“เธอตัดสินใจได้ดีมาก รติมา..” น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาและเหยียดหยามนัก หากแต่รติมาก็ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา
“แต่ฉันต้องการความมั่นใจว่าเธอพร้อมจะทำตามข้อตกลงจริงๆ เธอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับฉัน คอยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด สัญญาทั้งหมดระหว่างเรา ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาหรือหย่าขาดจากเธอไม่ว่าฉันจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม”
“คือ แล้วดิฉันเอ่อ...” รติมาอยากจะถามเขาว่า แล้วเธอและเขาจะต้องอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาจริงๆ หรือไม่
“เธอจะถามฉันว่า ฉันจะใช้สิทธิ์ของสามีด้วยรึเปล่าใช่ไหม หึหึ”
“...” รติมานิ่งอึ้งเมื่อเขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอใบหน้านวลร้อนผ่าวด้วยความอับอาย
“ตามสัญญาฉันก็ระบุนี่ว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”
“แต่ว่า มัน...มันมากเกินไปน้องมดเสียเปรียบ...” หญิงสาวแย้งอย่างลืมตัว
ชาคริตยกยิ้มในใจ รติมาไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิด เธอคิดเป็นและรู้ว่าตนเองต้องเจอกับอะไร แต่เธอก็ยังจะยอมรับข้อเสนอของเขาแม้จะแย้งเขาอย่างเสียไม่ได้ก็ตาม เขาไม่เข้าใจเลยว่าหญิงสาวที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีหน้าแบบไหนนั้น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ยอมสองแม่ลูกนั่นขนาดนี้ ซ้ำยังจะยอมทำสัญญากับเขาทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองเสียเปรียบ
“ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่า ป้าของเธอเอาเงินจากฉันไปสิบล้าน ตอนที่ฉันเสนอให้ป้าเธอส่งลูกสาวมารับใช้ฉัน แล้วยังบอกให้ฉันสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้ เพื่อไม่ให้เอาเงินสิบล้านคืน พอไหมเหตุผล”
“ไม่จริง ทำไมคุณป้าต้องทำแบบนั้นด้วย”
“ก็เพราะป้าเธอโลภมากอย่างไรล่ะ แล้วยังเห็นแก่ตัวมากๆ ด้วย ว่าไหม”
ชาคริตพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลานั้นเฉยสนิทไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แน่นอน เขารู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็ได้เปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง คุณพริ้งหักหลังเขาด้วยการเอาเงินจากเขาไปสิบล้าน ซ้ำยังส่งคนอื่นมาแทนเพื่อให้ลูกสาวของตนพ้นความรับผิดชอบ ซึ่งความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องให้เงินคุณพริ้งก็ได้เพราะเขาเป็นฝ่ายเสียหาย เขาต่างหากควรจะได้ค่าเสียหายจากคุณพริ้งแต่คนอย่างชาคริตไม่ได้คิดแค่นั้น บริษัทออกแบบตกแต่งภายในของบิดารติมานั้นต่างหากที่เขาสนใจ บริษัทนั้นมั่นคงเพราะมีหุ้นส่วนที่จริงจังกับการทำงานและมีคนเก่งมีฝีมือบริหารจัดการ แม้ที่ผ่านมาคุณพริ้งจะไม่ได้ใส่ใจมันนัก แต่มันก็สร้างกำไรอย่างงามให้กับคุณพริ้ง แต่ช่วงหลังๆ มานี้มันเริ่มซวนเซเล็กน้อยและเขาก็ต้องการมัน และคนโลภอย่างคุณพริ้งก็ต้องตกลงยกมันให้เขาด้วยจำนวนเงินแค่สิบล้าน
“ในนั้นระบุด้วยไม่ใช่หรือว่าหากเธอตกลงตามข้อเสนอของฉัน บ้านอรุณวลัยก็จะกลับไปเป็นของเธอ”
“ค่ะ ดิฉันรู้ แต่ว่า ข้อที่บอกว่าคุณสามารถให้ฉันทำอะไรก็ตามใจคุณ ซึ่งข้อนี้มัน เอ่อ ฉัน...”
หญิงสาวอึกอัก ก็สัญญาข้อนี้มันทะแม่งๆ หากเขาต้องการให้เธอทำอะไรที่ไม่ดี เธอจะทำอย่างไร อย่างเช่น... หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จะไม่ให้เธอคิดไปไกลได้อย่างไรล่ะ
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เธอทำอะไรที่ผิดศีลธรรมหรือไม่ดีแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก เอาไว้ฉันคิดออกฉันจะบอกเอง แล้วตกลงเธอจะเซ็นสัญญารึยัง ถ้าพร้อมแล้วก็เรียกคุณประเสริฐเข้ามา...”
ชาคริตตัดบทแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่โดยไม่สนใจจะพูดกับเธออีก
รติมาถอนใจอย่างหนักอึ้ง สัญญาของเขานั้นไม่เท่าไหร่ แต่การจดทะเบียนสมรสกับเขานี่สิ มันแสนจะหนักใจนัก แต่ทะเบียนสมรสแลกกับบ้านและเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ชาคริตระบุในสัญญานั้นมันก็ทำให้เธอต้องคิด ใช่ว่าเธออยากจะได้เงินหรือโลภมากอย่างคุณพริ้ง แต่เพราะมันหมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกคน รวมทั้งเธอยังได้บ้านซึ่งเป็นของเธอคืนมาเป็นของตนเองจริงๆ ...
เธอถูกเลี้ยงมาโดยแม่จิตตั้งแต่สามขวบซึ่งแม่จิตนั้นก็เสมือนแม่คนที่สองของเธอเลยก็ว่าได้ และยังมีคนรับใช้อีกสามคนที่ยังคงรักภักดีต่อบิดามารดาของเธอ แม้ว่าท่านทั้งสองจะจากโลกนี้ไปแล้วกว่าสิบปี แต่คนเหล่านั้นก็ช่วยเหลือดูแลเธอมาอย่างดี แม้เธอจะถูกกดขี่ข่มเหงจากสองแม่ลูกก็ตาม แต่พี่จู๊บแจงพี่จอย และพี่แสง ต่างก็คอยดูแลทายาให้เธอเสมอยามได้รับแผลฟกช้ำจากสองแม่ลูกเมื่อเธอทำอะไรไม่ถูกใจ ยามป่วยไข้แม่จิตก็คอยดูและป้อนยาป้อนน้ำไม่ต่างจากมารดา ที่คอยดูแลลูกน้อยโดยไม่นึกรังเกียจ ทั้งๆ ที่เธอได้เปลี่ยนสถานะจากลูกของผู้เป็นนาย เป็นเพียงคนอาศัยพวกเขาจะไม่ดูแลเธอก็สามารถทำได้ หากแต่พวกเขากลับปฏิบัติต่อเธอราวกับไข่ในหิน เธอจะปล่อยให้พวกเขาลำบากได้หรือ จะปล่อยให้บ้านหลังงามของเธอถูกขายทอดตลาดแล้วให้ผู้มีพระคุณของเธอต้องลำบากได้หรือ หญิงสาวถอนใจยอมรับสภาพความเป็นไปของตนอย่างจำนน...
“คุณชาคริตจะให้ดิฉันเริ่มงานวันนี้เลยหรือคะ” เธอถามตาโต มองคนตาบอดรูปหล่ออย่างกังขาเมื่อการจดทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่ สิ้นสุดลงอย่างเรียบง่าย รติมาก็เจอกับฤทธิ์เดชประติมากรหนุ่มหล่อทันที ใช่แล้ว.. สิ่งที่เธอจะต้องทำต่อไปนี้มันเป็นงานๆ หนึ่งซึ่งเธอจะต้องรับผิดชอบไปจนกว่าเขาจะมองเห็น แม้จะจดทะเบียนสมรสกันแต่เธอกับเขาก็มีสถานะเสมือนลูกจ้างกับนายจ้าง มิใช่สามีภรรยา
“ใช่ ทำไม หรือว่าเธอมีปัญหา ในสัญญาก็บอกอยู่แล้วว่า ฉันสามารถกำหนดวันเวลาที่จะให้เธอทำหน้าที่ของเธอได้ทุกเมื่อ และหากเธอมีปัญหาฉันสามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที หรือว่าเธอไมได้อ่าน”
เสียงนั้นเพิ่มองศาความฉุนเฉียวมากขึ้นจนรติมาตัวสั่นเพราะอัดอั้นโกรธกรุ่นขึ้นมานิดๆ และเธอกลัว?
“เอ่อ คือ...” ตอนนี้รติมากลายเป็นคนติดอ่างสมองไม่สั่งการชั่วคราว ในวันนี้เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถพูดจาได้คล่องแคล่วหรือคิดอะไรได้ดีเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เธอนั้น เรื่องความคิดอ่านก็ไม่เป็นสองรองใคร
“เธอเป็นโรคติดอ่างเหรอ” นั่นไง เธอถูกเจ้านายหมาดๆ ว่าเข้าให้แล้ว
“ปละ เปล่าค่ะ เพียงแต่ดิฉันคิดว่า คุณจะให้เวลาฉันเริ่มงานพรุ่งนี้เสียอีก” เสียงหวานแผ่วพลิ้วเอ่ยเบาๆ
“แล้วตกลงเธอจะเอาอย่างไร จะเริ่มวันนี้ แล้วทุกอย่างเป็นไปตามสัญญา หรือจะเริ่มพรุ่งนี้แล้วทุกอย่างโมฆะ”
“คือ...”
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงอย่างพวกเธอก็แบบนี้ล่ะ ทำเป็นอ่อนแอเปราะบางและชอบเรียกร้องความสนใจด้วยท่าทางอินโนเซ้นต์คิดอ่านเหมือนเด็กสามขวบ แต่จริงๆ แล้วร่าน แบให้ไม่เลือก”
ตอนที่ 8ถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากสีสดของเขานั้นช่างเชือดเฉือนและดูแคลนนัก หากแต่รติมาก็ไม่สามารถแย้งหรือพูดอะไรได้เขามีอดีตที่ฝังใจเมื่อไม่นานมานี้ ท่องไว้รติมา อย่าไปโกรธเขา เขาน่าสงสาร เธอพยายามบอกตัวเองในใจ“แล้วก็เลิกแทนตัวเองว่าดิฉัน เพราะฉันไม่ชอบ ให้เรียกตัวเองว่าน้องมดเหมือนเดิม ค่อยดูเป็นคนที่จะมารองมือรองเท้าฉันหน่อย เข้าใจมั้ย”“ค่ะ คุณชาคริต”“ดี...เอาล่ะ เริ่มทำหน้าที่ของเธอได้... เมียจ๋า ฉันอยากอาบน้ำ” เขาพูดออกมาเรียบๆ แต่เธอรู้ว่าเขาประชด หญิงสาวแอบถอนใจ งานหนักเธอไม่เคยคิดเกี่ยง แต่ งานแรก นี้มันอาจจะไม่ใช่งานหนักกาย แต่มันช่างแสนหนักใจเหลือเกิน...แต่เธอก็จะต้องทำไม่ใช่หรือ หญิงสาวถอนหายใจเมื่อนึกถึงการตัดสินใจของตนเองเธอเลือกแล้วรติมา... เธอเลือกแล้ว...“คุณชาคริตคะ ช่วยขยับมาทางซ้ายหน่อยสิคะ”รติมาบอกคนตัวโตแสนดื้อรั้นที่เธอต้องช่วยเขาอาบน้ำ ซึ่งเป็นงานแรกที่เธอต้องทำ ทันที ที่เริ่มงาน“เธอจะให้ฉันขยับจนหัวทิ่มตกอ่างเลยไหม”“ไม่ใช่ค่ะ แค่ๆ เอ่อ แค่คุณชาคริตขยับมานั่งตรงขอบอ่างตรงนี้ก็พอค่ะ น้องมดจะได้ถอดกางเกงให้คุณสะดวก หากคุณยืนน้องมดกลัวคุณจะล้มเพราะคุณตัวโตก
ตอนที่ 9“เธอกำลังทำอะไร รติมา”เสียงห้าวๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันกลับมามองด้วย กลัวว่าตนจะเจอร่างเปลือยเปล่าของเขาเพราะเธอเป็นคนที่เอาผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำเพียงผืนเดียว และเขาก็คงยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เป็นแน่ เขาเดินมาหยุดข้างหลังเธอและใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นสบู่หอมจากกายเขาและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอระหง“ว่าไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ”“คือ.. คือน้องมดกำลังหาเสื้อผ้าให้คุณชาคริตใส่นอนอยู่ค่ะ”เธอตอบเบาๆ รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่าเธอและเขาใกล้ชิดกันเพียงใด เมื่อร่างเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำของเขาสัมผัสกับต้นแขนเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวสวย และคำตอบที่ได้นั้นก็ยิ่งทำให้เอออยากจะเป็นลม“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้านอน เธอต้องรู้ไว้ซะ”“อะ อะไรนะคะ”“ฉันคิดว่าฉันตอบชัดเจนแล้วนะ เอาล่ะช่วยทาแป้งฝุ่นให้ฉันทีอย่าช้า และอย่ามาทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะดีของฉันมันเสียอีกครั้งเพราะเธอ”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าก็ไม่แตกต่างกันหญิงสาวค่อยๆ หันมาก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนโตพันรอบเอวสอบอยู่ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไรต่อมิอะไรของเขา รติมาเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่
ตอนที่10 .“นี่เธอคือคนรับใช้คุณคริส คนใหม่เหรอ” กุ๊บกิ๊บถามสมาชิกใหม่ด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน“ค่ะ ชื่อน้องมดนะคะ”“ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร แต่ก็ดีรู้จักกันไว้ไม่เสียหลาย แล้วเป็นลูกใคร จบอะไรมา อยู่ที่ไหนมาก่อน มีแฟนรึยัง แล้วเธอคิดว่าจะอยู่รับใช้คุณคริสได้กี่วัน”“นี่นังกุ๊บกิ๊บแกจะมาถามน้องมดทำไมวะ แกมีหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียนบุคคลตั้งแต่เมื่อไหร่”เสียงคนขับรถที่ชื่อว่า เดชา พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจแต่ยิ้มให้รติมาเสียกว้างโชว์ฟันขาวสะอาดที่ตัดกับสีผิว ฟังจากสำเนียงแล้วเดชาน่าจะมาจากที่ราบสูงแน่ๆ“แล้วมันเรื่องอะไรของมึงวะได้เด่ มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่าแส่”“ก็ไม่ได้อยากแส่หรอกโว้ยนังนกสองหัว แค่หมั่นไส้อีพวกสอดรู้สอดเห็นชอบเอาเรื่องของนายไปขายไปหากินกับพวกจิตใจสกปรก”เดชาพูดเยาะๆ ในขณะที่รติมาได้แต่ยืนมองทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่รู้ว่าเรื่องที่ทั้งคู่พูดนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนและมันมีความเป็นมาอย่างไร“เรื่องของกู และกูก็ทำเพื่ออนาคตอีกหน่อยคุณน้องญาก็จะกลับมาแล้ว พวกมึงระวังให้ดีเถอะ แล้วคุณไอรดาก็อาจจะได้เป็นเจ้านายของพวกแกๆๆ และแก ทุกๆ คน พวกแกน่าจะสำนึกเอาไว้”กุ๊บกิ๊บพู
ตอนที่11ห้องๆ นี้เชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่ม ถัดไปนั้นจะเป็นห้องของน้องสาวของชาคริตที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้ว่าเธอชื่อ ชาครียา อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงโดยเครื่องดนตรีไทยพลิ้วไหวไพเราะจนรติมาแทบจะเคลิบเคลิ้มหลับไป ถ้าเสียงดังทรงอำนาจของชาคริตไม่ดังขึ้นเสียก่อน“ฉันจะนอนแล้ว..” เขาพูดเรียบๆ แต่คนฟังนี่สิหัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุออกมานอกอก แต่ก็พยายามใจแข็งจับมือหนานั้นให้เดินกลับไปยังห้องนอนและเขาก็เดินตามเธอไปโดยดี“ความจริงแล้วฉันเดินกลับห้องเองได้”“น้องมดรู้ค่ะ แต่ว่าให้น้องมดพาไปดีกว่านะคะ”เธอกล่าวเบาๆ เมื่อพาเขาเดินมาล้างมือและทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หญิงสาวบีบยาสีผันใส่หลอดให้เขาและยื่นแก้วน้ำให้เขาบ้วนปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดปากให้เขาอย่างอ่อนโยน จึงพาเขามานอนแล้วก็ห่มผ้าให้เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการดูแลประติมากรหนุ่ม“ฉันไม่ชอบห่มผ้านอน มันอัดอัด” เขาพูดเสียงห้วนๆ เหมือนเด็กเด็กเกเร แล้วรั้งผ้าห่มออกจากตัวและทำท่าว่าจะถอดกางเกงที่ตนสวมใส่อยู่“เดี๋ยวๆ ค่ะ คุณชาคริตจะทำอะไรคะ”“อ้าว ก็ฉันบอกแล้ว
ตอนที่12“โอว คุณเยี่ยมมากริต้า อา อย่างนั้นดีมาก” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงแล้วพลิกกายขึ้นทาบทับร่างงามของเธอแทนเมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และเขาก็ไม่ยอมเสียเชิงชายอย่างแน่นอน เดม่อนเข้าแทรกกลางระหว่างเรียวขาเสลาที่อ้าออกกว้างอย่างรู้งานแล้วก้มลงหาดงดอกไม้ที่ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายอย่างหิวกระหายไม่แพ้กันและทันทีที่ลิ้นหนาแตะลงบนกลีบกุหลาบชุ่มฉ่ำ พริมรตาก็ครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่านรัญจวน...แล้วบทรักอันเร่าร้อนของหนุ่มสาวก็ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าหยุดลงง่ายๆ“นี่คุณเลิกเดินไปเดินมาเสียทีเถอะ ผมเวียนหัว”คุณอนันต์ติงภรรยาอย่างหัวเสียทั้งหงุดหงิดที่ไม่สามารถติดต่อลูกเลี้ยงคนสวยได้ หงุดหงิดที่เสียพนัน และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมือคุณพริ้งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้านานนับชั่วโมง“นี่คุณอนันต์ คุณก็ได้แต่นั่งเป็นบื้อเป็นใบ้ ไม่ช่วยฉันคิดบ้างเลยว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไรดี นี่ก็ใกล้วันใช้หนี้เขาแล้วนะคุณ ลูกรตาก็ไปไหนเสียก็ไม่รู้ ดีนะที่นังมดมันยอมไปแทน แล้วเขาก็ยอมให้มันอยู่แทนลูกรตาของฉัน คุณชาคริตเลยไม่ทวงเงินคืน เฮ้อ ทำไมคุณไม่ช่วยฉันหาเงินหาทองมาใช้หนี้เขาบ้างนะคุณอนันต์”นางบ่นอ
ตอนที่13.เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเผลอเรียกเขาด้วยชื่อเล่นอย่างลืมตัวและพยายามจะช่วยเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ“ไม่ต้องมาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะฉัน”“เปล่านะคะ น้องมดไม่ได้หัวเราะเยาะคุณและไม่คิดจะสงสารสมเพชคุณคริสด้วย อย่าคิดว่าใครๆ ใจร้ายกับคุณไปเสียหมดสิคะ คนที่เขาเฝ้ามองคุณคริสด้วยความรัก และจริงใจก็ยังมีนะคะ”“อย่ามาทำเป็นรู้ดีเลยรติมา และอย่ามาคิดแทนฉันว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร ฉันรู้ดีว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร เธอเพิ่งจะมาถึงที่นี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงดีด้วยซ้ำจะไปรู้อะไร” เขาตวาดอย่างไม่พอใจที่เธอทำเหมือนรู้ทันความคิดของเขา และพยายามจะลุกโดยไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ชนะ เมื่อพาเขามายังอ่างล้างหน้าได้สำเร็จท่ามกลางอาการขัดขืนของคนตัวโตที่ไม่ยอมรับความหวังดีนั้นนัก“ค่อยๆ แปรงนะคะ ไม่ต้องรีบเดี๋ยวน้องมดจะแปรงฟันเป็นเพื่อน อุ้ย มีแปรงสีฟันสองอันพอดีเลยค่ะ อ่ะนี่ค่ะของคุณคริสนะคะ”รติมาทำเป็นไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของเขาแล้วยังแปรงฟันหน้าตาเฉยหน้ากระจกบานใหญ่ ซึ่งสะท้อนภาพชายหนุ่มหน้าตาบึ้งตึงที่แปรงฟันอย่างกระแทกกระทั้น จนเธอกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่และ
ตอนที่14.เขาเอ่ยถาม น้องญา หรือ ชาครียา ประติมาไพบูลย์ ผู้เป็นน้องสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และสะบัดตัวออกจากมือบางของสาวน้อยอีกคนด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก เขารู้สึกเหมือนถูกรบกวนและก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวซึ่ง ไอรดา เองก็แอบมองค้อนเขาอย่างน้อยใจ“ก็น้องญาอยากให้พี่คริสตื่นเต้นนี่คะ น้องญากับไอก็เลยว่าจะมาเซอร์ไพรส์ แต่ที่ไหนได้พี่คริสกลับกำลังรื่นเริงกกผู้หญิงข้างถนนที่ไหนก็ไม่รู้”ชาครียารีบเข้ามากอดพี่ชาย เธอรู้ว่าพี่คริสของตนกำลังโกรธ แต่เธอเองก็ห่วงและหวงพี่ชายเกินกว่าจะให้ผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้ หากเธอไม่ชอบคนๆ นั้นก็อย่าหวังว่าผู้หญิงหน้าไหนจะเข้าใกล้พี่ชายของเธอได้ชาคริตนิ่งเงียบไม่พูดอะไร หากในห้องนี้มีเพียงเขากับชาครียาเขาเองก็รู้สึกปรกติเพราะเขากับน้องสาวคลุกคลีและสนิทสนมกันมาก แต่เขารับรู้ว่าตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยซึ่งก็คือไอรดาเพื่อนรักของชาครียาซึ่งเป็นน้องสาวของ อารยา อดีตคู่หมั้นเขานั่นเอง“เธอชื่อ รติมา เป็นคนที่จะมาดูแลพี่แล้วเมื่อกี้ก็เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย พี่รู้ว่าน้องญาทำร้ายเธอ และน้องญาก็พูดจาไม่น่ารักเหมือนน้องญาคนเก่าของพี่คริส”“ก็น้องญา...เอ่อ...” สาวน้อยวัยสิบเก้
ตอนที่15“ปากดีไปเถอะพวกมึง คอยดูพอถึงทีของกูบ้างพวกมึงเตรียมตัวกระเด็นออกไปจากที่นี่ได้เลย”“นี่แกยังไม่สำนึกอีกเหรอวะนังกุ๊บกิ๊บ ทำไมแกไม่ไปอยู่บ้านนั้นเลยวะ มาอยู่เห่าๆ หอนๆ ทำไมที่นี่” คราวนี้เสียงของเดชาดังขึ้น พร้อมกับประคองแม่จิตมานั่งที่โต๊ะด้วยท่าทางอ่อนโยนผิดกับรูปลักษณ์ซึ่งดูแข็งกระด้าง“กูก็ไม่อยากอยู่ให้พวกมึงรังแกหรอกโว้ย แต่กูอยู่ก็เพราะกูรักคุณน้องญา“อ้วกกกก” ทั้งเดชา ติ๋มและต้อยต่างก็ทำท่าอาเจียนใส่หน้ากุ๊บกิ๊บที่ยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่“เออ จำไว้เลยพวกมึง แกด้วยนังคุณหนูตกยาก” กุ๊บกิ๊บชี้หน้าทีละคนอย่างเคืองแค้น แล้วสะบัดหน้าเดินตึงๆ จากไปอย่างฉุนเฉียวเมื่อดูเหมือนใครๆ ต่างก็พากันรุมว่าเธอ“เป็นไงบ้างคะแม่จิตหมอว่าไงบ้าง” เมื่อกุ๊บกิ๊บเดินจากไปรติมาก็รีบถามอาการของแม่จิตทันที“ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะคุณหนู เจ้าพวกนี้ก็กังวลกันเกินไป” แม่จิตลูบเรือนผมสลวยอย่างรักใคร่ ยิ้มละไมอย่างสดชื่นเหมือนว่าก่อนหน้านี้นางไม่ได้เป็นลมจนต้องหามกันไปหาหมอ“แล้วนี่หน้าตาไปโดนอะไรมาคะ” นางถามทันทีเมื่อเจอสิ่งผิดปรกติบนใบหน้าสวย“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย น้องมดซุ่มซ่ามเองค่ะ”“ค
ตอนที่ 30.“หึหึ ช่างกล้านักรติมา”ชาคริตพูดเบาๆ กับตนเอง ภาพลิ้นสีชมพูเล็กๆ ที่ไล้เรียวปากอิ่มยามขัดเขินของเธอนั้นตรึงใจเขานัก...มดตัวเล็กๆ ตัวนี้ จะต้องเป็นของเขา ... ชาคริตหมายมั่นในใจแล้วบ่ายวันนั้นรติมาก็ได้มาเที่ยวน้ำตกอย่างที่ใฝ่ฝันไว้จริงๆ หากแต่ก็มีชาคริตมาด้วย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ขัดข้องเมื่อความอยากเที่ยวน้ำตกมีมากกว่าและเธอคิดว่าสามารถดูแลเขาได้ โดยป้าสมใจแม่บ้านคนขยัน ให้ลูกชายซึ่งกำลังอยู่วัยเรียนชั้น ม.ปลายเป็นคนนำทางไปน้ำตก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักนัก และให้สามีของนางเป็นคนขับรถไปด้วยอีกคน“ว้าว น้ำตกสวยที่สุดเลยค่ะป้าสม มิ่งดูสิ พี่มดไม่เคยเห็นน้ำตกที่ไหนสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”รติมาผละจากชาคริตอย่างลืมตัวเมื่อเห็นน้ำตกสายเล็กๆ ที่ทอดตัวลงมาจากหน้าผาเตี้ยๆ แต่ลดหลั่นกันมาเป็นชั้นงดงาม อีกทั้งความร่มรื่นและความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าบริเวณนี้ ก็ช่วยให้คนที่เดินทางมาถึงน้ำตกสดชื่นลืมความเหนื่อยล้าไปสิ้นรติมาชี้ชวนให้
ตอนที่29.“พี่คริสคะ ตื่นสิคะ พี่คริสๆ ฟื้นสิคะพี่คริสเป็นอะไรคะ”หญิงสาวพยายามปลุกเขาให้ฟื้นขึ้นมาหากแต่เขาก็ยังนอนนิ่งสนิทจนเธอใจเสีย หญิงสาวเงยหน้ามองฟ้ามืดมิดผ่านม่านสายฝนกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา แล้วกัดฟันพยุงร่างหนาขึ้นมาแล้วค่อยๆ พาเขาเดินเข้าบ้านพักด้วยความยากลำบาก วันนี้ทั้งป้าสมใจกับลุงมิ่งต่างก็ขอลาไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด วันนี้เธอจึงอยู่กับเขาเพียงสองคน“พี่คริสคะ พี่คริส” รติมาพยายามปฐมพยาบาลให้เขาฟื้นหลังจากที่เธอพาเขาเข้าบ้านได้สำเร็จแล้ว จัดแจงทำความสะอาดร่างหนาอย่างรวดเร็วและตรวจดูว่าร่างกายเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าได้รับบาดเจ็บหรือโดนสัตว์หรือแมลงกัดต่อยหรือไม่ ก่อนจะโทรศัพท์เรียกแพทย์ประจำตัวของเขา เมื่อยังเห็นว่าเขายังนอนนิ่งรติมาก็เริ่มใจเสียเมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ แล้วหมอก็ยังไม่มาสักที อีกทั้งพายุฝนก็โหมกระหน่ำอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแล้วเวลาที่เธอรอคอยก็มาถึงเมื่อเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้านพัก สักครู่ร่างของแพทย์ประจำตัวของชาคริตซึ่งเธอเองก็รู้จักดีกางร่มเดินลงมาจา
ตอนที่28.ความร้อนผ่าวมวนหมุนอยู่ใจกลางร่าง ทำให้หญิงสาวหลับตาลงอย่างซ่านเสียว ความชื้นฉ่ำอยู่บริเวณใจกลางร่างสาวทำให้หญิงสาวมึนเมาและสับสนในอารมณ์ ทั้งตื่นเต้นอยากลิ้มลองความรู้สึกแปลกใหม่ซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นมาเป็นริ้วๆ แต่ความขลาดกลัวตื่นตระหนกต่อความรู้สึกดังกล่าวก็ทำให้เธอฝืนร่างออกจากการกอดเกี่ยวของเขาแต่การกระทำของเธอกลับเป็นการยั่วยุให้อารมณ์หนุ่มตื่นเร้ามากขึ้นชาคริตเคล้นคลึงอกอบอย่างเมามัน แล้วค่อยๆ เลื่อนใบหน้าหล่อเหลาลงมาตามลาดโค้งเอวบาง เขาจูบไซร้เรือนกายสาวอย่างหลงใหล ลิ้นหนาหยอกเอินแอ่งสะดือสาวอย่างยั่วเย้าจนหญิงสาวรูสึกเสียวซ่านไปทั้งกายและเมื่อเขาทำท่าว่าจะเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปเธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นหวาด“หยะ อย่าค่ะคุณคริส อา...พี่คริสอย่า...” เธอร้องเสียงหลงทั้งสับสนและหวั่นไหว เมื่อมือหนาแยกเรียวขาที่อ่อนแรงของเธอออกจากกันกว้างและทำท่าจะโน้มใบหน้าลงมาใจกลางร่างสาวและเรียกเขาอย่างหลงลืมตน“น้องมดจ๋า...หอมหวานที่สุดเลย” ชาคริตหลงเพริดไปกับความหวานละมุนและกลิ่นสาบสาว แ
ตอนที่ 27ปลายประโยคสุดท้ายเธอพูดเสียงแผ่วจนชายหนุ่มนึกขัน เขาคิดว่าตอนนี้เธออาจกำลังหน้าแดงก่ำอยู่เป็นแน่ความรู้สึกขัดเคืองก่อนหน้านี้ที่เธอมาช้าก็พลอยเลือนๆ ไปยิ่งเธอเริ่มรู้จักพูดคุยกับเขามากขึ้น ตอบโต้เขาบ้างนอกจากจะพูดแต่เพียงคำว่า ค่ะๆ ลนลานทำงานเหมือนหวาดกลัวเขาเช่นช่วงแรกๆ ที่เธอมา เพราะมันทำให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดเมื่อใครๆ ต่างก็ต้องทำตามใจเขาด้วยความหวาดกลัวลนลาน และทำแค่พอผ่านๆ แต่สำหรับรติมาเขารับรู้ได้ว่าเธอมีความตั้งใจในการดูแลเขาและเธอก็ดูแลเขาอย่างดีทุกๆ วัน ทุกอย่างที่เธอทำนั้นบ่งบอกถึงความตั้งใจ แม้เขามองไม่เห็นก็สามารถรู้ได้และที่เขารู้อีกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอคือ รติมาเป็นผู้หญิงที่มีความอดทนสูงมาก แม้ช่วงแรกๆ ที่เขาทำร้ายกาจกับเธอ โยนข้าวของที่เธอทำให้ทิ้ง ขว้างปาจนแตกกระจาย รติมาก็ไม่ปริปากบ่น แต่จัดการเก็บข้าวของต่างๆ ด้วยความความสงบเรียบร้อยเวลาที่เขาเดินบนพื้นจะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรมาทำให้รู้สึกรำคาญ หรือต้องคอยระวังว่าจะเหยียบอะไรให้เกิดอันตราย แม้แต่ตอนที่เขาปาแก้วน้ำผลไม้ทิ้งจนแก้วแตกกระจาย แต่แค่ประเดี๋
ตอนที่ 26.“พี่ว่าน้องญาน่าจะกลับกรุงเทพฯ ได้แล้วนะ มาอยู่นี่หลายวันแล้วพี่คริสไม่มีสมาธิทำงาน..”ชาคริตพูดขึ้นในเช้าวันหนึ่งเมื่อทั้งวีรุจ ชาครียาและไอรดายังไม่มีทีท่าว่าจะกลับกันเสียที แล้วยิ่งอยู่คนเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดโดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะวีรุจ“แต่น้องญายังไม่อยากกลับนี่คะ ยังเที่ยวไม่หนำใจยังไม่ได้ไปเที่ยวน้ำตกด้วย พี่รุจน่ะก็ใจร้ายไม่พาน้องญาไป”“แต่พี่ว่าน้องญาจะไม่ได้แค่เที่ยวอย่างเดียวนะ น้องญายังทำให้คนของพี่วุ่นวายไปกับเรื่องไร้สาระของน้องญาด้วย”ชายหนุ่มเอ็ดน้องสาว เขารู้ดีว่าตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ชาครียาอยู่ที่นี่นั้น สาวน้อยคนสวยนั้นกลั่นแกล้งรติมาต่างๆ นานา ทั้งใช้ให้เธอทำความสะอาดห้องนอนให้ทุกเช้า ทั้งทำอาหารต่างๆ มากมาย ทั้งที่เธอเองก็ไม่ชอบจะรับประทานพอไม่ถูกปากก็ไล่ให้รติมาไปทำมาให้ใหม่ แล้วสุดท้ายก็ไม่กินซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็ล้วนแล้วแต่หาส่วนผสมมาปรุงยุ่งยากและใช้เวลาในการทำ พอไม่ได้ดังใจ แม่คุณก็พากันโวยวายแล้วยังให้รติมาซักผ้าที่เธอกับเพื่อนใส่แล้วเปลี
ตอนที่25.“ไม่เรียก ใครจะทำไม พี่รุจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้น้องญาเรียกมันว่าพี่”สาวน้อยระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างไม่พอใจกับน้ำเสียงติเตียนของชายหนุ่ม“พี่ไม่คุยกับน้องญาแล้ว ไปช่วยน้องมดทำอาหารเช้าดีกว่าเบื่อเด็กเกเร..”วีรุจถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับนิสัยเอาแต่ใจของชาครียา แล้วผละจากสาวน้อยคนสวยทันที แต่นั่นยิ่งทำให้ชาครียาเพิ่มดีกรีความเกลียดชังรติมามากขึ้น สาวน้อยกรีดร้องตามหลังชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตั้งแต่แตกเนื้อสาวอย่างขัดใจและเจ็บใจที่เห็นคนอื่นดีกว่าเธอ“พี่รุจ! คอยดูนะพี่รุจจะเสียใจที่ทำกับน้องญาแบบนี้”ในขณะที่ชาครียาหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่นั้น ไอรดาเพื่อนรักก็กำลังเดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบาเข้าไปในห้องนอนของชาคริต สาวน้อยวัยใสกวาดตามองรอบๆ ห้องนอนกว้างโทนสีอบอุ่นอย่างชื่นชม และต้องเปลี่ยนมาเป็นแข็งกระด้างเมื่อนึกได้ว่านอกจากชาคริตแล้ว ยังมีหญิงสาวอีกคนที่นอนร่วมห้องกับเขา เท่านั้นเองความริษยาร้อนรนก็วิ่งเข้าแผดเผาใจไอรดานั้นแอบรักชาคริตมานานแล้วตั้งแต่เห็
ตอนที่24“ไม่ออกไปดูแลคุณๆ เขาล่ะน้องมด” ป้าสมใจ แม่บ้านวัยสี่สิบพูดกับหญิงสาวอย่างอาทร และนางเองก็รู้สึกชอบพออัธยาศัยของรติมาอยู่ไม่น้อยและแอบหวังลึกๆ ว่ารติมาจะทำให้ชาคริตกลับมาเป็นเจ้านายที่น่ารักใจดีมีเหตุผลเหมือนเดิม“ไม่ดีกว่าค่ะ ดูๆ พวกคุณๆ ก็สนุกสนานกันดีน้องมดออกไปจะเสียบรรยากาศเปล่าๆ”“อืม นั่นสินะ น้องมดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะไปเดี๋ยวป้าดูแลความเรียบร้อยตรงนี้ให้ก่อน”“ขอบคุณค่ะป้าสมใจ งั้นเดี๋ยวน้องมดขอเวลาห้านาทีนะคะรับรองไม่ขาดไม่เกิน”“โถแม่คุณห้านาทีอาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำกัน”ป้าสมใจเอ่ยตามแผ่นหลังบางยิ้มๆ อย่างเอ็นดูแต่รติมาก็ทำให้นางทึ่งเมื่อรติมาออกมาหน้าใสผ่องด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ในเวลาห้านาทีจริงๆ แล้วเธอก็มานั่งรับประทานอาหารในห้องครัวกับป้าสมใจเงียบๆ หากแต่ไม่นานเสียงทรงอำนาจก็ดังขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด“รติมา รติมา อยู่ไหนมานี่สิ”เสียงห้าวๆ ของชาคริตเรียกเธอลั่นบ้าน รติมาจำต้อ
ตอนที่23เขาพูดจบก็ละมือจากผิวกายเนียนนุ่มไปทันที พร้อมกับเดินช้าๆ กลับยังแท่นปั้นด้วยไม้เท้าขาวซึ่งเขาสามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวมองตามร่างสูงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ความร้อนผ่าวจากมือหนายังตราตรึงอยู่บนผิวนวล เธอยังคงรู้สึกว่าลมหายใจหอมสะอาดของเขามันวนเวียนอยู่รอบๆ กาย และเธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้เขาอารมณ์เสียนี่เธอเป็นอะไรไปนะ ทำไมต้องแคร์เขามากขนาดนั้นด้วย...รติมาคิดขณะเดินหงอยๆ ออกไปเมื่อหญิงสาวออกไปแล้วชายหนุ่มก็กำมือแน่นแล้วชกลงบนพื้นหนักๆ ด้วยความโมโห... โมโหตนเอง“บ้าเอ๊ย ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว..”ชาคริตพยายามระงับความรู้สึกที่เดือดพล่านอย่างไม่น่าเชื่อของตนให้สงบดังเดิมได้ยากลำบาก เพียงแค่ได้สัมผัสนวลเนื้อเนียนนุ่มหอมละมุนด้วยสาบสาว กลิ่นเนื้อสาวแท้ๆ ยังติดตรึงอยู่ที่ปลายจมูก ผิวเนียนนุ่มนั้นยังทำให้เขารู้สึกถึงมันอยู่ที่ปลายนิ้ว รติมาก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกร้อนรุ่มด้วยความปรารถนาถึงเพียงนี้เชียวหรือ กรามแกร่งขบกันแน่นด้วยความไม่พอใจร่างกายปวดร้าวอย
ตอนที่ 22ชาคริตใช้เวลาระหว่างรอหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยการนวดดินไปพลางๆ ในใจของชายหนุ่มก็นั้นนึกครึ้มอกครึ้มใจและรื่นรมย์อย่างบอกไม่ถูก ร่างนวลเนียนละมุนมือที่เขาได้สัมผัสในวันนั้นก็หลอกหลอน ให้เขาใคร่คะนึงถึงอยู่มิสร่างราวหนุ่มน้อยเพิ่งได้แตะต้องร่างสาวจนน่าโมโห แต่เขาก็ไม่อาจจะทานทนเสน่ห์แสนเย้ายวนของเธอได้ ขนาดว่าเขามองไม่เห็นเธอแต่เขากับหลงใหลและต้องการเธอได้ถึงเพียงนี้ รติมาไม่ใช่น้องมดหรือมดตัวเล็กๆ เสียแล้ว หากแต่เธอเป็น แม่มด ต่างหาก เธอเป็นแม่มดที่ร่ายมนต์เสน่หาใส่เขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวและไม่อาจจะทัดทานได้ ซึ่งเขาก็จะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการด้วย เขาต้องการเธอ นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกแต่งานสำคัญต้องมาก่อนอย่างไรเสียรติมาก็ต้องเป็นของเขา...แน่นอนในขณะเดียวกันนั้นคนตัวบางก็เดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องน้ำแสนสวย ในห้องห้องปั้นซึ่งออกแบบให้เป็นห้องน้ำกึ่งสวนเปิดโปร่ง สามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์อันงดงามด้านนอกได้โดยไม่ต้องกลัวว่าคนข้างนอกจะมองเห็นผู้ที่อยู่ข้างใน“สู้ๆ น้องมด เธอต