธุลี รติมาหลับตาลงอย่างอดสูแล้วคิดถึงถ้อยคำร้ายกาจแกมขู่เข็ญบังคับของคุณพริ้งผู้เป็นป้าเมื่อวันก่อน
“แกต้องทำหน้าที่ทุกอย่างแทนน้องรตานังมด หากแกไม่สามารถทำให้คุณชาคริตเขายอมรับหรือให้แกทำหน้าที่แทนรตา ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ แล้วจะไล่พวกขี้ข้าของแกออกให้หมดเข้าใจมั้ย ฉันเลี้ยงแกให้โตมาขนาดนี้ ก็หัดทดแทนบุญคุณกันบ้างนะยะ คิดจะเอาตัวรอดคนเดียวหรือไง เมื่อผู้มีพระคุณลำบากแกก็ต้องช่วยสิ”
“แต่คุณป้าพริ้งคะ...”
“แกไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องหรือต่อรองอะไรทั้งสิ้น แกก็คงรู้ว่าช่วงนี้ฉันไม่ได้มีเงินมากมายเหมือนแต่ก่อน บริษัทเฮงซวยของพ่อแกก็กำกลังจะเจ๊ง อีกอย่างหากต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันจริงๆ ฉันก็คงไม่มีเงินหรอกนะ หากไม่ขายบ้านหลังนี้ ใช่แล้วหรือว่าฉันจะขายดีนะ ท่าทางจะได้เงินเยอะอยู่คงพอใช้ต่อสู้คดีในชั้นศาลหากฝ่ายนั้นเขาจะฟ้องน้องรตาจริงๆ และก็คงจะพอมีเงินเหลือใช้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่ได้ ขายบริษัทนั่นด้วย แต่บอกไว้ก่อนนะว่าเงินนี่ฉันจะใช้จ่ายเฉพาะครอบครัวของฉัน ส่วนแกกับบรรดาขี้ข้าของแกก็ไสหัวไปจะไปไหนก็ไป ว่าไงล่ะจะตกลงมั้ย..”
คุณพริ้งถามเธอด้วยน้ำเสียงและแววตาวาววับ นางเองก็ได้แต่หวังว่ารติมายอมทำตามที่นางต้องการ โดยการเอาบ้านของเธอมาอ้าง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วบ้านหลังนี้กำลังจะถูกยึด
ตอนที่. 5รติมาก้มหลบตาผู้เป็นป้าแอบคิดในใจว่าแววตาคุณพริ้งช่างเหมือนแววตาของนางมารร้ายไม่มีผิด แต่เมื่อนึกถึงว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเธอและพ่อแม่ของเธอก็รักมันมากเพียงไหน ซ้ำยังมีอีกสี่ชีวิตที่เธอจะต้องใส่ใจ และหากมีโอกาสเธอก็อยากจะดูแลพวกเขาแม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่อย่างน้อยๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้คนเหล่านี้ก็ดูแลเธอมาอย่างดี เธอก็คงจะทอดทิ้งพวกเขาไม่ได้ และหากมีหนทางใดที่จะทำให้คนเหล่านั้นได้กินดีอยู่ดีเธอก็ไม่รีรอที่จะทำมัน“หากเขาไม่รับแกแทนน้องรตา ก็อย่ากลับมาที่นี่อีก ไสหัวไปให้พ้นเลยนะ จำเอาไว้”.เสียงคุณพริ้งเสมือนดังอยู่ริมหูบาง มันดังก้อง ชัดเจนจนเธอรู้สึกว่าขนในร่างกายลุกชันเพราะความหวั่นหวาด เธอจะต้องพยายามทำให้เขายอมรับเธอแทนพริมรตาให้ได้ รติมาสูดหายใจลึกๆ เรียกความมั่นใจ“คุณชาคริตคะ...ได้โปรดเถอะนะคะ น้องมดจะทำหน้าที่แทนพี่รตาทุกอย่าง ได้โปรดรับน้องมดไว้แทนนะคะ”รติมาแข็งใจเดินมาทรุดนั่งคุกเข่าต่อหน้าคนซึ่งนั่งเฉยราวรูปปั้น และหากเขาเป็นรูปปั้นจริงๆ ก็นับว่าเป็นรูปปั้นที่หล่อเหลาเอาการอยู่แม้จะติดเย็นชาไปบ้างก็ตามทีบ้าจังน้องมดคิดอะไรเนี่ย...เธอเอ็ดตัวเ
ตอนที่6คุณประเสริฐนั่งมองร่างแบบบางที่หลับพริ้มอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเรียวรูปไข่นั้นสวยนวลเนียนไร้ที่ติ คิ้วเรียวราววาดด้วยพู่กันของจิตกรเอก ดวงตากลมโตที่เขาเคยได้เห็นนั้นดำสนิทเงาระยับประดับด้วยแพขนตางามงอนอ่อนช้อย หากแต่ดวงตางดงามนั้นแฝงไว้ด้วยความหม่นเศร้าไม่สมวัยสาวสดใสนั้นหลับพริ้ม จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันได้รูปงดงาม รับกับริมฝีปากรูปกระจับอิ่มระเรื่อแม้จะดูแห้งผาก เธอน่าสงสารและไร้ที่พึ่งพิงในยามนี้ ซ้ำยังต้องมารับเคราะห์แทนคนไร้สำนึกอย่างสองแม่ลูกนั่นอีก นั่นคือสิ่งที่คุณประเสริฐรับรู้และไม่คิดว่าทายาทของอรุณวลัยจะต้องทนอยู่เป็นผู้อาศัยในชายคาบ้านของตนเองมานานว่าสิบปี ซ้ำยังทนให้ผู้หญิงจิตใจหยาบกระด้างอย่างคุณพริ้งโขลกสับราวทาส รวมถึงเรื่องที่เธอเกือบถูกอานนท์ข่มเหงด้วย หนุ่มใหญ่ได้แต่ถอนหายใจอย่างนึกเวทนา แล้วพลันนึกถึงเรื่องที่เขาคุยกับนายหนุ่มเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา“ผมไม่เห็นว่าผมจะต้องสงสารเห็นใจคนพวกนั้น” “คุณคริสครับ อย่าหาว่าผมก้าวก่ายเลยนะครับ แต่คุณหนูน้องมดเธอน่าสงสารจริงๆ” คุณประเสริฐพยายามอย่างที่สุดที่จะเปลี่ยนใจชายหนุ่มให้ยอมรับรติมาแทนพริมรตาซึ่งหายหน้าหนีความรับผิดชอ
ตอนที่ 7“เธอตัดสินใจได้ดีมาก รติมา..” น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาและเหยียดหยามนัก หากแต่รติมาก็ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา“แต่ฉันต้องการความมั่นใจว่าเธอพร้อมจะทำตามข้อตกลงจริงๆ เธอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับฉัน คอยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด สัญญาทั้งหมดระหว่างเรา ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาหรือหย่าขาดจากเธอไม่ว่าฉันจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม”“คือ แล้วดิฉันเอ่อ...” รติมาอยากจะถามเขาว่า แล้วเธอและเขาจะต้องอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาจริงๆ หรือไม่“เธอจะถามฉันว่า ฉันจะใช้สิทธิ์ของสามีด้วยรึเปล่าใช่ไหม หึหึ”“...” รติมานิ่งอึ้งเมื่อเขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอใบหน้านวลร้อนผ่าวด้วยความอับอาย“ตามสัญญาฉันก็ระบุนี่ว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”“แต่ว่า มัน...มันมากเกินไปน้องมดเสียเปรียบ...” หญิงสาวแย้งอย่างลืมตัวชาคริตยกยิ้มในใจ รติมาไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิด เธอคิดเป็นและรู้ว่าตนเองต้องเจอกับอะไร แต่เธอก็ยังจะยอมรับข้อเสนอของเขาแม้จะแย้งเขาอย่างเสียไม่ได้ก็ตาม เขาไม่เข้าใจเลยว่าหญิงสาวที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีหน้าแบบไหนนั้น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ยอมสองแม่ลูกนั่นขนาดนี้ ซ้ำยังจะยอมทำสัญญากับเขาท
ตอนที่ 8ถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากสีสดของเขานั้นช่างเชือดเฉือนและดูแคลนนัก หากแต่รติมาก็ไม่สามารถแย้งหรือพูดอะไรได้เขามีอดีตที่ฝังใจเมื่อไม่นานมานี้ ท่องไว้รติมา อย่าไปโกรธเขา เขาน่าสงสาร เธอพยายามบอกตัวเองในใจ“แล้วก็เลิกแทนตัวเองว่าดิฉัน เพราะฉันไม่ชอบ ให้เรียกตัวเองว่าน้องมดเหมือนเดิม ค่อยดูเป็นคนที่จะมารองมือรองเท้าฉันหน่อย เข้าใจมั้ย”“ค่ะ คุณชาคริต”“ดี...เอาล่ะ เริ่มทำหน้าที่ของเธอได้... เมียจ๋า ฉันอยากอาบน้ำ” เขาพูดออกมาเรียบๆ แต่เธอรู้ว่าเขาประชด หญิงสาวแอบถอนใจ งานหนักเธอไม่เคยคิดเกี่ยง แต่ งานแรก นี้มันอาจจะไม่ใช่งานหนักกาย แต่มันช่างแสนหนักใจเหลือเกิน...แต่เธอก็จะต้องทำไม่ใช่หรือ หญิงสาวถอนหายใจเมื่อนึกถึงการตัดสินใจของตนเองเธอเลือกแล้วรติมา... เธอเลือกแล้ว...“คุณชาคริตคะ ช่วยขยับมาทางซ้ายหน่อยสิคะ”รติมาบอกคนตัวโตแสนดื้อรั้นที่เธอต้องช่วยเขาอาบน้ำ ซึ่งเป็นงานแรกที่เธอต้องทำ ทันที ที่เริ่มงาน“เธอจะให้ฉันขยับจนหัวทิ่มตกอ่างเลยไหม”“ไม่ใช่ค่ะ แค่ๆ เอ่อ แค่คุณชาคริตขยับมานั่งตรงขอบอ่างตรงนี้ก็พอค่ะ น้องมดจะได้ถอดกางเกงให้คุณสะดวก หากคุณยืนน้องมดกลัวคุณจะล้มเพราะคุณตัวโตก
ตอนที่ 9“เธอกำลังทำอะไร รติมา”เสียงห้าวๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันกลับมามองด้วย กลัวว่าตนจะเจอร่างเปลือยเปล่าของเขาเพราะเธอเป็นคนที่เอาผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำเพียงผืนเดียว และเขาก็คงยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เป็นแน่ เขาเดินมาหยุดข้างหลังเธอและใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นสบู่หอมจากกายเขาและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอระหง“ว่าไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ”“คือ.. คือน้องมดกำลังหาเสื้อผ้าให้คุณชาคริตใส่นอนอยู่ค่ะ”เธอตอบเบาๆ รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่าเธอและเขาใกล้ชิดกันเพียงใด เมื่อร่างเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำของเขาสัมผัสกับต้นแขนเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวสวย และคำตอบที่ได้นั้นก็ยิ่งทำให้เอออยากจะเป็นลม“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้านอน เธอต้องรู้ไว้ซะ”“อะ อะไรนะคะ”“ฉันคิดว่าฉันตอบชัดเจนแล้วนะ เอาล่ะช่วยทาแป้งฝุ่นให้ฉันทีอย่าช้า และอย่ามาทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะดีของฉันมันเสียอีกครั้งเพราะเธอ”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าก็ไม่แตกต่างกันหญิงสาวค่อยๆ หันมาก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนโตพันรอบเอวสอบอยู่ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไรต่อมิอะไรของเขา รติมาเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่
ตอนที่10 .“นี่เธอคือคนรับใช้คุณคริส คนใหม่เหรอ” กุ๊บกิ๊บถามสมาชิกใหม่ด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน“ค่ะ ชื่อน้องมดนะคะ”“ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร แต่ก็ดีรู้จักกันไว้ไม่เสียหลาย แล้วเป็นลูกใคร จบอะไรมา อยู่ที่ไหนมาก่อน มีแฟนรึยัง แล้วเธอคิดว่าจะอยู่รับใช้คุณคริสได้กี่วัน”“นี่นังกุ๊บกิ๊บแกจะมาถามน้องมดทำไมวะ แกมีหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียนบุคคลตั้งแต่เมื่อไหร่”เสียงคนขับรถที่ชื่อว่า เดชา พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจแต่ยิ้มให้รติมาเสียกว้างโชว์ฟันขาวสะอาดที่ตัดกับสีผิว ฟังจากสำเนียงแล้วเดชาน่าจะมาจากที่ราบสูงแน่ๆ“แล้วมันเรื่องอะไรของมึงวะได้เด่ มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่าแส่”“ก็ไม่ได้อยากแส่หรอกโว้ยนังนกสองหัว แค่หมั่นไส้อีพวกสอดรู้สอดเห็นชอบเอาเรื่องของนายไปขายไปหากินกับพวกจิตใจสกปรก”เดชาพูดเยาะๆ ในขณะที่รติมาได้แต่ยืนมองทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่รู้ว่าเรื่องที่ทั้งคู่พูดนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนและมันมีความเป็นมาอย่างไร“เรื่องของกู และกูก็ทำเพื่ออนาคตอีกหน่อยคุณน้องญาก็จะกลับมาแล้ว พวกมึงระวังให้ดีเถอะ แล้วคุณไอรดาก็อาจจะได้เป็นเจ้านายของพวกแกๆๆ และแก ทุกๆ คน พวกแกน่าจะสำนึกเอาไว้”กุ๊บกิ๊บพู
ตอนที่11ห้องๆ นี้เชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่ม ถัดไปนั้นจะเป็นห้องของน้องสาวของชาคริตที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้ว่าเธอชื่อ ชาครียา อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงโดยเครื่องดนตรีไทยพลิ้วไหวไพเราะจนรติมาแทบจะเคลิบเคลิ้มหลับไป ถ้าเสียงดังทรงอำนาจของชาคริตไม่ดังขึ้นเสียก่อน“ฉันจะนอนแล้ว..” เขาพูดเรียบๆ แต่คนฟังนี่สิหัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุออกมานอกอก แต่ก็พยายามใจแข็งจับมือหนานั้นให้เดินกลับไปยังห้องนอนและเขาก็เดินตามเธอไปโดยดี“ความจริงแล้วฉันเดินกลับห้องเองได้”“น้องมดรู้ค่ะ แต่ว่าให้น้องมดพาไปดีกว่านะคะ”เธอกล่าวเบาๆ เมื่อพาเขาเดินมาล้างมือและทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หญิงสาวบีบยาสีผันใส่หลอดให้เขาและยื่นแก้วน้ำให้เขาบ้วนปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดปากให้เขาอย่างอ่อนโยน จึงพาเขามานอนแล้วก็ห่มผ้าให้เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการดูแลประติมากรหนุ่ม“ฉันไม่ชอบห่มผ้านอน มันอัดอัด” เขาพูดเสียงห้วนๆ เหมือนเด็กเด็กเกเร แล้วรั้งผ้าห่มออกจากตัวและทำท่าว่าจะถอดกางเกงที่ตนสวมใส่อยู่“เดี๋ยวๆ ค่ะ คุณชาคริตจะทำอะไรคะ”“อ้าว ก็ฉันบอกแล้ว
ตอนที่12“โอว คุณเยี่ยมมากริต้า อา อย่างนั้นดีมาก” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงแล้วพลิกกายขึ้นทาบทับร่างงามของเธอแทนเมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และเขาก็ไม่ยอมเสียเชิงชายอย่างแน่นอน เดม่อนเข้าแทรกกลางระหว่างเรียวขาเสลาที่อ้าออกกว้างอย่างรู้งานแล้วก้มลงหาดงดอกไม้ที่ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายอย่างหิวกระหายไม่แพ้กันและทันทีที่ลิ้นหนาแตะลงบนกลีบกุหลาบชุ่มฉ่ำ พริมรตาก็ครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่านรัญจวน...แล้วบทรักอันเร่าร้อนของหนุ่มสาวก็ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าหยุดลงง่ายๆ“นี่คุณเลิกเดินไปเดินมาเสียทีเถอะ ผมเวียนหัว”คุณอนันต์ติงภรรยาอย่างหัวเสียทั้งหงุดหงิดที่ไม่สามารถติดต่อลูกเลี้ยงคนสวยได้ หงุดหงิดที่เสียพนัน และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมือคุณพริ้งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้านานนับชั่วโมง“นี่คุณอนันต์ คุณก็ได้แต่นั่งเป็นบื้อเป็นใบ้ ไม่ช่วยฉันคิดบ้างเลยว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไรดี นี่ก็ใกล้วันใช้หนี้เขาแล้วนะคุณ ลูกรตาก็ไปไหนเสียก็ไม่รู้ ดีนะที่นังมดมันยอมไปแทน แล้วเขาก็ยอมให้มันอยู่แทนลูกรตาของฉัน คุณชาคริตเลยไม่ทวงเงินคืน เฮ้อ ทำไมคุณไม่ช่วยฉันหาเงินหาทองมาใช้หนี้เขาบ้างนะคุณอนันต์”นางบ่นอ
ตอนที่84. บทส่งท้าย อวสาน รติมายิ้มกับโปสการ์ดที่ได้รับจากพริมรตา เธออ่านลายมือที่เขียนอย่างบรรจงของพี่สาวซ้ำไปซ้ำมาอย่างเป็นสุขจนสามีที่นอนรอภรรยามานอนแนบข้าง อดทนรอไม่ไหวเดินมารวบร่างอวบไปนอนเคียงข้างเสียเอง“อื้อ พี่คริสทำอะไรระวังหน่อยสิคะ แล้วนี่ดูลูกดีรึยังคะ น้องภูมิ หลับสบายรึเปล่า” หญิงสาวเอ็ดสามีเบาๆ แล้วถามถึงน้องภูมิหรือ เด็กชาย รติภูมิ บุตรชายที่เพิ่งกินนมแล้วหลับไปเมื่อสักครู่ ชาคริตหน้างอเมื่อคิดว่าตอนนี้ตนเริ่มหมดความสำคัญกับภรรยา แล้วยังอิจฉาเจ้าลูกชายตัวน้อยที่ได้ดื่มกินนมมารดาอย่างอิ่มหนำซ้ำเจ้าตัวแสบก็มักจะร้องแผดจ้าทุกครั้ง ยามที่เขาอยากจะชิดใกล้แล้วทำอะไรๆ อย่างที่ใจปรารถนากับคุณแม่คนสวย จนตอนนี้เขาอยากจะหึงหวงรติมากับลูกชายนัก“หลับแล้ว น้องมดไม่ต้องห่วงหรอก พี่คริสน่ะเป็นยิ่งกว่าทาสน้องภูมิอีก” ชายหนุ่มพูดงอนๆ พลางซุกหน้าลงกับอกอิ่มอย่างแสนจะคิดถึง อยู่ใกล้กันทุกวันแต่เหมือนห่างไกลเพราะรติมาทุ่มเทดูแลบุตรชายวัยเจ็ดเดือนด้วยตนเองจนไม่มีเวลาได้คลอเคลียกันเหมือนก่อน“อิจฉาลูกหรือคะ”“ก็มันน่าอิจฉาไหมล่ะ น้องมดดูแลสนใจแต่น้องภูมิปล่อยให้พี่คริสเหี่ยวเฉาเพราะ...”“
ตอนที่83.ชาครียามองหน้าคนที่เธอเคยตั้งแง่รังเกียจอย่างรักและชื่นชม และรู้สึกละอายนักที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายหญิงสาวคนนี้ เพราะทิฐิและความหูเบาโง่เขลาของตนเอง“พอกันล่ะค่ะ พี่มด พี่รุจก็ชอบแหย่พี่คริส... พี่มดคะ น้องญายังไม่มีโอกาสขอโทษพี่มดตรงๆ เลยสักครั้ง... น้องญาขอโทษกับทุกๆ เรื่องที่ผ่านมานะคะ”“โธ่... น้องญา พี่มดไม่เคยโกรธน้องญาเลยนะคะ กลับกันก็ยังรู้สึกละอายใจด้วยซ้ำ พี่เองก็ต้องขอโทษน้องญาเหมือนกัน หากพี่เคยทำอะไรให้น้องญาไม่สบายใจ” สองสาวยิ้มให้กันอย่างเป็นสุขด้วยความรักและเข้าใจ รติมาเอื้มมือไปกุมมือของชาครียาไว้ด้วยความรัก เธอไม่เคยโกรธหรือเกลียดชาครียาเลยสักครั้ง และดีใจเหลือเกินที่วันนี้ทุกคนเข้าใจกันรักและห่วงหาอาทรกัน ครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบแล้ว...“คุยอะไรกันจ๊ะสาวๆ” เสียงสองหนุ่มดังแข่งกันมายังห้องนั่งเล่นซึ่งสองว่าที่คุณแม่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กอยู่“นี่เลยครับ พวกเรามาพร้อมลูกตาลลอยแก้ว อร่อยเย็นชื่นใจ”“โอ้โห อย่าบอกนะคะว่าพี่คริสกับพี่รุจช่วยกันทำ”“ใช่แล้วจ้ะน้องรัก”“มันกินได้แน่นะคะ งั้น... น้องญาขอชิมก่อน” ชาครียามองลูกตาลลอยแก้วตรงหน้าอย่างสน
ตอนที่82.“เป็นสาวเป็นนาง ห้ามบอกรักผู้ชายก่อนรู้ไหม น้องมดมาบอกรักพี่คริสก่อนได้อย่างไร น้องมดต้องให้พี่พูดว่า พี่ คริสรักน้องมดก่อน ตัวเองค่อยมาบอกรักตอบพี่ เล่นบอกรักพี่คริสก่อนแบบนี้พี่ก็เสียเชิงชายแย่สิ” “พี่คริส...” รติมาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหู ชาคริตบอกว่ารักเธอใช่ไหม พี่คริสรักน้องมด...“มาทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ในวัดได้อย่างไรกัน มันบาปรู้ไหม”“คนบ้า คนเขาทำหน้าน่ารักมันบาปตรงไหนกัน” เมื่อความเข้าอกเข้าใจเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ใจสองดวงหญิงสาวก็กล้าที่จะหยอกเย้ากับเขาบ้าง มือบางทุบเบาๆ กับอกแกร่งแล้วผละออกห่างร่างหนาอย่างขัดเขินใบหน้านวลแดงจัดจรดใบหูบาง ชาคริตมองภาพหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่สุขล้น เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว...“บาปสิ บาปที่ทำให้พี่คริสนึกอยากจูบน้องมด แต่ทำไม่ได้”“พี่คริส ไม่เสียใจแล้วใช่ไหมคะ ที่คุณอ้อมเธอจากไป” หญิงสาวถามเขาเมื่อนึกถึงว่าตนเองอยู่ที่ใด“เสียใจมั้ยที่อ้อมเสียไป พี่ก็เสียใจนะ แต่พี่เสียใจเพราะพี่ยังไม่ได้ตอบแทนน้ำใจของอ้อมเลยต่างหาก น้องมดเข้าใจใช่ไหม” เขาถามเธอเมื่อทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเขาได้บอกเล่าให้เธอรับรู้ หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข
ตอนที่ 81.ส่วนพริมรตาก็ถอนหายใจแรงๆ อย่างโล่งอกเมื่อสามารถจัดการไอรดาได้ แล้วเมื่อคิดว่าเธอช่างบ้าบิ่นวิ่งเข้าหาคนที่มีปืนอยู่ในมืออย่างไม่กลัวเกรงแล้วก็ต้องนึกทึ่งและขันตนเองไปพร้อมๆ กัน เพราะก่อนหน้านั้นเธอกำลังปฐมพยาบาลรติมาอยู่ เมื่อรติมาฟื้นได้สติแล้วรู้ว่าชาคริตกำลังเผชิญหน้ากับไอรดาตามลำพังรติมาก็ลุกพรวดพราดเข้ามาทำให้เธอต้องวิ่งตามมาด้วยและเมื่อเห็นว่าไอรดากำลังจะยิงชาคริตรติมาก็วิ่งเข้าไปเพื่อจะกันร่างชาคริตไว้โดยไม่คิดชีวิต ส่วนตัวเธอเองก็ห่วงน้องสาวและหลานจะเป็นอันตรายก็เลือกที่จะเข้าหาไอรดาโดยวิ่งพุ่งชนร่างไอรดาอย่างแรงจนวิถีกระสุนเบี่ยงเบนไป แล้วใช้สันมือฟาดลงบนมือของไอรดาอย่างแรงจนปืนในมือของไอรดากระเด็นไปไกล พอได้ทีก็จัดการกับไอรดาอย่างที่ทุกคนเห็น พริมรตาหอบหายใจเบาๆ มองไอรดาอย่างที่ยังไม่นึกไว้ใจ“กรี๊ดดด อีบ้า มึง กูจะฆ่ามึง...กรี๊ดดด ปล่อยกูนะ” ไอรดากรีดร้องอย่างเจ็บปวดใจที่ทำพลาดวันนี้เธอพลาด คนพวกนั้นกำลังมีความสุข ชาคริตกับรติมารักกันหวานชื่น ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น สาวน้อยกรีดร้องโหยหวนอีกครั้งก่อนจะถูกตำรวจจับร่างเล็กเข้าไปในรถเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นท
ตอนที่80.“พี่รัก...”“รักใครคะ..” ไอรดาตื่นเต้น เมื่อชายหนุ่มที่ตนแอบหลงรักมานานกำลังจะเอ่ยความในใจกับเธอ สาวน้อยคิดเข้าข้างตัวเองอย่างช่วยไม่ได้“ปล่อยรติมาก่อนสิน้องไอ พี่คริสสัญญาว่าจะบอกน้องไอคนเดียว” ชายหนุ่มต่อรองไอรดามองเขาที มองรติมาทีอย่างชั่งใจ และค่อนข้างสะใจที่เห็นรติมาน้ำตานองหน้า“หึ ในที่สุดพี่คริสก็ไม่รักแกนังแม่มด..” ไอรดาผลักรติมาอย่างแรงด้วยความสะใจ รติมาเซถลาแล้วล้มกองที่พื้นอย่างอ่อนแรง แต่ความจริงเธอหมดแรงกับคำพูดของชาคริตต่างหาก ชาคริตปรายตามองและส่งสัญญาณให้พริมรตาที่แอบเข้ามาให้เข้ามาช่วยรติมาออกไป พริมรตาอ้อมไปทางด้านหลังห้องนั่งเล่นแล้วปีนหน้าต่างเข้ามาด้วยความช่วยเหลือจากพี่จอยและพี่จุ๊บแจง ส่วนพี่แสงก็อ้อมไปอีกด้าน ในขณะที่แม่จิตรอเปิดประตูให้ตำรวจที่หน้าบ้าน“มานี่สิน้องไอ” ชาคริตเรียกเธออีกครั้งแล้วยื่นมือไปข้างหน้า สาวน้อยยิ้มกว้างดีใจจนลืมหญิงสาวที่เธอปองร้าย รีบยื่นมือมาจับมือหนาทันที แต่แล้วสายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ตรงหน้าต่าง ไอรดาปัดมือชายหนุ่มออกห่างแล้วหันกลับไปหารติมาอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเธอเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ แล้
ตอนที่79.“รตาเห็นน้องมดบ้างไหม”“ไม่เห็นค่ะ นั่งอยู่ในออฟฟิศรึเปล่าคะ”“ไม่อยู่นะหรือว่าน้องมดเข้าบ้านไปแล้ว”“เอ ไม่แน่ใจนะคะวันนี้ลูกค้าเยอะด้วยรตาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าน้องมดอยู่ในห้องรึเปล่า มีอะไรรึเปล่าคะ”“ตอนนี้รติมาไม่ปลอดภัย เราทุกๆ คนด้วยเอาเป็นว่ารีบปิดร้าน ผมจะไปตามหาน้องมดแล้วผมจะเล่าให้ฟัง”กรี๊ดดด...! เสียงกรีดร้องของรติมาดังมาจากบ้านหลังงาม ชาคริตกับพริมรตาหันไปยังทิศทางของบ้านด้วยความตกใจ ชายหนุ่มรีบวิ่งไปยังประตูที่เชื่อมระหว่างบ้านกับร้านอย่างรวดเร็ว หากแต่คีย์การ์ดที่เคยใช้กลับไม่สามารถเปิดประตูได้ ชายหนุ่มพยายามรูดบัตรอยู่หลายครั้งก็พบความผิดปรกติ ระบบการทำงานของเครื่องรูดบัตรเสียหายเนื่องจากมีคนทำอะไรสักอย่างกับมัน ชายหนุ่มหน้าซีดด้วยความเป็นห่วงคนที่อยู่ในบ้าน ร่างสูงมองรั้วสูงตรงหน้าด้วยความหวัง ส่วนพริมรตารีบไปบอกทุกคนให้รีบปิดร้านแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจก่อนจะวิ่งตามชาคริตไปในขณะเดียวกันรติมากำลังเผชิญหน้ากับสาวน้อยที่เธอเพิ่งรู้ว่าเป็นบุคคลอันตรายและร้ายกาจ ร่างอวบอิ่มเพราะอายุครรภ์มากขึ้นถอยหลังช้าๆ เมื่อร่างบอบบางทว่าดูแกร่งกระด้างของไอรดาเดินยังเธอพร้อมม
ตอนที่78.ร้านอาหาร อบอุ่น อิ่มอร่อย กำลังเป็นที่รู้จักของเหล่าคนทำงานและคนละแวกใกล้เคียง ด้วยบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งเหมือนห้องอาหารในบ้าน และร่มรื่นด้วยแมกไม้อีกทั้งยังแบ่งบริเวณสวนสวยหน้าบ้านให้ผู้ที่มารับประทานอาหารได้นั่งเล่นชมสวนสวย มีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ที่มากับคุณพ่อคุณแม่ได้วิ่งเล่นอีกทั้งความงดงามและการตกแต่งสวนที่สวยงามทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปของบรรดาผู้มารับประทานอาหารเลยทีเดียว โดยทำรั้วกั้นแน่นหนาระหว่างร้านและสวน มีประตูเปิดปิดเข้าออกบริเวณบ้านด้วยประตูที่ใช้ระบบคีย์การ์ด หากใครมาที่นี่แล้วไม่ได้ถ่ายรูปในบริเวณร้านก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึงร้าน อบอุ่นอิ่มอร่อย“อย่าคิดว่าพี่จะยอมแพ้นะน้องมด..” ชาคริตรำพึงกับตัวเองหนักแน่น เขาเคยทำให้เธอเป็นของเขาได้แล้วครั้งหนึ่ง แล้วทำไมจะทำให้เธอยอมคืนดีและมาเป็นภรรยาของเขาอีกไม่ได้ หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลล่ะนะคราวนี้...“นี่คุณ จะเข้ามาวุ่นวายในครัวทำไมออกไปนะ ดูสิออเดอร์ลูกค้าเยอะแยะ” รติมาเอ็ดคนตัวโตที่เข้ามายืนใกล้ๆ เธอ แล้วมองค้อนเขาอย่างขัดเคือง ในที่สุดชาคริตก็กินนอนอยู่ในบ้านเธออย่างมีความสุข ซ้ำพวกพี่ๆ ทั้ง
ตอนที่77.“น้องมดว่าเราควรอโหสิให้เขานะคะ เราจะได้ไม่ติดค้างกัน”“จ้ะ ขอบใจนะน้องสาวของพี่ อ้าวนั่นคุณคริสมาแล้ว พี่ขอตัวไปช่วยแม่จิตดูความเรียบร้อยในร้านดีกว่า วันนี้ท่าทางลูกค้าเราจะเยอะนะ บอกแต่พี่ให้อภัยคนอื่น แล้วตัวเองก็อย่าลืมให้อภัยเขาด้วยล่ะ” พริมรตาที่วันนี้ดูสดใสและอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมมากกล่าวยิ้มๆ เมื่อเห็นร่างสูงของชาคริตเดินมาแต่ไกลตอนนี้เธอมีความสุขเหลือเกินหญิงสาวบอกตัวเอง คำว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำนั้น เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็วันนี้เอง...“จะไปไหนฮึ เห็นหน้าผัวก็เอาแต่เดินหนี” ชาคริตพูดดังๆ และรีบคว้าแขนเรียวไว้เมื่อรติมาทำท่าจะเดินหนีเขา“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่เมียใคร แล้วกรุณาออกไปจากบ้านฉันด้วย”“อะไรกันนี่น้องมดยังคิดจะไล่พี่คริสอีกเหรอทั้งๆ ที่รู้ว่าไล่ก็ไม่ไปแล้วอยากให้พี่คริสทบทวนมั้ยว่าเราเป็นผัวเมียกันจริงรึเปล่าและที่สำคัญทะเบียนสมรสก็ยังยืนยันว่านางรติมา ประติมาไพบูลย์ เป็นภรรยาของนายชาคริต ประติมาไพบูลย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”“แต่มันเป็นทะเบียนปลอมไม่ใช่หรือ อย่ามาพูดมั่วๆ นะ แล้วฉันก็ไม่ใช่เมียของใครจำไว้ซะด้วย”“ตอนนั้นพี่คริสก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง จริงๆ แล้วมัน
ตอนที่76.“กลับบ้านกันก่อนเถอะนะน้องมด พี่ก็เห็นด้วยกับคุณคริส น้องมดดูเพลียมากเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปจะแย่”“เราจะกลับกันแค่สองคนใช่ไหมคะ” รติมาพูดกันท่าชายหนุ่ม“ไม่ครับที่รัก เราจะกลับด้วยกัน” ชาคริตชิงพูดแทนพริมรตาหน้าตายพร้อมทั้งโอบร่างบางไว้แนบกายต่อหน้าพริมรตาที่มองเขายิ้มๆ อย่างเข้าใจ“พี่ก็เห็นด้วยกับคุณคริสนะน้องมด ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเถอะ”“นี่คุณปล่อยฉันนะ อย่ามายุ่งกับฉัน”รติมาหยิกแขนแกร่งที่โอบเอวเธอแรงๆ เมื่อพริมรตาเดินนำหน้าไปก่อน แต่พ่อคุณก็หนังหนาเหลือเกินไม่สะทกสะท้านซ้ำยังโอบร่างเธอให้ชิดมากขึ้นอีก“หากไม่อยากถูกจูบในวัดก็เงียบๆ แล้วก็เดินไปดีๆ จ้ะน้องมด พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ”“นี่คุณขู่ฉันเหรอ”“ไม่ได้ขู่ แต่น้องมดพูดไม่เพราะเลยนะ แทนตัวเองว่าน้องมดแล้วก็เรียกพี่ว่าพี่คริสเดี๋ยวนี้” ชาคริตพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับหยุดเดินหันมาจ้องริมฝีปากระเรื่อแม้จะดูซีดเซียวไปบ้างอย่างเสน่หาจนหญิงสาวรู้สึกหวิวไหว สะบัดหน้าหนีสายตาคมนั้นอย่างไม่อาจจะทานทนได้ ก็แววตาเขาช่างร้อนแรงแทบจะแผดเผาเธอให้ละลายเป็นขี้ผึ้งโดนไฟขนาดนั้นใครจะทนมองไหว รติมาหน้าแดงขึ้นมาทันที ซึ่งมันทำให้ชา