“ยังครับ แต่อีกไม่นานยี่หวาคงใจอ่อน เพราะผมเอาความจริงใจเข้าสู้ อยากให้เขาเห็นว่าผมรักเขา รักลูกมากแค่ไหน”
“นั่นมันเรื่องของแพทที่ต้องจัดการเอง ลูกผู้ชายทำอะไรลงไปต้องรับผิดชอบ”“ครับ” พัฒน์ชนะเอ่ยรับ“แม่ขอถามอะไรตรงๆ หน่อยนะแพท อาจจะแทงใจดำไปนิด ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เอาเรื่องลูกมาต่อรองเรื่องผลประโยชน์ใช่ไหม” “ไม่ครับ เขาไม่ได้ขออะไรเลย แถมยังผลักไสผมให้ออกห่างจากชีวิตเขาสองคนด้วยซ้ำ” “ก็ถือว่าเป็นคนดีใช้ได้ ว่าแต่เด็กคนนี้ชื่อพลอยไพลินใช่ไหม” พอได้ยินคำตอบของลูกชายแล้ว นุชรีย์ก็หันไปให้ความสนใจเด็กหญิง ตัวน้อย ที่นั่งบนตักพัฒน์ชนะ มองตาใสมายังเธอ “ครับ…”“ชื่อเพราะจริงนะ” คนเป็นแม่ลงไปนั่งข้างๆ ลูกชาย ยื่นมือไปหาพลอยไพลิน แต่เด็กหญิงกลับเอียงตัวหลบซุกอยู่ในอกของพัฒน์ชนะแทน “น้องพลอยครับ”“คะ” พลอยไพลินขานรับคำเรียกของพัฒน์ชนะ ชายหนุ่มจึงเอ่ยแนะนำ“นี่คุณย่าของน้องพลอย ชื่อย่านิด“คนนี้เหรอ อุ๊ย… น่ารักน่าชังจริงนะ”“ใช่” คนเป็นย่ารีบรับ แต่พลอยไพลินได้แต่ยืนนิ่งๆ สายตามองไปยังลิฟต์แก้วที่จะได้ขึ้นแล้ว ดูใจจดใจจ่อน่าดู“ชื่ออะไรคะ” เพื่อนคนหนึ่งของนุชรีย์เอ่ยถาม แต่คนที่ตอบว่าพลอยไพลินชื่ออะไร นั่นคือนุชรีย์เอง เพราะตอนนี้อยากตอบทุกอย่าง เกี่ยวกับพลอยไพลินก็ไม่ปาน“ชื่อน้องพลอยค่ะ”“ว่าแต่ลูกใคร คุณแซมเหรอ”“ตาแพท” นุชรีย์เอ่ยตอบคำถามนั้น“เอ๊… ลูกชายคนเล็กของคุณนิด มีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่” ความสงสัยเกิดขึ้นกับเพื่อนของนุชรีย์ทันที“นานแล้วแหละ แค่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น”“จริงเหรอ แบบนี้บรรดาลูกสาว หลานสาวของพวกเราก็อกหักแย่นะสิ”“พูดเว่อร์ไปนะ” นุชรีย์โบกมือให้ เพราะไม่เห็นท่าทีลูกชายเธอจะชอบพอลูกสาวหรือหลานสาวของบรรดาเพื่อนๆ สักคน“จริงสิที่ร้านเพชรของคุณยุพา มีเพชรคอลเลคชั่นใหม่ออกมา เราไปดูความงามกันไหมคุณนิด”“เอ่
Chapter 69“ตาแพท น้องพลอยยังอยู่ในลิฟต์ลูก” เสียงของคนเป็นแม่เอ่ยบอก ตอนนี้สีหน้าเธอไม่ดีนัก เพราะเป็นห่วงพลอยไพลิน พัฒน์ชนะเดินเข้าไปใกล้ลิฟต์ที่ถูกกันไว้จากผู้คนที่เป็นไทยมุงอยู่ขณะนี้ หัวใจเขาแทบสลายเมื่อเห็นพลอยไพลินนั่งร้องไห้อยู่ในนั้น“น้องพลอย น้องพลอย ได้ยินพ่อไหมครับลูก” พัฒน์ชนะพยายามเรียกพลอยไพลิน แต่เด็กหญิงก็ไม่ขานตอบ ยังคงเอาแต่เรียกหาภัทรานิษฐ์ไม่หยุด“แม่จ๋า… แม่จ๋า น้องพลอยกลัว” เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มตัวสั่น บรรดาไทยมุงต่างเอาใจช่วยขอให้เจ้าหน้าที่แก้ไขความบกพร่องของลิฟต์และพาตัวเด็กที่ติดอยู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ยิ่งทำการแก้ไขลิฟต์ก็ยิ่งแกว่งตัวมากขึ้นเท่านั้น นุชรีย์เห็นก็ยิ่งหัวใจจะวาย เพราะพลอยไพลินยิ่งร้องไห้หนักมากกว่าเดิมเสียอีก พัฒน์ชนะเข้าไปเร่งช่าง แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา“แพท แม่ขอโทษนะ ที่ไม่ดูแลน้องพลอยให้ดี จนเกิดเรื่อง”“แม่ ไม่เป็นไรครับ ผมต้องช่วยลูกให้ได้”“จ้ะ” นุชรีย์พยักหน้าให้ บรรดาเพื่อนของนุชรีย์เองก็ต่างยืนอยู่ข้
Chapter 70แม้จะเจ็บแผลแต่เธอก็กัดฟันทนวิ่งต่อไปไม่หยุด ภาพผู้หญิงใส่ชุดคนไข้วิ่งไปตามถนนเป็นจุดสนใจของผู้คนไม่น้อย เหงื่อมากมายไหลท่วมตัวคนเป็นแม่ที่ห่วงลูกรักเสมือนแก้วตาด้วงใจของเธอ น้ำตาของ ภัทรานิษฐ์ไหลนองแก้มเพราะสงสารลูกและกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ภาพที่เห็นคือพลอยไพลินนั่งร้องไห้หนักแค่นั้นหัวใจเธอก็แทบสลาย“เปิดประตูลิฟต์ได้แล้วครับ” เสียงเจ้าหน้าที่เอ่ยบอก หลังจากทำงานภายใต้ความกดดันมานานนับชั่วโมง พัฒน์ชนะรีบปรี่เข้าไปยืนหน้าลิฟต์ พอประตูเปิดออกก็ก้าวเข้าไปอุ้มพลอยไพลินไว้ทันที“น้องพลอย”“พาเด็กออกมาก่อนครับคุณพัฒน์ชนะ” หัวหน้าช่างเอ่ยบอก เพราะจะได้ปลอดภัยทั้งสองคน เสียงเฮของไทยมุงที่มายืนเอาใจช่วยก็ดังขึ้นทันที“โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัว” พัฒน์ชนะยอมออกมาจากลิฟต์ตามที่บอก ชายหนุ่มโยกตัวไปมาเพราะพลอยไพลินกอดคอเขาแน่น ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด มือหนาลูบแผ่นหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน นุชรีย์เองก็เข้ามาช่วยปลอบด้วย แต่พลอยไพลินยังคงเอาแต่ร้องหาแม่“แม่จ
Chapter 71“แล้วทำไมต้องเป็นน้องพลอย ลูกเราตัวแค่นี้ติดอยู่ในลิฟต์ ร้องไห้จนตัวสั่น เป็นเพราะใคร” ภัทรานิษฐ์กำหมัดแน่น มองไปยัง พัฒน์ชนะ แต่นุชรีย์กลับเอ่ยขึ้น“ป้าขอโทษนะ”“ไม่จำเป็น” มือของภัทรานิษฐ์ที่กำแน่นกำลังสั่น มองหน้าพัฒน์ชนะและแม่ของเขาสลับกันไปมา แต่สักพักร่างของเธอกับร่วงลงไปนอนกองกับพื้น แต่ชายหนุ่มใช้ความไวคว้าตัวเธอไว้ทัน ภัทรานิษฐ์หน้าซีด เหงื่อมากมายผุดขึ้นตามใบหน้า คิ้วขมวด ขบกรามแน่นอย่างคนเจ็บปวดแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา“ยี่หวา…” พัฒน์ชนะเขย่าตัวภัทรานิษฐ์ไปมา ใจคอไม่ดี“หวา…เป็นอะไร” ศิรดาเข้าไปนั่งข้างๆ เพื่อน พร้อมเอ่ยถามอย่างห่วงใย เพราะเห็นสีหน้าเพื่อนไม่สู้ดีนัก“ตาแพท… เลือด มีเลือดตรงชายเสื้อหนูคนนี้” นุชรีย์เอ่ยบอก พัฒน์ชนะจึงรั้งมือของภัทรานิษฐ์ออกไป แต่เธอก็ยังดื้อดึงไม่ยอมง่ายๆ สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะแพ้แรงของชายหนุ่ม เขาถลกชายเสื้อคนไข้ที่ภัทรานิษฐ์สวมอยู่ขึ้นเพื่อดูแผลผ่าตัด ที่ในตอนนี้มีเลือดไหลซึมออกมามาก
ภัทรานิษฐ์นอนกอดลูกสาวบนเตียง กำลังคิดว่าคงต้องให้ พลอยไพลินมาอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย แม้จะลำบากก็ยอมทน ไม่อยากให้อยู่กับพัฒน์ชนะแล้ว ศิรดาเดินเลี่ยงออกมานอกห้อง เพราะสามีโทรศัพท์ มาหา พอเปิดประตูออกมาก็ประสานสายตากับพัฒน์ชนะเข้า เธอคิดว่าเขากลับไปแล้วซะอีก ศิรดาไม่พูดอะไร เธอปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์กับ รัชยศและต่อด้วยลักขณา เพราะอยากปรึกษาเรื่องภัทรานิษฐ์นี่แหละ สงสัยจะรั้นหัวชนฝากว่าเดิมอีกเป็นแน่“ยี่หวาเป็นยังไงบ้างฝน” พัฒน์ชนะถามขึ้น เมื่อเห็นว่าศิรดาวางสายแล้ว“โอเคค่ะ น้องพลอยตื่นแล้ว สองแม่ลูกกำลังนอนกอดกันอยู่”“ยี่หวาคงโกรธพี่มากขึ้นไปอีกแน่”“เรื่องมันชัวร์อยู่แล้ว อุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแลน้องพลอย แต่พี่แพท กลับทำเสียเรื่องซะนี่” พูดจบศิรดาก็ถอนหายใจออกมา เพราะไม่รู้จะเอายังไงต่อเหมือนกัน“โทษที”“จะว่าไปมันเป็นเรื่องอุบัติเหตุนี่คะ ทำไงได้”“แต่พี่ก็ผิดเต็มประตู โทษใครไม่ได้หรอก”“เฮ้อ...” ศิรดาถอนหาย
Chapter 73ข่าวที่พลอยไพลินติดอยู่ในลิฟต์ ศุภวุฒิเห็นจากหน้าหนังสือพิมพ์ ชายหนุ่มพยายามติดต่อภัทรานิษฐ์และก็ทำได้สำเร็จ พอรู้ว่าหญิงสาวอยู่ไหนก็รีบไปหาพร้อมของเยี่อมและปลอบขวัญพลอยไพลินด้วย พอเห็นหน้าครูใหญ่ พลอยไพลินก็เอ่ยทักเพราะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว“คุณครูใหญ่”“ครับน้องพลอย นักเรียนของครูเป็นยังไงบ้างเอ่ย” ศุภวุฒิย่อตัวลงไปหาพลอยไพลินที่เดินยิ้มมาหาคนคุ้นเคย“สบายดีค่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยบอก ตอนนี้สบายดีเพราะหายตกใจและหายกลัวแล้ว แต่เมื่อสี่ห้าชั่วโมงก่อนยังร้องไห้จ้าอยู่เลย“ดีขึ้นแล้วค่ะ พึ่งกลับมาร่าเริงช่างจ้อแบบนี้ได้ไม่นานเอง” ภัทรานิษฐ์เอ่ยบอกแทนลูกที่ยังคงไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองนักหรอก“ดีแล้วครับ เด็กๆ ก็ดีแบบนี้ ลืมเรื่องเลวร้ายได้ง่าย”“แต่คงกลัวลิฟต์ไปอีกนาน” คนเป็นแม่ส่ายหน้าให้ลูก ตอนนี้พลอยไพลินแทบจำเรื่องราวไม่ได้เลยมั้ง ว่าร้องไห้เพราะอะไร“ให้เวลาหน่อยครับ อีกหน่อยก็ดีขึ้น”“ฉันก็หวังว่า
Chapter 74“ถ้าไม่ได้รัก แล้วตอนนั้นแกจะเก็บน้องพลอยไว้ทำไมกันหวา ในเมื่อแกสามารถทำแท้งลูกของผู้ชายที่มันข่มเหงแกได้ และแกก็คิดจะทำแล้วด้วย แต่ที่แกเก็บลูกพี่แพทไว้เพราะรัก ไม่ใช่หรือไง” คำพูดของศิรดาทำให้พัฒน์ชนะที่ยืนฟังอยู่นอกห้องตกใจ ภัทรานิษฐ์คิดจะทำแท้งแต่โชคดีที่เธอไม่ได้ทำ ไม่อย่างนั้นเขาคงบาปมากกว่านี้แน่“ไม่ เราไม่มีทางรักผู้ชายคนนั้นอีก เลิกพูดเรื่องนี้เถอะฝนเราขอ”“หวา...เขาเป็นพ่อของน้องพลอยนะ เข้าใจบ้างสิ”“พอเถอะ พอแล้ว” ภัทรานิษฐ์ยกมือขึ้นปิดหู ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น แต่ถึงจะปิดแน่นแค่ไหนก็ยังได้ยินเสียง เสียงที่มันดังก้องอยู่ในหัวใจเธอ ว่ายังรักพัฒน์ชนะอยู่แม้จะพยายามบอกตัวเองให้เลิกรักเขาแล้วก็ตาม เพราะรักเขาถึงได้เจ็บแบบนี้“ฝน...พอก่อนนะ อย่าใส่อารมณ์มากไปแบบนี้สิ” รัชยศเอ่ยปรามภรรยา“แกนี่มันใจแข็งกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก เห็นแก่ตัว ไม่สงสารน้องพลอยบ้างหรือไง พ่อมาอยู่ใกล้แค่นี้ แต่แกกลับผลักไสให้พี่แพท ออกไปพ้นๆ คนที่พรากพ่อพรากลูก ไม่ให้เขาสอ
Chapter 75“มาเฝ้ายี่หวา มาดูแลน้องพลอยด้วย” พูดจบก็วางของไว้บนโซฟา“ไม่จำเป็น” ภัทรานิษฐ์ตอบแบบไม่ลังเล แต่พัฒน์ชนะก็ยังนิ่ง พลอยไพลินที่ไม่รู้เรื่องรอบข้าง เดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พร้อมยื่นยีราฟให้ดู“พ่อจ๋า น้องพลอยมีพี่ยีราฟด้วยค่ะ” ความดีใจที่ได้พบพัฒน์ชนะ ทำให้พลอยไพลินเอ่ยเรียกเขาว่าพ่อจ๋า เพราะคำนี้เหมือนจะชินปากเด็กหญิงไปแล้ว คำเรียกนี้ทำให้ภัทรานิษฐ์มองหน้าลูก สลับกับมองหน้าพัฒน์ชนะ เธอตกใจตาค้าง ไม่รู้ว่าไปสอนกันให้เรียกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่“เหรอครับ น้องพลอยคนเก่งของพ่อจ๋า หายตกใจแล้วใช่ไหม” พัฒน์ชนะย่อตัวลงไปคุยกับพลอยไพลิน เอ่ยแทนตัวเองแบบไม่ขัดเขินและเต็มใจ ยิ่งทำให้ภัทรานิษฐ์โกรธเคืองเพิ่มขึ้นไปอีก“อะ...อะไรนะ คุณให้ลูกฉันเรียกคุณแบบนั้นได้ยังไง น่าเกลียด”“ก็พี่เป็นพ่อของน้องพลอย ให้ลูกเรียกว่าพ่อจ๋า ไม่เห็นแปลกทีลูกยังเรียกยี่หวาว่าแม่จ๋าได้เลย” พูดจบก็ส่งยิ้มให้ภัทรานิษฐ์ แต่เธอกลับทำหน้าบึ้งตึงใส่ตามเคย“ใครอนุญาตใ
“ดีมากจ้ะ” ภัทรานิษฐ์ลูบใบหน้าพลอยประภัสเบาๆ เด็กหญิงจึงได้ทีถามแม่เรื่องการแต่งตัว เพราะอยากให้ชม“แม่จ๋า… น้องพราวแต่งตัวเสร็จแล้ว เก่งไหมคะ”“เก่งค่ะ ว่าแต่วันนี้ใครแต่งตัวให้น้องพราวของแม่นะ” ภัทรานิษฐ์มองชุดที่ลูกสาวสวมอยู่ ไม่มีอะไรเกินความคาดหมายวันนี้พลอยประภัสมาในชุดเสื้อยืดเท่ๆ กางเกงยีนส์ขายาว คาดเข็มขัด ผมยาวเลยบ่าไปแล้ว มัดสูงขึ้นรวบตึงที่ด้านหลัง ใส่หมวกอีกใบคงเท่ขึ้นเป็นกอง“พี่พลอย”“ขอบคุณพี่หรือยังคะ”“ยังค่ะ”“หนูต้องทำยังไง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูก พลอยประภัสหันมองหาพลอยไพลิน เมื่อเห็นว่ากำลังเดินลงมาจากบันไดก็เข้าไปกอดและเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้ม ก่อนจะเอ่ยบอก“ขอบคุณค่ะ พี่สาวของน้องพราว” พลอยไพลินที่ลงมาช้า เพราะพึ่งแต่งตัวเสร็จ หลังจับน้องจอมซนใส่เสื้อผ้าแล้ว เด็กหญิงยิ้มให้น้องทันที ก่อนจะจูงมือไปยังโต๊ะอาหารที่พ่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งภัทรานิษฐ์และพัฒน์ชนะยิ้มให้ เพราะทั้งสองคนมักจะบอกลูกๆ ว่าใ
ห้าปี ต่อมาครอบครัวของพัฒน์ชนะและภัทรานิษฐ์ สมบูรณ์แบบตามคำว่าครอบครัว มีความรักลอยอบอวลอยู่รอบข้างของเหล่าสมาชิกที่ตอนนี้เพิ่มมาเป็นสี่คนและอีกหนึ่งคนกำลังเติบโตอยู่ในท้องของภัทรานิษฐ์รอเวลาลืมตาดูโลก ภาพตอนนี้ คือทั้งสี่คนกำลังยืนแปรงฟันหน้ากระจกและอ่างล่างหน้าที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันไดไปตามความสูง เริ่มที่พัฒน์ชนะ ภัทรานิษฐ์ พลอยไพลินและพลอยประภัส สมาชิกคนที่สี่ที่ตอนนี้อายุได้สามขวบแล้ว ส่วนพลอยไพลินเป็นพี่ใหญ่อายุเจ็ดขวบครึ่ง“แปรงให้สะอาดนะคะ” เสียงอบอุ่นของแม่เอ่ยบอก ทั้งสามีและลูกๆ ของเธอ“ค่ะ/ค่ะแม่” เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวทั้งสองคนเอ่ยตอบภัทรานิษฐ์กลับไป ยิ่งนานวันครอบครัวนี้ก็ยิ่งมีแต่ความสุขและความน่ารักของสมาชิก“ไหน… อ้าปากให้พ่อดูหน่อย น้องพลอย น้องพราว” พัฒน์ชนะที่แปรงฟันเสร็จแล้ว ลงไปนั่งยองๆ มองหน้าลูกทั้งสองคน“อ้า...” พลอยไพลินและพลอยประภัสอ้าปากให้ผู้เป็นพ่อดูความสะอาด ก่อนจะยิ้มแฉ่งอวดฟันซี่เล็กๆ สีขาวที่ดูแลเป็นอย่างดี“โอ้โห้...ฟันขาวสะอาดกั
“คุณเก๋!” น้ำเสียงตึงๆ ของศุภวุฒิดังขึ้นไปอีก ชายหนุ่มกำลังโกรธเพราะหึงอยู่นั่นเอง ลักขณาจึงเอ่ยดักทางไว้“ทำเสียงเข้มๆ แบบนั้นทำไมคะ หึงหรือไง”“เปล่า ไม่ได้หึง” ศุภวุฒิรีบปฏิเสธทันที ก่อนจะกลับไปทำ หน้าตาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ลักขณาส่ายหน้าให้ผู้ชายปากแข็ง ลักขณาขี้เกียจจะซักต่อ จึงเอ่ยถามถึงที่หลับที่นอนของเขาแทน“เปล่าก็เปล่า แล้วนี่คุณวุฒิจะพักที่ไหน”“ที่นี่” ชายหนุ่มเอ่ยตอบแบบไม่รีรอ คนฟังอุทานเสียงดังทันที“เอ๋…ได้ไงคะ”“ทำไมจะไม่ได้ ผมจะนอนที่นี่”“เก๋…พึ่งรู้ว่าคุณวุฒิเอาแต่ใจ”“อืม จะว่าไปที่นี่มีโรงเรียนอนุบาลหรือยังนะ” ศุภวุฒิไม่ตอบคำถามนั้นของลักขณา ก่อนจะทำท่าคิด เรื่องที่เขาต้องการจะทำอีกอย่าง“ถามทำไมคะ”“คงต้องสำรวจตลาดกันสักหน่อย เผื่อจะมีคู่แข่ง” สีหน้าของชายหนุ่มดูจริงจังมาก ก่อนจะควานหาอะไรในกระเป๋
หลังเสร็จงานแต่งงานของพัฒน์ชนะและภัทรานิษฐ์ที่แสนเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนล้ำค่า พอเห็นลูกมีความสุขจรรยาและทวี รวมทั้งวสุวัสก็ขอตัวกลับบ้าน ภัทรานิษฐ์อยากให้ครอบครัวเธออยู่ต่ออีกหน่อย แต่ทุกคนกลับส่ายหน้าให้ เพราะสามสี่วันที่ได้อยู่ดัวยกันมันก็มีค่ามากพอแล้ว อีกอย่างกรุงเทพฯ - ตราดก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ ไปมาหาสู่ได้สบาย อนุภพมีงานก็ขอตัวกลับด้วยเหมือนกันส่วนศิรดาและรัชยศก็ขอตัวกลับกรุงเทพฯ เพราะศิรดามีนัดตรวจครรภ์ ลักขณาเองก็ต้องกลับโดยมีศุภวุฒิขับรถไปส่งเธอใจจริงหญิงสาวอยากอยู่นานๆ แต่ด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบจึงทำแบบนั้นไม่ได้ ที่ชะอำในตอนนี้จึงมีแต่เหล่าสมาชิกของบ้านสุนทรโรจน์อยู่กันพร้อมหน้า พวกเขาจะอยู่ต่ออีกวัน พรุ่งเช้าค่อยกลับกรุงเทพฯ ศุภวุฒิขับรถมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ชายหนุ่มเข้าไปรับตั๋วเครื่องบินให้ลักขณา เพราะเขาจองตั๋วไว้แล้ว แต่ในมือศุภวุฒิลับมีตั๋วถึงสองใบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งตั๋วเครื่องบินใบหนึ่งให้เธอ“คุณวุฒิ… จะบินไปไหนคะ”“ผมมีงานน่ะครับ” ศุภวุฒิ ไม่ได้บอกว่าเขามีงานที่ไหน ลักขณาออกอาการงง
“พี่รักยี่หวา”“ยี่หวาก็รักพี่แพทค่ะ”“เราจะรักกันไปจนวันตาย”“ค่ะ” ภัทรานิษฐ์เอ่ยรับคำพูดนั้น ทุกคนที่ได้ยินทั้งสองเอ่ยคำรักกันและกัน ถึงกับยิ้มอย่างตื้นตัน เมื่อสวมแหวนเรียบร้อย บ่าวสาวก็เดินไปนั่งตรงซุ้มที่ประดับประดาอย่างสวยงาม ให้ทุกคนได้รดน้ำสังข์ แต่น้ำสังข์ของงานแต่งงานครั้งนี้เป็นทรายสีชมพูที่ผ่านการอวยพรมาจากทุกคนที่ทั้งสองรักบรรยากาศรดน้ำสังข์ทำเอาน้ำตาของภัทรานิษฐ์ไหลนองหน้า คำอวยพรจากพ่อแม่ของเธอ รวมทั้งพ่อและแม่ของพัฒน์ชนะ มันทำให้หญิงสาวมีความสุขจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนอวยพรให้เธอและพัฒน์ชนะมีความสุขทั้งนั้น ลักขณาและศิรดาก็แอบปาดน้ำตาเหมือนกัน เธอดีใจที่ภัทรานิษฐ์มีวันนี้ วันที่เพื่อนเธอมีความสุข และคนรอบข้างก็อวยพรให้อย่างจริงใจและปรารถนาดีเมื่อผ่านการรดน้ำสังข์และได้รับคำอวยพรจากทุกคน ภัทรานิษฐ์ก็โยนช่อดอกไม้ โดยมีบรรดาสาวโสดที่เป็นพนักงานของรีสอร์ตมายืนรอกันไม่น้อย แต่กลับไม่มีลักขณา เพราะเธอเขินจึงยืนหลบอยู่กลังศุภวุฒิ แต่โชคชะตาก็ได้กำหนดให้ช่อกอดไม้ของภัทรานิษฐ์ มาหล่
“หวา… อย่าพึ่งร้องไห้สิ เดี๋ยวไม่สวยนะ” ศิรดาเอ่ยบอกเพื่อน ซึ่งมันดูยากที่จะห้ามเหลือเกิน เพราะเธอเคยผ่านอารมณ์การแต่งงานมาแล้ว จึงพอเข้าใจว่าตื่นเต้นมากแค่ไหน แถมพัฒน์ชนะยังทำเซอร์ไพรส์ใหญ่แบบนี้ ไม่ตกใจก็ให้มันรู้ไปสิ“ก็คนมันอดไม่ได้ แกสองคนรู้เรื่องนี้กันตั้งแต่ตอนไหน”“เรื่องอะไร ฉันไม่รู้” ลักขณาปฏิเสธตาใส ภัทรานิษฐ์จึงคาดคั้น“ฝน เก๋ เล่ามา”“เสร็จงานก่อน แล้วพวกฉันจะสารภาพนะเพื่อน” ศิรดายิ้มให้ ก่อนจะบรรจงแต่งหน้าภัทรานิษฐ์ให้สวยที่สุด ลักขณาหยิบดอกไม้สีขาวขึ้นมาปักบนเส้นผมที่จัดแต่งอย่างสวยงามของเพื่อน ตามด้วยมงกุฎเพชร ที่เข้ากับชุดแต่งงานสีขาวนั่นเป็นที่สุดเมื่อหน้าผมพร้อม ภัทรานิษฐ์ก็เปลี่ยนชุด เธอยืนมองตัวเองหน้ากระจกเป็นนาน ลูบชุดแต่งงานเกาะอกสีขาวบริสุทธิ์ที่สวมอยู่อย่างเบามือ มุกและคริสตัลทุกเม็ด รวมทั้งลูกไม้ที่ปักอยู่สวยงามไม่มีที่ติ ที่สำคัญเธอใส่มันได้พอดี จึงชวนให้คิดวันที่ศิรดาขอวัดตัวเธอ แล้วบอกว่าจะตัดชุดส่งไปให้ญาติที่ต่างประเทศ ที่แท้ก็เ
“พี่แพท” ภัทรานิษฐ์เอ่ยเรียกชายหนุ่มไม่เต็มเสียงนัก ตาปรือๆ มองสบตากันผ่านกระจก ท่วงท่ายั่วยวนของภัทรานิษฐ์แบบนี้ ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มได้ดี พัฒน์ชนะเริ่มทำให้เธอครางไม่หยุด เขาขยับเข้าออกรัวเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นช้าๆ เนิบๆ จนภัทรานิษฐ์ส่ายหน้าให้ บอกว่าไม่ไหวแล้ว“ในน้ำ” พัฒน์ชนะกระซิบข้างหูภัทรานิษฐ์ ก่อนจะพาเธอไปยังอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็ม ชายหนุ่มลงไปนอนในนั้นโดยมีภัทรานิษฐ์นั่งคร่อมหันหลังให้อยู่ด้านบน เธอได้จังหวะขยับเข้าออก ยิ่งอยู่ในน้ำ ความคับแน่นก็ยิ่งมีมากขึ้น พัฒน์ชนะถึงกับกำขอบอ่างแน่น“ที่รักคะ”“ครับ… สุดยอด” ชายหนุ่มขานรับ ก่อนจะเอ่ยบอกความรู้สึก ภัทรานิษฐ์ได้ใจขยับเร่งจังหวะของสะโพกขึ้นลงหนักหน่วงขึ้น เพราะรู้ว่าตัวเองต้องการแบบไหน รวมทั้งตอบสนองความต้องการของพัฒน์ชนะด้วย รสเซ็กส์แม้จะคล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวอยู่ที่คนเล่นว่าจะพัฒนาฝีมือ ทำให้คู่ครองชอบได้มากแค่ไหนพัฒน์ชนะรั้งตัวภัทรานิษฐ์ให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาชายหนุ่มเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าอกข
“อากาศดีจังเลยนะคะ” ภัทรานิษฐ์เอ่ยบอก คนที่ยืนกอดซ้อนหลังเธออยู่ ทั้งสองคนออกมายืนรับลมตรงระเบียงของรีสอร์ต เสียงคลื่นซัดทราย ช่างเป็นเสียงที่ไพเราะมาก“ใช่…” เสียงทุ้มๆ เอ่ยรับ ภัทรานิษฐ์เอียงใบหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะได้ถามอะไร พัฒน์ชนะก็หอมแก้มเธอหนักๆ“จริงสิคะ หวาจะถามตั้งแต่มาถึงแล้ว ข้างหน้าเขาจะมีงานอะไรหรือเปล่า เห็นจัดสถานที่ไว้”“เห็นทางรีสอร์ตบอกจะมีงานแต่งงาน” พัฒน์ชนะเอ่ยตอบตามตรง แต่บอกไม่หมดว่ามันคืองานแต่งงานของเขากับเธอ“จริงเหรอคะ ไม่น่าละ บรรยากาศดูสวย และอบอุ่นขึ้นเป็นกอง”“ยี่หวาละ อยากมีงานแต่งงานแบบไหน”“ไม่เคยคิดค่ะ” คำถามของพัฒน์ชนะ ทำให้ภัทรานิษฐ์รู้สึกแปลกๆ เธอไม่เคยพูดเรื่องที่จะให้เขามาแต่งงานด้วย เพราะกลัวเขาจะหลงตัวเอง คิดว่าเธออยากแต่งงานด้วยมาก แต่เรื่องานแต่งงานของตัวเอง เธอยังไม่ได้คิดจริงๆ ไม่มีแผนในสมองสักนิด เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แม้แต่ชุดแต่งงานเธอก็ไม่เคยคิดว่าอยากใส่แบบไหนอะไรยังไงด้วยซ้ำ คงเป็นเพ
“พี่แพท เป็นยังไงบ้างคะ”“ไม่มีปัญหาครับ พ่อและแม่ของยี่หวาถึงจะไม่พอใจที่พี่ทำแบบนั้นลงไป แต่พี่ก็สู้ไม่ถอย จนท่านสองคนใจอ่อนลงไปมากแล้ว” พัฒน์ชนะกุมมือของภัทรานิษฐ์ไว้ เพราะรู้ว่าเธอกังวล แต่ตัวของชายหนุ่มกลับลงไปกองบนโซฟา เมื่อถูกวสุวัสปล่อยหมัดใส่แบบไม่ทันตั้งตัว“แม็ค… ทำอะไร” ภัทรานิษฐ์ผลักอกน้องชายให้ออกห่างจากพัฒน์ชนะ ไม่รู้ว่าไปใจร้อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นยังดีๆ อยู่เลย ศิรดาเองก็ออกอาการอึ้ง ไม่แพ้พลอยไพลิน“ต่อยไงพี่หวา อยากทำแบบนี้ตั้งแต่แรกที่เจอหน้าแล้ว”“ไม่เป็นไร” คนถูกต่อยเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หมัดแค่นั้นมันไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดอะไรมากมายนักหรอก“คุณเป็นผู้ชายประสาอะไร ทำไมถึงทำกับพี่สาวผมแบบนี้ ห๊า…หน้าตัวเมีย” คำพูดของวสุวัส ทำให้ภัทรานิษฐ์ตกใจ เพราะท่าทางน้องชายของเธอโกรธมาก ศิรดาดึงสติกลับมาได้ก่อน จึงเข้าไปรั้งแขนของวสุวัสไว้“แม็ค ใจเย็น…”“จะต่อยอีกไหม พี่ให้