“พวกเขาติเตียนฉันเล็กน้อยและเหยียบย่ำชุดของฉัน” หลิง อี้หรานกล่าว เธอไม่ต้องการระบายความหงุดหงิดของเธอออกมา “ขอโทษนะ วันนี้คุณพาฉันมาที่นี่ ฉันเกรงว่าฉัน...” “มีอะไรต้องขอโทษ? ผมเองที่ละเลยพี่ และปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพี่” อี้ จิ่นหลีขัดจังหวะเธอ ขณะที่เขากล่าว เขาก้มลงและผูกชายเสื้อคลุมที่ฉีกของเธอให้เป็นปมเข้าด้วยกันอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้มันลากลงบนพื้น และทำให้เธอต้องสะดุดล้ม เมื่ออี้ จิ่นหลีก้มลง ทุกคนรอบ ๆ ต่างอ้าปากค้าง พวกเขาไม่คาดคิดว่านายน้อยอี้ผู้มีชื่อเสียงของเมืองเฉิน จะคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงแบบนั้น หลังจากช่วยหลิง อี้หรานเก็บชายกระโปรงแล้ว อี้ จิ่นหลีก็เงยคางของเขาขึ้นเล็กน้อยอีกครั้ง มองขึ้นไปที่หลิง อี้หรานและถามว่า “พี่บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” ตอนนี้อี้ จิ่นหลีกำลังย่อตัวอยู่ที่พื้นและเขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ในทางกลับกันหลิง อี้หรานกำลังยืนก้มหน้าลง ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง หลิง อี้หรานรู้สึกราวกับว่าอี้ จิ่นหลีกำลังสยบแทบเท่าของเธอ พระเจ้า เธอคิดอะไรอยู่? หลิง อี้หรานคิดกับตัวเองก่อนจะส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่” เธอไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น เพรา
หลิง อี้หรานกลายเป็นคนต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุของห่าว เหมยยวี่ และตอนนี้อี้ จิ่นหลีกำลังคบกับเธอ คนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดสองคนกลับกลายมาเป็นคู่รักกัน ใครจะคิดล่ะ?ตึง!เสียงของบางอย่างตกกระทบกับพื้นอย่างดึงจากด้านหลังของเย่ ฉงเว่ย เขาหันกลับมาและเห็นว่า หวัง อวี่เฉียนล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้งเย่ ฉงเว่ยรู้สึกเห็นอกเห็นใจ หวัง อวี่เฉียนที่กำลังนำพาความโชคร้ายไปสู่ตระกูลหวัง หวัง อวี่เฉียนน่าจะถูกไล่ออกจากแวดวงสังคมในไม่ช้าอี้ จิ่นหลีไม่ใช่คนใจกว้างลู่ เจินเออร์กับจ้าว หยิงอี่รู้สึกกลัวในใจ เรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องจริง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจยอมรับมัน แต่สายตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความกลัวหวาดกลัวการกระทำของอี้ จิ่นหลีก่อนหน้านี้หมายความว่าเขารู้ดีเกี่ยวกับการติดคุกของหลิง อี้หราน ดังนั้นสิ่งที่หวัง อวี่เฉียนเพิ่งทำลงไปคือการรนหาที่ตายไม่ต้องพูดถึง... อี้ จิ่นหลีถึงกับคุกเข่าต่อหน้าหลิง อี้หรานแบบนั้น จะมีผู้หญิงคนไหนอีกที่เคยได้รับการปฏิบัติดูแลแบบนี้? แม้แต่ห่าว เหมยยวี่ก็ไม่เคยได้รับการดูแลแบบนี้มาก่อน!ลู่ เจินเออร์ไม่สามารถซ่อนความหึงหวงต่อเหตุการณ์ที่เธอได้เ
“ที่นี่ค่อนข้างจะอบอ้าว จื่อฉี พาฉันไปสูดอากาศที่สวนหลังบ้านหน่อยสิ” ห่าว อี้เหมิงกล่าว“ได้สิ” เซียว จื่อฉีรู้สึกสับสนขณะที่เขามองไปที่คู่หมั้นของเขา “คุณห้ามผมไม่ให้พูดเพราะคุณต้องการทำอย่างนั้นเหรอ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ให้มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน“ใช่ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเตือนคนที่รนหาที่ตาย” ห่าว อี้เหมิงยิ้มกล่าวว่า “นอกจากพวกเรา ยังมีคนที่รุกรานอี้ จิ่นหลีและทำอะไรอีกมากมาย”เซียว จื่อฉีมองรอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของคู่หมั้น ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความสูญเสียที่ยากจะอธิบายได้ ราวกับว่าเขาได้สูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่สามารถเอากลับมาได้ทั้งหมดที่เขาทำได้ในตอนนี้คือการผูกมัดตัวเองกับผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างแน่นหนาเพื่อตระกูลของพวกเขา!ไม่ไกลจากเหตุการณ์นัก มีใครบางคนกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชาขณะที่เหตุการณ์นั้นกำลังคลี่คลายกู้ ลี่เฉินมองมาด้วยสายตาที่เย็นชาขณะที่ผู้หญิงทั้งสามคนยังคงกล่าวหากัน เขาโยกศรีษะกลับและดื่มไวน์ในแก้วจนหมดก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเห็นหลิง อี้หรานถูกหัวเราะเยาะในที่สาธารณะ เขาพยายามจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดการกระทำของผู้หญิงทั้ง
อี้ จิ่นหลีรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขากำลังถูกทิ่มแทงอีกครั้ง“น่าเสียดายชุดนั้น ฉันใส่แค่ครั้งเดียวเองและตอนนี้มันก็ขาดแล้ว” หลิง อี้หรานกล่าวด้วยความเสียใจ แม้ว่าจะซ่อมชุดได้ แต่ก็ต้องใช้เวลานานในการซ่อมแซมเพราะมันมีคุณภาพสูงและมีรอยฉีกขาดขนาดใหญ่“ผมจะซื้อให้พี่ใหม่ ตราบใดที่พี่ไม่เป็นอะไร” อี้ จิ่นหลีกล่าวหลิง อี้หรานส่ายหัวและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันไม่เป็นอะไร ฉันไม่ได้บอบบางอย่างที่นายคิดนะ”รอยยิ้มของหลิง อี้หรานไม่ได้ทำให้อี้ จิ่นหลีรู้สึกสบายใจขึ้นมาเลย ใช่ ถึงแม้ว่าเธอจะดูผอมบางและอ่อนแอ แต่เธอก็มีความเข้มแข็งอยู่เสมออี้ จิ่นหลีอยู่กับเธอมานาน เขาสามารถเข้าใจความดื้อรั้นของเธอได้มากกว่าใคร ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นความคิดของเขาผุดขึ้นมาชั่วขณะ ร่างกายที่แสนบอบบางของเธอไม่จำทำเป็นแข็งแกร่งอยู่เสมอ“ขอโทษ...” อี้ จิ่นหลีกล่าวออกมาหลิง อี้หรานรู้สึกสับสน “คุณขอโทษเรื่องอะไร?”“ผมน่าจะรีบช่วยพี่ค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดีของพี่เพื่อลบประวัติที่ไม่ดี” อี้ จิ่นหลีกล่าว“มันไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณจะขอโทษเรื่องอะไร? ฉันดีใจที่คุณมาช่วยฉันด้วยซ้ำ” หลิง อี้หราน
“เอาล่ะ ให้ผมกอดพี่ไว้สักพักนะ เดี๋ยวคนขับก็มาแล้ว” อี้ จิ่นหลีกระซิบเบา ๆ เขามองไปที่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วหันไปมองกู้ ลี่เฉินที่กำลังเฝ้าดูพวกเขาอยู่ไม่ไกล ดวงตาของผู้ชายสองคนสบกันอีกครั้งครู่ต่อมา มีรถสีดำจอดด้านหน้าอี้ จิ่นหลี เขาจึงละสายตาออกไป หลังจากนั้นไม่นาน อี้ จิ่นหลีจึงขึ้นรถไปกับหลิง อี้หราน เนื่องจากหลิง อี้หรานหันหลังให้กับพวกเขา เธอจึงไม่ทันเห็นกู้ ลี่เฉินกับหลิง ลั่วอินที่ยืนมองอยู่หลิง ลั่วอินเม้มริมฝีปากสีแดงสดของเธอจนรถสีดำหายลับไปจากสายตา เธอมองขึ้นมา “ลี่...”เธอปริปากกำลังกล่าวบางอย่างแต่เสียงกลับถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอของเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายตรงหน้าที่ปกติแล้วมีท่าทางเย็นชาและยากที่จะเข้าหา ตอนนี้กลับดูสงบนิ่งและอดกลั้น ราวกับว่าเขาพยายามที่จะยับยั้งตัวเอง มากเสียจนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยเขาเป็นเหมือนคน... ที่กำลังพยายามระงับความหึงหวงเอาไว้!...เมื่อหลิง อี้หรานกลับมาถึงคฤหาสน์อี้ อี้ จิ่นหลีมองดูเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ“พี่ควรรีบเข้านอน พรุ่งนี้พี่ต้องทำงาน” อี้ จิ่นหลีกล่าว“อืม” หลิง อี้หรา
ใบหน้าของคุณชายหวังดูเคร่งขรึมขึ้น ในขณะเดียวกัน หวัง อวี่เฉียนกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “หลิง อี้หรานต้องตั้งใจทำแบบนี้แน่ ๆ เธอต้องการวางอำนาจเพียงเพราะอี้ จิ่นหลีกำลังสนใจเธออยู่…”ความวิตกกังวลของนายท่านหวังเพิ่มมากขึ้น บางทีเรื่องนี้อาจจะไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด“ในเมื่อเขาบอกว่าพวกเขาไม่มีเวลา อย่างนั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะพ่อ” หวัง อวี่เฉียนกล่าวขณะที่เธอเม้มริมฝีปากหลังจากที่หวัง อวี่เฉียนกล่าวจบ โทรศัพท์ของนายท่านหวังก็ดังขึ้น ทันทีที่รับสาย ใบหน้าของนายท่านหวังพลันซีดเผือด หยาดเหงื่อพลันผุดออกมามากมายหวัง อวี่เฉียนรู้สึกงงงวย เมื่อเธอเห็นว่าพ่อของเธอวางสายด้วยความงุนงง เธออดไม่ได้ที่จะถามออกไป “มีอะไรเหรอคะพ่อ?”นายท่านหวังยกมือขึ้นและปาดลงบนหวัง อวี่เฉียน “เยี่ยมมาก แกทำให้ตระกูลของเราลำบากขึ้น!”พวกเขาไม่สามารถซ่อนเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับภาษีได้อีกต่อไป ก่อนหน้านี้มีสายโทรเข้ามาจากคนที่นายท่านหวังพยายามติดต่อด้วย บุคคลนั้นได้แจ้งข่าวกับเขาว่าคราวนี้ตระกูลของเขาจะถูกสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนและไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการจ่ายภาษีและค่าปรั
หลิง อี้หรานสงสัยว่าคนแบบไหนกันที่ทำให้พี่โจวต้องท้องนอกสมรสถ้าผู้หญิงเต็มใจที่จะมีลูกนอกสมรส ผู้หญิงคนนั้นคงรักผู้ชายมาก ไม่อย่างนั้นเธอคงทำแท้งลูกไปแล้ว“แล้ว... คุณรู้ได้ยังไง?” หลิง อี้หรานถามด้วยความประหลาดใจอี้ จิ่นหลียิ้มแล้วยกมือขึ้น ปัดปอยผมที่อยู่ข้างแก้มของเธอไปทัดไว้ที่หลังใบ “พี่ไม่คิดว่าผมจะสนใจที่ทำงานของพี่ใช่ไหม? เพราะพี่เลือกทำงานที่นั่น ผมก็เลยต้องตรวจสอบดู”หลิง อี้หรานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายที่ติดอยู่ในลำคอของเธอและจ้องไปที่อี้ จิ่นหลี เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำขนาดนั้นความเงียบของเธอทำให้อี้ จิ่นหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของเขาค่อย ๆ ดูหม่นหมองลง “พี่ไม่ชอบเหรอ? พี่รู้สึกเหมือนถูกจับตามองหรือเปล่า?”หลิง อี้หรานส่ายหัว “ไม่ ฉันรู้ว่าคุณกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน”เขามองเธอด้วยความประหลาดใจ เธอรู้! ความเศร้าโศกในดวงตาของเขาค่อย ๆ จางหายไปและเหลือเพียงความสุขในดวงตาที่สดใสและเต็มไปด้วยความรักของเขา“ยังไงก็เถอะ เขาเป็นคนแบบไหน… เอ่อ พ่อของอาหยันน้อยน่ะ?” หลิง อี้หรานถาม“เขาคือเย่ เหวินหมิง” อี้ จิ่นหลีตอบหลิง อี้หรานตกตะลึงอีกครั้ง หลิง อี้หรานเคยได้ยินเรื
หลิง อี้หรานพยักหน้าและเงียบไป เธอคิดว่าเบื้องหลังของผู้หญิงที่มีลูกเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะซับซ้อนขนาดนี้ผู้หญิงที่ถูกพ่อของลูกโยนเข้าคุก มีสักกี่คนที่สามารถอดทนต่อเหตุการณ์แบบนั้นได้?ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโจว เชียนหยุนเลยที่จะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ได้และเลี้ยงดูอาหยันน้อยในขณะเดียวกัน“เกิดอะไรขึ้น? พี่รู้สึกเสียใจกับโจว เชียนหยุนเหรอ?” อี้ จิ่นหลีถาม“ใช่ พี่โจวลำบากมามาก” หลิง อี้หรานพึมพำอี้ จิ่นหลีจ้องมองไปที่ท่าทางที่เป็นกังวลของหลิง อี้หราน เธอกำลังกังวลเกี่ยวกับโจว เชียนหยุนใช่ไหม?เธอเคยกังวลเกี่ยวกับคุณยายและชิน เหลียนอี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะมีคนต้องกังวลมากขึ้น ความรู้สึกบูดเบี้ยวได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของอี้ จิ่นหลีอีกครั้งเขารู้ว่าความกังวลของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรักที่โรแมนติก แต่อี้ จิ่นหลีก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาเขาคงใส่ใจความรู้สึกของเธอมากเกินไปและไม่อยากให้เธอเล่าแชร์ความรู้สึกให้ใคร อี้ จิ่นหลีปรารถนาให้เธอรู้สึกกับตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ“พี่จะเสียใจแทนผมบ้างไหม?” อี้ จิ่นหลีถามออกไปหลิง อี้หรานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ทำไ