สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือการเปรียบเทียบรายละเอียดของกวอ ซิ่นหลี่กับเอกสารที่มีอยู่ เพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมที่สามารถยืนยันการคาดเดาของเธอได้!ในทางกลับกัน รถยนต์คันสีดำมาถึงคฤหาสนือี้ แต่อี้ จิ่นหลีกลับไม่ได้ก้าวลงจากรถ เขาเพียงนั่งพิงเบาะหลังพลางหลับตา ข้างมือของเขามีโทรศัพท์ที่กำลังฉายวิดีโอซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหตุการณ์ในวิดิโอเป็นฉากของหลิง อี้หรานที่อยู่กับกวอ ซิ่นหลี่และอาหยันในสวนสนุกวันนี้ แต่มันไม่ใช่วิดีโอเดียวกับที่หลิง อี้หรานเห็นก่อนหน้านี้ภายในโทรศัพท์ของเขามีวิดีโอแบบนี้อยู่นับไม่ถ้วนวิดีโอมากมายเหล่านี้ล้วนเป็นบันทึกเหตุการณ์ที่หลิง อี้หรานทำที่สวนสนุกในวันนี้เกา ฉงหมิงที่นั่งอยู่แถวหน้าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังเสียงของเหตุการณ์ในวิดีโอดูสดใสร่าเริง แต่บรรยากาศภายในรถกลับดูหดหู่อย่างยิ่ง“นายน้อยอี้ เรามาถึงแล้วครับ” เกา ฉงหมิงพูดขึ้น หลังจากเวลาผ่านไปแสนนาน“อืม” อี้ จิ่นหลีตอบอย่างไม่ใส่ใจ เสียงในวิดีโอนั้นฟังดูทรมานสำหรับเขา แต่เขาก็ยังฟังมันต่อไปเขานั่งฟังเสียงในวิดีโอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้ว่าเขาจะเลิกกับเธอและตัดสินใจที่จะไม่รักเธออีกต่อไป แต่
“ลายนิ้วมือบนพวงมาลัยและวิดีโอหน้ารถของทั้งสองคนที่เข้าไปในรถแสดงให้เห็นว่าหวาง ย่านหยิ่งกำลังขับรถอยู่ในที่นั่งคนขับ ขณะที่ซู ซีอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร” ทนายกู้พูด“ใช่ นั่นเป็นความจริงค่ะ แต่... เวลาไม่ตรงกัน” หลิง อี้หรานพูด“เวลา?” ทนายกู้หรี่ตาลงหลิง อี้หรานพูดต่อว่า “เมื่อเช้าฉันลองนั่งแท็กซี่และจับเวลาดู จากเวลาที่พวกเขาขึ้นรถ จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการขับรถไปยังที่เกิดเหตุด้วยความเร็วที่เราได้รับจากวิดีโอหน้ารถ พยานกวอ ซิ่นหลี่โทรหาตำรวจทันทีหลังจากรถชนกัน แต่เวลาที่พวกเขาสตาร์ทรถจนถึงตอนที่รถชนกันนั้นใช้เวลาถึง 23 นาที เมื่อเปรียบเทียบดูพบว่าเวลาที่แตกต่างกันถึง 8 นาทีนั้นค่อนข้างต่างกันมากเกินไป”ดวงตาของทนายกู้เป็นประกาย มันเป็นรายละเอียดที่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อน ความล่าช้าแปดนาทีนั้นยาวนานจริง ๆ“เท่าที่เราทราบจากการวิดีโอหน้ารถ พวกเขาเพียงตรวจสอบภาย 10 นาที แรกหลังจากเริ่มขับรถเท่านั้น แต่กลับไม่มีภาพหลังจากนั้น ดังนั้นทั้งคู่อาจจะเปลี่ยนที่นั่งกันในช่วงเวลานั้น” หลิง อี้หราน พูดทนายกู้คิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “นั่นไม่ใช่ประเด็น”“ฉันอยากพบคุณซูซีและพูดคุยกับเธอ
เมื่อนึกเช่นนั้น เธอก็หยุดชะงักทันทีราวกับกำลังพยายามนึกอะไรบางอย่าง ดวงตาของซูซีดูเหมือนคนที่พยายามนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นหากให้เธอคาดเดา เธอคิดว่าซูซีอาจจะเตรียมคำตอบมาก่อนหน้านี้แล้วขณะที่เธอกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ถูกชายคนหนึ่งดึงตัวไปแล้วพูดว่า “นี่ ทำไมนักแสดงสมทบถึงมายืนอยู่ตรงนี้? ออกไปให้พ้น เธอไม่เห็นกล้องหรือไง อย่ามาเดินเตร่แถวนี้!”หลิง อี้หรานตกตะลึง เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอบังเอิญเดินเข้ามาในฉากถ่ายทำของทีมงานภาพยนตร์ เธอรีบพูดขอโทษทันทีโดยพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ!”“ใครให้เธอมาที่นี่? เธอไม่รู้เหรอว่าเธอจะมาเดินเตร็ดเตร่แถวนี้ได้? นอกจากนี้...”ก่อนที่เขาจะต่อว่าเธอเสร็จ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม”หลิง อี้หรานหันศีรษะไปรอบ ๆ และเห็นกู้ ลี่เฉินปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเธอทีมงานตกใจเมื่อกู้ ลี่เฉินปรากฏตัวขึ้น “คุณ... คุณกู้...”“เอาล่ะ กลับไปทำงานของคุณได้แล้ว” กู้ ลี่เฉินสั่งทีมงานรีบออกไปในทันทีกู้ ลี่เฉินมองดูหลิง อี้หรานและถามว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”“นักแสดงที่นี่เป็นพยานในรูปคดีของฉัน ฉันเลยมาที่นี่เพื่อสอบถามร
เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไม่ตอบคำถามเขา เขาก็คงจะกักตัวเธอไว้ที่นี่อีกนาน“เราเลิกกันแล้ว และฉันก็ไม่ได้รักเขาแล้ว คุณจะปล่อยฉันไปได้หรือยังคะ?” เธอพูด“แล้วคุณรักใคร?” เขาถามเธอไม่อยากรักใคร เธอแค่อยากอยู่คนเดียวเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดว่า “คุณกู้ ฉันรักใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ตอนที่เราอยู่บนเนินเขา คุณบอกว่าเราจะเป็นแค่คนแปลกหน้ากันตั้งแต่นั้นมาไม่ใช่เหรอ?”เขาแข็งทื่อ ‘คนแปลกหน้า... แค่ปฏิบัติกับเธอให้เหมือนคนแปลกหน้า’ แต่ทำไมมันกลับดูยากเย็นตอนที่เขาเห็นเธอยืนอยู่ที่โต๊ะพูลในคืนนั้น เขากลับไม่สามารถหยุดมองเธอได้การปรากฏตัวของเธอรบกวนสมาธิของเขาได้อย่างง่ายดายเขากลับรู้สึกดีใจในทันทีที่เขาได้ยินว่าเธอเลิกกับอี้ จิ่นหลี‘ทำไมฉันถึงมีความสุข?’‘ฉันดีใจที่ฉันได้รับโอกาสใช่ไหม? ไร้สาระน่า! มีผู้หญิงมากมายในเมืองเฉินที่อยากจะปีนป่ายขึ้นมาบนเตียงของฉัน ผู้หญิงหลายคนพยายามที่จะเอาอกเอาใจฉันและเอาหน้าฉัน แต่ทำไมฉันต้องหลงรักผู้หญิงที่ไม่มีฉันอยู่ในใจด้วย?’‘เธอสวย แต่ในวงการบันเทิง มีผู้หญิงที่สวยกว่าเธอตั้งเยอะ’‘แต่... ฉันกลับโหยหาเธอ!’ราวกับว่าเขาจะรู้สึกพอใจ หากเขาได้
เธอต้องการให้ทีมงานคนอื่น ๆ เข้าใจในความสัมพันธ์ของเธอกับลี่เฉิน เพื่อที่เธอจะได้ออกอากาศมากขึ้น แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้กำกับยังจะให้เธอถ่ายตอนพิเศษอีกด้วยเธอวางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว และในตอนแรก มันก็เป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้แต่... เมื่อหลิง อี้หรานเข้ามา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป‘โดยเฉพาะตอนที่ลี่เฉินจับข้อมือของหลิง อี้หรานเอาไว้ ทีมงานทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์นี้ และตอนนี้ลี่เฉินยังออกไปอีก’หวา ลี่ฟางสัมผัสได้ว่าสายตาของคนรอบข้างเธอเปลี่ยนจากอิจฉาเป็นเยาะเย้ยและเห็นอกเห็นใจ‘ทั้งหมดเป็นเพราะหลิง อี้หราน!’‘ฉันจะปล่อยให้หลิง อี้หรานแย่งลี่เฉินไปจากฉันไม่ได้! ลี่เฉินเป็นความหวังเดียวของฉัน ฉันจะต้องมีชีวิตที่ดี ฉันจะคว้าโอกาสนี้จากลี่เฉินมาให้ได้!’...ในวันรุ่งขึ้น หลิง อี้หรานไปเยี่ยมหวง ย่านหยิ่งที่คุก เธอถูกตัดสินให้จำคุกหนึ่งปีสำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลิง อี้หรานเพียงต้องการเสี่ยงดวงและดูว่าเธอจะพูดอะไรออกมาไหม ทว่า หวง ย่านหยิ่งกลับปฏิเสธอี้หรานทันทีและขอให้อี้หรานออกไปจากที่นี่ทันทีที่เธอได้ยินว่าหลิง อี้หรานเป็นผู้ช่วยทนายความของโจทก์ ก่อนที่หล
หลิงอี้หรานตกใจ เธอลุกขึ้นและเดินอย่างโซซัดโซเซ แต่แขนแกร่งกลับคว้าเอวของเธอไว้จากนั้นเสียงของอี้ จิ่นหลีก็ดังขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?”หลิง อี้หรานหันกลับไปมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้น เธอก็มองไปที่คนแปลกหน้าสองคนที่นอนกองกับพื้น เธอหลุดออกจากภวังค์อีกครั้ง “ฉันไม่รู้จักพวกเขา”อี้ จิ่นหลีขมวดคิ้ว “เธอไม่รู้จักเหรอ?”“ใช่” เธอตอบ มองไปเขาแล้วพูดว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”“ฉันมาหาเธอ” เขาพูดขณะเหลือบมองผู้ชายคนหนึ่งที่นอนกรีดร้องอยู่บนพื้น ก่อนจะมองเธออีกครั้ง “ผู้ชายคนนี้บอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ เขาเป็นแฟนเธอหรือเปล่า?”น้ำเสียงโทนต่ำของเขาฟังดูน่ากลัวยิ่งขึ้น“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้จักพวกเขา แล้วคนคนนี้เป็นแฟนฉันได้ยังไง?”อี้ จิ่นหลียิ้ม “นั่นสิเนอะ ก็แค่คำถามไร้สาระ”จิ่นหลีเดินไปหาชายที่นอนอยู่บนพื้น เอาเท้าเหยียบหน้าอกของชายคนนั้น จนเขาร้องไห้ออกมาเสียงดัง“แกไม่ควรพูดแบบนั้นออกมา แฟนของเธอเหรอ? หึ แกยังดีไม่พอด้วยซ้ำ!” น้ำเสียงเย็นชาของเขาฟังดูโหดร้ายชายคนนั้นแทบจะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด เขาตะโกนสุดกำลัง “ฉัน... ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่ แค่ล้อเล่น ฉันไม่ใช่แฟนของเธอ!”
เธอพูดและพยายามดึงมือออกทว่า เขากลับจับมือเธอไว้แน่นแล้วพูดว่า “เรียกฉันว่าจิน”“มันไม่เหมาะสม คุณอี้ เรา...”“เรียกฉันว่าจิน” เขายังคงพยายามต่อ “หรืออยากจะยืนอยู่ต่อที่นี่ล่ะ?”หลิง อี้หรานกัดริมฝีปากของเธอและมองไปรอบ ๆ เธอพบว่าหลายคนมองมาทางพวกเขาอยู่ หากพวกเขาอยู่ที่นี่ ผู้คนอาจจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายและเผยแพร่วิดีโอทางอินเทอร์เน็ต“จิน!” เธอโพล่งออกไปด้วยความยากลำบากทันใดนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา ความสดใสเข้ามาแทนที่ใบหน้าที่แสนอันตรายและความโกรธในดวงตาสีพีชที่สวยงามคู่นั้น...…หลิง อี้หรานมองดูอี้ จิ่นหลีเดินเข้าไปในบ้านเช่าของเธอ เธอได้แต่สงสัยว่าเธอจะย้ายออกไปจากที่นี่หรือไม่แต่ถ้าเธอย้ายออกไป ยังไงเขายังสามารถเข้ามาในบ้านของเธอได้ตลอดเวลาอยู่ดี“คุณต้องการอะไร?” หลิง อี้หรานถามขณะจ้องมองอี้ จิ่นหลี“เธอจะทำอาหารเย็นเหรอ?” เขาถามเมื่อมองดูผักที่เธอซื้อมาจากตลาดก่อนหน้านี้“ใช่” เธอตอบ“ทำสำหรับสองที่นะ ฉันจะกินด้วย” เขาพูดเธอหยุดชะงักก่อนจะพูดว่า “ฉันซื้อผักมากินแค่ 1 อย่าง และมีอาหารเย็นไม่พอสำหรับสองคน ถ้าคุณหิว ก็ไปนั่งทานในร้านหรือสั่งกลับบ้านจะดีกว
อี้ จิ่นหลีก้มศีรษะลงและเริ่มกิน หลังจากกินไปได้สองสามคำ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “อร่อยมากครับพี่สาว”ท่าทางของเธอเปลี่ยนไป “ฉันไม่ใช่พี่สาวของคุณ”“จริงหรือ?” เขายิ้ม “เป็นพี่สาวของฉันมันไม่ดีเหรอ? ฉันจะทำให้ให้ทุกคนในเมืองเฉินเคารพเธอ แล้วเธอมีอะไรก็ได้ที่เธอต้องการในเมืองเฉิน ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ฉันก็หามาให้ได้”“แล้วถ้าฉันอยากให้คุณเลิกมาโผล่หน้าให้ฉันเห็นล่ะ?” เธอถามดวงตาของเขาดูเศร้าหมองลง “นี่เธอกำลังผลักไสฉันเหรอ?” แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้น“ใช่” เธอสบตาและให้คำตอบที่แน่วแน่แก่เขาถ้าเธอไม่ต้องเห็นหน้าเขา เธอก็อาจจะลืมเขาไปจากใจได้เสียทีใบหน้าของเขานิ่งเฉยขึ้น จนบรรยากาศในบ้านดูน่าอึดอัดหลิง อี้หรานคิดว่าอี้ จิ่นหลีอาจจะจากไปพร้อมกับความโกรธ แต่เขากลับยิ้มอีกครั้ง “แต่ผมอยากเจอพี่จริง ๆ นะ แล้วผมควรทำยังไงล่ะ?”เธอสำลักกับคำพูดได้ที่ยิน เธอไม่สามารถต่อว่าอะไรเขาได้เลย“ก็ได้ พอเถอะ ฉันไม่อยากจะเถียงกับเธอแล้ว อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้กินข้าวกับเธอ ฉันจำได้ว่าเธอเคยชอบกินข้าวกับฉัน ต่อให้ฉันจะกลับถึงบ้านดึกแค่ไหน เธอก็จะรอกินข้าวพร้อมกับฉัน” เขาพูดหลิง