Share

บทที่ 2

บทที่ 2

 

“ฝน...แกก็พูดเว่อร์ไป เราอยากเรียนออกแบบมากกว่า ก็เลยเลือกมหาวิทยาลัย…นั่น” ภัทรานิษฐ์เอื้อมมือมาตีหมับลงไปบนต้นแขนของศิรดาเบาๆ ที่เอ่ยเรื่องน่าอายของเธอออกมา เพระทุกอย่างมันคือความจริง แค่การได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนั่นก็ใช่ว่าเธอจะได้สานสัมพันธ์กับพัฒน์ชนะมากขึ้นเสียเมื่อไหร่

เพราะชายหนุ่มก็ยังเป็นหนุ่มฮอตเหมือนเดิม มีแต่คนสนใจโดยเฉพาะสาวๆ ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงจะอยู่ใกล้กันแค่ไหนแต่สำหรับเธอ พัฒน์ชนะเหมือนอยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึง เขาไม่เคยมองเห็นเธอในสายตาด้วยซ้ำ แม้จะทำตัวเด่นก็ตาม 

“ไม่เว่อร์ล่ะ ถ้าแกเลิกชอบพี่แพทนานแล้ว ป่านนี้ทำไมยังโสดวะ เรียนจบมาก็ตั้งสองสามปี ไม่เห็นจะมีแฟน หน้าตาแกก็สวยจนไปประกวดนางงามยังได้เลย” คำถามของเพื่อนช่างจี้ใจดำคนโสดแบบไม่ตั้งใจโดยแท้ 

“อ้าว...ทำไงได้ ก็คนมันยังไม่รักใครนี่นา อยู่แบบโสดๆ อย่างนี้ชีวิตฉันก็สบายดีออก” คนโสดยักไหล่ให้ เพราะบางครั้งคนไม่โสดอย่างใครบางคนข้างหน้าก็แอบอิจฉาคนโสดอย่างเธอเหมือนกัน เพราะในกลุ่มคนที่มีแฟนและมีแววว่าจะสละโสดคนแรกนั่นคือศิรดา 

“เหรอ…ถามหัวใจแกก่อนค่อยตอบฉันก็ได้ ชิชิ อย่าหาว่าไม่รู้” ศิรดายิ้มกริ่ม เพราะรู้ว่าภัทรานิษฐ์แอบแซวเธอ 

“รู้ดี...ขอหวยงวดหน้าหน่อยสิยัยฝน ฉันจะได้ขายร้านเวดดิ้งมาซื้อ”ภัทรานิษฐ์แบมือไปยังเพื่อน สีหน้ายิ้มๆ อยู่ในที

“โยกโย้นะแก…เก๋ไฟเขียวแล้ว เลิกเติมแก้ม" เพื่อนสาวหันมาแยกเขี้ยวให้คนขับรถ ก่อนจะสะกิดบอกลักขณาให้รู้ตัว 

“เออๆ”คนขับรถวางตลับแป้งลง ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์และรีบเหยียบคันเร่งเพื่อขับรถให้ผ่านแยกนรกนี้ให้ได้ ถ้าขืนติดไฟแดงอีกรอบพวกเธอก็คงไม่ต้องเข้างานมันแล้ว เลี้ยวรถกลับบ้านเลยดีกว่า

พัฒน์ชนะขับรถแซงคันที่สาวๆ นั่งอยู่ เนื่องจากเลนของเขาค่อนข้างว่าง แต่ก็ไม่วายมองรถคันดังกล่าวผ่านกระจกหลัง เนื่องจากใบหน้าของหญิงสาวที่เห็นยังติดตาและอยากรู้ว่าเธอคือใคร 

พัฒน์ชนะขับรถมาถึงหน้าโรงแรม ชายหนุ่มแทบไม่ต้องวนหาที่จอดรถเพราะเพียงแค่พนักงานเห็นทะเบียนรถเขาเท่านั้นก็วิ่งไปเอากรวยที่กั้นจุดจอดรถของแขกระดับวีไอพีออกให้ชายหนุ่มได้เลี้ยวรถเข้าไปจอดทันที เมื่อจอดรถเรียบร้อย เจ้าของโรงแรมก็เปิดประตูรถแล้วก้าวออกมา ก่อนจะเดินผิวปากขึ้นไปยังห้องจัดเลี้ยงทันที

“แพท...ทางนี้เพื่อน”อนุภพเอ่ยเรียกพร้อมทั้งโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณเรียกพัฒน์ชนะ ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะตัวดังกล่าว สายตาของสาวๆ ทุกคนในงานล้วนจับจ้องมายังชายหนุ่ม ผู้ที่ฮอตมากที่สุดสมัยเรียนนั่นคือพัฒน์ชนะ บางคนถึงขั้นเขินอายหน้าตาร้อนผ่าวๆ เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมางานวันนี้ด้วย เนื่องจากทุกปีที่ผ่านมาไม่เห็นวี่แวว 

ส่วนรุ่นน้องบางคนที่เข้าเรียนไม่ทันตอนที่พัฒน์ชนะเรียนอยู่ แทบไม่ต้องบอกเล่า เพียงแค่ได้เห็นหน้าชายหนุ่มตอนนี้ก็ต่างพากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่จนแทบจะลืมอายุ เรียกได้ว่าพอเดินเข้ามาในงาน พัฒน์ชนะก็กลบรัศมีผู้ชายแทบทุกคนก็ว่าได้ แม้จะผ่านมาหลายปีแต่ชายหนุ่มก็ยังคงเป็นจุดสนใจได้อยู่เสมอ 

“โทษทีว่ะ รถมันติด”เสียงทุ้มๆ ของพัฒน์ชนะเอ่ยบอกเพื่อนร่วมโต๊ะ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง

“เออ แต่เอ็งไม่น่ามาเลยว่ะ พวกข้าเรตติ้งตกกันหมดพอดี สาวๆ รุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นเดียวกันในงานมองเอ็งคนเดียวไอ้แพท”พูดจบอนุภพก็ลอบถอนหายใจออกมา รู้สึกปลงๆ กับชีวิตอย่างบอกไม่ถูก 

“เอ็งยังไม่ชินเหรอวะไอ้ภพ” 

“ยังโว้ย เอ็งนี่หลงตัวเองไม่เลิก” 

“ไม่ได้หลง มันเรียกว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย พอรู้ว่าตัวเองยังฮอตแบบนี้ก็คุ้มค่าที่จะมางานเลี้ยงรุ่นหน่อย”พัฒน์ชนะเอ่ยอย่างภูมิใจ เพราะคิดว่าความฮอตของเขาจะหล่นหายไปตามกาลเวลาเสียแล้ว 

“เออ…ไอ้คนหล่อ" อนุภพเอ่ยตอบทำนองหมั่นไส้ พัฒน์ชนะนั้นแทบไม่ได้นั่งติดที่ เพราะมีสาวๆ เข้ามาขอคุยด้วยอย่างต่อเนื่อง ถามไถ่เรื่องนั้นเรื่องนี้แต่จะเน้นเรื่องคนรักเสียเป็นส่วนใหญ่ คนไหนที่พัฒน์ชนะเคยควงสมัยเรียน พอมาเจอกันวันนี้หญิงสาวก็ต่างพยายามทำให้ตัวเองดูโดดเด่น เพื่อให้ชายหนุ่มนั้นกลับไปสนใจอีกครั้ง แต่พัฒน์ชนะยังคงนิ่งเฉย จนสาวๆ พวกนั้นอดรนทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเดินเข้ามาคุยกับชายหนุ่มเสียเอง 

ขณะที่ภายในงานกำลังครึกครื้นด้วยมีคนสร้างสีสันอย่างพัฒน์ชนะอยู่ทั้งคน ทางด้านภัทรานิษฐ์และเพื่อนทั้งสองก็กำลังวนหาที่จอดรถภายในโรงแรมเหมือนกัน นอกเสียจากรถจะติดจนชวนให้อยากกลับบ้านแล้ว ที่จอดรถก็ยังหายากอีกซึ่งกว่าจะมีที่ว่างสามสาวก็ช่วยกันมองหาจนคอแทบเคล็ด 

“โรงแรมอะไร ที่จอดรถน้อยชะมัด” ขณะเดินเข้าโรงแรม ลักขณาก็เอ่ยแบบไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก 

“เอาน่าแก วันนี้แขกคงเยอะ ไหนจะงานแต่ง งานอื่นๆ อีก เพราะแค่งานเลี้ยงรุ่นของเราก็ปาเข้าไปเกือบร้อยคนแล้วมั้ง ที่จอดรถก็ต้องเต็มเป็นธรรมดา”ศิรดาเอ่ยขึ้น เพราะไม่อยากให้เพื่อนสาวหน้านิ่วคิ้วขมวด เดี๋ยวจะไม่สวย 

“สวย คิดบวก”ลักขณาหันมาแซวเพื่อน ศิรดาจึงรีบเอ่ยรับทันที 

“ขอบคุณที่ชม” 

“สวยทั้งคู่นั่นแหละ เข้างานกันเถอะ”ภัทรานิษฐ์เอ่ยปิดประเด็น ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องจัดเลี้ยง พอก้าวเข้าไปในห้องได้ สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมายังภัทรานิษฐ์เป็นตาเดียว เหมือนกับตอนที่มองพัฒน์ชนะไม่มีผิด หญิงสาวออกอาการประหม่านิดหน่อย เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ตกอยู่ในสายตาของคนมากมายแบบนี้ สามสาวเดินไปยังโต๊ะที่มีเพื่อนผู้หญิงโบกไม้โบกมือให้อยู่

++++++++++++++++

ฝากติดตามผลงานของนักเขียนนามปากกา วรนิษฐา ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status