“เธอกำลังทำอะไร รติมา”
เสียงห้าวๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันกลับมามองด้วย กลัวว่าตนจะเจอร่างเปลือยเปล่าของเขาเพราะเธอเป็นคนที่เอาผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำเพียงผืนเดียว และเขาก็คงยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เป็นแน่ เขาเดินมาหยุดข้างหลังเธอและใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นสบู่หอมจากกายเขาและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอระหง
“ว่าไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ”
“คือ.. คือน้องมดกำลังหาเสื้อผ้าให้คุณชาคริตใส่นอนอยู่ค่ะ”
เธอตอบเบาๆ รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่าเธอและเขาใกล้ชิดกันเพียงใด เมื่อร่างเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำของเขาสัมผัสกับต้นแขนเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวสวย และคำตอบที่ได้นั้นก็ยิ่งทำให้เอออยากจะเป็นลม
“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้านอน เธอต้องรู้ไว้ซะ”
“อะ อะไรนะคะ”
“ฉันคิดว่าฉันตอบชัดเจนแล้วนะ เอาล่ะช่วยทาแป้งฝุ่นให้ฉันทีอย่าช้า และอย่ามาทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะดีของฉันมันเสียอีกครั้งเพราะเธอ”
เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าก็ไม่แตกต่างกันหญิงสาวค่อยๆ หันมาก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนโตพันรอบเอวสอบอยู่ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไรต่อมิอะไรของเขา รติมาเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่มซับตามตัวใหญ่โตของคนเจ้าอารมณ์จนแห้งด้วยหัวใจหวิวระรัว
มือบางสั่นระริกขณะโรยแป้งฝุ่นลงบนมือและค่อยๆ ลูบเนื้อแป้งฝุ่นเนียนละเอียดลงบนผิวเนื้อแกร่งสีอำพันงดงาม และมันเป็นความรู้ใหม่ของเธอว่าเขาก็ใช้แป้งฝุ่นสำหรับเด็กเหมือนกัน และที่สำคัญชาคริตใช้แป้งเด็กยี่ห้อเดียวกับเธอสีด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนผลเบอร์รี่นั้นช่วยให้รติมาผ่อนคลายลงได้บ้าง ทำให้เธอไม่เกร็งเกินไปตอนที่ลูบไล้เนื้อแป้งฝุ่นลงบนแผ่นอกที่มัดๆ และแผ่นหลังกว้าง
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอเอ่ยเบาๆ พลางถอยห่างเขาไปราวหนึ่งช่วงแขนเหมือนกับกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอกระนั้น และแอบพ่นลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกที่งานชิ้นนี้ของเธอสำเร็จลงด้วยดี...
“ฉันหิวแล้ว...” ชาคริตบอกเธอเมื่อยอมสวมกางเกงขาก๊วยเนื้อนุ่มซึ่งเธอหาเพิ่งหาเจอ ร่างสูงเดินตัวตรงไปยังโต๊ะตัวเล็กริมระเบียงกว้าง ซึ่งสามารถมองเห็นบริเวณสวนสวยที่ตกแต่งไว้อย่างงดงามราวสวนสวรรค์ได้เกือบทั้งหมด และส่วนประกอบที่ใช้ตกแต่งสวนนั้นก็มีทั้งงานศิลปะงานหินทรายกับงานกระเบื้องดินเผาเป็นหลัก หญิงสาวมองนางอัปสรที่ถือคนโทซึ่งมีน้ำพวยพุ่งลงสู่สระว่ายน้ำใสแจ๋วกลางสวนด้วยความชื่นชม นางอัปสรนั้นงามนัก อีกทั้งตุ๊กตาน่ารักๆ ซึ่งวางประดับตามโคนต้นไม้นั้นด้วยก็น่ารักน่าชังเสียจริง ซึ่งเธอรู้มาว่าเขากับน้องสาวเป็นคนออกแบบและตกแต่งกันเอง
รติมาจัดแจงยกอาหารซึ่งแม่บ้านนำมาให้ตามเวลาที่ชาคริตตั้งกฎเกณฑ์ไว้พอดิบพอดี แล้วจัดแจงให้เขานั่งพร้อมทั้งรินน้ำไว้คอยท่า ชายหนุ่มนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ ทั้งที่ยังคงนุ่งเพียงกางเกงขาก๊วยตัวเดียวแล้วเขาก็ยังทำตัวปรกติอีกด้วย รติมาเสียอีกที่หน้าร้อนผ่าว หน้าแดงแล้วแดงอีกอยู่อย่างนั้น
“นั่งลงสิ จะยืนอยู่ทำไม” จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น ทำให้คนที่มันขัดเขินอยู่ในภวังค์สะดุ้งเฮือกเพราะตื่นตกใจ
“คือ...น้องมด”
“ฉันไม่ชอบคนพูดติดอ่าง และไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก ฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำตามนั้นอย่าขัดแล้วก็เลิกทำตัวเหมือนมดขี้ตื่นเสียที น่ารำคาญ...”
“ตะ แต่ว่า น้องมด”
“นั่งลงแล้วทานข้าวเสีย หรือว่าเธอรังเกียจที่จะนั่งกินข้าวกับคนตาบอดอย่างฉัน” ชาคริตพูดเสียงดังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะเกรี้ยวกราด
“เปล่าๆ นะคะ น้องมดแค่กลัวว่ามันจะไม่เหมาะสม คุณเป็นเจ้านายน้องมดจะนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะก็กระไรอยู่”
“แต่นี่คือคำสั่ง และต่อไปนี้เธอต้องกินข้าวเป็นเพื่อนฉันทุกๆ มื้อ ห้ามขัดและห้ามไปกินข้าวกับคนอื่นหากฉันไม่อนุญาต อย่าลืมว่าเราจะทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอไม่ใช่แค่ลูกจ้างเข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ...” หญิงสาวรับคำเสียงค่อนข้างเบาแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขา และมันก็เหมาะเจาะเหลือเกินที่มีเก้าอี้สองตัวพอดี รติมาตักข้าวใส่จานและนั่งรับประทานอาหารมื้อแรกในบ้านประติมาไพบูลย์ด้วยความอึดอัดเล็กน้อย หากเขาจะใส่เสื้อผ้าบ้างเธอก็คงไม่รู้สึกแบบนี้หรอก รติมาแอบบ่นในใจขณะตักข้าวใส่ปาก ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกันไปเงียบๆ ไม่มีเสียงพูดคุยมีเพียงเสียงช้อนกระทบจานเบาๆ ในตอนนี้เองรติมาก็ได้รู้ว่าเธอนั้นหิวเพียงใด เพราะอาหารตรงหน้านั้นหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน และดูเหมือนชาคริตเองก็รับประทานข้าวจนเกลี้ยงจานเช่นเดียวกัน
“ขอบใจ...”
“คะ ขอบใจน้องมดทำไมคะ” เธอถามเขาขณะลุกเก็บจาน
“ก็ขอบใจที่นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน”
“อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรน้องมดยินดีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นลืมซะว่าฉันพูดมัน ไปทำหน้าที่ของเธอให้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมที่หลับที่นอนเสีย แล้วก็อย่ากวนใจฉัน”
เขาพูดสั้นๆ เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วก่อนเขาจะเดินไปอีกห้องหนึ่งซึ่งเชื่อมต่อกันด้วย ไม้เท้าขาว อย่างคล่องแคล่วแล้วปิดประตูใส่หน้าเธอเสียงดังเป็นการตัดบทสนทนา และย้ำว่า ห้ามรบกวน... ( ไม้เท้าขาว คือ ไม้เท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลของคนตาบอด หมายความว่า เมื่อเราเห็นบุคคลใดที่ใช้ไม้เท้าขาวเดินอยู่ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม เราจะทราบได้ทันทีว่าบุคคลผู้นั้นเป็นคนตาบอด ไม้เท้าขาวมีหลายชนิด และทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน ไม้เท้าที่ดีควรมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และมีความยืดหยุ่น เมื่อโค้งหรืองอขณะใช้แล้วคืนรูปเอง ความยาวของไม้เท้าจะไม่เท่ากัน จะยาวเท่าไรขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสูงเท่าไร ก้าวยาวหรือสั้น และช่วงไหล่กว้างหรือแคบ แต่ขนาดมาตรฐานที่ใช้ทั่วไป คือ ควรสูงจากพื้นถึงลิ้นปี่ของผู้ใช้)
“เฮ้อ เอาใจยากจริงๆ แล้วทีนี้จะทำไงต่อไปล่ะน้องมด เธอจะอดทนได้แค่ไหน แล้วคืนนี้จะเป็นอย่างไรหนอ...” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง
รติมาเดินมาหาแม่จิตที่อยู่เรือนคนรับใช้ซึ่งไม่ไกลจากตึกใหญ่นัก และเมื่อบรรดาคนรับใช้ในบ้านเห็นเธอเต็มๆ ตาต่างก็พากันมองเธอด้วยความทึ่ง ชื่นชมในความสวยน่ารักของหญิงสาวซึ่งส่งยิ้มผูกมิตรมาให้ บางคนคลางแคลงสงสัยในตัวเธอและบางคนก็ไม่ชอบหน้าเธอ โดยเฉพาะคนรับใช้ที่ชื่อ กุ๊บกิ๊บ รูปร่างอ้วนท้วนเทอะทะ ผมหยิกหย็องตัวดำ..
ตอนที่10 .“นี่เธอคือคนรับใช้คุณคริส คนใหม่เหรอ” กุ๊บกิ๊บถามสมาชิกใหม่ด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน“ค่ะ ชื่อน้องมดนะคะ”“ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร แต่ก็ดีรู้จักกันไว้ไม่เสียหลาย แล้วเป็นลูกใคร จบอะไรมา อยู่ที่ไหนมาก่อน มีแฟนรึยัง แล้วเธอคิดว่าจะอยู่รับใช้คุณคริสได้กี่วัน”“นี่นังกุ๊บกิ๊บแกจะมาถามน้องมดทำไมวะ แกมีหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียนบุคคลตั้งแต่เมื่อไหร่”เสียงคนขับรถที่ชื่อว่า เดชา พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจแต่ยิ้มให้รติมาเสียกว้างโชว์ฟันขาวสะอาดที่ตัดกับสีผิว ฟังจากสำเนียงแล้วเดชาน่าจะมาจากที่ราบสูงแน่ๆ“แล้วมันเรื่องอะไรของมึงวะได้เด่ มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปอย่าแส่”“ก็ไม่ได้อยากแส่หรอกโว้ยนังนกสองหัว แค่หมั่นไส้อีพวกสอดรู้สอดเห็นชอบเอาเรื่องของนายไปขายไปหากินกับพวกจิตใจสกปรก”เดชาพูดเยาะๆ ในขณะที่รติมาได้แต่ยืนมองทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่รู้ว่าเรื่องที่ทั้งคู่พูดนั้นมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนและมันมีความเป็นมาอย่างไร“เรื่องของกู และกูก็ทำเพื่ออนาคตอีกหน่อยคุณน้องญาก็จะกลับมาแล้ว พวกมึงระวังให้ดีเถอะ แล้วคุณไอรดาก็อาจจะได้เป็นเจ้านายของพวกแกๆๆ และแก ทุกๆ คน พวกแกน่าจะสำนึกเอาไว้”กุ๊บกิ๊บพู
ตอนที่11ห้องๆ นี้เชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่ม ถัดไปนั้นจะเป็นห้องของน้องสาวของชาคริตที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้ว่าเธอชื่อ ชาครียา อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงโดยเครื่องดนตรีไทยพลิ้วไหวไพเราะจนรติมาแทบจะเคลิบเคลิ้มหลับไป ถ้าเสียงดังทรงอำนาจของชาคริตไม่ดังขึ้นเสียก่อน“ฉันจะนอนแล้ว..” เขาพูดเรียบๆ แต่คนฟังนี่สิหัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุออกมานอกอก แต่ก็พยายามใจแข็งจับมือหนานั้นให้เดินกลับไปยังห้องนอนและเขาก็เดินตามเธอไปโดยดี“ความจริงแล้วฉันเดินกลับห้องเองได้”“น้องมดรู้ค่ะ แต่ว่าให้น้องมดพาไปดีกว่านะคะ”เธอกล่าวเบาๆ เมื่อพาเขาเดินมาล้างมือและทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หญิงสาวบีบยาสีผันใส่หลอดให้เขาและยื่นแก้วน้ำให้เขาบ้วนปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดปากให้เขาอย่างอ่อนโยน จึงพาเขามานอนแล้วก็ห่มผ้าให้เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการดูแลประติมากรหนุ่ม“ฉันไม่ชอบห่มผ้านอน มันอัดอัด” เขาพูดเสียงห้วนๆ เหมือนเด็กเด็กเกเร แล้วรั้งผ้าห่มออกจากตัวและทำท่าว่าจะถอดกางเกงที่ตนสวมใส่อยู่“เดี๋ยวๆ ค่ะ คุณชาคริตจะทำอะไรคะ”“อ้าว ก็ฉันบอกแล้ว
ตอนที่12“โอว คุณเยี่ยมมากริต้า อา อย่างนั้นดีมาก” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงแล้วพลิกกายขึ้นทาบทับร่างงามของเธอแทนเมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และเขาก็ไม่ยอมเสียเชิงชายอย่างแน่นอน เดม่อนเข้าแทรกกลางระหว่างเรียวขาเสลาที่อ้าออกกว้างอย่างรู้งานแล้วก้มลงหาดงดอกไม้ที่ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายอย่างหิวกระหายไม่แพ้กันและทันทีที่ลิ้นหนาแตะลงบนกลีบกุหลาบชุ่มฉ่ำ พริมรตาก็ครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่านรัญจวน...แล้วบทรักอันเร่าร้อนของหนุ่มสาวก็ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าหยุดลงง่ายๆ“นี่คุณเลิกเดินไปเดินมาเสียทีเถอะ ผมเวียนหัว”คุณอนันต์ติงภรรยาอย่างหัวเสียทั้งหงุดหงิดที่ไม่สามารถติดต่อลูกเลี้ยงคนสวยได้ หงุดหงิดที่เสียพนัน และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมือคุณพริ้งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้านานนับชั่วโมง“นี่คุณอนันต์ คุณก็ได้แต่นั่งเป็นบื้อเป็นใบ้ ไม่ช่วยฉันคิดบ้างเลยว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไรดี นี่ก็ใกล้วันใช้หนี้เขาแล้วนะคุณ ลูกรตาก็ไปไหนเสียก็ไม่รู้ ดีนะที่นังมดมันยอมไปแทน แล้วเขาก็ยอมให้มันอยู่แทนลูกรตาของฉัน คุณชาคริตเลยไม่ทวงเงินคืน เฮ้อ ทำไมคุณไม่ช่วยฉันหาเงินหาทองมาใช้หนี้เขาบ้างนะคุณอนันต์”นางบ่นอ
ตอนที่13.เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเผลอเรียกเขาด้วยชื่อเล่นอย่างลืมตัวและพยายามจะช่วยเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ“ไม่ต้องมาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะฉัน”“เปล่านะคะ น้องมดไม่ได้หัวเราะเยาะคุณและไม่คิดจะสงสารสมเพชคุณคริสด้วย อย่าคิดว่าใครๆ ใจร้ายกับคุณไปเสียหมดสิคะ คนที่เขาเฝ้ามองคุณคริสด้วยความรัก และจริงใจก็ยังมีนะคะ”“อย่ามาทำเป็นรู้ดีเลยรติมา และอย่ามาคิดแทนฉันว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร ฉันรู้ดีว่าอะไรหรือใครเป็นอย่างไร เธอเพิ่งจะมาถึงที่นี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงดีด้วยซ้ำจะไปรู้อะไร” เขาตวาดอย่างไม่พอใจที่เธอทำเหมือนรู้ทันความคิดของเขา และพยายามจะลุกโดยไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ชนะ เมื่อพาเขามายังอ่างล้างหน้าได้สำเร็จท่ามกลางอาการขัดขืนของคนตัวโตที่ไม่ยอมรับความหวังดีนั้นนัก“ค่อยๆ แปรงนะคะ ไม่ต้องรีบเดี๋ยวน้องมดจะแปรงฟันเป็นเพื่อน อุ้ย มีแปรงสีฟันสองอันพอดีเลยค่ะ อ่ะนี่ค่ะของคุณคริสนะคะ”รติมาทำเป็นไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของเขาแล้วยังแปรงฟันหน้าตาเฉยหน้ากระจกบานใหญ่ ซึ่งสะท้อนภาพชายหนุ่มหน้าตาบึ้งตึงที่แปรงฟันอย่างกระแทกกระทั้น จนเธอกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่และ
ตอนที่14.เขาเอ่ยถาม น้องญา หรือ ชาครียา ประติมาไพบูลย์ ผู้เป็นน้องสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และสะบัดตัวออกจากมือบางของสาวน้อยอีกคนด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก เขารู้สึกเหมือนถูกรบกวนและก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวซึ่ง ไอรดา เองก็แอบมองค้อนเขาอย่างน้อยใจ“ก็น้องญาอยากให้พี่คริสตื่นเต้นนี่คะ น้องญากับไอก็เลยว่าจะมาเซอร์ไพรส์ แต่ที่ไหนได้พี่คริสกลับกำลังรื่นเริงกกผู้หญิงข้างถนนที่ไหนก็ไม่รู้”ชาครียารีบเข้ามากอดพี่ชาย เธอรู้ว่าพี่คริสของตนกำลังโกรธ แต่เธอเองก็ห่วงและหวงพี่ชายเกินกว่าจะให้ผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้ หากเธอไม่ชอบคนๆ นั้นก็อย่าหวังว่าผู้หญิงหน้าไหนจะเข้าใกล้พี่ชายของเธอได้ชาคริตนิ่งเงียบไม่พูดอะไร หากในห้องนี้มีเพียงเขากับชาครียาเขาเองก็รู้สึกปรกติเพราะเขากับน้องสาวคลุกคลีและสนิทสนมกันมาก แต่เขารับรู้ว่าตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยซึ่งก็คือไอรดาเพื่อนรักของชาครียาซึ่งเป็นน้องสาวของ อารยา อดีตคู่หมั้นเขานั่นเอง“เธอชื่อ รติมา เป็นคนที่จะมาดูแลพี่แล้วเมื่อกี้ก็เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย พี่รู้ว่าน้องญาทำร้ายเธอ และน้องญาก็พูดจาไม่น่ารักเหมือนน้องญาคนเก่าของพี่คริส”“ก็น้องญา...เอ่อ...” สาวน้อยวัยสิบเก้
ตอนที่15“ปากดีไปเถอะพวกมึง คอยดูพอถึงทีของกูบ้างพวกมึงเตรียมตัวกระเด็นออกไปจากที่นี่ได้เลย”“นี่แกยังไม่สำนึกอีกเหรอวะนังกุ๊บกิ๊บ ทำไมแกไม่ไปอยู่บ้านนั้นเลยวะ มาอยู่เห่าๆ หอนๆ ทำไมที่นี่” คราวนี้เสียงของเดชาดังขึ้น พร้อมกับประคองแม่จิตมานั่งที่โต๊ะด้วยท่าทางอ่อนโยนผิดกับรูปลักษณ์ซึ่งดูแข็งกระด้าง“กูก็ไม่อยากอยู่ให้พวกมึงรังแกหรอกโว้ย แต่กูอยู่ก็เพราะกูรักคุณน้องญา“อ้วกกกก” ทั้งเดชา ติ๋มและต้อยต่างก็ทำท่าอาเจียนใส่หน้ากุ๊บกิ๊บที่ยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่“เออ จำไว้เลยพวกมึง แกด้วยนังคุณหนูตกยาก” กุ๊บกิ๊บชี้หน้าทีละคนอย่างเคืองแค้น แล้วสะบัดหน้าเดินตึงๆ จากไปอย่างฉุนเฉียวเมื่อดูเหมือนใครๆ ต่างก็พากันรุมว่าเธอ“เป็นไงบ้างคะแม่จิตหมอว่าไงบ้าง” เมื่อกุ๊บกิ๊บเดินจากไปรติมาก็รีบถามอาการของแม่จิตทันที“ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะคุณหนู เจ้าพวกนี้ก็กังวลกันเกินไป” แม่จิตลูบเรือนผมสลวยอย่างรักใคร่ ยิ้มละไมอย่างสดชื่นเหมือนว่าก่อนหน้านี้นางไม่ได้เป็นลมจนต้องหามกันไปหาหมอ“แล้วนี่หน้าตาไปโดนอะไรมาคะ” นางถามทันทีเมื่อเจอสิ่งผิดปรกติบนใบหน้าสวย“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย น้องมดซุ่มซ่ามเองค่ะ”“ค
ตอนที่16.“ฉันอยากไปเดินเล่นในสวน” เขาบอกหลังจากที่เธอจัดการเก็บถ้วยชามเรียบร้อยแล้ว“ค่ะ คุณคริสจะไปตรงไหนก่อนคะน้องมดก็ไม่ค่อยรู้”“ไปที่ซุ้มแย้มปีนังริมรั้วด้านทิศตะวันออกก่อน ฉันอยากรู้ว่ามันออกดอกรึยัง”“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดินตามน้องมดมานะคะ” หญิงสาวกุมมือหนาแล้วค่อยๆ จูงมือเขาไปตามทางปูอิฐตัวหนอนมุ่งไปยังทิศทางที่เขาบอกทันทีที่มือบางกุมมือหนามั่นนั้นความอุ่นซ่านซึ่งแผ่ผ่านจากมือบางนั้นไหลบ่าเข้าสู่ใจแกร่งจนเขารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงเกินไป อยากจะสะบัดมือออกจากมือนุ่มแต่อีกใจก็อยากให้มีมือน้อยๆ นี้จับจูงเขาไป ชายหนุ่มว้าวุ่นอยู่ในใจคนเดียว ในขณะที่หญิงสาวนั้นมัวแต่มองสวนสวยอย่างเพลิดเพลินความรู้สึกปรอดโปร่งและสวนสวยที่จัดตกแต่งได้งดงามเหมือนภาพในนิตยสารที่เธอเคยอ่าน ทำให้รติมารู้สึกผ่อนคลาย หลายๆ ครั้งที่เธอนึกถึงสวนที่บ้านของเธอ ซึ่งคุณพริ้งจัดการรื้อทิ้งโดยให้เหตุผลว่ามันต้องใช้เงินจำนวนมากในการตกแต่งดูแลสวน และการรดน้ำต้นไม้ก็ทำให้สิ้นเปลือง นางจึงจัดการรื้อสวนสวยของมารดาที่รติมาจำได้ว่ามันงดงามเพียงใดทิ้งเสีย กลายเป็นที่โล่งๆ แล้วปลูกหญ้าแทน ซ้ำนางก็ยังนำศาลาไม้ทรงไทยมาแทนที่
ตอนที่17.“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เธอจะไปไหนก็ไป”“แต่ว่า...”“ไม่ต้องพล่ามอะไรทั้งนั้น ฉันบอกให้ไปให้พ้น หากฉันไม่เรียกก็ไม่ต้องเสนอหน้ามา”คราวนี้น้ำเสียงนั้นฟังดูหงุดหงิดและกราดเกรี้ยว ซึ่งรติมาเองก็ได้แต่ยืนอึ้งกำขวดขี้ผึ้งไว้แน่น ดวงตากลมโตมองคนที่อารมณ์แปรปรวนอย่างนึกน้อยใจ เธอน้อยใจอะไรเล่าเขาจะรู้สึกอย่างไร หรือร้ายกาจกับเธอแค่ไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขานอกจากเมียในนามซึ่งมีสถานะเป็นเพียงลูกจ้าง เธอมีสิทธิ์อะไรจะมาน้อยใจล่ะ หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นที่วิ่งมาจุกลำคอลงอย่างยากลำบาก“ถ้าอย่างนั้น น้องมดจะวางขี้ผึ้งไว้ตรงนี้นะคะ อย่าลืมทายานะคะ แล้วสักครู่น้องมดจะมารับกลับ”เธอพยายามพูดกับเขาดีๆ เพราะคิดว่า สาเหตุที่เขาเปลี่ยนมาเป็นคนอารมณ์ร้ายเหมือนครั้งแรกเจอกันเมื่อวานนี้ก็เพราะเธอเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เหยียบย่ำบนผืนหญ้าค่อยๆ ดังห่างออกไป ชาคริตก็ได้แต่ฟาดงวงฟาดงาอยู่กับลมกับแล้งอย่างคนที่อารมณ์พลุ่งพล่าน มือหนาทุบลงกับพื้นม้านั่งแรงๆ จนเจ็บร้าวไปทั้งแขนและแรงทุบนั้นก็ทำให้ขวดแก้วอย่างดีซึ่งบรรจุขี้ผึ้งนั้นกลิ้งมากระทบมือหนาเบาๆ ซึ่งมันทำให้เขาได้สติมือหนาบวมแดงเ
ตอนที่84. บทส่งท้าย อวสาน รติมายิ้มกับโปสการ์ดที่ได้รับจากพริมรตา เธออ่านลายมือที่เขียนอย่างบรรจงของพี่สาวซ้ำไปซ้ำมาอย่างเป็นสุขจนสามีที่นอนรอภรรยามานอนแนบข้าง อดทนรอไม่ไหวเดินมารวบร่างอวบไปนอนเคียงข้างเสียเอง“อื้อ พี่คริสทำอะไรระวังหน่อยสิคะ แล้วนี่ดูลูกดีรึยังคะ น้องภูมิ หลับสบายรึเปล่า” หญิงสาวเอ็ดสามีเบาๆ แล้วถามถึงน้องภูมิหรือ เด็กชาย รติภูมิ บุตรชายที่เพิ่งกินนมแล้วหลับไปเมื่อสักครู่ ชาคริตหน้างอเมื่อคิดว่าตอนนี้ตนเริ่มหมดความสำคัญกับภรรยา แล้วยังอิจฉาเจ้าลูกชายตัวน้อยที่ได้ดื่มกินนมมารดาอย่างอิ่มหนำซ้ำเจ้าตัวแสบก็มักจะร้องแผดจ้าทุกครั้ง ยามที่เขาอยากจะชิดใกล้แล้วทำอะไรๆ อย่างที่ใจปรารถนากับคุณแม่คนสวย จนตอนนี้เขาอยากจะหึงหวงรติมากับลูกชายนัก“หลับแล้ว น้องมดไม่ต้องห่วงหรอก พี่คริสน่ะเป็นยิ่งกว่าทาสน้องภูมิอีก” ชายหนุ่มพูดงอนๆ พลางซุกหน้าลงกับอกอิ่มอย่างแสนจะคิดถึง อยู่ใกล้กันทุกวันแต่เหมือนห่างไกลเพราะรติมาทุ่มเทดูแลบุตรชายวัยเจ็ดเดือนด้วยตนเองจนไม่มีเวลาได้คลอเคลียกันเหมือนก่อน“อิจฉาลูกหรือคะ”“ก็มันน่าอิจฉาไหมล่ะ น้องมดดูแลสนใจแต่น้องภูมิปล่อยให้พี่คริสเหี่ยวเฉาเพราะ...”“
ตอนที่83.ชาครียามองหน้าคนที่เธอเคยตั้งแง่รังเกียจอย่างรักและชื่นชม และรู้สึกละอายนักที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายหญิงสาวคนนี้ เพราะทิฐิและความหูเบาโง่เขลาของตนเอง“พอกันล่ะค่ะ พี่มด พี่รุจก็ชอบแหย่พี่คริส... พี่มดคะ น้องญายังไม่มีโอกาสขอโทษพี่มดตรงๆ เลยสักครั้ง... น้องญาขอโทษกับทุกๆ เรื่องที่ผ่านมานะคะ”“โธ่... น้องญา พี่มดไม่เคยโกรธน้องญาเลยนะคะ กลับกันก็ยังรู้สึกละอายใจด้วยซ้ำ พี่เองก็ต้องขอโทษน้องญาเหมือนกัน หากพี่เคยทำอะไรให้น้องญาไม่สบายใจ” สองสาวยิ้มให้กันอย่างเป็นสุขด้วยความรักและเข้าใจ รติมาเอื้มมือไปกุมมือของชาครียาไว้ด้วยความรัก เธอไม่เคยโกรธหรือเกลียดชาครียาเลยสักครั้ง และดีใจเหลือเกินที่วันนี้ทุกคนเข้าใจกันรักและห่วงหาอาทรกัน ครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบแล้ว...“คุยอะไรกันจ๊ะสาวๆ” เสียงสองหนุ่มดังแข่งกันมายังห้องนั่งเล่นซึ่งสองว่าที่คุณแม่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กอยู่“นี่เลยครับ พวกเรามาพร้อมลูกตาลลอยแก้ว อร่อยเย็นชื่นใจ”“โอ้โห อย่าบอกนะคะว่าพี่คริสกับพี่รุจช่วยกันทำ”“ใช่แล้วจ้ะน้องรัก”“มันกินได้แน่นะคะ งั้น... น้องญาขอชิมก่อน” ชาครียามองลูกตาลลอยแก้วตรงหน้าอย่างสน
ตอนที่82.“เป็นสาวเป็นนาง ห้ามบอกรักผู้ชายก่อนรู้ไหม น้องมดมาบอกรักพี่คริสก่อนได้อย่างไร น้องมดต้องให้พี่พูดว่า พี่ คริสรักน้องมดก่อน ตัวเองค่อยมาบอกรักตอบพี่ เล่นบอกรักพี่คริสก่อนแบบนี้พี่ก็เสียเชิงชายแย่สิ” “พี่คริส...” รติมาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหู ชาคริตบอกว่ารักเธอใช่ไหม พี่คริสรักน้องมด...“มาทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ในวัดได้อย่างไรกัน มันบาปรู้ไหม”“คนบ้า คนเขาทำหน้าน่ารักมันบาปตรงไหนกัน” เมื่อความเข้าอกเข้าใจเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ใจสองดวงหญิงสาวก็กล้าที่จะหยอกเย้ากับเขาบ้าง มือบางทุบเบาๆ กับอกแกร่งแล้วผละออกห่างร่างหนาอย่างขัดเขินใบหน้านวลแดงจัดจรดใบหูบาง ชาคริตมองภาพหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่สุขล้น เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้ว...“บาปสิ บาปที่ทำให้พี่คริสนึกอยากจูบน้องมด แต่ทำไม่ได้”“พี่คริส ไม่เสียใจแล้วใช่ไหมคะ ที่คุณอ้อมเธอจากไป” หญิงสาวถามเขาเมื่อนึกถึงว่าตนเองอยู่ที่ใด“เสียใจมั้ยที่อ้อมเสียไป พี่ก็เสียใจนะ แต่พี่เสียใจเพราะพี่ยังไม่ได้ตอบแทนน้ำใจของอ้อมเลยต่างหาก น้องมดเข้าใจใช่ไหม” เขาถามเธอเมื่อทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเขาได้บอกเล่าให้เธอรับรู้ หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข
ตอนที่ 81.ส่วนพริมรตาก็ถอนหายใจแรงๆ อย่างโล่งอกเมื่อสามารถจัดการไอรดาได้ แล้วเมื่อคิดว่าเธอช่างบ้าบิ่นวิ่งเข้าหาคนที่มีปืนอยู่ในมืออย่างไม่กลัวเกรงแล้วก็ต้องนึกทึ่งและขันตนเองไปพร้อมๆ กัน เพราะก่อนหน้านั้นเธอกำลังปฐมพยาบาลรติมาอยู่ เมื่อรติมาฟื้นได้สติแล้วรู้ว่าชาคริตกำลังเผชิญหน้ากับไอรดาตามลำพังรติมาก็ลุกพรวดพราดเข้ามาทำให้เธอต้องวิ่งตามมาด้วยและเมื่อเห็นว่าไอรดากำลังจะยิงชาคริตรติมาก็วิ่งเข้าไปเพื่อจะกันร่างชาคริตไว้โดยไม่คิดชีวิต ส่วนตัวเธอเองก็ห่วงน้องสาวและหลานจะเป็นอันตรายก็เลือกที่จะเข้าหาไอรดาโดยวิ่งพุ่งชนร่างไอรดาอย่างแรงจนวิถีกระสุนเบี่ยงเบนไป แล้วใช้สันมือฟาดลงบนมือของไอรดาอย่างแรงจนปืนในมือของไอรดากระเด็นไปไกล พอได้ทีก็จัดการกับไอรดาอย่างที่ทุกคนเห็น พริมรตาหอบหายใจเบาๆ มองไอรดาอย่างที่ยังไม่นึกไว้ใจ“กรี๊ดดด อีบ้า มึง กูจะฆ่ามึง...กรี๊ดดด ปล่อยกูนะ” ไอรดากรีดร้องอย่างเจ็บปวดใจที่ทำพลาดวันนี้เธอพลาด คนพวกนั้นกำลังมีความสุข ชาคริตกับรติมารักกันหวานชื่น ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น สาวน้อยกรีดร้องโหยหวนอีกครั้งก่อนจะถูกตำรวจจับร่างเล็กเข้าไปในรถเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นท
ตอนที่80.“พี่รัก...”“รักใครคะ..” ไอรดาตื่นเต้น เมื่อชายหนุ่มที่ตนแอบหลงรักมานานกำลังจะเอ่ยความในใจกับเธอ สาวน้อยคิดเข้าข้างตัวเองอย่างช่วยไม่ได้“ปล่อยรติมาก่อนสิน้องไอ พี่คริสสัญญาว่าจะบอกน้องไอคนเดียว” ชายหนุ่มต่อรองไอรดามองเขาที มองรติมาทีอย่างชั่งใจ และค่อนข้างสะใจที่เห็นรติมาน้ำตานองหน้า“หึ ในที่สุดพี่คริสก็ไม่รักแกนังแม่มด..” ไอรดาผลักรติมาอย่างแรงด้วยความสะใจ รติมาเซถลาแล้วล้มกองที่พื้นอย่างอ่อนแรง แต่ความจริงเธอหมดแรงกับคำพูดของชาคริตต่างหาก ชาคริตปรายตามองและส่งสัญญาณให้พริมรตาที่แอบเข้ามาให้เข้ามาช่วยรติมาออกไป พริมรตาอ้อมไปทางด้านหลังห้องนั่งเล่นแล้วปีนหน้าต่างเข้ามาด้วยความช่วยเหลือจากพี่จอยและพี่จุ๊บแจง ส่วนพี่แสงก็อ้อมไปอีกด้าน ในขณะที่แม่จิตรอเปิดประตูให้ตำรวจที่หน้าบ้าน“มานี่สิน้องไอ” ชาคริตเรียกเธออีกครั้งแล้วยื่นมือไปข้างหน้า สาวน้อยยิ้มกว้างดีใจจนลืมหญิงสาวที่เธอปองร้าย รีบยื่นมือมาจับมือหนาทันที แต่แล้วสายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ตรงหน้าต่าง ไอรดาปัดมือชายหนุ่มออกห่างแล้วหันกลับไปหารติมาอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเธอเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ แล้
ตอนที่79.“รตาเห็นน้องมดบ้างไหม”“ไม่เห็นค่ะ นั่งอยู่ในออฟฟิศรึเปล่าคะ”“ไม่อยู่นะหรือว่าน้องมดเข้าบ้านไปแล้ว”“เอ ไม่แน่ใจนะคะวันนี้ลูกค้าเยอะด้วยรตาเองก็ไม่ได้สังเกตว่าน้องมดอยู่ในห้องรึเปล่า มีอะไรรึเปล่าคะ”“ตอนนี้รติมาไม่ปลอดภัย เราทุกๆ คนด้วยเอาเป็นว่ารีบปิดร้าน ผมจะไปตามหาน้องมดแล้วผมจะเล่าให้ฟัง”กรี๊ดดด...! เสียงกรีดร้องของรติมาดังมาจากบ้านหลังงาม ชาคริตกับพริมรตาหันไปยังทิศทางของบ้านด้วยความตกใจ ชายหนุ่มรีบวิ่งไปยังประตูที่เชื่อมระหว่างบ้านกับร้านอย่างรวดเร็ว หากแต่คีย์การ์ดที่เคยใช้กลับไม่สามารถเปิดประตูได้ ชายหนุ่มพยายามรูดบัตรอยู่หลายครั้งก็พบความผิดปรกติ ระบบการทำงานของเครื่องรูดบัตรเสียหายเนื่องจากมีคนทำอะไรสักอย่างกับมัน ชายหนุ่มหน้าซีดด้วยความเป็นห่วงคนที่อยู่ในบ้าน ร่างสูงมองรั้วสูงตรงหน้าด้วยความหวัง ส่วนพริมรตารีบไปบอกทุกคนให้รีบปิดร้านแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจก่อนจะวิ่งตามชาคริตไปในขณะเดียวกันรติมากำลังเผชิญหน้ากับสาวน้อยที่เธอเพิ่งรู้ว่าเป็นบุคคลอันตรายและร้ายกาจ ร่างอวบอิ่มเพราะอายุครรภ์มากขึ้นถอยหลังช้าๆ เมื่อร่างบอบบางทว่าดูแกร่งกระด้างของไอรดาเดินยังเธอพร้อมม
ตอนที่78.ร้านอาหาร อบอุ่น อิ่มอร่อย กำลังเป็นที่รู้จักของเหล่าคนทำงานและคนละแวกใกล้เคียง ด้วยบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งเหมือนห้องอาหารในบ้าน และร่มรื่นด้วยแมกไม้อีกทั้งยังแบ่งบริเวณสวนสวยหน้าบ้านให้ผู้ที่มารับประทานอาหารได้นั่งเล่นชมสวนสวย มีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ที่มากับคุณพ่อคุณแม่ได้วิ่งเล่นอีกทั้งความงดงามและการตกแต่งสวนที่สวยงามทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปของบรรดาผู้มารับประทานอาหารเลยทีเดียว โดยทำรั้วกั้นแน่นหนาระหว่างร้านและสวน มีประตูเปิดปิดเข้าออกบริเวณบ้านด้วยประตูที่ใช้ระบบคีย์การ์ด หากใครมาที่นี่แล้วไม่ได้ถ่ายรูปในบริเวณร้านก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึงร้าน อบอุ่นอิ่มอร่อย“อย่าคิดว่าพี่จะยอมแพ้นะน้องมด..” ชาคริตรำพึงกับตัวเองหนักแน่น เขาเคยทำให้เธอเป็นของเขาได้แล้วครั้งหนึ่ง แล้วทำไมจะทำให้เธอยอมคืนดีและมาเป็นภรรยาของเขาอีกไม่ได้ หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลล่ะนะคราวนี้...“นี่คุณ จะเข้ามาวุ่นวายในครัวทำไมออกไปนะ ดูสิออเดอร์ลูกค้าเยอะแยะ” รติมาเอ็ดคนตัวโตที่เข้ามายืนใกล้ๆ เธอ แล้วมองค้อนเขาอย่างขัดเคือง ในที่สุดชาคริตก็กินนอนอยู่ในบ้านเธออย่างมีความสุข ซ้ำพวกพี่ๆ ทั้ง
ตอนที่77.“น้องมดว่าเราควรอโหสิให้เขานะคะ เราจะได้ไม่ติดค้างกัน”“จ้ะ ขอบใจนะน้องสาวของพี่ อ้าวนั่นคุณคริสมาแล้ว พี่ขอตัวไปช่วยแม่จิตดูความเรียบร้อยในร้านดีกว่า วันนี้ท่าทางลูกค้าเราจะเยอะนะ บอกแต่พี่ให้อภัยคนอื่น แล้วตัวเองก็อย่าลืมให้อภัยเขาด้วยล่ะ” พริมรตาที่วันนี้ดูสดใสและอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมมากกล่าวยิ้มๆ เมื่อเห็นร่างสูงของชาคริตเดินมาแต่ไกลตอนนี้เธอมีความสุขเหลือเกินหญิงสาวบอกตัวเอง คำว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำนั้น เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็วันนี้เอง...“จะไปไหนฮึ เห็นหน้าผัวก็เอาแต่เดินหนี” ชาคริตพูดดังๆ และรีบคว้าแขนเรียวไว้เมื่อรติมาทำท่าจะเดินหนีเขา“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่เมียใคร แล้วกรุณาออกไปจากบ้านฉันด้วย”“อะไรกันนี่น้องมดยังคิดจะไล่พี่คริสอีกเหรอทั้งๆ ที่รู้ว่าไล่ก็ไม่ไปแล้วอยากให้พี่คริสทบทวนมั้ยว่าเราเป็นผัวเมียกันจริงรึเปล่าและที่สำคัญทะเบียนสมรสก็ยังยืนยันว่านางรติมา ประติมาไพบูลย์ เป็นภรรยาของนายชาคริต ประติมาไพบูลย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”“แต่มันเป็นทะเบียนปลอมไม่ใช่หรือ อย่ามาพูดมั่วๆ นะ แล้วฉันก็ไม่ใช่เมียของใครจำไว้ซะด้วย”“ตอนนั้นพี่คริสก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง จริงๆ แล้วมัน
ตอนที่76.“กลับบ้านกันก่อนเถอะนะน้องมด พี่ก็เห็นด้วยกับคุณคริส น้องมดดูเพลียมากเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปจะแย่”“เราจะกลับกันแค่สองคนใช่ไหมคะ” รติมาพูดกันท่าชายหนุ่ม“ไม่ครับที่รัก เราจะกลับด้วยกัน” ชาคริตชิงพูดแทนพริมรตาหน้าตายพร้อมทั้งโอบร่างบางไว้แนบกายต่อหน้าพริมรตาที่มองเขายิ้มๆ อย่างเข้าใจ“พี่ก็เห็นด้วยกับคุณคริสนะน้องมด ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเถอะ”“นี่คุณปล่อยฉันนะ อย่ามายุ่งกับฉัน”รติมาหยิกแขนแกร่งที่โอบเอวเธอแรงๆ เมื่อพริมรตาเดินนำหน้าไปก่อน แต่พ่อคุณก็หนังหนาเหลือเกินไม่สะทกสะท้านซ้ำยังโอบร่างเธอให้ชิดมากขึ้นอีก“หากไม่อยากถูกจูบในวัดก็เงียบๆ แล้วก็เดินไปดีๆ จ้ะน้องมด พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ”“นี่คุณขู่ฉันเหรอ”“ไม่ได้ขู่ แต่น้องมดพูดไม่เพราะเลยนะ แทนตัวเองว่าน้องมดแล้วก็เรียกพี่ว่าพี่คริสเดี๋ยวนี้” ชาคริตพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับหยุดเดินหันมาจ้องริมฝีปากระเรื่อแม้จะดูซีดเซียวไปบ้างอย่างเสน่หาจนหญิงสาวรู้สึกหวิวไหว สะบัดหน้าหนีสายตาคมนั้นอย่างไม่อาจจะทานทนได้ ก็แววตาเขาช่างร้อนแรงแทบจะแผดเผาเธอให้ละลายเป็นขี้ผึ้งโดนไฟขนาดนั้นใครจะทนมองไหว รติมาหน้าแดงขึ้นมาทันที ซึ่งมันทำให้ชา